ที่ห้องทำงานคุณนิรันด์
“เชิญนั่งครับ” “ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขาด้วยใจที่อยู่ไม่เป็นสุขเพราะไม่รู้ว่าเขาจะต่อว่าฉัน เรื่องอะไรบ้าง “ผมขอเข้าเรื่องเลยละกันนะครับ คุณรินรดาคงจำได้เมื่อวันก่อนที่เจอกับคุณนิรันด์กาลพ่อของผมแล้วมีน้องในทีมของคุณโดนน้ำมันจากเครื่องจักรกระเด็นใส่หน้า ทำให้ท่านเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของคุณก็แค่นั้น ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิการทำงานของคุณเลย” ฉันได้ฟังดังนั้นจึงทำได้เพียงพยักหน้ายอมรับความหวังดีก็นั้น “ต้องขอขอบคุณความหวังดีของท่านมากนะคะ ต่อไปฉันกับน้องในทีมจะระวังให้มากกว่านี้ค่ะ” “พูดแบบนี้ คงไม่ยอมทำตามใช่มั้ยครับ” คุณนิรันด์ยิ้มอย่างรู้ทัน “ถ้ามีคำสั่งมาแบบนี้ฉันก็ต้องทำตามค่ะแต่ฉันอยากจะเคลียร์งานให้หมดก่อนได้มั้ยคะเพราะยังมีงานที่ฉันต้องส่งมอบให้ลูกค้าอีกค่ะ” ฉันอธิบาย “งั้น ตกลงครับผมอนุญาต” “ขอบคุณค่ะที่เข้าใจฉัน” “ตอนเที่ยง คุณมีนัดหรือยังครับ ผมว่าจะชวนคุณไปทานข้าว” คุณนิรันด์ส่งสายตาเป็นประกาย ให้ตายเถอะสายตาแบบนี้เหมือนกาลนานมองฉันไม่มีผิด แต่ดูๆ ไปสองคนนี้มีส่วนคล้ายกันอยู่นะไม่ว่าจะเป็นดวงตาหรือว่ารอยยิ้มของเขามีเสน่ห์เหมือนกันไม่มีผิด “คือ…” ฉันอ้ำอึ้ง “ผมว่าจะคุยเรื่องงานนิดหน่อย หวังว่าคุณรินรดาคงไม่ว่าอะไรนะครับ” ก็พูดมาซะขนาดนี้แล้วฉันไปว่าอะไรคุณได้ล่ะคะคุณนิรันด์ ฉันคิดในใจ “ตกลงค่ะคุณนิรันด์” ฉันยิ้มเจือนๆ ให้เขา “เรียกผมว่าคุณรันด์ก็ได้ครับ ผมขอเรียกคุณรินเฉยๆ ได้มั้ยครับ” นี่เขากำลังจะทำฉันหายใจไม่ออกอยู่แล้ว อึดอัดที่สุดเลยเพราะเขาใช้ความเป็นนายจ้างของเขาบังคับฉันกลายๆ ว่าต้องไปกับเขาและปฏิเสธเขาไม่ได้แน่ๆ ตอนเที่ยง เขานัดฉันมาที่ร้านประจำ ที่ฉันเคยมาทานข้าวกับกาลนานบ่อยๆ แต่วันนี้ไม่ใช่กาลนานนี่แหละ น่าเสียดาย หลังจากที่ฉันโทรบอกเขาว่าออกมาทานข้าวข้างนอกกับคุณนิรันด์ที่ร้านเดิมที่เราเคยมาทาน เขาก็มีน้ำเสียงดุและไม่พอใจอย่างมากทำให้เราทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง “เขาหึงเหรอ” ฉันเผลอหลุดปากพูดต่อหน้าคุณนิรันด์ “ใครหึงใครครับ หรือว่าคุณรินกลัวแฟนมาเห็นแล้วจะหึงถ้าเป็นแบบนั้นผมต้องขอโทษด้วยนะครับ” “ไม่ใช่ค่ะ ฉันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่าถือสาเลยนะคะ” ฉันบอกมือปัดพัลวัน “คุณรินก็น่ารักไปอีกแบบนะครับ ดูเป็นธรรมชาติมองยังไงก็ไม่เบื่อผมชักอิจฉาแฟนคุณรินแล้วสิที่มีแฟนทั้งสวยทั้งเก่งและน่ารักมากขนาดนี้” คุณนิรันด์ยังคงบริหารเสน่ห์ใส่ฉันไม่หยุดไม่หย่อนจนฉันอยากจะเอากระเป๋าฟาดเขาไปสักทีให้มีสติ รู้มั้ยการที่คุณทำแบบนี้มันทำให้คนอื่นต้องลำบากใจที่ต้องคอยอือออ แกล้งยิ้มให้คุณทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าฉันกำลังถูกคุณคุกคามอยู่ ฉันจะทำยังไงเพื่อตัดบทสนทนาแบบนี้แล้วเดินออกจากร้านไปอย่างไม่น่าเกลียด หรือแกล้งเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วชิ่งกลับ แบบนี้มันน่าเกลียดยังไงก็ต้องเจอในบริษัทอยู่ดีแถมเขายังเป็นเจ้าของบริษัทอีกด้วย เผาร้านอาหารนี้ นั่นก็คุก ถึงเขาจะหล่อจะรวยมากแค่ไหนแต่ถ้าการจีบผู้หญิงของเขาเป็นแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ หรือว่าจะหลอกเอาเงินดี ไม่หรอกฉันมีแฟนแล้ว และแฟนของฉันก็หล่อมากด้วย “ไหนว่าคุณนิรันด์ จะคุยเรื่องงานกับฉันไงคะ มีส่วนไหนที่อยากแนะนำบอกฉันได้นะคะ” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “ไหนรับปากผมแล้วไงครับว่าจะเรียกผมว่าคุณรันด์” เขาเอียงคอถามแถมยังยิ้มมุมปากแบบกาลนานอีก “ฉันไม่กล้าค่ะ ให้เรียกคุณนิรันด์ตามเดิมเถอะนะคะ ฉันสะดวกแบบนี้มากกว่าค่ะ” ขืนเรียกคุณรันด์เฉยๆ ต่อหน้าคนอื่นทีนี้คนทั้งบริษัทก็จะหาว่าฉันไปตีเสมอเจ้านาย ขนาดพี่ชายังเรียกชื่อเต็มๆ ของเขาเลย “งั้นตามใจคุณรินก็ได้ครับ ผมไม่บังคับคุณหรอกเพราะเราก็เพิ่งรู้จักกันเอง” “คุณนิรันด์คะ คือฉันต้องรีบกลับเข้าไปทำงานแล้วค่ะตอนบ่ายมีประชุมกับทีมด้วยค่ะ” “ตกลงครับ งั้นผมเช็คบิลก่อนนะคุณรินกลับเข้าบริษัทเลยก็ได้ครับ ผมจะไปทำธุระต่อ แต่ครั้งหน้าเราต้องมารถคันเดียวกันนะครับ” “ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ” ฉันก้มหัวโค้งขอบคุณให้เขา “ยินดีครับคุณริน” ในที่สุดฉันก็ได้กลับไปทำงานแล้ว ฉันไม่เคยอยากทำงานแบบนี้มาก่อนนี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่าที่อยากให้หมดเวลาพักเร็วๆ กาลนาน Talk เมื่อผมเห็นพี่รินขับรถออกไป ผมก็ไปยืนรอพี่ชายนอกคอกของผมตรงลานจอดรถยนต์ข้างร้านอาหาร “หวัดดีไอ่รันด์ ไม่เจอกันนานแกยังเลวเหมือนเดิมเลยนะ ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ” ผมยืนกอดอกพิงประตูรถตรงฝั่งคนขับของมัน “ฉันเก่งมั้ยวะ ที่หาผู้หญิงของแกเจออีกแล้วแต่คนนี้ท่าจะไม่ง่ายว่ะ ยิ่งยากกูก็ยิ่งชอบ” “แกยังโง่เหมือนเดิม ให้ฉันปั่นหัวไม่หยุดไม่หย่อนระวังแล้วกันโรคจะถามหา” ผมพูดให้ตัวเองดูเหนือชั้น “ถ้าฉันติดโรค แกต้องพลาดติดบ้างแหละไอ่นาน” “บางทีแกอาจจะเอาคนเดียวก็ได้ ซึ่งฉันยังไม่เคยได้เอา” ผมยักไหล่กวนๆ มัน “ไอ้นาน คนอย่างมึงมีเหรอจะไม่เอาแค่คลำตูดไม่มีหางมึงก็เอาหมดแหละ” มันตะคอกใส่ผม “ถ้ามึงจะพูดเรื่องนั้นอีกและคิดว่ากูเอาแฟนมึงคืนนั้นกูคงไม่มีอะไรจะอธิบายเพราะกูพูดความจริงไปหมดแล้ว” ผมพูดใส่มันบ้าง “งั้นมึงก็เตรียมตัวเสียใจได้เลย รินรดาคนนี้แหละที่กูจะเอาอีกคนเพราะขนาดมึงยังลงทุนมาสมัครเป็นพนักงานของที่นี่ กูว่ามันต้องมีอะไรดีแน่ๆ” “ไอ้สัสรันด์”ผมกัดฟันพูดในลำคอเพื่อไม่ให้มันเห็นว่าผมกำลังโกรธอยู่จนอยากจะกระโดดถีบหน้ามันอยู่แล้ว “ถ้าแกคิดว่าตามถูกคนก็ตามสบาย ฉันไปล่ะ” ผมพูดใจดีสู้เสือ “ถ้ากูตามไม่ถูกคน แล้วมึงจะร้อนรนมาที่นี่ทำไมวะไอ้นาน ฮ่าๆๆ” “ก็มาหาข้าวกินไง นั่นไงข้าวกูมาละ” ผมเดินไปโอบเอวสาวเซ็กซี่ชุดเดรสสีดำที่ผมจ้างมาหลอกไอ้รันด์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของมันไม่ให้พุ่งเป้าไปที่พี่ริน แต่พุ่งเป้ามาที่ผู้หญิงคนที่ผมกำลัง โอบเอวนี้อยู่แทน ถ้าปลาติดเบ็ดสาวเซ็กซี่คนนี้จะมีเงินใช้เป็นหลายล้านนี่ยังไม่รวมของไอ่รันด์นะที่มันจะทุ่มไม่อั้นเพื่อแย่งของๆ ผมไป(ตอนพิเศษที่ 2 วันวานกับเรื่องบาดหมางของกาลนานกับนิรันด์และโมเม้นกาลนานเจอรินรดาครั้งแรก)เมื่อกาลนานกำลังจะขึ้นปีสองก็ได้มีการบรรยายพิเศษที่คณะจากทีมวิศวะมืออาชีพหญิงสาวสวยสะพรั่งในชุดกระโปรงทรงเอรัดรูปกับผมที่ถูกมัดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าและต้นคองามระหงเด่นชัด“ไอ้นาน มึงมองพี่เขาขนาดนั้นเดี๋ยวพี่เขาก็ถามมึงหรอก” เจตเพื่อนที่เรียนวิศวะด้วยกันกับเขาพูดขึ้น“ถ้าพี่เขาถามกู กูจะให้เบอร์โทรพี่เขาเลย ผู้หญิงอะไรสวยแท้วะ” กาลนานนั่งพูดอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องโดยที่หญิงสาวยังคงพูดบรรยายไปโดยที่ไม่ทันได้เห็นกาลนานด้วยซ้ำ“ต้องขอขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ฟังพี่รินพูดอย่างตั้งใจหวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในการเรียนหรือวันข้างหน้าก็สามารถปรับเปลี่ยนกับการทำงานได้ค่ะ” รินรดาพูดจบเธอก็เก็บอุปกรณ์ของตัวเอง“พี่รินครับ ผมมีข้อสงสัยครับ” นักศึกษาชายยกมือขึ้นทำให้กาลนานหันไปมองเพื่อนในชั้นทันที“มีอะไรคะ ถามได้เลยค่ะ” รินรดายิ้มแย้ม“พี่รินมีแฟนหรือยังครับ” นักศึกษาคนนั้นถามทำให้เพื่อนๆ ในห้องโห่แซวกันใหญ่“ไอ่เชี่ย” กาลนานอุทาน“พี่ยังไม่มีแฟนค่ะ และพี่ก็ไม่ชอบเด็กด้วยค่ะ” รินรดาพูดตัดจบไป ทุกคนในค
เผลอใจรักพักใจเหรอ ตอนพิเศษ1 วันวานกับพี่ชายที่ชื่อนิรันด์ย้อนกลับไปในช่วงวัยรุ่นตอนอายุสิบแปดของกาลนานที่เริ่มโตเป็นหนุ่มมีใบหน้าที่หล่อเหลาแม้ร่างกายที่ดูภายนอกจะบอบบางแต่จริงๆ แล้ว เขานั้นซ่อนรูปไม่เบามันเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจของหญิงแท้ชายเทียมเป็นอย่างมาก ท่ามกลางแสงสีไฟสลัวๆ ที่กระทบกับร่างกายของชายหนุ่มที่เต้นใช้เอวเป็นซะส่วนใหญ่ ค่อยๆ หมุน ค่อยๆ ควงเอวให้มันต่ำลงจนตัวเองนั่งคุกเข่าลงแล้วยกเสยเอวเด้งขึ้นเด้งลงไม่หยุด เสียงกรี๊ดของผู้หญิงในผับก็ดังแข่งกับเสียงดนตรีที่เขาเต้นอยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน คงจะถูกใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ปลดกระดุมลงจนเห็นสะดือกับหัวเข็มขัดถูกถอดและเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น ยิ่งทำให้เห็นกล้ามเนื้อและแผ่นหลังที่ดูแข็งแรงจนไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย“กรี๊ดดด ถอดอีกๆ” เสียงร้องตะโกนของสาวๆ ในผับตะโกนกู่ร้องดังเหมือนยิ่งยุให้เขาทำในสิ่งที่พวกเธอต้องการ“ข้างล่างถอดไม่ได้ครับ ขืนผมถอดเจ้าของผับแบนไม่ให้ผมเข้าอีกแน่ๆ” เมื่อกาลนานพูดจบเขาก็ก้มโค้งขอบคุณแล้วเก็บเสื้อที่เขาโยนมันลงพื้นไปแต่แรก ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายที่เขาคุ้นเคยเป็นอ
หลายวันต่อมา คุณนิรันด์กาลเรียกฉันให้เข้าไปพบที่ห้องทำงานของเขา “สวัสดีค่ะ คุณนิรันด์กาล” ฉันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม “เชิญนั่งก่อนครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะแจ้ง” “ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งลงตรงข้ามเขาด้วยใจที่ลุ้นระทึกอีกรอบ เขาส่งกระดาษใบสี่เหลี่ยมให้ฉัน “เงินเจ็ดล้านตามที่ตกลงกันไว้ครับ คุณทำสำเร็จนะขอบใจคุณรินมากที่ช่วยครอบครัวของเรา” “ฉันรับไม่ได้หรอกค่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ” ฉันส่งเช็คนั้นคืนกลับไป “ทำไมจะยังไม่ได้ทำครับ ก็ลูกชายทั้งสองของผมบอกว่าถ้าไม่ได้คุณรินป่านนี้น่าจะยังทะเลาะกันอยู่ผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องครับ เลี้ยงลูกตามใจจนเอาลูกไม่อยู่จนต้องไปขอให้คุณรินช่วย” “ฉันยินดีค่ะ แต่เขาสองคนดีกันแล้วเหรอคะ” “ใช่ครับ เมื่อคืนเขาคุยกันหัวเราะชอบใจใหญ่ผมมีความสุขมากครับ” อ๋อว่าแล้วเมื่อคืนกาลนานบอกว่าจะมานอนที่บ้านเป็นแบบนี้นี่เอง “ดีใจด้วยนะคะคุณนิรันด์กาล แต่ฉันไม่ขอรับเงินจำนวนนี้หรอกค่ะเพราะว่าฉันเองก็มีส่วนทำให้เขาทั้งสองทะเลาะกันด้วย” “งั้นถ้าผมจะสู่ขอคุณรินให้เจ้ากาลนานลูกชายคนเล็กของผมล่ะครับ คุณจะรังเกียจครอบครัวของเรามั้ย“ “คะ คุณรู้เรื่องของเราเหรอคะ” ฉันก้มหน้าพูด
“รินครับ ผมมีอะไรจะให้” เขาเดินมานั่งข้างๆ ฉันที่นั่งหน้าบ้านเพราะว่าเราจะมานั่งดูพระจันทร์ด้วยกัน“อะไรคะ” เขาหยิบกิ๊บติดผมขึ้นมาแล้วติดที่ผมของฉันมันวิบวับแวววาวมากจนฉันต้องหยิบลงมาดู“ดาวครับ สวยมั้ย” เขาใช้นิ้วเกลี่ยแก้มของฉันเล่นอย่างแผ่วเบา“เพชรนี่คะ สวยจัง” ฉันทำท่าจะเอากิ๊บเข้าปากเพื่อเช็คว่าแท้มั้ย“รินทำน่ารักอีกแล้วนะแท้สิครับผมเป็นใคร ผมคือกาลนานนะ”“ล้อเล่นเฉยๆ เองขอบคุณนะคะ” แล้วฉันก็ติดกิ๊บที่ผมตามเดิม“ครั้งนี้ไม่ปฏิเสธเหรอครับ หลายล้านบาทนะอย่าเอาไปขายล่ะเวลางอนผม” “ปฏิเสธก็บ้าแล้ว นานกระแทกรินจนช่วงล่างแทบจะพังรินเสียหายนะ” “งั้นเหรอครับ งั้นผมให้ใบนี้รินไว้ใช้ดีกว่าเพราะผมจะกระแทกอีกนานเลยครับ” เขาหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาพร้อมกับหยิบบัตรการ์ดใบแข็งสีดำส่งให้ฉัน“นี่มันแบล็คการ์ดเหรอคะ นานมีจริงๆ ด้วยเพราะเมื่อก่อนรินว่าเคยเห็นนานถืออยู่นะ”ฉันหยิบมาดูพลิกไปพลิกมา“จริงสิครับ ผมให้”“สายเปย์ของจริงเลยนะเนี่ย” “แน่อยู่แล้วครับ”“งั้นคืนนี้รินขอใช้บัตรนี้ซื้อตัวนานได้มั้ยคะ เหมาทั้งคืน” ฉันขยิบตาให้พร้อมกับหย่อนบัตรลงไปในกระเป๋าเสื้อของเขา“อย่ามาร้องขอชีวิตกับผมแล้ว
หลังจากที่ฉันบอกว่าจะลาออกฉันก็ไม่เจอคุณนิรันด์ที่นี่อีกเลย ฉันเหลือบมองกาลนานที่นั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดเลยอยากเอาใจเขา“รับกาแฟมั้ยคะคุณกาลนาน” เขาเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารตรงหน้าด้วยอาการคิ้วขมวด“เรียกคุณอีกแล้ว เราอยู่กันสองคนเรียกผมนานเฉยๆ ก็ได้หรือจะเรียกผัวจ๋าแบบที่เคยเรียกก็ได้นะครับ” เขายิ้มพร้อมทั้งขยิบตาใส่“บ้า อือ แล้วพี่ชายของคุณล่ะฉันยังไม่เห็นเขาเลยตั้งแต่มา” ฉันลองถามเขาเพราะเห็นว่าเขาอารมณ์ดีอยู่“ทำไมคิดถึงเขาเหรอ” กาลนานหน้าบึ้ง“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย พี่แค่ถามดู”“มันไปดูอีกบริษัทละครับ เสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันได้ไงครับ”“จร้าๆ พ่อเสือใหญ่ถอดเขี้ยวเล็บด้วยนะคะ ถ้าไม่ถอดพี่จะถอดให้เอง” ฉันทำท่าเสือกางเล็บใส่เขา “เสือสิ้นลายแล้วครับโดนพี่ขี่ผมไปไหนไม่ได้แล้วครับ ว่าแล้วก็อยากโดนขี่อีกจังในนี้ดีมั้ย” กาลนานลุกมาหาฉัน“หยุดเลย ไว้ไปทำที่บ้าน”“คืนนี้ไม่อดแล้วเว้ยเราชักจนปวดมือแล้ว”“ทะลึ่ง” พอเราสองคนมาคืนดีกันแบบนี้ก็ยิ่งเติมเต็มความรักให้กันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันมัวแต่มีความสุขจนลืมคำพูดที่รับปากไว้กับคุณนิรันด์กาลพ่อของเขาสนิทเลย จะทำยังไงดี ถึงจะให้สองคนมาคืนดีก
“กาลนานอย่า” ฉันห้ามเขา แต่อคินก็ยังสวนหมัดกลับมาใส่ใบหน้าของกาลนานเต็มๆ เช่นกัน“หยุดนะคิน ถ้าคุณไม่หยุดฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก” ฉันควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้นจุ๊ดที่ฉันใส่อยู่บ้าน“ทีไอ้นี่ยังเข้ามาได้” เขาชี้หน้ากาลนาน“ก็เขาเป็นสามีของฉันทำไมจะเข้ามาไม่ได้ล่ะ” ฉันยืนพูดเพราะยังไงวันนี้ฉันต้องจัดการเรื่องฉันกับอคินให้มันจบๆ ไปเสียที“พูดได้เต็มปาก เด็กมันจะสู้ผมได้ยังไง” อคินยังคงดื้อดึง ยิ่งทำให้กาลนานโกรธเข้าไปใหญ่“อย่าค่ะผัวจ๋า เดี๋ยวเมียจัดการเอง” ฉันแกล้งพูดให้อคินโดยมีกาลนานที่ยืนยิ้มอยู่“พอเถอะค่ะคินฉันมีผัวใหม่แล้วฉันไม่กลับไปกินของเก่าแบบคุณอีกแน่ๆ”“ถ้าคุณพูดเต็มปากขนาดนี้ว่าไอ้อ่อนนี่มันเป็นผัวใหม่ของคุณ ผมก็ไม่เอาคุณแล้วเหมือนกัน”“เชิญค่ะ นั่นประตู” อคินเดินไปอย่างหัวเสียเจอแบบนี้ใครกลับมาอีกก็บ้าแล้ว“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” ฉันหยิบเสื้อที่ตกลงกับพื้นส่งให้เขาคืน“ครับ แต่ผมโดนเขาต่อยช่วยทำแผลให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ”“ก็ได้ค่ะ เห็นแก่ความดีของคุณนะ” ฉันเดินไปหยิบยาทาแล้วมานั่งรอเขาที่กำลังใส่เสื้ออยู่“เดือนนี้ทั้งเดือนไม่รู้ปากของผมเป็นอะไรไปรับแต่กำปั้