“พี่รินคิดอะไรอยู่ครับ ทำไมหน้าแดง” เขาเอานิ้วมือเขี่ยจมูกของฉัน
“หน้าแดงอะไร เปล๊าาาไม่ได้คิด อากาศมันร้อนต่างหากล่ะ” ฉันทำท่าเอามือสองข้างพัดกับหน้าของตัวเอง
“ผมมีอะไรจะบอกพี่รินจริงๆ ผมไม่ได้เจอพี่รินครั้งแรกที่ผับนั้นหรอก ผมเจอพี่รินก่อนหน้านั้นอีก”
เขาตักข้าวใส่ปากแล้วก้มหน้า
“ตอนไหนเหรอ นานเจอพี่ที่ไหนเหรอ บอกหน่อยสิ”
“ถ้าพี่รินอยากรู้ กินข้าวเสร็จไปคอนโดผมนะครับ ผมมีอะไรให้ดู”
“ไม่พี่ไม่ไป พี่ไม่ได้อยากรู้ ทำไมพี่ต้องไปด้วยคะ”
ที่คอนโดของกาลนาน
“ยิ้มอะไรคะน้องนาน” ฉันเรียกชื่อเขาเมื่อเดินตามหลังเขามาต้อยๆ มานั่งตรงโซฟาภายในห้องที่หรูหราของเขา
“เรียกน้องนานอีกแล้วนะ” เขาหน้าบึ้งใส่ทำเอาฉันหัวเราะเพราะความดูไร้เดียงสาของเขา
“ไหนมีอะไรจะบอกพี่ที่บอกว่าไม่ได้เจอพี่ครั้งแรกที่ผับนั่น”
“พี่รินนั่งดูหนังรอผมก่อน ถ้าคอแห้งก็จิบน้ำได้นะผมขออาบน้ำก่อน” พร้อมกับส่งเบียร์มาให้ฉันหนึ่งกระป๋อง
“ฮึ่ย ได้ไงอ่ะนาน หนีไปอาบน้ำเฉยอ่ะ” ฉันดึงมือของเขาไว้
“หรือพี่รินจะเข้าไปอาบน้ำกับผม” เขาดึงแขนให้ฉันลุกขึ้นแทน
“โอเคๆ เข้าไปอาบเลยน้องนาน”
“ฮึ เดี๋ยวรอผมออกมาก่อน”
สิบห้านาทีต่อมา
“อาบน้ำนานมาก พี่รอจนพี่ไม่อยากจะรู้ละ” ฉันหันไปพูดกับเขา
“โอ๊ยน้องนาน ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าดีๆ ล่ะมันน่าเกลียด” ฉันร้องโวยวายเมื่อเห็นเขานุ่งผ้าขนหนูสีขาวมาแค่ผืนเดียว
“น่าเกลียดยังไงพี่ เวลาผมอาบน้ำผมก็เดินออกมาแบบนี้ วันนี้ดีหน่อยยังนุ่งผ้าขนหนูให้”
“แล้ววันนี้ มันเหมือนวันอื่นมั้ยล่ะเกรงใจสายตาพี่หน่อยสิกาลนาน” ฉันพูดไปก็แอบชำเลืองมองหุ่นของเขาที่ฟิตปึ๋ง กล้ามแขนเป็นมัดแถมยังเห็นกล้ามหน้าท้องของเขาขึ้นเป็นลอนชวนฝันอีกต่างหาก
“ซ่อนรูปเหมือนกันนะเรา” ฉันพึมพำอยู่ในลำคอ
“พี่รินคงคอแห้งมากนะครับ แป๊บเดียวหมดไปสองกระป๋องละ”
“หวงเหรอ เดี๋ยวพี่จ่ายเงินให้ค่ะ” กาลนานได้ยินดังนั้นก็หัวเราะแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง
“ผมมีเยอะครับพี่ริน ไม่คิดเงินหรอก” พร้อมกับวางกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะจำนวนหนึ่ง
“พี่รอฟังนานอยู่นะ ว่าจริงๆ เจอพี่ครั้งแรกตอนไหนคะ” ฉันพูดเมื่อเขานั่งลงข้างฉันซึ่งมันใกล้มากจนแขนของเขาเบียดกับต้นแขนของฉันจนไม่มีที่วาง ฉันเขยิบออกมาจากเขานิดหน่อยแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้กลิ่นครีมอาบน้ำและแชมพูสระผมที่ออกมาจากตัวของเขา มือของเขาก็ยกเบียร์กระดกขึ้นดื่มส่วนอีกมือก็จับผ้าขนหนูเช็ดผมที่มีหยดน้ำเปียกชุ่มอยู่เพราะผมที่เพิ่งสระมาหมาดๆ
“ไปเป่าผมก่อนสิ พี่รอได้”
“ไดร์เป่าผมพังครับยังไม่ซื้อ” พร้อมกับขยี้ผมสลัดไปมาเหมือนลูกหมาตกน้ำไม่มีผิด
“มาพี่เช็ดให้ ขืนทำแบบนี้น้ำเปียกเต็มหน้าพี่พอดี” พร้อมกับดึงผ้าขนหนูในมือของเขามา โดยที่กาลนานนั่งหันหน้ามาทางฉัน
“ผมเจอพี่รินครั้งแรกที่ท้องฟ้าจำลองXXXที่พี่รินไปกับแฟนเมื่อหลายเดือนก่อนจำได้มั้ยครับ” ฉันพยักหน้า ใช่ฉันไปดูกับคินมา ฉันฟังเขาพูดในขณะที่มือก็เช็ดผมให้เขาอยู่ ระยะนี้ใบหน้าของเราสองคนใกล้กันมาก
“อือ ใช่ พี่เคยไปกับเขามา”
“วันนั้นผมนั่งข้างพี่ แต่ผมไม่ได้ดูดาวเลย ผมมองแต่พี่” อร๊ายยย เด็กบ้าแกทำฉันเขินอีกแล้ว
“แล้วผมก็มาเจอพี่ที่ผับ ผมนั่งมองพี่ตั้งหลายวันแล้วก็ไม่ชอบที่พี่นั่งร้องไห้แบบนั้นด้วย” คำพูดของเขาทำฉันเม้มปากเข้าหากัน จริงสินะฉันเคยเจ็บมากขนาดนั้นเลย ฉันเอาแต่ร้องไห้ในเวลากลางคืน ฉันมันบ้าไปแล้วจริงๆ
“คบกับผมได้มั้ยพี่ริน เป็นแฟนผมนะ” คำพูดของกาลนานทำฉันเช็ดผมต่อให้เขาไม่ได้เลย
“คือ กาลนานพี่…พี่ว่ามันเร็วไป พี่อยากให้นานคิดทบทวนให้ดีกว่านี้เราอายุห่างกัน..” ฉันยังไม่ทันพูดจบเขาก็ดึงไหล่สองข้างของฉันให้ไปใกล้เขาใบหน้าของฉันห่างกับเขาแค่คืบจริงๆ ลมหายใจอุ่นๆ ของเขากำลังรดอยู่ที่มุมปากของฉัน ฉันหลับตาปี๋
ริมฝีปากของเขาประกบมาที่ริมฝีปากของฉัน
“นาน” เสียงอู้อี้ของฉันทำเอากาลนานดึงฉันเข้าไปแนบชิดกับตัวของเขาพร้อมกับฝ่ามือหนาที่จับท้ายทอยของฉันเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้
“ผมขอจูบพี่รินนะ” เขาพูดทั้งที่ปากยังคงจูบฉันไม่หยุด
“นานก็จูบพี่แล้วไง”
“ผมหมายถึงแบบนี้ต่างหาก” ริมฝีปากพร้อมลิ้นอุ่นๆ ของเขาชอนไชเข้ามาในโพรงปากของฉันอย่างถือดีและร้อนแรงยิ่งกลิ่นหอมของเขาที่อาบน้ำใหม่ๆ นั้นก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อยจนฉันจูบคืนเขาบ้าง ฉันสอดลิ้นเข้าไปในปากของเขาเช่นกันซึ่งจูบครั้งนี้มันทั้งหนักทั้งหน่วงจนฉันติดใจเผลอตามไปจูบเขาอีกเมื่อเขาถอนริมฝีปากนั้นออกมาจากฉัน
ครืดดด เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น จึงทำให้ฉันต้องรีบถอยออกจากกาลนานทันที
“ว่าไงน้ำตาล มะๆ มีไร” ฉันพูดอ้ำอึ้งทันทีเมื่อรับโทรศัพท์พร้อมกับกลืนน้ำลาย
ฉันหันมามองกาลนานแต่เขาก็เดินตรงเข้าไปในห้องน้ำแล้ว
หลังจากที่คุยกับน้ำตาลเสร็จฉันก็นั่งรอกาลนานออกจากห้องน้ำสิบกว่านาทีอยู่ได้
“นานเป็นอะไรหรือเปล่าคะ พี่ต้องกลับแล้วนะพอดีน้ำตาลโทรมาบอกว่ารอพี่อยู่ที่บ้าน”
“แป๊บนึงครับพี่รินเดี๋ยวผมออกไป อ๊าา”
“ไม่เป็นไรแน่นะนาน”
“ครับพี่ริน”
“งั้นพี่กลับก่อนนะ เดี๋ยวพี่กลับเองไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ” แล้วฉันก็รีบคว้ากระเป๋าออกมาเพราะกลัวน้ำตาลจะรอนาน
กาลนาน Talk
“เกือบไปแล้วไอ่นาน พี่รินเกือบจับได้แล้วมั้ยล่ะ ไอ้นี่ก็แข็งขึ้นมาไม่ดูอะไรเลยดีนะพี่น้ำตาลโทรมาก่อน ไม่งั้นพี่รินไม่เหลือแน่ๆ” เขาตีน้องชายตัวเองที่เพิ่งจะคออ่อนปวกเปียกไป
“คนแรกเลยที่ทำผมแข็งเร็วขนาดนี้” เขานั่งลูบครางต่อเองไปมาพลางนั่งอมยิ้ม
ครืดๆๆๆ
“ว่าไง ไอ่ไก่อ่อน” ผมรับโทรศัพท์เพื่อนสนิทที่เคยโทรหาเขาตอนที่ไอ่พี่ชายตัวดีไปป้วนเปี้ยนแถวคอนโดของผม
“ไอ่นาน มึงนี่วอนโดนตีนกูจริงๆ” เจตเพื่อนสนิทของผมพูดอย่างหัวเสีย
“มึงมันอ่อนจริงๆ นี่หว่าพาสาวไปนอนด้วยตื่นเช้ามาสาวดันหาย แถมยังไม่ติดต่อมึงกลับมาอีกมึงต้องคิดแล้วป่ะ ฮ่าๆ” กาลนานหัวเราะลั่น
“สาวเค้าอาจจะลืมเมมเบอร์กูไว้ก็ได้ มึงอย่ามารู้ดี”
“ที่เค้าลืม เพราะเค้าไม่ติดใจมึงน่ะสิ ไก่อ่อน”
“งั้นมึงมาเจอกูเลยมาที่ผับเดิม กูจะรอมึงไอ่ไก่แก่”
“โทษทีว่ะเพื่อน กูไม่ไปทำแบบนั้นแล้วว่ะกูมีแฟนแล้ว มึงไปเลย”
“ไอ่สัส มีแฟนตอนไหนวะกูว่าอยู่มึงไม่ออกล่าเลย ที่แท้มีเป็นตัวเป็นตนแล้วนี่เอง”
“เออ เรื่องของกู ตามสบายเลยแค่นี้นะ กูมีธุระ” ผมบอกปัดส่งๆ ไอ่เจตเพื่อนผมไป จริงๆ แล้วธุระของผมก็คือโทรคุยกับพี่รินนี่แหละที่สำคัญที่สุด
(ตอนพิเศษที่ 2 วันวานกับเรื่องบาดหมางของกาลนานกับนิรันด์และโมเม้นกาลนานเจอรินรดาครั้งแรก)เมื่อกาลนานกำลังจะขึ้นปีสองก็ได้มีการบรรยายพิเศษที่คณะจากทีมวิศวะมืออาชีพหญิงสาวสวยสะพรั่งในชุดกระโปรงทรงเอรัดรูปกับผมที่ถูกมัดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าและต้นคองามระหงเด่นชัด“ไอ้นาน มึงมองพี่เขาขนาดนั้นเดี๋ยวพี่เขาก็ถามมึงหรอก” เจตเพื่อนที่เรียนวิศวะด้วยกันกับเขาพูดขึ้น“ถ้าพี่เขาถามกู กูจะให้เบอร์โทรพี่เขาเลย ผู้หญิงอะไรสวยแท้วะ” กาลนานนั่งพูดอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องโดยที่หญิงสาวยังคงพูดบรรยายไปโดยที่ไม่ทันได้เห็นกาลนานด้วยซ้ำ“ต้องขอขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ฟังพี่รินพูดอย่างตั้งใจหวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในการเรียนหรือวันข้างหน้าก็สามารถปรับเปลี่ยนกับการทำงานได้ค่ะ” รินรดาพูดจบเธอก็เก็บอุปกรณ์ของตัวเอง“พี่รินครับ ผมมีข้อสงสัยครับ” นักศึกษาชายยกมือขึ้นทำให้กาลนานหันไปมองเพื่อนในชั้นทันที“มีอะไรคะ ถามได้เลยค่ะ” รินรดายิ้มแย้ม“พี่รินมีแฟนหรือยังครับ” นักศึกษาคนนั้นถามทำให้เพื่อนๆ ในห้องโห่แซวกันใหญ่“ไอ่เชี่ย” กาลนานอุทาน“พี่ยังไม่มีแฟนค่ะ และพี่ก็ไม่ชอบเด็กด้วยค่ะ” รินรดาพูดตัดจบไป ทุกคนในค
เผลอใจรักพักใจเหรอ ตอนพิเศษ1 วันวานกับพี่ชายที่ชื่อนิรันด์ย้อนกลับไปในช่วงวัยรุ่นตอนอายุสิบแปดของกาลนานที่เริ่มโตเป็นหนุ่มมีใบหน้าที่หล่อเหลาแม้ร่างกายที่ดูภายนอกจะบอบบางแต่จริงๆ แล้ว เขานั้นซ่อนรูปไม่เบามันเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจของหญิงแท้ชายเทียมเป็นอย่างมาก ท่ามกลางแสงสีไฟสลัวๆ ที่กระทบกับร่างกายของชายหนุ่มที่เต้นใช้เอวเป็นซะส่วนใหญ่ ค่อยๆ หมุน ค่อยๆ ควงเอวให้มันต่ำลงจนตัวเองนั่งคุกเข่าลงแล้วยกเสยเอวเด้งขึ้นเด้งลงไม่หยุด เสียงกรี๊ดของผู้หญิงในผับก็ดังแข่งกับเสียงดนตรีที่เขาเต้นอยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน คงจะถูกใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ปลดกระดุมลงจนเห็นสะดือกับหัวเข็มขัดถูกถอดและเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น ยิ่งทำให้เห็นกล้ามเนื้อและแผ่นหลังที่ดูแข็งแรงจนไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย“กรี๊ดดด ถอดอีกๆ” เสียงร้องตะโกนของสาวๆ ในผับตะโกนกู่ร้องดังเหมือนยิ่งยุให้เขาทำในสิ่งที่พวกเธอต้องการ“ข้างล่างถอดไม่ได้ครับ ขืนผมถอดเจ้าของผับแบนไม่ให้ผมเข้าอีกแน่ๆ” เมื่อกาลนานพูดจบเขาก็ก้มโค้งขอบคุณแล้วเก็บเสื้อที่เขาโยนมันลงพื้นไปแต่แรก ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายที่เขาคุ้นเคยเป็นอ
หลายวันต่อมา คุณนิรันด์กาลเรียกฉันให้เข้าไปพบที่ห้องทำงานของเขา “สวัสดีค่ะ คุณนิรันด์กาล” ฉันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม “เชิญนั่งก่อนครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะแจ้ง” “ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งลงตรงข้ามเขาด้วยใจที่ลุ้นระทึกอีกรอบ เขาส่งกระดาษใบสี่เหลี่ยมให้ฉัน “เงินเจ็ดล้านตามที่ตกลงกันไว้ครับ คุณทำสำเร็จนะขอบใจคุณรินมากที่ช่วยครอบครัวของเรา” “ฉันรับไม่ได้หรอกค่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ” ฉันส่งเช็คนั้นคืนกลับไป “ทำไมจะยังไม่ได้ทำครับ ก็ลูกชายทั้งสองของผมบอกว่าถ้าไม่ได้คุณรินป่านนี้น่าจะยังทะเลาะกันอยู่ผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องครับ เลี้ยงลูกตามใจจนเอาลูกไม่อยู่จนต้องไปขอให้คุณรินช่วย” “ฉันยินดีค่ะ แต่เขาสองคนดีกันแล้วเหรอคะ” “ใช่ครับ เมื่อคืนเขาคุยกันหัวเราะชอบใจใหญ่ผมมีความสุขมากครับ” อ๋อว่าแล้วเมื่อคืนกาลนานบอกว่าจะมานอนที่บ้านเป็นแบบนี้นี่เอง “ดีใจด้วยนะคะคุณนิรันด์กาล แต่ฉันไม่ขอรับเงินจำนวนนี้หรอกค่ะเพราะว่าฉันเองก็มีส่วนทำให้เขาทั้งสองทะเลาะกันด้วย” “งั้นถ้าผมจะสู่ขอคุณรินให้เจ้ากาลนานลูกชายคนเล็กของผมล่ะครับ คุณจะรังเกียจครอบครัวของเรามั้ย“ “คะ คุณรู้เรื่องของเราเหรอคะ” ฉันก้มหน้าพูด
“รินครับ ผมมีอะไรจะให้” เขาเดินมานั่งข้างๆ ฉันที่นั่งหน้าบ้านเพราะว่าเราจะมานั่งดูพระจันทร์ด้วยกัน“อะไรคะ” เขาหยิบกิ๊บติดผมขึ้นมาแล้วติดที่ผมของฉันมันวิบวับแวววาวมากจนฉันต้องหยิบลงมาดู“ดาวครับ สวยมั้ย” เขาใช้นิ้วเกลี่ยแก้มของฉันเล่นอย่างแผ่วเบา“เพชรนี่คะ สวยจัง” ฉันทำท่าจะเอากิ๊บเข้าปากเพื่อเช็คว่าแท้มั้ย“รินทำน่ารักอีกแล้วนะแท้สิครับผมเป็นใคร ผมคือกาลนานนะ”“ล้อเล่นเฉยๆ เองขอบคุณนะคะ” แล้วฉันก็ติดกิ๊บที่ผมตามเดิม“ครั้งนี้ไม่ปฏิเสธเหรอครับ หลายล้านบาทนะอย่าเอาไปขายล่ะเวลางอนผม” “ปฏิเสธก็บ้าแล้ว นานกระแทกรินจนช่วงล่างแทบจะพังรินเสียหายนะ” “งั้นเหรอครับ งั้นผมให้ใบนี้รินไว้ใช้ดีกว่าเพราะผมจะกระแทกอีกนานเลยครับ” เขาหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาพร้อมกับหยิบบัตรการ์ดใบแข็งสีดำส่งให้ฉัน“นี่มันแบล็คการ์ดเหรอคะ นานมีจริงๆ ด้วยเพราะเมื่อก่อนรินว่าเคยเห็นนานถืออยู่นะ”ฉันหยิบมาดูพลิกไปพลิกมา“จริงสิครับ ผมให้”“สายเปย์ของจริงเลยนะเนี่ย” “แน่อยู่แล้วครับ”“งั้นคืนนี้รินขอใช้บัตรนี้ซื้อตัวนานได้มั้ยคะ เหมาทั้งคืน” ฉันขยิบตาให้พร้อมกับหย่อนบัตรลงไปในกระเป๋าเสื้อของเขา“อย่ามาร้องขอชีวิตกับผมแล้ว
หลังจากที่ฉันบอกว่าจะลาออกฉันก็ไม่เจอคุณนิรันด์ที่นี่อีกเลย ฉันเหลือบมองกาลนานที่นั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดเลยอยากเอาใจเขา“รับกาแฟมั้ยคะคุณกาลนาน” เขาเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารตรงหน้าด้วยอาการคิ้วขมวด“เรียกคุณอีกแล้ว เราอยู่กันสองคนเรียกผมนานเฉยๆ ก็ได้หรือจะเรียกผัวจ๋าแบบที่เคยเรียกก็ได้นะครับ” เขายิ้มพร้อมทั้งขยิบตาใส่“บ้า อือ แล้วพี่ชายของคุณล่ะฉันยังไม่เห็นเขาเลยตั้งแต่มา” ฉันลองถามเขาเพราะเห็นว่าเขาอารมณ์ดีอยู่“ทำไมคิดถึงเขาเหรอ” กาลนานหน้าบึ้ง“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย พี่แค่ถามดู”“มันไปดูอีกบริษัทละครับ เสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันได้ไงครับ”“จร้าๆ พ่อเสือใหญ่ถอดเขี้ยวเล็บด้วยนะคะ ถ้าไม่ถอดพี่จะถอดให้เอง” ฉันทำท่าเสือกางเล็บใส่เขา “เสือสิ้นลายแล้วครับโดนพี่ขี่ผมไปไหนไม่ได้แล้วครับ ว่าแล้วก็อยากโดนขี่อีกจังในนี้ดีมั้ย” กาลนานลุกมาหาฉัน“หยุดเลย ไว้ไปทำที่บ้าน”“คืนนี้ไม่อดแล้วเว้ยเราชักจนปวดมือแล้ว”“ทะลึ่ง” พอเราสองคนมาคืนดีกันแบบนี้ก็ยิ่งเติมเต็มความรักให้กันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันมัวแต่มีความสุขจนลืมคำพูดที่รับปากไว้กับคุณนิรันด์กาลพ่อของเขาสนิทเลย จะทำยังไงดี ถึงจะให้สองคนมาคืนดีก
“กาลนานอย่า” ฉันห้ามเขา แต่อคินก็ยังสวนหมัดกลับมาใส่ใบหน้าของกาลนานเต็มๆ เช่นกัน“หยุดนะคิน ถ้าคุณไม่หยุดฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก” ฉันควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้นจุ๊ดที่ฉันใส่อยู่บ้าน“ทีไอ้นี่ยังเข้ามาได้” เขาชี้หน้ากาลนาน“ก็เขาเป็นสามีของฉันทำไมจะเข้ามาไม่ได้ล่ะ” ฉันยืนพูดเพราะยังไงวันนี้ฉันต้องจัดการเรื่องฉันกับอคินให้มันจบๆ ไปเสียที“พูดได้เต็มปาก เด็กมันจะสู้ผมได้ยังไง” อคินยังคงดื้อดึง ยิ่งทำให้กาลนานโกรธเข้าไปใหญ่“อย่าค่ะผัวจ๋า เดี๋ยวเมียจัดการเอง” ฉันแกล้งพูดให้อคินโดยมีกาลนานที่ยืนยิ้มอยู่“พอเถอะค่ะคินฉันมีผัวใหม่แล้วฉันไม่กลับไปกินของเก่าแบบคุณอีกแน่ๆ”“ถ้าคุณพูดเต็มปากขนาดนี้ว่าไอ้อ่อนนี่มันเป็นผัวใหม่ของคุณ ผมก็ไม่เอาคุณแล้วเหมือนกัน”“เชิญค่ะ นั่นประตู” อคินเดินไปอย่างหัวเสียเจอแบบนี้ใครกลับมาอีกก็บ้าแล้ว“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” ฉันหยิบเสื้อที่ตกลงกับพื้นส่งให้เขาคืน“ครับ แต่ผมโดนเขาต่อยช่วยทำแผลให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ”“ก็ได้ค่ะ เห็นแก่ความดีของคุณนะ” ฉันเดินไปหยิบยาทาแล้วมานั่งรอเขาที่กำลังใส่เสื้ออยู่“เดือนนี้ทั้งเดือนไม่รู้ปากของผมเป็นอะไรไปรับแต่กำปั้