เฟื่องลดา ส่งไลน์มา อัทธ์ยิ้มออกมาแล้วดูนาฬิกา ก่อนจะรีบเดินไปตามที่เธอนัด ในใจอดคิดไม่ได้ว่า เฟื่องลดาจะบอกเค้าหรือเปล่าว่ามีแฟนแล้ว หรือจะปรึกษาว่าจะคบผู้ชายคนนั้นดีไหม หรือเธอจะบอกเค้าไหมว่า เธอจะคบกับคนนั้น อัทธ์หยุดเดินแล้วถอนหายใจ ออกมา เค้าพร้อมหรือยังที่จะยินดีกับเธอ แต่เฟื่องนัดมาถ้าไม่ไป เค้าจะรู้ไหมว่าเธอโกรธเค้าเรื่องอะไร เค้าคิดวนไปวนมาอยู่ที่ทางเดิน
อัทธ์เดินตรงเข้ามาที่ห้องสมุดแล้วยิ้มออกมา เฟื่องลดานั่งอยู่เพียงลำพังเธอสวย สว่าง โดดเด่น อยู่เสมอ อัทธ์อดตื่นเต้นไม่ได้ นานแค่ไหนแล้วที่เค้าไม่ได้มาเจอเธอเลย เฟื่องลดาส่งยิ้มมาทักทาย เค้าเดินไปนั่งตรงข้ามกับเธอแล้วเลือนเก้าอี้ออกก่อนจะนั่งลงแล้วถูมือด้วยความประหม่า
"เฟื่องสบายดีไหม ไม่เจอกันนานเลย"
คำถามเป็นทางการมาก อัทธ์คิดในใจ เฟื่องลดายิ้มน้อยๆ คล้ายกับเธอจะเขินเหมือนกัน
"เราสบายดี อัทธ์ก็สบายดีใช่ไหม " เธอตอบแล้วถามกลับ เค้าพยักหน้าแทนคำตอบ
"เราจะชวนอัทธ์มาติวหนังสือ อัทธ์จะมาไหม เริ่มวันนี้เลย " เธอบอกออกไปแล้วกลั้นใจรอคำตอบ
"ได้เลย อัทธ์วาง จะมาติวกับเฟื่องทุกวันเลย เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยนะ "
เค้าตอบมาอย่างยินดี ก่อนจะลุกขึ้นแล้วขยับตัวไปนั่งข้างๆเธอ "เลือกวิชาของเราสองคนก่อนใช่ป่าว"
เค้าถามเธอเมื่อเห็นหนังสือที่เธอนำติดตัวมาด้วย เฟื่องลดาหยิบหนังสือแล้วเปิดสมุดที่เธอจดเอาไว้คู่กัน ก่อนจะเริ่มถามหัวข้อแรก
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น อัทธ์เหลือบมองหน้าจอแล้วยิ้มออกมา คนที่โทรมาหาคือแฟนสาว ของเค้าเอง อัทธ์พยักหน้าขอโทษแล้วรับสาย
"ว่าไงวาด " เสียงเค้าถามออกไป เฟื่องลดาใจเต้นรัวๆเมื่อได้ยินเสียง เธอรู้แล้วว่าแฟนเค้าโทรมา ปลายสายน่าจะถามว่าเค้าอยู่ที่ไหน "ติวหนังสืออยู่ครับ" เค้าตอบแบบตรงไปตรงมา
"ไปไม่ได้ อัทธ์ไม่ว่าง"เค้าตอบไปแล้ว เฟื่องลดายิ้มออกมา ก่อนที่อัทธ์จะลุกออกไปคุยตรงชั้นหนังสือ เฟื่องลดาไม่ได้ยินว่าเค้าพูดอะไร
"เฟื่อง วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกัน อัทธ์มีธุระ"
เค้าเดินมาบอกเธอหลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ เฟื่องลดายิ้มออกมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน
"ถ้าอัทธ์เลือกจะไปหาแฟน เราจะไม่ติวหนังสือกับอัทธ์แล้ว " เฟื่องลดาบอกอย่างแน่วแน่ อัทธ์จ้องเธออย่างตกตะลึง
"ถ้าอัทธ์เลือกจะไป ก็ไป แต่เราจะไม่รออัทธ์แล้ว" เฟื่องลดาเลือกใช้คำพูดให้เค้ารู้สึก คำว่าเลือกของเธอ และคำว่า รอ เธอหมายความแบบนั้นจริงๆ อัทธ์ทำหน้าหนักใจ "วาดดาวจะให้อัทธ์ทำรายงานให้ ถ้าอัทธ์ไปอัทธ์จะต้องได้ยินคำนี้แน่"
เฟื่องลดาบอกเค้าอย่างตรงไปตรงมา เค้ามองหน้าเค้าตรงๆ อัทธ์ส่ายหน้า
"เฟื่องรู้ได้ยังไงเรื่องนี้" เค้าย้อนถาม เฟื่องลดามองเค้าแล้วสบตาเค้าอย่างแน่วแน่
"ถ้าอัทธ์คิดว่า เฟื่องวุ่นวายกับอัทธ์มากเกินไป เฟื่องก็ขอโทษแล้วกัน แต่เฟื่องหวังดี ไม่งั้นวันนี้เฟื่องคงไม่มานั่งตรงนี้ที่นี่กับอัทธ์หรอก" เฟื่องลดาคิดว่า เธอบอกเค้าไปหมดแล้ว คล้ายกับเธอได้สารภาพความรักไปแล้วด้วยซ้ำ เธอก้มหน้าลง แล้วคิดว่าเค้าคงเดินจากไปแล้ว
เสียงเก้าอี้ข้างตัวดังขึ้น "โอเค ต่อกันเลย เราถึงไหนแล้ว "
เสียงคนข้างๆถาม เฟื่องลดายิ้มออกมาอย่างมีความสุข แล้วมองหน้าเค้า
"เอาละ เริ่มใหม่นะ ถ้าอัทธ์เลือกเเล้ว เรามาเริ่มกันใหม่นะ "
เฟื่องลดายิ้มออกมา อัทธ์พยักหน้าแล้วมองแก้มขาวใสที่เริ่มแดง เค้าเข้าใจความหมายของการเริ่มใหม่ เริ่มใหม่ในชีวิตและเริ่มตัวหนังสือใหม่ใช่ไหม อัทธ์ยิ้มออกมา ก่อนจะมองดูมือที่ไล่ไปตามชีท มือบางขาวใสแบบนี้ดูสวยสะอาดกว่า มือที่ทาเล็บสีสันสดใสเสียอีก แล้วทำไมไปชอบเล็บแดงๆแบบนั้นได้ อัทธ์คิดในใจ
วาดดาวยิ้มอย่างมีความสุข วันนี้เธอนัดอัทธ์มาที่ร้านกาแฟ เธอตั้งใจจะชวนเค้าคุยเรื่องเรียน ก่อนจะงอแงออดอ้อนให้เค้าทำงานให้เธอ วาดดาวยิ้มก่อนวางสาย เค้าติวอยู่ เธอสั่งเค้าเค้ามา เค้าก็ต้องมา วาดดาวยิ้มออกมาแบบคนสะใจ
อัทธ์นอนยิ้มคนเดียวบนเตียงเมื่อนึกถึงเรื่องวันนี้ เค้ารู้สึกว่า เค้าคิดถูกแล้วที่ออกไปหาเฟื่อง เค้าคิดถูกแล้วที่อยู่กับเธอ แทนที่จะไปหาวาดดาว ถ้าเค้าอยู่กับวาดดาว เค้าจะเป็นเพียงแค่คนๆนึงในตัวเลือกของเธอ แต่กับ เฟื่องลดา เค้าเป็นคนสำคัญ เป็นเพียงคนเดียวในสายตาเธอ เเล้วเค้าก็ชอบที่จะเป็นคนสำคัญของเธอ เค้าติวหนังสือกับเธอเกือบสามชั่วโมง แล้วยังชวนเธอไปกินข้าวมื้อค่ำด้วยกัน ร้านอาหารตามสั่งข้างทางธรรมดา กับ คนพิเศษ อร่อยกว่า ร้านที่เปิดเพลงเสียงดัง กับข้าวจานละหลายบาทด้วยอัทธ์เปิดโทรศัพท์หลังจากกลับมาถึงหอ ข้อความไลน์เด้งรัวๆราวร้อยข้อความ กับสายไม่ได้รับอีกกว่าสิบสาย เค้าถอนหายใจออกมา แต่ละข้อความเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่เธอรอเค้า และ เธอหลุดออกมาว่า มีงานจะปรึกษาเรื่องเรียน นี่คือเหตุผลที่แท้จริงสินะ เค้าเกือบพลาดไปแล้ว อัทธ์คิดในใจ ตอนแรกที่เฟื่องลดาบอกว่าวาดดาวจะให้เค้าทำงานให้ เค้าคิดสงสัยนิดเดียวว่าทำไมเฟื่องถึงได้รู้ แล้วเค้าก็มาคิดต่อว่า วาดดาวขาดเรียนค่อนข้างบ่อย แต่ยังผ่านมาได้แม้จะคะแนนไม่ค่อยดีนัก แสดงว่าเธอคงมีคนช่วยเหลือเรื่องเรียนแน่นอน เค้าจะไม่ยอมท
เฟื่องลดาไม่เคยคิดเลยว่า เธอจะมีโอกาสนี้ เธอบอกเค้าไปแล้ว แม้จะไม่ใช่การสารภาพรักไปตรงๆแต่สิ่งที่เธอบอกเค้า ออกไปแล้ว ชายหนุ่มที่เธอแอบรักมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เกือบสองปีแล้วที่เธอเฝ้ามอง คอยดูแลเค้าบ้างและมักจะเฝ้ามองอยู่ห่างๆมานานแล้ว คอยมองเค้า คอยช่วยเหลือเค้าในส่วนที่เธอช่วยทำได้ ถ้าเพียงเค้าบอกเธอมาเท่านั้นเฟื่องลดาคนนี้ยินดีช่วยเหลือเค้าเต็มที่เลยอัทธ์หุบยิ้มทันที ที่เห็นคนตรงหน้า เค้าจอดรถตรงลานจอดรถหน้าโรงอาหาร ตั้งแต่วันที่ติวหนังสือวันนั้นกับเฟื่องลดา เค้าก็มองเธออย่างชัดเจนมากขึ้น จากที่เคยประทับใจในความน่ารัก สดใส ร่าเริง และตั้งใจเรียนแล้ว เฟื่องลดา ยังจริงใจและเปิดเผย เธอเปิดเผยทุกอย่างผ่านสีหน้าและสายตา เค้าชอบความตรงไปตรงมาของเฟื่องลดาที่สุด อยู่ด้วยแล้วสบายใจมาก แต่คนตรงหน้าทำให้เค้าหงุดหงิด"น้องเฟื่อง" เสียงทุ้ม นุ่ม สุภาพ เรียกชื่อเฟื่องลดา เค้าหน้าบึ้งทันที แล้วเหลือบมองคนข้างๆ เฟื่องลดายิ้มน้อยๆก่อนจะเดินไปหาคนที่ยืนรออยู่ อัทธ์รีบล้อกรถแล้วเดินตามเข้าไปอย่างรวดเร็วเสียงพี่กร ชวนเฟื่องลดา ไปทานข้าวเช้าด้วยกันทำให้เค้าเริ่มโมโหขึ้นมาอีก เค้าส่งเสียงกระแอมออกไปแล้วบอ
อัทธ์นั่งรอเฟื่องลดาตรงหน้าระเบียงห้องเรียน เค้ามีเรียนที่ตึกเดียวกันแต่คนละชั้น พอหมดเวลาเรียนเค้าก็หอบของหนังสือเรียนยัดลงกระเป๋าแล้วรีบวิ่งมาห้องเรียนของเฟื่องลดาทันที เค้ารู้ตัวแล้วว่า เค้าจะไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมาจีบเฟื่องลดาของเค้าเป็นอันขาด ตั้งแต่วันที่เห็นรุ่นพี่คนนั้นมาวนเวียนทักทาย และดักรอเฟื่องลดา เค้าก็รู้สึกไม่โอเคมากๆ ไม่โอเคเลย แล้วเค้าจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้วประตูห้องเปิดออกมา เสียงเพื่อนๆที่คุ้นหน้าคุ้นตาทักทาย อัทธ์ยิ้มออกมา"อัทธ์ มารอเฟื่องหรอ "คนที่ยืนรอ ยิ้มกว้าง แล้วตอบเสียงดังหนักแน่น"มารอเฟื่อง" หลายคนอดยิ้มแซวไม่ได้ อัทธ์ยิ้มอายๆแล้วพยักหน้าน้อยๆ"จีบไหมเนี่ย " เพื่อนถามต่อ ชงเข้มมาก"อือ จีบ "เค้าไม่ปฎิเสธว่าเค้ากำลังจีบเฟื่องลดาอยู่ เสียงแซวดังขึ้นอีกเมื่อเค้ายอมรับตรงๆเฟื่องลดาหน้าแดงก่ำ เธอเดินออกมาทันได้ยินเค้าตอบเพื่อนว่า เค้ากำลังจีบเฟื่องลดาอยู่ เธออายเหลือเกิน อัทธ์บ้า ตรงเกินไปแล้ว"อัทธ์พูดจริง"เค้าบอกกับเธอขณะที่กำลังเดินมาที่รถมอเตอร์ไซด์ เฟื่องลดา งงกับคำพูด"อัทธ์บอกว่า อัทธ์พูดจริงนะ ที่จะจีบเฟื่อง " เค้าบอกออกไปอย่างชัด
เสียงร้องเพลงวี้ดว้ายดังเป็นระยะ เฟื่องลดา เด็กสาวน่าตาน่ารัก ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ส่งยิ้มอายๆให้กับคนข้างๆอย่างเป็นมิตร แต่คนที่ได้รับรอยยิ้มกลับทำเฉย แถมยังมัวแต่มองรุ่นพี่รูปหล่อข้างหน้าต่างหากวาดดาว น้องใหม่ปีหนึ่งที่เป็นที่สนใจของรุ่นพี่ทั้งหลาย เธอสวยเปล่งประกาย จนใครๆหลายคนแอบมอง วาดดาวมองคนข้างๆ ยัยหน้าจืด แต่งตัวธรรมดา ไม่ได้ดูดีมีราคาสักนิด ผิดกับเธอที่สวยและแพงแม้อยู่ในชุดธรรมดา แบบเสื้อยืดกางเกงวอร์ม ก็ยังมียี่ห้อติดอยู่เสียงพี่นำเชียร์ สอนน้องๆร้องเพลง และ คัดเลือกเชียร์หลีดเดอร์ วาดดาวก้มหน้าน้อยๆคล้ายจะหลบหน้าหลบตาไม่ให้รุ่นพี่สนใจเธอ แต่เป็นการแกล้งเสียมากกว่า เพราะชื่อ วาดดาว คนสวยดังออกไปแล้ว เธอลุกขึ้นแบบยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินออกไป เฟื่องลดา ยิ้มออกมา ก็คนข้างๆสวยจริงๆนี่นา ไม่ได้จืดชืดอย่างเธอสักนิดเฟื่องลดานั่งปรบมือร้องเพลงเชียร์กับเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน ก็มีพี่คนนึงเข้ามาเรียก แล้วสั่งให้ออกไปข้างนอก เธองงเล็กน้อยแต่ก็เดินออกไป เสียงรุ่นพี่บอกกับเธอว่า จะให้เธอถือป้ายคู่กับนักศึกษาชายคนนึง เฟื่องลดาอยากจะอ้าปากปฎิเสธไปแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ส
เพื่อนในกลุ่มต่างแบ่งงานกันไป และนัดกันว่า อีกสองวันจะเอาส่วนของตัวเองมารวมกัน เฟื่องลดา มองดูหัวข้องานของตัวเองและ วาดดาวก็ถอนหายใจออกมา คนอื่นๆได้แต่บอกให้เธอคุยกับวาดดาวเอง เพราะเรียนเอกเดียวกันแม้จะเรียนคนละห้องก็ตาม เฟื่องลดาถอนหายใจออกมา ก่อนจะออกจากห้องไปข้าวมันไก่วางตรงหน้า แม้เธอจะหิวมากแค่ไหนแต่ก็กินไม่ลงอยู่ดี ทำไมวาดดาวเป็นคนแบบนี้ ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเองทั้งนั้น ทำไมนิสัยแบบนี้ อัทธ์ยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนทำหน้ายุ่งอยู่กับจานข้าวมันไก่"ข้าวบูดหรอ หน้าถึงบูดตาม" เค้าถามเธอในขณะที่เดินมาหา เฟื่องส่ายหน้า"ข้าวไม่บูด แต่เราบูด" เธอตอบตามจริง เค้าหัวเราะ เออ เป็นคนตรงๆดีนะ"รีบกินเถอะ เดี๊ยวเย็นนี้มีซ้อมอีก บ่ายมีเรียนอีกไหม" เฟื่องลดา พยักหน้าก่อนก้มหน้าก้มตากินข้าว"เดินรอบสนาม น้องสองคนเดินถือป้ายรอบสนาม ลองดูสิว่าไหวไหม"รุ่นพี่สั่ง เฟื่องลดาเปลี่ยนรองเท้าจากผ้าใบธรรมดา เป็นรองเท้าส้นสูงที่รุ่นพี่นำมาให้ใส่ แล้วลองดู เฟื่องลดาทำหน้าตาจืดเจื่อนทันที ขนาดผ้าใบธรรมดาเธอยังสะดุดล้มบ่อยๆ แล้วส้นแบบนี้ จะรอดไหมวันนี้เท้าบอบบางโดนรองเท้ากัดหลายแผล เมื่อเดินจบรอบแรก เธอเจ็บเท้า
วันนี้รุ่นพี่มารับที่หอตั้งแต่ตีสาม เฟื่องลดานอนไม่หลับเธออดตื่นเต้นไม่ได้ ร่างบอบบางขาวผ่องนั่งแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตีห้า เธอง่วงมากแทบจะหลับตรงนั้น แก้วกาแฟเย็นกับแซนวิชถูกยัดใส่มือ เฟื่องลดาเงยหน้ามองคนที่ส่งของมาให้ก็ยิ้มออกมา"หลับแล้ว กินรองท้องไปก่อน" เค้าบอกเธอก่อนจะดูดกาแฟในแก้วของตัวเอง แล้วกัดขนมปังตามเข้าไป"รีบกินนะ เดี๋ยวปากเลอะ " เค้าย้ำก่อนจะหลบมุมไปนั่งอีกที่นึง เฟื่องลดามองของในมือแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะกัดขนมกินอย่างที่เค้าบอกแสงแฟลชถ่ายรูปคู่เธอกับเค้าวูบวาบเต็มไปหมด สวยหล่อสมกันมาก คนเลือกตาถึงจริงๆ รุ่นพี่ถ่ายรูปบอกกันเป็นเสียงเดียวกันหมด ว่าทั้งคุ่ถ่ายรูปขึ้นมากจริงๆ ชุดไทยสีทอง ขับผิวขาวผ่องงามสง่า ฝ่าชชายสวมชุดไทยดูหล่อมากจนสาวๆในคณะหลายคนแอบมองเป็นตาเดียว วาดดาวยืนมองทั้งคู่แล้วยิ้มออกมา"ชอบมากหรอนายคนนี้ วาดดาวคนนี้จะจัดให้" เสียงวาดดาวกระซิบข้างหูเฟื่องลดาเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่มคนนั้นงานกีฬาสีจบลงอย่างสวยงาม พร้อมกับการสอบเทอมแรกของปีหนึ่งที่งวดเข้ามาทุกที เฟื่องลดานั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุดจนค่ำคนเดียวเธอไม่ได้เป็นคนเรียนเก่งเลย แต่เธอขยันมาก ถึงได
วาดดาวยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อเห็นคนที่เธอให้ความสนใจเดินเข้ามาหา เพื่อนข้างๆกระซิบว่า คนนี้ไง ที่เฟื่องลดา ชอบ อัทธ์ถือแก้วเหล้าเข้ามาที่โต๊ะสาวๆแล้วส่งยิ้มให้ โดยสายตาไม่ได้ละไปจากวาดดาวเลย เธอมองจ้องตาเค้าหน้าท้าทาย เป็นอัทธ์ที่ต้องหลบตา แล้วยกเหล้าขึ้นดื่ม ก่อนจะรวบรวมความกล้า หากไม่มีเหล้าเข้าช่วย เค้าคงไม่กล้าเดินมาอยู่ตรงนี้แน่วาดดาวขยับเก้าอี้ ก่อนจะมานั่งข้างๆชายหนุ่มอย่างจงใจ สายตาของเธอส่งมายั่วยวนและท้าทายที่สุด อัทธ์ยิ้มออกมาแล้วตอบคำถาม อย่างใก้ลชิด บางจังหวะเธอก็จงใจสัมผัสขาแกร่งอย่างจงใจ อัทธ์รู้สึกถึงความท้าทายที่เธอส่งมาถึงเค้า และรู้ถึงเสน่ห์อันล้นเหลือของเธอ ปากบางที่ทาลิปสติกสีสวย ชุดกระโปรงตัวสั้น และ กลิ่นหอมอ่อนๆออกจากร่างกาย กระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกดีเหลือเกิน เธอคือคนแรกที่เค้าได้ใก้ลชิดขนาดนี้ ฮอร์โมน และ แอลกฮอลล์ เรียกความกล้าในตัว ปากของเค้าหอมแก้มเธอเบา วาดดาวยิ้มออกมาอย่างสะใจร้านปิดแล้ว เพื่อนแยกย้ายกันกลับหมดแล้ว อัทธ์นั่งอยู่ในรถคันเล็กของวาดดาว มือของเค้าสัมมือเธอแน่น ความรู้สึกหลงใหลกระแทกเต็มหัวใจ วาดดาวคนสวยที่ใครๆฝันถึง มานั่งคลอเคลียอยู่ตรงนี้ก
เฟื่องลดามองดูรายชื่อไลน์ในมือ เธออยากจะไลน์ไปถามอัทธ์ กับสิ่งที่ได้ยินมา ว่าจริงหรือเปล่า ที่เค้าจีบวาดดาว แต่เธอยังคิดมากเหลือเกินว่า เค้าจะหาว่าเธอไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเค้าหรือเปล่า เฟื่องลดาเก็บมือถือลงแล้วทำงานของตัวเองต่อไป ในใจเธอยังคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องเค้า เค้าสำคัญกับเธอเกินไปแล้ว เฟื่องลดาถอนหายใจออกมาอย่างเพลียๆเสียงเพลงดังกระหึ่ม วาดดาวเต้นอย่างสนุกสนานโดยมีมือของแฟนหนุ่มประคองอยู่ตลอดเวลา พี่อ้นเรียนจบไปแล้ว แถมได้งานที่บริษัทใหญ่ แต่เธอยังคบกับเค้าอยู่ หากว่างเค้าจะนัดเธอมาเที่ยว และจบลงที่คอนโดเค้าเสมอ อัทธ์โทรหาเธอหลายสาย วาดดาวปิดเสียงเอาไว้ แล้วยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ คนข้างตัวกอดเอวบางเบาๆก่อนจะซุกไซ้ที่คอขาวอย่างจงใจกระตุ้นความรู้สีก เธอหันหน้าเข้าหาเค้า แล้วจูบเค้าอย่างยั่วยวน มือหนาลูบสะโพกเบาๆก่อนจะบอกข้างๆหูว่า"คืนนี้วาดจะไม่ได้นอน "วาดดาวหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ เธอรู้ว่าเค้าพูดจริงทำจริง มือของเธอลูบหน้าอกแกร่งเบาๆแล้วสบตาเค้าอย่างท้าทาย"วาดรอพี่อ้นมาหลายวันแล้วนะคะ" เธอตอบเค้าตามตรง ชายหนุ่มกระดกเหล้าเข้าปากแล้วคว้าเธอมาจูบ ก่อนจะส่งเหล้าเข้
อัทธ์นั่งรอเฟื่องลดาตรงหน้าระเบียงห้องเรียน เค้ามีเรียนที่ตึกเดียวกันแต่คนละชั้น พอหมดเวลาเรียนเค้าก็หอบของหนังสือเรียนยัดลงกระเป๋าแล้วรีบวิ่งมาห้องเรียนของเฟื่องลดาทันที เค้ารู้ตัวแล้วว่า เค้าจะไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมาจีบเฟื่องลดาของเค้าเป็นอันขาด ตั้งแต่วันที่เห็นรุ่นพี่คนนั้นมาวนเวียนทักทาย และดักรอเฟื่องลดา เค้าก็รู้สึกไม่โอเคมากๆ ไม่โอเคเลย แล้วเค้าจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้วประตูห้องเปิดออกมา เสียงเพื่อนๆที่คุ้นหน้าคุ้นตาทักทาย อัทธ์ยิ้มออกมา"อัทธ์ มารอเฟื่องหรอ "คนที่ยืนรอ ยิ้มกว้าง แล้วตอบเสียงดังหนักแน่น"มารอเฟื่อง" หลายคนอดยิ้มแซวไม่ได้ อัทธ์ยิ้มอายๆแล้วพยักหน้าน้อยๆ"จีบไหมเนี่ย " เพื่อนถามต่อ ชงเข้มมาก"อือ จีบ "เค้าไม่ปฎิเสธว่าเค้ากำลังจีบเฟื่องลดาอยู่ เสียงแซวดังขึ้นอีกเมื่อเค้ายอมรับตรงๆเฟื่องลดาหน้าแดงก่ำ เธอเดินออกมาทันได้ยินเค้าตอบเพื่อนว่า เค้ากำลังจีบเฟื่องลดาอยู่ เธออายเหลือเกิน อัทธ์บ้า ตรงเกินไปแล้ว"อัทธ์พูดจริง"เค้าบอกกับเธอขณะที่กำลังเดินมาที่รถมอเตอร์ไซด์ เฟื่องลดา งงกับคำพูด"อัทธ์บอกว่า อัทธ์พูดจริงนะ ที่จะจีบเฟื่อง " เค้าบอกออกไปอย่างชัด
เฟื่องลดาไม่เคยคิดเลยว่า เธอจะมีโอกาสนี้ เธอบอกเค้าไปแล้ว แม้จะไม่ใช่การสารภาพรักไปตรงๆแต่สิ่งที่เธอบอกเค้า ออกไปแล้ว ชายหนุ่มที่เธอแอบรักมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เกือบสองปีแล้วที่เธอเฝ้ามอง คอยดูแลเค้าบ้างและมักจะเฝ้ามองอยู่ห่างๆมานานแล้ว คอยมองเค้า คอยช่วยเหลือเค้าในส่วนที่เธอช่วยทำได้ ถ้าเพียงเค้าบอกเธอมาเท่านั้นเฟื่องลดาคนนี้ยินดีช่วยเหลือเค้าเต็มที่เลยอัทธ์หุบยิ้มทันที ที่เห็นคนตรงหน้า เค้าจอดรถตรงลานจอดรถหน้าโรงอาหาร ตั้งแต่วันที่ติวหนังสือวันนั้นกับเฟื่องลดา เค้าก็มองเธออย่างชัดเจนมากขึ้น จากที่เคยประทับใจในความน่ารัก สดใส ร่าเริง และตั้งใจเรียนแล้ว เฟื่องลดา ยังจริงใจและเปิดเผย เธอเปิดเผยทุกอย่างผ่านสีหน้าและสายตา เค้าชอบความตรงไปตรงมาของเฟื่องลดาที่สุด อยู่ด้วยแล้วสบายใจมาก แต่คนตรงหน้าทำให้เค้าหงุดหงิด"น้องเฟื่อง" เสียงทุ้ม นุ่ม สุภาพ เรียกชื่อเฟื่องลดา เค้าหน้าบึ้งทันที แล้วเหลือบมองคนข้างๆ เฟื่องลดายิ้มน้อยๆก่อนจะเดินไปหาคนที่ยืนรออยู่ อัทธ์รีบล้อกรถแล้วเดินตามเข้าไปอย่างรวดเร็วเสียงพี่กร ชวนเฟื่องลดา ไปทานข้าวเช้าด้วยกันทำให้เค้าเริ่มโมโหขึ้นมาอีก เค้าส่งเสียงกระแอมออกไปแล้วบอ
อัทธ์นอนยิ้มคนเดียวบนเตียงเมื่อนึกถึงเรื่องวันนี้ เค้ารู้สึกว่า เค้าคิดถูกแล้วที่ออกไปหาเฟื่อง เค้าคิดถูกแล้วที่อยู่กับเธอ แทนที่จะไปหาวาดดาว ถ้าเค้าอยู่กับวาดดาว เค้าจะเป็นเพียงแค่คนๆนึงในตัวเลือกของเธอ แต่กับ เฟื่องลดา เค้าเป็นคนสำคัญ เป็นเพียงคนเดียวในสายตาเธอ เเล้วเค้าก็ชอบที่จะเป็นคนสำคัญของเธอ เค้าติวหนังสือกับเธอเกือบสามชั่วโมง แล้วยังชวนเธอไปกินข้าวมื้อค่ำด้วยกัน ร้านอาหารตามสั่งข้างทางธรรมดา กับ คนพิเศษ อร่อยกว่า ร้านที่เปิดเพลงเสียงดัง กับข้าวจานละหลายบาทด้วยอัทธ์เปิดโทรศัพท์หลังจากกลับมาถึงหอ ข้อความไลน์เด้งรัวๆราวร้อยข้อความ กับสายไม่ได้รับอีกกว่าสิบสาย เค้าถอนหายใจออกมา แต่ละข้อความเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่เธอรอเค้า และ เธอหลุดออกมาว่า มีงานจะปรึกษาเรื่องเรียน นี่คือเหตุผลที่แท้จริงสินะ เค้าเกือบพลาดไปแล้ว อัทธ์คิดในใจ ตอนแรกที่เฟื่องลดาบอกว่าวาดดาวจะให้เค้าทำงานให้ เค้าคิดสงสัยนิดเดียวว่าทำไมเฟื่องถึงได้รู้ แล้วเค้าก็มาคิดต่อว่า วาดดาวขาดเรียนค่อนข้างบ่อย แต่ยังผ่านมาได้แม้จะคะแนนไม่ค่อยดีนัก แสดงว่าเธอคงมีคนช่วยเหลือเรื่องเรียนแน่นอน เค้าจะไม่ยอมท
เฟื่องลดา ส่งไลน์มา อัทธ์ยิ้มออกมาแล้วดูนาฬิกา ก่อนจะรีบเดินไปตามที่เธอนัด ในใจอดคิดไม่ได้ว่า เฟื่องลดาจะบอกเค้าหรือเปล่าว่ามีแฟนแล้ว หรือจะปรึกษาว่าจะคบผู้ชายคนนั้นดีไหม หรือเธอจะบอกเค้าไหมว่า เธอจะคบกับคนนั้น อัทธ์หยุดเดินแล้วถอนหายใจ ออกมา เค้าพร้อมหรือยังที่จะยินดีกับเธอ แต่เฟื่องนัดมาถ้าไม่ไป เค้าจะรู้ไหมว่าเธอโกรธเค้าเรื่องอะไร เค้าคิดวนไปวนมาอยู่ที่ทางเดินอัทธ์เดินตรงเข้ามาที่ห้องสมุดแล้วยิ้มออกมา เฟื่องลดานั่งอยู่เพียงลำพังเธอสวย สว่าง โดดเด่น อยู่เสมอ อัทธ์อดตื่นเต้นไม่ได้ นานแค่ไหนแล้วที่เค้าไม่ได้มาเจอเธอเลย เฟื่องลดาส่งยิ้มมาทักทาย เค้าเดินไปนั่งตรงข้ามกับเธอแล้วเลือนเก้าอี้ออกก่อนจะนั่งลงแล้วถูมือด้วยความประหม่า"เฟื่องสบายดีไหม ไม่เจอกันนานเลย"คำถามเป็นทางการมาก อัทธ์คิดในใจ เฟื่องลดายิ้มน้อยๆ คล้ายกับเธอจะเขินเหมือนกัน"เราสบายดี อัทธ์ก็สบายดีใช่ไหม " เธอตอบแล้วถามกลับ เค้าพยักหน้าแทนคำตอบ"เราจะชวนอัทธ์มาติวหนังสือ อัทธ์จะมาไหม เริ่มวันนี้เลย " เธอบอกออกไปแล้วกลั้นใจรอคำตอบ"ได้เลย อัทธ์วาง จะมาติวกับเฟื่องทุกวันเลย เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยนะ "เค้าตอบมาอย่างยินดี ก่อนจ
อัทธ์รู้ตัวดีว่าระยะหลัง เค้าได้เจอเฟื่องลดาน้อยมาก แม้มีเรียนวิชาเดียวกัน ก็จะเป็นเฟื่องลดาที่มาช้าและเป็นเฟื่องลดาอีกนั่นแหละ ที่รีบเก็บของออกจากห้องไปทันที ที่อาจารย์เลิกคลาสแล้ว เค้าดูเธอมาแบบนี้หลายครั้งแล้ว ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ แต่ไม่ได้ถามอะไรอัทธ์โทรหาวาดดาวหลายรอบแล้ว เธอไม่รับสาย บางครั้งเธอก็เงียบหายไปบ่อยๆแบบนี้ อัทธ์ถอนหายใจออกมา เค้าเจอวาดดาวน้อยครั้งมาก และเธอก็ขาดเรียนบ่อยจนน่าตกใจ หากไม่นัดที่ร้านเหล้า เค้าก็แทบไม่ได้เจอเธอเลย ความสวยที่เคยทำให้เค้าตื่นเต้นเร้าใจ กลายเป็นความธรรมดาเหมือนเค้ามองดูดาราในโทรทัศน์ เค้าอยากมีคนช่วยเรียน ช่วยอ่านมากกว่า อัทธ์เลื่อนดูไลน์ในโทรศัพท์แล้วถอนหายใจออกมาอีกรอบ เฟื่องโกรธอะไรอัทธ์ เค้าคิดในใจวาดดาวนอนหลับสนิทบนอกนุ่มๆของแฟนหนุ่ม เธอไม่ได้ไปเรียนหลายวันแล้ว เธอไม่อยากห่างกายจากเค้าไปไหนเลย แม้เวลากลางวันที่เค้าไปทำงาน เธอก็นอนอยู่ที่ห้องของเค้าคล้ายกับว่าเป็นการเริ่มต้นการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เธอไม่รับสายอัทธ์มาหลายวันแล้ว เธอรู้ดีว่า ผู้ชายจืดๆแบบอัทธ์ไม่ใช่สเปกเธอเลย แค่แกล้งๆนิดเดียวก็คิดจริงจังไปซะมาก คิดแล้วก็อดขำไม่
เฟื่องลดาส่งเอกสารในมือให้คนตรงหน้า สมุดเล็กเชอร์ลายการ์ตูนน่ารัก ที่เขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบ ทำให้คนรับยิ้มออกมา"กินข้าวกันนะ อัทธ์เลี้ยงเอง ข้าวมันไก่นะ "เค้าบอกเธอก่อนจะยิ้มให้เธอแล้วรีบลุกไปซื้อข้าวให้เธออย่างเอาใจ เฟื่องลดายิ้มออกมาอย่างมีความสุข อย่างน้อยเค้าก็ยังจำได้ว่าเธอชอบกินข้าวมันไก่"อัทธ์จะรีบถ่ายเอกสารเอาไว้ แล้วจะรีบเอามาคืนเลย"เค้าบอกเธอก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียน เฟื่องลดาพยักหน้ายิ้มออกมา ตอนแรกเธอคิดจะถ่ายเอกสารมาให้เค้า แต่อดเห็นแก่ตัวไม่ได้ เอาสมุดมาให้ อย่างน้อยเค้าก็ต้องนัดเจอเพื่อเอามาคืนอีกรอบ เธอขอเเค่นี้เอง ไม่ได้ขออะไรไปมากกว่านี้ เฟื่องลดาคิดในใจอยู่คนเดียว ก่อนจะยิ้มออกมา อย่างมีความสุขอัทธ์ถ่ายเอกสารวิชานี้เอาไว้ทั้งเล่มเลย เฟื่องลดาจดรายเนื้อหาที่อาจารย์สอนเอาไว้ละเอียดดีมาก แถมยังใส่รายละเอียดช่วยจำของเธอเอาไว้ด้วย ลายมือเป็นระเบียบสวยงาม ปากกาเน้นข้อความที่จุดสำคัญทำให้เค้าคิดถึงเจ้าของสมุด เฟื่องลดา น่ารัก นิสัยดี และตั้งใจเรียนมาก เธอเป็นเพื่อนที่ดีเสมอวาดดาวเห็นสมุดที่อัทธ์ถือในมือขณะที่นั่งกินข้าวกับเธอ ก็แซวออกมา"สมุดหวานไปนะอัทธ์" อัทธ์หั
เฟื่องลดามองดูรายชื่อไลน์ในมือ เธออยากจะไลน์ไปถามอัทธ์ กับสิ่งที่ได้ยินมา ว่าจริงหรือเปล่า ที่เค้าจีบวาดดาว แต่เธอยังคิดมากเหลือเกินว่า เค้าจะหาว่าเธอไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเค้าหรือเปล่า เฟื่องลดาเก็บมือถือลงแล้วทำงานของตัวเองต่อไป ในใจเธอยังคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องเค้า เค้าสำคัญกับเธอเกินไปแล้ว เฟื่องลดาถอนหายใจออกมาอย่างเพลียๆเสียงเพลงดังกระหึ่ม วาดดาวเต้นอย่างสนุกสนานโดยมีมือของแฟนหนุ่มประคองอยู่ตลอดเวลา พี่อ้นเรียนจบไปแล้ว แถมได้งานที่บริษัทใหญ่ แต่เธอยังคบกับเค้าอยู่ หากว่างเค้าจะนัดเธอมาเที่ยว และจบลงที่คอนโดเค้าเสมอ อัทธ์โทรหาเธอหลายสาย วาดดาวปิดเสียงเอาไว้ แล้วยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ คนข้างตัวกอดเอวบางเบาๆก่อนจะซุกไซ้ที่คอขาวอย่างจงใจกระตุ้นความรู้สีก เธอหันหน้าเข้าหาเค้า แล้วจูบเค้าอย่างยั่วยวน มือหนาลูบสะโพกเบาๆก่อนจะบอกข้างๆหูว่า"คืนนี้วาดจะไม่ได้นอน "วาดดาวหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ เธอรู้ว่าเค้าพูดจริงทำจริง มือของเธอลูบหน้าอกแกร่งเบาๆแล้วสบตาเค้าอย่างท้าทาย"วาดรอพี่อ้นมาหลายวันแล้วนะคะ" เธอตอบเค้าตามตรง ชายหนุ่มกระดกเหล้าเข้าปากแล้วคว้าเธอมาจูบ ก่อนจะส่งเหล้าเข้
วาดดาวยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อเห็นคนที่เธอให้ความสนใจเดินเข้ามาหา เพื่อนข้างๆกระซิบว่า คนนี้ไง ที่เฟื่องลดา ชอบ อัทธ์ถือแก้วเหล้าเข้ามาที่โต๊ะสาวๆแล้วส่งยิ้มให้ โดยสายตาไม่ได้ละไปจากวาดดาวเลย เธอมองจ้องตาเค้าหน้าท้าทาย เป็นอัทธ์ที่ต้องหลบตา แล้วยกเหล้าขึ้นดื่ม ก่อนจะรวบรวมความกล้า หากไม่มีเหล้าเข้าช่วย เค้าคงไม่กล้าเดินมาอยู่ตรงนี้แน่วาดดาวขยับเก้าอี้ ก่อนจะมานั่งข้างๆชายหนุ่มอย่างจงใจ สายตาของเธอส่งมายั่วยวนและท้าทายที่สุด อัทธ์ยิ้มออกมาแล้วตอบคำถาม อย่างใก้ลชิด บางจังหวะเธอก็จงใจสัมผัสขาแกร่งอย่างจงใจ อัทธ์รู้สึกถึงความท้าทายที่เธอส่งมาถึงเค้า และรู้ถึงเสน่ห์อันล้นเหลือของเธอ ปากบางที่ทาลิปสติกสีสวย ชุดกระโปรงตัวสั้น และ กลิ่นหอมอ่อนๆออกจากร่างกาย กระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกดีเหลือเกิน เธอคือคนแรกที่เค้าได้ใก้ลชิดขนาดนี้ ฮอร์โมน และ แอลกฮอลล์ เรียกความกล้าในตัว ปากของเค้าหอมแก้มเธอเบา วาดดาวยิ้มออกมาอย่างสะใจร้านปิดแล้ว เพื่อนแยกย้ายกันกลับหมดแล้ว อัทธ์นั่งอยู่ในรถคันเล็กของวาดดาว มือของเค้าสัมมือเธอแน่น ความรู้สึกหลงใหลกระแทกเต็มหัวใจ วาดดาวคนสวยที่ใครๆฝันถึง มานั่งคลอเคลียอยู่ตรงนี้ก
วันนี้รุ่นพี่มารับที่หอตั้งแต่ตีสาม เฟื่องลดานอนไม่หลับเธออดตื่นเต้นไม่ได้ ร่างบอบบางขาวผ่องนั่งแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตีห้า เธอง่วงมากแทบจะหลับตรงนั้น แก้วกาแฟเย็นกับแซนวิชถูกยัดใส่มือ เฟื่องลดาเงยหน้ามองคนที่ส่งของมาให้ก็ยิ้มออกมา"หลับแล้ว กินรองท้องไปก่อน" เค้าบอกเธอก่อนจะดูดกาแฟในแก้วของตัวเอง แล้วกัดขนมปังตามเข้าไป"รีบกินนะ เดี๋ยวปากเลอะ " เค้าย้ำก่อนจะหลบมุมไปนั่งอีกที่นึง เฟื่องลดามองของในมือแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะกัดขนมกินอย่างที่เค้าบอกแสงแฟลชถ่ายรูปคู่เธอกับเค้าวูบวาบเต็มไปหมด สวยหล่อสมกันมาก คนเลือกตาถึงจริงๆ รุ่นพี่ถ่ายรูปบอกกันเป็นเสียงเดียวกันหมด ว่าทั้งคุ่ถ่ายรูปขึ้นมากจริงๆ ชุดไทยสีทอง ขับผิวขาวผ่องงามสง่า ฝ่าชชายสวมชุดไทยดูหล่อมากจนสาวๆในคณะหลายคนแอบมองเป็นตาเดียว วาดดาวยืนมองทั้งคู่แล้วยิ้มออกมา"ชอบมากหรอนายคนนี้ วาดดาวคนนี้จะจัดให้" เสียงวาดดาวกระซิบข้างหูเฟื่องลดาเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่มคนนั้นงานกีฬาสีจบลงอย่างสวยงาม พร้อมกับการสอบเทอมแรกของปีหนึ่งที่งวดเข้ามาทุกที เฟื่องลดานั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุดจนค่ำคนเดียวเธอไม่ได้เป็นคนเรียนเก่งเลย แต่เธอขยันมาก ถึงได