ท้ายที่สุดนันนลินทร์ก็ยอมจำนนต่อคำเล้าลื้อจากนนทวัฒน์ ด้วยการให้อีกฝ่ายขับโรลส์รอยซ์สุดหรูมาส่งถึงที่ นันนลินทร์ยอมรับว่ายังคงกลัวเรื่องความเป็นส่วนตัวของใครบางคนที่ยังอยู่ต่างจังหวัด ทว่าตอนนี้หล่อนไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้แล้ว
“คุณหนิงอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอครับ?” สายตาคู่คมกวาดมองไปยังตึกสูงตรงหน้าผ่านทางกระจกรถ ขณะที่ชะความเร็วเพื่อจอดเทียบด้านล่างของตึก
เขาไม่ได้มีเจตนาอยากจะดูถูกใคร แต่เท่าที่รู้คือตึกนี้ราคาต่อยูนิตมันค่อนข้างสูงเอาเรื่อง จะว่ากันตามตรงก็เป็นคอนโดฯ ที่ขายให้เฉพาะคนมีฐานะเท่านั้น
“ดูสีหน้าคุณนนท์ตอนนี้คงไม่เชื่อน่าเชื่อใช่ไหมล่ะคะว่าหนิงจะอยู่ที่นี่”
“เอ่อ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ แต่คือว่าผม...”
“พอดีหนิงถูกจ้างให้ดูแลห้องแทนเจ้าของเขาน่ะค่ะ ตอนนี้เขาไปอยู่เมืองนอก” หล่อนไม่อยากจะโกหก เพียงแต่หาใช่เรื่องไม่ที่จะต้องพูดความจริง ว่าที่จริงแล้วหล่อนเป็นแค่นางบำเรอบนเตียงของใครอยู่
นนทวัฒน์ดูท่าทางทางจะเชื่อในสิ่งที่หล่อนพูดแบบนี้ด้วยซ้ำ เขาผ่อนลมหายใจเบาๆ ออกมา แต่กระนั้นมันก็ยังดังพอที่ทำให้อีกฝ่ายได้ยิน เขาคงโล่งใจแล้ว ทั้ง ๆ ที่หล่อนเองก็ไม่ทราบถึงสาเหตุ
“เขาเป็นญาติของคุณหนิงเหรอครับ”
“?”
“ผมหมายถึงเจ้าของห้องที่ให้คุณหนิงมาเฝ้า” หากเป็นญาติที่มีฐานะร่ำรวยมีกำลังทรัพย์ซื้ออสังหาฯ หรูขนาดนี้ ก็คงได้แต่คิดว่าเหลือเชื่อที่นันนลินทร์ยังใช้ชีวิตได้อย่างสมถะ
“ก็ไม่ใช่หรอกค่ะ แค่คนรู้จัก เขาไม่ต้องการให้ห้องเก่าหรือทรุดโทรมน่ะค่ะถ้าจะปล่อยไว้เฉยๆ เลยจ้างให้หนิงมาอยู่แล้วก็ดูแลแทน”
เขาพยักหน้าตอบ “อย่างนั้นเหรอครับ ดีจัง”
เขาแอบคิดอยู่ว่าหากเจ้าของปล่อยเช่าถ้าเป็นห้องขนาดธรรมดาคงได้หลายหลายหมื่น แต่ถ้าเป็นห้องเพนท์เฮ้าส์ก็น่าจะหลักแสนต่อเดือนเลย
หรือเจ้าของห้องเขาอาจจะได้กำไรมามากจนอยากจะจ้างให้คนมาดูแลเพื่อไม่ให้ห้องดูทรุดโทรมอย่างที่หล่อนบอก ...ก็อาจจะเป็นไปได้
ทว่าคนคิดแบบนักธุรกิจอย่างเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
“อันที่จริงคอนโดฯ ของผมก็อยู่แถวๆ นี้แหละครับ”
“อ้าวเหรอคะ... ดีแล้วล่ะค่ะ คุณจะได้ไม่ต้องขับรถไกล หนิงกลัวว่าที่คุณมาส่งหนิงมันจะทำให้คุณกลับดึกเอาได้ค่ะ”
“ไม่เลยครับ แต่ต่อให้ผมไม่อยู่แถวนี้ ยังไงก็มาส่งคุณหนิงได้อยู่แล้ว”
“เกรงใจค่ะ แค่ครั้งนี้ก็พอ”
“พรุ่งนี้เข้าเช้าอีกเหรอครับ?”
“เปล่าค่ะ พรุ่งนี้วันหยุด”
ปกติวันอาทิตย์น้อยครั้งนักที่พนักงานบริการจะได้หยุด ทว่ามันจะอยู่คนหนึ่งที่สามารถเนรมิตตารางการทำงานของหล่อนให้หยุดวันอาทิตย์ได้อย่างไม่มีใครกล้าโต้แย้ง คนนั้นหาใช่ใครอื่นไม่ นอกเสียจากธาฎาเจ้าของโรงแรม
“ดีจังเลยครับ” คำตอบของนันนลินทร์มันช่างถูกใจเขานัก พรุ่งนี้เขาไม่ได้เข้าบริษัทอยู่แล้ว จะเป็นอย่างไรหากว่าเขาอยากจะชวนอีกฝ่ายออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกด้วยกันบ้าง
“หนิงขอตัวก่อนนะคะ” ร่างบางเตรียมลงจากรถเมื่อถึงที่หมายนานแล้วแต่ยังไปไม่ถึงไหน มือหนาของเจ้าของรถก็ดันดึงรั้นหล่อนเอาไว้เบาๆ
“เดี๋ยวก่อนครับคุณหนิง”
“คะ?” หล่อนจะลงแล้วแท้ๆ ไม่รู้ว่าเขาไปสรรหาเรื่องคุยมาจากไหนนักหนา
“ถ้าเกิดพรุ่งนี้คุณหนิงว่างแล้ว จะเป็นไรไหมครับถ้าผมมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณสักหน่อย”
“คือ ยังไงเหรอคะ?” หล่อนถามอย่างไม่มั่นใจความต้องการของอีกฝ่าย
“ผมอยากจะชวนคุณหนิงไปช้อปปิ้งกันหน่อยน่ะครับ คือ...” เขาเว้นจังหวะคิดหาคำพูดที่ดูสมเหตุสมผลมากกว่าความต้องการที่แท้จริงของตนเองอยู่
“ในฐานะที่คุณเองก็เป็นผู้หญิง ผมอยากจะขอให้คุณช่วยเลือกของบางอย่างที่เป็นของผู้หญิงหน่อยน่ะครับ พอดีว่าผมอยากได้เซอร์ไพรส์น้องสาวผม”
“อ๋อ งั้นเหรอคะ...” ใบหน้าสวยทำท่าครุ่นคิด หากไปกับเขาพรุ่งนี้แล้วกลับมาไม่ทันธาฎา หล่อนอาจจะโดนอีกคนว่าเอาได้
แต่ใครจะรู้บางทีอีกคนอาจจะกลับมาเช้าวันจันทร์อย่างที่ผ่านมาก็เป็นได้ ฉะนั้นจะเป็นอะไรไปหากจะตบปากรับคำกับคนข้างๆ อีกอย่างหล่อนเองก็ไม่ค่อยได้ไปไหนนานมากแล้วเหมือนกัน
“หนิงว่างแค่ช่วงเช้านะคะ บ่ายโมงคงต้องกลับ”
“ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา ผมจะรีบมาส่งคุณหนิงให้ทันเวลาเลยครับ” นนทวัฒน์ออกอาการดีใจจนไม่สามารถหลบซ่อนรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า
“ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”
“อ่อ! เดี๋ยวก่อนนะครับ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ผมขอคอนแท็คคุณหนิงไว้เลยก็แล้วกัน พรุ่งนี้ผมมาถึงนี่แล้วจะได้โทรบอก”
“ก็ได้ค่ะ” นันนลินทร์มีท่าทีลังเลในตอนแรก ทว่าคิดดูดีๆ แล้วมันก็ไม่มีอะไรเสียหายเลย จึงยื่นสมาร์ทโฟนที่บนหน้าจอแสดงคิวอาร์โค้ดเพื่อเตรียมให้อีกฝ่ายได้สแกน
“เรียบร้อยครับ เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
“ค่ะ หนิงไปได้แล้วใช่ไหมคะ?” จะลงจากรถหลายหนแล้วก็ไม่ได้ลงจริงๆ เสียที
“อ่อ! ครับ”
ประตูโรลสลอยด์คันละ 30 ล้านถูกเปิดออก พร้อมๆ กับร่างอรชรก้าวเท้าลงมา หล่อนก้มตัวลงไปคุยกับใครบางคนในรถ โปรยรอยยิ้มเล็กน้อยดูมีความสุขกันยกใหญ่ จนไม่รู้ว่ามีใครบางคนแอบมองการกระทำของหล่อนอยู่ไม่ไกลนัก
The end6 เดือนต่อมาบรรยากาศที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่งของไทย ที่เขาใหญ่ในช่วงฤดูหนาวเต็มไปด้วยความงดงาม บ้านพักตากอากาศของคุณย่าของธาฎาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลากสีสัน เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสำหรับงานแต่งงานธาฎาในชุดสูทสีขาว เดินตรวจดูความเรียบร้อยของงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและความสุขทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับวันนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่วันแต่งงานของเขา แต่เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดนันนลินทร์ยืนอยู่ในห้องแต่งตัว สวมชุดเจ้าสาวสีขาวเรียบหรูที่มีลูกไม้ประดับอย่างประณีต หล่อนหันมองตัวเองในกระจก มือแตะท้องเบาๆ ราวกับย้ำกับตัวเองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือเรื่องจริงนางนิรณียืนอยู่ข้างๆ คอยช่วยจัดชายกระโปรงและให้กำลังใจลูกสาว “แม่ภูมิใจในตัวหนิงนะลูก วันนี้ลูกดูสวยที่สุดเลย”นันนลินทร์หันมายิ้ม “ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าไม่มีแม่ หนิงคงไม่มีวันนี้”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่คุณเยาว์และสุชาฎาจะเดินเข้ามา พร้อมกับหยุดมองหล่อนราวกับตกตะลึงในความงาม พวกเธอเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกไปจับมือหล่อนเบาๆ“คุณหนิง…สวยมากเลยค่ะ” นันน
ตอนที่ 32/31 สัปดาห์ถัดมา นางนิรณีมาอยู่ดูแลลูกสาวในช่วงเช้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าธาฎาแวะเวียนมาทำคะแนนกับนันนลินทร์ลูกสาวเธอแบบไม่ว่างเว้นเธอเองก็ยอมเปิดทางให้ ถึงได้ไม่ค่อยแวะมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งจากหมอเจ้าของไข้แล้วว่าอาการของนันนลินทร์นั้นดีขึ้นมากแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลไปได้ส่วนหลังจากนี้นันนลินทร์อาจจะยังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อพยุงตัวไปก่อน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกตินางนิรณีนั่งลงข้างเตียง มองสำรวจใบหน้าลูกสาวอย่างพิจารณา “ดูดีขึ้นเยอะเลยนะลูก ดีใจไหมจะได้ออกจากโรงบาลแล้วนะ”คำถามนั้นทำให้นันนลินทร์ชะงัก หล่อนหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนตัก “ดีใจสิคะแม่”“ดีแล้ว แม่อย่กจะให้หนิงดู ว่าบ้านที่แม่ซื้อไว้ที่นี่นั้นสวยมากแค่ไหน ถ้าหากเราฟ้องศาลชนะ...อัญญามาอยู่ที่นี่กับเรา แม่จะทำห้องสวยๆ ให้อัญญา”นางนิรณีพูดแฝงไปด้วยเลสนัย เธออยากรู้ตอนนี้ในใจของลูกสาวตนเองจะคิดเห็นเช่นไร กับเรื่องที่เคยอยากจะทำ “ธาฎาจะได้รับกรรม เหมือที่หนูเคยบอก” เธอพูดขยี้ให้ลูกสาวได้รู้สึกตัวไปอีก“แม่คะ...คือหนิง”“ว่าไงล่ะลูก? แม่น่ะคุยกับคุณนนท์เขาแล้วนะลูก”คำพูดของผู้เป็นแม่
ตอนที่ 32/2 หล่อนหลุบตามองพื้นอย่างครุ่นคิด ภายในใจมีทั้งความลังเลและความหวังที่แทรกเข้ามาในเสี้ยววินาที“ฉัน...ฉันยังตอบคุณไม่ได้ตอนนี้หรอก” นันนลินทร์พูดเสียงเบา “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คุณเองก็ทำตัวดีๆ ก็แล้วกัน”ธาฎายิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้า เขาดีใจไม่ใช่น้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น นันนลินทร์พูดราวกับว่าหล่อนกำลังบอกกลายๆ ว่าหล่อนให้โอกาสเขาแล้ว“เมื่อกี้เธอหมายความว่าไง?” ร่างสูงผละจากเปลนอนลูกน้อยเมื่อเห็นว่าลูกหลับสนิทแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้คนป่วยบนเตียง นันนลินทร์แอบถอนหายใจ รู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่เขาวงกตแห่งความรู้สึกอีกครั้ง“ก็ตามที่พูด...คุณเข้าใจยากตรงไหน?” “ไม่...หนิง ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม? เธอให้โอกาสฉันแล้ว” “ให้โอกาสแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำยังไงกับฉันเหมือนเดิมก็ได้”“ผมจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง...ทั้งเธอและลูก”แม้คำพูดของเขาจะดูมั่นคง แต่นันนลินทร์ยังไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองหวังมากเกินไป หล่อนเพียงมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะพยายามคว้าเอาไม้เท้าที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อหวังจะทาง ทว่าหล่อนกลับคว้ามันไม่ถึง จนทำให้เขาต้อง
ตอนที่ 32/1เวลาผ่านไปจนถึงเที่ยงวัน ธาฎาป้อนอาหารลูกอีกครั้งจนอิ่ม โชคดีจริงๆ ที่เตรียมทั้งของใช้และอาหารมาพร้อมทุกอย่าง อัญญาจึงไม่งอแง คุณพ่อมือใหม่จัดการประกอบเปลนอนแบบพกพาสำหรับเด็กขึ้นภายในห้องพักผู้ป่วย เขามุ่งมั่นทำมันด้วยความจริงจัง ขณะเดียวกันที่เจ้าของเปลนอนตัวจริงก็เริ่มตาเยิ้มลงมาก เป็นสัญญาณว่าอัญญานั้นง่วงเต็มที่แล้ว การกระทำของธาฎานั้นอยู่ในสายตาของคนที่กำลังกล่อมลูกนอนบนตัก หล่อนไม่คาดคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่พ่อของลูกมีความใส่ใจและทำทุกอย่างให้ลูกได้มากมาย ทั้งที่หน้าที่แบบนี้ส่วนมากจะเป็นแม่ของลูกทำซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็ตามแต่ สายตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย หล่อนยังจำภาพในอดีตของผู้ชายคนนี้ได้ดี ภาพของเขาที่เย็นชา ดื้อรั้น และไม่เคยแยแสต่อคำขอร้องใดๆ ของหล่อน แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากจนขนลุก“คุณทำเองเป็นหมดเลยเหรอ?” หล่อนถามขึ้นในขณะที่ลูบหัวลูกสาวเบาๆ ที่หลับคาตักธาฎาที่กำลังจัดหมอนในเปลให้เรียบร้อย หยุดมือชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแม่ของลูก“ฉันเคยเสียหลักครั้งหนึ่งตอนที่เธอจากไป วันๆ ไม่ยอมไปทำงาน กินแค่เหล้า เสเพไปวันๆ เพียงแค่อย
ตอนที่ 31/3เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างของโรงพยาบาล ธาฎาก้าวลงจากรถพร้อมลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขน เขาสะพายเป้เล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้ของอัญญาไว้เต็มแน่น หลังจากวันนี้อนุญาตให้เรืองฤทธิ์ สุชาฎา และคุณเยาว์ได้ออกไปใช้ชีวิต เที่ยวชมเมืองทะเลทรายแห่งนี้เขาใช้เวลาไม่นานนักก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้นผู้ป่วยทันที อัญญาในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนยิ้มแย้มแจ่มใส มือเล็ก ๆ จับไหล่ของพ่อแน่น สายตาซุกซนของเธอชำเลืองมองรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ธาฎาหันไปมองลูกสาว ยิ้มบาง ๆ ออกมา ถึงแม้ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อมาถึงหน้าห้องพักของนันนลินทร์ เขาหยุดยืนชั่วครู่ สูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปอย่างเบามือนันนลินทร์ที่เพิ่งตื่นและกำลังพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงหันไปมองอย่างตกใจเมื่อเห็นเขา“คุณมาทำไมอีก...” หล่อนถามเสียงแผ่ว แต่แฝงไปด้วยความไม่พอใจเขาไม่ได้ตอบในทันที แต่วางอัญญาลงบนเตียงข้าง ๆ หล่อนลูกสาวตัวน้อยแม้จะไม่เจอหน้าแม่มานาน แต่กลับมีความรู้สึกถึงสายใยผูกพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างเหนือความคาดหมายอัญญาโผเข้ากอดนันนลินทร์ หลังจากที่พ่อของเขาปล่อยลงใส่เตียง ใบ
ตอนที่ 31/2 น้ำตาของนันนลินทร์ไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ แม้จะพยายามซ่อนเร้นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในใจ แต่ในที่สุดทุกอย่างก็แตกออกมาเป็นน้ำตาอย่างไม่รู้ตัว “คุณกลับไปเถอะ...” นันนลินทร์พูดเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ให้ตัวเองสงบลง แต่ก็ยากเกินไป หล่อนมองดูสภาพตนเองในตอนนี้ ช่างน่าสมเพชเหลิอเกิน ไม่อยากให้อัญญาจะต้องมาเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย “ทำไม?” “ก็ฉันบอกให้กลับก็คือกลับไง! พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!?” หล่อนพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพยาบาลหรือใครสักคนที่อยู่แถวนี้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจมาทำให้เธอรู้สึกแย่นะ ฉันพาลูกมาให้กำลังใจเธอ ขอแค่ฉันกับลูกได้...” “ฮึกกก! กลับไป! อย่าพาลูกมาลำบากที่นี่” “ไม่...หนิง คือฉัน” “คุณพยาบาลคะ! ช่วยด้วยค่ะ!” เสียงเรียกของนันนลินทร์ดึงความสนใจจากพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงและรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง “มีอะไรให้ช่วยคะ คุณหนิง?” พยาบาลสาวต่างชาติถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แววตาแสดงความกังวลกับกลุ่มคนไทยตรงหน้าที่กำลังยืนคุยอยู่กับคนไข้ แม้ว่าจะฟังภาษาไทยไม่ออก ทว่าตามความรู้สึกของพยาบาลแล้ว พวกเขาน่าจะพูดยางอย่างให้กระทบกระเท