อารยาได้แต่นั่งเงียบ มองทิวทัศย์ด้านนอกแทนทางข้างหน้า เธอไม่ค่อยได้นั่งรถของสามีไปทำงาน เพราะเคยบอกไปแล้วว่าเกรงใจเลขาของเขา ที่ต้องมาส่งเธอที่ทำงานอยู่คนละทางกับของสามี พอวันนี้ได้มานั่งหลังจากที่ถูกพูดคุยเรื่องหย่า มันให้ความรู้สึกแปลกๆ แตกต่างจากที่เคยนั่งมาพอสมควร
อัครราชขยับตัวไปใกล้เธอมากขึ้น ดึงเธอเข้าหาเบาๆ ก่อนจะกดจมูกลงบนลาดไหล่ขาวเนียน ชุดที่เธอเลือกใส่วันนี้ขัดใจเขานิดหน่อย แม้เธอจะถือเสื้อคลุมไปด้วยเหมือนจะใช้มัน แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่เปลี่ยนไป หวง เขาหวงร่างกายเธอเหลือเกิน ซ้ำยังรู้สึกผิดที่เห็นร่องรอยบนตัวเธอ ทั้งรอยที่เกิดจากชายอื่น และรอยที่ตัวเองทำ เธอคงรีบมาก จนไม่ทันได้สังเกตตัวเองอีก หรือไม่ก็ลืมไปว่าเคยเกิดเรื่องอะไรกับตัวเอง เหมือนคนไม่ใส่ใจ ว่าบนร่างกายจะมีรอยอะไรของใครบ้าง “อื้อ! เสี่ยจะกัดทำไมคะ” อารยาก้มหน้าลง เพราะรู้สึกอายเลขาที่อยู่ในรถด้วย อยู่ดีๆ สามีก็ทำเรื่องให้อับอายต่อหน้าคนอื่น เธอจะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนดีละเนี้ย “ฉันไม่ชอบเห็นรอยคนอื่น” อัครราชพูดอย่างหงุดหงิด กัดซ้ำลงในจุดเดิม ที่เขาเพิ่งเห็นว่ามันมีรอยแดง รอยแดงจากผู้ชายคนอื่นตั้งแต่เมื่อคืน เธอไม่คิดจะปิดมันไว้เลย ซ้ำยังใส่เสื้อผ้าเปิดเผยเนื้อหนังอีก “รอยนี่ อ๊า!” เสียงหวานสั่นเครือเพราะความเจ็บ อ้าปากจะบอกความจริงก็ถูกกัดซ้ำลงแรงๆ เสี่ยเปลี่ยนไป! ไม่เห็นอบอุ่นอ่อนโยนเหมือนเดิมเลย “ร้องไห้ทำไม?” “ก็เสี่ยกัด มันเจ็บ” “ถ้าให้คนอื่นมายุ่งยามอีก ฉันก็จะกัดเธออีก” “เสี่ยทำเหมือนหวง?” “ก็หวงไง” อัครราชมองใบหน้าแดงก่ำอย่างไม่เข้าใจ เขาไม่เคยบอกเหรอว่าเขาหวง เคยนะ! ตอนแต่งงานใหม่ๆ เลย เขาเคยบอกแล้วว่าเธอเป็นของเขา อย่าให้ผู้ชายคนไหนเฉียดเข้าใกล้ เพราะเขาขี้หวง “ถ้าเสี่ยไม่เคยพูดเรื่องหย่ากับไอซ์ ไอซ์คงจะดีใจกว่านี้” น้ำตาเม็ดโตหยดแมะลงบนหลังมือที่ยกขึ้นทันทีตั้งแต่เห็นมันคลอหน่วย อารยากลายเป็นคนขี้แยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเอาแต่ร้องไห้ จนเขาเริ่มทำตัวไม่ถูกอีกแล้ว “ก็ไม่หย่าแล้วไง” น้ำเสียงดูลนลาน จนเลขาที่นั่งเงียบยังเหล่มองผ่านกระจกมองหลัง เหตุผลที่เมื่อวานเจ้านายเป็นแบบนั้นเพราะเรื่องนี้เองสินะ “ถึงเราจะไม่หย่า แต่ความจริงที่ว่าเสี่ยทำผู้หญิงคนอื่นท้องก็ไม่เปลี่ยนไป เสี่ยจะคุยกับเธอเอง หรือจะให้ไอซ์คุยคะ ไอซ์มีสิทธิ์คุยกับเธอนะคะ ในฐานะเมียแต่ง” อารยาเชิ่ดหน้าขึ้นนิดๆ อย่างไม่ยอม กอดอกมองตรงจนสามีกลืนน้ำลายลงคอ อารยามุมนี้ก็แอบน่ากลัวนิดๆ แฮะ! เลขาหนุ่มยิ้มขำกับท่าทางของเจ้านาย เขาไม่เคยเห็นเสี่ยขุนงุ่นง่านขนาดนี้มาก่อน คงจะคุยกันด้วยดีถึงได้มีท่าทีเปลี่ยนไปทั้งคู่ เจ้านายเขาดูหลงเมียเด็กหนักกว่าเดิม ในขณะที่เมียเด็กของเขาก็ดุเอาเรื่อง จากที่นิ่งเฉยเรื่องผู้หญิงอื่นของเสี่ย กับพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดซะจนเสี่ยกลัว “เดี๋ยวฉันคุยเอง” “แน่ใจนะคะ ว่าจะไปคุยเพื่อจบเรื่อง ไม่ใช่ชวนกันไปคุยบนเตียงแล้ว ไม่ยอมจบนะคะ ไอซ์ไม่คิดเลยว่าเสี่ยจะเป็นคนแบบนี้” อารยาตัดพ้อ เมื่อก่อนเสี่ยไม่เคยเป็นแบบนี้เลย เขาเพิ่งจะมาเป็นเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ยอมให้ผู้หญิงอื่นมาเกาะแกะจนลงเอยที่เตียง คิดแล้วมันก็น่าโมโห กับเธอนี่แทบจะไม่แตะเนื้อต้องตัว ซ้ำยังนอนแยกห้องกันอีก “เป็นแบบนี้เพราะใครล่ะ” “ไม่ต้องมาโบ้ยให้ไอซ์เลย ไอซ์ก็ไม่เคยห้ามให้ทำเรื่องนั้นสักหน่อย มีแต่เสี่ยที่คิดไปเองแล้วไม่ยอมทำ อื้อ!” มือหนารีบยกขึ้นปิดปากช่างเจรจาไว้แน่น เมื่อเห็นสายตาเลขามองมาอย่างสงสัยในคำพูดของเธอ คงไม่มีใครคาดคิดนั่นแหละ ว่าเขาจะไม่เคยแตะต้องเธอมาตลอดหนึ่งปี คนอื่นคงคิดว่าเธอเสร็จเขาไปนานแล้ว ขนาดตัวเขาเองยังไม่อยากเชื่อ ว่าที่ผ่านมาทำไมถึงไม่เคยทำอะไรร่างกายสุดแสนจะเย้ายวนของเธอเลย “อื้อ อ่อยไออะ” “ชู่ว อายเขา” อัครราชหน้าแดงก่ำ กระซิบบอกภรรยาที่ดิ้นรนขันขืนให้หยุดดิ้น แค่คำพูดของเธอ ก็อายจะตายอยู่แล้ว ท่าทางของเขาตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เก็บทรงไม่ไหว จนไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิด “อะแฮ่ม ถึงแล้วครับ” ปณิธานกระแอมเบาๆ พูดจบก็รีบเสมองออกไปนอกรถ เพราะไม่อยากมองฉากสวีทที่หาได้ยากของเจ้านายกับภรรยา ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา เขาไม่เคยเห็นเจ้านายมีโมเมนต์แบบนี้กับสาวคนไหนเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเจ้านายถึงมองหาสาวอื่น ทั้งๆ ที่ภรรยาคนนี้ก็ดูน่ารักน่ากินกว่าผู้หญิงพวกนั้นซะอีก “ปล่อยแขนที่กอดอยู่ด้วยค่ะ มันสายมากแล้ว ถึงไอซ์จะเป็นหัวหน้า แต่มาสายมันก็ไม่ดี” อารยามองแขนสามีที่เกาะอยู่บนเอวคอดกิ่ว ปล่อยแต่มือออกจากปาก แต่ไม่ยอมปล่อยแขนอีกข้างให้เธอเป็นอิสระ “อยากได้รถหรือเปล่า” ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วมุ่น เคยคิดจะถามอยู่เหมือนกันว่าเธออยากได้รถสักคันไหม เห็นเธอไม่พูดขออะไร เขาก็ไม่กล้ายัดเหยียดให้ กลัวเธอคิดไปว่าเขาเอาเงินฟาดหัว เหมือนตอนแต่งงานกันใหม่ๆ “ไม่ค่ะ ขับไม่เป็น” อารยาตอบแบบไม่ต้องคิด ชีวิตที่ไม่มีรถขับก็ไม่ได้ลำบากนะ แค่ต้องตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อมาขึ้นรถประจำทางก็เท่านั้น แม้จะโดนคนในบริษัทพูดเหน็บแนม เธอก็ไม่แคร์ ก็ขับไม่เป็นอะ ซื้อไปก็ใช้ไม่เป็น ใครจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ “เดี๋ยวสอน” เป็นครั้งแรกที่เขาไม่อยากปล่อยเธอลงจากรถ อยากอ้อยอิ่งอยู่กับเธอแบบนี้ไปนานๆ แต่เหมือนเธอจะไม่ต้องการแบบนั้น ดวงตาสีน้ำตาลวาววับขึ้น จนเขาต้องปล่อยมือให้เธอเป็นอิสระ “อย่าลืมคำพูดของตัวเองนะคะเสี่ย รวมทั้งเรื่องผู้หญิงคนนั้นด้วย” อารยาขยับตัวไปหอมแก้มนุ่มๆ ของสามีเร็วๆ เพื่อร่ำลา กำลังจะหันไปเปิดประตูฝั่งที่นั่งก็ถูกดึงรั้งเข้าไปจูบ คนตัวเล็กที่เคยทำท่าทางมั่นใจ ดูเงอะงะทันที เมื่อโดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัว ยกมือสั่นระริกขึ้นกำเสื้อสูทราคาแพงไว้เหมือนหาที่ยึดเกาะ ในหัวได้ยินเสียงวิ๊งๆ เหมือนแมลงบินไปมา เมื่อเจอจูบกระชากวิญญาณของสามีเข้า “เดี๋ยวเดินไปส่ง” อัครราชพูดและทำทันที แย่งเสื้อคลุมมาสวมให้เธออย่างมิดชิด จากนั้นก็ผลักแผ่นหลังเล็กเบาๆ ให้ลงจากรถไปก่อน ขยับตามลงไปช้าๆ ดึงรั้งข้อมือเล็กไปจับ บังคับให้เดินตามเข้าบริษัทที่ตัวเองเป็นเจ้าของ แต่เหมือนจะไม่ต้องการให้เธอรู้ความจริงข้อนั้น อารยาจำต้องปล่อยให้สามีทำตามใจ ครั้นจะดื้อดึงโต้เตียงกันไปก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่า เดินตามย่างก้าวที่ยาวกว่า เข้าในในอาคารที่ทำงานอย่างไม่มั่นใจอารยานอนลูบท้องตัวเองเบาๆ ตอนนี้เธอหลบเข้ามานอนเล่นให้ห้องโปรดภายในบ้าน ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะเป็นคุณแม่ในวัย 24 ปี แต่รู้สึกดีเหลือเกินที่รู้ตัวว่าท้อง “นี่ไอซ์ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าโกรธเรื่องอะไร” อัครราชเดินมานั่งลงบนพื้นข้างๆโซฟาที่อารยานอนลูบท้องอยู่ “ก็เสี่ยเสียงดังทำลูกตกใจ” อารยาเบะปากใส่ ไม่ต้องบอกแล้วมั้ง เพราะเธอแสดงอาการขนาดนี้ เสี่ยไม่ได้โง่ คงรู้แล้วแหละว่าเธอท้อง “สรุปว่าท้องจริงๆเหรอ” อัครราชวางมือลงบนหน้าท้องของภรรยาอย่างแผ่วเบา อยู่ดีๆบ่อน้ำตาก็ตื้นเขิน หยดแมะลงบนพื้น เขาเฝ้ารอมานาน ไม่เคยคิดฝันว่าจะมีวันนี้ “ค่ะ ไอซ์ตรวจเมื่อวันก่อน ตั้งใจจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์เสี่ยในวันเกิดตัวเอง ดีใจไหมคะ” อารยาลุกขึ้นนั่งช้าๆ โดยมีสามีช่วยประคอง ดึงมือสามีให้ลุกมานั่งข้างๆ เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าสามีเบาๆ ไม่ค่อยเห็นเสี่ยร้องไห้เลย แต่เสี่ยขี้แยกว่าที่คิดอีก “ดีใจสิ ดีใจมาก ขอบคุณนะ” อัครราชกอดภรรยาไว้หลวมๆ ถ้าไม่มีเรื่องมากมายในวันวาน เขากับเธอจะมีโอกาสแบบนี้ไหมก็ไม่รู้ เขายังจำภาพในวันแต่งงานได้ดี เธอไม่ได้แสดงออกว่ายินดีที่ได้แต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำ ชีวิตห
ลรินขับรถกลับบ้านด้วยความสิ้นหวัง เธอทำทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมถึงยังลงเอยแบบนี้ ร่างเล็กเดินเข้าไปในบ้านช้าๆ ตอนนี้รอบตัวเธอไม่มีใครเลย ขนาดเปรมนัสที่หลงเธอหัวปักหัวปำ ยังตีตัวออกห่างไปอยู่กับยัยมารวี “กลับมาแล้วเหรอ” “แม่ มาทำไม” ลรินตะโกนลั่นบ้าน เมื่อเห็นแม่ตัวเองนั่งอยู่ในบ้าน ทั้งที่ไม่ได้บอกเธอสักคำว่าจะมา “มาดูความชิบหายของแกมั้ง เอาเงินมาสิ” มือเรียวสวยแบมือขอเงินเหมือนทุกครั้งที่เหยียบย่างมาบ้านหลังนี้ “เงินเหรอ? ยังมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ” ลรินพูดด้วยความโกรธ ตอนเธอขอให้มาประกันตัวยังไม่เห็นหัวเธอเลย นี่ยังเป็นคนอยู่ไหม ถึงได้หน้าด้านมาขอเงินเธอแบบนี้ “ฉันเบ่งแกออกมา อย่ามากำแหงนะ” “ทำไมไม่ผูกคอตายไปเลยล่ะ จะเบ่งฉันออกมาทำไม ถ้าออกมาแล้วเลี้ยงให้ดีไม่ได้ ทำไมไม่ฆ่าฉันให้ตายไปเลย” พูดจบก็ทรุดลงกับพื้นอย่างสิ้นหวัง มองหน้าคนที่ย่างเท้าเข้ามาหาอย่างเกลียดชัง เพี๊ยะ! วรัญฟาดมือลงบนใบหน้าของลูกสาวอย่างไม่ยั้งแรง อุตส่าห์เลี้ยงมาจนเติบใหญ่ ทำไมถึงกล้ามาเถียงฉอดๆแบบนี้ รู้แบบนี้เอาขี้เถ้ายัดปากไปซะก็สิ้นเรื่อง “ฉันเลี้ยงแกมาตั้งกี่ปี เพื่อให้แกมากำแหง
“จะไม่จ้างพนักงานอินทิเรียเหรอ” อัครราชถามเพราะเข้าใจปัญหาทั้งหมด เขารู้สถาพคล่องทางการเงินของเธอพอสมควร ถึงได้รั้งรอมาตลอด ไม่ใช่ว่าไม่อยากคืนให้เธอ แต่คืนไปแล้วเธอจะมีเงินบริหารมันไหมเท่านั่นเอง ที่เขายังรู้สึกเป็นห่วง “ถ้าขุนขายคืน เราว่าจะยุบตำแหน่งงานนั้น เราคงจ้างไม่ไหว อินทีเรียเงินเดือนสูงกว่าพนักงานทั่วไปขุนก็รู้” กรรณิการ์คิดมาดีแล้ว ช่วงนี้คนไม่ค่อยจ้างอินทีเรียของบริษัทเท่าไหร่ ส่วนมากจ้างจากพวกอินทีเรียที่รับงานอิสระ การจ้างแบบผูกขาดจ่ายเงินทุกเดือน มันเกินกำลังเธอจริงๆ “ที่บริษัทมีอินทีเรียกี่คน” “ถ้าไม่รวมกับเมียขุน ก็สี่คน” “ไอซ์คิดว่าไง จะรับคนพวกนั้นไว้ แล้วรวมมาเปิดบริษัทหรือเปล่า” อัครราชถามภรรยาที่นั่งเงียบ เขากำลังจะเปิดบริษัทรับตกแต่งภายในโดยเฉพาะ เขาว่าน่าจะเป็นโอกาสเหมาะทีเดียว “ก็ดีนะคะ พี่ๆเขาฝีมือดีกว่าไอซ์มาก” “งั้นตกลงขายให้กรีนนะ กรีนอยากมีอะไรเหลือไว้ให้ลูกบ้าง” กรรณิการ์น้ำตาคลอ เมื่อนึกถึงดวงใจที่สามีเหลือทิ้งไว้ให้เธอดูแล “เอาแบบนั้นนะไอซ์ เดี๋ยวสิ้นเดือนขุนเข้าไปคุยด้วยนะ” อัครราชนัดวันเวลากับกรรณิการ์อีกครั้ง สิ้นเดื
“รออีกนิดนะ ใกล้แล้ว” อัครราชหอมแก้มเธอเบาๆ เขายังไม่วางใจเรื่องของลริน จึงอยากให้เธอรออีกหน่อย ที่จริงก็เตรียมทุกอย่างไว้รอเธอแล้ว แต่เขาไม่รีบ เพราะอยากมีข้ออ้างอยู่กับเธอนานๆ “ก็ได้ค่ะ เสี่ยรีบใส่สิคะ เดี๋ยวไปสาย” อารยาเร่งสามีที่ถือชุดราตรีของเธอไว้ด้วยมือข้างเดียว เอาแต่ลูบไล้ลวนลามเธออยู่นั่นแหละ อีเสี่ยลามก “ใส่อยากอื่นเข้าไปได้ไหม มันแข็งแล้ว” อัครราชขยับเอวให้แนบแน่น เขาอยากจะใส่ของตัวเองเข้าไปข้างในตัวเธอ มากกว่าใส่ชุดราตรีสีหวานนี่ซะอีก “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวเดินลำบาก” อารยามองสบสายตาอ้อนวอนของสามี ตั้งใจแน่วแน่ว่ายังไงวันนี้ก็ไม่ใจอ่อน ทำใจแข็งมองตอบกลับไปนิ่งๆ จนสามียอมถอย ใส่ชุดให้เธอเรียบร้อย แต่ยังยืนซ้อนหลังอยู่ที่เดิม “คอโล่งขนาดนี้ เดี๋ยวคุณแม่ด่าเอา” อัครราชหยิบสร้อยเพชรเส้นเล็ก แต่เป็นเพชรน้ำดีที่สุด ที่แม่เขาฝากมาให้ลูกสะใภ้สุดรักของท่าน ออกมาสวมให้เธอ แสงแวววาวตกกระทบเหลี่ยมมุมของเพชร ไม่สวยเท่าความแวววาวของดวงตากลมโตที่เขามองอยู่ “สวยจังเลยค่ะ” อารยาตาลุกวาว นอกจากแหวนแต่งงานประดับเพชรที่สามีเคยสวมให้ นี่คือเครื่องประดับเพชรชิ้นที่สองที่เธอ
“คือเราขอโทษ” เปรมนัสยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่คิดว่าเธอจะให้ความช่วยเหลือใดๆ เพราะเขาไม่ได้อยู่ในสถานะเดิมอีกแล้ว “ถ้ายังไม่จบ ฉันแจ้งตำรวจแน่ แล้วอย่าคิดว่าฉันจะกลัวคำขู่ ออกไปตอนที่ยังพูดดี แล้วไม่ต้องโผล่หัวมาให้เห็นอีก” มารวีหลับตาลงช้าๆ เธอรักผู้ชายห่าเหวแบบนี้ลงได้ยังไง ก็แค่ไอ้ตอแหลที่เข้าหาเธอ แล้วเก็บเธอไว้ใช้ประโยชน์ตามคำพูดของอีสารเลวนั่น แต่ทำไมเธอถึงยังรักก็ไม่รู้ “เราอยากดูแลเธอกับลูก” เปรมนัสน้ำตาคลอหน่วย ตอนแรกตั้งใจมาหาเพราะถูกลรินขู่ให้มาก็จริง แต่เห็นสภาพเธอแล้วเขาอยากทำแบบนั้น อยากดูแลเธอกับลูกจริงๆ “ไปดูแลผู้หญิงที่แกรักเถอะ แล้วก็ลบรูปที่แกใช้ขู่ฉันด้วย” มารวีไม่ยอมใจอ่อนอีกแล้ว เขารักผู้หญิงคนนั้นเธอรู้ดี ถ้าเขาสงสารเธอ ก็ควรลบรูปพวกนั้นของเธอซะ “เราลบออกไปนานแล้ว เราไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้” เปรมนัสมองด้วยสายตาเว้าวอน เขาเป็นคนจีบเธอก่อนนะ พยายามจีบจนติด แต่ไม่คิดว่าทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้ ในช่วงที่เขาหมดหวังจากลริน เขาตีตัวออกห่างจากเธอและได้เจอกับมารวี เขาจีบมารวีจนติดและคบกันปกติ จนลรินรู้เข้า แล้วเข้ามาวุ่นวาย เขาไม่รู้ว่าเธอเอารูปถ่ายของ
[ถ้าเธอยังไม่รามือ เราจะจัดการขั้นเด็ดขาด] หิรัญเสียวสันหลังวาบ กับคำพูดและน้ำเสียงของเพื่อน อัครราชเป็นคนใจดีมาแต่ไหนแต่ไร เพราะเป็นแบบนั้นจึงโดนหลอกง่ายๆ แต่ก็ใช่ว่าจะร้ายไม่เป็น และโหดเหี้ยมไม่ได้ เธอคนนั้นซวยซะมัด ที่ขุดด้านเลวๆของเสี่ยขุนขึ้นมาได้ “เราต้องเตรียมทนายให้ไหม” [ไม่ต้อง เราจะจัดการเงียบๆ ถ้าเราทำจริงๆ ช่วยหลับหูหลับตาให้สักครั้งนะ] “เราจะทำเป็นตาบอดไปสักพักแล้วกันนะ ตอนนี้หูเราก็เริ่มไม่ดีแล้วด้วย” หิรัญพูดพลางหัวเราะ เขาจะทำแบบนั้นได้ไงล่ะ แต่เพราะเชื่อว่าเพื่อนไม่ทำอะไรนอกเหนือจากกฎหมายแน่ๆ แต่ก็คงเล่นใหญ่ทีเดียว [ขอบคุณนะ] “ว่างๆพาเมียมาแฮงค์เอ้าด้วยสิ เพื่อนๆอยากเจอเมียนายนะขุน” [เราก็ตั้งใจแบบนั้น ต่อไปจะพาไปด้วยทุกที่ แค่นี้นะ เมียตื่น] หิรัญกดวางสายด้วยความอิจฉา ภาพเสี่ยขุนเมื่อหลายปีก่อนไม่มีเหลือให้เห็นเลย ตอนนี้สิ่งที่เขาเห็นคือขุนเขาคนใหม่ ผู้ชายที่ยอมทำทุกอย่างได้ เพื่อเมีย “มีเมียมันดีจริงๆเหรอวะ ทำไมเราเห็นแต่หายนะและความพินาศ” หิรัญทำท่าขนลุกขนพอง แม้จะอายุเลยเลขสามมานิดๆ แต่ยังไม่คิดจะมีห่วงผูกคอ ด้วยหน้าที่การง