LOGINคุณานนท์ทำตามใจต้องการ มือใหญ่ทั้งสองข้างเท้าบนที่นอนเหนือศีรษะภรรยาสาว หัวเข่าซ้ายขวาวางอยู่ขนาบหัวไหล่เธอ เมื่อจัดท่วงท่าเรียบร้อย เขาก็เริ่มขยับเอวนำพาความแข็งแรงเข้าออกโพรงปากสาวอุ่นชื้น
“โอ้ว...” คุณานนท์ครางต่ำ ขณะขยับเอวสอดใส่กายแกร่งอยู่ในปากสาว ความแรงในการเคลื่อนไหวค่อนข้างเร็งและแรง ส่วนปลายกระทุ้งคอหอยของเธอตลอดเวลา เขาไม่เคยกระทำเช่นนี้มาก่อน และไม่คิดทำ แต่พอได้ทำเขารู้สึกดี และรู้สึกดีมากขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าลัลณ์ลนินแดงก่ำ หน้าเธอบอกให้เขารู้ว่า เธอกำลังทรมานในเรื่องที่ตนกำลังทำ แล้วนั่นเปรียบเสมือนพลังทำให้เขาออกแรงโยกความยิ่งใหญ่เข้าออกปากสาว ไม่สนใจว่าเธอจะทรมานมากแค่ไหน หรือรังเกียจอวัยวะที่อยู่ในปาก เขาสนเพียงแค่ความสะใจของตัวเอง
“นี่มันยังน้อยไป ฉันจะทำให้เธอเจ็บและทรมานมากกว่านี้”
เสียงเขาแสดงถึงความเหี้ยมโหด เอาจริงทั้งน้ำเสียงและการกระทำ สาวน้อยใต้ร่างหวั่นเกรงกับคำพูดประโยคนี้ ทว่าเธอเปรียบเสมือนนักโทษ ที่แม้แต่ร้องขอชีวิตยังไม่ได้ คุณานนท์อยากทำสิ่งใดกับตน ลัลณ์ลนินมีเพียงคำเดียวคือ ‘ยอม’
คุณานนท์พูดจบก็ดึงความเป็นชายออกจากปากจิ้มลิ้ม เพื่อต้องการใส่มันเข้าไปในช่องทางอื่นในตัวเธอ แล้วจุดที่ว่านั้นคือ ดอกไม้ช่องามที่หลบซ่อนในพงไพร วินาทีที่ขาทั้งสองข้างของลัลณ์ลนินถูกแยกออกด้วยเข่าของสามี เธอหอบหายใจแรง ตื่นเต้นระคนหวาดกลัว ตัวสั่นไปหมด ขนาดของเรือนชายที่สัมผัสเมื่อครู่ เธอจึงรู้ขนาดของมันว่าใหญ่และยาวแค่ไหน เธอกลัวว่าช่องทางรักของตนจะรับสิ่งนั้นไว้ทั้งหมดไม่ได้ ด้วยที่เธอมีอาชีพเป็นพยาบาลและรู้ดีว่า คูหาสวาทของสตรีจะขยายตามขนาดอวัยวะเพศชาย ทว่าก็อดหวั่นใจไม่ได้
และแล้ววินาทีที่ลัลณ์ลนินไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงในที่สุด ร่างเธอเริ่มเกร็ง มือทั้งสองข้างจับผ้าปูที่นอนไว้แน่น ความเจ็บปวดจากสิ่งแปลกปลอมที่ไร้กระดูกแทรกเข้ามาในช่อดอกไม้แรกแย้ม คุณานนท์ไม่ได้ทะนุถนอนหญิงสาวเหมือนที่ควรจะเป็น ความโกรธ ความแค้น ความไม่พอใจที่สุมในอก ส่งผลให้เขาดันอาวุธประจำกายฝ่าความคับแน่นในคราวเดียว กระแทกลงไปสุดแรง
สิ่งที่เขาทำ ทำให้คุณานนท์รู้ว่า ลัลณ์ลนินเป็นสาวพรหมจรรย์ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ตนต้องใส่ใจ หรือปลื้มปริ่ม เธอต้องไร้ซึ่งความสุข อยู่อย่างตายทั้งเป็น
“กรี๊ด! ฮือ...เจ็บ” ร่างลัลณ์ลนินสั่นไปทั้งร่าง เจ็บจุกตรงของสงวน เธอรู้สึกอึดอัดกับความอวบใหญ่ที่แช่นิ่งในตัวตน รู้สึกเหมือนร่างกำลังจะขาดออกเป็นสองท่อน เธอกลั้นเสียงแห่งความเจ็บปวดไม่ไหว ระบายออกมาเป็นเสียงสะอื้นไห้ “ฮือ...พี่กล้า...ลัลณ์เจ็บ”
“นั่นแหละที่ฉันต้องการ สิ่งที่เธอจะได้รับจากฉันนับจากวันนี้คือความเจ็บปวด เจ็บปวดแทนคนเลวอย่างพี่สาวเธอ”
ลัลณ์ลนินหลับตาลง ยอมรับความรู้สึกที่เขาต้องการให้ตนเผชิญ
คุณานนท์ทำตามคำพูดที่เปล่งออกไป ทุกจังหวะการสอดใส่ไม่มีความอ่อนโยน เขากระแทกกระทั้นราวกับความเป็นชายคือเสาเข็ม ที่ตอกลงไปในหลุมลึกด้วยความเร็วและแรง ร่างอรชรสั่นคลอนตามเรี่ยวแรงดุจอาชาที่ควบเข้าสู่เส้นชัย
“ฮือ...ฮือ” ในความรู้สึกของลัลณ์ลนิน เธอปรารถนาให้บทลงทัณฑ์จบลงเร็วๆ ทุกการขับเคลื่อนของเขาคือความทุกข์ทรมาน ร้าวระบมไปทุกสัดส่วน โดยเฉพาะความเป็นอิสตรีที่บอบช้ำมากที่สุด ราวกับว่ามันจะฉีกขาดจากความรุนแรงที่เขาถาโถม
ไม่เพียงใจกลางร่างที่กำลังแหลกสลาย ทรวงอกทั้งสองข้างของเธอก็ถือมือใหญ่ย่ำยี ขยำหนักมือราวกับว่า เจ้าของไร้ความรู้สึก มิหนำซ้ำยังถูกคุณานนท์ประทับตราเป็นจ้ำกระจายทรวงอก รวมทั้งลำคอที่ถูกดูดสามสี่จุด ตอกย้ำความเจ็บปวดให้หญิงสาวอีกทางหนึ่ง
ความเป็นชายยังคงขยับเข้าออกรวงผึ้งฉ่ำ จังหวะของเขาไม่ผ่อน ยิ่งได้กระแทกสุดกำลังมันคือความเมามันที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน ช่องทางรักของลัลณ์ลนินไร้ชายหนุ่มย่างกาย มันจึงคับแน่นใหม่สด โยกไหวแต่ละครั้งเลือดลมในกายตนสูบฉีดแรง กล้ามเนื้อสาวตอดรัดน้องชายเขา เกิดความรู้สึกเสียวและหฤหรรษ์เป็นที่สุด
“โอ้ว...อา...โคตรมันเลย”
คุณานนท์ปล่อยเสียงครางต่ำออกมา ใบหน้าเขามีรอยยิ้มบางๆ ขณะก้มมองดูภรรยาสาว เป็นความสะใจไร้ความสงสาร เพราะมองเห็นลัลณ์ลนิน ทำให้เขานึกถึงพิมาลา ยิ่งนึกถึงความแค้นยิ่งเพิ่มพูน เรี่ยวแรงเขาจึงไม่มีออม มีแต่เพิ่มและเพิ่ม
“ฮือ...ฮือ” ต่างกับลัลณ์ลนินที่เวลานี้มีแต่ความเจ็บปวด ทุกสัดส่วนบนร่างกายเกร็งตึงไปหมด คูหาสวาทร้อนฉ่ากับเรี่ยวแรงหลายแรงม้าของคุณานนท์ที่ยังคงสะบั้นเอวใส่ไม่ยั้ง เขาจับขาทั้งสองข้างของเธอให้แยกออกเป็นแนวราบ เพื่อเขาจะได้ส่งตัวตนชายลุกล้ำของสงวนได้สะดวกมากขึ้น และนั่นหมายถึงความมันเกินพิกัด
“อา...อูว์...มันฉิบเลย...โอ้ว”
เสียงครางคุณานนท์ดังประสานกับเสียงร้องไห้ของสาวใต้ร่าง และดังตามจังหวะเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่ขาดสาย แน่นอนว่า มันคือความเจ็บปวดร้าวระบมของลัลณ์ลนินที่รอเวลาให้ทุกอย่างจบลง
แต่ดูเหมือนว่าคุณานันท์ไม่อยากให้บทลงทัณฑ์จบลงง่ายๆ เขาถอนกายแกร่งออกจากตัวเธอ จับร่างเล็กตะแคงข้าง คุณานันท์ขยับตัวมาซ้อนทับแผ่นหลังเธอ ใช้แขนข้างซ้ายช้อนขาข้างซ้ายให้ยกขึ้นสูง ขาของเธอข้างนั้นจึงอยู่ในท่าพาดแขนกำยำ จากนั้นเขาก็นำปืนกระบอกใหญ่สอดใส่เข้าไปในช่อพิกุล
จัดท่วงท่าเสร็จเขาก็เริ่มเดินเครื่องสวาทอีกครั้ง ดุดัน รุนแรง ระรัวถี่ ประสานกับมือใหญ่ที่เคล้นเต้าทรวงไปด้วย ปากเขาก็ไม่ว่างเว้น กัดบนหัวไหล่เธอสลับกับดูดจนเกิดรอยจ้ำ
ลัลณ์ลนินไม่รู้ว่า เวลาผ่านไปนานเท่าใด ไม่รู้ว่าเขาผละจากร่างตนไปตอนไหน เธอรู้เพียงแค่ว่า ตนเองเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ เขากระทำต่อเธออย่างโหดร้าย ไร้ความปราณี กระทำด้วยความแค้นและโกรธ เธอเคยวาดฝันไว้ว่า ชายหนุ่มที่ได้ครอบครองร่างกายของตนคือชายอันเป็นที่รัก เขาจะเล้าโลมด้วยความรักและความอ่อนโยน ทะนุ-ถนอมตนราวกับเจ้าหญิง ทว่าในความเป็นจริงมันสวนทางกับความฝันโดยสิ้นเชิง แล้วไม่รู้ว่า ตนต้องแบกรับความผิดที่ไม่ได้ก่ออีกนานแค่ไหน หรืออาจไม่มีวันนั้น วันที่เธอได้รับอิสระจากผู้ชายที่ชื่อคุณานนท์
Chapter64 “ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ค่ะ ขอบคุณพี่กล้าค่ะ” “ผมจะเคลียร์เรื่องเงินให้ ให้คนของเจ้าของบ่อนไปหาผมที่ทำงานพรุ่งนี้ตอนบ่ายสามนะครับ” “ได้จ้ะกล้า” รัตนารับคำ “ถ้ามีหนี้เจ้าอื่นก็บอกผม ผมจะเคลียร์ให้ แล้วขอพูดตรงๆ แรงๆ ว่า อย่าได้เป็นหนี้การพนันอีก เลิกได้ก็เลิกนะครับ ผมใจดีแค่ครั้งเดียว ครั้งต่อไปถ้าผมเห็นคนคุมบ่อนเอาปืนมาจ่อหัวพ่อกับแม่ ผมก็จะไม่ช่วย” คำขาดของคุณานนท์บอกให้สองสามีภรรยารู้ว่า ลูกเขยของตนพูดจริงทำจริง “เราสองคนเลิกแล้ว เลิกจริงๆ” มารุตตอบกลับ คิดตามที่เอ่ยออกไปจริงๆ “ตกลงตามนี้นะครับ” “ขอบใจกล้ามากจ้ะ ขอบใจมาก”สองสามีภรรยาติดหนี้บ่อนโล่งใจ กลับบ้านไปด้วยจิตใจเบิกบาน ต่างกับขามาที่เหมือนคนอมทุกข์ หน้าดำคร่ำเครียด“ขอบคุณพี่กล้าอีกครั้งค่ะที่ช่วยพ่อกับแม่ลัลณ์”“ไม่เป็นไร พี่ไม่คิดมาก ลัลณ์ก็อย่าคิดมาก พี่อยากให้ลัลณ์มีความสุข ไม่อยากให้เครียด แล้วถ้าพี่ไม่ช่วยแล้วใครจะช่วยล่ะ”คุณานนท์พูดเสียงอ่อนโยน“นั่นสิ อย่าคิดมาก เราเป็นครอบครัวเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือกัน” อธิปพูดเสริม “ถือเป็นขอ
Chapter63“เบ่งค่ะ คุณแม่เบ่งอีกนิดค่ะ” เสียงแพทย์สูตินารีนามว่า ฤดี บอกว่าที่คุณแม่ให้ออกแรงเบ่ง “เบ่งค่ะ เบ่ง หัวน้องจะออกแล้วค่ะ” “อึ๊บ” ผู้ช่วยแพทย์ที่อยู่ในห้องช่วยลัลณ์ลนินเบ่ง ว่าที่คุณแม่ทำตามคำบอกของฤดี เธอออกแรงเบ่งจนหน้าดำหน้าแดง แม้ว่าจะเจ็บปวดกับการเจ็บท้อง ลัลณ์ลนินก็ออกแรงเบ่งเต็มที่ “ทนหน่อยนะลัลณ์ ทนหน่อย ลูกจะออกแล้ว” คุณานนท์ที่เข้าไปในห้องคลอดเพื่อให้กำลังใจภรรยา บอกอีกคน และทำเสียง ท่าเบ่งร่วมด้วย “เบ่งลัลณ์ เบ่ง” “ลัลณ์...ลัลณ์เบ่งไม่ออก อึ๊บ” ลัลณ์ลนินทำตามที่ฤดีบอก ทว่าเธอเหมือนคนไม่มีแรง เบ่งเท่าไหร่ก็เบ่งทารกออกมาไม่ได้ “ลองอีกครั้งนะคะ เบ่งค่ะ เบ่ง” ฤดีบอกว่าที่คุณแม่ให้พยายามเบ่งอีกครั้ง “ดีค่ะคุณแม่ ออกแล้วค่ะ” ลัลณ์ลนินยิ้มเหนื่อยเมื่อรู้สึกว่า ทารกน้อยลืมตาดูโลกผ่านช่องคลอด เธอรู้สึกโล่ง ความเจ็บปวดหายไปจนสิ้นเมื่อได้ยินเสียงร้องของลูกน้อยวินาทีนี้คุณานนท์ไม่มีพลาด เขาบันทึกวิดีโอเก็บไว้ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งเห็นลูกชายออกมาจากร่างภรรยา เป็นช่วงเวลาที่วิเศษมาก เขาดีใจ ปลื้มใจ เอิบอิ่มใจจนน้ำตาซึม
Chapter62หลังจากกินมื้อกลางวันเสร็จ จอมพลนอนพักผ่อนในโถงใหญ่ วิธีพักผ่อนของเขาคือ การเล่นเกมในมือถือยอดฮิต ROV เล่นไปต่อว่าคนร่วมเล่นเกมไปด้วยที่ไม่ได้ดังใจ เนตรนภากับดวงเดือนจึงไม่รู้ว่า การเล่นเกมนี้เป็นการพักผ่อนหรือเป็นการเพิ่มความเครียดกันแน่ บ่ายโมงครึ่งเศษคือเวลาที่จอมพลออกไปทำงานในช่วงบ่าย เช่นเคยที่ดวงเดือนจะเดินมาส่งสามีที่รถ“พล” เสียงบุญเติมเรียกจอมพล“มีไร ไหนบอกจะเข้าเมืองไม่ใช่เหรอ” จอมพลถามกลับ“กำลังไปนี่แหละ แต่แวะมาบอกแกก่อนว่า มีสาวมาหา สวยด้วยนะ หุ่นดีสุดๆ เธอรออยู่รีสอร์ทน่ะ แกรีบไปเลย”บุญเติมเย้าจอมพลที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านาย จอมพลเสียวสันหลังวาบ ตกใจไม่คิดว่าบุญเติมจะพูดแบบนี้ ไม่รู้บ้างหรือไงว่า ต่อมหึงดวงเดือนยิ่งตื้นๆ อยู่ หากบุญเติมพูดแบบนี้กับเขาตามลำพังหรือไม่มีดวงเดือนอยู่ด้วยก็คงไม่มีอะไร แต่นี่ดวงเดือนยืนอยู่ใกล้เขาและได้ยินทุกคำพูด คนขี้หึงมีหรือจะโพร่งออกมา“สาวที่ไหนพี่บุญเติม พี่พลแอบมีกิ๊กเหรอ พี่พลคิดนอกใจเดือนหรือไง” น้ำเสียงของดวงเดือนเขียวปัด เหมือนหน้าตาที่บึ้งตึง มองหน้าสามีไม่วางตา “พาเดือนไปทีพี่บุญเติม เดือนจะไปดูหน้าหน่อยสิว่าจะสวยแค
Chapter61คำพูดที่ว่า ฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ ชีวิตคู่สองคู่ที่ดูเหมือนจะไม่ลงเอยกัน ตอนนี้สี่ชีวิตกำลังมีความสุขกับชีวิตหลังแต่งงาน เริ่มจากจอมพลกับดวงเดือน คู่กัดที่ใครหลายคนต่างคิดว่า คงชังน้ำหน้ากันไปตลอดชีวิต เนตรนภาที่อยากให้จอมพลแต่งงานกับดวงเดือน แต่ก็ไม่กล้าฝืนใจทั้งคู่ นางเป็นผู้ใหญ่ย่อมรู้ดีว่า การคลุมถุงชนไม่ทำให้บ่าวสาวมีความสุข ตรงกันข้ามมันคือความทุกข์ทรมานใจเป็นที่สุด เนตรนภาจำวันที่จอมพลเข้ามาเปิดใจได้ดี นางมีความสุขมาก ความทุกข์สะสมเป็นเวลาหลายปีมลายหายไปจนสิ้น ความฝันที่วาดหวังไว้เป็นจริง นางไม่ขัดข้องเลยสักนิด รีบหาฤกษ์หายามให้ทั้งคู่ มีอีกคนหนึ่งที่ดีใจกับความรักของจอมพลกับดวงเดือน นั่นคือจอมตรัย เขารู้มาตลอดว่า จอมพลแอบรักดวงเดือน แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะดวงเดือนไม่ชอบหน้าจอมพลตั้งแต่เด็ก เจอหน้ากันทีไรจิกกัดกันตลอด ซ้ำร้ายดวงเดือนยังแอบรักตนอีก เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะบอกให้ดวงเดือนรู้ว่า ตนไม่ได้คิดอะไรกับเธอมากไปกว่าพี่ชาย ก็กลัวเธอเสียใจ อีกเรื่องหนึ่งคือ เขามีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน ซึ่งข้อนี้เนตรนภารู้ดี เรื่องออกมาเป็นแบบนี้ จอมตรั
Chapter60 “พี่ขอบใจลัลณ์มากที่ให้อภัยพี่ ที่รักของพี่”คุณานนท์สวมกอดลัลณ์ลนิน จุมพิตกลางศีรษะ กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นราวกับว่า กลัวเธอจะหนีเขาไป“ลัลณ์มีคำถามค่ะ”“ถามว่าอะไรครับ”“พี่กล้ามาที่นี่ได้ยังไง รู้จากใครว่าลัลณ์อยู่ที่นี่”เธอสงสัยตั้งแต่เห็นหน้าเขาแล้ว ทว่าตอนนั้นกำลังตกใจและดีใจที่เห็นหน้าเขา คำถามที่อยากถามถูกกลืนลงคอ“เดือนบอกพี่” คุณานนท์ตอบ “พี่ติดต่อเดือนตั้งแต่วันแรกที่ลัลณ์หนีพี่ พี่บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้เดือนรู้ เดือนบอกพี่ว่า ลัลณ์ไม่ได้ติดต่อมา พี่เลยฝากเดือนไว้ว่า ถ้าได้ข่าวลัลณ์ให้โทรบอกพี่ด้วย พี่โทรถามเดือนทุกวันนะ แต่ก็ได้คำตอบเดิมๆ ว่า ติดต่อลัลณ์ไม่ได้ จนกระทั่งเมื่อวานตอนบ่าย เดือนโทรมาหาพี่ บอกความจริงเรื่องที่ลัลณ์อยู่ไร่พันดารา และขอโทษที่ปกปิดความจริง แล้วที่ยอมบอกพี่เพราะเห็นว่าลัลณ์กับพี่ทุกข์ใจเรื่องนี้ เดือนไม่อยากเห็นลัลณ์มีความทุกข์ อีกอย่างพิมก็มีคนใหม่แล้ว ถึงเวลาที่พี่จะมาที่นี่ พลเลยวางแผนให้พี่มารอลัลณ์บนนี้ เราถึงได้เจอกันไงครับ”ที่แท้เป็นเพราะความรักและปรารถนาดีของดวงเดือนกับจอมพลนี่เอง ที่ทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี“พี่ว่า
Chapter59“สวยสิ เวลาพี่เครียดๆ ก็ขึ้นมานั่งจิบชา ดูวิวไปด้วย ผ่อนคลายดีนะ” จอมพลตอบ “พี่พลไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมล่ะคะ ลัลณ์ว่าคนต้องเยอะแน่ๆ” “ไม่ล่ะ คนเข้ามาเยอะความสวยงาม ความสงบมักไม่มี พี่อยากให้ที่นี่อยู่กับธรรมชาติ ไม่มีอะไรรบกวน แค่ไร่พันดาราก็พอแล้ว” “มันก็จริงค่ะ” “คนงานบนนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวเขา วิถีชีวิตเขาเรียบง่ายนะ มีความสุขในแบบของเขา ถ้าพี่นำคนแปลกหน้าเข้ามามาก วิถีชีวิตพวกเขาอาจเปลี่ยน อะไรที่เราเคยเห็นก็จะไม่เห็น มันจะถูกกลืนหายไปไม่รู้ตัว” จอมพลพูดอีกก็ถูกอีก “พี่อยากให้ลัลณ์เห็นอะไรที่มันสวยงาม สงบ ร่มรื่น ลัลณ์จะได้สบายใจ” “ขอบคุณค่ะพี่พล” “ลัลณ์เห็นศาลาตรงนั้นไหม” จอมพลชี้ไปยังศาลาไม้ระแนงสีขาวที่อยู่ริมเขา “ค่ะ เห็นค่ะ” “พี่ชอบนั่งตรงนั้น นั่งจิบชามองดูวิว ลมเย็นๆ จะทำให้พี่รู้สึกสดชื่น ภาพเขียวขจีราวกับผืนหญ้าทำให้พี่รู้สึกว่า เป็นขุมพลังทำให้พี่เข้มแข็ง พี่อยากให้ลัลณ์รู้สึกอย่างนั้น ปล่อยใจไปกับธรรมชาติดีกว่าปล่อยใจกับความเจ็บปวดนะลัลณ์” “ค่ะ ข







