Share

Episode-04 เพราะพี่!

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-17 14:59:53

ชีวิตมอสองเป็นอะไรที่ล่องลอยมากจริง ๆ สำหรับฉันมันเหมือนใช้ชีวิตไปวัน ๆ แค่นั้นเองและบางวิชาก็ไม่รู้ว่าเรียนจบไปแล้วเอาไปทำอะไร ยกตัวอย่างเช่น รำกระบี่กระบอง ... 

“ทำหน้าดี ๆ หน่อย กลัวคนอื่นไม่รู้เหรอว่ามึงไม่ชอบเรียนวิชานี้”

“พูดอย่างกับมึงชอบตายแหละ”

“จำใจเรียนอะ เคยได้ยินไหม”

“เฮ้อ...”

“เขาเรียนให้มีความรู้ มึงอย่าสงสัยเยอะสิ” 

ฉันไม่ชอบเลยค่ะ อาจารย์ก็เอาแต่พูดว่าถ้าเธอรำเป็นนะไปสมัครงานที่ไหนเขาก็รับเลยทันที มันใช่เหรอคะ? มันเป็นศิลปะป้องกันตัวอย่างหนึ่งนะ แต่เหมือนอาจารย์ท่านนี้จะอธิบายแบบขอไปทีแล้วมันทำให้น่าเบื่อ กลายเป็นวิชาที่ไม่อยากเข้าเรียน

“ท่องไว้ว่าเขาให้คะแนนเยอะ”

“เฮ้อ...” ถอนหายใจวนไปค่ะ

ไม่เข้าใจตรงไหนให้ถาม พอยกมือถามกลับถูกย้อนมาว่าตอนสอนทำไมไม่ฟัง อ้าว! กว่าจะหมดชั่วโมงคือนานมากไม่ชอบเลยเวลาที่ไม่ได้คำอธิบายอะไร แต่ช่างมันเถอะ!

“คาบต่อไปเรียนอะไร”

“คอมสองชั่วโมง บ่ายดนตรี”

“ฝากเปิดคอมด้วยกูไปห้องน้ำก่อน” 

“เออ” 

คล้อยหลังไอ้จูนฉันก็รีบมาเข้าห้องน้ำทันทีแต่ว่าห้องคอมมันอยู่ตึกสามค่ะ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือห้องน้ำหลังตึกนั่นเอง

พอทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ออกมาล้างมือด้านนอก แต่คราวนี้มีสมาชิกใหม่มาเพิ่มด้วยอีกหลายคน เป็นรุ่นพี่มอปลาย มีคนหนึ่งไม่ได้เข้าห้องน้ำแต่มายืนล้างมือข้างฉัน หลังจากนั้นเขาก็สะบัดมือเต็มแรงทำให้ละอองน้ำกระเด็นใส่หน้าฉันเข้าอย่างจัง

“ก็งั้น ๆ อย่ามั่นหน้าไปหน่อยเลย” เขาจงใจพูดกับฉันแน่ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น แต่ฉันไม่อยากมีเรื่องกับใครไง “อย่ายุ่งกับทิว” ในที่สุดก็เปิดประเด็นออกมาจนได้ค่ะ

“พี่เป็นแฟนพี่ทิวเหรอ”

“กูบอกอย่ายุ่งก็คืออย่ายุ่ง จะวัดกันก็ได้นะ” 

“หนูไม่ได้รู้จักพี่ทิวเป็นการส่วนตัวสักหน่อย ไม่ได้คุยกันอยู่ด้วย” 

“ตอแหล! วันก่อนที่โรงอาหารกูเห็นกับตา หลายครั้งแล้วนะมึงอะ” น้ำเสียงไม่พอใจยังคงเอ่ยออกมาอย่างต่อเนื่อง

“ใครกันแน่ที่ตอแหล บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันไงวะ” 

“รู้ตัวว่าไม่ได้เป็นก็อย่าเสนอหน้าให้มาก!!”

ผลัก!

“กูเห็นอีกครั้งนะมึงเจอกูแน่” คำขู่ดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือยื่นมาผลักฉันเต็มแรงจนล้มขมำไม่เป็นท่า

“อีเกตุใจเย็น ๆ เดี๋ยวอาจารย์มาก็โดนเล่นหรอก” เพื่อนเขาเข้ามาห้ามก่อนจะลากกันออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

ฉันนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นมองตัวเองในกระจก 

“เพราะพี่! เพราะพี่คนเดียวเลย” ก่นด่ากับตัวเอง ไม่ชอบเลยที่จะต้องมาทะเลาะกับคนอื่นด้วยเรื่องแบบนี้ 

“เป็นอะไรวะ หน้าบึ้งมาเชียว” มาถึงห้องคอมไอ้จูนก็เอ่ยถาม

“ช่างแม่ง!” ตอบแบบขอไปที 

เห็นแบบนั้นมันก็ไม่เซ้าซี้อะไรต่อ จนหมดชั่วโมงเรียนก็ลงมาที่โรงอาหารกัน อีต้นไปซื้อน้ำ ไอ้จูนไปซื้อข้าว ส่วนฉันนั่งรอที่โต๊ะค่ะ รู้สึกได้เลยว่าอารมณ์ตัวเองยังไม่เป็นปกติ จนสายตาหันไปเห็นใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในโรงอาหารเหมือนกัน ฉันทำเป็นไม่เห็นแล้วมองเลยไปทางอื่นแทน

“กินข้าวเสร็จไปเข้าห้องน้ำกันนะ” ไอ้หมูเอ่ยชวน

“ไปดิ” 

ระหว่างมื้อเที่ยงก็จะมีเสียงพูดคุยหัวเราะดังอยู่ตลอด จนกระทั่งกินข้าวเสร็จแล้วมาเข้าห้องน้ำ

“ตาล ไปมินิมาร์ทเป็นเพื่อนหน่อย”

“ปวดท้องว่ะ เอ็งไปกับมุขแล้วกันนะพลอย” 

“เออ ๆ เอาไรกันหรือเปล่า”

“อะไรก็ได้ แล้วแต่จะกรุณา” ฉันว่ายิ้ม ๆ ตอบปัดมันไปแบบนั้นแหละ 

คล้อยหลังพลอยฉันก็มานั่งรอในห้องดนตรี แต่เท้าทั้งสองข้างกลับชะงักไปเมื่อเห็นใครบางคนอยู่ในห้องนี้ด้วย ไม่สิ! เขาอยู่กันหลายคนเลย

“พี่มอห้าเข้ามาทำไมวะ” หันไปถามหัวหน้าห้อง

“อาจารย์เขาสอนควบ”

“หมายความว่าต้องเรียนกับพี่เขางี้เหรอ”

“เออ สองชั่วโมงวนไป” อยากจะบ้าตาย อย่างนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่ายิ่งหนียิ่งเจอน่ะ  

ฉันแยกตัวออกมานั่งมุมหนึ่งของห้อง แค่เพียงไม่นานไอ้จูนกับหมูก็ตามมาติดแถมยังมีขนมมาฝากฉันอีกด้วย

“ซื้อแบบนี้มาจากไหน” 

“...” นอกจากจะไม่ตอบแล้วมันสองคนยังอมยิ้มใส่อีกด้วย ฉันมั่นใจว่าขนมห่อนี้มันไม่มีในมินิมาร์ทแน่นอน

“ไม่บอกไม่กินนะ”

“ขนมที่มึงคุ้นเคย” ไอ้จูนมันว่ายิ้ม ๆ คราวนี้กลายเป็นฉันเองที่เงียบไป ก่อนจะเบนสายตาไปทางใครบางคนที่กำลังหัวเราะกับกลุ่มเพื่อนเขาอยู่  “เขาฝากให้มึงตอนกูไปซื้อข้าว” 

“อืม” พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ 

“น่าอร่อย แกะดิอยากกินด้วย” ไอ้หมูพูดขึ้น

“แกะดิ กินได้เลย”  

“ให้ข้ากินเหรอ แต่เขาให้เอ็งนะ”

คนตรงหน้าดูอึดอัดใจนิดหน่อย เห็นแบบนั้นฉันจึงเป็นฝ่ายแกะคุกกี้ห่อนี้เองแล้ววางลงตรงหน้า หยิบกินไปแค่หนึ่งชิ้นที่เหลือมันสองคนซัดเรียบ

ระหว่างชั่วโมงเรียนก็ไม่ได้สนใจเขาอีกเลยจนไอ้หมูสะกิด 

“เขามองเอ็งด้วย” 

“...” เขาจะมองฉันทำไม ไม่ได้มีอะไรให้น่ามองเลยด้วยซ้ำ บางทีมันก็เว่อร์เกินไป

หลังจบคาบดนตรี วิชาต่อไปเป็นคณิตศาตร์เพิ่มเติมแต่อาจารย์ไม่อยู่และไม่มีใครสอนแทน ก็เลยอยู่ในห้องดนตรียาวเลย

“กูไปห้องน้ำก่อนนะ” บอกพวกมันก่อนจะแยกตัวออกมา แต่ใครบางคนกลับรั้งฉันไว้ซะก่อน 

“ถ้าไม่ได้เป็นควายก็คงเข้าใจภาษาคนที่กูพูดนะ”

“พูดอะไร” น้ำเสียงห้วนเอ่ยจากด้านหลัง เบือนหน้าไปมองเป็นพี่ทิวค่ะ ฉันไม่รู้ว่าระหว่างเขากับพี่คนที่ชื่อเกตุคืออะไร และมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้แทรกกลางความสัมพันธ์ของใครด้วย

“ทิวก็รู้ว่าเรา...” 

ฉันเลือกที่จะเดินออกมาแล้วปล่อยให้พวกเขาเคลียร์กันเอง  นี่ขนาดแค่แอบชอบนะ

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จกลับเข้ามาในห้องดนตรีบรรยากาศรอบตัวแปลก ๆ ค่ะ เหมือนถูกจับตามองยังไงก็ไม่รู้

“มึงจะยุ่งกับใครก็ได้แต่มึงห้ามยุ่งกับคนของพี่เกตุ” ไอ้น้องเปิดประเด็นขึ้นคนแรก

“ใครเหรอคนของพี่เกตุ”

“มึงรู้อยู่เต็มอก! อย่าทำเป็นใสซื่อได้ไหม”

“แล้วมึงจะเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรด้วยอีน้อง กูเห็นหลายครั้งแล้วมึงออกตัวแทนอีนี่ตลอดเลย” ไอ้ป๊อปเสริมขึ้นอีกคน

“ก็มันเป็นพี่กู”

“มึงคลานตามมันมาหรือไง! นี่ถ้าไม่บอกกูคิดว่ามึงชอบพี่ทิวนะเนี่ย” ฉันเองก็แอบคิดเหมือนกัน แต่ไม่มีสิทธิ์โวยวายอะไรเพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่แอบชอบเขาเฉย ๆ

น้องมันเงียบไปจนไอ้จูนทนไม่ไหวแล้วตั้งคำถามกับมันแทน

“มึงชอบพี่ทิวเหรอไอ้น้อง”

“เปล่า”

“ขอให้จริงอย่างที่พูด กูไม่ได้เข้าข้างใครมึงก็เพื่อน ตาลก็เพื่อน แอบชอบก็ไม่ผิด แต่มึงจะมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของไม่ได้”

“...”  

ทุกอย่างเงียบลงจนถึงเวลาเลิกเรียน วันนี้ออกประตูหน้าโรงเรียนค่ะเพราะนัดกับมุขไว้จะไปร้านศึกษาภัณฑ์เพื่อซื้อของมาทำงานกลุ่ม 

“ขอคุยด้วยหน่อย” พี่ทิวค่ะ เขามากับพี่ริว

“คุยอะไรคะ”

“เกตุพูดอะไรด้วย”

“พูดอะไรไม่สำคัญหรอก เราไม่ได้เป็นอะไรกันพี่ไม่เห็นต้องสนใจเรื่องนี้เลย ส่วนเรื่องขนมขอบคุณนะคะแต่คราวหน้าพี่ไม่ต้องลำบากหรอกหนูเกรงใจ”

“เกรงใจหรืออะไรกันแน่”

“...” ถ้าจะบอกว่ารู้สึกแย่เพราะพี่ก็คงไม่ถูก การแอบชอบของฉันมันควรมีแค่ฉันที่รู้สึกสิ อีกอย่างก็ไม่ได้อยากผิดใจกับคนอื่นเรื่องผู้ชายด้วยค่ะโดยเฉพาะเพื่อน

“ก่อนพี่จะคุยกับเพื่อนมุข พี่ไปเคลียร์กับคนของพี่ก่อนดีกว่านะ ตาขวางจนจะหลุดออกมาจากเบ้าอยู่ละ” ไม่รู้ว่ามุขมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็คงได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว 

“เออ กูเห็นด้วย เกตุแม่งโคตรน่ารำคาญ” พี่ริวเสริมขึ้นอีกคน

“เราไปกันเถอะ” ฉันจูงมือมุขออกมาจากตรงนั้นทันที 

คิดแบบไม่ได้เข้าข้างตัวเอง การกระทำแบบนี้มันหมายความว่าพี่ทิวกำลังแคร์ความรู้สึกฉันอยู่หรือเปล่านะ แต่คงไม่หรอก เขาจะสนใจอะไรฉัน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-52 ตอนพิเศษ ชีวิตหลังแต่งงาน

    ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ทอฝันเลี้ยงง่ายไม่อ้อนเลย ตอนนี้เพิ่งสิบเดือนเริ่มเกาะยืนแล้ว ดูท่าทางอีกไม่นานคงวิ่งจับไม่ไหวแน่นอน“คนสวย แม่ไปทำงานแล้วนะคะ หนูอย่างอแงกับพ่อนะ” พูดจบก็ก้มไปฟัดแก้มลูกสาวจนหนำใจเลยทีเดียว “หอมแต่ลูก ไม่หอมพ่อของลูกบ้างเหรอครับ”“ไม่ค่ะ!” ปากบอกปฏิเสธแต่ก็หอมครับ ว่านอนสอนง่ายจะตาย วันนี้เป็นวันหยุดผม หลังจากส่งน้องเสร็จก็แวะมาบ้านไอ้ริวต่อเลย รับปากมันไว้ว่าจะเข้ามาไง “เมื่อก่อนพกเมีย เดี๋ยวนี้พกลูก” ไอ้แบคเอ่ยแซวทันทีที่เห็นผมกับน้องทอฝัน“แล้วมึงเมื่อไหร่จะมี”“ทักได้เจ็บใจมาก” มันอยากมีครับ แต่ไอ้เกตุไม่ท้องสักที “น้ำยาไม่ดีก็แบบนี้แหละ”“ขยี้กันเข้าไป ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”... : ฮ่า ๆ“ไอ้ริว แล้วลูกมึงไปไหน”“อยู่ในเปลโน่น สองขวบกว่าแล้วยังติดเปลอยู่เลย ไปโรงเรียนกูว่าร้องตาย” น้ำเสียงมันเหมือนสิ้นหวังมากเลย“เอาน่ะค่อย ๆ ฝึกให้นอนพื้นทีหลังก็ได้”“ไม่หรอก ลูกกูอารมณ์แปรปรวนเก่งมาก แต่ไม่ซนนะ”“เป็นยังไงวะอารมณ์แปรปรวน”“อยู่ดี ๆ ก็ร้องไห้ ร้อง ๆ อยู่ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะได้อีกด้วย บางวันเดาอารมณ์ไม่ถูกเลย”“ไม่ลองปรึกษาหมอวะน่าจะช่วยได้

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/2 บทส่งท้าย

    หลายเดือนผ่านไปใกล้ได้เห็นหน้ากันแล้วครับ แอบกระซิบหน่อยว่าท้องใหญ่มาก และด้วยขนาดหน้าท้องที่ใหญ่เกินตัวจึงมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของน้องพอสมควร เหนื่อยง่ายทำอะไรไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อน “หนูลาคลอดเมื่อไหร่”“ยังเลยค่ะ หนูว่าจะทำจนคลอดเลย”“ว่าไงนะ” ไม่ได้หูฝาดไปแน่ ๆ ครับ“หมายถึงทำจนเจ็บท้องใกล้คลอดเลยค่ะ ลาได้เก้าสิบวันหนูอยากอยู่กับลูกนาน ๆ นี่ถ้าลาล่วงหน้าเป็นเดือนกลัวได้ใช้เวลาอยู่กับลูกน้อย” เห็นไหมครับ ไม่ได้มีแค่ผมสักหน่อยที่เห่อลูก“เข้าใจ แต่พี่อยากให้พักเดินจะไม่ไหวอยู่แล้วนะ”“แต่หนู...”“คุณแม่ดื้อเหรอครับ?”“ก็ได้ค่ะ” กำหนดคลอดเดือนหน้าแต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะคาดเคลื่อนก็ได้ต้องเตรียมตัวเอาไว้ก่อนครับพวกเราย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่แล้วและรับแม่กับยายมาอยู่ด้วยชั่วคราวเพราะไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียวไง ไม่ต้องห่วงนะครับว่าผิดที่ผิดทางแล้วยายผมจะเหงา เพราะเพื่อนบ้านก็มีคุณตาคุณยายอายุไล่เลี่ยกัน คุยกันถูกคอประหนึ่งว่ารู้จักมานานแรมปี“พี่ทิว”“ครับ?”“หนูอยากกินไข่ปลาทอด” ฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความหวังเชียว“มันหาซื้อได้ที่ไหน” ไข่ปลาน่ะรู้จักครับ แต่มันไม่ได้ม

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/1 บทส่งท้าย

    บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ถ้าพ่ออยู่ตรงนี้ด้วยก็คงจะดี... ตอนแรกตั้งใจจะเชิญแค่ญาติคนสนิทแต่ตากับยายคัดค้านค่ะ ให้เหตุผลว่าแม่เป็นลูกคนเล็กญาติทางนั้นก็สำคัญ ญาติทางนี้ก็สำคัญ ป้าบ้านนั้น น้าบ้านนี้ เยอะแยะไปหมด เป็นคนเก่าคนแก่ที่มีคนรู้จักนับถือเยอะก็อย่างนี้แหละ ไม่เป็นไรเอาที่ตากับยายสบายใจเลย พี่แบคกับพี่เต้อาสาเป็นพิธีกรให้ และไม่วายถูกตั้งคำถามประหลาด ๆ ตามเคย“เจ้าบ่าวครับ เห็นคุณผู้หญิงโต๊ะนั้นไหมครับ?” พี่แบคเอ่ยพลางชี้ไปที่คนกลุ่มหนึ่ง เป็นรุ่นน้องที่ทำงานของพี่ทิวนั่นแหละค่ะ“เห็นครับ”“สวยไหม?”“สวย”“คุณ! นี่งานมงคลของคุณนะครับ คุณกล้าชมผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าภรรยาเชียวเหรอ” คำถามกวนอารมณ์ถูกเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม“ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร มองแล้วเห็นว่าเป็นคนสวยปกติก็คือเป็นคนสวยเท่านั้นเอง กลับกันถ้าเราอยู่ใกล้คนที่เราชอบต่อให้หน้าตาธรรมดายังไงในสายตาเราเขาก็สวยที่สุดอยู่ดี” ประโยคหลังพี่ทิวหันมาพูดกับฉันทำเอาผู้คนในงานเอ่ยแซวเสียงดังไปทั่วบริเวณ“เจ้าสาวครับ”“ค่ะ”“คุณผู้ชายโต๊ะนั้นหล่อไหมครับ”“หล่อค่ะ”“แล้วระหว่างทางนั้นกับทางนี้ ใครหล

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-50 ครอบครัวของเรา

    ก่อนหน้านี้ประจำเดือนฉันมาสามวันค่ะ ปกติจะห้าหรือไม่ก็เจ็ดวัน แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นคนมีรอบเดือนไม่ปกติอยู่แล้ว แต่คราวนี้คงปล่อยผ่านไม่ได้แล้วแหละเลิกงานฉันซื้อที่ตรวจครรภ์มาด้วยห้าอัน อันละยี่ห้อไปเลยค่ะ มาถึงบ้านอาบน้ำเสร็จก็ตรวจเลย คุณหมอแนะนำมาว่าควรเป็นฉี่แรกของวันเพื่อผลที่แม่นยำ แต่มันตื่นเต้นไงอยากรู้จึงลองตรวจดูก่อนในความคิดฉันถ้าท้องจริงตรวจตอนไหนคงขึ้นสองขีดเหมือนกัน อันนี้คิดเอาเองนะคะลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะจุ่มที่ตรวจลงไป ใจเต้นแรงเป็นบ้าเลยค่ะ วินาทีที่แถบสีชมพูเริ่มเห็นชัดขึ้น ...“สะ สองขีด” เหมือนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ขีดที่สองมันจางมากแต่มองผ่าน ๆ ก็คือเห็นว่าเป็นสองขีด ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจนะคะแค่ไม่คิดว่าจะมาเร็วแบบนี้ฉันเพิ่งหยุดกินยาคุมเมื่อสองเดือนก่อนเอง ใครจะคิดว่าจะติดรวดเร็วทันใจขนาดนี้ล่ะ แล้วต้องทำยังไงต่อต้องบอกใครเป็นคนแรก?เช้าอีกวัน ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหิว ใช่ค่ะ! หิวจริง ๆ ลืมตามาก็อยากกินข้าวเลย ทำธุระส่วนตัวเสร็จออกมาข้างนอกเห็นแม่ทำกับข้าวอยู่ก่อนแล้ว“วันนี้ไม่ไปใส่บาตรเหรอ” “หนูตื่นสายเลยไม่ได้ไป แม่...”“ว่า?”“...”“เรียกแล้วไม่พูดนะ” พูด

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-49 การเดินทางของเราสองคน

    หลังจากทริปทะเลจบลงพวกเราก็กลับสู่บทบาทหน้าที่ตัวเองกันอีกครั้ง แอบเขินไปหลายวันเลยเรื่องที่เข้าใจผิด อย่างที่บอกเป็นใครก็ต้องคิดจริงไหม? ส่วนไอ้อาการหน้ามืดโลกหมุนของฉันก็ดีขึ้นมากแล้ว พี่ทิวดูแลดียิ่งกว่าหมอซะอีก“พอแล้วมั้งคะ” ถึงกับต้องเอ่ยปรามขึ้นเมื่อเห็นเขาหยิบผลไม้ใส่รถเข็นจนเยอะแยะไปหมด“อันนี้มีประโยชน์”“รู้... แต่หนูไม่ชอบนี่แค่อันนี้อย่างเดียวก็พอค่ะ” ฉันว่าพลางชี้มือไปที่กล่องสตอวเบอร์รี่“ครับ ซื้อเข้าห้องไปเลยแล้วกันเผื่อพรุ่งนี้พี่เลิกดึก”“โอเคค่ะ”ทุกครั้งที่เงินเดือนออกเราจะซื้อของเติมตู้เย็นเสมอ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนในส่วนเฉพาะของสดประมาณสองพันบาท ค่าน้ำ ค่าไฟอีกสองพันบาท จิปาถะยิบย่อยรวมทั้งหมดแล้วประมาณห้าพันอันนี้ฉันคำนวณเองนะ ส่วนค่าน้ำมันรถหรือของที่จำเป็นอื่น ๆ ยังไม่ได้คิดค่ะ ที่กล่าวมานี้อยู่ในความรับผิดชอบของพี่ทิวทั้งหมดฉันเคยบอกแล้วว่าเรื่องในครัวฉันรับผิดชอบเองได้แต่เขาไม่ยอมและให้เหตุผลว่าผู้นำครอบครัวเขาไม่มาแบ่งจ่ายกันหรอก ในเมื่อค้านอะไรไม่ได้ก็เลยใช้วิธีแยกซื้อต่างหากโดยที่พี่ทิวไม่รู้ ตั้งแต่คบกันมาสาบานได้ว่าฉันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาเ

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-48 มากกว่ารัก

    หมดกันเซอร์ไพรส์ของผม แอบรู้สึกผิดเหมือนกันนะเนี่ยทำน้องร้องไห้ไปหลายวันเลย ผมไม่ได้ตั้งใจ ที่ตั้งใจจริง ๆ คือบ้านต่างหากที่ดินตรงนั้นผมซื้อมันตั้งแต่ก่อนไปญี่ปุ่นหลายเดือนแล้วแต่ไม่ได้บอกน้องเพราะตั้งใจจะปลูกบ้านก่อน บวชแล้วค่อยแต่งไง แต่มันผิดแผนนิดหน่อย ปิดมาได้ตั้งนานดันมาตกม้าตายตอนบ้านเสร็จซะงั้น ครืด...ครืด…“ว่าไง”(จะเพิ่มเติมตรงไหนอีกหรือเปล่ากูจะได้บอกช่างถูก)“แก้ตรงสีไม่เสมออย่างเดียวก็พอ”(เออ ผัวกูถามว่ามึงจะเข้ามาดูไหม)“เข้าแหละ น่าจะพรุ่งนี้บ่าย”(กูถามจริงแฟนมึงไม่สงสัยบ้างเหรอ ถ้าเป็นกูคงจับได้ตั้งแต่ผัวกลับบ้านไม่ตรงเวลาละ)“จะเหลือเหรอ”(ฮ่า ๆ กูว่าแล้วเซอร์ไพรส์ไม่เคยสำเร็จ แล้วเขาว่าไง)“เปล่าหรอก เข้าใจผิดนิดหน่อย”(ไม่ใช่คิดว่ากูเป็นกิ๊กมึงหรอกนะ)“ประมาณนั้น”(ฉิบหาย!)“เกือบได้ฉิบหายจริง ๆ แต่ตอนนี้คุยกันเข้าใจแล้ว ไว้พรุ่งนี้กูพาไปด้วยเลย ไหน ๆ ก็รู้แล้วนี่”(เออ ไว้เจอกัน)ลูกหว้าเป็นเพื่อนร่วมงานครับ เราอยู่ทีมเดียวกันแต่คนละฝ่าย รู้จักกันตั้งแต่ฝึกงานไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เลย ส่วนที่น้องคิดไปไกลคงเป็นเพราะพฤติกรรมของผมมากว่า เรื่องนี้แม่กับยายก็รู้นะครั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status