Share

Episode-03 ความเป็นจริง

last update Last Updated: 2024-12-17 14:58:56

และแล้วฤดูกาลสอบปลายภาคก็มาถึง เป็นการสอบแบบวันเว้นวัน

“อ่านหนังสือมาบ้างปะ” ไอ้จูนเอ่ยถาม

“จำมาผ่าน ๆ”

“ดูมึงชิวเนอะ”

“ตกก็แก้ มันจะยากอะไร” ฉันตอบกลับอย่างไม่จริงจังมากนัก

“ยากตรงที่แม่ด่าว่ากูโง่นี่แหละ”

“ฮ่า ๆ ดีนะที่แม่กูไม่เคยคาดหวัง” 

เช้าสอบสามวิชาค่ะบ่ายอีกสองวิชา หลังจากสอบเสร็จช่วงเช้าก็มานั่งเล่นกันที่หลังโรงเรียน มันเป็นทางเดินค่ะด้านข้างเป็นสนามฟุตบอล ถามว่าที่เงียบ ๆ แบบนี้มาหาอ่านหนังสือกันเหรอไม่ใช่เลย มานั่งคุยโทรศัพท์กันทั้งนั้น

“น้ำตาลกูถามอะไรหน่อยดิ” คนนี้ชื่อน้องค่ะ บ้านอยู่ใกล้กัน

“ว่า?”

“กีฬาสีวันสุดท้าย พี่ทิวไปส่งมึงเหรอ”

“กูกลับวินบ้างเหอะ มึงรู้มาจากไหน”

“...”

“รู้ไม่จริงแล้วเสือกอยากจะพูดต่อ” 

“อ้าว แล้วมึงจะมาด่ากูทำไม กูแค่ถาม”

“กูไม่ได้ด่ามึงกูด่าคนที่มันพูดต่อ ก็ถามอยู่ว่ามึงรู้มาจากใครเพราะถ้ามึงเห็นกับตามึงจะไม่ถามกูแบบนี้”

“จะเถียงกันทำไม” ไอ้ป๊อปแย้งขึ้นก่อนจะมองเราสองคนสลับกัน “มึงก็บอกมันไปดิอีน้องว่ามึงรู้มาจากไหน” เป็นคำถามที่ฉันก็อยากรู้คำตอบเหมือนกัน มันไม่ใช่เรื่องจริงและไม่ใกล้เคียงความเป็นไปได้เลยสักนิด

“กูรู้มาจากไหนไม่สำคัญหรอก มันไม่ใช่เรื่องจริงก็แล้วไป” พูดจบมันก็นั่งเล่นเกมส์ในมือถือต่อราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ทำไมเหรอ แล้วถ้ามันเป็นเรื่องจริงขึ้นมาใครจะขาดใจตายเหรอ” ไอ้จูนว่าขึ้น คำถามของมันทำเอาฉันนิ่งไปนั่นเป็นสิ่งที่อยู่ในจินตนาการของฉัน มันเกินความจริงไปมาก แต่ก็นั่นแหละพื้นที่ของความสุขค่ะ 

“ฮ่า ๆ มึงคิดก่อนพูดก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย” น้องมันตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะ 

“...”

“สภาพแทบจะไม่เหมือนคนยังจะหวังสูงอีก”

“หวังสูงยังไงวะ กูเห็นพี่ทิวมันก็เป็นคนเหมือนกัน มึงนั่นแหละเลิกว่าคนอื่นเขาได้แล้ว” ไอ้จูนยังคงเถียงต่อ ดูท่าทางแล้วจะยาวค่ะฉันเลยรีบปรามขึ้นก่อนที่มันจะเลยเถิดมากเกินไป

“เออ พอ...จบ ๆ ไม่ต้องเถียงกัน” 

หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง ในใจก็แอบเคืองแหละทำไมต้องมาว่ากันด้วย เป็นไปได้ฉันอยากย้อนเวลากลับไปและจะไม่หลุดพูดให้ใครรู้เป็นอันขาดว่าแอบปลื้มพี่ทิวอยู่

หลังจากสอบเสร็จช่วงบ่ายตั้งใจว่าจะกลับบ้านเลยแต่อีต้นมันดันชวนไปกินก๋วยเตี๋ยวปลาหน้าโรงเรียน อีนี่ก็ใจง่ายไปค่ะ ไม่ปฏิเสธ

“ชะนีมึงเอาเหมือนเดิมใช่ปะ”

“เออ” 

อีต้นมันเดินไปสั่งฉันก็เลยอาสาไปตักน้ำเอง แต่ว่าดันสายตาดีเห็นพี่ทิวอยู่ฝั่งตรงข้ามของร้าน จำไม่ได้ว่ามองนานแค่ไหน มันนานพอที่แม่ค้าทำก๋วยเตี๋ยวเสร็จนั่นแหละ

“เลิกมองก่อนค่ะมึง มาแดกได้แล้ว”

“มองอะไร มึงมั่วแล้ว” 

“อย่ามาเฉไฉ สรุปเรื่องจริงใช่ไหมที่มึงชอบพี่ทิว” คำถามตรง ๆ ของมันทำเอาฉันเงียบไปหลายวินาที “ไม่ได้จะว่าอะไรแต่แอบชอบก็คือแอบชอบนะ พี่ทิวหล่อขนาดนั้นเขาต้องมีคนคุยอยู่แล้วแหละ”

“เรื่องของเขาสิ ข้าไม่เคยคาดหวังอยู่แล้ว”

“ทำได้จริงอย่างที่พูดก็ดี” 

“...” ฉันไม่ได้ตอบกลับอะไรเลือกที่จะนั่งกินเงียบ ๆ แทน จนกลุ่มเพื่อนพี่ทิวเดินเข้ามาในร้าน 

“มึง...”

“รีบกินเถอะจะได้กลับ” 

“มึง...” ไม่พูดเปล่ามันยังยื่นเท้ามาเขี่ยขาฉันอีกด้วยจนต้องเงยหน้าไปมองมัน “พี่ทิวเดินมาทางนี้” เสียงโคตรเบาแต่ก็พอจับใจความได้อยู่

พรึบ!

แซนวิชไส้กรอกชีสถูกวางลงตรงหน้าฉันพร้อมกับร่างสูงเจ้าของมันที่กำลังทำหน้านิ่งใส่อยู่

“ให้” พูดจบเขาก็เดินออกจากร้านไปท่ามกลางความงุนงงของทุกคน

“เขาให้ใครวะ”

“อยู่ตรงหน้ามึงเขาคงให้กูมั้ง” อีต้นมันว่ายิ้ม ๆ

“ให้กูเหรอ? ให้กูเรื่องอะไร ไม่ใช่ว่าคนอื่นให้เขามาแล้วเขาไม่กินเลยเอามาโยนให้กูหรอกนะ”

“อีบ้า! ใครจะทำแบบนั้น ถ้าไม่กินก็โยนลงถังขยะไปค่ะ มึงคิดมากไปนะเนี่ย”

“เหรอวะ” ตั้งคำถามกับตัวเองพลางจ้องมองมันไปด้วย เปิดถุงดูมันมีสองชิ้นค่ะ แบ่งกันคนละชิ้นกับอีต้น หลังจากนั้นก็แยกย้ายกัน

ช่วงปิดเทอมใหญ่เป็นอะไรที่เหงามาก อยู่แต่บ้านไม่ได้ไปไหนเลย พ่อกับแม่ก็ทำงานทุกวัน ตื่นมาก็เจอแค่เงินกับสำรับข้าววางไว้ให้เห็นต่างหน้า บางวันงานไม่เสร็จกลับตีสองตีสามก็มี 

แอบกระซิบหน่อยว่าฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยเลยค่ะ พ่อกับแม่เป็นผู้รับเหมาทำถนน ส่วนตากับยายก็ขายขนมไทยค่ะ  

วกกลับมาเรื่องของฉันต่อดีกว่า ตอนโรงเรียนเปิดก็ภาวนาว่าเมื่อไหร่จะปิดเทอมสักที แต่พอโรงเรียนปิดก็ดันเป็นพวกขี้เหงาอยากเจอเพื่อน อยากไปโรงเรียนขึ้นมาซะงั้น

และวันเวลาก็ผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ... จากน้องมอหนึ่งในวันนั้น ตอนนี้กลายเป็นพี่มอสองแล้วนะคะ

มัธยมศึกษาปีที่สอง

“แลดูมีความสุขขึ้นเยอะ” คำทักทายแรกถูกเอ่ยออกมาจากเพื่อนเลิฟของฉัน ไอ้จูนนั่นเอง

“ปกตินะ ว่าแต่มึงเหอะเปิดเทอมแล้วทำไมไม่ย้อมสีผมกลับอีก เดี๋ยวก็โดนอาจารย์เล่นหรอก”

“เอาตามความจริงไหม”

“เออ”

“ยังห้าวอยู่”

“อีสัส!”

“เพื่อนด่าแปลว่าเพื่อนรัก”

“เพื่อนด่าก็คือเพื่อนด่า มึงอย่าเปลี่ยนความหมาย” 

“ฮ่า ๆ”  

พอถึงเวลาเข้าแถวก็มีการแอบมองไปทางพี่มอห้าเล็กน้อยค่ะ ไม่เจอกันแค่สองเดือน พี่ทิวสูงขึ้นเยอะเลย สังเกตได้จากระดับสายตา ถ้าเทียบกันตอนนี้หัวฉันไม่ถึงไหล่เขาเลยด้วยซ้ำ

 “อะแฮ่ม! เก็บอาการหน่อย” 

“ไรมึง” 

“กูเห็น” ขี้เสือกจริงเชียว ได้แต่แอบด่ามันในใจ คิกคิก

บรรยากาศการมาเรียนในวันแรกของมอสองตื่นเต้นแปลก ๆ อาจเป็นเพราะการรอคอยที่จะได้เจอใครคนนั้นก็ได้ 

วันแรกไม่ได้เรียนเลยค่ะ ส่วนใหญ่อาจารย์จะให้ตารางเรียนกับแจกหนังสือซะมากกว่า เป็นแบบนี้อยู่ครึ่งวันจนถึงเวลาพักเที่ยง

“เชี่ย...”

“อะไรของมึงวะ” 

“ป้าร้านข้าวมันไก่หายไปไหน” ไอ้จูนว่าขึ้นพร้อมกับทอดสายตาสุดจะน่าสงสารไปทางด้านในโรงอาหาร

“เขาหมดสัญญาเช่าเขาก็ไปขายที่อื่นดิ”

“ไม่นะ!! นั่นร้านโปรดกูเลยนะโว้ย”

“โอ๋... ไม่งอแงนะลองร้านใหม่ก็ได้ บางทีอาจจะถูกปากมากกว่าร้านเดิมไรงี้”

“ไม่มีทาง! ขนาดปิดเทอมตั้งสองเดือนมึงยังไม่เลิกชอบเขาเลย”

“มึงก็สรรหาเปรียบเทียบเหลือเกินนะ”

เสียเวลาอยู่หลายนาทีเลยค่ะกว่ามันจะเลิกงอแง พอจองโต๊ะเสร็จก็ฝากให้ไอ้จูนไปซื้อข้าว ส่วนฉันอาสามาซื้อน้ำเอง

“น้ำตาล เอ็งเห็นปะ”

“เห็นไรวะหมู”

“พี่ริวไง คิกคิก ใจละลาย”

“เก็บอาการเล็กน้อยถึงปานกลางด้วยค่ะ”  

“ก็เขาน่ารัก!” 

เลิกสนใจมันก่อนจะเดินไปต่อแถวซื้อน้ำ เปิดเทอมวันแรกมีแต่น้ำเปล่าค่ะ ปกติจะมีน้ำผลไม้ด้วย

“น้ำเปล่าสิบขวดค่ะ” 

“หกสิบบาทลูก” 

กำลังจะจ่ายเงินแต่ใครบางคนกลับจ่ายแทนซะก่อน

“นี่ครับ” 

คนข้างหลังเยอะพอสมควร เกรงใจคนอื่นเขาฉันจึงหยิบน้ำออกมาก่อนแล้วให้หมูช่วยถือไว้ห้าขวด หลังจากนั้นฉันก็หยิบเงินให้พี่ทิวไปแต่ว่าเจ้าตัวเขาไม่รับค่ะ

“ค่าน้ำค่ะ”

“พี่เลี้ยงเอง”

“แต่มันหลายขวด”

“ไม่เป็นไร ... ผอมลงนะเนี่ย” เขินแหละ ไม่รู้เขินอะไร

“เอ่อ ... ขอบคุณนะคะสำหรับค่าน้ำ” 

พี่ทิวไม่ได้ตอบกลับอะไรแค่ยิ้มให้เฉย ๆ พอกลับมาถึงโต๊ะทุกสายตาก็พุ่งเป้ามาทางฉันทันที

พลอย : หืม... อะไรยังไงซิ

แอม : เล่ามา

เอม : ให้ไว!

กิ๊บ : มีความลับอะไรหรือเปล่า

“ใจเย็นพวกมึง เขาแค่ซื้อน้ำให้ เนี่ยสิบขวดครบแก๊งพอดี” 

น้อง : และมึงคุยอะไรกัน

“เปล่า แค่ขอบคุณเขา”

มุข : ใช่เหรอกูเห็นยิ้มอยู่

“เออ! มึงอย่าจับผิดดิ”

ป๊อป : พวกกูไม่ได้จับผิดเลยคนอื่นเขาเห็นกันเยอะแยะบอกมาซะดี ๆ น้ำตาลอย่าให้กูสืบเองนะ

“เขาแค่ทักว่าผอมลง ก็แค่นี้”

“ผอมลงไม่ได้แปลว่าผอมแล้ว” ไอ้น้องมันพูดขึ้น ฉันไม่ได้ตอบอะไร แค่สบตากับไอ้หมูเท่านั้นเพราะมันเองก็อยู่ด้วยและรู้ว่าฉันพูดความจริง 

“เออ แต่มึงก็ผอมลงจริง ๆ นั่นแหละ” ไอ้พลอยเสริมขึ้นมาอีกคน 

“เหรอวะ ข้าก็ไม่ได้ลดน้ำหนักนะแดกกระจาย” 

เลิกสนใจเรื่องนี้แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวกัน บนโต๊ะอาหารก็จะเต็มไปด้วยเรื่องราวที่หยิบยกมาพูดระหว่างปิดเทอม

หลังจากกินข้าวเสร็จก็มาสิงอยู่หน้าห้องน้ำต่อ ไม่รู้เป็นอะไรต้องมาเข้าห้องน้ำตอนพักเที่ยงทุกวันเลย 

“ช่วยด้วย ไปมินิมาร์ทเป็นเพื่อนหน่อยสิ” ไอ้มุขโผล่หัวออกมาจากในห้องน้ำ

“อย่าบอกนะว่าเป็นวันแดงเดือด”

“ถูกต้อง! มุขไม่ได้เตรียมผ้าอนามัยมา”

“เอาเงินมา เดี๋ยวไปซื้อให้ก็ได้”

“เอาแบบมีปีกนะ” 

“เออ” พยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะเดินกลับเข้าไปในโรงอาหารอีกครั้ง มินิมาร์ทมันอยู่หน้าโรงอาหารน่ะ 

ระหว่างรอจ่ายเงินกลุ่มพี่ทิวก็เดินเข้ามาซื้อขนมเช่นกันค่ะ 

“ทิวกินไร เดี๋ยวเราซื้อให้”

“ไม่อะ”

“อ้าว ไม่อยากกินขนมแล้วเข้ามาทำไม”

“ไม่ต้องยุ่ง!” โอ้โห ปากร้ายใช่ย่อยค่ะ พี่ผู้หญิงคนนั้นถึงกับเบะปากใส่เลยทีเดียว 

พอจ่ายเงินเสร็จจังหวะที่จะออกคือคนเยอะพอสมควร มันก็เบียดกันบ้างค่ะ พี่ทิวเอาขนมใส่กระเป๋าเสื้อฉันแล้วเขาก็เดินนำออกไปเลยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

หยิบขึ้นมาดูมันเป็นคุกกี้ค่ะ แบบเดียวกับที่ให้ฉันเมื่อวันกีฬาสีเลย เห็นแบบนั้นฉันจึงหันไปดูที่ชั้นขนมว่ามีแบบนี้ขายไหม ปรากฏว่าไม่มีค่ะ 

“อยู่กับความเป็นจริงหน่อยนะ สภาพแบบนี้ทิวมันไม่มองหรอก” 

“ทำตัวเองให้เหมือนคนก่อนดีกว่า ฮ่า ๆ”  

“...” เสียงหัวเราะค่อย ๆ ห่างออกไปพร้อมกับความรู้สึกมากมายในใจฉัน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ถูกต่อว่าแบบนี้จากคนอื่น นึกว่าตัวเองสวยมากหรือไงถึงได้เอาแต่ด่าคนอื่นอยู่ได้

“ช่างแม่งมันเหอะ อย่าไปสนใจ” ไม่รู้ว่าไอ้จูนตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันคงเห็นและได้ยินหมดแล้ว 

“พี่เขาก็พูดถูกแหละ สภาพกูอย่างกับครึ่งผีใครจะมามอง” 

“ดูถูกตัวเองเกินไปแล้วมั้ง เดี๋ยวโตไปก็สวยเองแหละ”

“แต่เราต้องอยู่กับความเป็นจริงไม่ใช่เหรอ”

“ก็ใช่! มึงจะคิดมากกับคำพูดคนอื่นไปเพื่ออะไร ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าพี่ทิวเอามาให้เอง มึงไม่ได้ไปตามวอแวเขาสักหน่อย มีแต่พวกอิจฉาเท่านั้นแหละที่เป็นเดือดเป็นร้อนน่ะ”

ฉันพยายามที่จะไม่สนใจคำพูดของใคร แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้จริง ๆ  อ้วนก็รู้ตัวค่ะ ดูไม่ได้เลยก็รู้ตัวเหมือนกัน ก็แค่แอบชอบมันจะเดือดร้อนชีวิตใครนักหนา 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-52 ตอนพิเศษ ชีวิตหลังแต่งงาน

    ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ทอฝันเลี้ยงง่ายไม่อ้อนเลย ตอนนี้เพิ่งสิบเดือนเริ่มเกาะยืนแล้ว ดูท่าทางอีกไม่นานคงวิ่งจับไม่ไหวแน่นอน“คนสวย แม่ไปทำงานแล้วนะคะ หนูอย่างอแงกับพ่อนะ” พูดจบก็ก้มไปฟัดแก้มลูกสาวจนหนำใจเลยทีเดียว “หอมแต่ลูก ไม่หอมพ่อของลูกบ้างเหรอครับ”“ไม่ค่ะ!” ปากบอกปฏิเสธแต่ก็หอมครับ ว่านอนสอนง่ายจะตาย วันนี้เป็นวันหยุดผม หลังจากส่งน้องเสร็จก็แวะมาบ้านไอ้ริวต่อเลย รับปากมันไว้ว่าจะเข้ามาไง “เมื่อก่อนพกเมีย เดี๋ยวนี้พกลูก” ไอ้แบคเอ่ยแซวทันทีที่เห็นผมกับน้องทอฝัน“แล้วมึงเมื่อไหร่จะมี”“ทักได้เจ็บใจมาก” มันอยากมีครับ แต่ไอ้เกตุไม่ท้องสักที “น้ำยาไม่ดีก็แบบนี้แหละ”“ขยี้กันเข้าไป ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”... : ฮ่า ๆ“ไอ้ริว แล้วลูกมึงไปไหน”“อยู่ในเปลโน่น สองขวบกว่าแล้วยังติดเปลอยู่เลย ไปโรงเรียนกูว่าร้องตาย” น้ำเสียงมันเหมือนสิ้นหวังมากเลย“เอาน่ะค่อย ๆ ฝึกให้นอนพื้นทีหลังก็ได้”“ไม่หรอก ลูกกูอารมณ์แปรปรวนเก่งมาก แต่ไม่ซนนะ”“เป็นยังไงวะอารมณ์แปรปรวน”“อยู่ดี ๆ ก็ร้องไห้ ร้อง ๆ อยู่ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะได้อีกด้วย บางวันเดาอารมณ์ไม่ถูกเลย”“ไม่ลองปรึกษาหมอวะน่าจะช่วยได้

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/2 บทส่งท้าย

    หลายเดือนผ่านไปใกล้ได้เห็นหน้ากันแล้วครับ แอบกระซิบหน่อยว่าท้องใหญ่มาก และด้วยขนาดหน้าท้องที่ใหญ่เกินตัวจึงมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของน้องพอสมควร เหนื่อยง่ายทำอะไรไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อน “หนูลาคลอดเมื่อไหร่”“ยังเลยค่ะ หนูว่าจะทำจนคลอดเลย”“ว่าไงนะ” ไม่ได้หูฝาดไปแน่ ๆ ครับ“หมายถึงทำจนเจ็บท้องใกล้คลอดเลยค่ะ ลาได้เก้าสิบวันหนูอยากอยู่กับลูกนาน ๆ นี่ถ้าลาล่วงหน้าเป็นเดือนกลัวได้ใช้เวลาอยู่กับลูกน้อย” เห็นไหมครับ ไม่ได้มีแค่ผมสักหน่อยที่เห่อลูก“เข้าใจ แต่พี่อยากให้พักเดินจะไม่ไหวอยู่แล้วนะ”“แต่หนู...”“คุณแม่ดื้อเหรอครับ?”“ก็ได้ค่ะ” กำหนดคลอดเดือนหน้าแต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะคาดเคลื่อนก็ได้ต้องเตรียมตัวเอาไว้ก่อนครับพวกเราย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่แล้วและรับแม่กับยายมาอยู่ด้วยชั่วคราวเพราะไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียวไง ไม่ต้องห่วงนะครับว่าผิดที่ผิดทางแล้วยายผมจะเหงา เพราะเพื่อนบ้านก็มีคุณตาคุณยายอายุไล่เลี่ยกัน คุยกันถูกคอประหนึ่งว่ารู้จักมานานแรมปี“พี่ทิว”“ครับ?”“หนูอยากกินไข่ปลาทอด” ฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความหวังเชียว“มันหาซื้อได้ที่ไหน” ไข่ปลาน่ะรู้จักครับ แต่มันไม่ได้ม

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/1 บทส่งท้าย

    บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ถ้าพ่ออยู่ตรงนี้ด้วยก็คงจะดี... ตอนแรกตั้งใจจะเชิญแค่ญาติคนสนิทแต่ตากับยายคัดค้านค่ะ ให้เหตุผลว่าแม่เป็นลูกคนเล็กญาติทางนั้นก็สำคัญ ญาติทางนี้ก็สำคัญ ป้าบ้านนั้น น้าบ้านนี้ เยอะแยะไปหมด เป็นคนเก่าคนแก่ที่มีคนรู้จักนับถือเยอะก็อย่างนี้แหละ ไม่เป็นไรเอาที่ตากับยายสบายใจเลย พี่แบคกับพี่เต้อาสาเป็นพิธีกรให้ และไม่วายถูกตั้งคำถามประหลาด ๆ ตามเคย“เจ้าบ่าวครับ เห็นคุณผู้หญิงโต๊ะนั้นไหมครับ?” พี่แบคเอ่ยพลางชี้ไปที่คนกลุ่มหนึ่ง เป็นรุ่นน้องที่ทำงานของพี่ทิวนั่นแหละค่ะ“เห็นครับ”“สวยไหม?”“สวย”“คุณ! นี่งานมงคลของคุณนะครับ คุณกล้าชมผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าภรรยาเชียวเหรอ” คำถามกวนอารมณ์ถูกเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม“ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร มองแล้วเห็นว่าเป็นคนสวยปกติก็คือเป็นคนสวยเท่านั้นเอง กลับกันถ้าเราอยู่ใกล้คนที่เราชอบต่อให้หน้าตาธรรมดายังไงในสายตาเราเขาก็สวยที่สุดอยู่ดี” ประโยคหลังพี่ทิวหันมาพูดกับฉันทำเอาผู้คนในงานเอ่ยแซวเสียงดังไปทั่วบริเวณ“เจ้าสาวครับ”“ค่ะ”“คุณผู้ชายโต๊ะนั้นหล่อไหมครับ”“หล่อค่ะ”“แล้วระหว่างทางนั้นกับทางนี้ ใครหล

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-50 ครอบครัวของเรา

    ก่อนหน้านี้ประจำเดือนฉันมาสามวันค่ะ ปกติจะห้าหรือไม่ก็เจ็ดวัน แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นคนมีรอบเดือนไม่ปกติอยู่แล้ว แต่คราวนี้คงปล่อยผ่านไม่ได้แล้วแหละเลิกงานฉันซื้อที่ตรวจครรภ์มาด้วยห้าอัน อันละยี่ห้อไปเลยค่ะ มาถึงบ้านอาบน้ำเสร็จก็ตรวจเลย คุณหมอแนะนำมาว่าควรเป็นฉี่แรกของวันเพื่อผลที่แม่นยำ แต่มันตื่นเต้นไงอยากรู้จึงลองตรวจดูก่อนในความคิดฉันถ้าท้องจริงตรวจตอนไหนคงขึ้นสองขีดเหมือนกัน อันนี้คิดเอาเองนะคะลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะจุ่มที่ตรวจลงไป ใจเต้นแรงเป็นบ้าเลยค่ะ วินาทีที่แถบสีชมพูเริ่มเห็นชัดขึ้น ...“สะ สองขีด” เหมือนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ขีดที่สองมันจางมากแต่มองผ่าน ๆ ก็คือเห็นว่าเป็นสองขีด ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจนะคะแค่ไม่คิดว่าจะมาเร็วแบบนี้ฉันเพิ่งหยุดกินยาคุมเมื่อสองเดือนก่อนเอง ใครจะคิดว่าจะติดรวดเร็วทันใจขนาดนี้ล่ะ แล้วต้องทำยังไงต่อต้องบอกใครเป็นคนแรก?เช้าอีกวัน ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหิว ใช่ค่ะ! หิวจริง ๆ ลืมตามาก็อยากกินข้าวเลย ทำธุระส่วนตัวเสร็จออกมาข้างนอกเห็นแม่ทำกับข้าวอยู่ก่อนแล้ว“วันนี้ไม่ไปใส่บาตรเหรอ” “หนูตื่นสายเลยไม่ได้ไป แม่...”“ว่า?”“...”“เรียกแล้วไม่พูดนะ” พูด

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-49 การเดินทางของเราสองคน

    หลังจากทริปทะเลจบลงพวกเราก็กลับสู่บทบาทหน้าที่ตัวเองกันอีกครั้ง แอบเขินไปหลายวันเลยเรื่องที่เข้าใจผิด อย่างที่บอกเป็นใครก็ต้องคิดจริงไหม? ส่วนไอ้อาการหน้ามืดโลกหมุนของฉันก็ดีขึ้นมากแล้ว พี่ทิวดูแลดียิ่งกว่าหมอซะอีก“พอแล้วมั้งคะ” ถึงกับต้องเอ่ยปรามขึ้นเมื่อเห็นเขาหยิบผลไม้ใส่รถเข็นจนเยอะแยะไปหมด“อันนี้มีประโยชน์”“รู้... แต่หนูไม่ชอบนี่แค่อันนี้อย่างเดียวก็พอค่ะ” ฉันว่าพลางชี้มือไปที่กล่องสตอวเบอร์รี่“ครับ ซื้อเข้าห้องไปเลยแล้วกันเผื่อพรุ่งนี้พี่เลิกดึก”“โอเคค่ะ”ทุกครั้งที่เงินเดือนออกเราจะซื้อของเติมตู้เย็นเสมอ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนในส่วนเฉพาะของสดประมาณสองพันบาท ค่าน้ำ ค่าไฟอีกสองพันบาท จิปาถะยิบย่อยรวมทั้งหมดแล้วประมาณห้าพันอันนี้ฉันคำนวณเองนะ ส่วนค่าน้ำมันรถหรือของที่จำเป็นอื่น ๆ ยังไม่ได้คิดค่ะ ที่กล่าวมานี้อยู่ในความรับผิดชอบของพี่ทิวทั้งหมดฉันเคยบอกแล้วว่าเรื่องในครัวฉันรับผิดชอบเองได้แต่เขาไม่ยอมและให้เหตุผลว่าผู้นำครอบครัวเขาไม่มาแบ่งจ่ายกันหรอก ในเมื่อค้านอะไรไม่ได้ก็เลยใช้วิธีแยกซื้อต่างหากโดยที่พี่ทิวไม่รู้ ตั้งแต่คบกันมาสาบานได้ว่าฉันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาเ

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-48 มากกว่ารัก

    หมดกันเซอร์ไพรส์ของผม แอบรู้สึกผิดเหมือนกันนะเนี่ยทำน้องร้องไห้ไปหลายวันเลย ผมไม่ได้ตั้งใจ ที่ตั้งใจจริง ๆ คือบ้านต่างหากที่ดินตรงนั้นผมซื้อมันตั้งแต่ก่อนไปญี่ปุ่นหลายเดือนแล้วแต่ไม่ได้บอกน้องเพราะตั้งใจจะปลูกบ้านก่อน บวชแล้วค่อยแต่งไง แต่มันผิดแผนนิดหน่อย ปิดมาได้ตั้งนานดันมาตกม้าตายตอนบ้านเสร็จซะงั้น ครืด...ครืด…“ว่าไง”(จะเพิ่มเติมตรงไหนอีกหรือเปล่ากูจะได้บอกช่างถูก)“แก้ตรงสีไม่เสมออย่างเดียวก็พอ”(เออ ผัวกูถามว่ามึงจะเข้ามาดูไหม)“เข้าแหละ น่าจะพรุ่งนี้บ่าย”(กูถามจริงแฟนมึงไม่สงสัยบ้างเหรอ ถ้าเป็นกูคงจับได้ตั้งแต่ผัวกลับบ้านไม่ตรงเวลาละ)“จะเหลือเหรอ”(ฮ่า ๆ กูว่าแล้วเซอร์ไพรส์ไม่เคยสำเร็จ แล้วเขาว่าไง)“เปล่าหรอก เข้าใจผิดนิดหน่อย”(ไม่ใช่คิดว่ากูเป็นกิ๊กมึงหรอกนะ)“ประมาณนั้น”(ฉิบหาย!)“เกือบได้ฉิบหายจริง ๆ แต่ตอนนี้คุยกันเข้าใจแล้ว ไว้พรุ่งนี้กูพาไปด้วยเลย ไหน ๆ ก็รู้แล้วนี่”(เออ ไว้เจอกัน)ลูกหว้าเป็นเพื่อนร่วมงานครับ เราอยู่ทีมเดียวกันแต่คนละฝ่าย รู้จักกันตั้งแต่ฝึกงานไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เลย ส่วนที่น้องคิดไปไกลคงเป็นเพราะพฤติกรรมของผมมากว่า เรื่องนี้แม่กับยายก็รู้นะครั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status