Home / โรแมนติก / เมื่อรักออกเดินทาง / Episode-05 หนูจะไม่ยุ่งกับพี่แล้ว

Share

Episode-05 หนูจะไม่ยุ่งกับพี่แล้ว

last update Last Updated: 2024-12-17 15:13:11

หลายเดือนผ่านไป

ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นฉันเลี่ยงที่จะเจอหน้าพี่ทิวมาโดยตลอด บางครั้งก็งงกับตัวเองเหมือนกันนะเป็นอะไรกับเขาก่อน? เป็นแฟนก็ไม่ใช่ คนคุยก็ไม่ใช่ เฮ้อ...

“มึงกินยาลดน้ำหนักเหรอ” คำถามของพลอยทำเอาขนมที่กำลังจะเข้าปากต้องหยุดลง

“กู?”

“เออ มึงผอมแล้วอะ สมส่วนด้วย”

“ไม่นะ แค่เลิกกินน้ำอัดลมแล้วก็ลดขนมขบเคี้ยวเท่านั้นเอง”

“เรียกอีอ้วนไม่ได้แล้วนะ ใครเรียกมึงอีอ้วนบอกกูมาได้เลยกูจะตบเรียงตัวให้” ไอ้จูนมันว่าขึ้น 

“กูจะฝากชีวิตไว้กับมึงได้ใช่ไหม”

“แน่นอน”

วันนี้ไม่ได้เรียนช่วงเช้าค่ะเพราะมีการตรวจสุขภาพประจำปีและสิ่งที่ทำให้น่าตกใจก็คือน้ำหนักของฉันนั่นเอง 

จากหกสิบตอนนี้เหลือห้าสิบสองดีใจเป็นบ้าเลยค่ะ ถ้าเทียบกับส่วนสูงที่ไม่ถึงร้อยหกสิบของฉันก็ยังดูอวบ ๆ อยู่ดีนั่นแหละแต่ช่างเถอะ! เอาเป็นว่าผอมลงก็แล้วกัน

“ตาล มึงเอ็กซเรย์ยัง” ไอ้หมูเอ่ยถาม หอบแฮกมาเลยมันเพิ่งมา

“กูเสร็จหมดละ มึงไปไหนมาเพิ่งจะเสด็จ”

“ตื่นสาย”

“เออ พวกกูรอที่โรงอาหารนะ”

“โอเค”

หลังจากนั้นฉันก็ลงมารอพวกมันที่โรงอาหาร มีฉัน จูน แล้วก็พลอย ที่เหลือยังไม่เสร็จกัน

“น้ำตาล เอ็งลดน้ำหนักเนี่ยเพื่อตัวเองหรือเพื่อใคร” มีแวบหนึ่งที่ฉันแอบคิดว่าจะสวยเพื่อใครคนนั้น จะผอมเพื่อใครคนนั้น แต่เวลาต่อมาฉันว่าฉันสวยเพื่อตัวเองดีกว่าค่ะ มีผลประโยชน์กับตัวเองโดยตรงแน่นอน 

“เพื่อตัวเองดิ”

“จริง ?”

“จริงดิ ตอนนี้ยังไม่สวยไม่เป็นไร เดี๋ยวโตไปหมอก็ทำให้สวยเอง” ฉันตอบมันไปอย่างไม่จริงจังมากนะ แต่คิดจริงนะคะ 

“ยังคุยกับพี่ทิวอยู่ไหม” ปากมันถามฉันก็จริง แต่สายตามันเสมอไปด้านหลังฉันค่ะ ถ้าเดาไม่ผิดกลุ่มพี่ทิวต้องนั่งอยู่โต๊ะถัดไปแน่

“ไม่เคยคุยนะ พลอยรู้มาจากไหนว่าเราคุยกับพี่ทิว”

“คิดเอาเอง ก็เราเห็นพี่ทิวเอาขนมมาให้บ่อย ๆ นี่หว่าสรุปไม่ได้เป็นอะไรกันเหรอ”

“อืม แค่แอบปลื้มอะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วไม่ยุ่งกับเขาด้วย” ฉันมั่นใจว่าตัวเองเสียงดังมากพอที่จะทำให้คนด้านหลังได้ยิน และแน่นอนค่ะว่ามีเสียงตอบกลับมาแต่มันเป็นคำพูดที่ไม่ค่อยน่าฟังสักเท่าไหร่

“น้องครับ! พูดเหมือนตัวเองสวยเลยอะ”

... : ฮ่า ๆ

“หุบปาก!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคสุดท้ายแต่น่าจะเป็นเสียงพี่ริวค่ะ บอกตามตรงว่าหน้าชามากแต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยินไปแทน

“กูเข้าใจแล้วที่มึงบอกว่าสวยเพื่อตัวเองมีประโยชน์กว่าน่ะ”  ไอ้จูนพูดขึ้นพร้อมกับตบบ่าฉันเป็นเชิงให้กำลังใจ หรือความจริงแล้วฉันควรหันมาสนใจตัวเองแบบจริงจังสักทีนะ

วันเวลายังคงผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เทอมหนึ่งผ่านไป เทอมสองก็กำลังจะผ่านไปเช่นกัน 

ตั้งแต่วันนั้นฉันไม่เคยสนใจพี่ทิวอีกเลย มีบ้างที่เดินสวนกันระหว่างเปลี่ยนคาบเรียน ก็มองแหละแต่ไม่ได้เฝ้าตามติดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไม่ได้เลิกชอบหรอกแค่น้อยใจกับคำพูดพวกนั้นมากกว่า สังคมเพื่อนมันสำคัญมากนะใครบอกไม่สำคัญนี่เถียงขาดใจเลย 

“แป๊บเดียวจะสอบไฟนอลอีกแล้ว ทำไมเวลามันเดินเร็วแบบนี้วะ” 

“มึงไม่เคยได้ยินเหรอหมูว่าเวลามันไม่เคยคอยใคร”

“จริง! อีกปีเดียวก็จะจากกันแล้วอะ” 

คิดแล้วก็ใจหายเหมือนกันค่ะ เทอมหน้าขึ้นมอสามแล้ว จะถึงเวลาที่พวกเราต่างแยกย้ายกันไปเจอสิ่งใหม่ ๆ แล้วเหมือนต้องเผชิญโลกใบใหม่อีกครั้งเลยค่ะ

ตัดมาถึงวันสอบเลยแล้วกันนะคะ ห้องฉันถูกย้ายขึ้นมาสอบที่ตึกเดียวกับมอปลายเนื่องจากตึกเดิมมีการต่อเติมอยู่ในขณะนี้ แน่นอนว่าเราอยู่ห้องใกล้กัน อาจารย์นี่กลั่นแกล้งกันชัด ๆ เลยเหอะ

หลังจากสอบวิชาแรกเสร็จฉันออกมานั่งรอด้านนอกเพราะว่าตัวเองทำเสร็จก่อนเวลาไง จนใครคนหนึ่งนั่งลงตรงที่นั่งข้างฉัน

“ทำข้อสอบได้หรือเปล่า”

“ได้ค่ะ”

“พี่...”

“ไอ้ทิว! มึงชอบแบบนี้จริงเหรอวะ ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับคำพูดที่ฟาดหน้าฉันกลางอากาศ 

“เสือก!”

“ฮ่า ๆ ไอ้ควายผู้หญิงมาชอบตั้งเยอะตั้งแยะไม่เอา ฮ่า ๆ” 

“กูบอกให้หุบปาก!” พี่ทิวตวาดออกเสียงดังจนอาจารย์ในห้องได้ยิน

“นักเรียนเงียบ ๆ หน่อยค่ะ”

ฉันลุกออกจากตรงนั้นทันที มันอยากร้องไห้มาก ๆ ไม่เคยรู้สึกอายหรือเจ็บปวดกับคำพูดคนอื่นขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ

หมับ!

แขนข้างหนึ่งถูกรั้งอย่างถือวิสาสะ

“ขอโทษ”

“ขอโทษทำไมเราไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวสักหน่อย พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับหนูแล้วหนูก็ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ ไม่ต้องห่วงว่าหนูจะทำอะไรให้พี่รู้สึกอับอายแบบนี้อีกเพราะหนูจะไม่ยุ่งกับพี่อีกแล้ว” ฉันพูดออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง การไม่ต้องพูดคุยกัน ไม่ต้องทักทายกันอีกมันน่าจะดีที่สุดเพราะมันปลอดภัยต่อความรู้สึกของฉันมาก

“ไม่จำเป็นต้องอายนะ พี่ไม่ได้กำลังคุยกับใครและไม่มีแฟน” มันน่าแปลกที่ตอนนี้ฉันไม่ได้รู้สึกดีกับประโยคนี้เลยสักนิด ทั้งที่ความจริงฉันต้องดีใจสิที่เขายังไม่มีแฟน

“แล้วมาบอกทำไม? ถ้าจะจีบก็รอหนูสวยก่อนแล้วกันจะได้ไม่ต้องมีใครมาว่าอีก!” ไม่รู้รวบรวมความกล้ามาจากไหนถึงได้พูดออกไปแบบนั้น พี่ทิวนิ่งไปเลยค่ะ เขาคงไม่คิดว่าฉันจะพูดอะไรแบบนี้แต่มันโพล่งออกไปแล้วไง ช่างมันเถอะ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-52 ตอนพิเศษ ชีวิตหลังแต่งงาน

    ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ทอฝันเลี้ยงง่ายไม่อ้อนเลย ตอนนี้เพิ่งสิบเดือนเริ่มเกาะยืนแล้ว ดูท่าทางอีกไม่นานคงวิ่งจับไม่ไหวแน่นอน“คนสวย แม่ไปทำงานแล้วนะคะ หนูอย่างอแงกับพ่อนะ” พูดจบก็ก้มไปฟัดแก้มลูกสาวจนหนำใจเลยทีเดียว “หอมแต่ลูก ไม่หอมพ่อของลูกบ้างเหรอครับ”“ไม่ค่ะ!” ปากบอกปฏิเสธแต่ก็หอมครับ ว่านอนสอนง่ายจะตาย วันนี้เป็นวันหยุดผม หลังจากส่งน้องเสร็จก็แวะมาบ้านไอ้ริวต่อเลย รับปากมันไว้ว่าจะเข้ามาไง “เมื่อก่อนพกเมีย เดี๋ยวนี้พกลูก” ไอ้แบคเอ่ยแซวทันทีที่เห็นผมกับน้องทอฝัน“แล้วมึงเมื่อไหร่จะมี”“ทักได้เจ็บใจมาก” มันอยากมีครับ แต่ไอ้เกตุไม่ท้องสักที “น้ำยาไม่ดีก็แบบนี้แหละ”“ขยี้กันเข้าไป ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”... : ฮ่า ๆ“ไอ้ริว แล้วลูกมึงไปไหน”“อยู่ในเปลโน่น สองขวบกว่าแล้วยังติดเปลอยู่เลย ไปโรงเรียนกูว่าร้องตาย” น้ำเสียงมันเหมือนสิ้นหวังมากเลย“เอาน่ะค่อย ๆ ฝึกให้นอนพื้นทีหลังก็ได้”“ไม่หรอก ลูกกูอารมณ์แปรปรวนเก่งมาก แต่ไม่ซนนะ”“เป็นยังไงวะอารมณ์แปรปรวน”“อยู่ดี ๆ ก็ร้องไห้ ร้อง ๆ อยู่ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะได้อีกด้วย บางวันเดาอารมณ์ไม่ถูกเลย”“ไม่ลองปรึกษาหมอวะน่าจะช่วยได้

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/2 บทส่งท้าย

    หลายเดือนผ่านไปใกล้ได้เห็นหน้ากันแล้วครับ แอบกระซิบหน่อยว่าท้องใหญ่มาก และด้วยขนาดหน้าท้องที่ใหญ่เกินตัวจึงมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของน้องพอสมควร เหนื่อยง่ายทำอะไรไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อน “หนูลาคลอดเมื่อไหร่”“ยังเลยค่ะ หนูว่าจะทำจนคลอดเลย”“ว่าไงนะ” ไม่ได้หูฝาดไปแน่ ๆ ครับ“หมายถึงทำจนเจ็บท้องใกล้คลอดเลยค่ะ ลาได้เก้าสิบวันหนูอยากอยู่กับลูกนาน ๆ นี่ถ้าลาล่วงหน้าเป็นเดือนกลัวได้ใช้เวลาอยู่กับลูกน้อย” เห็นไหมครับ ไม่ได้มีแค่ผมสักหน่อยที่เห่อลูก“เข้าใจ แต่พี่อยากให้พักเดินจะไม่ไหวอยู่แล้วนะ”“แต่หนู...”“คุณแม่ดื้อเหรอครับ?”“ก็ได้ค่ะ” กำหนดคลอดเดือนหน้าแต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะคาดเคลื่อนก็ได้ต้องเตรียมตัวเอาไว้ก่อนครับพวกเราย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่แล้วและรับแม่กับยายมาอยู่ด้วยชั่วคราวเพราะไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียวไง ไม่ต้องห่วงนะครับว่าผิดที่ผิดทางแล้วยายผมจะเหงา เพราะเพื่อนบ้านก็มีคุณตาคุณยายอายุไล่เลี่ยกัน คุยกันถูกคอประหนึ่งว่ารู้จักมานานแรมปี“พี่ทิว”“ครับ?”“หนูอยากกินไข่ปลาทอด” ฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความหวังเชียว“มันหาซื้อได้ที่ไหน” ไข่ปลาน่ะรู้จักครับ แต่มันไม่ได้ม

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/1 บทส่งท้าย

    บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ถ้าพ่ออยู่ตรงนี้ด้วยก็คงจะดี... ตอนแรกตั้งใจจะเชิญแค่ญาติคนสนิทแต่ตากับยายคัดค้านค่ะ ให้เหตุผลว่าแม่เป็นลูกคนเล็กญาติทางนั้นก็สำคัญ ญาติทางนี้ก็สำคัญ ป้าบ้านนั้น น้าบ้านนี้ เยอะแยะไปหมด เป็นคนเก่าคนแก่ที่มีคนรู้จักนับถือเยอะก็อย่างนี้แหละ ไม่เป็นไรเอาที่ตากับยายสบายใจเลย พี่แบคกับพี่เต้อาสาเป็นพิธีกรให้ และไม่วายถูกตั้งคำถามประหลาด ๆ ตามเคย“เจ้าบ่าวครับ เห็นคุณผู้หญิงโต๊ะนั้นไหมครับ?” พี่แบคเอ่ยพลางชี้ไปที่คนกลุ่มหนึ่ง เป็นรุ่นน้องที่ทำงานของพี่ทิวนั่นแหละค่ะ“เห็นครับ”“สวยไหม?”“สวย”“คุณ! นี่งานมงคลของคุณนะครับ คุณกล้าชมผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าภรรยาเชียวเหรอ” คำถามกวนอารมณ์ถูกเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม“ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร มองแล้วเห็นว่าเป็นคนสวยปกติก็คือเป็นคนสวยเท่านั้นเอง กลับกันถ้าเราอยู่ใกล้คนที่เราชอบต่อให้หน้าตาธรรมดายังไงในสายตาเราเขาก็สวยที่สุดอยู่ดี” ประโยคหลังพี่ทิวหันมาพูดกับฉันทำเอาผู้คนในงานเอ่ยแซวเสียงดังไปทั่วบริเวณ“เจ้าสาวครับ”“ค่ะ”“คุณผู้ชายโต๊ะนั้นหล่อไหมครับ”“หล่อค่ะ”“แล้วระหว่างทางนั้นกับทางนี้ ใครหล

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-50 ครอบครัวของเรา

    ก่อนหน้านี้ประจำเดือนฉันมาสามวันค่ะ ปกติจะห้าหรือไม่ก็เจ็ดวัน แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นคนมีรอบเดือนไม่ปกติอยู่แล้ว แต่คราวนี้คงปล่อยผ่านไม่ได้แล้วแหละเลิกงานฉันซื้อที่ตรวจครรภ์มาด้วยห้าอัน อันละยี่ห้อไปเลยค่ะ มาถึงบ้านอาบน้ำเสร็จก็ตรวจเลย คุณหมอแนะนำมาว่าควรเป็นฉี่แรกของวันเพื่อผลที่แม่นยำ แต่มันตื่นเต้นไงอยากรู้จึงลองตรวจดูก่อนในความคิดฉันถ้าท้องจริงตรวจตอนไหนคงขึ้นสองขีดเหมือนกัน อันนี้คิดเอาเองนะคะลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะจุ่มที่ตรวจลงไป ใจเต้นแรงเป็นบ้าเลยค่ะ วินาทีที่แถบสีชมพูเริ่มเห็นชัดขึ้น ...“สะ สองขีด” เหมือนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ขีดที่สองมันจางมากแต่มองผ่าน ๆ ก็คือเห็นว่าเป็นสองขีด ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจนะคะแค่ไม่คิดว่าจะมาเร็วแบบนี้ฉันเพิ่งหยุดกินยาคุมเมื่อสองเดือนก่อนเอง ใครจะคิดว่าจะติดรวดเร็วทันใจขนาดนี้ล่ะ แล้วต้องทำยังไงต่อต้องบอกใครเป็นคนแรก?เช้าอีกวัน ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหิว ใช่ค่ะ! หิวจริง ๆ ลืมตามาก็อยากกินข้าวเลย ทำธุระส่วนตัวเสร็จออกมาข้างนอกเห็นแม่ทำกับข้าวอยู่ก่อนแล้ว“วันนี้ไม่ไปใส่บาตรเหรอ” “หนูตื่นสายเลยไม่ได้ไป แม่...”“ว่า?”“...”“เรียกแล้วไม่พูดนะ” พูด

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-49 การเดินทางของเราสองคน

    หลังจากทริปทะเลจบลงพวกเราก็กลับสู่บทบาทหน้าที่ตัวเองกันอีกครั้ง แอบเขินไปหลายวันเลยเรื่องที่เข้าใจผิด อย่างที่บอกเป็นใครก็ต้องคิดจริงไหม? ส่วนไอ้อาการหน้ามืดโลกหมุนของฉันก็ดีขึ้นมากแล้ว พี่ทิวดูแลดียิ่งกว่าหมอซะอีก“พอแล้วมั้งคะ” ถึงกับต้องเอ่ยปรามขึ้นเมื่อเห็นเขาหยิบผลไม้ใส่รถเข็นจนเยอะแยะไปหมด“อันนี้มีประโยชน์”“รู้... แต่หนูไม่ชอบนี่แค่อันนี้อย่างเดียวก็พอค่ะ” ฉันว่าพลางชี้มือไปที่กล่องสตอวเบอร์รี่“ครับ ซื้อเข้าห้องไปเลยแล้วกันเผื่อพรุ่งนี้พี่เลิกดึก”“โอเคค่ะ”ทุกครั้งที่เงินเดือนออกเราจะซื้อของเติมตู้เย็นเสมอ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนในส่วนเฉพาะของสดประมาณสองพันบาท ค่าน้ำ ค่าไฟอีกสองพันบาท จิปาถะยิบย่อยรวมทั้งหมดแล้วประมาณห้าพันอันนี้ฉันคำนวณเองนะ ส่วนค่าน้ำมันรถหรือของที่จำเป็นอื่น ๆ ยังไม่ได้คิดค่ะ ที่กล่าวมานี้อยู่ในความรับผิดชอบของพี่ทิวทั้งหมดฉันเคยบอกแล้วว่าเรื่องในครัวฉันรับผิดชอบเองได้แต่เขาไม่ยอมและให้เหตุผลว่าผู้นำครอบครัวเขาไม่มาแบ่งจ่ายกันหรอก ในเมื่อค้านอะไรไม่ได้ก็เลยใช้วิธีแยกซื้อต่างหากโดยที่พี่ทิวไม่รู้ ตั้งแต่คบกันมาสาบานได้ว่าฉันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาเ

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-48 มากกว่ารัก

    หมดกันเซอร์ไพรส์ของผม แอบรู้สึกผิดเหมือนกันนะเนี่ยทำน้องร้องไห้ไปหลายวันเลย ผมไม่ได้ตั้งใจ ที่ตั้งใจจริง ๆ คือบ้านต่างหากที่ดินตรงนั้นผมซื้อมันตั้งแต่ก่อนไปญี่ปุ่นหลายเดือนแล้วแต่ไม่ได้บอกน้องเพราะตั้งใจจะปลูกบ้านก่อน บวชแล้วค่อยแต่งไง แต่มันผิดแผนนิดหน่อย ปิดมาได้ตั้งนานดันมาตกม้าตายตอนบ้านเสร็จซะงั้น ครืด...ครืด…“ว่าไง”(จะเพิ่มเติมตรงไหนอีกหรือเปล่ากูจะได้บอกช่างถูก)“แก้ตรงสีไม่เสมออย่างเดียวก็พอ”(เออ ผัวกูถามว่ามึงจะเข้ามาดูไหม)“เข้าแหละ น่าจะพรุ่งนี้บ่าย”(กูถามจริงแฟนมึงไม่สงสัยบ้างเหรอ ถ้าเป็นกูคงจับได้ตั้งแต่ผัวกลับบ้านไม่ตรงเวลาละ)“จะเหลือเหรอ”(ฮ่า ๆ กูว่าแล้วเซอร์ไพรส์ไม่เคยสำเร็จ แล้วเขาว่าไง)“เปล่าหรอก เข้าใจผิดนิดหน่อย”(ไม่ใช่คิดว่ากูเป็นกิ๊กมึงหรอกนะ)“ประมาณนั้น”(ฉิบหาย!)“เกือบได้ฉิบหายจริง ๆ แต่ตอนนี้คุยกันเข้าใจแล้ว ไว้พรุ่งนี้กูพาไปด้วยเลย ไหน ๆ ก็รู้แล้วนี่”(เออ ไว้เจอกัน)ลูกหว้าเป็นเพื่อนร่วมงานครับ เราอยู่ทีมเดียวกันแต่คนละฝ่าย รู้จักกันตั้งแต่ฝึกงานไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เลย ส่วนที่น้องคิดไปไกลคงเป็นเพราะพฤติกรรมของผมมากว่า เรื่องนี้แม่กับยายก็รู้นะครั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status