LOGINวันหยุดฉันก็ไม่รู้จะไปไหนได้แต่นอนโง่ๆหายใจทิ้งในห้องเพียงลำพัง เมื่อคืนหลังจากออกจากในห้องน้ำพวกฉันก็แยกย้ายกันกลับไม่มีอารมณ์จะไปสนุกกับใครอีกแล้ว ไม่ใช่อะไรหรอก...ฉันก็แค่เข่าอ่อนยืนเต้นไม่ไหวแล้วก็แค่นั้นเอง!
หลังจากตื่นแปรงฟันล้างหน้าฉันก็โทรสั่งอาหารขึ้นมาทานบนห้องเสร็จเรียบร้อยฉันก็ลุกเก็บกวาดทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อย ล้างห้องน้ำทิ้งขยะทำอะไรเสร็จสิ้นฉันก็ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วเดินไปเคาะหน้าประตูอีฝ้ายมัน
“อีฝ้าย!อีฝ้ายมึงตื่นยัง!” ฉันร้องเรียกทั้งเคาะทั้งทุบอยู่สักพักถึงได้ยินเสียงคนเดินมาเปิด
“อ้าวไม่ใช่อีฝ้าย...” แต่เป็นผู้ชายคนนึงรูปร่างหล่อล่ำนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวติดกายโชว์หน้าอกเปลือยเปล่าน่าลูบไล้มาเปิดประตูให้แทน
“ฮ้าว...อีว่านน้อยๆหน่อยนี่อ่ะของกู!” สักพักอีฝ้ายก็เดินมากระแซะฉันตรงหน้าประตูแล้วเบี่ยงให้ฉันเดินเข้าห้อง
“แล้วนี่มึงมาทำอะไรแต่เช้าเนี่ยฮ้าว..” มันถามไปหาวไปอย่างคนอดหลับอดนอน
“เช้าที่ไหนอีควายนี่มันบ่ายแล้วไหม” ฉันด่ามันไป
“แหม่...ก็เมื่อคืนกว่ากูจะได้นอนก็สายแล้วไหมเหนื่อยจะตายเนี่ย” อีฝ้ายบอกแล้วพยักหน้าให้ผู้ชายของมันเข้าไปนอนต่อก่อนจากนั้นก็เตรียมหันมาไล่ฉันกลับแน่ๆ
“จะไล่กูกลับว่างั้น”
“แสนรู้ดีนี่!”
“ไปก็ได้อีคนเห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน” ฉันสะบัดเสียงใส่มันตามประสาเพื่อนที่เย้าแหย่กันเป็นประจำ
“เหมือนมึงไม่เคย”
“กูทำบ่อยฮ่าๆๆๆไปดีกว่าเชอะ!” ฉันก็เดินกลับมานอนต่อที่ห้องและวางแผนว่าคืนนี้จะชวนพวกมันไปตี้ต่ออีกผับนึงสักหน่อย แต่วันนี้พิเศษหน่อยฉันก็เลยต้องขุดตัวเองไปเดินห้างหาซื้อของสำคัญ...
แล้วก็เหมือนเดิมบอกแล้วว่าคิดจะคบกันต้องศีลเสมอกันถึงจะอยู่ด้วยกันได้สามทุ่มนิดๆพวกเราทั้งสี่ก็มาอยู่ที่ผับมีชื่อเหมือนเดิมตามประสาแก๊งสาวโสดที่อาจจะไม่โสดคนนึงดูจากเมื่อคืนที่อีฝ้ายมันยอมพามาห้องแสดงว่ามันต้องจริงจังระดับนึง
“อ้าวชนค่าา” ตอนนี้พวกฉันก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนแก้วกันแล้วกระดกขึ้นดื่ม
“หมดแก้วๆๆๆๆ” เสียงอีก้อยตะโกนบอกตามด้วยแต่ละคนที่ยกดื่มอย่างไม่มีใครยอมใคร
พวกเราก็ดื่มกันไปเม้าท์กันไปแอบส่องผู้กันไปเรื่อยๆก็มีหนุ่มๆแวะเวียนเข้ามาขอชนแก้วกันอย่างไม่ขาดสาย แต่คืนนี้ฉันว่าจะไม่หาเหยื่อแล้วเพราะเมื่อคืนจุกมากบอกเลย...
แต่บางครั้งกลับรู้สึกแปลกๆคลับคล้ายคลับคลาว่ามีสายตาของใครสักคนจับจ้องมาทางกลุ่มพวกเรา ไม่บ่งบอกว่าประสงค์ดีหรือประสงค์ร้ายใส่ แต่มันทำให้ฉันขนอ่อนในกายลุกวาบแปลกๆ แต่ก็นะเป็นธรรมดาก็กลุ่มฉันสวยหยอกน้อยที่ไหน มีแต่คนสวยๆอีฝ้ายก็ตัวเล็กๆทรวดทรงองค์เอวก็น่ามองหน้าตาสวยหวานๆ ส่วนอีก้อยออกแนวเซ็กซี่เอ๊กซ์ๆหน่อยเพราะหน้ามันสวยเฉี่ยวตัวสูงหุ่นนางแบบเลยล่ะแม้ว่าก่อนหน้ามันจะไม่ได้สวยแบบนี้มาก่อนก็ตาม ส่วนฉันก็สวยสุดในกลุ่มล่ะหน้าตานี่อั้มพัชราภายังชิดซ้ายญาญ่ายังต้องหลบทางให้อ่ะ^_^ไม่แปลกที่จะมีคนมาแอบมองบ่อยๆ
ส่วนอีพีทน่ะแต่งแมนๆมันก็หล่อชิบหาย แต่ถ้าลองได้แต่งหญิงขึ้นมาล่ะก็โยชิก็โยชิเถอะ! แต่อีพีทมันสะดวกแบบนี้ไงแต่ผู้ชายของมันก็ไม่เคยขาดมือเลยนะ
เวลาก็เดินผ่านไปเรื่อยๆจนเกือบจะเที่ยงคืนนักร้องนักดนตรีอยู่ๆก็สาดแสงไฟมาทางกลุ่มพวกฉันพร้อมๆกับที่พนักงานสองสามคนเดินมาที่โต๊ะพร้อมกับเค้กที่จุดเทียนไว้
“เอาล่ะครับเนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของแขกประจำร้านเราที่คืนนี้เพื่อนซี้เธอจะทำเซอร์ไพรส์ให้ ขอให้ทุกคนช่วยกันร้องเพลงวันเกิดให้เธอหน่อยนะครับแฮปปี้เบริดเดย์คุณก้อยด้วยนะครับ”
พนักงานเดินถือเค้กขนาดใหญ่ที่ฉันเป็นคนสั่งมาหยุดที่หน้าอีก้อยที่ยังทำท่าเอ๋อๆอยู่ แล้วทุกคนในผับก็ช่วยกันร้องเพลงแฮปปี้เบริดเดย์ให้จนจบเพลงแล้วอีก้อยก็ยังนั่งเอ๋ออยู่
“อีก้อยมึงอธิฐานแล้วเป่าเค้กสิ” เสียงอีฝ้ายกระซิบข้างหูอีก้อย
“เออๆ” อีก้อยหลับตาก่อนจะอธิฐานในใจและเป่าเค้กก่อนจะมีเสียงปรบมือให้ดังๆแล้วมันก็หันไปขอบคุณเบาๆ
“น่ารักมากเลยครับน่าอิจฉาที่น้องก้อยมีเพื่อนดีและสวยๆอย่างนี้” เสียงนักร้องที่อวยพวกฉันไม่ขาดสาย รู้หรอกว่าอยากได้พวกฉันน่ะ!
หลังจากนั้นก็โต๊ะใครโต๊ะมันส่วนอีก้อยมายืนชิดๆสุมหัวในกลุ่มแล้วพูดขึ้นว่า...
“วันนี้วันเกิดกูหรอ?” อ้าวสงสัยทำงานจนเบลอเลยลืมวันเกิดตัวเองจนได้สินะ!
“ก็ใช่ดิยี่สิบสี่ตุลาวันเกิดมึงไง” ฉันตอบกลับไปแต่อีพีทกับอีฝ้ายมันหลุดขำออกมา
“อีว่าน!กูเกิดวันที่ยี่สบหกตุลาอีกตั้งสองวันนู่น” มันบอกพร้อมกับกลั้นขำก่อนที่จะทนไม่ไหวแล้วมันก็หัวเราะลั่นออกมา
“อ้าว!” เอ๋อสิกูจำวันเกิดเพื่อนผิด
“แล้วทำไมมึงไม่ท้วงกูอีพีทอีฝ้าย” ฉันหันไปเอาเรื่องอีสองตัวที่รู้แต่ไม่ยอมคร้านแต่แรก
“ฮ่าๆๆกูเห็นมึงสั่งเค้กไว้แล้วก็ไม่อยากขัดไงไม่เป็นไรๆถือว่าฉลองล่วงหน้าให้มันล่ะกัน” พวกมันขำกันใหญ่ส่วนฉันก็ยืนหน้ามึนๆอยู่
“ยังไงก็ขอบคุณมึงมากนะว่านที่เป็นเพื่อนที่ดีมาตลอดแม้จะจำวันเกิดกูผิดก็ตาม พวกมึงด้วยอีฝ้ายอีพีทขอบคุณที่ยอมคบกับเพื่อนที่เคยอัปลักษณ์อย่างกูไม่รังเกียจและคอยช่วยเหลือกูทุกอย่าง”
“คิดมากเรื่องมันผ่านมานานแล้วมึงลืมมันเถอะมีความสุขกับปัจจุบันดีที่สุดกูรักพวกมึงนะ!” อีพีทกอดคอเราทั้งสี่ไว้ด้วยกัน
“กูด้วยกูก็รักพวกมึงมากๆเหมือนกัน” อีฝ้ายร้องไห้โฮๆบอก อ้าวอีสัสนี่ดราม่าเฉย!
“กูก็รักพวกมึงทุกคน” ฉันกับอีก้อยพูดพร้อมกัน
ว่าจะไม่ร้องไห้แต่มันก็อดกลั้นเอาไว้ไม่ได้เมื่อคิดถึงอะไรๆหลายๆอย่างที่เคยผ่านด้วยกันมามีทั้งสุขและทุกข์แต่ว่าเราก็ก้าวผ่านมันมาได้
“แดกเหล้าต่อเถอะพวกมึงจะดราม่าทำไมเนี่ย!” อีพีทดันพวกเราออกจากกันก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมารอชนแก้ว
“เอ้าาชนนน!”
“เฮ้้ๆๆ”
คืนวันเสาร์ก็จะมีลูกค้าเยอะๆหน่อยเป็นธรรมดาบางทีก็มีคนเดินเบียดกันไปเบียดกันมาบ้างเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือมีคนมายืนเบียดฉันจากทางข้างหลังแล้วหยุดนิ่งไม่ขยับไปไหนเลย
“เอ่อ...คุณคะ?เขยิบออกไปหน่อยได้ไหมคะคือฉันอึดอัดน่ะ” ฉันหันไปหาเขาโดยที่ยังไม่ทันมองหน้า
“อ้าว...เอ่อขอโทษจริงๆครับพอดีข้างหลังเค้าเบียดผมมาขอโทษด้วยนะครับ” ผู้ชายคนนั้นก้มหัวให้เป็นเชิงขอโทษในขณะที่ฉันกำลังเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ไม่เป็นไรค่ะ” พอตาประสานรู้สึกถึงอะไรบางอย่างมันสปาร์คขึ้นมาทันที
“เอ่อพวกมึงกูมึนๆอ่ะเดี๋ยวออกไปสูดอากาศข้างนอกสักหน่อยก่อนนะ” ฉันหันไปตะโกนบอกเพื่อนเสียงดังๆให้เขาได้ยิน
“อีแรด...ถูกใจล่ะสิคนนี้” พวกมันกระซิบด่าฉันเบาๆไม่ให้เขาได้ยิน
“รู้ดีอีดอกกูไปก่อนอิอิ”
ฉันเดินเบียดเสียดเขาออกไปจังหวะที่เดินเบียดช่วงอกฉันก็เสียดสีกับอกแกร่งของเขาพอดิบพอดี วินาทีนั้นฉันรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ราวกับมีสายตาของใครจับจ้องมาอย่างกับจะทิ่มแทงกันให้ตายไปข้างนึงเลย
“ผมขอไปด้วยได้ไหมครับ?”
“อืมได้สิคะ!”
แล้วเขาก็เดินตามฉันมาจนกระทั่งเราออกมายืนอยู่ด้านหน้าผับที่มีโต๊ะตัวเล็กๆให้นั่งมีไฟส่องสว่างพอให้ได้เห็นหน้ากัน
“คุณสวยจัง...ยิ่งมองใกล้ๆยิ่งสวย” ตอนนั่งลงข้างๆกันเค้าก็หันหน้ามาหาแล้วมองตาหวานฉ่ำใส่
“บ้า!ชมแบบนี้ว่านก็เขินแย่!” ฉันแสร้งยกมือตีบนอกแกร่งเบาๆจังหวะนั้นก็แอบลูบไปตามอกล่ำๆเพื่อสำรวจเรือนร่างเขาไปด้วย
หู้ยยย แน๊นแน่น! กล้ามอกเป็นมัดๆน่ากัดจริงๆ
“ชื่อว่านหรอครับชื่อน่ารักจัง”
“ค่ะแล้วคุณล่ะชื่ออะไร?” ปกติไม่ค่อยถามขื่อใครสักเท่าไหร่เพราะพอแยกย้ายก็ต่างคนต่างไปจบเลย แต่นี่ก็คุยๆไปก่อน
“พายุครับ...”
“อ๊ะ!” ฉันร้องออกมาเบาๆแล้วทำท่าสะบัดๆตรงหลังคอ
“คุณว่านเป็นอะไรหรอครับ...ให้ผมดูให้ไหม?” เขาถามสีหน้าตกใจแต่แววตาเปล่งประกายแปลกๆ
“อะ..อะไรกัดว่านไม่รู้ค่ะตรงข้างหลังคุณพายุช่วยดูให้ว่านทีค่ะ” ฉันบอกพร้อมกับสายเสื้อที่ผูกตรงต้นคอออก คอลเล็คชั่นถอดง่ายๆใส่คล่องๆแบบนี้ที่บ้านฉันมีเยอะบอกเลยแทบจะทุกสีอ่ะ
“อาาาห์~ขาว”
“อะไรนะคะ?”
“อ๋อเปล่าๆครับแดงๆนิดหน่อยแต่ยังหาตัวไม่เจอเดี๋ยวผมขอเลิกดูหน่อยนะครับไม่รู้ว่ามันจะไปกัดตรงไหนอีกบ้าง”
เขาบอกพร้อมกับทำท่าจะสอดมือเข้าไปในแผ่นหลังฉันแล้วลูบไล้หาตัวที่มันมากัดฉันไปมาจนปลายนิ้วเกือบไถลแทรกเข้าไปที่หน้าอกอีกแต่นิดเดียวเท่านั้น
หูฉันได้ยินเสียงเขาหอบหายใจหนักๆขณะที่ฝ่ามือเขาก็ลามลงไปด้านหน้าอกฉันทันทีที่เห็นว่าฉันไม่ว่าอะไร
“อ่าาห์~ใหญ่จัง...นุ่มมือด้วย!” เขาครางแหบพร่า
ทว่ากำลังเพลินๆกับสองมือเขาที่เคล้าคลึงขยำเต้าฉันอยู่ก็ถูกดึงร่างออกกระเด็นมาติดอกของใครบางคน
“เฮ้ย!” เสียงพายุร้องขึ้น
“คะ..คุณมาได้ไงอ่ะ” เสียงฉันเอ่ยถามไอ้คนเมื่อคืนที่บังคับกินตับฉันไปแล้วตะปบเสื้อเอาไว้ไม่ให้มันล่วงลงไปโป๊แล้วรีบผูกมันไว้บนต้นคอลวกๆ
“ร่านไม่เลิก!สงสัยต้องโดนจัดหนักๆให้!!” เขาคำรามจนเส้นเลือดตรงลำคอปูดโปนพลางบีบต้นแขนฉันแน่นจนเจ็บ
“ปล่อยฉันนะคุณมายุ่งอะไรด้วย!” ฉันพยายามสะบัดแขนออกจากเขาแล้วส่งสายตาไปหาพายุ
“ปล่อยว่านนะ!” พายุผลักอกเขาแล้วพยายามดึงตัวฉันออก
“เรื่องของผัวเมียมึงไม่ต้องเสือกไสหัวไปให้พ้น!” เขาตะคอกใส่พายุจนเค้าหน้าเสียและเดินคอตกไปเมื่อได้ยินคำว่าผัวเมีย
เพี๊ยะ!
ฉันตบหน้าเขาไปแรงๆหนึ่งทีคนกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มมาขัดทำไมก็ไม่รู้แล้วมีหน้ามาพูดว่าเป็นผัวเมียเหอะ!!
“ถ้าการที่นายได้เอาฉันครั้งเดียวแล้วเป็นผัวฉันถ้างั้นทั้งผับนี้ก็คงเป็นผัวฉันหมดเหมือนกันนั่นแหละ!” ฉันตะคอกใส่หน้าเขา
“หึ!ร่านนักใช่ไหม?” เขาขบกรามกำมือแน่นจนเส้นเลือดตรงแขนปูดขึ้นแล้วแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ ส่วนมือเขาก็กระชากลำตัวฉันเข้ามาใกล้
“ฉันจะร่านมันก็ตัวฉันไม่เกี่ยวกับนาย!”
“แต่ผมจะทำให้คุณเลิกร่านให้ได้ไงมานี่!!” เขาฉุดกระชากลากถูฉันไปตามทางที่จอดรถแล้วปลดล็อครถคันนึงแล้วเปิดประตูผลักฉันเข้าไป
จากนั้นก็วิ่งอ้อมไปขึ้นรถแล้วขับออกไปโดยที่ฉันไม่มีโอกาสได้ขัดขืนเลยสักนิด อีหยังวะ!ชีวิตฉันที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาเรียกร้องหรือทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ต่างฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนความสุขกันแม้จะไม่ได้สอดใส่ในตัวกันก็ตาม บางคนที่ฉันเต็มใจให้สอดใส่พอเสร็จกิจก็แยกย้ายต่างคนต่างไปไม่เคยมีใครเหมือนนายนี่สักคน
แล้วเขาจะมาเรียกร้องอะไรจากฉันวะ!
“นายจะพาฉันไปไหน?” ฉันถามทำใจดีสู้เสือแม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าโกรธจนแทบจะหักคอฉันได้เลย
“เดี๋ยวก็รู้!” เขาตอบแค่นั้นแล้วเหยียบคันเร่งชนิดนักแข่งยังต้องยอมแพ้เหยียบมิดตันเร่งจนฉันหลับตากรีดร้องลั่นรถเพราะความกลัวตาย
นี่ฉันก็เลยวัยเบญจเพศมาแล้วนี่หว่าทำไมปีนี้ฉันซวยนักวะ! หรือว่าจะถึงคราวเลิกทำตัวรักสนุกเสียที
ไม่รู้ว่าตัวเองกรีดเสียงร้องมานานแค่ไหนรู้ตัวอีกทีรถก็มาหยุดอยู่ที่ไหนสักที่ทั้งเงียบและมืดสนิทข้างหน้าเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆที่มองเห็นเพียงเงาลางๆ
“ที่นี่ที่ไหน?” เพิ่งรู้ว่าตัวเองเสียงหายจนแหบแห้งไปหมดก็ตอนนี้เอง
“อยากรู้ก็ลงไปสิ!” เขาบอกพร้อมกับดับเครื่องรถแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเปิดไฟฉายแล้วเปิดประตูรถลงไป
สักพักเขาก็มาเปิดประตูฝั่งฉันออกแล้วกระชากแขนฉันเดินลงไป
“มะ..ไม่ไป!” เขาจะพาฉันมาฆ่าทิ้งหมกป่าหรือเปล่า เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันเพิ่งอ่านข่าวกิ๊กสาวถูกลวงไปฆ่าหมกป่ากว่าคนจะรู้ศพก็อืดหมดแล้ว
“มะ..ไม่นะฉันยังไม่อยากตายแบบศพไม่สวย!” ราวกับหูแว่วได้ยินเสียงเขาหัวเราะหึหึในลำคอเบาๆ
“ผมจะทำให้คุณสวยๆแล้วกันนะ” เขาบอกสีหน้านิ่งขรึม
ไม่ใช่สิน่ีไม่ใช่คำตอบที่ฉันต้องการสักหน่อยเขาต้องบอกว่า ‘ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก’ อย่างนี้ถึงจะถูก!
“คุณพาฉันมาที่ไหนแล้วพามาทำไม?” ฉันพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเพราะนึกกลัวขึ้นมาจริงๆ
“ก็แค่จะพาคุณมาเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆและก็แค่อยากดัดนิสัยให้คุณเลิกทำตัวมั่วผู้ชายแบบนี้สักที”
โหแรงมากพ่อ!!
“คุณจะมะ..ไม่ฆ่าฉันใช่ไหม?” ฉันหันไปเขย่าแขนเขารัวๆ
“ถ้าคุณไม่ขัดใจผมก็คงไม่ทำ”
“ฉะ..ฉันจะไม่ขัดใจคุณเลยจะยอมทำตามคุณทุกอย่างเลยค่ะ” พยักหน้าให้เขาอย่างว่าง่ายอะไรที่เป็นทางรอดฉันจะยอมทุกอย่างเลย
ยังคิดถึงกับข้าวฝีมือแม่อ้อมกอดจากพ่อฉันยังไม่พร้อมจะตายตอนนี้!
“ไปเข้าบ้าน” เขาบอกเสียงเข้มแล้วเดินลากฉันเข้าไปในบ้านที่พอเปิดไฟสว่างแล้วก็พบว่ามันสวยมากแม้จะเป็นแค่หลังเล็กๆกระทัดรัดก็ตาม
“บ้านย่าผมเอง...ไม่มีคนอยู่หรอกถ้ามีใครถูกฆ่าและเอาทิ้งน่าจะอีกนานกว่าจะมีคนมาเจอ” เขาบอกราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา
ม่ายยย!ฉันกลัวแล้ว!
ได้แต่ยืนทำตาปริบๆยืนนิ่งราวกับเป็นคนโง่งมไปเลย
“มะ..ไม่มีคนอยู่เลยหรอคุณ?” ฉันถามเบาๆน้ำเสียงแหบจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์
“อื้ม”
เราทั้งคู่เดินมานั่งที่โซฟากลางบ้านแล้วเขาก็หันมาจ้องหน้าฉันเขม็ง
“อะ..อะไร!” ฉันขยับตัวหนีท่าทางระแวดระวังไว้ก่อน
“ไปอาบน้ำกัน”
“ห๊ะชวนไปอาบน้ำตอนนี้เนี่ยนะ”
“อืมหรือว่าคุณจะนอนทั้งเหนียวๆตัวแบบนี้”
“ก็คุณไปอาบก่อนก็ได้นี่”
“อือเอางั้นก็ได้...แต่ที่นี่เค้าว่ากันว่าผีดุนะผมก็กลัวๆอยู่เหมือนกัน”
“ห๊าา!ปะ..ไปอาบพร้อมกันก็ได้คุณประหยัดน้ำดี!” ฉันแหกปากร้องบอกเขาทันที เรื่องอื่นฉันอาจจะเก่งแต่เรื่องผียกไว้สักเรื่องแล้วกันที่ฉันจะไม่สู้!!
.
.วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







