LOGIN“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”
เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ
“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”
“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว
“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น
“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ
“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย
“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้
“อย่าเสือกนี่แม่กู!”
“แม่มึงแต่เมียกู!”
“ไอ้สัสโจ้!”
ผลั๊ว!
เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย
“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให้ตามมาซ้ำผมอีกครั้ง
“กูไม่คิดเลยนะว่ามึงจะกล้าทำแบบนี้กับกูได้ แม่เองก็เหมือนกันนี่มันเพื่อนของผมนะทำไมแม่ถึงได้มักง่ายแบบนี้!”
“คิว...” พี่ปรางครางเสียงแผ่วน้ำตาหยดติ๋งๆเป็นทาง
“กูขอโทษ...แต่กูรักแม่มึงไปแล้วถึงแม้มันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม” ผมปาดเลือดตรงมุมปากออกแล้วบอกเพื่อนเสียงเบาลึกๆรู้สึกผิดเหลือเกินเพราะรู้ว่าไอ้คิวมันรักแม่มันมาก
“....” ไอ้คิวยังยืนนิ่งเงียบ
“ให้โอกาสกูได้ไหมคิวกูสัญญาว่าจะไม่ทำให้แม่มึงเสียใจเด็ดขาด”
“มึงกลับไปก่อนเถอะ!” คิวพูดแล้วเดินขึ้นข้างบนไปเลย
“โจ้กลับไปก่อนนะ..ไง้ให้คิวใจเย็นแล้วเราค่อยมาคุยกันใหม่เถอะนะ”
“ครับยังไงพี่ก็อย่าเครียดไปนะครับทุกอย่างมีทางแก้ไขเสมอผมรักพี่นะ”
“จ้ะ”
หลังจากนั้นผมก็ออกมาจากบ้านไอ้คิวตรงไปยังบ้านผม ตั้งแต่วันนั้นนี่ก็ผ่านไปห้าวันแล้วที่ผมไม่ได้เจอหน้าทั้งพี่ปรางและไอ้คิวอีกเลยพยายามไปหาที่บ้านพวกเขาก็หลบหน้า มหาลัยไอ้คิวก็ไม่ยอมไปจนผมจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย
ห้าวันที่ไม่ได้เห็นหน้าไม่ได้ยินแม้แต่เสียงมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกร้อนรนเป็นห่วงพี่ปรางไปหมดไม่รู้ว่าจะปรับความเข้าใจกับไอ้คิวได้หรือยัง แล้วผมจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่กัน
คืนนี้แหละผมจะไม่ทนอีกแล้วต่อให้ต้องปีนบ้านเข้าไปหาเสี่ยงกับส้นตีนของไอ้คิวก็ช่าง แต่ผมจะไม่ทนรอแบบนี้อีกแล้ว
รอจนได้โอกาสเหมาะตอนนี้น่าจะราวๆตีสามทั้งบ้านเงียบสนิทผมค่อยๆย่องไปทางหลังบ้านที่มีต้นไม้สูงใหญ่แล้วไต่ปีนขึ้นไปช้าๆ โชคดีที่ต้นไม้ต้นนี้มันดันอยู่ตรงกับหลังห้องของพี่ปรางเข้าพอดีผมจึงได้โอกาสเหมาะ
ปีนไปจนถึงหลังห้องได้สำเร็จก็พบว่าพี่ปรางไม่ได้ล็อคประตูหลังห้องเอาไว้ ผมก็ค่อยๆเลื่อนประตูเปิดแล้วแทรกตัวเข้าไปในความมืดช้าๆ บรรยากาศในห้องเย็นฉ่ำไปด้วยเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่ตลอด
กลิ่นหอมอ่อนๆกระจัดกระจายอยู่เต็มห้องกลิ่นตัวหอมๆของพี่ปรางผมจำได้ เดินไปทรุดนั่งลงบนขอบเตียงแล้วแทรกตัวลงไปนอนกอดร่างนุ่มนิ่มภายใต้ผ้านวมผืนหนา ส่วนมือก็ควานหาคนเนื้อตัวนุ่มนิ่มเข้ามากอดแนบอก
แต่แปลก...ที่ไม่เจอกันแค่ห้าวันแต่ทำไมพี่ปรางถึง...
ผมควานหาเนื้อตัวที่แข็งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างสงสัยมือไม้ก็คลำเปะปะไปทั่วลำตัวจนกระทั่งไปเจออะไรบางอย่างที่มีเหมือนของผม...
“อ๊ากกกก!อะไรวะเนี่ย” ผมแหกปากร้องลั่นห้องเมื่ออยู่ๆไปจับเจอบางอย่างที่มันใหญ่พอๆกับของผมเลยล่ะสักพักมีคนมาเปิดไฟทำให้ผมเห็นชัดๆถนัดตาว่าคนที่ผมกอดอยํ่เมื่อครู่นี้คือไอ้คิวนั่นเอง
“ไอ้คิว!”
“กูคิดแล้วว่าคนอย่างมึงจะต้องมาปีนห้องแม่กูแน่ๆ”
“กูไม่สนอีกแล้วนะว่ามึงจะรับกูได้หรือไม่รับแต่กูรักพี่ปรางกูรักแม่ของมึงแล้วกูก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด”
“แม้ว่ากูจะแจ้งตำรวจมาจับมึงข้อหาบุกรุกบ้านกูอ่ะนะ!”
ไอ้คิวบอกพลางกวาดสายตามองผมนิ่งๆ จากการที่คบกันมานานพอสมควรผมรู้ว่มันทำจริงแน่ๆ
“แล้วแต่มึงเลยคิวถ้าอยากให้น้องมึงเกิดมาโดยไม่มีพ่ออ่ะ”
ผมเองก็ตอบมันไปอย่างไม่สะทกสะท้านเหมือนกัน แม้จะไม่รู้ว่าน้ำยาผมจะทำงานดีหรือเปล่าหรือแม้ว่าผมจะยังเด็กอยู่ก็ตาม แต่ทว่าคืนนั้นเราก็ไม่ได้ป้องกันเลยสักครั้ง แต่ถึงจะมีเค้ามาผมก็สามารถเลี้ยงไหวอยู่แล้วล่ะ
“ไอ้สัสโจ้นี่มึงสดกับแม่กูเลยหรอ”
“กูขอโทษ...แต่กูพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง”
“มึงจะรับผิดชอบยังไงไหวลำพังตัวมึงยังเอาตัวแทบไม่รอดเลยมั้ง”
“มึงจะเรียกสินสอดเท่าไหร่ล่ะบอกมาสิ” นี่มาถึงยุคที่ผมต้องมาเจรจาสินสอดกับลูกชายของว่าที่เจ้าสาวของผมแล้วหรอวะเนี่ย...
“หนึ่งล้านถ้าพรุ่งนี้เช้ามึงไม่มีมาวางที่นี่ก็ไสหัวไปให้พ้นหน้ากูกับแม่ได้เลย”
“...คิว” เสียงพี่ปรางครางชื่อไอ้คิวอย่างไม่แน่ใจดูท่าเธอจะกลัวว่าผมจะไม่มีสินสอดมาวางกระมัง
“เออ!ตามนั้น”
“โจ้!ตะ..แต่ว่า” พี่ปรางทำท่าจะคร้านแต่ผมส่ายหน้าไม่ให้เธอพูดอะไร
“ไม่เป็นไรพี่รอเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของผมก็พอ” ผมบอกเธออย่างมั่นใจเงินหนึ่งล้านบาทไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผมอยู่แล้ว
“แล้วเธอจะหาเงินจากไหนเงินไม่ใช่น้อยๆเลยนะ!พอเถอะทั้งสองคนอย่าทำแบบนี้เลยนะ” พี่ปรางหน้าซีดเซียวน้ำตาคลอเบ้าอย่างน่าสงสาร
“พรุ่งนี้เก้าโมงเช้ากูจะมาใหม่พี่ปรางไปนอนเถอะทำใจให้สบายไม่ต้องคิดมากพรุ่งนี้เช้าเจอกันนะครับคนดี” ผมหันไปกระซิบปลอบคนตัวเล็กที่สีหน้าอ่อนล้าคงเพราะเครียดๆอยู่
“....” พี่ปรางไม่ได้ตอบอะไรแต่พยักหน้ารับรู้ทั้งที่แววตายังคงเป็นกังวลส่วนผมมองหน้าไอ้คิวแป๊บนึงก็เดินออกไปจากห้องทันทีโดยที่มันเองก็ไม่ได้พูดอะไร
แปดโมงเช้าผมรีบตื่นไปธนาคารแต่เช้าเพื่อเบิกเงินสดหนึ่งล้านบาทออกจากบัญชีส่วนตัว โดยที่เรื่องนี้คนที่บ้านผมก็รู้เรื่องทั้งหมดและจะตามไปสมทบกันที่บ้านไอ้คิวทีหลัง ส่วนเงินหนึ่งล้านที่ผมเบิกออกมานั่นก็เป็นเงินปัณผลรายปีที่บริษัทพ่อกับแม่ผมให้ลูกๆทุกคนโดยการฝากเข้าบัญชีธนาคารไว้ให้ โดยที่ผมไม่เคยเอาออกมาใช้เลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเบิกออกมา
แม้ว่ามันจะไม่น่าภูมิใจเท่ากับเงินเก็บของตัวเอง แต่ทว่านี่ก็ถือเป็นเงินส่วนตัวของผม บางทีไอ้คิวมันอาจจะไม่คิดว่าคนอย่างผมจะมีเงินมากมายมาให้แม่มันเยอะขนาดนี้มันถึงยื่นเงื่อนไขนี้มาให้ผม แต่ยังไงก็ตามผมก็เข้าใจทุกอย่างที่มันทำก็คงเพราะเป็นห่วงแม่ของมันนั่นแหละ
เก้าโมงตรงแป๊บตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าบ้านของไอ้คิวกับพี่ปรางประตูบ้านถูกเปิดอ้าไว้รอราวกับกำลังรอคอยผมอยู่ ผมเดินเข้าไปในตัวบ้านพร้อมกับกระเป๋าใส่เงินสดๆ
งานนี้บอกเลยว่าผมไม่ได้มาเล่นๆดต่จะมาเอาเมียนะครับ!
อีกไม่นานผมก็เรียนจบและก็มีอีกเยอะที่แต่งงานมีครอบครัวไปด้วยเรียนไปด้วย บางคนเลี้ยงลูกไปพร้อมก็มี
“โจ้...” ทันทีที่เห็นหน้าผมพี่ปรางก็ทำท่าดีใจและมองผมอย่างมีความหวัง
“อ่ะนี่เงินหนึ่งล้านบาทมึงจะลองนับดูก็ได้” ผมวางกระเป๋าเงินลงตรงหน้าไอ้คิวแล้วมองหน้าคนสวยของผมที่ตอนนี้แม้จะตาบวมช้ำแต่ยังคงความสวยไว้เสมอ ดูท่าเมื่อคืนคงจะนอนร้องไห้ทั้งคืนสิท่า
ไอ้คิวเปิดประเป๋าเงินเพื่อดูก่อนจะตาเบิกกว้างเมื่อเห็นเงินเป็นปึกๆนอนเรียงอัดแน่นอยู่ในกระเป๋าแล้วมองหน้าผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“นี่...มึงเอาเงินมาจากไหนตั้งมากมายขนาดนี้ไอ้โจ้!” ไอ้คิวถามผมอย่างตกใจ
“เงินเก็บของกูเอง มึงคงจะไม่รู้ว่ามีเพื่อนรวยขนาดไหน” ผมไม่ได้จะอวดอ้างจริงๆนะเพราะที่ผ่านมาผมทำตัวติดดินมาโดยตลอดขับรถเก๋งธรรมดาทั้งๆที่ผมสามารถซื้อรถนอกราคาหลายล้านมาขับก็ได้ ไม่แปลกหรอกถ้ามันจะตกใจไปบ้าง
“เชี้ย!มึงแม่งบ้าว่ะ” ไอ้คิวครางอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ก็กูบอกแล้วว่ากูจริงจังกับแม่มึง” แล้วก็พอดีกับมีเสียงรถเข้ามาจอดในบ้านซึ่งนั่นก็เป็นพ่อกับแม่ผมเองที่มาถึงพอดี
"เอ่อ..นี่พ่อกับแม่ผมครับ แล้วก็นี่พี่ปรางแฟนผมครับพ่อส่วนนี่ไอ้คิวเป็นลูกชายของพี่ปรางแล้วก็เป็นเพื่อนของผมเองครับ" ผมหันไปแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันโดยมีสายตาอึ้งๆของทุกคนมองอยู่
"สะ..สวัสดีค่ะ" พี่ปรางยกมือไหว้พ่อกับแม่ผมโดยมีไอ้คิวทำตามด้วยท่าทางงงๆราวกับคนทำอะไรไม่ถูก
"ไหว้พระเถอะลูกแหมก็สวยอย่างนี้นี่เองตาโจ้ถึงได้รีบร้อนให้แม่มาสู่ขอให้ก่อน" แม่ผมเอ่ยแซวสีหน้ายิ้มๆไม่ได้เกรี้ยวกราดหรือวิตกกังวลอย่างใดแม้ว่าผมจะได้แฟนที่อายุมากกว่าหลายปี พวกท่านบอกว่าเลี้ยงลูกก็เลี้ยงได้แค่ตัวเท่านั้น ส่วนหัวใจถ้าลูกรักใครแล้วคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็พร้อมจะรักด้วย ถือว่าผมโชคดีมากจริงๆที่มีครอบครัวที่รักและเข้าใจผมขนาดนี้
การเจรจาผ่านไปได้ด้วยดีผมกับพี่ปรางหมั้นกันไว้ก่อนด้วยเงินสดหนึ่งล้านบาทที่ผมนำมาด้วย แต่ปีหน้าถ้าผมเรียนจบเราสองคนก็จะแต่งงานกันทันที แต่ในระหว่างนี้เราสองคนก็สามารถใช้ชีวิตด้วยกันได้โดยไม่จำเป็นต้องปิดบังใคร ไอ้คิวก็ยอมตกลงด้วยดีเพราะแพ้ความน่ามึนของผม
ครอบครัวผมก็รักและเอ็นดูพี่ปรางมากจนตอนนี้กลายเป็นว่าผมแทบตกกระป๋องไปแล้วสิครับ ส่วนไอ้คิวก็ไปตกหลุมรักกับน้องที่เจอกันที่โรงหนังจนตอนนี้ก็คบกันอย่างจริงจังเรียบร้อยและเลิกเจ้าชู้เด็ดขาดเช่นเดียวกับผม
สองปีให้หลังผมกับพี่ปรางก็แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันอย่างเป็นทางการพร้อมกับที่ตอนนี้เธอเองก็อุ้มท้องกลมๆลูกของผมกับเธออยู่หลังจากที่เราเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่ถึงปีผมก็หมั่นปั้มทั้งวันเพื่อทำหลานให้ปู่กับย่าไว้เลี้ยงเล่นจะได้ไม่เหงาจนตอนนี้ก็ใกล้จะได้ครบกำหนดคลอดแล้วล่ะหลังจากที่คุมมาเป็นปีพอปล่อยปุ๊บก็ติดปั๊บน้ำยาแรงดีจริงๆเลยผมเนี่ย
ถึงอายุจะห่างกันหลายปีแต่ทว่าชีวิตคู่ของเราสองคนราบรื่นดียิ่งกว่าอะไร นับวันเมียผมยิ่งมีลูกกับยิ่งสวยวันสวยคืนจนผมอดไม่ได้ขยันทำการบ้านทุกคืนๆจนไม่นานไอ้คิวก็ได้น้องชายคนที่สองมาเล่นด้วยหลังจากที่ได้น้องสาวคนแรกไปแล้ว
ความสัมพันธ์ของผมกับเพื่อนก็ยังแนบแน่นเหมือนเดิม เหมือนมันเองก็ทำใจยอมรับที่ผมจะกลายมาเป็นพ่อเลี้ยงมันอย่างเป็นทางการได้แล้ว และผมก็พิสูจน์ให้มันเห็นมาแล้วตลอดปีหลายที่ผ่านมาว่าผมรักและดูแลแม่มันอย่างดีมาโดยตลอด
(จบ...)
วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







