แม้ว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่จะก้าวหน้ามากการติดต่อสื่อสารสะดวกสบายแต่มารดาของเธอก็เป็นคนไม่เล่นสื่อโซเชียลการตามหาทางนี้ก็เลยยาก เธอกับพี่ชายไปถามที่บริษัททุกคนก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่ามารดาของเธอลาออกไปแล้วหนึ่งเดือน หญิงสาวไปตามดูที่ห้องเช้าของมารดาเจ้าของห้องก็บอกว่ามารดาของเธอย้ายออกไปแล้ว
รติรสตัดสินใจแจ้งความคนหายแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะสองปีแล้วที่อรสามารดาของเธอขาดการติดต่อกับรติรสและครอบครัว เธอคิดว่ามันผิดปกติอย่างมากจึงอยากจะไปกรุงเทพและเข้าไปทำงานในบริษัทที่มารดาของตนเองเคยไปทำงาน
หลังจากเก็บของและตรวจความเรียบร้อยแล้วรติรสก็ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาใส่ท้ายรถกระบะเพื่อให้คุณป้าไปส่งยังสถานีรถไฟ
“ไปถึงกรุงเทพกี่โมง”
“ประมาณตีสี่ตีห้าค่ะ”
“แล้วจะไปหาเพื่อนยังไง”
“หนูจะรอให้เช้าแล้วค่อยนั่งรถเมล์เข้าไปหานันท์ค่ะ”
“หนูไปถูกใช่ไหมโรส”
“ไปถูกค่ะป้าห้องพักของนันท์อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไหร่นั่งรถเมล์ไม่กี่ป้ายก็ถึง ป้าวรรณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ถ้าเจอนันท์แล้วหนูจะถ่ายรูปคู่กับนันท์ส่งให้ป้านะคะ ป้าจะได้สบายใจตกลงมั้ยคะ”
“ตกลงจ้ะ อย่าลืมนะโรสอย่าขาดการติดต่อไปอีก หนูรู้ใช่มั้ยความรู้สึกของคนที่รอมันเป็นยังไงคะ”
“หนูรู้และจะไม่ทำให้ป้าเป็นห่วง จะติดต่อป้าบ่อยๆ นะคะ หนูว่าป้ารีบขับรถไปส่งรถดีกว่านะเดี๋ยวจะตกรถไฟ”
รติรสมาถึงสถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ในเวลาเกือบจะตีห้าหญิงสาวเดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากนั้นก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่หอพัก เธอไม่อยากจะขึ้นรถเมล์เพราะกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็คงไม่สะดวกเท่าไหร่ เมื่อมาถึงด้านล่างหอพักก็ไลน์ขึ้นไปบอกเพื่อนรอไม่นานนวนันท์ก็เดินลงมารับ
“คิดถึงจังเลยโรส เป็นยังไงบ้าง นั่งรถไฟมาเหนื่อยไหม”
“โรสก็คิดถึงนันท์เหมือนกัน แต่คราวหลังเก็บตังค์ซื้อตั๋วเครื่องบินดีกว่า”
“นันท์ก็บอกแล้วให้รถนั่งเครื่องมาแต่โรสก็ไม่ยอม”
“ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มงานก็เลยจะประหยัด”
“ประหยัดเงินก็จริงแต่มันเสียเวลาไง”
“โรสก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ คราวหน้าค่อยนั่งเครื่องบินดีกว่า”
“ถ้างั้นรีบเอาของขึ้นไปเก็บเถอะ จะได้นอนพักแล้ว”
“วันนี้นันท์ต้องไปทำงานไหม”
“ไปสิแต่บริษัทที่นันท์ทำงานอยู่ใกล้ๆ นี่เองเข้างานเก้าโมง ออกจากห้องพักแปดโมงกว่าๆ ก็ได้”
“โรสคงไม่มารบกวนเวลานอนใช่ไหม”
“ไม่หรอกน่าอย่าคิดมากเราเพื่อนกันรีบขึ้นไปกันดีกว่านะ”
ห้องพักของหนูนวนันท์เป็นห้องขนาดหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำมีห้องครัวเล็กๆ ไว้ปรุงอาหารง่ายๆ เตียงนอนขนาดห้าฟุตทำให้สองสาวนอนกันยังไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่
“คิดว่าจะอยู่ได้ไหมโรส”
“อยู่ได้สิ แต่นันท์จะอึดอัดหรือเปล่าที่มีโรสมาอยู่เพิ่มอีกคน”
“ไม่หรอกมีโรสมาอยู่ด้วยนันท์ก็หายเหงา”
“แล้วเจ้าของหอเขาจะว่าไหม” เธอกลัวว่าการมาของตนเองจะทำให้เพื่อนมีปัญหา
“เขาไม่ว่าอะไรเพราะบางห้องก็อยู่กันสองสามคน เขาคิดค่าน้ำเพิ่มอีกแค่คนละร้อยห้าสิบบาทแค่นั้นเอง โรสมาเหนื่อยๆ จะนอนพักก่อนไหม”
“โรสขออาบน้ำก่อน ตอนนี้ตัวเหม็นมากเลย”
“ได้สิห้องน้ำอยู่ตรงนั้น”
“นันท์นอนต่อเถอะ เดี๋ยวโรสหนูอาบน้ำแล้วก็จะไปนอนเหมือนกัน”
“งั้นนันท์ขอนอนต่ออีกสักชั่วโมงนะ”
เมื่อเจ้าของห้องล้มตัวลงนอน รติรสก็เปิดกระเป๋าเดินทางเอาของใช้ที่จำเป็นออกมา จากนั้นก็เปิดประตูห้องน้ำอาบน้ำสระผมและนั่งเช็ดผมจนกระทั่งเจ้าของห้องตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะแปดโมง
“โรสอย่าบอกนะว่ายังไม่ได้นอน”
“ผมยังไม่แห้งเลยไม่อยากนอน”
“ไดร์เป่าผมในตู้เสื้อผ้า”
“โรสเห็นแล้วแต่กลัวว่าจะทำให้นันท์ตื่น”
“ขี้เกรงใจเหมือนเดิมเลยนะ จริงๆ แล้วเสียงดังแค่ไหนถ้านันท์จะหลับยังไงก็หลับได้ ไหนๆ ก็ไม่นอนแล้วเดี๋ยวลงไปหาอะไรกินกันไหม นันท์จะพาโรสไปดูว่าแถวนี้มีร้านอะไรบ้าง”
“จะไม่เสียเวลาเหรอนันท์”
“ไม่หรอกตอนนี้ยังไม่แปดโมงเลย จากที่นี่ไปบริษัทที่นันท์นั่งรถเมล์แค่นิดเดียวเอง แล้วบริษัทที่โรสไปสมัครงานอยู่ไกลมากไหม” นวนันท์จำไม่ได้ว่าบริษัทที่เพื่อนพูดถึงนั้นอยู่ตรงไหนก็เลยถามเพื่อความแน่ใจอีกสักครั้ง
“ก็อยู่ห่างจากหอของนันท์ไกลอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าตื่นเช้าหน่อยขึ้นรถไฟฟ้าไปก็ไม่น่าจะมีปัญหา เดี๋ยววันนี้โรสจะลองไปดูก่อนว่ามันจะมีทางไหนไปได้ไวที่สุด”
“แล้วเขาให้ไปเริ่มงานวันไหนนะ”
“เขาให้ไปฟังการชี้แจงรายละเอียดวันมะรืน ส่วนเริ่มงานก็วันจันทร์หน้า”
“โรสแน่ใจนะว่าตัวเองจะทำงานตำแหน่งแม่บ้านจริงๆ”
“แน่ใจสิ ตำแหน่งนี้แหละดีที่สุด เข้านอกออกในห้องใครก็ได้โรสจะได้สืบด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแม่ทำไมแม่ถึงหายไป โรสคิดว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในบริษัทแน่ เขาเป็นบริษัทของชาวต่างชาตินะ บางทีอาจจะพาผู้หญิงขายออกนอกประเทศไปแล้วก็ได้” รติรสตั้งขอสังเกต
“ทำไมคิดแบบนั้น แม่โรสไม่ใช่เด็กสาวนะ”
“โรสก็แค่เดามั่วๆ เพราะนึกไม่ออกเลยว่าทำไมจู่ๆ แม่ถึงหายไปแล้วส่งเงินก้อนสุดท้ายให้โรสกับป้ามากจริงๆ เงินสิบล้าน แม่ต้องทำงานเท่าไหร่กันถึงจะได้เงินจำนวน มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่พนักงานกินเงินเดือนอย่างจะเก็บเงินได้มากถึงสิบล้าน”
“อาจจะเป็นโบนัสก็ได้นะโรส”
“แต่มันมากเกินไปนะนันท์มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอยู่ในบริษัทนั้นแน่ๆ หรือบางทีแม่ของโรสอาจจะเป็นอะไรไปแล้วเงินก้อนนั้นทางบริษัทก็ชดเชยให้ แต่โรสคิดว่ามันไม่ยุติธรรมหรอกต่อให้เงินจะมากมายแค่ไหนมันก็แลกกับชีวิตคนไม่ได้ ถ้าพวกเขาทำอะไรแม่โรสจริงๆ โรสก็จะต้องเอาผิดเขาให้ได้”
“ดูละครมากไปหรือเปล่าโรส ใครเขาจะทำอย่างนั้น”
“ไม่รู้แหละก็มันน่าสงสัยนี่ แม่โรสเป็นแค่พนักงานบริษัทธรรมดานะแต่มีเงินให้โรสกับป้าถึงสิบล้าน มันแปลกไหมล่ะ”
“พูดถึงแปลกมันก็แปลกนะ แต่โรสเข้าไปทำงานก็ต้องห่วงตัวเองด้วยนะ ไม่ใช่ไปถามคนอื่นให้มั่วไปหมด เดี๋ยวเขาจะสงสัยเอา”
“ไม่หรอกนันท์ โรสจะค่อยๆ ตีสนิทก่อนจากนั้นก็ค่อยถามไปทีละคนเพราะถามตรงๆ ก็คงไม่มีใครบอกหรอก”
“นันท์เอาใจช่วยโรสให้ตามเรื่องของแม่เจอก็แล้วกันนะ”
“ขอบใจนะนันท์”
เกือบเดือนแล้วที่รติรสกลับมาทำงานที่สวนส้มเธอยังติดต่อกับมารดาที่รัสเซียแต่ไม่ได้บ่อยสักเท่าไหร่ การได้คุยกับมารดามันทำให้เธอคิดถึงบอริสมากขึ้น ส่วนเขาก็พยายามโทรหาเธออยู่หลายครั้งแต่เกือบครึ่งเดือนแล้วที่ไม่มีมิสคอลหรือข้อความจากบอริส เธอคิดว่าป่านนี้เขาก็คงจะลืมเธอไปแล้ว“ลุงเรืองคะที่ข้างสวนส้มของเรามีคนซื้อไปแล้วเหรอคะ”“ใช่จ้ะ คนที่ซื้อเขาบอกว่าจะทำสวนส้มเหมือนเราน่ะ เขาติดต่อลุงมาเหมือนกันว่าจะขอมาศึกษาวิธีการทำสวนและอาจจะขอจ้างคนงานของเราไปทำไปช่วยเขาทำด้วยเขาไม่มีประสบการณ์ด้านนี้”“แล้วป้าวรรณเคยเจอเขาไหมคะ” หญิงสาวหันมาถามป้าของตนเองบ้าง“ป้ายังไม่เคยเจอเขาแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นลุงที่ไปคุยกับเขา”“ดูท่าทางเขาก็มีเงินมากๆ เลยนะคะ”“ก็คงอย่างนั้น ฉันว่าเราชวนเขามากินข้าวที่บ้านเราจะได้ทำความรู้จักกันไว้” วรรณาหันไปถามสามี“ได้สิเดี๋ยวผมจะลองชวนเขาดู แต่ช่วงนี้รู้สึกว่าเขาจะไม่อยู่นะเห็นว่ามีงานที่ต่างประเทศต้องบินไปดูแลด้วย”“เขามีงานต่างประเทศแล้วยังจะมาซื้อสวนส้มทำไมคะ หนูว่ามันแปลกๆ"“ลุงก็คิดว่ามันแปลกก็เลยถามเขา เขาบอกว่าจะปรับปรุงที่ทำสวนส้มแล้วยกให้ภรรยาในอนาคตของเขานะ”“โ
วันนี้บอริสต้องเดินทางกลับไปทำงานที่รัสเซียอีกครั้ง เขาไม่อยากจะไปเลยเพราะอยากจะอยู่กับรติรสแบบนี้ไปอีกนานๆ ชายหนุ่มรู้สึกว่าช่วงนี้รติรสจะน่ารักช่างอ้อนและเอาอกเอาใจมากๆ มันทำให้หัวใจที่แข็งกระด้างของเขาและกำลังเปิดรับหญิงสาวเข้ามาในหัวใจทีละนิดความรู้สึกที่มีให้กับรติรสไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ไม่รู้จะเรียกว่าความรักได้หรือเปล่า แต่เขารู้สึกดีที่อยู่ใกล้ๆ รู้สึกสบายใจ รู้สึกว่าเธอคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขาบอริสคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับรติรสหลังจากที่เขากลับมาจากรัสเซียในอาทิตย์หน้าชายหนุ่มอยากจะขึ้นไปเจอกับครอบครัวของหญิงสาวที่เชียงใหม่อยากจะขอโทษแทนบิดามารดาเรื่องน้าอรสาและจะถือโอกาสขออนุญาตคุณป้าของเธอคบหากับหญิงสาวอย่างจริงจัง บอริสไม่อยากให้เธอเป็นเพียงแค่คู่นอนแบบที่เธอชอบพูดอีกต่อไปแล้ว“ฉันคงคิดถึงเธอมากๆ แน่เลยโรส”“อดทนค่ะบอสแค่อาทิตย์เดียวเอง”“แล้วเธอจะคิดถึงฉันไหมล่ะ”“แน่นอนค่ะโรสจะคิดถึงคุณทุกวัน เดินทางปลอดภัยนะคะ”“ฉันไม่อยากไปเลยนะโรส รู้สึกใจหายยังไงก็ไม่รู้”“อย่างอแงเป็นเด็กสิคะบอส บอสต้องไปทำงานนะ ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองโรสก็จะทำหน้าที่ของโรสให้ดีที่สุด
บอริสประกบจูบไปบนเรียวปาก แทะเล็มเรียวปากบางอย่างหลงใหลรติรสเผยอปากรับด้วยความเต็มใจ สองลิ้นเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อ บอริสไล้มือไปตามสีข้างสอดเข้าใต้เสื้อตัวบาง บีบคลึงความอวบอิ่มจนหญิงสาวรู้สึกร้อนราวกับเปลวไฟ สะโพกกลมกลึงบดเบียดกายเข้าหาเจ้านายหนุ่มอย่างเชิญชวน“บอริสขา สัญญาได้ไหมว่าจะมีโรสแค่คนเดียว”เสียงหวานอ้อนเธออยากให้เขามีความสุขกับเธอแค่คนเดียว แม้รู้ว่ามันเป็นไปได้ยากแต่ก็อยากได้ยินจากปากเขา“ก็เธอน่ารักแบบนี้ฉันจะไปมีคนอื่นได้ยังไงล่ะโรส ฉันจะมีแค่เธอคนเดียวนะ”เมื่อได้ยินคำตอบรติรสเลยสลัดความอายทิ้งไปจนหมด หญิงสาวไม่สนสักนิดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในห้องรับแขก เธอรู้แค่อยากร่วมรักกับเขาอยากมอบความสุขให้เขา เมื่อบอริสถอดชุดนอนออกเธอก็ให้ความร่วมมือด้วยความเต็มใจ“เธอสวยไปทั้งตัวเลยโรส สวยจนฉันลืมผู้หญิงทุกคนที่เคยนอนด้วย”บอริสมองด้วยสายตาหื่นกระหายตั้งแต่เดินทางไปอเมริกาและบินต่อไปที่รัสเซียเขากับเธอก็ยังไม่ได้นอนด้วยกันเลยสักครั้งเพราะเขารู้ว่าเธอมีเรื่องให้ต้องคิดเลยไม่อยากจะกวนใจทั้งที่ร่างกายของเขามันต้อการเธอจนแทบคลั่งฝ่ามือร้อนของบอริสนวดคลึงหน้าอกอย่างหนักหน่วง ร่างกายถูก
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยรติรสก็โทรศัพท์ไปปรึกษาป้าวรรณนาว่าจะเอายังไงต่อกับเรื่องมารดาของตนเอง“หนูลองบอกป้ามาสิโรสว่าตอนนี้หนูคิดจะทำยังไงต่อ”“หนูคิดว่าตอนนี้แม่ดูมีความสุขมากเลยค่ะป้าวรรณ หนูกลัวว่าถ้าบอกเรื่องในอดีตอาจจะทำให้แม่ปวดหัวและคิดมาก ป้าวรรณจะว่าอะไรไหมถ้าหนูจะยอมให้แม่อยู่ที่นั่นแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”“แล้วหนูไม่เสียใจใช่ไหมโรส” วรรณาถามหลานสาวด้วยความเห็นใจ“เสียใจสิคะ เสียใจมากๆ ที่หนูไม่ได้อยู่ใกล้แม่ แต่หนูไม่อยากทำลายความสุขของแม่ค่ะ ถ้าป้าวรรณได้เจอแม่ได้เห็นใบหน้าและรอยยิ้มของแม่หนูคิดว่าป้าวรรณจะต้องคิดเหมือนหนูแน่ๆ” รติรสมั่นใจว่าป้าของเธอต้องเหมือนเธอแน่ๆ“เท่าที่หนูส่งรูปกับวิดีโอมาให้ป้าดู ป้าก็พอจะรู้แล้วว่าตอนนี้อรสาเขามีความสุขมากจริงๆ ถ้าหนูคิดว่าตัวเองทำใจได้ ป้าก็ไม่ว่าอะไร หนูยังมีป้ายังมีลุงเรืองและพี่ฤทธิ์นะ กลับมาอยู่เชียงใหม่กับป้าดีไหมโรส มาอยู่กันเป็นครอบครัวที่นี่”“ได้ค่ะป้าวรรณ อีกไม่กี่วันก็หยุดยาวแล้วหนูจะยื่นจดหมายลาออกช่วงนั้นค่ะ”“การลาออกมันต้องลาออกล่วงหน้าหนึ่งเดือนหรือเปล่าโรส”“ใช่ค่ะ แต่นั่นในกรณีที่เราจะไม่อยากเสียประวัติในการท
แม้จะได้นอนไม่กี่ชั่วโมงแต่เช้านี้รติรสก็มีสีหน้าสดชื่นมากหญิงสาวตื่นนอนตั้งแต่เช้าจากนั้นชงกาแฟและเอาบราวนี่มานั่งทานอย่างละเอร็ดอร่อย“กินด้วยกันมั้ยคะบอส”“ไม่ล่ะเมื่อวานฉันกินไปหลายชิ้นแล้ว ฉันไม่อยากแย่งเธอกิน”“ฝีมือแม่อร่อยมากๆ เลยค่ะ โรสคิดถึงแม่จัง”“อดทนอีกนิดนะโรสไม่ถึงสิบวันฉันก็จะพาเธอไปเจอแม่ แล้วเธอจะเสียใจไหมถ้าแม่จำเธอไม่ได้”“โรสก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าจะเสียใจไหมแต่เท่าที่โรสเห็นคลิปของแม่หลายคลิปเราก็รู้สึกว่าตอนนี้แม่มีความสุขมากจริงๆ”“ใช่แม่เธอมีความสุขมาก เธอเป็นรอยยิ้มของพ่อฉันนะ เหมือนกับเธอที่เป็นรอยยิ้มของฉัน”“ใครเป็นรอยยิ้มของบอสกันค่ะ โรสไม่อยากเสียเวลาคุยด้วยแล้วค่ะ โรสจะไปทำงาน แล้ววันนี้บอสเข้าบริษัทไหมคะ”“ฉันจะเข้าไปช่วงบ่ายๆ นะ ช่วงเช้าขอเคลียร์งานต่ออีกนิด”“บอสงานยุ่งอย่างนี้แล้วจะมาทำไมคะ”“ก็บอกแล้วงัยว่าคิดถึง”“แล้วจะกลับไปที่โรสเสียอีกหรือเปล่า”“ฉันจะอยู่กับเธอที่นี่สองวันจากนั้นก็จะกลับไปประชุมก่อนจะกลับมาอีกครั้ง”“เดินทางแบบนี้คงเหนื่อยแย่”“เหนื่อยแต่มันก็คุ้ม ฉันได้กลับมาอยู่กับเธอได้กลับมากอดเธอเหนื่อยแค่นี้ฉันทนได้”“โรสว่าบราวนี่มันห
รติรสนั่งดูคลิปที่มารดาของตนเองทำบราวนี่เราก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าตอนนี้มารดาของตนเองนั้นมีความสุขมากๆ เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยระหว่างบอริสและมารดาทำให้หญิงสาวมองว่าเขาปฏิบัติกับมารดาของเธออย่างดีถึงแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ก็ตามเธอเปิดคลิปเป็นอีกหลายคลิปที่เขาส่งมาก่อนหน้าและดูไปหลายรอบ จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์และเตรียมเข้านอนวันนี้บอริสโทรศัพท์มาหาเธอไม่คุยกันไม่ถึงสิบนาทีเพราะเขาบอกว่ามีงานจะต้องไปจัดการต่อ แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะแค่ส่งคลิปมาให้ดูเธอก็รู้สึกอบอุ่นใจมากๆ แล้วความโกรธที่มีต่อครอบครัวของบอริสเริ่มลดน้อยลงทีละนิด เมื่อเห็นว่ามารดาของตนเองอยู่อย่างสุขสบาย อีกไม่ถึงสองอาทิตย์ เธอก็จะได้เจอกับมารดา ไม่รู้ว่าท่านจะจำได้หรือเปล่าแต่รติรสก็ไม่อยากคิดอะไรเพราะสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่การให้มารดามาอยู่ด้วยเธอแค่ต้องการดูมารดาได้มีความสุขแค่นั้นก็พอรติรสหลับไปในเวลาห้าทุ่มและตกใจตื่นในเวลากลางดึก เมื่อรู้สึกว่าตอนนี้ภายในห้องไม่ได้มีเธออยู่คนเดียว“ใครน่ะ” หญิงสาวตะโกนถามเพราะรู้สึกว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังอยู่ในห้องน้ำ“ออกมาเดี๋ยวนี้นะถ้าไม่ออกมาฉันจะโทรเรียกรปภ. ออกมาจากห้องน้ำเดี๋ย