ตอนที่ 2
เมียพี่มีชู้
“วันนี้เราไปรับลูกที่บ้านคุณพ่อกันนะ”
ตุลาชวนภรรยาทันทีหลังจากที่เขาตื่นนอนถึงแม้ว่าหญิงสาวข้างๆจะยังไม่ลืมตาก็ตามแต่การพลิกตัวไปมาทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้เธอตื่นแล้ว
“คุณไปรับคนเดียวเถอะจะได้มีเวลาอยู่กับพ่อแม่คุณบ้าง วันนี้ดารู้สึกเหนื่อยอยากจะหลับนาน ๆ ไม่อยากไปไหน”
คนเป็นสามีได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่มีประโยชน์อะไรแล้วที่เขาจะหาเรื่องทะเลาะกับภรรยาที่ผ่านมาตลอด 2 เดือนที่เขาสงสัยว่าเธอกำลังมีคนอื่นทุกครั้งที่เขาเอ่ยถามเธอตรง ๆ นิดาก็มักจะก่อสงครามวาจาขึ้นทันที
ตุลาคิดถึงครั้งล่าสุดที่ทั้งคู่ทะเลาะกันถึงขั้นขว้างปาของและคนที่ได้รับผลกระทบก็คือเด็กน้อยขนมจีนที่ร้องไห้มาเคาะห้องนอนของพ่อและแม่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวคนเป็นพ่อจึงตั้งใจว่าจะไม่ทะเลาะกับภรรยาอีก
ปู่กับย่ารับรู้เรื่องราวของพ่อและแม่หลานสาวมาโดยตลอดแต่ไม่ใช่จากปากของทั้งคู่แต่เป็นจากแม่บ้านซึ่งเป็นคนสนิทของวลีเธอส่งแม่บ้านให้ไปคอยดูแลลูกชายและรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนั้นทั้งหมด
“นิดาเขาดูไม่มีเวลาให้ครอบครัวเลยนะลูก”
ตั้งแต่ลูกชายแต่งงานและแยกบ้านออกไปครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่วลีเลือกที่จะถามเรื่องส่วนตัวของลูกชายเพราะความจริงแล้วเธอเป็นคนที่อยากให้นิดากับตุลาแต่งงานกันถึงแม้จะรู้ว่าทั้งคู่กำลังมีปัญหาคนเป็นแม่ก็เลือกที่จะไม่พูดถึงเพราะไม่อยากกลายเป็นคนผิดที่บังคับให้ทั้งสองคนแต่งงานโดยที่ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันได้เกิดจากความรักบ้างหรือเปล่า
“นิดาเขาก็มีงานของเขา คุณก็เนาะ...พูดให้เจ้าตุลามันคิดมาก”
อาคมเขารู้ดีที่สุดว่าตอนนี้ลูกสะใภ้ไม่เหมือนเดิมแต่เขาเลือกที่จะเก็บความลับที่เขารู้ไว้แค่เพียงคนเดียวเพราะตอนนี้หลานสาวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตคนเป็นปู่ถ้าพ่อและแม่ต้องมาแยกทางกันในเวลานี้ขนมจีนคือคนที่จะได้รับผลกระทบซึ่งอาคมไม่มีทางทำร้ายหัวใจหลานได้เด็ดขาด เขาจึงไม่ต้องการให้ภรรยาพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก
“ช่างเขาเถอะครับผมมาคนเดียวก็ดีแล้วจะได้มีเวลาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่นาน ๆ ”
ตุลาฝืนยิ้มและพูดเหมือนว่าเขาไม่รู้สึกอะไรทั้งที่ตอนนี้หัวใจของเขาเหมือนกับระเบิดที่กำลังอัดแก๊สจนแน่นรอเวลาที่จะพุ่งออกมาทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้าเมื่อความอดทนของเขาถึงที่สุดแต่ในเมื่อตอนนี้เด็กน้อยที่กำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่ตรงหน้าคือยาชั้นดีที่ทำให้ความอดทนของเขามันมีมากพอ พอที่จะทนมาจนถึงทุกวันนี้ได้เขาก็จะพยายามฝืนทุกอย่างให้นานที่สุด
“น้ำขิงรับปากผมแล้วใช่ไหมว่าจะดูแลขนมจีนเองวันนี้ผมพาลูกมาด้วยฝากคุณดูแลด้วยแล้วกัน”
ตุลาพาลูกสาวมาที่ทำงานด้วยเพราะวันนี้ที่โรงเรียนของขนมจีนมีกิจกรรมวันแม่และนิดาก็ไม่ว่างที่จะไปร่วมงาน ชายหนุ่มจึงไม่อยากให้ขนมจีนรู้สึกสับสนว่าตัวเองกำลังมีอะไรแตกต่างจากเพื่อนเขาจึงเลือกที่จะพาลูกมาเล่นที่ทำงานเพราะจำได้ว่าน้ำขิงเคยรับปากว่าเธอจะเป็นคนเลี้ยงเอง
เด็กน้อยถักผมเปีย 2 ข้างจากที่ตอนแรกไม่ยอมไว้วางใจเลขาสาวแต่ด้วยความที่น้ำขิงเป็นคนที่รักเด็ก เธอใช้เวลาแค่เพียงไม่นานก็ทำให้เด็กน้อยยอมสนิทกับเธอจนถึงขั้นนั่งตักไม่ยอมไปไหนแม้แต่คนเป็นพ่อเรียกให้ไปหาในห้องก็ตาม
“ไม่ต้องดื้อเลยลูกได้เวลากินนมนอนแล้วไปนอนในห้อง คุณพ่อปล่อยให้พี่น้ำขิง เขาได้ทำงานบ้างไว้ให้หนูตื่นมาแล้วค่อยมาเล่นต่อ”
ตุลาทำหน้าที่พ่อที่แสนดีได้ทุกวินาทีจริง ๆ น้ำขิงมองแล้วอดชื่นชมไม่ได้ถึงแม้ว่าตลอดเวลา 2 เดือนที่เธอเข้ามาทำงานคนเป็นเจ้านายมักจะดุและพูดจาไม่ดีกับเธออยู่หลายครั้งแต่เมื่อเธอเห็นชายหนุ่มแสดงความอ่อนโยนกับลูกสาวทำให้เธอรู้ว่าแท้จริงเขาก็มีจิตใจที่อ่อนโยนมากกว่าภายนอกที่เขาพยายามแสดงให้คนอื่นเห็น
“ขอบคุณนะที่ช่วยดูแลขนมจีนให้”
ตุลาเดินออกมาพร้อมแฟ้มงานยื่นให้เลขา เขากล่าวขอบคุณด้วยใจจริงเพราะเขาไม่คิดว่าหญิงสาวที่เขาเคยพูดไม่ดีด้วยตลอดจะช่วยเลี้ยงลูกโดยเฉพาะสามารถทำให้ขนมจีนมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งวันซึ่งปกติแล้วลูกสาวคนนี้ของเขาจะไม่ค่อยเข้ากับคนแปลกหน้าง่าย ๆ ตุลายังคิดว่าท้ายที่สุดแล้วเขาคงต้องเป็นคนเลี้ยงลูกคนเดียวแน่ถ้าขนมจีนไม่ยอมอยู่กับน้ำขิงแต่สุดท้ายแล้วเด็กน้อยไม่ยอมห่างจากคุณพี่เลขาเลย
ตอนที่ 9ไม่มีอะไรติดค้าง ชม้อยและรุจิราเดินทางกลับในเช้าของอีกวันเพราะออมสินต้องไปโรงเรียนและยังมีงานที่บริษัทรออยู่ “แม่ฝากตะวันด้วยนะลูก คุณหมอบอกหนูทรายแล้วใช่ไหมว่าพี่เขาคงต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเดินได้ปกติ” ชม้อยพูดเองเพราะคุณหมอไม่ได้บอกอะไรกับนิรดาเลยตั้งแต่ชม้อยมาถึงทางโรงพยาบาลก็จะคุยทุกอย่างกับเธอมากกว่า “ไม่ได้บอกค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะต่อให้พี่ตะวันจะเดินไม่ได้ ทรายจะเป็นเท้าเป็นมือเป็นทุกอย่างให้สามีของทรายเอง ความรักที่พี่ตะวันมีให้ทรายมันมากเกินกว่าที่ทรายจะตอบแทนได้ หลังจากนี้เราจะใช้ความรักดูแลกันและกันตลอดไปค่ะ” ชม้อยได้ยินแบบนี้ก็ดีใจ เธอรู้สบายใจขึ้นที่ต้องทิ้งตะวันไปแบบนี้แต่ถ้าจะให้อยู่เฝ้าเธอก็อดเป็นห่วงรุจิรากับออมสินไม่ได้เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่งมากอยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังจากที่ไตรมาสที่แล้วผลกำไรลดลงเกือบเท่าตัว หญิงสาวที่กำลังท้องใหญ่ทำอะไรไม่ค่อยถนัดแต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทั้งเช็ดตัว พาคนป่วยไปเข้าห้องน้ำ เดินขึ้นเดินลงคอยซื้อของให้ ดูแลปรนิบัติอย่างดีที่สุดจนคุณหมออนุญาติให้ตะวันกลับบ้านได
ตอนที่ 8ยอมแล้วซึ่งทุกอย่าง ชม้อยและรุจิราเดินทางมาหาตะวันทันทีที่รู้ข่าว ภาพของ นิรดาในชุดคลุมท้องที่กำลังนอนหลับอยู่ข้าง ๆ ตัวของคนเจ็บเป็นภาพที่ทำเอาน้ำตาของทุกคนไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่สะเทือนใจ “ทราย ตื่นได้แล้วลูก” แม่สามีค่อย ๆ ลูบผมของหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่ด้วย ความสงสาร “คุณแม่ ! ” คนทำผิดทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นทันทีที่เห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าคือใคร “ทรายขอโทษ พี่ตะวันต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะทราย ทุกคนต้องเดือดร้อนไปกันหมดเพียงเพราะความแค้นบ้า ๆ ที่ทรายคิดไปเองคนเดียว ทรายกราบขอโทษนะคะ” ชม้อยรีบประคองลูกสะใภ้ให้ลุกขึ้นเพราะท่าทางที่ดูก้มไม่ถนัดของคนท้องยิ่งทำให้หญิงชราทั้งสงสารและเป็นห่วง “มันผ่านไปแล้ว ทุกคนเคยทำผิดกันทั้งนั้น แม่เองก็ทำผิดมาไม่รู้กี่ครั้ง เราย้อนไปแก้ไขไม่ได้ขอแค่ว่าอย่ากลับไปทำผิดอีกก็พอ” รุจิราเองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแล้วก็อดคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนไม่ได้ “ลูกคือของขวัญที่มีค่าที่สุดค่ะ ตอนนี้พี่ทั้งสองคนไม่ได้มีแค่ตัวเองแล้วยังมีอีกชีวิตที่ต้อง
ตอนที่ 7ตามหาหัวใจ นิรดาใช้เวลาซ่อมแซมบ้านของปู่กับย่าไม่ถึงสองสัปดาห์ทันทีที่เธอเข้าอยู่บ้านได้นารีก็กลับบ้านทันที “ไว้อีกสองเดือนแม่จะมาหาใหม่นะ ดูแลตัวเองดี ๆ จะลุกจะนั่งก็ต้องค่อย ๆ ” คนเป็นแม่ถึงแม้จะห่วงลูกสาวแค่ไหนแต่ก็เลือกที่จะกลับไปหาหัวใจที่เธอคิดว่ายังคอยเธออยู่ที่บ้านเสมอ ทันทีที่นารีถึงบ้านเขาก็พบว่ามีผู้ชายที่เขาไม่คุ้นหน้ามายืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน “คุณตะวัน” เข็มจิราทำหน้าที่ไปรับมารดาของเพื่อนจากสนามบิน เธอขับรถมาส่งที่บ้านจึงรู้ว่าคนที่มายืนรออยู่คือตะวัน “สวัสดีครับ ทำไมคุณรู้จักผม” “เข็มเป็นเพื่อนสนิทของทรายค่ะ เธอเราทุกเรื่องให้ทรายฟังหมดแล้ว” ยังไม่ทันที่เจ้าของบ้านจะเปิดประตูให้แขกเข้าไปข้างในก็มีเสียงเด็กน้อยดังมาจากในรถ “คุณลุงทำอะไรช้าจังคะ” นารีหันไปตามเสียงและเธอก็ต้องตกใจเมื่อหน้าตาของเด็กน้อยผมเปียเหมือนกับเอกภพมากจนเหมือนว่าใครจับเอาลูกชายเธอตอนเด็ก ๆ มาใส่ผมยาว “ออมสิน เป็นลูกสาวของเอกภพกับรุจิราน้องสาวผมครับ” ตะวันอ่านสายตาออกว่ามารดา
ตอนที่ 6เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เราสองคน ค่ำคืนนี้มันคือค่ำคืนสุดท้ายที่นิรดาจะได้นอนกอดสามี เธอยอมรับกับตัวเองอย่างไม่อายเธอรักเขาแต่มันมีม่านของความแค้นมาคอยบังอยู่เสมอแต่วันนี้เมื่อเธอได้รู้ความจริงมากกว่าความรักคือความรู้สึกผิดที่เธอทำร้ายผู้ชายที่รักเธอตลอดเวลาที่ผ่านมา ทรัพย์สินทั้งหมดหญิงสาวตัดสินใจจะคืนให้สามีมีเพียงเรื่องเดียวที่เธออยากหาคำตอบเพื่อให้การจากไปครั้งนี้ของเธอสบายใจที่สุด ประจำเดือนไม่มาสองเดือนแล้วแต่นิรดาก็คิดเอาเองว่าคงเป็นเพราะเดือนที่สองของการแต่งงานเธอกินยาคุมกำเนิดอาจส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ พรุ่งนี้เช้าเธอจะให้ตะวันไปบริษัทก่อนและเธอจะบอกเขาว่าจะตามไปทีหลังแต่ความจริงเธอจะไปจากเขาตลอดชีวิตต่างหาก “เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมร้องไห้” ตะวันหันหลังมาเจอภรรยาที่นอนร้องไห้อยู่จึงถามด้วยความสงสัย “ทรายไม่อยากเห็นพี่เป็นแบบนี้เลยค่ะ พี่ตะวันสัญญาากับทรายได้ไหมว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไปพี่จะลุกขึ้นสู้และกลับมาเป็นลูกชายที่เข้มแข็งของคุณแม่เหมือนเดิม” ชายหนุ่มคว้าตัวภรรยามากอดแน่นสำหรับเขาแล้วน้
ตอนที่ 5แค้นก็แค้นรักก็รัก สามวันหลังงานแต่งงานตะวันไม่ยอมปล่อยให้นิรดาได้ออกจากบ้านไปไหนเขาอ้างเหตุผลว่าคนที่เพิ่งแต่งงานมักจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น นอกจากตะวันที่ไม่ยอมไปทำงานอยู่เฝ้าภรรยาตลอดยังมี แม่สามีที่เป็นหูเป็นตาอีกแรง หญิงสาวว้าวุ่นใจไปหมดเพราะสามวันแล้วที่เธอกับเขานอนด้วยกันเธอยังไม่ได้กินยาคุมกำเนิด แผนของเธอจะต้องไม่มีชีวิตน้อย ๆ มาเกี่ยวข้องเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นทุกอย่างจะจบลงทันที “พรุ่งนี้ท่านประธานไปทำงานได้แล้วนะคะ มามัวเฝ้าเมียอยู่แบบนี้อีกไม่นานบริษัทคงไม่ต้องการคนดูแลแล้ว” นิรดาแกล้งพูดแบบทีเล่นทีจริงเพราะเธอคิดว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้นาน ๆ มีหวังเธอต้องพลาดแน่ “ใช่พี่ลืมบอก พรุ่งนี้ทรายต้องไปทำงานกับพี่ เตรียมตัวให้พร้อมนะตำแหน่งเลขาส่วนตัวท่านประธาน” “อะไรกันคะ ทรายไปสมัครตอนไหนไม่เอา ทรายไม่อยากทำงานที่เดียวกับสามีตัวเองเดี๋ยวใคร ๆ จะมองว่าเป็นเด็กเส้น” “เส้นแล้วอย่างไรเส้นใหญ่ด้วยที่พี่บอกไว้ว่าถ้าทรายลาออกพี่จะให้เงินเดือนห้าหมื่นตอนนี้พี่จะเพิ่มให้เป็นแปดหมื่นกับตำแหน่งเลขาส่วนตัว” ตะวัน
ตอนที่ 4แต่งงานของเธอและฉัน ชม้อยตกหลุมรักอนาคตลูกสะใภ้อย่างไม่รู้ตัว รสชาติอาหารที่อร่อยแบบเฉพาะ การเอาอกเอาใจดูแลที่หญิงวัยใกล้ชราโหยหาจากลูกทั้งสองคนแต่เธอก็ไม่เคยได้รับจนเมื่อนิรดาได้เข้ามาในฐานะคนรักของลูกชาย หญิงสาวดูแลอนาคตแม่สามีเป็นอย่างดีจนตอนนี้ชม้อยติดอนาคตลูกสะใภ้มาก “พรุ่งนี้ไปรับหนูทรายมาแต่เช้านะลูก” วันหยุดคือวันที่หญิงวัยใกล้หกสิบรอคอยเพราะเธอจะได้มีเพื่อนอยู่บ้านและทำของอร่อยให้เธอกินทั้งวัน “ลืมผมแล้วมั้งครับถามหาแต่ทราย เมื่อไหร่คุณแม่จะได้ฤกษ์แต่งงานสักทีครับ ผมกับทรายจะได้อยู่ด้วยกันคุณแม่ก็จะได้มีเพื่อน” ตะวันดีใจที่เห็นมารดาของเขาชอบในตัวคนรักถึงแม้ในช่วงเดือนแรกคนเป็นแม่จะตั้งท่าหาเรื่องก็ตาม “แม่ไปหามาหลายที่แต่ละที่ก็บอกว่าต้องหลังปีหน้าไปแล้ว ไม่ใช่ว่าแม่ไม่อยากให้แต่ง ตะวันจะให้แม่ทำอย่างไรล่ะ” “ก็เอาฤกษ์สะดวกสิครับ คนเรารักกันแต่งตอนไหนก็ฤกษ์ดีทั้งนั้น” ตะวันกับชม้อยนั่งปรึกษากันจนในที่สุดทั้งคู่ก็ลงความเห็นว่าเอาเป็นฤกษ์สะดวกดีกว่า “ตกลงเราจะไม่มีสินสอดจริง ๆ ใช่ไหม”