หัวใจของวริญญาดำดิ่งลงสู่ความมืดมิดอีกครั้ง เมื่อกลับมายังคอนโดที่พักอาศัย แล้วพบว่า ชางได้หายไปพร้อมกับเสื้อผ้าในตู้ ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว
หญิงสาวเที่ยวเดินตามหาเขาภายในห้องของเธอทุกห้องด้วยความร้อนรน เพราะตั้งแต่ผู้ชายคนนั้นมาอยู่กับวริญญาเป็นเวลานานนับเดือน เขาแทบจะไม่เคยออกไปไหนเลยแม้แต่ก้าวเดียว
วริญญาอุตส่าห์รีบกลับมาหา แต่กลายเป็นว่าเธอไม่พบหน้าเขาอีกแล้ว
เจ้าของร่างบางค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งบนพื้นด้วยความสะเทือนใจ เธอเที่ยวเดินออกตามหาเขาในภายในบริเวณรอบๆ คอนโดด้วยความหวัง กระทั่งเวลาได้ย่างเข้าอีกวัน แต่หญิงสาวก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย
วริญญาถึงกับยอมลางานเพื่อรอคอยเขาอยู่ที่ห้องต่อจากนั้นอีกหลายเพลา แต่สุดท้ายก็เหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา
ความเครียดทำให้วริญญาไม่สามารถกินและนอนได้เหมือนปกติ และมีอาการหน้ามืดวิงเวียนคล้ายจะอยากอาเจียนตามมา
เจ้าของร่างบางลุกขึ้นจากเตียง แล้วรีบวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำหลังจากนั้น ระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ที่ทำให้หญิงมีสาวอาการคล้ายกับตัวเองกำลังตั้งครรภ์ นั่นจึงทำให้ความรู้สึกหวาดกลัว เข้ามากัดกินขั้วหัวใจในทันที
เธอรีบไปที่ซื้อที่ตรวจครรภ์ในร้านขายยา แล้วกลับมาคอนโดเพื่อต้องการจะทดสอบการตั้งครรภ์ และผลที่ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนในนั้น ปรากฏว่ามันเป็นสองขีด
ใบหน้าของหมอสาวซีดขาวราวกระดาษเมื่อผลชี้วัดชัดเจนว่า
วริญญา...เธอกำลังตั้งครรภ์
ตลอดเวลาเกือบเดือนเธอมั่นใจว่า เธอป้องกันตัวเองอย่างดี และเห็นเขาสวมถุงยางอนามัยทุกทีเวลาที่มีความสัมพันธ์ด้วยกัน แต่ทำไมเธอถึงตั้งครรภ์ขึ้นมาได้
ต้องเป็นครั้งแรกนั่นละที่มีอะไรกัน โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ใส่ถุงยาง หัวใจของวริญญาดิ่งลงอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นมาได้ ก่อนใช้มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาปิดริมฝีปากบางของตัวเองพร้อมกับสะอื้นไห้
ทั้งที่เป็นเพียงครั้งแรกของหญิงสาว แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะทำให้เธอตั้งครรภ์ได้ มันเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของเธอเองที่ชะล่าใจ เป็นหมอเสียเปล่าหากใครรู้เข้าก็คงจะอายเขาไปทั้งเมือง
นอกเหนือไปกว่านั้นวริญญาไม่สามารถถามหาความรับผิดชอบเอากับใครเขาได้ ในเมื่อผู้ชายที่เธอเคยคิดว่าเขาจะโอบอุ้มและดูแลความรู้สึกทั้งมวลได้หายไป สุดท้ายมันกลับกลายเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า เท่านั้นเอง
“ชาง ทำไมคุณถึงได้ใจร้ายใจดำกับฉันขนาดนี้? คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง? ทำไมถึงทิ้งกันไป?”
วริญญาฟูมฟายด้วยความเสียใจทั้งน้ำตา ก่อนจะตั้งสติแล้วจึงค่อยคิดหาทางแก้ไข
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในวันข้างหน้า วริญญาจะไม่มีวันทอดทิ้งลูกที่อยู่ในท้องของเธออย่างเด็ดขาด
คนที่เธอควรจะตัดทิ้งมันออกไปจากหัวใจ นั่นก็คือ ‘ชาง’ ผู้ชายที่มีชื่อให้เธอเรียกได้แค่เพียงพยางค์เดียว
4 ปีต่อมา
เมือง กัป โอดซาลป์ ประเทศฝรั่งเศส
หลังจากที่วริญญารู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ หญิงสาวก็ได้ยื่นใบลาออกกับทางโรงพยาบาล เพราะต้องการย้ายตัวเองมาอยู่ที่ฝรั่งเศส โดยไม่เคยบอกให้ใครได้รู้เลยสักคน
รูปร่างบอบบางไม่ต่างไปจากเมื่อครั้งยังมาถึงที่นี่ใหม่ๆ วริญญาเดินอย่างคล่องแคล่วว่องไวอยู่ภายในบ้าน เพื่อจัดแจงทำอาหารเช้าให้กับเจ้าตัวน้อย
เชน...นั่นคือชื่อของเจ้าลูกชาย ที่อยู่ในวัยสามขวบกว่าๆ
“มัม มัมคับ”
เสียงของลูกชายตัวน้อยที่ย่างเข้าสู่วัยที่จะต้องไปโรงเรียนชั้นอนุบาล ร้องเรียกหาคนเป็นมารดาลั่นบ้าน เพราะต้องการให้เธอหันมาสนใจ
“ว่ายังไงจ๊ะ เชน”
วริญญาขานรับ พร้อมกับรีบเดินเข้าไปอุ้มเจ้าลูกชายขึ้นมาไว้แนบอก ก่อนจะกดปลายจมูกโด่งลงไปบนพวงแก้มขาวผ่อง
“หนูหิวแล้วคับมัม” เด็กชายบอก ก่อนยื่นใบหน้าน่ารักเข้าไปหอมแก้มคนเป็นมารดาซ้ำๆ อย่างต้องการจะเอาคืนในปริมาณที่มากกว่า จากนั้นจึงผละออกมาหัวเราะชอบใจ
นิสัยชอบเอาชนะและเอาแต่ใจเหมือนกับพ่อไม่มีผิด...ความคิดนี้ปรากฎเข้ามาในสมองของเธอแว๊ปหนึ่ง ซึ่งหญิงสาวต้องรีบตัดมันออกไปจากหัวสมองของตัวเองให้ไว
ถามว่าทำได้ไหม?
แหง๋ละ...ไม่เคยทำได้เลยสักวัน...
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ระยะเวลาผ่านมาสี่ปี แต่ไม่เคยมีสักวันที่ทำให้เธอลืมผู้ชายคนนั้นได้ ผู้ชายใจร้ายที่มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า ‘ชาง’ ผู้ชายที่เคยสร้างตราบาปไว้ให้กับเธอ...
ไม่ใช่สิ...มันไม่ตราบาปแต่มันคือ ‘เชน’ ลูกชายที่น่ารัก ลูกชายที่เป็นทั้งแก้วตาและดวงใจของเธอต่างหาก หาใช่ตราบาปเหมือนที่เธอเคยคิด...
วริญญาพาเจ้าตัวน้อยไปนั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะหันไปมองคนเป็นมารดา ที่เดินเข้ามาด้านในก่อนจะหันไปปิดประตูบ้าน ที่มองเห็นหิมะกำลังโปรยปรายลงมาไม่ขาดสายอยู่ภายนอก
“แม่ว่าลูกควรจะต้องอ่านจดหมายฉบับนี้นะริญญ่า”
กานดาบอก ในขณะยื่นจดหมายที่ถูกส่งมาจากเมืองไทย ให้กับวริญญาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
วริญญามาอยู่ฝรั่งเศสตั้งแต่รู้ตัวว่าเริ่มตั้งครรภ์ เพราะจรรยาบรรณของคนเป็นหมอหรือกระทั่งสามัญสำนึกของความเป็นแม่ ย่อมเห็นแก่ชีวิตที่บริสุทธิ์ดุจดังผ้าขาว หญิงสาวจึงเลือกที่จะรักษาชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้จะรู้ว่าหากบุตรชายได้เกิดมาแล้วจะต้องขาดบิดาก็ตาม
ส่วนกานดาเมื่อรู้ว่าลูกสาวตั้งครรภ์และตนเองจะได้เป็นยาย เธอก็ไม่เคยถามหาถึงที่มาที่ไป หรือมีประโยคคำพูดใดๆ ที่ทำให้ระคายใจคนเป็นลูกสาว เพราะไม่อยากเห็นวริญญาต้องเศร้าโศกเสียใจ
หลายปีมาแล้วนับตั้งแต่วริญญามาอยู่ที่นี่ เธอไม่เคยติดต่อกับใคร และไม่ยอมให้ใครติดต่อเธอได้ด้วยการ ‘ปล่อยวาง’
ซึ่งมันดูคล้ายกับวริญญากลายเป็นคนเย็นชา หลังจากที่เคยเจอปัญหามากมาย แล้วทำให้เธอเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า
หญิงสาวรับจดหมายมาจากมือของกานดา จากนั้นจึงคลี่มันออกมาและจำได้ทันทีว่าเป็นลายมือของแม่นม
“หนูไม่อ่าน!”
เด็กชายเคยไฝ่ฝันว่าตนอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ที่มีทั้งพ่อและแม่คอยดูแลใกล้ๆ ไม่ใช่เด็กที่มีเพียงแค่ยายไปรับส่งที่โรงเรียน ในวันเทศกาลต่างๆ ก็ยังมีคนในครอบครัวอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าและไม่อ้างว้างเดียวดาย แต่เด็กชายก็ยังมีความตื่นกลัวตามประสา เพราะไม่เคยเห็นหน้าพ่อของตนมาก่อนเลย“ไปหาแด๊ดดี้สิคะลูก หนูไม่อยากจะไปเล่นเบสบอลกับแด๊ดดี้แล้วเหรอคะ?” วริญญาเอ่ยย้ำถึงกิจกรรมที่ลูกชายอยากจะทำนักหนา แต่ทว่ายังหาคนสอนไม่ได้ แล้วมันก็ข้าทางกับสถานะการณ์ในตอนนี้พอดี“ลุงคนนั้นเป็นแด๊ดดี้ของผม จริงๆ หรือครับมัม” เชนเงยหน้าขึ้นมาถามตามประสา พร้อมกับมีรอยยิ้มน่ารักตามมา เมื่อได้ยินคนเป็นมารดาเอ่ยยืนยันกับเขาว่า“ใช่สิคะลูก ผู้ชายคนนี้คือแด๊ดดี้ของหนู เขาเองก็ตามหาพวกเรามานานแล้วนะ ไปสิจ๊ะ ไปกอดแด๊ดดี้อย่างที่หนูเคยอยากจะทำไง...”ชางเจ็บปวดหัวใจอย่างที่สุด เมื่อได้ยินประโยคที่วริญญาพูดออกมา นั่นหมายความว่าที่ผ่านมาเธอกับลูกจะต้องอยู่กับความอ้างว้าง ซึ่งมันไม่ต่างจากเขา ที่เฝ้าตามหาหญิงสาวมาชั่วชีวิตเช่นเดียวกันชางเบี่ยงองศาหน้าหันไปทางอื่น เพราะต้องการกลืนน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา
หญิงสาวจึงหันไปพยักหน้าให้กับลูกน้องที่ยืนอยู่ใกล้ เชิงออกคำสั่งให้เปิดเทปบันทึกเสียง และภาพจากคลิปวีดีโอ ที่มีเสียงสนทนาระหว่างอเนก และอนุวัฒน์ ในตอนที่ทั้งคู่ยังอยู่ที่ท่าเรือ เพียงแค่ได้ยินเสียงของคนเป็นลูกชาย นมนิ่มถึงกับไปไม่เป็น อีกทั้งยังมีสีหน้าซีดเผือดอย่างที่เห็น“บอกมาได้ไหมคะ ว่าคนที่เห็นอยู่ในคลิปและเทปบันทึกเสียงนี่ ใช่เสียงของลูกชายนมหรือเปล่า?”“มันเป็นหลักฐานปลอมใช่ไหมคุณหนู มันเป็นเรื่องไม่จริงหรอกค่ะ ใครจะกล้าไปคิดต่ำทรามกับผู้มีพระคุณได้ นมเคยสอนคนหนึ่งไว้ว่ายังไงก็สอนลูกตัวเองแบบนั้นเหมือนกัน”คำแก้ตัวของนมนิ่ม ทำให้วริญญาอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ เพราะจนถึงขนาดนี้นางก็ยังไม่มีท่าทางว่าจะยอมรับความผิดที่ตนได้เป็นคนก่อไว้ข่าวการตายของอเนกและอนุวัฒน์ในเวลานี้ กำลังขึ้นไปอยู่หน้าหนึ่งของสื่อทุกสำนักนักข่าวเริ่มขุดคุ้ยและหาหลักฐานซึ่งเชื่อกันว่าในอีกไม่นาน ก็ต้องตามมาถึงตัวของแม่นมของเธออย่างไม่ต้องสงสัยวริญญา หมุนตัวเดินกลับไปที่รถ แล้วค่อยๆ ยกเอาถาดอาหารออกมา ก่อนจะวางมันลงตรงหน้านมนิ่ม พร้อมกับรอยยิ้มการค้า จากนั้นจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ถ้านมบริสุทธิ์ใจจ
อนุวัฒน์เคยบอกแม่ของตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่า อเนกเป็นคนที่คิดจะดีดตัวออกตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มแผนการ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะต้องเสียท่าให้แก่องค์กรฝั่งตรงข้าม แต่อย่างน้อยที่สุดก็ได้รู้แล้วว่า หากจะต้องตายมันก็ต้องตายตกตามกันไป เพราะถึงยังไงมันก็ได้ชั่วด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มต้น “มึงเอง ก็อย่าหวังว่าจะเอาตัวรอดได้เลยไอ้อเนก”ปัง!อนุวัฒน์ใช้เรี่ยวแรงที่มีเหลืออยู่ เหนี่ยวไกปืนแล้วเล็งไปที่ศีรษะของอเนก แต่ตัวของอเนกเองกลับไวกว่า เขาจึงยิงรัวเข้าไปที่ร่างของอนุวัฒน์เพื่อให้มันได้ตายสมใจ แต่ก่อนลมหายใจเฮือกสุดท้ายจะหมดลง อนุวัฒน์ได้เหนี่ยวไกปืนแล้วยิงใส่อเนกได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าลูกปืนมันจะไม่ได้เข้าไปที่ส่วนศีรษะของอเนกอย่างที่ตนตั้งใจ แต่กระสุนก็ยิงเข้าไปที่ชายโครงของอเนกจึงเป็นเหตุให้อเนกเสียการควบคุมพวงมาลัยรถที่กำลังบังคับอยู่ รถที่กำลังแล่นไปบนถนนใหญ่ด้วยความเร็วสูงเกินพิกัด ซึ่งเมื่อขาดคนบังคับมันจึงหลุดออกนอกเส้นทาง คล้ายกับมีบางอย่างดึงดูดให้รถคันที่เห็น กระเด็นออกมาจากถนนเส้นหลัก จากนั้นจึงพลิกคว่ำแล้วกลิ้งตกลงไปในแม่น้ำกว้าง ก่อนจะค่อยๆ จมหายลงไปอย่างช้าๆ พร้อมกับเห็นกลุ่มเลือ
“จัดการส่งคนเข้าไปลากคอพวกมันมา ฉันไม่ต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่ เดินตามแผนการณ์ของเราที่วางเอาไว้ อย่าจับตายจำเอาไว้ว่าฉันต้องการเห็นพวกมันตัวเป็นๆ ““รับทราบครับเจ้านาย”หลังจากที่นั้นเรือลำนั้นแล่นออกไป ก็มีเรืออีกลำซึ่งใหญ่กว่าค่อยๆ ชะลอตัวเข้ามาจอดยังชายหาดด้านข้าง นั่นมันทำให้วริญญารู้สึกเอะใจ แล้วหันกลับไปมองหน้าของชายหนุ่มด้วยความสงสัย“ชาง!...คุณเตรียมแผนการนี้ไว้ตั้งแต่ทีแรกแล้วใช่มั้ย!? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะชาง!”วริญญาแว๊ดใสหน้าชางอย่างจะเอาเรื่อง เมื่ออีกฝ่ายเห็นดังนั้นจึงรีบรับสารภาพกับเธอทันที“บอกเดี๋ยวนี้แล้วครับเมีย....ผมแค่อยากให้คุณทำใจได้ เพราะอันที่จริงแล้วการที่ผมจะฆ่าพวกมันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะคนพวกนั้นอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจที่คุณมีให้กลับมาทำร้ายคุณเอง ผมรู้ดีว่าในตอนที่คุณยังรังเกียจผมอยู่ถ้าผมทำอะไรรุนแรงกับคนพวกนั้นลงไป คุณก็คงจะไม่มีวันให้อภัยผมไปชั่วชีวิต”เขาเหมือนกับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในความคิดและความรู้สึกของเธอ วริญญาตอบตัวเองไม่ได้ว่าเพราะอะไรผู้ชายที่กำลังนั่งกอดเธออยู่ในตอนนี้ถึงได้เข้าใจหัวอกของเธอเสียทุกอย่างชายหนุ่มประคอ
หญิงสาวเพียงแค่ใช้ส้อมที่อยู่ในมือจิ้มลงไปในอาหาร แล้วนำมันขึ้นมาใส่ปากรับประทาน จึงพบว่ารสชาดนั้นไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เธอเคยกินอาหารฝีมือของแม่นม มันช่างน่าประหลาดเพราะมันเป็นรสชาดที่เธอลืมไปนาน หรือเป็นเพราะเธอกินอาหารฝีมือของแม่นมของเธอมานานจนเกินไป“มันไม่มีกลิ่นที่เหมือนกับอะไรบางอย่าง รบกวนจมูกของเราฉันพูดถูกหรือเปล่า?” ชางเอ่ยถามเพราะต้องการความเห็น“ทำไมคุณถึงได้รู้ ทุกครั้งที่ฉันได้กินกับข้าวฝีมือของแม่นมนิ่ม อาหารพวกนั้นจะมีกลิ่นบางอย่าง มันหมือนกับฉันเคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อน แต่กลับนึกไม่ออกว่ามันคือกลิ่นของอะไร?”ชายหนุ่มเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาว่า“สารปรอทยังไงล่ะ เหมือนกับตอนที่คุณพ่อของคุณโดน”ถ้วยอาหารในมือของหญิงสาวถึงกับร่วงตกลงไปบนพื้น ชางรู้ดีว่าเธอคงจะตื่นตกใจ เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบเอาถ้วยนั้นขึ้นมาเคาะไล่สิ่งสกปรกแล้วใช้กระดาษซับมันที่มีอยู่ในถุงเช็ดทำความสะอาด ก่อนจะตักอาหารลงไปให้ใหม่อีกครั้ง“คุณจะพูดล้อเล่นไปถึงไหน? ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณ กับแม่นมของฉันมีปัญหาอะไรกันถึงขนาดจะต้องตามจองล้างจองผลาญกันขนาดนี้ แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับคุณพ่อด้วย?”“ห
ท่อนแขนกำยำทั้งสองข้าง ยังคงกอดประคองร่างกายของหญิงสาวเอาไว้แนบแน่นผิวเนื้อเนียนนุ่มยังคงเบียดเสียดถูไถกันจนกระทั่งบางครั้งยังเข้าใจว่า ร่างกายของเธอและเขาอาจจะลุกไหม้ขึ้นมาได้ ในช่วงจังหวะนั้นมีหลายครั้งที่เธอกับเขาได้ประสานสายตา และก็มีบางคราที่วริญญาเธอเผลอยิ้มให้เขาอย่างลืมตัว เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชินกับสัมผัสที่ห่างหาย ชางจึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วหญิงสาวไม่เคยลืมเขาไปจากหัวใจเลยแม้แต่นิดเดียว“ผมรักคุณ รักทั้งหมดของคุณ ตรงนี้ ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ อา…คุณต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น”“ปล่อยฉันสักทีเถอะค่ะ ฉันสู้แรงคุณไม่ไหวแล้วนะ กี่ครั้งแล้วคะนี่”“ผมไม่สนใจ จะกี่ครั้งมันก็เป็นของผม อย่างนี้!”ชายหนุ่มโจนจ้วงเข้าไปจนสุดลำโคน จนโดนกำปั้นบอบบางทุบเข้าที่กลางหลัง จากนั้นจึงต่อว่าตามมาเสียงดัง“นิ้คุณ! คิดจะฆ่ากันให้ตายเลยหรือไงฮะ!? คุณเป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”“ก็ตั้งแต่ตอนที่ผมตามหาคุณไม่เจอ ตั้งแต่ตอนที่ผมเห็นว่าคุณมีผู้ชายคนอื่น”วริญญาไม่กล้าพูดอะไรต่อ หญิงสาวได้แต่หลับตาและปล่อยให้เขาตักตวงเอากับร่างกายของเธอต่อไป พร้อมกับฟังเสียงคำรามของอีกฝ่ายที่ระบาย