“ลงมา! เร็วๆสิ! เดี๋ยวก็ตายหรอก ลงมา!”เทวาพาวารีมาที่โรงแรมม่านรูดที่อยู่ข้างผับ ก่อนจะบอกให้เธอลงจากรถ“ไม่...ไม่เอา...”เสียงกระท่อนกระแท่นของวารีบอกขึ้น เขาพาเธอเข้าโรงแรมม่านรูดแบบนี้ จะให้เธอคิดยังไงนอกจากเขาก็เลวไม่ต่างจากไอ้หนุ่มแว่นนั่น“โอ๊ย!! ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า! ลงมา! เดี๋ยวได้ตายคารถหรอก ลงมา!...”เขาพยามดึงเธอลงจากรถ ซึ่งทุกครั้งที่เขาแตะต้องร่างกายของวารีกลับร้อนรุ่มไปหมด เธอค่อยๆลงมาจากรถ ก่อนเขาจะดึงพาเข้าไปในห้อง จนมาหยุดอยู่ที่ห้องน้ำ เทวาเปิดน้ำเย็นๆแล้วดันเธอเข้าไป“เฮ้อ เหนื่อยกับเธอจริงๆ...คิดได้ไงว่าฉันจะทำอะไรเธอ...”เทวามองคนที่นั่งกอดตัวเองในห้องน้ำพร้อมกับส่ายหัว กว่าจะพามาได้ทำเอาเขาเหนื่อยจนแทบหมดแรง เขามองร่างอวบอ้วนที่เริ่มสะอื้นไห้ใต้ฝักบัวอย่างเริ่มสงสาร“งั้น...ฉันไปรอบนรถนะ...ดีขึ้นก็ออกมาล่ะ...”เขาบอกออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้วารีได้ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาโดยเขาขอไปนั่งรอที่รถเพื่อความสบายใจของเธอส่วนวารี พอเขาเดินออกไปเธอก็ร้องไห้หนักขึ้น เกิดมาเธอพึ่งเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ เธอเกือบถูกหลอกแถมยังมาถูกจับได้โดยเพื่อนร่วมห้องอีก ไม่มีอ
วันต่อมา บ๊อบบี้ที่มาเรียนตั้งแต่เช้าเผื่อว่าวารีจะมาก่อนตัวเอง แต่กลับพบว่าทั้งวารีและธารากลับไม่โผล่มาจนถึงเวลาเรียน ติดต่อก็ไม่ได้ ทำเอาบ๊อบบี้แทบเรียนไม่รู้เรื่อง เธอเอาแต่นั่งมองไปที่ประตูเผื่อเพื่อนทั้งสองจะโผล่มาแต่ก็ไร้เงาจนจบคาบเรียนส่วนสองคนที่หายไปนั้น แทบพากันลุกไม่ขึ้น เมื่อดันถูกเปิดบริสุทธิ์เอาวันเดียวกัน แถมยังหนักหน่วงจนเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่างจนพากันไข้กิน“นี่...เธอ ลุกไหวไหม...ไปหาหมอเถอะ...”“หือ?...ไม่...”เทวาที่ตอนนี้กำลังนั่งมองวารีที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมอุณหภูมิร่างกายทะลุ 39 องศา แต่ก็ยังไม่ยอมไปหาหมออีก พอจะเช็ดตัวให้เธอก็ไม่ยอม เอาแต่ไล่เขากลับไป จนเทวาเริ่มหนักใจ เธอทั้งโดนยา ทั้งถูกเขาเปิดซิง เป็นธรรมดาที่จะป่วย แต่ที่นี่มันม่านรูด จะมานอนยาวๆก็ไม่น่าจะดีเท่าไหร่“งั้นก็ลุกเถอะ นี่มันม่านรูดนะ เธอจะนอนจนพรุ่งนี้ก็คงไม่ได้”“นาย...นายก็ออกไปก่อนสิ...ฉันอาย”และเทวาก็ต้องลุกเดินออกไปรอที่รถ ส่วนวารีที่ทั้งอาย ทั้งเสียใจที่เสียบริสุทธิ์ค่อยๆพยุงร่างลุกขึ้น เสื้อผ้าของเธอถูกเขาส่งไปซักให้และวางเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว“จะอายอะไร...เหลือแค่ไส้ในแหละที่ยังไ
วันต่อมา หลังจากได้พักกันทั้งวันสองสาวก็ดีขึ้น แต่กลับไม่ได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้กันฟัง ต่างคนต่างคิดที่จะเก็บเป็นความลับแล้วทำตัวเหมือนปกติ“แกจะใส่ทำไมธาร ใส่คอนแทคเลนส์ก็ดีอยู่แล้ว...อีกอย่างแว่นนั่นน่ะ น่าเกลียดกว่าอันเก่าอีกนะ”ธาราหยิบแว่นมาใส่หลังจากใส่คอนแทคเลนส์แล้วเพราะอยากปิดบังใบหน้าจะได้ไม่มีคนสนใจอีก ทำให้วารีอดที่จะว่าออกมาไม่ได้“ก็ฉันไม่อยากให้คนมอง...”ธาราบอกออกมาตามความจริง เพราะตั้งแต่ไม่มีแว่นเหมือนชีวิตของเธอนั้นเริ่มวุ่นวาย เธอเลยไปซื้อแว่นตาอันใหญ่โตมาใส่เพื่อรออันที่เธอสั่งตัดอยู่จากนั้นสองสาวก็ไปเข้าเรียน และทำเหมือนไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ขนาดเดินไปเจอพวก 4 หนุ่มสองสาวก็ไม่ได้ทักทายหรือมีท่าทีผิดปกติเลยสักนิด ทำเอาทั้งโรมัน ทั้งเทวาถึงกับอ้าปากค้าง“เมื่อวานพวกแกสองคนหายหัวไปไหนมา นี่จะไม่ตอบฉันจริงๆเหรอ?”ศิวะที่ยังคงคาใจและสงสัยหันมาถามเทวาและโรมันอีกครั้ง ตั้งแต่มาเรียนเขาก็ถามมันออกมาไม่ต่ำกว่าสิบรอบแล้ว แต่ก็ไม่ได้คำตอบส่วนรามินทร์ เขาไม่ได้พูดหรือถามอะไรนอกจากคอยสังเกตโรมันที่เอาแต่หงุดหงิด ส่วนเทวาก็เหมือนประหม่าอยู่ตลอดเวลา และยิ่งสองสาวเดิน
เอี๊ยด!“ขึ้นมา”“ห๊ะ!? เอ่อ...”“บอกให้ขึ้นมา”ทางด้านธาราที่เดินออกมาเพื่อกลับหอพักกลับถูกรถคันหนึ่งขับมาจอดแทบจะเหยียบเท้าของเธอ และพอกระจกรถลดลงก็เป็นโรมันที่มาดักรอพบเธอ“เอ่อ นายมีอะไร...”พอขึ้นมาบนรถ ธาราก็ถามขึ้นทันที“ติวไง วันนี้เรามีติว หรือเธอไม่ต้องการแล้ว”และพอได้ยินแบบนั้น ธาราก็พูดอะไรไม่ออก เธอทั้งโกรธทั้งน้อยใจเขาแทบตายจนท้อแท้และหมดกำลังใจแต่เขากลับมารับเธอไปติว ทำให้เธออดที่จะรู้สึกผิดกับตัวเองไม่ได้“นายจะติวที่นี่อีกเหรอ...ฉันว่าเราไป...”“ลงไป”และโรมันก็พาเธอมาที่คอนโดของเขาอีกครั้ง ธาราถึงกับใจเต้นแรง เพราะเรื่องที่เคยเกิดขึ้นดันฉายชัดในหัวของเธอในตอนนี้ ก่อนจะลงรถแล้วเดินตามเขาเข้าไปนี่มันอะไรกัน...ขึ้นห้องกับผู้ชายได้อย่างหน้าไม่อายจริงๆยัยธารเอ้ย!ธาราอดคิดอย่างรู้สึกอายไม่ได้ ไม่นานเธอก็มายืนอยู่ในห้องของเขา“วางของสิ เดี๋ยวฉันเปลี่ยนชุดก่อน”“อื้อ...”ธาราเดินไปนั่งลงที่เดิมของเธอ ก่อนจะหยิบของในกระเป๋าออกมา รอไม่นานโรมันก็เดินออกมา และพอเงยหน้าขึ้นมองธาราถึงกับอ้าปากค้างโอ้วแม่เจ้า!! นี่มัน...นายแบบ...ไม่สิ โรมจริงๆเหรอเนี่ย ทำไมหล่อขั้นเทพ หล่อระเบิ
“เฮ้อ...จะเอายังไงดี...อีกแค่ 2 วัน...หรือจะถอดใจเรื่องเรียนแล้วไปทำงานกับเตี่ยกับม๊าดี...โอ๊ยๆๆๆๆ ทำไมฉันต้องเกิดมาโง่ๆๆๆ แถมอ้วนแล้วยังขี้เหร่สุดๆอีกเนี่ย! ฮือๆๆๆ เอาไงดีๆๆๆ”ทางด้านวารีที่เอาแต่นั่งมองกระดาษแผ่นเล็กที่ทั้งยับยู่ยี่และมีแต่รอยปะติดต่อกันเต็มไปหมดอย่างคิดหนัก เมื่อตอนนี้เธอยังหาทางออกเรื่องสอบซ่อมที่กำลังจะมาถึงไม่ได้เลย ก่อนหน้านี้เธอนั้นถึงกับถอดใจเรื่องเรียนหมอแล้วคิดจะกลับไปทำธุรกิจร้านอาหารกับบิดามารดา แต่ถ้าเทวายอมสอนเธอจริงๆ เธอก็ยังมีหวังในการเรียนหมอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนทำให้เธอคิดหนัก ขนาดแค่เจอหน้าเขาเธอยังอยากวิ่งหนีเลย นี่ให้ไปนั่งสอนตัวต่อตัวจะเกิดอะไรขึ้น“โอ๊ย!! ไม่รู้ด้วยแล้วโว๊ย!”และสุดท้ายเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ที่อยู่ในกระดาษแล้วโทรออก“ฮัลโหล...ใครอ่ะ...”แต่กลับเป็นเสียงผู้หญิงรับสาย วารีถึงกับไปต่อไม่เป็น“เอ่อ คือว่า เอ่อ ฉัน...โทรผิดน่ะ”และสุดท้ายเธอก็ไม่กล้าพอที่จะพูดต่อเลยกดวางสายไป“อ๊าย! ตาบ้า! อยู่กับผู้หญิงก็ไม่บอก ฉันเกือบโดนตบแล้วไหมล่ะ!”วารีที่ก่นด่าเขาผ่านโทรศัพท์ได้แต่มองมันอย่างสิ้นหวัง ความหวังเดียวนั้นหลุดลอ
“ห๊ะ? ยัยธารไม่มาอีกแล้วเหรอ?...”“อื้ม เห็นส่งข้อความมาบอกว่าให้แล็กเชอร์เผื่อด้วย”“อะไรของยัยนั่น ยิ่งโง่ๆอยู่ ทำไมเดี๋ยวนี้ลาบ่อย เมื่อวันก่อนก็ไม่มา”“นั่นสิ เมื่อคืนก็ไม่กลับหอ บอกว่าติวดึกเลยไปเช่าห้องนอน...แต่แกว่ายัยธารมันแปลกๆไปไหม? ปกติแทบไม่เคยหยุดเรียน”“อืมแปลก...ไม่ใช่แค่ยัยธาร แกด้วย ตกลงเมื่อวันก่อนไปทำอะไรมาเห็นบอกไม่สบาย”“อ่าว ไม่สบายต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ! พอเลยๆ โน่น อาจารย์หมอมาแล้ว”เช้าวันต่อมา สองสาวแท้และเทียมกำลังคุยกันถึงเรื่องการลาหยุดของธารา ที่ส่งมาแค่ข้อความแล้วจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีก จนพวกเธอเริ่มสงสัยและรู้สึกเป็นห่วง แต่พอพูดไปพูดมาก็เริ่มวนเข้าเรื่องของวารีจนเธอรีบบ่ายเบี่ยงไปทางอื่น“เอา นี่ยา กินข้าวแล้วกินยาซะนะ ฉันมีเรียนบ่าย ยังไงเธอก็พักที่นี่แหละ เรียนเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันกลับมาติวให้”“อื้อ...”“ถ้าอยากได้อะไร นั่นเบอร์ฉัน จะส่งข้อความทิ้งเอาไว้ก็ได้”ทางด้านธารา พอส่งข้อความไปหาวารีเสร็จเธอก็ต้องล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เมื่อร่างกายบอบช้ำจนแทบเดินไม่ได้ ยาเธอก็ลืมเอามาจากห้องเดือนร้อนโรมันต้องไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ดีที่คุณหมอที่ตรวจเธอนั้นเป็นน้าส
“ทำไมห้องเงียบแบบนี้ หรือว่ายัยนั่น...”ทางด้านโรมันที่พึ่งกลับมาถึงห้องด้วยสองมือเต็มไปด้วยถุงอาหารที่เขาแวะซื้อมา แต่ห้องกลับดูเงียบผิดปกติเขาเลยเดินเข้าไปมองหาอีกคนที่บอกให้อยู่ที่นี่ และก็มาเจอเธอนอนหลับอยู่ที่เตียงของเขา พลันความรู้สึกแปลกๆที่ไม่เคยมีกลับตีตื้นขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้เพียงเพราะมีคนนอนรอเขากลับมาอย่างนี้“ยังไม่ตื่นสินะ”เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นธารานอนหลับอยู่ เธออาจหลับไปเพราะยาหรืออาจหลับเพราะเหนื่อยจากเมื่อคืน แต่เหนื่อยยังไงเขากลับรู้สึกดีเวลาเธอนอนอยู่บนเตียงของเขาอย่างนี้“อื้อ...นายกลับมาแล้วเหรอ...โทษที พอดีฉันรู้สึกเพลียๆ”ธาราที่รู้สึกตัวหลังจากได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม เธอลุกขึ้นมองโรมันอย่างรู้สึกอายที่มานอนห้องเขาอย่างสบายใจแถมหลับสนิทยาวมาจนถึงตอนนี้“ยังเจ็บอยู่ไหม”“ห๊ะ? เอ่อ เจ็บ เฮ้ย! ไม่เจ็บ...แล้ว...”“งั้นคืนนี้คงต่อได้ ฉันซื้อของมา ออกมากินสิ”“...............”คำพูดของเขาทำเอาเธอถึงกับหน้าแดงแจ๋ และโรมันที่เดินหันหลังออกไปก็ได้แต่ยิ้มอย่างรู้สึกขำในความไร้เดียวสาของเธอส่วนธารา เธอหมดสภาพอย่างไม่น่าให้อภัย เธอพยุงร่างกายที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเช้าอย่าง
“ธาร แกว่าวันนี้มันแปลกๆไหม...ฉันว่าเราดูเป็นจุดสนใจแปลกๆนะ...”วันต่อมา เมื่อพากันเตรียมพร้อมเต็มที่แล้วเรื่องการสอบซ่อม สองสาวก็รีบมาที่มหาวิทยาลัยแต่กลับมีแต่คนคอยจ้องและมองตามจนเริ่มไม่มั่นใจ“อือ ฉันรู้สึกมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”ธาราบอกขึ้นพร้อมกับกอดแขนอ้วนๆของวารีแน่น“หรือว่าแกลืมใส่แว่นมา”วารีรีบก้มมอง“ไม่นี่...หลังใส่คอนแทคเลนส์ฉันก็รีบใส่เลย”“หรือว่าเราสองคนคิดไปเอง...ช่างเถอะๆๆรีบไปที่ห้องกัน จะได้ทบทวนอีกรอบก่อนสอบ”“อื้อ...”วารีบอกขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้ธาราหมดกังวลได้เลย เมื่อตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอกลัวคือเรื่องของเธอกับโรมันอาจเล็ดลอดออกไป แล้วพวกสาวๆของเขาอาจมาทำร้ายเธอนี่สิจากนั้นไม่นานสองสาวก็เริ่มสอบซ่อมโดยมีเพื่อนร่วมชะตาชีวิตอีกสิบกว่าคนที่สอบไม่ผ่าน ส่วนคนอื่นๆวันนี้เป็นวันหยุด“ลม! ฉันผ่านแล้ว!”“ใช่! ฉันก็ผ่านเหมือนกัน!”หลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง สองสาวก็เดินออกจากห้องสอบด้วยรอยยิ้มกว้าง เมื่อสิ่งที่พวกเธอพยายามมาเป็นอาทิตย์ประสบผลสำเร็จแล้ว นั่นแสดงว่าพวกเธอยังได้ก้าวเดินในสายอาชีพนี้ต่อไป“เย็นนี้เราไปฉลองกันเถอะ”“โอเค!”สองสาวได้แต่กอดกันด้วยความดีใจ ก่อนจะมีเ
หมับ!“ออกไปห่างๆ ยัยนี่แฟนฉัน”เสียงห้ามอันเย็นเยียบบอกขึ้น เมื่อมือของชายหนุ่มที่อยู่ในงานเลี้ยงกำลังจะแตะต้องถูกตัวของวารี เทวารีบเอื้อมมือจับมันเอาไว้แน่น“เอ่อ ขอโทษที พอดีแค่จะทักทาย”หนุ่มหล่อบอกขึ้นพร้อมกับรีบดึงมือกลับ“ไม่จำเป็น ยัยนี่ของฉัน”เทวายังคงแสดงความเป็นเจ้าของ โดยมีวารียืนอมยิ้มอย่างถูกใจกับอาการหึงหวงของคนรักก่อนหนุ่มคนนั้นจะเดินหนีออกไป“ชอบจัง”เธอบอกขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้เขา“เลิกยิ้ม! คนอื่นมองอยู่”“อะไร หวงแม้กระทั่งยิ้ม แล้วนี่บ่าวสาวจะไม่ลงมาจริงๆเหรอ เริ่มดึกแล้วนะ”
“ธาร...นี่มันอะไรกัน...แล้วนี่...มันเกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมดแล้ว...”ไม่กี่วันต่อมา ธารากลับมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับโรมันเพื่อบอกข่าวดีแก่วารีและคนทั้งโรงพยาบาล เมื่อเธอกับโรมันตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกันก่อนที่ลูกในท้องจะคลอดออกมา ทำเอาช็อกไปตามๆกันรวมทั้งวารีเองก็ด้วย เมื่อเธอกำลังมองตรงท้องที่นูนเด่นของธาราอย่างตกใจ เพราะเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆที่ไม่เจอกันแต่ทำไมท้องถึงใหญ่ได้ขนาดนี้“ฉันท้อง 6 เดือนแล้ว”“ห๊ะ! 6 เดือน!”“อื้อ...ส่วนนี่ เดือนหน้าฉันจะแต่งงาน”“นี่มันบ้าไปแล้ว...”วารียกการ์ดงานแต่งงานที่ธารายื่นให้ขึ้นมาดูอย่างไม่อยากเชื่อ ทำเอาธาราอดขำไม่ได้เมื่อเธอเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน“ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้บอกแกเรื่องที่ฉันท้อง&rd
หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ธาราก็เดินลงมาที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งตอนนี้มีเพียงมารดาของเธอนั่งอยู่“มานั่งนี่สิ พ่อกับคุณหมออยู่นอกบ้านกัน...เรามาคุยกันหน่อยไหม?”แม่เลี้ยงนาราพูดขึ้นเมื่อเห็นธาราเดินลงมาจากบนห้องแล้ว ทำเอาเธอถึงกับแปลกใจ เมื่อบิดาขอคุยกับโรมันเป็นการส่วนตัว“มันเกิดอะไรขึ้น ลูกทะเลาะกับคุณหมอเหรอถึงได้หนีกลับมาที่นี่”“คะ? เปล่าค่ะ เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน”ธาราบอกออกมาตามความจริง จนคนเป็นแม่ได้แต่มองอย่างนึกแปลกใจ เพราะทั้งการที่ธารากลับมาที่นี่คนเดียวและการที่โรมันโผล่มาโดยไม่บอกสถานะที่มีกับธาราอีก นอกจากทะเลาะกันก็ไม่มีคำอื่นที่ใช้ได้ดีกว่านี้แล้ว“เล่าให้แม่ฟังได้รึเปล่า ยังไงแม่ก็อยากรู้สาเหตุว่าทำไมลูกถึงหอบท้องกลับมาคนเดียวโดยไม่พูดอะไรเลย”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน...ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ถ้าจะมาก็ควรติดต่อมาก่อนสิ เกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะทำยังไง”ทางด้านธารา พอเดินเข้าห้องนอนมาเธอแทบหมดเรี่ยวแรงเมื่ออยู่ดีๆโรมันก็โผล่มาที่บ้านโดยไม่คิดแม้แต่จะโทรมาบอกเธอก่อน“แล้วจะทำยังไง...ถ้าเกิดเขารู้ว่าเราท้อง เขาจะดีใจ...หรือเสียใจ...จะเชื่อไหมว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขา...แม่ควรทำยังไงดี...”ธาราเอาแต่คิดฟุ้งซ่าน เมื่อสิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือเขาไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อเขาหายไปตั้ง 4 เดือนแบบนั้นแต่เธอดันมาท้อง ยิ่งคิดธาราก็ยิ่งหนักใจจากนั้นเวลาอาหารเย็นก็มาถึง จากที่คิดว่าจะปฏิเสธแต่ลูกในท้องดันเอาแต่ประท้วงหิวจนธาราต้องยอมร่วมโต๊ะอาหาร ซึ่งมีอาหารเต็มโต๊ะไปหมด เมื่อแม่เลี้ยงนาราอยากขอบคุณที่โรมันช่วยชีวิตสามีของเธอ“เชิญตามสบายเลยนะคะคุณหมอ ถือซะว่าเป็นการขอบคุณที่ช่วยชีวิตพ่อเลี้ยงเ
3 เดือนต่อมา“ลาออก! เกิดอะไรขึ้น...ธาร นี่ทำไมแกถึงตัดสินใจอะไรโดยไม่ปรึกษาฉันก่อนล่ะ”“ฉันคิดมาดีแล้วล่ะ อีกอย่างพ่อกับแม่ก็แก่มากแล้วด้วย ฉันคงต้องกลับไปดูแลงานในไร่ต่อ”“เฮ้ออออ แล้วฉันจะอยู่โดยไม่มีแกได้ยังไงกัน...”วารีที่พึ่งรู้เรื่องการลาออกของธาราจากผู้อำนวยการของโรงพยาบาลถึงกับตีโพยตีพาย“ฉันไม่ได้ไปไหนไกลสักหน่อย จากนี่ไปก็แค่ชั่วโมงเดียว แกไปกลับทุกวันได้สบายเลย”ธาราที่ทั้งเก็บของทั้งแกล้งพูดเล่นกับวารีเพื่อไม่ให้เพื่อนรักของเธอโศกเศร้ากับการลาออกจากงานในครั้งนี้“เวลานอนยังแทบไม่มี แล้วฉันจะเอาเวลาที่ไหนบินไปกลับได้ทุกวันล่ะ...ว่าแต่...ไม่ได้มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”“หือ?
“ไอ้เทพ ผู้หญิงที่แกถ่ายรูปด้วยคือใครวะ ดูคุ้นๆ”ศิวะ ที่ข้องใจจนทนไม่ไหวถึงกับต้องถ่อมาหาเทวาที่โรงพยาบาล เมื่อเห็นรูปในโซเชียลมีเดียที่เทวาอัพโหลดลงไป“เมียฉันเอง”เทวาบอกออกมาอย่างไม่ต้องคิด เมื่อเขาจงใจจะประกาศบอกทั้งโลกอยู่แล้ว“เมียเหรอ? แกไปมีเมียตั้งแต่ตอนไหน...แล้วใครกันเมียแก”ศิวะถามขึ้นอย่างแปลกใจ“นั่นไง เมียฉันกำลังเดินมาโน่นแล้ว”เทวาบอกขึ้นพร้อมกับมองไปยังทางเดิน ที่มีใครอีกคนกำลังเดินมา“ไอ้เทพ...อย่าบอกนะว่าแกกับคุณหมอ...ไอ้นี่ ไม่บอกกันก่อนวะ ไวเหมือนกันนะแก”“ก็ธรรมด๊า ฉันรักของฉัน ไม่อยากให้ใครมายุ่งนี่หว่า”
“อะไรนะ! นายนั่นไม่อยู่อีกแล้วเหรอ? หายตัวไปอีกใช่ไหม?”“เปล่า มีเรื่องจำเป็นต้องไปน่ะ”“แล้วแกล่ะ จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”“อื้อ คิดว่าไม่...เขาบอกจะกลับมาให้เร็วที่สุด”“เร็วที่สุด? ไม่ใช่แกต้องรอจนแก่หงำเหงือกหมอนั่นถึงกลับมาหรอกนะ”“.................”ไม่กี่วันต่อมา โรมันที่เคลียร์ทุกอย่างจนเรียบร้อยก็ทำเรื่องลายาวโดยให้นนนน์เป็นคนดูแลงานแทนเขา ทำเอาเรื่องที่เขาหายตัวไปเกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะตั้งแต่เขาเริ่มทำงานมา ก็ดูเหมือนจะติดขัดไปหมด ทั้งเรื่องที่อยู่ดีๆเขาก็บินไปเชียงใหม่ พอกลับมาก็กลับมาด้วยร่างกายที่เกือบจะไม่หายใจอีก แล้วยังมาขอลายาวทั้งๆที่พึ่งเริ่มทำงานได้จริงจังเพียงไม่กี่วัน ทำเอาพวกผู้บริหารพากันจัดประชุมขอถอดถอนโรมันกันจ้าละหวั่น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ขอเข้าไปได้ไหม?...”“................”หลังจากจัดการงานเสร็จ วารีที่รู้สึกผิดเดินมาหาเทวาที่ห้องทำงาน เธอเคาะประตูหน้าห้องแต่เขากลับไม่ตอบรับ เธอเลยเปิดประตูเข้าไปและก็พบว่าเขานั่งทำงานอยู่ไม่เงยหน้าขึ้นมาสนใจเธอเลยสักนิด“นาย ฉัน เอ่อ ฉัน...”“................”เอาไงดีเนี่ย! หรือควรกลับออกไป ไม่ๆๆๆทำผิดก็ต้องกล้ารับผิดสิ...แต่ถ้าหมอนี่ไม่หายโกรธล่ะ...“ฉันขอ...”“ไปกินข้าวมาคงอร่อยจนลืมเวลางานเลยงั้นสิ”นั่นไง อีตาบ้านี่โกรธจริงๆด้วยวารีที่ยังพูดไม่ทันจบแต่เทวาพูดขึ้น
“คุณหมอคะ โน่นค่ะ แฟนคลับคุณหมอมาอีกแล้ว”“คะ?...”เวรแล้ววววว ทำไงดีๆๆ หลบๆๆๆ อ๊ายยย ไม่ทันแล้ววววารีที่กำลังยืนเช็คเอกสารอยู่มองไปตามที่พยาบาลสาวบอก ก่อนจะเจอเข้ากับศิวะที่เดินยิ้มร่าตรงมาหาเธอ ในมือถือช่อดอกไม้เล็กๆน่ารักมาด้วย“คุณหมอครับ นี่ครับผมเอามาฝาก”ศิวะรีบยื่นดอกไม้ในมือให้กับวารี ที่มองหน้าเขาพร้อมยิ้มฝืดๆส่งไปให้“ฉันไม่ค่อยชอบดอกไม้ ถ้าจะเป็นของฝากก็ขอเป็นกระเป๋าหลุยส์คอลเลคชั่นใหม่ที่พึ่งออกจะดีมากเลยค่ะ”หลุยส์คอลเลคชั่นใหม่...2 ล้าน 5 ! โอ้วววแม่เจ้า!!พอได้ยินของที่เธออยากได้ ศิวะที่เป็นเจ้าพ่อแฟชั่นถึงกับอ้าปากค้างเมื่อของที่เธออยากได้มันพึ่งเปิดตัวเม