หลังจากทุกคนออกไปจากบ้านแล้วศานิตาก็ชะเง้อคอมองไปทางประตูหน้าบ้านเธอกำลังรอใครบางคนที่นัดให้เจอกันที่นี่
เมื่อเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นหญิงสาวก็รีบเดินไปเปิดประตูทันที
“พี่ชัย นิตคิดถึงพี่ชัยมากๆ เลยค่ะ” เธอดีใจมากที่เห็นหน้าคนรักอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมานานถึงสองเดือน
“พี่คิดถึงนิต”
“พี่ชัยนิตว่าเราเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะมีคนมาเห็น”
“ในบ้านไม่มีใครอยู่จริงๆ ใช่ไหมนิต”
“ไม่มีค่ะพี่ชัย ทุกคนออกไปเที่ยวกันหมดแล้ว ตอนนี้นิตอยู่ที่บ้านคนเดียวค่ะ”
เมื่อเดินเข้ามาถึงในบ้านชายหนุ่มดึงศานิตาเข้ามากอดโดยที่หญิงสาวก็ตอบกอดด้วยความคิดถึง
“พี่ชัยนิตคิดถึงพี่มาก พี่เป็นยังไงบ้าง” ศานิตาพาคนรักมานั่งในห้องรับแขกซึ่งบ้านหลังนี้ชัยเดชก็เคยมาแล้วหลายครั้ง
“พี่ก็คิดถึงนิตนะ ตอนนี้พี่เริ่มงานใหม่แล้วล่ะเงินเดือนอาจจะไม่เท่าบริษัทเดิมเท่าไหร่แต่มันก็พอเลี้ยงตัวเองได้ นิตล่ะเป็นยังไงบ้าง”
“นิตก็สบายดีค่ะ”
“ลูกของเราเป็นผู้หญิงใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“พี่ใช่พี่ว่าลูกต้องสวยเหมือนนิตแน่ แล้วนิตแพ้ท้องมากหรือเปล่า”
“นิตแพ้ท้องอยู่ไม่ถึงสองอาทิตย์เองค่ะ นับว่าโชคดีมากเพราะคนอื่นเขาไปท้องกันตั้งสามเดือน ลูกกลัวว่านิตจะเหนื่อยมั้งคะ”
“แล้วเช้านี้กินอะไรหรือยังพี่ซื้อขนมครกที่นิตชอบมาฝากด้วยนะ”
“นิตกินข้าวแล้วค่ะ แต่กินขนมที่พี่ชัยซื้อมาอีกก็ได้” หญิงสาวหยิบขนมครกขึ้นมาทานแล้วยิ้มให้กับคนรัก เธอรู้สึกดีมากที่เขายังจะได้ว่าเธอชอบทานขนมครก
“พี่ชัยดูผอมไปหรือเปล่า”
“นิดหน่อยครับ การอยู่คนเดียวกินข้าวคนเดียวทุกมื้อมันก็เลยไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ เมื่อไหร่เราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันนะ”
“อีกไม่นานหรอกค่ะ นิตจะรอให้ลูกคลอดก่อน แล้วจะคุยกับคุณแม่อีกทีค่ะ นิตอยากให้เรากลับมาอยู่กันเป็นครอบครัวลูกคงมีความสุขมากๆ”
“ไม่ใช่แค่ลูกหรอกที่มีความสุขมากพี่เองก็คงมีความสุขมาก”
“นิดอยากช่วยพี่ชัยนะคะแต่หลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้นบัญชีของนิตก็ถูกจับตามองไปด้วยการจะเบิกเงินสดออกมาสองล้านมันเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก”
“พี่เข้าใจ พี่จะพยายามหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุด”
“แล้วเพื่อนของพี่ที่เขาบอกจะเอาเงินไปลงทุนพี่ติดต่อเขาได้ไหม”
“พี่ยังติดต่อเขาไม่ได้แต่ก็พยายามจะติดต่ออยู่เพราะไม่ใช่มีแค่พี่คนเดียวที่เอาเงินไปลงทุนยังมีเพื่อนคนอื่นที่เอาเงินไปลงทุนกับเขาด้วย พี่รู้ว่ามันน่าจะตามยากมากๆ แต่พี่ก็จะพยายาม”
“เอาไว้สิ้นปีเงินปันผลออกมาเป็นก้อนนิตว่าจะเอาให้พี่ชัยนะคะจะได้เอาไปคืนบริษัท แต่พี่ชัยรอก่อนนะคะ เพราะมันอีกตั้งหลายเดือน”
“ไม่เป็นไรพี่เข้าใจพี่รอได้ แค่พี่มาเห็นว่านิตมีความสุขพี่ก็ดีใจมากๆ แล้ว สัปดาห์หน้าพี่จะต้องเข้าไปที่กรุงเทพนิตออกมาเจอพี่ได้ไหมล่ะช่วงกลางวันก็ได้”
“ช่วงกลางวันนิตน่าออกมาหาพี่ได้ค่ะ”
“ถ้าพี่รู้ว่าจะไปวันไหนพี่จะโทรบอกนิตนะเรานัดเจอกันที่โรงแรมเดิมดีไหมจะได้นอนคุยกัน”
“ทำไมต้องนอนคุยกันด้วยล่ะคะ เรานัดกันที่คาเฟ่ก็ได้”
“โธ่...นิตเราไม่ได้เจอกันกี่เดือนแล้วพี่คิดถึงนิตมากนะคะ”
“แต่นิดท้องอยู่นะคะพี่ชัย”
“พี่ถามหมอมาแล้วว่าท้องหกเดือนมันไม่เป็นอันตรายเลยไม่เชื่อนิดก็ลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตสิว่าทำแบบไหนมันถึงจะไม่เป็นอันตรายหรือนิตไม่อยากนอนกับพี่เพราะนิตมีคนอื่น”
“เปล่านะคะพี่ชัย ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยนิตกับพี่พัทธ์นอนแยกห้องกัน นิตมีพี่ชัยคนเดียวจริงๆ นะคะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะกลัวคนรักจะเข้าใจผิด
ชัยเดชขยับเข้ามาใกล้แล้วกอดคนรักไว้แน่น
“พี่ขอโทษน้านิดที่พูดออกไปแบบนั้นพี่เห็นนิตอยู่กับเขาแล้วพี่รู้สึกหวงนะนิตของพี่ทั้งสวยทั้งน่ารักแบบนี้พี่ก็กลัวว่าวันหนึ่งคุณพัทธ์เขาจะเปลี่ยนใจ”
“ไม่หรอกค่ะพี่พัทธ์มองว่านิตเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้นพี่ชัยสบายใจได้เลยนะคะ”
“ถ้างั้นตกลงเรานัดเจอกันที่โรงแรมนะพี่คิดถึงเมียจริงๆ นะวันนี้นิตมีเวลาให้พี่ไหม เราไปคุยกันข้างบนห้องนอนนะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะพี่ชัยนิตกลัวว่าคนอื่นจะเข้ามาเห็น อดทนรอนะคะอีกแค่หนึ่งอาทิตย์เอง”
“รู้มั้ยพี่คิดถึงนิตมาก”
“นิตก็คิดถึงพี่ค่ะ” ทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่เขาจะก้มลงประกบริมฝีปากหนาลงมาบนปากอิ่มของศานิตา ปลายลิ้นที่เข้ามากวาดต้อนทำให้หญิงสาวสั่นสะท้าน เธอกำลังโหยหาสัมผัสอันคุ้นเคยของชายที่ตนเองรัก ทั้งสองจูบกันอย่างเนิ่นนานก็จะผละออกเพราะกลัวว่ามันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
“จูบของนิตยังหวานเหมือนเดิมแล้วแบบนี้จะให้พี่อดใจไหวได้ยังไงอีกตั้งอาทิตย์หนึ่งเลยนะนิด”
“พี่ชัยอดทนมาได้ตั้งหลายเดือนอีกแค่อาทิตย์เดียวเองนะคะนิตสัญญาเลยว่าวันที่เราเจอกันนิตจะทำให้พี่มีความสุข”
“พี่มีความสุขคนเดียวที่ไหนล่ะพี่ก็จะทำให้นิตมีความสุขด้วย”
“แต่มันจะไม่เป็นอันตรายกับลูกในท้องจริงๆ เหรอคะพี่ชัย”
“จริงสิพี่หาข้อมูลมาแล้วยังเหลือเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์นิตก็ลองหาข้อมูลดูบ้างสิแล้วพี่จะรู้ว่าคนท้องก็สามารถมีความสุขได้และมันอาจจะส่งผลดีให้ลูกของเรามีความสุขด้วยก็ได้นะ” ชัยเดชพูดไปตามที่ตัวเองคิด
เดิมทีชายหนุ่มเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกับ ศานิตาและอยู่ในแผนกบัญชี ทั้งสองแอบคบหากันโดยไม่มีใครรู้จนกระทั่งศานิตาท้องและเป็นช่วงที่ชัยเดชจะเอาเงินของบริษัทไปสองล้านบาท ชายหนุ่มจึงถูกไล่ออกและทางบริษัทก็ดำเนินคดียักยอกซึ่งเขายินยอมจะชำระหนี้โดยการผ่อนจ่าย
ชัยเดชหวังว่าถ้าหากตัวเองได้เป็นลูกเขยของคุณอุไรวรรณแล้วจะสามารถเอาเงินสองล้านมาใช้คืนให้กับบริษัทได้
แต่ระหว่างที่เกิดเรื่องคุณอุไรวรรณก็ประกาศกับทุกคนว่าศานิตากับเจตนิพัทธ์กำลังคบหากันอยู่และจัดงานเลี้ยงได้เล็กๆ เพื่อบอกกับญาติผู้ใหญ่และคนสนิทให้รับรู้ว่าทั้งสองกำลังจะอยู่กินกันในฐานะสามีภรรยา ตอนนั้นชัยเดชรู้สึกโมโหและผิดหวังมากๆ ที่ศานิตาหักหลังตนเองแบบนั้นแต่เมื่อหญิงสาวอธิบายให้ฟังเขาก็ใจเย็นลงและรอคอยวันที่จะได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง
“แม่ของนิตจะกลับเข้ามาอีกทีเมื่อไหร่”
“น่าจะเป็นช่วงบ่ายค่ะพี่ชัยอยู่กับนิตก่อนได้ไหมกินข้าวกลางวันด้วยกันนะ เดี๋ยวนิตสั่งให้โรงแรมเอามาส่งที่นี่”
“พี่ว่าเราออกไปกินร้านอาหารใกล้ๆ แถวนี้ดีไหมล่ะ”
“แต่นิตกลัวคนอื่นเห็นค่ะ พี่เราสั่งมากินที่นี่ดีกว่านะคะ”
“พี่ตามใจนิตนะ อยากกินอะไรล่ะ เอาแบบเดิมดีไหมแบบที่นิตชอบกิน”
“ได้ค่ะพี่ชัย”
“หิวหรือเปล่าไอซ์” เจตนิพัทธ์ถามไอศิกาเมื่อเธอตื่นในสายของอีกวันหนึ่ง“นิดหน่อยค่ะ อาพัทธ์หิวไหมแถวนี้มีร้านอาหารไทยด้วยนะแต่เปิดสิบเอ็ดโมงค่ะเดี๋ยวหนูพาไปกินนะ”“อาลงไปซื้อเบอร์เกอร์มาแล้วไอซ์จะกินก่อนหรือจะอาบน้ำก่อนล่ะ”“หนูขออาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ อาพัทธ์ไปรอข้างนอกได้ไหมคะ”“ให้อาช่วยอาบไหม”“ไม่เป็นไร”“ยังจะอายอะไรอีกอาเห็นของหนูไปหมดทั้งตัวแล้วนะ ให้อาช่วยอาบจะได้รีบออกไปกินเบอร์เกอร์”“ก็หนูกลัวว่ามันจะไม่จบแค่อาบน้ำน่ะสิ นะคะอาพัทธ์ไปรอหนูข้างนอกนะคะ”“ครับ” เมื่อฟังเสียงอ้อนของคนรักเขาก็ยอมออกไปจากห้องแต่โดยดีเจตนิพัทธ์รอไม่นานรักไอศิกาก็ออกมาพร้อมกับสวมเสื้อยืดกางเกงยีนดูทะมัดทะแมงเหมาะกับการออกไปเที่ยววันนี้หลังจากรับประทานทานแฮมเบอร์เกอร์กันแล้วทั้งสองคนก็พากันไปเดินเที่ยวในเมือง วันนี้ผู้คนออกมาเดินเที่ยวและซื้อของเพื่อฉลองเทศกาลคริสต์มาสกันค่อนข้างมาก“ไอซ์อยากได้อะไรเป็นของขวัญวันปีใหม่ล่ะเดี๋ยวอาซื้อให้”“แค่อามาหาหนูที่นี่มันก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว”“พูดจาแบบนี้มันน่ารีบกลับไปจับกดที่ห้องจัง”“มันเกินไปแล้วนะคะอาพัทธ์”“ก็อาคิดถึงหนูนี่ ไม่ได้นอนด้วยกันมานานตั้ง
เจตนิพัทธ์ใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก พอเขาออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าตอนนี้เจ้าของห้องนอนหลับไปแล้วแต่ไฟที่หัวเตียงเปิดอยู่ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนนอนข้างๆ กับหญิงสาวและดึงเธอเข้ามากอดตอนนี้เตียงนอนขนาดห้าฟุตมันดูเล็กไปถนัดตาเมื่อร่างกายสูงใหญ่ของเขาขึ้นมานอน“ไอซ์หลับแล้วใช่ไหม” เขากระซิบถามเบาๆ“ค่ะหนูหลับแล้ว” หญิงสาวตอบก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วหัวเราะ“คนหลับที่ไหนเขาตอบได้กันล่ะหันหน้ามาคุยกับอาก่อนสิอาคิดถึงอยากมองหน้า”หญิงสาวหันหน้ากลับมาเธอยิ้มให้เขา“หนูก็คิดถึงอาพัทธ์นะคะ อาพัทธ์สบายดีไหม”“อาสบายดี”“แล้วคุณยากับคุณพ่อล่ะคะ”“สองท่านก็สบายดี ตอนนี้ทุกคนทำใจเรื่องอานิตได้แล้วคุณย่าของไอซ์มักจะมันไปทำบุญที่วัดอยู่บ่อยๆ อาก็ให้ไปทานข้าวที่บ้านกับท่านบ้างและบางครั้งก็ไปทำบุญกับท่าน ไอซ์ล่ะเป็นยังไงบ้างช่วงนี้เรียนหนักหรือเปล่า”“ค่อนข้างหนักค่ะ มีโปรเจกต์จบที่ต้องทำให้เสร็จ”“แล้วมีปัญหาอะไรอยากให้อาช่วยหรือเปล่า”“ไม่มีหรอกค่ะ หนูคิดว่าจะจบทันเวลาได้กลับไปช่วยงานคุณพ่อที่บริษัทได้อาพัทธ์งานหนักหรือเปล่าตอนนี้อาพัทธ์ทำงานที่บริษัทของพ่อไหมคะ”“อาก็ทำทั้งสองที่ครับ”“เหนื่อยไหมคะ”“เหนื่อยครับ”
ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาสจึงมีวันหยุดยาวต่อเนื่องไปจนถึงหลังปีใหม่เพื่อนของไอศิกาส่วนใหญ่ก็จะกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวที่อพาร์ทเม้นท์เลยเงียบเหงากว่าทุกครั้ง ร้านค้าต่างประดับประดาไปด้วยโคมไฟและของตกแต่งเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสไอศิกาเดินเที่ยวอยู่คนเดียวตามลำพังหญิงสาวไม่ได้ตอบตกลงไปเที่ยวกับอรรณพเพราะไม่อยากจะไปเป็นก้างขวางคอของเพื่อน เธอคิดว่าการเดินเที่ยวคนเดียวแบบนี้มันก็สนุกไปอีกแบบหนึ่ง ถึงแม้จะเหงามากแต่ก็รู้สึกว่าการอยู่กับความเหงามันก็เป็นเรื่องที่ดีเธอได้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาความรู้สึกเสียใจกับอาศานิตาเริ่มจางหายไป เมื่อทบทวนดูแล้วหญิงสาวคิดว่าเรื่องนี้คนที่ผิดก็คือผู้ชายที่ชื่อชัยเดช เมื่อคิดได้มันเลยทำให้เธอปลดล็อกความรู้สึกบางอย่าง เธอเดินเที่ยวและซื้อของขวัญเตรียมไว้ให้เพื่อนหลังจากที่ทุกคนกลับมาแล้วยังโชคดีว่าร้านอาหารไทยที่อยู่ใกล้ๆ ยังเปิดอยู่ไอศิกาเอาของทั้งหมดเก็บเรียบร้อย จากนั้นก็กลับมาที่ร้านอาหารอีกครั้ง“ไอซ์คริสต์มาสทั้งทีไม่ได้ไปเที่ยวไหนเหรอ”“ไม่ค่ะพี่จอย”“แบบนี้ก็เหงาแย่สิ”“นิดหน่อยค่ะแล้วร้านพี่จอยล่ะคะไม่ปิดเหรอ”“มีลูกค้าจะมาจั
ไอศิกาขึ้นมาบนเครื่องก็เอาผ้าปิดตามาจากนั้นก็แกล้งทำเป็นหลับเพราะไม่อยากให้ใครเห็นดวงตาที่บวมช้ำจากการร้องไห้ หญิงสาวภาวนาว่าที่นั่งข้างๆ เธอคงจะว่างแต่ไม่นาก็มีคนมานั่งแต่ไอศิกาก็ไม่สนเพราะเธออยากอยู่เงียบๆเมื่อใกล้ถึงเวลาที่เครื่องเทคออฟแอร์โฮสเตสก็บอกให้ทุกคนปรับเบาะและคาดเข็มขัดไอศิกาปรับเบาะและคาดเข็มขัดแต่ยังไม่เอาผ้าปิดตาออกหลังจากเครื่องเทคออฟได้สักพักแอร์โอสเตสก็เข้ามาถามว่ามีใครต้องการเครื่องดื่มอะไรไหมแต่หญิงสาวบอกกับแอร์โฮสเตสว่าตัวเองจะไม่รับอาหารและเครื่องดื่มอะไรทั้งนั้นหากแต่เสียงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ทำให้เธอต้องดึงผ้าปิดตาออก“อาพัทธ์” เธอตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งข้างเธอตอนนี้คือเจตนิพัทธ์ผู้ชายที่มาส่งเธอเมื่อชั่วโมงก่อน“กินน้ำส้มก่อนสิ”“อาพัทธ์มาได้ยังไงคะ”“อาอยากไปส่งไอซ์”“แล้วทำไมถึงไม่บอกว่าจะบินไปกับหนูด้วย”“ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะบินไปกับไอซ์หรอก อาแค่ซื้อตั๋วเครื่องบินเผื่อไว้เพราะไม่อยากให้ใครนั่งข้างๆ ไอซ์อารู้ว่าตอนนี้ไอซ์อยากจะอยู่คนเดียว แต่เมื่อเห็นไอซ์ร้องไห้ที่สนามบินอาก็เลยเปลี่ยนใจ”“หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”“แต่อาก็ขึ้นมาบนเครื่องแล้วจะกลับไปตอนนี้
เจตนิพัทธ์ขับรถมารับไอศิกาเมื่อถึงเวลาที่หญิงสาวจะต้องกลับอังกฤษระหว่างทางเธอก็เงียบมาตลอดจนคนที่นั่งมาข้างๆ รู้สึกใจหายเพราะกลัวเหลือเกินว่าเมื่อไอศิกากลับไปอยู่อังกฤษคนเดียวแล้วเธอจะเศร้ามากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้“ไอซ์ทำไมไม่พูดอะไรเลยเป็นอะไรหรือเปล่า”“อาพัทธ์คะหนูขอถามอะไรอาพัทธ์หน่อยได้ไหม”“ได้สิ” เจตนิพัทธ์คิดว่าตอนนี้เขาไม่มีอะไรปิดบังไอศิกาแล้ว ไม่ว่าเธอจะถามอะไรเขาก็ยินดีจะตอบคำถามของเธอทุกข้อ“ถ้าเกิดวันนั้นหนูบอกอาพัทธ์ว่าเข้าไปโรงแรมม่านรูดทำไมเรื่องมันจะเป็นยังไงต่อคะ”“ไอซ์หมายถึงเรื่องของเราหรือเรื่องของอานิตล่ะ”“ก็ทั้งสองเรื่องค่ะ”“ถ้าเป็นเรื่องของอานิต อาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าถ้ารู้เรื่องแล้วจะกล้าพูดกับเธอหรือเปล่าเพราะอาคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว ที่อาเข้ามาอยู่ในบ้านมาทำหน้าที่เป็นสามีก็เพราะคุณท่านกับคุณพ่อของไอซ์ขอร้อง แต่ความสัมพันธ์ของอากับอานิตมันไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนเห็นเลย เราแค่ทำหน้าที่ของกันและกันอย่างดีที่สุดเท่านั้น”“แล้วเรื่องระหว่างหนูกับอาล่ะคะ มันเกิดขึ้นเพราะอาเห็นหนูออกมาจากโรงแรมม่านรูดใช่ไหม”“อาว่านั่นน่าจะเป็นแค่ตัวกระตุ้นมากกว่าน
หลังจากสารภาพความผิดกับคุณอุไรวรรณแล้วเจตนิพัทธ์ก็รู้สึกสบายใจขึ้นแต่เขายังมีอีกด่านสำคัญที่จะต้องสารภาพผิดนั่นคือคุณอดิศรบิดาของไอศิกา ชายหนุ่มตัดสินใจแล้วว่าจะบอกเรื่องราวทุกอย่างกับบิดาของเธอถ้าหากคุณอดิศรจะห้ามหรือโกรธเขาก็พร้อมจะรับทุกผิดทุกอย่างเจตนิพัทธ์ตัดสินใจเข้ามาพบคุณอดิศรในเช้าวันหนึ่งที่บริษัท“พัทธ์มีธุระอะไรจะคุยกับฉันเหรอ หน้าเครียดเชียวเรื่องงานหรือเปล่า”“ไม่ใช่เรื่องงานหรอกครับคุณดิศ”“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะหรือเรื่องชัยเดช”“เรื่องนั้นไม่มีอะไรต้องน่าห่วงครับตอนนี้เพื่อนผมที่เป็นตำรวจกำลังตามจัดการอยู่”“ยังมีเรื่องไหนที่ต้องเครียดอีกเหรอ”“เรื่องที่ผมจะมาคุยกับคุณดิศมันคือเรื่องของผมกับไอซ์”“นายกับไอซ์เหรอ มีอะไรกันหรือเปล่า ตั้งแต่กลับมาฉันไม่เห็นว่านายกับไอซ์จะคุยกันเท่าไหร่เลย”เจตนิพัทธ์พักถอนหายใจเข้าใจก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องของตัวเองกับไอศิกาให้กับคุณอดิศร”“อะไรนะ” คุณอดิศรตกใจไม่น้อยที่ได้ยินคำสารภาพจากปากของชายหนุ่ม“ฉันไม่คิดเลย ว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น”“ขอโทษครับผมผิดเอง”“แล้วจะเอายังไงต่อล่ะ”“ผมคุยกับคุณท่านแล้วคุณท่านให้ผมมาคุยกับคุณอดิศรอีกครั