Mag-log inกิจจาทร คุณาประเสริฐ นั่งอยู่โต๊ะอาหาร ด้วยชุดสูทสีเทาเข้มจากแบรนด์ดังราคาไม่ต้องพูดถึงแพงแสนแพง ที่พออยู่บนเรือนร่างสมบูรณ์แบบของเขาแล้วยิ่งส่งเสริมให้คนสวมใส่ดูสง่า สะอาดสะอ้าน จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำใม สาวๆ หลายคนต่างใฝ่ฝันที่จะได้เขามาครอบครอง มาเป็นสามี หรือแม้กระทั่งเป็นคู่นอน เพราะกิจจาทรมีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตร ด้านฐานะทางสังคมก็ไม่เป็นรองใคร เพียงแต่ตัวเขาเองที่ไม่พร้อมที่จะเปิดใจรับใครมาผูกมัด
“แด็ดดี้ขา” จีน่าเดินเข้ามาสวมกอดออดอ้อนผู้เป็นพ่อพลางใช้จมูกหอมแก้มผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน
“ว่าไงคะ คนสวยของเด็ดดี้ ทำเสียงหวานแบบนี้ อยากได้อะไรคะจากแด็ดดี้คะคนเก่ง” ผู้เป็นพ่อพูดอย่างรู้ทัน เพราะลูกสาวคนสวยของเขาใช้มุกนี้กับเขาตลอดเวลาอยากได้อะไรที่ต้องการมากๆ และมันก็ได้ผลทุกครั้ง
“โธ่ แดดดี้อ่ะ รู้ทันจีน่าอีกแล้ว แต่อย่างน้อยจีน่าก็ดีใจที่แด็ดดี้รู้ใจจีน่าขนานี้” ลูกสาวคนสวยแสร้งทำจมูกย่นใส่คนเป็นพ่อที่รู้ทัน ว่าลูกสาวจะขออะไร
“ว่ามาเถอะลูก ลูกสาวคนสวยของแด็ดดี้อยากได้อะไรคะ บอกเด็ดดี้มาเลยแด็ดดี้จะหาให้ทุกอย่าง” ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกลูกหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว
“ลูกไม่ได้อยากได้เองหรอกค่ะแด็ดดี้ เพียงแต่จีน่าเห็นเเด็ดดี้กับคุณเลขาทำงานหนักมากงานล้นมือ จีน่าเลยว่าจะหาเลขาส่วนตัวมาช่วยแบ่งเบาภาระ แด็ดดี้กับคุณเลขาบ้างเท่านั้นเองค่ะ แด็ดดี้จะได้มีเวลาพักผ่อนบ้างบ้าง" จีน่าเอ่ยขึ้นตาจ้องผู้เป็นพ่อเพื่อให้อีกฝ่างเห็นความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริงว่าต้องการแบบนั้นและห้ามปฏิเสธ
“ใครครับ ลูกสาวจะไปช่วยงานแด็ดดี้เหรอคะ แด็ดดี้ดีใจังที่ลูกจะไปทำงานกับแด็ดดี้ เรียนจบแล้วพร้อมที่จะเข้าไปทำงานที่บริษัทแล้วใช่ไหมคะ” กิจจาทรแกล้งแย่ลองเชิงบุตรสาวคนสวยดูเพราะตอนเรียนเขาพยายามที่จะให้ลูกสาวมาเรียนรู้งานจากเขาแล้วแต่ทว่าเจ้าตัวก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด อ้างว่ายังไม่พร้อมบ้างล่ะ
“ก็ได้ค่ะแด็ดดี้ ถ้า…” จีน่าบอก แต่ผู้เป็นพ่อทำเป็นเฉยเมยจิบกาแฟไม่สนใจ จีน่าเห็นท่าทางผู้เป็นพ่อเฉยเลยรีบเอ่ยต่อเพื่อเรียกความสนใจ
“จีน่าจะเข้าไปทำงานที่บริษัท ถ้าเเด็ดดี้รับยัยที่รัก เพื่อนของจีน่าเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขาส่วนตัวของเเด็ดดี้”
กิจจาทรทั้งตกใจและอึ้งไปสักพักที่ลูกสาวบอก เขาครุ่นคิดก่อนที่จะเอ่ยบอกลูกสาวว่า
“แล้วเพื่อนของลูกเขาจะมาทำงานกับแด็ดดี้ได้เหรอครับลูก งานของแด็ดดี้ค่อนข้างหนักนะคะ แด็ดดี้ต้องการคนที่มีประสบการณ์ ติดต่อประสานงานคล่องแคล่วแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ คนที่เข้าสังคมเก่งแต่งตัวสวยดูดีถูกต้องตามกาลเทศะ เพราะงานของแด็ดดี้ต้องพบปะเจอะเจอกับนักธุรกิจมากหน้าหลายตา ต้องไปประชุมหรือตามแด็ดดี้ไปได้ทุกที่อาจมีค้างต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ แด็ดดี้คิดว่าผู้หญิงไม่น่าจะเหมาะ เลขาแด็ดดี้ต้องเก่งและคล่องพอตัว แด็ดดี้มองว่าเพื่อนลูกไม่น่าจะเหมาะเท่าไหร่”
กิจจาทรบอกกับลูกสาวเชิงปฏิเสธกรายๆ เพราะถึงแม้ว่าหนูที่รักเพื่อนสนิทของลูกสาวจะหน้าตาดี ผิวพรรณดี แต่ยังดูนุ่มนิ่มทำอะไรช้า ค่อยๆทำไม่น่าจะเหมาะกับงานเลขาน่าจะไปประกวดนางงามมากกว่า อีกทั้งการแต่งกายดูยังไงก็เหมือนเด็กวัยรุ่นมัธยมปลายมากกว่าที่จะเป็นเด็กจบมหาวิทยาลัย เพราะเจอกันเวลาที่เพื่อนของลูกสาวมาที่บ้านเขาทีไร เต้าตัวก็มักจะใส่แต่เสื้อยืดตัวโคร่ง กับกางเกงยีนส์หรือบางทีก็เป็นกางเกงห้าส่วน กิจจาทรเลยนึกภาพที่หญิงสาวจะแต่งตัวในชุดทำงานสาวออฟฟิศไม่ออกเลย
“นี่เลือกเลขาหรือเลือกเมียคะเนี่ยเเด็ดดี้ ว่าแต่แด็ดดี้บูลลี่ผู้หญิงอ่ะ งานนี้จีน่าว่ายัยที่รักทำได้แน่นอนค่ะ ที่รักเขาทั้งสวย ทั้งเก่ง เรื่องแต่งตัวไม่ต้องพูดถึงสวยดูแพงแน่นอน พูดได้หลายภาษา ที่รักจะมาช่วยงานเด็ดดี้ได้เยอะเลยค่ะ แด็ดดี้จะได้ไม่ต้องเหนื่อย และอีกอย่างลูกจะได้ประสานกับเขาได้คล่อง และเขาจะสอนงานลูกได้ด้วยค่ะ” จีน่าอธิบาย
“เป็นอันว่า แด็ดดี้รับเพื่อนจีน่ามาเป็นเลขาส่วนตัวนะคะ และจีน่ากับเพื่อนจะเข้าไปเริ่มงานวันจันทร์ค่ะ”
ผู้เป็นพ่อได้แต่ทำอึ้งเมื่อโดนมัดมือชก ไม่ออกความคิดเห็นอะไรออกมาอีก
“ตกลงตามนั้นนะคะแด็ดดี้ ” จีน่า ทำเสียงอ้อนอีกครั้ง
“แล้วเพื่อนของลูกเขาจะว่ายังไง เค้าพร้อมจะเริ่มงานล้วเหรอลูก” กิจจาทรเอ่ยถามเพราะปฏิเสธไม่ได้แล้ว
“เรื่องนั้นแด็กดี้ ไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวจีน่าจัดการเอง เป็นอันว่าจีน่ากับที่รักจะเข้าไปทำงานในวันจันทร์ที่จะถึงนี้คะ รักแด็ดดี้ที่สุดเลย” จีน่ายิ้มหวานให้ผู้เป็นพ่อ
“วันใหน ว่างๆ เพื่อนของลูกเค้ามีเวลาจีน่าก็ลองชวนเค้ามาทานข้าวด้วยกันและมาคุยรายระเอียดเรื่องงานก็แล้วกันนะครับ” กิจจาทรบอกกับลูกสาว
“ได้คะแด็กดี้ ที่รักเขาว่างสำหรับแด็ดดี้ตลอดเวลาคะ” จีน่า รีบตอบรับคำผู้เป็นพ่อแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
กริ่งๆ กริ่งๆๆๆๆๆ
ทิชากร วางมือจากการช่วยคุณแม่ของเธอทำคุ๊กกี้ มารับโทรศัพท์
“Hi ทำไรอยู่จ้าคนสวย” เสียงจากปลายสายเอ่ยเพื่อนรัก
“ที่รักกำลังช่วยคุณแม่ทำคุ๊กกี้อยู่น่ะ จีน่ามีอะไรหรือเปล่า” ที่รักถามเพื่อนสนิท
“จะชวนแกมาทานข้าวด้วยกัน มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย แกสะดวกวันไหน”
“บอกมาตามตรงแกมีอะไรจะพูด” ที่รักบอกอย่างรู้ทันเพื่อนสนิท รู้ใจทุกอย่างก็ว่าได้
“เราคุยกับเเด็ดดี้ เรียบร้อยเรื่องที่จะให้แกไปเป็นเลขาส่วนตัวของแด็ดดี้ แด็ดี้เค้าโอเคแต่อยากคุยรายละเอียดด้วย เลยนัดทานข้าว ที่สำคัญฉันก็จะเข้าไปทำงานพร้อมกับแกด้วย” จีน่าอธิบายกับเพื่อนอย่างดีใจ
เมื่อเวลาผ่านไป กิจจาทรและทิชากรก็ยังคงใช้ชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความรักและความผูกพัน พวกเขายังคงดูแลกันและกันอย่างดี และทุ่มเทให้กับการเลี้ยงดูลูกน้อยที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างมีความสุข ตอนนี้พวกเขามีลูกสาวคนเล็กอีกคนชื่อน้องกิ่งทุกๆ วันเป็นการเริ่มต้นใหม่ของความรักที่ลึกซึ้งมากขึ้น ทั้งสองคนเรียนรู้ที่จะรักกันมากขึ้นในทุกๆ วัน แม้ว่าจะมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ แต่พวกเขาก็สามารถผ่านมันไปได้ด้วยกันเสมอกิจจาทรยังคงทำงานอย่างขยันขันแข็งและกลับบ้านทุกเย็นพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบกับทิชากรและลูกน้อยทั้งสอง ทิชากรเองก็ยังคงทำหน้าที่ของเธอในการดูแลบ้านและลูกน้อยอย่างดีที่สุด ทั้งสองคนรู้ดีว่าพวกเขามีกันและกัน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขอย่างแท้จริง “คุณกิจรู้สึกขอบคุณทุกวันที่ได้มีที่รักและลูกในชีวิต ที่รักคือความสุขของคุณกิจนะครับ” กิจจาทรพูดขึ้นในขณะนั่งทานอาหารเย็นกับทิชากรและน้องกายอยู่ ส่วนน้องกิ่งหลับไปแล้วโดยมีพี่เลี้ยงคอยดูอยู่ข้างๆ“ที่รักก็รู้สึกแบบเดียวกันค่ะคุณกิจ เราโชคดีมากที่ได้มีชีวิตแบบนี้ด้วยกัน”ทิชากรยิ้มและตอบกลับด้วยความรักเช่นเดียวกันกิจจาทรมองทิชาก
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทิชากรและกิจจาทรได้ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขน้องกายลูกชายของพวกเขาเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงและฉลาดสมวัย ในขณะที่จรัญญาและกรกันต์เองก็สร้างครอบครัวที่มั่นคงจรัญญาคลอดลูกสาวน่ารักมาให้สามีอย่างกรกันต์หลงลูกมาก ทั้งคู่ยังคงรักกันอย่างแน่นแฟ้นหลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกันวันนี้เป็นวันที่พิเศษ เพราะมันเป็นวันครบรอบวันแต่งงานของทิชากรและกิจจาทร ในเช้าวันนี้ กิจจาทรตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่พร้อมกับเตรียมเซอร์ไพรส์ภรรยาสุดที่รักของเขากิจจาทรยิ้มอ่อนโยน ขณะที่เขามองดูทิชากรที่ยังหลับอยู่ “อีกหนึ่งปีที่เราผ่านมาด้วยกันนะที่รัก คุณกิจโชคดีมากที่มีที่รักอยู่เคียงข้าง”ทิชากรขยับตัวเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงรบกวนข้างตัว พอลืมตาตื่นขึ้นมาเธอก็เห็นกิจจาทรกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้เธอ ทิชากรยิ้มตอบกลับด้วยความรักที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น“คุณกิจตื่นเช้าจัง มีอะไรรึเปล่าคะ”กิจจาทรไม่ตอบ เขากลับยื่นดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ที่เขาเตรียมไว้ตั้งแต่เช้าให้เธอ ทิชากรรู้สึกประทับใจและหัวเราะเบาๆ“คุณกิจยังโรแมนติกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ขอบคุณนะคะ ที่รักรัก
ในระหว่างที่ท้องของจรัญญาเริ่มใหญ่ขึ้น ทั้งจรัญญาและกรกันต์ก็ใช้เวลาว่างในการเตรียมความพร้อมสำหรับการต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว ทั้งคู่เริ่มวางแผนจัดห้องนอนสำหรับลูกน้อย โดยมีกรกันต์เป็นผู้นำในการตกแต่งห้อง “จีน่าหนูว่า ห้องลูกเราควรจะใช้สีอะไรดี สีฟ้าหรือสีชมพู” “สีฟ้าหรือสีชมพูก็ดีค่ะ แต่จีน่าคิดว่าสีขาวน่าจะเหมาะกับทุกอย่าง มันดูสะอาดและสงบเหมาะกับลูกน้อยของเราจะนอนหลับได้ดี เท่าที่จีน่าอ่านจากหนังสือนะคะ” กรกันต์พยักหน้าเห็นด้วยและยิ้มอย่างอ่อนโยน “งั้นพี่ก็เห็นด้วยกับคุณแม่เลยครับ สีขาวน่าจะเหมาะที่สุด ลูกเราจะได้นอนหลับง่ายๆ งั้นเดี๋ยวเรามาแต่งห้องลูกกันเถอะ” ทั้งสองคนใช้เวลาหลายวันในการจัดเตรียมทุกอย่าง ทั้งการเลือกเฟอร์นิเจอร์ การตกแต่งห้องด้วยของเล่น และการเตรียมชุดสำหรับทารก ทุกสิ่งถูกจัดวางอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ลูกน้อยของพวกเขาได้มีที่พักผ่อนที่ดีที่สุด จรัญญายิ้มอ่อนโยนให้กับร่างสูง “พี่กันต์คะจีน่าไม่เคยคิดเลยว่าการที่เราได้เตรียมห้องของลูกมันจะดีต่อใจเราและสนุกขนาดนี้” กรกันต์ยิ้มกว้าง “เพราะพวกเราทำมันด้วยความรักไงครับจีน่า ลูกของเราจะได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่
หลังจากแวะไปเยี่ยมน้องกายกับทิชากรที่บ้านกลับมา จรัญญารู้สึกว่าวันนี้มีอาการอ่อนเพลียและรู้สึกไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ ซึ่งเธอไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนไม่ได้หาหมอมาหลายปีแล้ว หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเตรียมตัวนอนจรัญญาก็ไม่รู้สึกดีขึ้นเลยวันนี้พอกรกันต์กลับมาเธอเลยค่อนข้างอ้อมกรกันต์เป็นพิเศษ “พี่กันต์ วันนี้จีน่ารู้สึกเพลียจังเลย จีน่าอยากนอนเเต่หัวค่ำ ทานข้าวเสร็จแล้วพี่กันต์ต้องทำอะไรอีกไหมคะ” จรัญญาคุยกับกรกันต์หลังจากที่ทั้งคู่ทานข้าวเย็นเสร็จ แปลกที่พอเธอได้เห็นหน้าได้อยู่ใกล้กลับกรกันต์อาการต่างๆ ของเธอกลับดีขึ้นกว่าเดิมมาก“ไม่มีครับ งั้นเดี๋ยวเราขึ้นไปข้างบนแล้วก็รออาบน้ำนอนเลยแล้วกันนะครับ” กรกันต์บอกภรรยาอย่างชอบใจ เวลาที่จรัญญาทำตัวอ้อนเขาอย่างนี้มันน่ารักมากสำหรับเขา ตอนนี้เขาไม่รู้จะรักจะหลงภรรยายังไงแล้ว พอขึ้นไปพักผ่อนข้างบนหลังจากที่อาบน้ำด้วยกันเสร็จ ทั้งคู่ก็มานอนด้วยกันบนเตียง จรัญญานอนกอดสามี ลูบอกกรกันต์แล่น ยังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยเผลอแป๊บเดียวร่างบางของจรัญญาก็หลับสนิท วันนี้เธอคงเพลียมากคงจะไม่สบายจริงๆ เพราะโทรหาเขาต้องแต่ตอนที่เขายังอยู่ที่บริษัทว่าให้รีบกลั
“คุณกิจ คะคุณกิจที่รักเจ็บท้องค่ะ” เสียงเรียกของคนที่นอนอยู่ข้างๆ พร้อมกับมืออวบเขย่าที่ต้นแขนแกร่งของเขาทำเอากิจจาทรถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก พลางรีบเปิดไฟหัวเตียงและหันไปมองภรรยาที่ท้องแก่ใกล้คลอด ที่ทำหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวด มันยังไม่ถึงวันที่คุณหมอนัดไปนอนคลอดนี่นาทำไมทิชากรถึงเจ็บครรภ์คลอดแล้ว พอเห็นภรรยาเจ็บกิจจาทรผู้รักภรรยายิ่งกว่าสิ่งใดถึงกับไปไม่เป็นทำอะไรไม่ถูก “ที่รัก ทะ ที่รักเจ็บท้องคลอดใช่ไหม อดทนหน่อยนะครับที่รัก เดี๋ยวคุณกิจพาไปหาหมอ” เสียงทุ้มของคนเป็นสามีพูดปลอบคนท้อง ก่อนที่ตัวเองจะวิ่งลงจากเตียงเพื่อไปแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าจะได้พาทิชากรไปที่โรงพยาบาล ใช้เวลาเพียงไม่นอนกิจจาทรก็วิ่งออกมาจากห้องแต่งตัว มาประครองร่างอวบของทิชากรออกจะห้อง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวข้ามพ้นธรณีประตู “คุณกิจ คุณกิจคะ กระเป๋าค่ะ” ทิชากรกลั้นใจข่มความเจ็บปวดพูดเตือนสามีเสียงดังทำให้ขาที่กำลังจะก้าวพ้นประตูหยุดชะงัก “กระเป๋า กระเป๋าอะไรคะที่รัก ไม่มีกระเป๋า ป่ะไปกันเถอะ” กิจจาทรดันหลังของคนท้องให้เดินต่อเพราะกลัวว่าอยู่นานอีกคนจะเจ็บมากกว่านี้และจะไม่ปลอดภัยเดี๋ยวคลอดก่อนกำหนด อีกคนที
หลังจากได้พูดคุยกันและตกลงกันได้แล้ว จรัญญาและทิชากรก็ตกลงวางแผนที่จะหาวิธีจัดการกับคุณเลขาเบญจวรรณอย่างรอบคอบ จรัญญาเสนอว่าเธอจะเป็นคนจัดการเอง ให้ทิชากรเพื่อนรักท้องแก่ของเธออยู่บ้านรอคลอดอย่างเดียวเลย เดี๋ยวเธอจะเป็นคนออกโรงเอง เพราะถ้ารอกิจจาทรแด็ดดี้ของเธออาจจะต้องรอนานเพราะความเป็นสุภาพบุรุษของคนเป็นพ่อ จรัญญาคอยเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเบญจวรรณเพิ่มเติม และหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเธอ เพื่อจะได้มีเหตุผลเพียงพอในการไล่เธอออกจากงาน หลังจากไม่กี่วันต่อมา จรัญญาก็สามารถรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่แสดงให้เห็นว่าเบญจวรรณใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่เหมาะสม ทั้งการพยายามทำงานเกินความจำเป็นเพื่อเข้าหากิจจาทร และพยายามใกล้ชิดเขาในเวลาที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน ในช่วงบ่ายของวันหนึ่ง จรัญญาได้เข้ามาพบกิจจาทรในห้องทำงานของท่านประธาน เพื่อที่จะพูดคุยเรื่องนี้อย่างจริงจัง “แด็ดดี้คะแด็ดดี้ว่างหรือเปล่าคะ” “ว่างเสมอสำหรับลูกสาวคนสวยของแด็ดดี้” ถึงแม้จรัญญาจะแต่งงานกับกรกันต์ไปแล้วและตอนนี้เขาเลื่อนตำแหน่งให้เธอเป็นถึงท่านรองประธานบริษัทและมีกรกันต์เป็นที่ปรึกษา แต่ในสายตาของคนเ







