เขาเริ่มขยับสะโพกสอบทันที เมื่อเธอไม่โต้ตอบอะไรแล้ว เอวสอบขยับจังหวะช้า ๆ เพื่อให้เธอได้ปรับความคุ้นชินก่อน
“เร็วกว่านี้ได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยขอขึ้นมาทันที เมื่อเขาเอาแต่หมุนวนอยู่แบบนั้น เพราะความเสียวซ่านของเธอที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา
“หึ...คงจะเสียวแล้วสินะ ยัยเด็กร่านพี่จะซอยเธอไม่ยั้งเลย” เขาแค่นยิ้มออกมา เมื่อเธอร้องขอ พร้อมกับสายตาที่มองเธออย่างเจ้าเล่ห์
ตับ ตับ ตับ
และเริ่มขยับเพิ่มจังหวะที่ถี่เร็วขึ้นมาอีกระดับ จนหนักหน่วง เมื่อเห็นว่าไม่มีท่าทีที่จะห้ามเหมือนกับคราแรกแล้ว เขาได้แต่เพิ่มแรงตอกอัดอย่างหนักหน่วงโดยไม่สนว่าเธอจะห้ามเขาแล้ว เพราะประตูสวรรค์กำลังจะเปิดรับเขาอยู่ร่อมร่อในไม่ช้านี้
การมีเซกส์ที่ไร้ปลอกป้องกัน ช่างมีความรู้สึกแปลกใหม่สำหรับเขามาก เพราะได้สัมผัสอย่างแนบชิด ไม่ต้องกังวลว่าปลอกป้องกันจะแตะทะลุขาด และแรงตอดรัดจากสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน จะทำให้เขารู้สึกดีมากขนาดนี้
“อ๊ะ อ้ายยยย” เธอกระตุกเกร็งผวากอดเขาแน่น ปลดปล่อยน้ำหวานออกมา เมื่อไปถึงจุดหมายก่อนเขา
เมื่อส่งเธอถึงจุดหมายก่อนแล้ว เขารีบตอกอัดอย่างหนักหน่วง ปากร้ายตวัดหยอกล้อกับยอดถันอย่างเมามัน พร้อมกับสะโพกสอบที่ตอกอัดไปด้วย
“อ๊าสสส...” เสียงครางคำรามออกมาดั่งเสือร้าย เมื่อได้ปลดปล่อยลาวาร้อนสู่โพรงนุ่มทุกหยาดหยด ลืมหมดสิ้น คำว่าหลั่งนอกจากเขา ซึ่งมันไม่มีอยู่จริงเลย
“พี่ธีร์ ทำไมใจหนูเต้นแรงจัง หนูจะช็อกตายหรือเปล่า” เธอถามเขาขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจในความรู้สึกอาการใจเต้นแรงของตัวเอง
“หึ เด็กน้อยเอ้ยยย” เขาได้แต่ขำให้กับความคิดที่ยังเหมือนเด็กด้อยประสบการณ์ของเธอที่ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย
และเขาก็เริ่มบรรเลงเพลงรักต่อเลยทันที เมื่อทั้งเธอและเขาปรับลมหายใจมาเป็นปกติแล้ว เพราะตอนนี้เธอก็ให้ความร่วมมือ ไม่ปฏิเสธหรือต่อต้านเขาอีก จนเขาที่บอกว่าจะหลั่งนอกให้เธอ แต่เขากลับทำในสิ่งที่ตรงข้าม ปล่อยใส่ตัวเธอทุกครั้ง จนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี และเธอได้หลับคาอกแกร่งของเขา เขาจึงยอมปล่อยให้เธอนอน
“ตื่นมา เรามีเรื่องคุยกันยาวยัยตัวแสบ ฟอดดด”
เขาหอมแก้มเธอไปฟอดใหญ่ แล้วจัดท่าทางให้เธอในท่าที่สบาย จึงดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แล้วผล็อยหลับตามกันไป เพราะความเหน็ดเหนื่อย
ช่วงสายของวัน
ธีรเมธลืมตาขึ้นมา แขนแกร่งคว้านหารอบ ๆ ก็ไม่พบร่างของคนเจ้าเนื้อที่นอนกกกอดแล้ว เขาจึงลุกขึ้นมากวาดมองไปยังรอบ ๆ ห้องนอน ที่เขามีความสุขกับหญิงสาวบนที่นอนกว้างของเขาอย่างเร้าร้อน แต่ตอนนี้กลับไร้เธออยู่แล้ว มีเพียงแค่คราบน้ำกามผสมกับหยดเลือดสีจาง ๆ เปรอะเปื้อนเป็นวงกว้างเต็มผ้าปูที่นอนที่เธอทิ้งไว้ให้
เขาเดินเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ก่อนที่จะออกมาถามคนงานสนิทอย่างนิกรที่กำลังรดน้ำต้นไม่อยู่ที่หน้าบ้านของเขา เพราะไม่รู้ว่าเธอได้หนีเขาออกไปตอนไหน และทำไมเขาถึงหลับสนิทไม่รับรู้อะไรขนาดนี้
เมื่อได้คำตอบจากลูกน้องคนสนิทแล้ว จึงเดินกลับขึ้นมาดูผลงานของตัวเองอีกครั้ง แล้วนั่งลงที่ขอบเตียงนอน พร้อมกับความคิดมากมายที่ตีตื้นเข้ามาพร้อมกัน
เขามีอะไรกับเธอ ซึ่งเป็นสาวบริสุทธิ์ที่ไร้การป้องการ แถมปล่อยในตัวเธอทุกรอบ แล้วแบบนี้เธอจะรู้จักวิธีป้องการหรือเปล่า ช่องทางการติดต่อก็ไม่มี เขานั่งขบคิดอยู่นาน ครั้นกำลังจะเดินออกจากห้องนอนไป แต่สายตาดันไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง จึงก้มลงหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่า...
“เอมิกา คณารักษ์ เลขประจำตัว... โรงเรียนสตรีมัธยม... ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 เกิด 6 กุมภาพันธ์ 25…” ซึ่งก็คือบัตรประจำหอพักนักเรียนของเธอนั้นเอง
“หึ เก่งนี้ เรียนภาษาเสียด้วย...6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25XX แต่นี้มันวันที่ 1 กุมภาพันธ์เอง อีกตั้ง 5 วัน จะถึง 18 ปี...ซวยแล้ว!!!” เมื่อทบทวนไล่คำนวณวันเดือนปีเกิดของเธออีกครั้ง กลับต้องใจเมื่ออายุของเธอยังไม่ถึงสิบแปดตามที่เธอบอกเขาเลย
“ยัยตัวแสบ! ไหนเธอบอกว่าอายุ 18 ปีแล้วไง อย่าให้เจอน่ะ ฉันจะจัดการเธอหนัก ๆ แน่” เขาขบกรามแน่น เมื่อนึกย้อนกลับไปตอนเค้นถามอายุของเธอก่อนเข้าสถานบันเทิง
มิน่าเธอถึงบอกว่า เธอเข้าสถานบันเทิงไม่ได้ เพราะอายุยังไม่ถึงยี่สิบ แต่นี้เธอก็ยังไม่ถึงสิบแปดเสียด้วยซ้ำ แต่เขากลับกล้าเปิดบริสุทธิ์เธอ เสียเชิงให้เด็กจนได้
เขาพึ่งจะเย้ยหยันอคิราห์ว่าให้ระวังเรื่องนี้มาหมาด ๆ เมื่อทราบอายุของหญิงสาวว่ายังไม่ถึงยี่สิบปี แต่เขากลับเป็นคนพรากผู้เยาว์เสียเอง แถมยังสดไร้การป้องกันแต่อย่างใด แถมปล่อยในทุกรอบ เกิดผู้ปกครองเธอเอาความขึ้นมา มีหวังประตูห้องขังพร้อมต้อนรับเขาอย่างเต็มที่
“ยัยตัวแสบ!!!” เขาได้แต่สบถก้นด่าเธอออกมาอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ภายในห้อง
เรื่องนี้จะไม่มีใครเด็ดขาด เขาต้องตามหาเธอด้วยตัวเอง ขืนคนอื่นรู้มีหวังเขาโดนล้อแน่ เกิดมาจนอายุตั้งสามสิบสอง กลับเสียเชิงให้เด็กอายุเพียงแค่สิบแปด รู้ถึงไหนมีหวังโดนล่อยันลูกบวชแน่
อีกด้าน
“ซี๊ดดด โคตรแสบเลย” เธอสูดปากฝืนเดินอย่างเจ็บปวด
เอมิกาตื่นขึ้นมาในช่วงเช้า เมื่อเผลอหลับคาอกแกร่งของเขา เธอรีบลุกขึ้นออกจากห้องของเขาอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าเขาจะตื่นมาเจอเธอในสภาพนี้ ตอนนี้สติของเธอกลับมาเต็มร้อยแล้ว เธอรู้สึกอายไม่กล้าสู้หน้าเขา จึงรีบใส่เสื้อผ้าถึงแม้ร่างกายจะเจ็บระบมไปทั้งตัว
เธอฝืนร่างกายเดินลงมาจากบันได เมื่อเปิดประตูออกมากลับไม่พบใครอยู่บริเวณนั้น นอกเสียจากไร่ชาอันแสนกว้าง เธอไม่รู้จะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร และเมื่อกำลังจะก้าวเท้าเดินออกมาจากบ้าน กลับได้ยินเสียงคนงานคุยกัน
เธอกวาดสายตามองไปที่โรงจอดรถ เมื่อเจอเข้ากับรถเป้าหมายที่คนงานจะใช้ เธอจึงรีบสาวเท้าปืนขึ้นไปหลบที่ท้ายรถคันนั้นทันที ซึ่งก็คือรถกระบะที่บรรทุกสิ่งของมากมายที่เตรียมเข้าไปส่งในเมือง
เมื่อคิดถึงเรื่องราวของคืนอันเร้าร้อน ใบหน้าจิ้มลิ้มร้อนผาวแดงระเรื่อขึ้นมาราวกับลูกตำลึง บวกกับอากาศข้างนอกที่ร้อนอบอ้าวมากพอสมควร
“แม่หนูเป็นอะไรไหมลูก” เสียงหญิงวัยทองที่เดินกำลังจะเดินขึ้นกลับที่รถพอดี จึงถามเธอขึ้นมาทันที เมื่อสังเกตุเห็นใบหน้าที่ซีดเผือกของเธอ
“หนู...” สติของเธอดับวูบไปทันที ที่เธอจะได้ตอบหญิงวัยทองออกไป
พ่อแม่มือใหม่ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่มีเอมิกาและลูกชายตัวน้อยมาอยู่ที่ไร่ด้วย ธีรเมธแทบจะไม่เข้าไปในไร่ชาของเขาเลย แถมยังไม่ยอมออกจากบ้านอีก เพราะต้องคอยช่วยเธอดูแลลูกขณะที่เธอยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างถนัด และก็เป็นพ่อและแม่มือใหม่ที่วุ่นวายกันเลยทีเดียวเขาอยากจ้างพี่เลี้ยงมาคอยช่วยเธอ เพราะอยากให้เธอได้มีเวลาพักบ้าง แต่เธอยืนกรานที่จะเลี้ยงเอง แล้วเขาก็ไม่อยากขัด จึงต้องยอมสละงานตัวเองมาช่วยเธอ เพราะสงสารที่เธอต้องดูแลลูกเองคนเดียว เวลาพักผ่อนของเธอก็แทบจะไม่มีเลยเขามองใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอทีไร ก็รู้สึกผิดต่อเธอตลอด หญิงสาวที่กำลังเติบโตเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มตัว มีอนาคตที่ไกลกว่านี้ แต่กลับต้องมานั่งเลี้ยงลูกอดหลับอดนอน เพราะความมักง่ายของเขาแท้ ๆ โดยไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อยให้เขาได้ยินสักคำเลย“เธอนอนพักเถอะชะเอม เดี๋ยวพี่ดูลูกต่อเอง” เขาเอ่ยบอกเธอขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าลูกน้อยได้หลับไปแล้ว หลังจากที่ร้องมานาน กว่าจะหลับลงได้ ก็ทำเอาเขาและเธอเพลียกันเลยทีเดียว“แต่...”เมื่อเธอยังคงปฏิเสธ เขาจึงสาวเท้าเดินไปหาเธอ แล้วช้อนเธอขึ้นมา อุ้มไปวางที่เตียงแล้วคร่อมทาบทับตัวเธอเอาไว้ท
เซอร์ไพรส์จากพ่อและแม่เมื่อลูกน้อยร้อง เขาจึงยอมเป็นฝ่ายลุกขึ้นเอง แล้วเดินไปอุ้มลูกที่นอนอยู่บนเตียงกว้างของเขาที่พรรณวนาอุ้มขึ้นมาส่งตอนที่มาถึง แล้วเขาก็ช้อนลูกชายตัวน้อยขึ้นมาอย่างอ่อนโยน เดินมาหาเอที่นั่งอยู่ ได้ให้เธอได้เอาเข้าเต้า เพราะน่าจะหิวแล้ว แล้วเขาก็นั่งลงตำแหน่งเดิม ข้าง ๆ เธอ“เอมจะให้นมลูก พี่ธีร์ออกไปก่อนสิ” เธอหันมาบอกเขาที่ยังคงนั่งอยู่ใกล้ ๆ กันกับเธอไม่ยอมออกห่างจากเธอและลูกเลยอยู่ที่โรงพยาบาลเขาก็นั่งจ้องดูลูกขณะที่เธอกำลังเปิดเสื้อให้นมลูก เธออาย แต่ไม่กล้าเอ่ยบอกเขา เพราะมีพยาบาลอยู่ด้วย แต่ตอนนี้อยู่ที่บ้านเขาก็ยังมานั่งจ้องอีก“ทำไมพี่ต้องออกไปด้วย พี่ก็อยากดูลูกกินนมเหมือนกัน” เขาพูดขึ้นมาแบบไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร แถมยังทำหน้าตาท่าทีกวน ๆ ใส่เธออีก“พี่ธีร์” เธอได้ค้อนใส่เขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มากนัก เพราะมีลูกน้อยอยู่ในอ้อมแขน เกรงว่าจะตกใจเข้า“อะไรอีก” เขาเลิกคิ้วถามเออย่างท่าทีคงเฉยชา“แต่เอมอาย...” เธอบอกเขาออกไป“จะอายทำไม พี่เห็นของเธอมาหมดทุกส่วนแล้ว ต้องให้บอกไหม ว่าเธอมีไฝตรงจุดไหนบ้างของร่างกาย” นอกจากเขาจะไม่รู้สึกรู้อะไรแล้ว เขายังพูดจากำก
พาลูกเมียเข้าไร่เช้าของวันที่สาม ก่อนที่จะได้กลับบ้าน เขาได้กลายเป็นพ่อแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เขาเชิญเจ้าหน้าที่เขตเข้ามาที่ห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลที่เอมิกาพักอยู่ เพื่อดำเนินการเรื่องจดทะเบียนสมรสของเขาและเธอ หลังจากที่เขาได้โทรศัพท์ไปปรึกษากับบิดาวันก่อน ตั้งแต่ที่ออกจากห้องคลอดส่วนบิดาของเขาตอนแรกก็ตกใจไม่น้อย ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นปู่แบบกระทันหัน เพราะคิดว่าโดนเขาอำเล่น แต่เมื่อได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เขาโทรศัพท์ไปเล่าให้ฟังอย่างละเอียด ท่านจึงได้แนะนำให้เขาจดทะเบียนสมรส แล้วลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปก่อน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้กว่าจะจบด้วยวิธีนี้ ธีรเมธก็โดนบิดาต่อว่าเอาอยู่ไม่น้อย เรื่องทำผู้หญิงท้อง ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรเขามาก แต่เมื่อเขาสารภาพว่าทำหญิงสาวอายุไม่ถึงสิบแปดท้อง ผู้เป็นพ่อเมื่อได้ยินแบบนั้น แทบจะจับเขาเข้าคุกเสียเองที่ทำอะไรยั้งคิดลงไปแบบนั้นส่วนเรื่องชื่อของลูกชาย เขาเป็นคนไปจัดการเรื่องแจ้งเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขาก็เป็นคนตั้งชื่อให้ด้วยตัวเอง พร้อมกับให้ใช้นามสกุลของเขา เขาจัดการเองทุกอย่างเสร็จสับ โดยที่เธอไม่สามารถปฏิเสธหรือห้ามอะไรเขาได้เลย“เด
เป็นพ่อแบบไม่ทันตั้งตัวแปดเดือนผ่านไปหญิงสาวร่างอุ้ยอ้ายเดินมาตามทางเดินของโรงพยาบาล เมื่อเดินออกมาจากแผนกสูติฯ เพื่อเดินทางกลับบ้าน หลังจากที่มาตรวจครรภ์ตามนัดทุกเดือน“สัปดาห์หน้าเราจะได้เจอกันแล้วนะลูกแม่ ว้ายยย...” เสียงเอ่ยเดินก้มหน้าพูดกับท้องกลม ๆ ของตัวเอง โดยไม่ได้มองทางข้างหน้าเลย จนชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าให้ร่างสูงเมื่อเห็นว่าคนที่เขาชนนั้น เป็นหญิงสาวท้องแก่ จึงรีบคว้าเธอเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะแกรงว่าจะล้มลง และได้รับอันตรายเข้า“ขอโทษครับ เป็นอะ... ชะเอม!!!” เสียงทุ้มเอ่ยขอโทษคนในอ้อมแขนไม่ทันจบ ก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าคนนั้น ๆ คือใคร ซึ่งก็คือหญิงสาวที่เขาตามหามาตลอด“พี่ธีร์!” เธออุทานออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นเขานั้นเอง“ชะเอม เธอท้อง!!!” ตกใจที่ได้เจอเธอ แต่ยิ่งตกใจไปมากกว่านั้น เมื่อรู้ว่าเธอท้อง กำลังจะเป็นแม่คนแล้วด้วย“...” เธอก้มหน้าหลบสายตาของเขาที่จ้องมองเธอ อย่างต้องการคำอธิบาย“หมายความว่า...” เขากำลังเอ่ยปากถามหาคำตอบ หรือคำยืนยันจากเธอ“ลูกหนูคะ เขาเป็นลูกของหนูคนเดียว” เธอรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน“หึ เธอจะบ้าหรือเปล่า พูดอะไรออกมา เธอจะท้องคนเดียวได้ยังไง...” เขา
หายไป...สองวันต่อมา ที่ไร่ธีรเมธ🌿“วันนี้คุณธีร์มีนัดหรือครับ” นิกรถามขึ้นทันที เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเจ้าของไร่เดินออกมาจากบ้าน มุ่งหน้าไปที่โรงจอดรถ“มีธุระด่วนนิดหน่อย” เสียงเรียบนิ่งกลับเพียงแค่สั้น ๆ“ธุระอะไรครับ ทำไมผมไม่เห็นรู้เลย” นิกรถามขึ้นมาทันที เพราะเขาจะรู้ทุกเรื่องของธีรเมธหากว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานในไร่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็มีบ้างที่ไม่อาจรู้นอกเสียจากผู้เป็นเจ้านายจะเล่าบอกเอง“แกจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องของฉันไหมไอ้กร ไปดูแลแม่ฉันที่บ้านด้วย ถ้าท่านถามถึงก็บอกว่าฉันออกไปทำธุระข้างนอก” ธีรเมธตวาดใส่ลูกน้องคนสนิททันทีอย่างเหลืออด และสั่งการให้นิกรไปดูแลมารดาของเขาแทนธีรเมธเดินขึ้นรถไป และขับออกไปทันทีอย่างรีบร้อน ส่วนมารดาของเขานั้นเดินทางมาหาเขาได้สามวันแล้ว แต่การมาครั้งนี้มารดาของเขาเดินทางมาคนเดียว ไม่มีผู้เป็นสามีและลูกสาวสุดที่รักตามมาด้วยเหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยมา“กินอะไรมาว่ะ ระเบิดลงแต่เช้าเลย” นิกรได้แต่เอ่ยบ่นให้เจ้านายเมื่อรถแล่นออกไปได้ไกลแล้วธีรเมธขับรถมาจอดที่หน้าโรงเรียนตามบัตรประจำตัวหอพักนักเรียนของเธอที่ตกอยู่ภายในห้องนอนของเขา ในตอนช่วงเช้าท
ความซวยมาเยือนเขาเริ่มขยับสะโพกสอบทันที เมื่อเธอไม่โต้ตอบอะไรแล้ว เอวสอบขยับจังหวะช้า ๆ เพื่อให้เธอได้ปรับความคุ้นชินก่อน“เร็วกว่านี้ได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยขอขึ้นมาทันที เมื่อเขาเอาแต่หมุนวนอยู่แบบนั้น เพราะความเสียวซ่านของเธอที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา“หึ...คงจะเสียวแล้วสินะ ยัยเด็กร่านพี่จะซอยเธอไม่ยั้งเลย” เขาแค่นยิ้มออกมา เมื่อเธอร้องขอ พร้อมกับสายตาที่มองเธออย่างเจ้าเล่ห์ตับ ตับ ตับและเริ่มขยับเพิ่มจังหวะที่ถี่เร็วขึ้นมาอีกระดับ จนหนักหน่วง เมื่อเห็นว่าไม่มีท่าทีที่จะห้ามเหมือนกับคราแรกแล้ว เขาได้แต่เพิ่มแรงตอกอัดอย่างหนักหน่วงโดยไม่สนว่าเธอจะห้ามเขาแล้ว เพราะประตูสวรรค์กำลังจะเปิดรับเขาอยู่ร่อมร่อในไม่ช้านี้การมีเซกส์ที่ไร้ปลอกป้องกัน ช่างมีความรู้สึกแปลกใหม่สำหรับเขามาก เพราะได้สัมผัสอย่างแนบชิด ไม่ต้องกังวลว่าปลอกป้องกันจะแตะทะลุขาด และแรงตอดรัดจากสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน จะทำให้เขารู้สึกดีมากขนาดนี้“อ๊ะ อ้ายยยย” เธอกระตุกเกร็งผวากอดเขาแน่น ปลดปล่อยน้ำหวานออกมา เมื่อไปถึงจุดหมายก่อนเขาเมื่อส่งเธอถึงจุดหมายก่อนแล้ว เขารีบตอกอัดอย่างหนักหน่วง ปากร้ายตวัดหยอกล้อกับยอดถันอย