ซูหนิงเซียวหลังจากเลิกคุยกับจ้านเกาแล้วก็ได้แต่ยิ้มกลิ้งไปกลิ้งมาคนเดียว เธอไม่คิดว่าจ้านเกาจะรู้ว่าเธออยากให้เขาช่วยลดราคาให้แม่ของเธอ พอได้ยินเขาพูดออกมาด้วยตัวเอง เธอเลยมีความสุขและอบอุ่นใจไม่น้อยที่มีจ้านเกาคอยช่วยเหลือแม่ของเธอเอง คืนนี้ซูหนิงเซียวนอนหลับฝันดีกับเรื่องของแม่ที่เธอพอจะช่วยได้เล็กน้อยหลังจากพูดคุยกับพี่จ้าน
หลังอาหารเช้าวันต่อมา ต่างคนต่างออกจากบ้านเพื่อไปทำเรื่องของตัวเองในวันนี้ แน่นอนว่าซูหนิงเซียวไม่ได้บอกแม่ของเธอว่าเธอขอร้องให้จ้านเกาช่วยแม่ ไม่อย่างนั้นแม่คงต่อว่าเธอเป็นแน่ แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอเป็นห่วงธุรกิจใหญ่ของแม่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
หนิงเซียวยังคงไปรอเพื่อนที่เดิมเพื่อเข้าเรียนในช่วงสัปดาห์แรกที่ใต้ตึกคณะ เพราะยังเป็นแค่ช่วงแรกที่อาจารย์จะแนะนำหนังสือและบทเรียนของแต่ละวิชาที่จะต้องเรียนเท่านั้น
ซูหนิงจิงที่เตรียมเอกสารและสิ่งของจำเป็นสำหรับการคุยงานในวันนี้ไปด้วยก็พากู่ซิงออกจากคอนโดหลังซูหนิงเซียวไม่นาน ด้วยเธอรู้ดีว่าเป็นวันทำงานและรถน่าจะติดท
หลังมื้ออาหารเที่ยง ซูหนิงเซียวโทรหาแม่ว่าการประชุมเป็นอย่างไรบ้างด้วยความเป็นห่วง จ้านเกาที่ได้ยินว่าซูหนิงเซียวโทรมาก็อยากคุยกับเธอเช่นเดียวกันแต่ก็กลัวว่าจะเสียมารยาท เขารอให้เสร็จงานเสียก่อนค่อยส่งข้อความหาเธอจะดีกว่าซูหนิงจิงคุยโทรศัพท์กับลูกสาวไม่นานนักก็วางสายไป เธอเข้าใจดีว่าลูกคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจของเธอในครั้งนี้ ซูหนิงจิงจึงไม่คิดต่อว่าที่ลูกสาวจะเป็นห่วงเธอเกินเหตุ“ขอโทษด้วยนะคะที่หนิงเซียวโทรมาป่วนแบบนี้”“ไม่เป็นไรครับคุณป้า น้องน่าจะเป็นห่วงคุณป้ามากกว่าครับ ผมคิดว่าน่ารักดี”“ขอบคุณที่เอ็นดูน้องนะจ้านเกา ตอนนี้ใกล้บ่ายโมงแล้ว ป้าว่าเราไปห้องประชุมกันดีกว่า ยังเหลืออีกอาคารที่แพทริกยังไม่ได้อธิบายคอนเซ็ปเลย”“ตกลงครับ”จ้านเกาเดินนำทุกคนออกจากห้องอาหารส่วนตัวเพื่อกลับไปยังห้องประชุม ก่อนที่จะถึงเวลาเข้าประชุม ซูหนิงจิงกับกู่ซิ
กว่าที่ซูหนิงจิงกับกู่ซิงจะกลับถึงบ้านก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว เธอไม่คิดว่าขนาดออกมาเร็วแล้วยังไม่พ้นรถติดขากลับแบบนี้ ส่วนซูหนิงเซียวนั้นกลับถึงบ้านก่อนหน้าทั้งสองคนนานแล้ว เธอจึงเป็นคนทำอาหารเย็นมื้อนี้แทนแม่ของตัวเองระหว่างทานอาหาร ซูหนิงเซียวยังสอบถามเรื่องงานของแม่เธอในวันนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เลยก็เถอะ“งานวันนี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องหนักใจนะลูก แม่แค่รอราคาจากทั้งสองบริษัทเท่านั้นก็จะลงนามสัญญาเพื่อเริ่มก่อสร้างเลย ไม่อย่างนั้นอีกนานกว่าที่โครงการจะเสร็จ แม่อยากให้โครงการนี้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งปี แต่ถ้าบริษัททั้งสองมีความสามารถมากพอที่จะสร้างเสร็จภายในไม่เกินหนึ่งปี แม่ก็สามารถเปิดขายโครงการได้เร็วขึ้น”“อืม แม่ไม่คิดจะต่อรองราคาหน่อยเหรอคะ ถ้าเกิดว่าราคาที่พวกเขาเสนอมาสูงเกินไป หนูเสียดายตังนะคะแม่”“ฮ่า ฮ่า แม่คำนวณราคาต้นทุนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ลูกไม่ต้องห่วงเรื่องพวกนี้หรอก รับรองว่าลูกสาวแ
สายวันเสาร์ต่อมา ซูหนิงจิงขับรถพาซูหนิงเซียวกับกู่ซิงไปยังห้างกลางเมืองหลวงซึ่งน่าจะมีร้านขายเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ให้เลือกอยู่หลายแห่ง เธอไม่แน่ใจว่าที่ร้านมีบริการส่งสินค้าถึงบ้านด้วยหรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้นเธอจะต้องจ้างรถขนของไปส่งที่คอนโดชานเมืองหลังจากซื้อแล้วเมื่อไปถึงห้างแล้ว ทั้งสามคนก็เดินไปดูแผนที่ห้างก่อนเพื่อความรวดเร็วจะได้ไม่ต้องเดินวนไปมาให้เสียเวลา“แม่คะ ถ้าเราซื้อเปียโนแล้วจะเอาตั้งไว้ที่ไหนดีคะ ห้องเราจะมีที่วางพอมั้ยคะแม่”“แม่ว่าจะให้ลูกตั้งเอาไว้ใกล้กับห้องรับแขกนั่นแหละ พื้นที่ตรงนั้นยังว่างอยู่มาก แม่คิดว่าน่าจะพอดีกับเปียโนที่เราจะซื้อนะ”“แล้วเวลาหนูเล่นจะไม่รบกวนแม่กับป้ากู่เวลาทำงานเหรอคะ”“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกลูก แม่กับป้ากู่ไม่ได้ทำงานเวลาที่ลูกเล่นเสียหน่อย”“จริงอย่างที่น้องซูบอกนั่นแหละ หนิงเซียวไม่ต้องกังวลหรอกนะจ๊ะ”“ถ
“พี่คะ หนูขอทราบราคาทั้งหมดได้ไหมคะ รวมราคาทำห้องอัดเสียงเล็ก ๆ ที่บ้านให้หนูด้วยนะคะ”“สักครู่นะครับ พี่ขอไปคุยกับช่างก่อนว่าถ้าเครื่องมิกซ์ขนาดนี้พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริมครบชุดจะต้องทำห้องขนาดประมาณเท่าไหร่ เชิญลูกค้านั่งรอที่โซฟาก่อนครับ”ซูหนิงจิงพยักหน้าให้พนักงานขายก่อนจะพาซูหนิงเซียวกับกู่ซิงไปนั่งรอที่โซฟาซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของหน้าร้าน“แม่คะ แม่คิดว่าหนูจะทำได้ไหมเรื่องร้องเพลงกับแต่งเพลง หนูไม่อยากให้แม่ลงทุนโดยเสียเปล่ากับหนูนะคะ”“แม่บอกลูกแล้วว่าให้ทำตามที่ลูกชอบยังไงล่ะ ในเมื่อลูกคิดอยากเข้าวงการบันเทิงแต่แรกและเป็นคนขอแม่เอง แม่ก็สนับสนุนลูกทุกทางเท่านั้น เรื่องการที่ลูกจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ก็อยู่ที่ความพยายามของลูกเองและเหล่าแฟนคลับของลูกที่พวกเขาจะสนับสนุนผลงานของลูกกันมากขนาดไหน”“จริงอย่างที่น้องซูว่านะหนิงเซียว ถ้าหนูตั้งใจที่จะเอาดีทางด้านร้องเพลง
วันจันทร์ต่อมา ซูหนิงเซียวไปขอลาอาจารย์ในรายวิชาที่เธอจะต้องเรียนในวันอังคารโดยแจ้งเหตุผลให้ทราบเรื่องการติดตั้งห้องแต่งเพลงของเธอที่บ้าน อาจารย์หลายคนเห็นว่าซูหนิงเซียวตั้งใจเรียนมาตลอดจึงเพียงแค่ให้เธอฝากเพื่อนจดเรื่องที่ต้องเรียนในวันพรุ่งนี้แล้วเอาไปทบทวนแทนระหว่างพักเบรกช่วงเที่ยง หานลู่หรงกับโจวเสี่ยวเซียนถามซูหนิงเซียวเรื่องที่เธอขอหยุดในวันพรุ่งนี้ด้วยความสงสัย“นี่หนิงเซียว พรุ่งนี้เธอมีธุระอะไรถึงต้องลาเรียนทั้งวันอ่ะ”โจวเสี่ยวเซียนรีบถามเพื่อนสาวหลังจากรับอาหารมานั่งทานกันที่โต๊ะแล้ว หานลู่หรงเองก็พยักหน้าตามเพื่อนที่ถามซูหนิงเซียวเช่นเดียวกัน“พรุ่งนี้จะมีช่างมาเทสระบบเครื่องมิกซ์เสียงกับอุปกรณ์ในห้องอัดเสียงที่บ้านฉันน่ะ ฉันเลยอยากอยู่ดูและสอบถามวิธีการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ฉันอยากแต่งเพลงเองเลยให้แม่พาไปดูอุปกรณ์พวกนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง”“โอ้โห แม่เธอยอมลงทุน
“น้องซูอย่าพูดเรื่องผลประโยชน์กับพี่มากเลยค่ะ พี่เห็นหนิงเซียวเหมือนหลานสาวคนหนึ่งจริง ๆ และพี่ก็อยากเห็นว่าหนิงเซียวจะสามารถขึ้นไปสูงได้ถึงขั้นไหนในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะการเป็นนักร้องนักแต่งเพลงก็ดี หรือจะเป็นนางแบบและนักแสดงก็ดี พี่อยากสนับสนุนหนิงเซียวเหมือนน้องซูนั่นแหละค่ะ เพียงแต่พี่ไม่มีต้นทุนมากนักเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ในเมื่อน้องซูวางใจให้พี่ดูแลเบื้องหลังให้หนิงเซียว พี่เองก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ พี่ต้องขอบคุณน้องซูที่เชื่อใจพี่ด้วยนะคะ”“พี่กู่ไม่ต้องขอบคุณน้องหรอกนะคะ เรื่องในวงการบันเทิง ยังไงน้องก็ต้องพึ่งพาพี่กู่ให้แนะนำหนิงเซียวอยู่แล้วค่ะ”“แม่คะ ป้ากู่ คุยอะไรกันคะดูเครียดเชียว” ซูหนิงเซียวเดินมานั่งข้างแม่ก่อนจะถาม“แม่แค่อยากให้ป้ากู่ช่วยเหลือเรื่องดูแลลูกด้านงานเพลงน่ะ ลูกคิดยังไงถ้าจะโปรโมตงานเพลงด้วยตัวเองแทนที่จะเซ็นสัญญากับค่ายเพลง”“หนูคิดว่าก็ไม่เลวนะคะแม่ ถ้ามีการเซ็นส
หลังวางสายจากผู้จัดการโครงการ ซูหนิงจิงก็บอกเรื่องการติดตั้งแอร์ให้กับช่างทั้งสามคนทราบด้วย เพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่รอก่อน เนื่องจากตอนนี้อุปกรณ์ที่เหลืออีกไม่มากกำลังจะติดตั้งเสร็จแล้ว หากพวกเขาทดสอบระบบเสียงก็จำเป็นจะต้องปิดห้องเพื่อเก็บเสียงด้วย เธอจึงกลัวว่าพวกเขาจะขาดอากาศหายใจกันเสียก่อน“ตกลงครับคุณผู้หญิง อีกไม่ถึง 20 นาทีก็น่าจะติดตั้งระบบไฟเรียบร้อยทั้งหมดครับ”“ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะเตรียมของว่างเอาไว้ให้ระหว่างนั่งรอช่างแอร์มาติดตั้งหลังจากนี้ค่ะ”พนักงานทั้งสามต่างขอบคุณซูหนิงจิงแล้วเร่งต่อระบบไฟและเก็บสายให้ดีเพื่อที่เวลามีคนเข้ามาในห้องอัดจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุซูหนิงจิงชวนซูหนิงเซียวเข้าไปเตรียมของว่างเอาไว้ให้ช่างทั้งสามคนก่อนที่พวกเขาจะทำงานเสร็จ กู่ซิงเห็นว่าตัวเองไม่มีอะไรทำก็ขอไปช่วยยกด้วยเช่นกัน“อีกสักพักช่างแอร์จะเข้ามาติดแอร์ห้องอัดเสียงของลูกนะหนิงเซียว แม่แจ้งผู้จัด
หัวหน้าช่างหลังจากอธิบายการใช้งานหลายรูปแบบให้กับซูหนิงเซียวจบก็ชมเธอไม่น้อยกับคำถามต่าง ๆ ที่เธอสงสัย น้อยคนนักที่เขาไปติดตั้งให้จะกล้าถามคำถามเหล่านี้เพราะกลัวเสียหน้า แต่เด็กคนนี้ดูมีความพยายามทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการใช้งานเครื่องมิกซ์และอุปกรณ์ทั้งหมด ทำให้เขาประทับใจไม่น้อยและยิ่งอยากเห็นผลงานการแต่งเพลงของเด็กคนนี้ในอนาคตอีกด้วย“ขอบคุณพี่มากนะคะที่ช่วยสอนจนหนูเข้าใจวิธีการใช้งานและเทคนิคต่าง ๆ”“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ หวังว่าพวกผมจะได้ฟังผลงานเพลงดี ๆ จากคุณหนูหลังจากนี้นะครับ”ซูหนิงเซียวยิ้มรับคำของหัวหน้าช่างและชวนเขาออกไปด้านนอกเพื่อบอกแม่ของเธอว่าเรียนรู้กันเสร็จแล้ว จากนั้นซูหนิงจิง กู่ซิงและซูหนิงเซียวรอให้หัวหน้าช่างได้นั่งพักดื่มน้ำทานของว่างก่อนจะส่งพวกเขากลับพร้อมกันตอนนี้เป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว ซูหนิงจิงจึงให้ลูกสาวเก็บของว่างและน้ำดื่มทั้งหมดบนโต๊ะรับแขกเข้าไปล้างทำความสะอาด ส่วนเธอจะเตรียมอาหา
ระหว่างอาหารค่ำวันหนึ่ง ซูหนิงเซียวที่กำลังจะกินทอดมันกลับรู้สึกเหม็นกลิ่นอาหารยังไงพิกลจนเธอต้องลุกขึ้นวิ่งไปอาเจียนที่ห้องน้ำ ทำเอาทุกคนแตกตื่นตกใจกันไปหมดเพราะคิดว่าเธอพักผ่อนไม่เพียงพอจากการไลฟ์สดต่อเนื่องกันมานานหลายวัน จ้านเการีบสั่งคนให้เตรียมรถไปโรงพยาบาลทันที เมื่อเห็นซูหนิงเซียวเดินหน้าซีดออกมาจากห้องน้ำ เขาก็รีบเข้าไปอุ้มเธอและเดินดุ่ม ๆ ออกไปหน้าบ้านโดยไม่รอใครสักคน ทำเอาคนอื่น ๆ ต้องรีบเดินตามเขาไปแทบไม่ทัน บอดี้การ์ดพาทุกคนไปถึงโรงพยาบาลใกล้ ๆ ในเวลาเพียง 20 นาที ซูหนิงเซียวเห็นจ้านเกาจะอุ้มเธอลงไปอีกก็เกิดอายคนในบ้านขึ้นมา เธอจึงขอเดินเองจนจ้านเกาต้องยอมแพ้ภรรยาตัวน้อยและประคองเธอลงจากรถตู้เอง หลังส่งซูหนิงเซียวเข้าไปในห้องฉุกเฉินเพื่อตรวจอาการแล้ว บรรดาผู้อาวุโสที่คาดเดาว่าครั้งนี้น่าจะเป็นข่าวดีต่างพากันยิ้มแย้มแจ่มใส แต่จ้านเกาที่เป็นห่วงภรรยากลับไม่รู้เรื่องอะไร เขาเอาแต่เดินไปเดินมาหน้าห้องฉุกเฉินเพราะกลัวว่าภรรยาจะเจ็บป่วยร้ายแรง
ในห้องหอที่เป็นห้องของจ้านเกา ซูหนิงเซียวนั่งอยู่ที่เตียงอย่างเขินอาย ก่อนที่จ้านเกาจะจูบหน้าผากภรรยาตัวน้อยของเขาอย่างอ่อนโยน“น้องหนิงเซียวไม่ต้องเครียดมากนะครับ พี่ไม่ทำอะไรน้องก่อนจะเรียนจบแน่นอนครับ เราไปกินข้าวมงคลกันดีกว่า” จ้านเกาจับมือเล็กของซูหนิงเซียวแล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะนั่งลงข้างเธอและเริ่มตักอาหารใส่ถ้วยข้าวให้เธอกินไม่ต่างจากตอนที่พวกเขาอยู่บนโต๊ะอาหารร่วมกับครอบครัว ซูหนิงเซียวอดคิดไม่ได้ว่าทำไมสามีเธอไม่อยากมีอะไรกับเธอ หรือว่าเธอจะไม่สวยพอที่เขาจะหลงใหล จ้านเกาเห็นภรรยาหน้านิ่วคิ้วขมวดก็อดจะถามไม่ได้“น้องหนิงเซียวคิดอะไรอยู่ครับ ทำไมทำหน้าตาแบบนี้ล่ะ”“เอ่อ… หนูแค่คิดว่าวันนี้หนูไม่สวยพอที่สามีอย่างพี่จ้านจะทำหน้าที่สามีหรือเปล่าน่ะสิคะ เพื่อนหนูบอกว่าเจ้าบ่าวส่วนใหญ่ต้องอดใจไม่ไหวแน่ถ้าเห็นเจ้าสาวนั่งบนเตียง” ซูหนิงเซียวก้มหน้าตอบอย่างอาย ๆ“ฮ่า ฮ่า น้องหนิงเซียวคิดมากเกินไปแล้ว พี่แค่กลัวว่าน้องจะยังไม่พร้อมเท่านั้นเองครับ ถ้าน้องหนิงเซียวอนุญาต พี่ก็จะทำห
ก่อนเวลาตามฤกษ์งามยามดี 10 นาที พิธีกรขึ้นมากล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจำนวนนับร้อยคนที่มาในครั้งนี้ จากนั้นเขาจึงเชิญผู้อาวุโสของตระกูลจ้านทั้งสองขึ้นไปนั่งรอบนเวที ไม่นานนักซูหนิงจิงก็เดินมาพร้อมลูกสาวโดยมีกู่ซิงเดินตามหลังพร้อมรอยยิ้มเข้ามาในงาน จ้านเการีบไปยืนรอเจ้าสาวของเขาที่หน้าเวทีก่อนจะรับเธอมาจากซูหนิงจิง เขายังรับปากซูหนิงจิงว่าจะดูแลซูหนิงเซียวเป็นอย่างดี หลังฟังจ้านเกาพูดแล้ว ซูหนิงจิง กู่ซิงก็เดินนำสองเจ้าบ่าว เจ้าสาวขึ้นไปบนเวทีเพื่อเริ่มทำพิธีการในลำดับต่อไป พิธีกรประกาศของรับขวัญเจ้าสาวที่ตระกูลจ้านมอบให้ ทำเอาแขกในงานฮือฮากันไม่น้อย เนื่องจากของขวัญมากมายทั้ง 28 รายการล้วนแต่เป็นของโบราณและมีค่าควรเมือง ไม่รวมที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในเมืองต่าง ๆ ที่ผู้อาวุโสทั้งสองมอบให้อีกหลายแห่ง ซูหนิงเซียวถึงกับน้ำตารื้นขึ้นมาที่คุณตา คุณยายของจ้านเกาเอ็นดูเธอถึงเพียงนี้ หลังจบรายการของขวัญฝ่ายเจ้าบ่าวแล้ว พิธีกรก็ประกาศของรับขวัญเจ้าบ่าวที่ซูหนิงจิงมอบให้เช่นกัน คราวนี้แขกในงานยิ่งส่งเสียงฮือฮาหนักกว่าเมื่อกี้เสียอีก เพราะซูหนิงจิงมอบหุ้นทั้งหมดข
ก่อนถึงงานแต่งสามวัน วันนี้มีข่าวใหญ่ที่สื่อทุกสำนักนำเสนอ จากหลักฐานที่ตำรวจได้รับมาก่อนหน้านี้ หลังจากตรวจสอบที่มาที่ไปและพบว่าหลักฐานทั้งหมดเป็นของจริง ตำรวจได้นำส่งหลักฐานให้ศาลพิจารณาออกหมายจับนักการเมืองหลายสิบคนที่มีส่วนร่วมในการทุจริตและคอรัปชั่นมาตลอดหลายสิบปี เจียวจิ้งเหอที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลได้แต่เหงื่อตกหลังจากดูข่าวที่กำลังฉายในทีวี เขาไม่รู้ว่าหลักฐานที่เขาเก็บเอาไว้ทำไมถึงไปอยู่กับตำรวจได้ วันที่ทนายมาทำพินัยกรรมให้กับเขา ทนายก็ไม่ได้บอกว่าหลักฐานหายไป เจียวจิ้งเหอยิ่งดูข่าวก็ยิ่งเครียดจนความดันขึ้นสูงและเครื่องวัดความดันดังเตือนไปยังพยาบาลด้านนอก พวกเธอรีบเข้ามาดูคนไข้ที่กำลังช็อคทันที แต่เสียดายที่ตอนนี้เจียวจิ้งเหอเส้นเลือดในสมองแตกไปจากความเครียดที่เกิดขึ้น หมอรีบเข้ามาดูอาการแล้วก็ได้แต่ต้องรีบพาเขาไปห้องผ่าตัดเพื่อดูดลิ่มเลือดในสมองออกก่อนที่อาการจะหนักมากไปกว่านี้ หลงฮ่าวกับเจียวจูได้รับข่าวจากโรงพยาบาลในเวลาต่อมา พวกเขารีบไปที่โรงพยาบาลกันอย
สามวันต่อมา จ้านหย่งเหอ จ้านเซียงชิง จ้านเกา ซูหนิงจิง ซูหนิงเซียวและกู่ซิงเดินทางไปลองชุดที่ร้านตามที่จ้านเซียงชิงจองเอาไว้ก่อนหน้านี้ ร้านนี้มีแต่ชุดสวย ๆ และดูหรูหราเหมาะสมกับงานแต่งงานของเด็กทั้งสองคน ส่วนผู้ใหญ่ต่างก็ดูชุดราตรีแบบต่าง ๆ ที่ร้านนำมาให้ก่อนจะลองชุดกันอย่างสนุกสนาน สองผู้อาวุโสเองก็เลือกชุดแบบโบราณที่ดูเหมาะสมกับวัย กว่าที่ทุกคนจะลองชุดเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงบ่ายกว่าแล้ว พวกเขาเห็นว่าเลยเวลาอาหารเที่ยงมาสักพักใหญ่จึงให้คนขับรถหาร้านใกล้ ๆ เพื่อทานอาหารก่อนจะกลับไปที่บ้านตระกูลจ้าน ระหว่างทานอาหาร จ้านหย่งเหอก็ถามถึงเรื่องคดีของเจียวจิ้งเหอกับหลานชาย“คดียังต้องเลื่อนการสอบพยานนัดแรกออกไปอยู่ครับคุณตา เพราะเจียวจิ้งเหอต้องรักษาตัวมากกว่าสามเดือนครับ”“ฮึ หวังว่าคราวนี้คงไม่มีใครมาช่วยเขาอีกนะ”ซูหนิงจิงไม่อยากให้จ้านหย่งเหอกังวลมากนัก เธอจึงคิดจะบอกถึงเรื่องที่คนของเติ้งโหย่วได้หลักฐานส่งตำรวจไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่อย่างนั้นจ้านหย่งเหอคงไม่สบายใจ
เจียวจิ้งเหอฟื้นขึ้นมาในช่วงบ่ายของวันต่อมาหลังจากผ่าตัด หมอตรวจอาการของเขาพบว่าร่างกายช่วงล่างของเขาไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป เนื่องจากกระดูกสันหลังและเส้นเลือดเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ เจียวจูกับหลงฮ่าวพอได้ข่าวก็รีบมาที่โรงพยาบาล เมื่อพวกเขารู้ว่าเจียวจิ้งเหอไม่สามารถใช้ร่างกายช่วงล่างได้อีกก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย เรื่องคดีของเจียวจิ้งเหอก็ยังไม่ได้รับการตัดสิน หากเจียวจิ้งเหอต้องไปอยู่ในคุกข้อหาจ้างวานฆ่าจริง ๆ พวกเขาคงช่วยอะไรไม่ได้นอกจากหมั่นไปเยี่ยมเท่านั้น หลังจากรู้เรื่องว่าต่อไปตัวเองต้องเป็นคนพิการ เจียวจิ้งเหอก็ได้แต่หลับตาลงอย่างปลดปลง เขาไม่สนใจว่าเป็นฝีมือใครแล้วในตอนนี้ ถึงเขาจะแก้แค้นกลับก็ไม่ช่วยให้เขาสามารถใช้งานร่างกายที่พิการไปแล้วได้อยู่ดี เจียวจูเห็นพ่อของตัวเองเงียบลงไปแบบนี้ก็ยิ่งร้องไห้มากขึ้นไปอีกจนหลงฮ่าวต้องคอยกอดปลอบเธอเอาไว้ ไม่นานนักเจียวจิ้งเหอก็ลืมตาขึ้นมาเพื่อคุยกับลูกสาวและลูกเขยถึงเรื่องสำคัญ“หลงฮ่าว อาจู พรุ่งนี้เรียกทนายมาหาพ่อที่นี่ด้วยนะ พ่อจะทำพินัยกรรมเอาไว้ให้ลูกกับหลาน ส่วนเรื่องคดีของพ่อคงอีก
หลงฮ่าวกับเจียวจูรออยู่หน้าห้องผ่าตัดเกือบ 8 ชั่วโมง กว่าที่หมอจะออกมาบอกว่าเจียวจิ้งเหอพ้นขีดอันตรายแล้ว เพียงแต่ต้องรอดูว่าหลังจากฟื้นขึ้นมา อวัยวะต่าง ๆ ของเจียวจิ้งเหอจะสามารถใช้งานได้เป็นปกติหรือไม่เท่านั้น หมอแจ้งอาการกับญาติเสร็จก็ให้พยาบาลเข็นเตียงของเจียวจิ้งเหอไปยังห้องพิเศษเพื่อรอดูอาการหลังผ่าตัดจนกว่าจะครบ 24 ชั่วโมง จึงจะมั่นใจว่าเขาสามารถพักฟื้นต่อได้ หลงฮ่าวกับเจียวจูได้แต่ต้องกลับไปก่อนและให้คนของเขาคอยเฝ้าดูอาการของเจียวจิ้งเหอแทน พวกเขาจึงจะมาเยี่ยมเจียวจิ้งเหออีกครั้ง เพราะหลงฮ่าวกำลังหาคนในของบริษัทจ้านเกาเพื่อสร้างความเสียหายแต่ก็ยังหาไม่ได้เสียที จ้าวไห่ถังที่รู้ข่าวความวุ่นวายของหกตระกูลก็คิดอยากถอนหมั้นลูกสาว เขาไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับคนติดคุกติดตะรางอย่างหลงเอ้อหลางอีกต่อไป หลิวอ้ายโหรวที่ยุ่งอยู่กับการพาลูกชายไปทำงานก็ไม่ได้คัดค้านการตัดสินใจของสามี เธอในตอนนี้ไม่อยากให้ลูกชายเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะเรื่องนี้เช่นกัน หลังอาหารเย็นวันหนึ่ง จ้าวไห่ถังจึงเรียกลูกสาวมาคุยเรื่องนี้“พ่อคิดว่าตระกูลหลงจะให้เราถอนหมั้น
วันนี้เจียวจิ้งเหอมีนัดขึ้นให้การในชั้นศาลนัดแรก เขาให้คนของตนเองเตรียมตัวเดินทางหลังอาหารเช้า ส่วนคนของเติ้งโหย่วก็เตรียมการแล้วเช่นเดียวกัน พวกเขาหาที่กั้นทางเพื่อทำทีเป็นปรับปรุงถนนอยู่ให้เลี่ยงเส้นทางไปยังทางเปลี่ยว ทำให้ขบวนรถสามคันของเจียวจิ้งเหอต้องอ้อมทางไป คนของเติ้งโหย่วที่เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า พอเห็นขบวนรถของเจียวจิ้งเหอมาถึงก็เตรียมตัวกดระเบิดที่ฝังเอาไว้ใต้พื้นถนนเพื่อทำให้รถเกิดอุบัติเหตุแทนที่จะใช้ปืนกระหน่ำยิงเหมือนตอนที่เจียวจิ้งเหอสั่งลูกน้องไปจัดการจ้านเกา เมื่อรถคันแรกมาถึงบริเวณที่อานุภาพการทำลายล้างของระเบิดสามารถทำได้ หัวหน้ากลุ่มกะจังหวะกดระเบิดตอนที่รถของเจียวจิ้งเหอมาถึงจุดที่ระเบิดถูกวางเอาไว้พอดีบึ้ม!!! เอี๊ยด!!! โครม! รถของเจียวจิ้งเหอพลิกคว่ำในทันที ส่วนรถอีกสองคันที่โดนแรงระเบิดก็กระเด็นไถลไปคนละทิศละทาง คนที่อยู่ในรถต่างมึนงงและหูดับไปเพราะแรงระเบิดชั่วขณะ คนของเติ้งโหย่วอาศัยจังหวะนั้นหลบออกไปจากที่เกิดเหตุโดยหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดอย่างรู้งาน พวกเข
หลังทานอาหารค่ำ ทุกคนก็มานั่งคุยรายละเอียดเรื่องงานแต่งงานของเด็กทั้งสองคนอย่างจริงจังจนได้ข้อสรุปว่าพวกเขาจะจัดงานแต่งงานก่อนซูหนิงเซียวจะเปิดเทอมและขึ้นปีสามเพื่อความสะดวกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งก็เหลือเวลาเตรียมงานไม่ถึงสามสัปดาห์ แน่นอนว่าสัปดาห์นี้ทุกคนยุ่งอยู่กับแผนการล้มหกตระกูลรอง จ้านหย่งเหอกับจ้านเซียงชิงจึงให้เริ่มเตรียมงานแต่งในสัปดาห์หน้าแทน โดยพวกเขาจะเรียกเจิ้งเหลียงฮวามาช่วยเรื่องทำบัตรเชิญเหมือนตอนงานหมั้น คืนนั้นกว่าทุกคนจะได้เข้านอนก็เกือบห้าทุ่มแล้ว พวกเขาต่างยิ้มแย้มที่กำลังจะมีงานมงคลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ถึงแม้แต่ละคนจะมีงานล้นมืออยู่ก็ตามที สายวันต่อมา แผนการของซูหนิงจิงทำให้บริษัทใหญ่ทั้งหกไม่มีทางเลือกจนต้องเทขายหุ้นในมือก่อนที่จะขาดทุนไปมากกว่านี้ ซูหนิงจิงโทรหาไป่เฉิงให้เขากว้านซื้อหุ้นทั้งหมดเอาไว้ให้เธอ โดยเธอโอนเงินให้เขาเผื่อเอาไว้ 900 ล้านหยวน ต้องขอบคุณโครงการฟู่ซิงซินที่ขายหมดเร็วจนเธอมีกำไรจากโครงการนี้มากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน ตระกูลทั้งหกที่เกี่ยวพันกับเรื่องของซูหนิงเซียวต่างนัดประชุมเ