แชร์

บทที่ 1003

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
จากนั้นเย่ซิวก็ได้เห็นชายชราหนวดเคราขาวโพลนคนหนึ่ง

รอบตัวเขาแผ่กระจายพลังงานลึกล้ำราวกับอยู่เหนือกาลเวลา

ชายชรามองเย่ซิวก่อนจะเผยรอยยิ้มใจดีออกมา

เขากวักมือเรียก “เด็กน้อย การพบกันครั้งนี้คือโชคชะตา เข้ามาสิ”

เย่ซิวลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ก้าวเข้าไปหา

“ที่นี่คือศูนย์กลางของศาสตร์แห่งวิถีอักขระ การที่เจ้ามาถึงที่นี่ได้แปลว่าพรสวรรค์ของเจ้าไร้เทียมทาน มาเถิด ข้าจะถ่ายทอดสุดยอดวิถีอักขระให้เจ้า”

เย่ซิวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้

ชายชรายื่นมือขวาออกมาแล้วกดลงบนหน้าผากของเย่ซิว

แต่ในเสี้ยววินาทีต่อมา รอยยิ้มอ่อนโยนของเขาก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม

“ร่างกายชั้นเลิศ ในที่สุดข้าก็จะได้ออกไปจากที่นี่และสามารถบำเพ็ญได้เหมือนมนุษย์ทั่วไปเสียที!”

ร่างของชายชรากลายเป็นลำแสงพุ่งออกจากตำราลับเทียนฝูแล้วพุ่งเข้าสู่สมองของเย่ซิวโดยตรง

นี่คืออาวุธวิญญาณ

เนื่องจากดำรงอยู่มาอย่างยาวนานมากจึงมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์

แต่เพราะกฎบางอย่างทำให้มันไม่สามารถออกจากพื้นที่นี้เองได้

มันต้องรอให้คนนอกเข้ามาแล้วฉวยโอกาสยึดร่างของคนผู้นั้น

ชายหนุ่มคนก่อนแม้จะมีพรสวรรค์สูง แต่ยังไม่ถึง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
นายประสิทธิ์ สอนสุข
มันโกงกันยังไม่พอหรือ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1314

    เสียงเครื่องยนต์คำรามลั่นเมื่อถูกเหยียบคันเร่งสุดแรง รถสปอร์ตลอยฟ้าสีชมพูพุ่งทะยานฉีกอากาศออกไปทันที……สองวันต่อมา หลัวเวยเวยกลับมาจากด้านนอกพร้อมกับนักโทษประหารสิบคนหลังจากจับพวกเขาแต่งตัวเสียใหม่ก็ดูหล่อเหลาเอาการ แถมพลังก็ไม่น้อยเลยเธอสอบถามดูคร่าว ๆ พบว่าคนจากสำนักศตะบุปผายังมาไม่ถึง จึงได้ผ่อนลมหายใจโล่งอกเล็กน้อยตั้งใจจะสั่งให้คนไปจัดที่พักให้นักโทษเหล่านี้ก่อนทันใดนั้น เธอก็หันไปมองยังประตูใหญ่ของสำนักสายสีชมพูเส้นหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทะลุผ่านประตูเข้ามา ลอยอยู่เหนือหัวทุกคนเมื่อแสงจางลงก็เผยให้เห็นเป็นรถสปอร์ตสีชมพูคันหนึ่งการกระทำนี้เต็มไปด้วยความท้าทายอย่างไม่เกรงใจใคร แต่หลัวเวยเวยกลับรีบยกมือห้ามไม่ให้เหล่าศิษย์ที่เฝ้าเวรยามเข้าไปเอาเรื่องประตูรถทั้งสองฝั่งเปิดออก ก่อนที่หญิงสาวสองคนจะเดินลงมาทีละคนเมื่อเห็นสองคนนี้ ศิษย์หลายคนก็สูดลมหายใจซี้ดพร้อมกันโดยเฉพาะเมื่อสายตาเหลือบไปยังหญิงสาวหน้าตายั่วยวน ที่บนร่างมีเพียงเศษผ้าปิดบังร่างกายเพียงน้อยนิดเท่านั้น สำหรับบุรุษแล้ว แค่เห็นก็แทบคลั่งหญิงสาวหน้าตาเย้ายวนเก็บรถไป จากนั้นทั้งสองก็เหินร่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1313

    “มีเรื่องอะไร ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูดก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน”“ไม่รีบไม่ได้หรอก” หลัวเวยเวยตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เมื่อกี้นี้ฉันเพิ่งได้รับข่าวจากสำนักศตะบุปผา พวกเธอจะส่งคนมาที่สำนักอวิ้นหลิงในอีกไม่กี่วัน”“สำนักศตะบุปผา?” เย่ซิวขมวดคิ้วแน่น “ผมไม่เคยได้ยินชื่อสำนักนี้มาก่อนเลย มีอะไรพิเศษเหรอ”หลัวเวยเวยยิ้มขื่น ๆ “แน่นอนว่าเก่งน่ะสิ นั่นคือสาขาย่อยของสำนักระดับสามในแถบนี้เลยนะแค่พลังของสาขาย่อยก็ใกล้เคียงกับสำนักระดับหกเข้าไปทุกที แข็งแกร่งกว่าเราหลายเท่าตัว”“ดูเหมือนคุณจะหวาดเกรงพวกเขามาก บอกผมมาให้ละเอียดหน่อยสิ”“สำนักนี้มีแต่ผู้หญิงหน้าตาสวยงาม หุ่นดี บอบบางอ่อนช้อย และวิชาที่ถนัดของพวกเธอก็คือดูดหยางเสริมหยิน ใครที่ถูกพวกเธอหมายตาไว้ ไม่มีใครรอดสักคน สุดท้ายก็จบลงอย่างน่าสลดทั้งนั้น”เย่ซิวพอได้ยินก็เข้าใจทันที นี่มันสำนักมารชัด ๆ เลยไม่ใช่เหรอ?หลัวเวยเวยยังพูดต่อ “พวกเธอมีสำนักระดับสามหนุนหลัง มีอิทธิพลใหญ่โต ไม่มีใครกล้าขัดขวางโชคดีที่พวกเธอไม่ได้โหดเหี้ยมถึงฆ่าไม่เลือก ในแต่ละปีจะเลือกเพียงสิบคนจากแต่ละสำนัก ทุกสำนักจึงยังพอทนรับไหว”เมื่อเห็นสีหน้าเย่ซิวเปลี่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1312

    ไม่นานหลังจากนั้น รูขุมขนของฝูงวานรไม้ครามก็พ่นพลังปราณออกมาจำนวนมากภายใต้แรงผลักดันจากสัญชาตญาณ วานรแต่ละตัวรีบนั่งขัดสมาธิ และเริ่มดูดซับพลังงานอันมหาศาลที่แฝงอยู่ในร่างเย่ซิวนั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ อย่างใส่ใจ เผื่อหากมีปัญหาใดเกิดขึ้นจะได้ลงมือช่วยได้ทันทีแต่ดูเหมือนเขาจะเป็นห่วงเกินเหตุไปหน่อยเพราะรากฐานของวานรเหล่านี้เย่ซิวฝึกฝนอย่างเข้มงวด แต่ละตัวจึงมีรากฐานที่มั่นคงอย่างหาตัวจับยากการทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยภายใต้สายตาของเย่ซิว ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ ก็มีวานรทะลวงระดับประสบความสำเร็จเป็นตัวแรกขนที่ไหม้เกรียมก่อนหน้านี้กลับงอกขึ้นใหม่ ดูหนาแน่นและแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม ความสามารถในการป้องกันก็เพิ่มสูงขึ้นมากความสูงไม่เปลี่ยนไปนัก แต่กล้ามเนื้อกลับกระชับแน่น และพละกำลังทางกายภาพพุ่งขึ้นมหาศาลเมื่อตัวแรกทะลวงผ่านได้ ตัวที่สอง ตัวที่สาม ก็ทยอยตามมาเรื่อย ๆ…เพียงแค่สองชั่วโมง วานรทั้งร้อยตัวก็ทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานครบทั้งหมด ทั่วห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นอายพลังปีศาจอันหนาแน่นเย่ซิวพอใจอย่างมากที่เขาทุ่มเทลงไปมากมายไม่เสียเปล่า ในที่สุดก็ทำให้เจ้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1311

    เมื่อเย่ซิวรับรู้ถึงพลังจิตที่ถูกส่งมา ดวงตาเขาก็หดแคบลงโดยไม่รู้ตัว เขาหันขวับไปมองหญิงสาวคนนั้นทันทีในพลังจิตนั้นแฝงไปด้วยข้อความที่บอกว่าอีกไม่นานเธอก็จะฟื้นคืนชีพ และจะออกจากที่นี่ เธอเลยขอให้เย่ซิวช่วยเตรียมของบางอย่างเอาไว้ให้พร้อมและยังบอกเย่ซิวด้วยว่า เมื่อถึงเวลานั้นจะมอบโชควาสนาอันยิ่งใหญ่ให้แก่เขาสีหน้าของเย่ซิวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปเขารู้สึกกังวลขึ้นมาในใจ หากผู้หญิงคนนี้ฟื้นขึ้นมาแล้วกลับคำ ฆ่าเขาทิ้งเสียจะทำยังไง?ไม่ใช่ว่าเขาคิดร้ายกับผู้อื่น แต่เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในโลกของผู้ฝึกตนอยู่ทุกวันดูเหมือนว่าเธอจะรับรู้ถึงความคิดในใจของเย่ซิว จึงส่งพลังจิตมาอีกระลอก แสดงความหมายว่าจะไม่ทำอะไรเขาแน่นอนและในพลังจิตนั้นยังแฝงไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว เกินกว่าที่เย่ซิวจะจินตนาการได้เขาตกตะลึงอย่างหนักเมื่อพบว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมร่างกายได้มีพลังลึกลับบางอย่างควบคุมร่างกายของเขาให้ขยับเคลื่อนไหวตามต้องการเพียงไม่กี่วินาที พลังนั้นก็จางหายไปเย่ซิวก็สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกครั้งหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็งใช้วิธีนี้บอกกับ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1310

    เย่ซิวแกล้งแหย่เธอเล่น “เธอสอนเหมียวเหวินเหวินใช้ได้เลย ฉันพอใจมาก”ทันใดนั้น ดวงตาของเสี่ยวโหรวก็แดงก่ำขึ้นทันที รู้สึกน้อยใจจนพูดไม่ออก น้ำตาเอ่อคลอไปด้วยหยดน้ำ ราวกับพร้อมจะไหลลงมาได้ทุกเมื่อเย่ซิวไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะอ่อนไหวขนาดนี้ แค่พูดแหย่ไม่กี่คำก็จะร้องไห้แล้ว จึงรีบปลอบทันที “โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะ ไม่แกล้งเธอแล้ว เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าเธอฝึกจนถึงระดับมหายานเมื่อไหร่ ฉันจะรับเธอไว้แน่นอน โอเคไหม”เด็กคนนี้มีพรสวรรค์สูงมาก แต่ไม่ควรเอาเวลาไปใส่ใจกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อย่างเดียว เย่ซิวเลยอยากให้เธอมีเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ต่อสู้เพื่อมันพอเสี่ยวโหรวได้ยินแบบนั้น ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที “จริงหรือเจ้าคะ นายน้อยพูดจริงใช่ไหมเจ้าคะ”“แน่นอนอยู่แล้ว”“งั้นเรามาเกี่ยวก้อยกัน ห้ามผิดคำพูด ใครผิดเป็นลูกหมา”นิ้วก้อยเล็กใหญ่สองนิ้วยื่นออกมาเกี่ยวกัน หลังจากได้คำสัญญา เสี่ยวโหรวก็ดีใจอย่างยิ่งจนเหมือนทั้งตัวเปล่งแสงออกมา เธอลุกขึ้นทันที แล้ววิ่งกลับไปห้องของตัวเองอย่างกระตือรือร้น เป้าหมายต่อไปคือระดับมหายานสายเลือดของเสี่ยวโหรวไม่ธรรมดา ถ้าเธออยากจะไปถึงระดับนั้น ขยัน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1309

    “ในที่สุดมันก็กลับมาแล้ว ในที่สุดก็ได้ตันเถียนคืนมา” เหมียวเหวินเหวินน้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจตอนที่ตันเถียนของเธอถูกทำลาย พลังบางส่วนที่กระจายออกไปได้ซ่อนอยู่ในเลือดเนื้อทั่วร่าง ตอนนี้ตันเถียนได้รับการฟื้นฟู พลังเหล่านั้นก็เหมือนได้รับแรงดึงดูด ค่อย ๆ ไหลกลับเข้าร่างอีกครั้งระดับพลังของเหมียวเหวินเหวินก็พุ่งขึ้นไปถึงระดับสร้างรากฐานปราณได้ทันที“อ๊าาา!” หลังจากนั้นเธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพแบบไหน เธอกรีดร้องออกมาเสียงดังแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความตกใจเย่ซิวมองเธอ แล้วสั่งเสียงเรียบ “ลุกขึ้น!”แม้ในใจของเหมียวเหวินเหวินจะเต็มไปด้วยความอับอาย แต่เมื่อได้ยินคำสั่งของเขา เธอก็พยายามข่มความเขินอายในใจ แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนเธอหลับตาปี๋ ไม่กล้ามองเย่ซิวแม้แต่น้อย ผิวกายทั้งตัวถูกย้อมเป็นสีชมพูระเรื่อความรู้สึกแบบนี้เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน หัวใจเต้นรัวจนแทบหลุดออกมานอกอก รู้สึกเก้ ๆ กัง ๆ ไปหมดทั้งตัวเย่ซิวยกมือขึ้นเชยคางของเธอเบา ๆ “ลืมตาแล้วมองมาที่ฉัน”ขนตาของเธอสั่นระริก ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ เธอขบริมฝีปากล่างเบา ๆ ใจเตลิดวุ่นวายสุดจะควบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status