“สัมผัสไวใช้ได้นี่นาหนุ่มน้อย ถึงได้รู้ตัวเร็วขนาดนี้”น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานดังขึ้นมาหญิงสาวคนหนึ่งในชุดกระโปรงยาวสีขาวเดินออกมาจากด้านหลังต้นไม้ภายใต้สายตาของเย่ซิวชุดที่เธอสวมใส่นั้นเหมือนกับชุดของเทพเซียนในละครย้อนยุคที่เคยเห็นในโทรทัศน์ รอบกายมีผ้าแพรหลากสีปลิวไสวเป็นสายชุดแบบนี้ในสมัยโบราณเรียกกันว่าอาภรณ์ขนนกสีรุ้ง!ส่วนหน้าตาของหญิงสาวผู้นี้ยิ่งงดงามหาได้ยากในโลกมนุษย์!บุคลิกของเธอเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์หลากหลายอารมณ์บางครั้งดูยั่วยวน บางครั้งดูบริสุทธิ์ บางครั้งดูเย้ายวนชวนหลงใหล บางครั้งกลับดูสูงส่งสง่างามเมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้ ในหัวของเย่ซิวก็พลันนึกถึงคำหนึ่งขึ้นมาทันทีปีศาจร้อยหน้าดวงตาของเย่ซิวพลันคมกริบ จ้องมองอีกฝ่ายเขม็งพร้อมถามเสียงเข้ม “เธอเป็นใคร? ทำไมจู่ ๆ ถึงได้โผล่มาที่นี่?!”ขณะเดียวกันเขาก็เพิ่มความระวังเป็นเท่าตัวเพราะแม้แต่ตัวเขาเองในตอนนี้ก็ยังมองไม่ออกว่าผู้หญิงคนนี้มีพลังระดับไหน นั่นเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายไปมากหากเมื่อครู่นี้เธอไม่เผลอปล่อยจิตสังหารออกมาเพียงเล็กน้อย เย่ซิวก็อาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำหญิงสาวมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “ศิ
ไพ่ตายสารพัดรูปแบบที่เย่ซิวเคยภูมิใจมาตลอด พออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลยแม้แต่นิดเดียวเขากลายเป็นเหมือนเด็กน้อยอ่อนแอที่ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะจับไก่สักตัว“เธอเป็นใคร? ต้องการอะไรกันแน่!”สีหน้าของเย่ซิวตอนนี้เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดที่มาของผู้หญิงคนนี้แปลกประหลาดเกินไปสิ่งเดียวที่ทำให้เขาโล่งใจได้บ้างคือเขาไม่รู้สึกถึงจิตสังหารจากเธอ“ไอ้เด็กบ้า บอกแล้วไงว่าฉันคืออาจารย์ของนาย ยังจะไม่เชื่ออีก” หญิงสาวเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “จริง ๆ อาจารย์ของนายก็เป็นผู้หญิงมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก่อนแค่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย ส่วนเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นน่ะเหรอ?แน่นอนว่าก็เพราะอาจารย์ของนายงดงามจนฟ้าดินสะเทือน มัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา หากใช้รูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมา รับรองว่าโลกทั้งใบต้องวุ่นวายจนควบคุมไม่ได้แน่ ๆ”เย่ซิวยังคงเงียบและไม่เชื่อในสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าพูดแม้แต่น้อยแต่มีอยู่จุดหนึ่งที่เขาเห็นด้วยอยู่บ้างหากใบหน้างดงามเช่นนี้ปรากฏตัวให้คนทั่วไปเห็นก็คงจะก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่จริง ๆจะมีเหล่ายอดฝีมือ มหาเศรษฐี หรือแม้กระทั่งผู้มีอำนาจอีกมากมายที่พร้อมจะลงมือแย
นิ้วเรียวยาวสีขาวดุจหยกแตะลงบนหน้าผากของเย่ซิว ทันใดนั้น ข้อมูลอันซับซ้อนและลึกซึ้งจำนวนมหาศาลก็หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของเขาข้อมูลเหล่านั้นประทับลงในสมองของเย่ซิว และสุดท้ายก็รวมกันเป็นคำว่านักรบคาถานักรบ หนึ่งในเก้าคาถาศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋า!ดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายเจิดจ้า “ขอบคุณครับอาจารย์”คาถาศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าทั้งเก้าตัวอักษรล้วนมีความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันเช่นคาถานักรบนี้มีไว้สำหรับใช้งานร่วมกับอาวุธและสมบัติวิเศษโดยเฉพาะหากเป็นช่างหลอมอาวุธ เมื่อใช้คาถานี้ระหว่างการหลอมจะช่วยเพิ่มคุณภาพของอาวุธได้อย่างมากถ้าใช้ตอนต่อสู้กับศัตรู เมื่อร่ายคาถานี้ลงบนอาวุธของตัวเองจะช่วยเพิ่มพลังโจมตี ความคมกริบ และความแข็งแกร่งในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้“เอาล่ะ เส้นทางต่อจากนี้นายต้องเดินไปเอง ฉันต้องไปแล้ว”“ท่านอาจารย์ ท่านจะไปที่ไหน?”“สถานที่อันตรายที่ตอนนี้เจ้ายังไม่จำเป็นต้องรู้”เย่ซิวถอนหายใจเงียบ ๆด้วยพลังของเขาในตอนนี้อาจารย์ยังบอกว่าอันตรายเลย เช่นนั้นต่อให้รู้ไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไรเขาช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี“จริงสิท่านอาจารย์ ท่านชื่อจริงว่าอะไร? คงไม่ใช่หลิวต้าจู
สำหรับผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ต่ำกว่าระดับจินตาน พลังวิญญาณที่เครื่องยนต์ผลิตออกมาถือว่าเพียงพอแล้วทุก ๆ หนึ่งนาที เครื่องยนต์จะปล่อยพลังวิญญาณออกมาหนึ่งสายเย่ซิวถามขึ้น “กินไฟขนาดไหน”“ค่อนข้างเยอะเลยล่ะ นาทีละพันหน่วย”เย่ซิวนั่งคำนวณคร่าว ๆตามค่าไฟปัจจุบันของสำนักโอสถจะมีราคาหน่วยละสองบาทห้าสิบสตางค์หมายความว่าพลังวิญญาณหนึ่งสายมีต้นทุนสองพันห้าร้อยบาทแต่เนื่องจากทำเลของสำนักโอสถมีแสงแดดอุดมสมบูรณ์ และพลังงานแสงอาทิตย์ก็พัฒนาไปไกลทำให้ต้นทุนจริงอาจต่ำกว่านี้มากแถมในแต่ละวัน สำนักโอสถก็ใช้ไฟไม่หมดเสียด้วยซ้ำ และยังมีพลังงานบางส่วนถูกปล่อยทิ้งไปอย่างไร้ประโยชน์แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นสิบเท่า เย่ซิวก็ยังคิดว่ามันคุ้มค่าอยู่ดี“เยี่ยมเลย ทำได้ดีมาก” เย่ซิวตบไหล่เธอเบา ๆ “อยากได้รางวัลอะไรก็บอกมาได้เลยนะ ถ้าฉันมีให้ฉันจะให้เธอ”“ฉันอยากได้เงินเยอะ ๆ ต้องใช้ทำวิจัยอีกเพียบเลยค่ะ”“ได้ ฉันจะให้เธออีกหนึ่งล้านล้านบาท”เย่ซิวตอบตกลงโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียวเมื่อเทียบกับผลงานวิจัยชิ้นนี้ เงินหนึ่งล้านล้านมันแทบไม่มีค่าอะไรเลยแค่เครื่องยนต์ตัวนี้ก็คือทรัพย์สมบัติที่ประเมินค่าไ
“คุณพูดจริงเหรอ?!”เมื่อได้ยินคำอธิบายเกี่ยวกับเครื่องยนต์จากปากของเย่ซิว นายกรัฐมนตรีถึงกับลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งแม้แต่เขาซึ่งเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงก็ยังอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา“แน่นอนว่าจริงครับ” เย่ซิวยิ้ม “ผมทดสอบมาแล้ว ใช้ไฟแค่พันหน่วยก็สามารถสร้างพลังวิญญาณออกมาได้หนึ่งสาย สำหรับประเทศหลงเถิง ต้นทุนขนาดนี้ถือว่าไม่สูงเลย”ค่าไฟในประเทศหลงเถิงแตกต่างกันไปตามพื้นที่ถ้าเป็นเมืองใหญ่ ราคาต่อหน่วยจะอยู่ที่สามบาทห้าสิบสตางค์ถึงสี่บาทเท่านั้นแต่ถ้าเป็นพื้นที่ห่างไกลที่มีแสงแดดเพียงพอ ราคาจะอยู่ที่แค่ห้าสิบสตางค์ถึงหนึ่งบาทเท่านั้น“ดี ๆ ๆ เยี่ยมไปเลย” นายกรัฐมนตรีพูดคำว่าดีซ้ำถึงสามครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี “ผมตกลงกับคุณเรื่องนี้ เดี๋ยวผมจะให้คนไปเรียกเย่หลิงมา”นายกรัฐมนตรีสั่งให้ผู้ช่วยไปตามเย่หลิงมาทันทีไม่นานนัก เย่หลิงก็มาถึงห้องรับรองเธอยังคงมีท่าทีเย็นชาและหยิ่งทะนง ในอ้อมแขนของเธอกอดดาบไว้แน่น ดูราวกับจอมยุทธ์ผู้โดดเดี่ยวในละครโทรทัศน์แต่เย่ซิวรู้ดีว่ายัยนี่ก็แค่เป็นพวกติดนิสัยมิดเดิลซินโดรม“คารวะท่านนายก”เย่หลิงโค้งให้กับนายกรัฐมนตรีโดยไม่แ
“เรียกฉันว่าท่านอาจารย์ แล้วฉันจะบอกเธอ”“ฝันไปเถอะ นายไม่คู่ควรกับคำนี้ด้วยซ้ำ”เย่ซิวรู้วิธีรับมือกับสาวปากแข็งและโอหังแบบนี้เป็นอย่างดีระหว่างที่ยังคงบินด้วยกระบี่อยู่กลางอากาศ เขาคว้าเธอขึ้นมาอุ้มพาดไว้บนตัก จากนั้นก็ยกมือขึ้นฟาดลงไป“ไอ้บ้า หยุดเดี๋ยวนี้นะ”“นายเล่นทีเผลอนี่!”“ฉันจะสู้กับนายให้ตายกันไปข้าง ให้ตายฉันก็ไม่มีวันก้มหัวให้!”“ฉันจะไม่มีวันให้อภัยนายด้วย!”“พี่ชาย ฉันผิดไปแล้ว จะไม่ทำอีกแล้ว”เสียงร้องของเย่หลิงดังไปทั่วท้องฟ้ายาวนานหลายสิบนาทีหลังจากโดนจัดการอย่างหนัก สาวน้อยจอมดื้อก็เริ่มเงียบลงในที่สุดเธอนั่งนิ่งน้ำตาคลอเบ้า ดูน่าสงสารไม่น้อยแต่เย่ซิวรู้ดีว่าเด็กคนนี้กำลังเสแสร้งถ้าไม่ได้รู้จักกันมานาน มีหวังคงโดนเธอหลอกเอาง่าย ๆ“พอได้แล้ว เลิกแกล้งทำตัวน่าสงสารเถอะ ฉันพาเธอมาสำนักโอสถก็เพื่อประโยชน์ของเธอเอง”เขายกมือลูบฝ่ามือของตัวเองเบา ๆ ท่าทางนั้นทำให้เย่หลิงจ้องเขาด้วยสายตาโกรธจัดอีกครั้งแต่เย่ซิวก็ไม่สนใจ เขาเอ่ยต่อ “อีกไม่นานฉันต้องเดินทางไปที่ไกลมากอาจจะต้องใช้เวลาสิบกว่าปีกว่าจะกลับมา ระหว่างนั้นเธอต้องช่วยดูแลสำนักโอสถให้ดี”สา
เย่ซิวเดินทางไปที่ประเทศหลงเถิงก่อนเป็นอันดับแรกเขาตามหาถังเขอเข่อและรับเครื่องยนต์ที่เคยสั่งให้เธอสร้างไว้ รวมถึงแผงโซลาร์เซลล์นับแสนชิ้นหลังจากนั้นเขาก็ไม่รอช้า รีบกลับไปที่สำนักโอสถทันทีเย่ซิวเก็บเครื่องยนต์ไว้สองเครื่องในห้องลับ และบอกเรื่องนี้เฉพาะกับคนที่เขาไว้ใจมากที่สุดส่วนเตียงน้ำแข็ง แน่นอนว่าเขาก็ต้องนำติดตัวไปด้วยเขายังจัดสรรพื้นที่พิเศษให้กับม้าศึกเพลิงน้ำแข็ง เสี่ยวปิง และเสี่ยวอวี่เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของพวกมันม้าศึกเพลิงน้ำแข็งยังคงถูกเขากดพลังไว้เพราะความภักดีของมันยังไม่ถึงจุดที่สามารถปล่อยให้แข็งแกร่งขึ้นได้ตรงกันข้าม เสี่ยวปิงกลับก้าวหน้าอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าขาข้างหนึ่งก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดแล้วส่วนเสี่ยวอวี่ ตัวมันเริ่มโตขึ้นแต่ยังไม่สามารถปลุกพลังปีศาจได้พอเห็นเย่ซิว เสี่ยวอวี่ก็รีบวิ่งปราดเข้าไปหาเขาอย่างกระตือรือร้นพลางร้องเสียงแหลม ๆ ออกมาอ้อแอ้พร้อมทั้งซุกตัวเข้าหาเขาเย่ซิวลูบขนนุ่ม ๆ ของมัน รู้สึกได้ถึงสัมผัสที่น่าพึงพอใจเสี่ยวอวี่เองก็ดูจะชอบใจ มันหลับตาพริ้มอย่างสบายหากมันต้องการกลับไปเป็นร่างมนุษย์อีกครั้งอาจต้องใช้เวลาอีกนา
ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งไม่สามารถออกไปได้โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเขา จากนั้นเขาก็หันไปเอ่ยกับผู้หญิงสามคนว่า “พวกเธอลงไปก่อน”หากให้เย่ซิวลงไปก่อน เกรงว่าพวกเธออาจจะหนีไปได้เขาได้สำรวจสถานที่นี้มาก่อนแล้วเมื่อเข้าสู่ระยะที่กำหนดจะต้องเผชิญกับพลังงานปั่นป่วนหากพวกเธอทั้งสามกระจายตัวหลบหนี เย่ซิวก็ยากที่จะหาพวกเธอเจอทันที และจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์หญิงสาวทั้งสามต่างพ่นลมหายใจเย็นก่อนจะกระตุ้นพลังป้องกันของตนเองแล้วกระโดดลงไปทีละคนเย่ซิวปล่อยเชือกพลังวิญญาณสามเส้นออกจากฝ่ามือพันรอบเอวของพวกเธอไว้แล้วค่อยกระโดดตามลงไปแม้วิธีนี้จะทำให้พวกเธอรู้สึกเสียหน้าไปบ้างแต่ทั้งสามก็อดทนไว้ในเมื่อพลังสู้เขาไม่ได้ หากยังกล้าปากมากอีก ก็คงโง่เต็มทีหลังจากดำลงไปได้ประมาณหมื่นเมตร เสียงคลื่นซัดกระแทกหินก็ดังขึ้นให้ได้ยินภาพที่เห็นคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ที่นี่คือหนึ่งในรอยแยกของผนึกที่ปิดสนิทเย่ซิวหยิบสมบัติเวทมนตร์รูปเรือที่สร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้ออกมาหลังจากขยายขนาดแล้ว เขาก็ก้าวขึ้นไปเป็นคนแรก จากนั้นหญิงสาวสามคนก็ขึ้นเรือไปโดยไม่ต้องให้เย่ซิวเร่งเร้าแสงสว่างแผ่ก
“แกจะส่งมาดี ๆ หรือจะให้ฉันลงมือเอามาเอง”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร”“แกน่าจะรวยมากเลยสินะ บอกไว้เลยนะ ฉันนี่แหละที่เป็นคนขายปีศาจแมวให้แก”เย่ซิวจึงเข้าใจทันที “ก็แสดงว่านายแอบทำอะไรไว้ในตัวเสี่ยวโหรว เพื่อใช้ติดตามฉัน… ดูท่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทำแบบนี้สินะ”ดูจากท่าทางก็รู้ว่าเป็นมืออาชีพใช้วิธีเอาเสี่ยวโหรวไปขายในตลาดมืด พอมีคนซื้อก็ค่อยตามไปแล้วหาจังหวะชิงตัวกลับมาจากนั้นก็เอาไปขายใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆถือเป็นวิธีหาเงินที่รวดเร็วจริง ๆแต่น่าเสียดายที่คราวนี้ดันมาเจอของแข็งเข้าแล้ว“ใช่เลย แกน่ะเป็นคนที่อ่อนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานปราณแท้ ๆ แต่กลับพกศิลาวิญญาณมามากขนาดนั้น อย่างนี้ต้องรวยมากแน่…”พูดยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็ลอบโจมตีทันทีทั้งที่มีพลังระดับวิญญาณก่อกำเนิด แต่ยังเล่นสกปรกด้วยการลอบจู่โจม เรียกได้ว่าทั้งเลวทั้งเจ้าเล่ห์สุด ๆเปรี้ยง!ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าสีม่วงเส้นหนึ่งก็ผ่าลงมากลางหัวอย่างจังชายคนนั้นถูกฟาดจนร่างแหลกละเอียดกลายเป็นเศษธุลีแทบไม่เหลือชิ้นดีเสี่ยวโหรวที่ยืนข้าง ๆ ถึงกับหน้าซีด
“สินค้าชิ้นที่สองของงานประมูล เป็นจิตวิญญาณนักรบระดับถอดจิตขั้นต้นเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้สภาพจิตวิญญาณจึงยังไม่คงที่เราต้องใช้วิชาเฉพาะตัวเพื่อรักษาสภาพเอาไว้ชั่วคราว ต้องพาไปที่ที่มีพลังหยินหนาแน่น หรือไม่ก็ต้องมีจิตวิญญาณนักรบที่แข็งแกร่งช่วยรักษาให้ ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนศิลาวิญญาณ”พูดจบ เธอก็หยิบลูกแก้วคริสตัลออกมา ภายในมีวิญญาณของปีศาจหมาป่าตนหนึ่งถูกผนึกไว้บนร่างมันมีรูโหว่อยู่หลายแห่งมีหลายคนให้ความสนใจ ต่างเริ่มเสนอราคากันเย่ซิวเองก็ถูกจิตวิญญาณนักรบตนนั้นดึงดูดสายตาเข้าแล้วเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากให้กระบี่แม่ลูกกับเสี่ยวโหรวไป เธอก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยไม่นานราคาก็ถูกดันขึ้นไปถึงสองล้านกว่าศิลาวิญญาณถ้ามันไม่บาดเจ็บล่ะก็ ต่อให้มีหลายสิบล้านก็อาจจะยังซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำจำนวนคนที่ร่วมประมูลค่อย ๆ ลดลงเย่ซิวจึงเสนอราคาไปที่สามล้านศิลาวิญญาณในครั้งเดียว และชนะการประมูลไปอย่างราบรื่นของก็ถูกส่งมาถึงมือเย่ซิวอย่างรวดเร็วเขานำมันเก็บเข้าไปในธงหมื่นวิญญาณแล้วให้จิตวิญญาณนักรบทั้งสามที่อยู่ภายในช่วยรักษาบาดแผลให้แน่นอนว่าจอมมารโลหิตดู
แน่นอนว่าการค้างคืนด้วยกันนั้นไม่ได้ทำให้เย่ซิวเสียสมาธิอะไรหากพูดถึงความเย้ายวน ก็ไม่มีใครจะสู้เสวี่ยเหมยได้อยู่แล้วในตลาดมืดแห่งนี้มีขายเสื้อคลุมแบบเดียวกับที่เย่ซิวสวมอยู่เขาซื้อมาเพิ่มอีกสองชุดเก็บไว้หนึ่งชุด อีกชุดให้เสี่ยวโหรวสวมไม่งั้นสายตาโลมเลียจากรอบข้างจะมากเกินไปหน่อยจากนั้นเขาก็พาเสี่ยวโหรวเดินเล่นในตลาดมืดต่อจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อของอะไรเดินวนไปหนึ่งรอบก็ไม่เจอของอะไรที่ดูมีค่าเป็นพิเศษแบบที่ในนิยายบางเรื่องชอบเขียนว่าพระเอกเดินผ่านตลาดแป๊บเดียวก็เจอสมบัติล้ำค่าอะไรแบบนั้น เรื่องแบบนั้นไม่มีเกิดขึ้นที่นี่หรอกสุดท้ายเขาก็มาถึงอาคารจัดประมูลของตลาดมืดถึงจะเรียกว่าอาคาร แต่จริง ๆ ก็แค่โรงเรือนที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้นเองการเข้าไปข้างในต้องจ่ายค่าผ่านประตูคนละหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณเย่ซิวจ่ายไปสองร้อยแล้วก็จับมือเสี่ยวโหรวเดินเข้าไปมือของเธอนุ่มมาก แถมยังเย็นนิด ๆ ชวนให้รู้สึกอยากจับไม่ปล่อยตอนเข้าไป ที่นั่งก็เหลือว่างอยู่ไม่มากแล้วคนอื่น ๆ แค่เหลือบมองเย่ซิวแล้วก็หันหน้ากลับไปทันทีเพราะที่นี่ ถ้าจ้องใครนานเกินไปจะถูก
“วันนี้บังเอิญมีงานประมูลจัดขึ้นพอดี หนึ่งในของประมูลสำคัญคือหุ่นเชิดโบราณตัวหนึ่งมีพลังระดับถอดจิต ถ้าคุณมีฝีมือก็ลองประมูลดูได้”เย่ซิวสะดุดใจขึ้นมาทันที พลังต่อสู้ของหุ่นเชิดระดับถอดจิตนั้นสูงมากถ้าได้มาจะช่วยยกระดับพลังโดยรวมของเขาได้มากทีเดียวเขาพยักหน้าแล้วก็ตรงเข้าสู่เขตตลาดมืดทันทีบรรยากาศภายในตลาดมืดดูไม่ต่างจากตลาดนัดทั่วไปผู้บำเพ็ญตนนั่งเรียงกันสองฝั่งข้างทาง หน้าแต่ละคนมีแผงเล็ก ๆ วางของขายหลากหลาย“แวะมาดูได้เลย ของดีราคาถูก รับประกันไม่มีโกง”“คัมภีร์ประจำตระกูลของแท้ ขอแลกกับหินธาตุไฟ”“หญิงแท้ ขอแลกแต่งงานกับร้อยศิลาวิญญาณ”……ของหลากหลายจนมองตามแทบไม่ทันเย่ซิวเดินผ่านแผงขายของทีละอันของบางอย่างเขาก็สนใจ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีประโยชน์กับเขามากนัก เลยไม่ได้ซื้ออะไรจู่ ๆ เขาก็หยุดที่แผงหนึ่งแผงนี้ไม่ได้มีของวางขายเหมือนแผงอื่น ๆ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่แทนเธอสวมเสื้อผ้าบางเบา ร่างเล็กบอบบางแต่รูปร่างกลับพอดีสัดส่วน หน้าตาจัดว่าระดับแปดเต็มสิบที่เด่นที่สุดคือดวงตาสีฟ้าราวกับไพลินแค่เห็นแวบเดียวก็ยากจะละสายตามีคนจำนวนไม่น้อยหยุดมองที่แผงนี้
เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ
“อะไรนะ? แค่วันเดียวนายก็กลั่นสำเร็จจริงเหรอ?”ทันทีที่เห็นเย่ซิว เจ้าสำนักก็รีบถามขึ้นด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังเขาเองก็ไม่ได้เพิ่มพลังตัวเองมานานแล้วเหตุผลหลักก็เพราะไม่มีโอสถที่เหมาะสมพอให้ใช้โอสถระดับปฐมญาณนั้นหาได้ยากมากในตลาดต่อให้มีก็จะปรากฏแค่ในงานประมูลเท่านั้น และราคาก็มักจะพุ่งขึ้นสูงเทียมฟ้าเสมอแม้รั่วอวิ๋นจะสามารถกลั่นยาได้แต่เธอต้องลองห้าหกครั้งถึงจะสำเร็จสักครั้ง แถมแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนมหาศาล“ผมไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังครับ” เย่ซิวยื่นโอสถเก้าเม็ดที่ถูกเจือจางแล้วให้ ก่อนถอนหายใจหนึ่งที “ไม่คิดเลยว่าฝีมือกลั่นโอสถของผมจะแย่ขนาดนี้ ทั้งหมดออกมาเป็นแค่ระดับต่ำ”เจ้าสำนักมองโอสถระดับปฐมญาณในมือแล้วถึงกับตกใจ แม้เขาจะเป็นคนสุขุมมาก แต่ก็ยังเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมาแล้วก็หัวเราะลั่นด้วยความยินดี “ดี ดีมาก ๆ ฝีมือกลั่นโอสถของนายอาจจะแซงหน้าอาจารย์ของตัวเองไปแล้วก็ได้นะ”เย่ซิวยิ้มเก้อ ๆ “ไม่น่าเป็นไปได้หรอกครับ ผมยังพัฒนาอีกมาก เอ่อ…”จู่ ๆ สีหน้าเขาก็ซีดเผือด ร่างกายโงนเงนเหมือนจะล้มเจ้าสำนักหรี่ตา “นายเป็นอะไรไป?”“ไม่เป็นไรครับ แค่เสียพลังมากเก
เย่ซิวเอ่ยรายชื่อวัตถุดิบออกมาติดต่อกันเป็นสิบ ๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายสำหรับการหลอมร่างแยกธาตุดินเขามีแผนการบางอย่างในใจ และจำเป็นต้องสร้างร่างแยกธาตุทั้งห้าสำเร็จเสียก่อนถึงจะลงมือได้ดวงตาของเจ้าสำนักเปล่งประกายวาบ “ฉันมีหินดินธาตุดั้งเดิมอยู่ก็จริง แต่ของสิ่งนี้ล้ำค่ามาก เว้นเสียแต่นายจะสามารถกลั่นโอสถระดับปฐมญาณออกมาได้”เย่ซิวพยักหน้า เขารู้จักโอสถประเภทนี้ดี มันสามารถเพิ่มพลังระดับปฐมญาณได้แต่กระบวนการกลั่นซับซ้อนมาก แถมวัตถุดิบยังหาได้ยากสุด ๆแค่ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นก็เกินสิบล้านศิลาวิญญาณแล้วผู้บำเพ็ญสายอิสระทั่วไปไม่มีทางสู้ราคาไหวแน่“แล้วเจ้าสำนักอยากได้กี่เม็ด ถึงจะยอมแลกล่ะครับ”“นายกลั่นได้จริงเหรอ?” เจ้าสำนักมองเย่ซิวด้วยสีหน้าตกตะลึง ดวงตาฉายแววไม่เชื่อโอสถชนิดนี้ไม่เหมือนกับโอสถวิญญาณหยก ระดับความยากสูงกว่ากันหลายเท่าเย่ซิวไม่ได้รีบตอบในทันที แต่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผมขอลองก่อน ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะสำเร็จเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าสำนักให้วัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นกับผมก่อนถ้ากลั่นไม่ได้ ผมยินดีจ่ายค่าต้นทุน
เย่ซิวรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีพอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเสี่ยวไป๋ลอยอยู่กลางอากาศพลังวิญญาณในห้องถูกดูดเข้าไปหามันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วินาทีก็สูบพลังวิญญาณจนหมดทั้งห้องจากนั้นร่างของมันก็ถูกห่อหุ้มด้วยรังไหมขนาดใหญ่ แล้วค่อย ๆ ลอยลงสู่พื้นอย่างช้า ๆเย่ซิวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เสี่ยวไป๋กำลังจะวิวัฒนาการอีกแล้วรอบที่แล้วเหมือนจะพัฒนาขึ้นไม่มากเท่าไหร่แต่สัญชาตญาณของเย่ซิวบอกว่ารอบนี้น่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียวเขารีบเอาน้ำพุวิญญาณที่เหลืออยู่เทราดลงไปบนรังไหมทันที ซึ่งมันก็ถูกดูดซึมหายไปอย่างรวดเร็วนี่อาจช่วยเร่งขั้นตอนวิวัฒนาการให้เร็วขึ้นได้เย่ซิวเดินไปอุ้มเจ้าเสี่ยวอวี่ที่อยู่ไม่ไกลขึ้นมาเจ้าตัวนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากแต่ท้องของมันนี่เหมือนหลุมดำชัด ๆเย่ซิวเลยจัดเต็มอีกครั้ง เขากลั่นโอสถวิญญาณหยกมาอีกหมื่นเม็ดให้มันไว้กินเล่นทั้งสำนักอวิ้นหลิงคงไม่มีใครกล้าทำอะไรฟุ่มเฟือยอย่างเขาอีกแล้วล่ะในช่วงครึ่งเดือนหลังจากนั้น เย่ซิวก็หมกตัวอยู่แต่กับการกลั่นโอสถและฝึกฝนวิชาต่าง ๆข้างนอกเองก็เริ่มมีข่าวแพร่กระจายไปว่าเย่ซิวสามารถกลั่นโอสถวิญญาณหยกได้ควา
จากท่าทีและสีหน้าของทุกคน เย่ซิวก็พอเดาออกว่าโอสถนี่น่าจะหาได้ยากมากในตลาดไม่งั้นพวกเขาคงไม่แห่กันมาขอซื้อแบบนี้แน่เขาทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย “ผมก็อยากช่วยนะครับ แต่โอสถตัวนี้ตอนปรุงมันใช้พลังจิตเยอะมากวันหนึ่งผมปรุงได้ไม่กี่รอบเอง แถมวัตถุดิบก็หายากด้วย”ความหมายแฝงก็คือพวกคุณต้องเพิ่มเงินและเตรียมของมาเองซึ่งทุกคนก็ไม่ใช่คนโง่และเข้าใจเจตนาของเขาทันที ก่อนจะรีบเสนอว่า“ถ้างั้นแบบนี้ดีไหม โอสถวิญญาณหยกหนึ่งเม็ด ฉันให้หนึ่งพันหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณ ส่วนวัตถุดิบเราจัดการเอง แบบนี้ตกลงไหม”เย่ซิวคำนวณในหัวอย่างไวต้นทุนของโอสถวิญญาณหยกต่อเม็ดอยู่ที่ราว ๆ หนึ่งพันศิลาวิญญาณถึงจะรวมค่าแรงและพลังวิญญาณที่ใช้ก็ถือว่าต้นทุนต่ำมาก อย่างมากก็แค่เสียเวลาเฉย ๆเขาสามารถกลั่นได้เป็นหมื่นเม็ดในคราวเดียวถ้าขายให้คนพวกนี้หมื่นเม็ดก็เท่ากับว่าจะได้เงินถึงสิบกว่าล้านศิลาวิญญาณเลยทีเดียวกำไรขนาดนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่ากินขาดแต่เย่ซิวก็ยังไม่ตอบตกลงทันที และทำท่าลังเลอยู่รั่วอวิ๋นที่ยืนข้าง ๆ ตบไหล่เขาเสียงดัง “ยังจะลังเลอะไรอีกล่ะ?นี่มันโอกาสทองเลยนะ ได้ทั้งเงินได้ทั้งฝึกฝีมือ”เย่ซิวถ