ผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์จากหลายแห่งต่างก็โน้มน้าวเขาอย่างต่อเนื่องในถ้อยคำของพวกเขา ดูเหมือนว่าราคาที่พวกเขาให้นั้น ถือว่าเป็นการให้เกียรติเย่ซิวเป็นอย่างมากแล้วเย่ซิวนั่งฟังอย่างเงียบ ๆ และไม่ได้พูดอะไรหลังจากที่พวกเขาพูดจบ เย่ซิวจึงเปิดปากพูดขึ้นว่า “พวกคุณพูดจบแล้วใช่ไหม? พูดจบก็เชิญออกไปได้แล้วครับ”ชายวัยกลางคนลุกขึ้นยืน ในคำพูดของเขามีการแฝงความคุกคามเล็กน้อย“คุณเย่ซิว คิดให้ดี ๆ นะ ศักยภาพในทุกด้านของบริษัทของคุณค่อนข้างธรรมดา หากว่าคุณไม่ยอมขายที่ดินให้กับพวกเรา เกรงว่าบริษัทของคุณคงจะไม่มีปัญญาเริ่มโครงการหรอกนะ”ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ ชายวัยกลางคนเองก็เห็นด้วยกับเขา “ใช่ค่ะ ดูจากข่าวที่ประกาศออกมาแล้ว พวกเขาน่าจะเริ่มโครงการภายในหนึ่งสัปดาห์แล้ว ถ้าพื่นที่นี้ไม่ถูกพัฒนาให้เร็วที่สุด มันจะทำให้เจ้าหน้าที่คิดว่า คุณเจตนาที่จะเก็บที่ดินไว้โดยไม่มีการพัฒนา ซึ่งเป็นการขัดขวางการพัฒนาของบ้านเมือง และนั่นก็ไม่ใช่ข้อกล่าวหาที่เล็กน้อยเลยนะคะ”เย่ซิวจ้องมองใบหน้าของพวกเขาทีละคนพวกเขาทั้งหมดที่นี่ล้วนแต่เป็นคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ติดอันดับในสามสิบอันดับต้น ๆ ขอ
แต่เขาจะลงมือด้วยตนเองเหตุผลที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลงมือก็เพราะไม่ต้องการให้พวกเขาเดือดร้อนเพราะคนพวกนี้เป็นคนใหญ่คนโต พวกเขาเองก็คงไม่กล้าลงมือดังนั้น เขาจึงต้องลงมือด้วยตนเอง คนเหล่านั้นไม่มีความสามารถในการต่อต้านเขาอย่างแน่นอนพวกเขาเพียงมีรูปร่างสูงใหญ่และไม่ได้เป็นดั่งที่เห็น เพราะแท้จริงแล้ว พวกเขาถูกสุราและความสุขทางเพศทำให้ร่างกายอ่อนแอลงจนตอนนี้ร่างกายของพวกเขาอ่อนแอยิ่งกว่าผู้ชายทั่วไปซะอีกไม่นาน ทุกคนก็ล้มลงไปกองบนพื้นและร้องโอดโอยด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดเย่ซิวสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลากพวกเขาออกไป แล้วโยนพวกเขาลงไปที่ใต้ตึกของบริษัท จึงทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาให้ความสนใจและอยากรู้อยากเห็นพวกเขาไม่เคยเผชิญกับความอับอายแบบนี้มาก่อน แต่ละคนโกรธจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว! มันจะต้องชดใช้ในสิ่งที่มันทำ!”“โทรเรียกตำรวจให้มาที่นี่ ผู้บริหารระดับสูงได้รับบาดเจ็บกันขนาดนี้ ฉันไม่เชื่อว่าเมืองเล็ก ๆ อย่างเจียงเฉิงจะกล้าปฏิเสธที่จะรับเรื่อง!”“โทรหาสถานีตำรวจเข้า ฉันจะไปเรียกรถพยาบาล!”ไม่นาน ทางด้านสถานีตำรว
คำพูดของหมอทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นั้น รู้สึกงงงวยหัวหน้าตำรวจเดินเข้ามาและถามว่า “คุณหมอครับ ที่พวกคุณพูดหมายความยังไงครับ?”หมอคนหนึ่งตอบกลับว่า “พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย กระดูกก็สมบูรณ์ดี ผมแนะนำให้กักขังพวกเขาสักสองสามวัน พฤติกรรมแบบนี้น่ารังเกียจมาก!”“ใช่ครับ!” หมออีกคนเอ่ยด้วยความโมโหเช่นเดียวกัน “พวกคุณทำให้เราต้องเสียทั้งกำลังคนและทรัพยากร ถ้าตอนนี้เกิดมีคนอื่นที่กำลังเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต พวกคุณจะรับผิดชอบยังไง?!”เมื่อผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นได้ยินคำพูดนั้นก็เริ่มกังวล“พวกคุณตรวจผิดหรือเปล่า?!”“ผมเจ็บเจียนตายอยู่แล้ว กระดูกต้องหักแน่ ๆ!”“คุณเช็กให้ดีอีกครั้งซิ!”……“คุณเลิกเล่นละครได้แล้ว!” หมอคนนั้นพูดด้วยความโกรธ “กระดูกยังสมบูรณ์ดี เห็นได้ชัดว่าคุณสามารถลุกขึ้นได้!”หัวหน้าตำรวจก็ย่อตัวลงไปบีบกระดูกของพวกเขาและพบว่าไม่มีความผิดปกติ จากนั้น เขาก็ดึงหนึ่งคนให้ลุกขึ้นยืนชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ทันใดนั้น ก็หยุดชะงักไป แล้วพยายามลองยันขาให้ยืนขึ้น“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าขาของฉันหักไปแล้วเหรอ?”เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้บริหารระดับสูงคนอ
“อ่า…”……บริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วนี่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในอันดับที่สามของประเทศหลงเถิงณ ชั้นสูงสุดของสำนักงานใหญ่หลินซวงมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีรถวิ่งไปมาไม่ขาดสาย ดวงตาของเธอเปล่งประกายความคิดบางอย่าง“ท่านประธานคะ ข้อมูลที่เกี่ยวกับเย่ซิวอยู่นี่แล้วค่ะ”เลขานุการที่ติดตามเธอมาเป็นเวลาหลายปีเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารกองหนึ่งในมือหลินซวงรับเอกสารกองนั้นมาและเริ่มดูอย่างละเอียดใช้เวลานานเกือบชั่วโมงถึงจะอ่านจบทั้งหมดโดยมีเลขานุการของเธอยืนอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลาหลินซวงวางเอกสารลงแล้วนวดศีรษะของตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “รบกวนจองตั๋วเครื่องบินให้ฉันด้วยนะคะ ฉันต้องการพบเขาให้เร็วที่สุด”เลขานุการถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง “ท่านประธานต้องไปพบเขาด้วยตัวเองเหรอคะ? จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอคะ?”บริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วเป็นถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในอันดับสามของประเทศหลงเถิง ซึ่งมีมูลค่าตลาดเกินกว่าห้าแสนล้านบาท ถือว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่และมีอิทธิพลอย่างมากแต่ส่วนทรัพย์สินของเย่ซิวยังไม่ถึงหนึ่งแสนล้านด้วยซ้ำ สองฝ่ายนี้ไม่สามารถเปรียบเ
วันนั้นตอนบ่าย เซี่ยซิ่วซิ่วไปหาเย่ซิวด้วยความร้อนใจ“เย่ซิว ไม่ได้การแล้ว นายรีบอ่านข่าวเร็ว!”เย่ซิวรีบเปิดข่าวในอินเทอร์เน็ตดู ก็พบว่ามีข้อความสิบกว่าบรรทัดทั้งหมดถูกทำเป็นตัวหนาสีแดง‘เย่ซิว ประธานบริษัทสตาร์รี่สกายแห่งเมืองเจียงเฉิงมีพฤติกรรมหยิ่งยโสและอวดดี ทำร้ายร่างกายผู้บริหารบริษัทระดับสูงที่มาเจรจาขอความร่วมมือ’‘สุดช็อก! ประธานบริษัทสตาร์รี่สกายมีความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมกับพนักงานหญิง!’‘ในหนึ่งเดือน บริษัทสตาร์รี่สกายสามารถทำกำไรได้หลายหมื่นล้าน เบื้องหลังรายได้มหาศาลมีความจริงอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า?’……เย่ซิวคลิกเข้าไปดูหัวข้อข่าวหนึ่ง เนื้อหาภายในบิดเบือนข้อมูลของเขาทั้งหมด ในส่วนของความคิดเห็นถูกควบคุมโดยเหล่านักเลงคีย์บอร์ดซึ่งเต็มไปด้วยคำด่าทอบางคนที่ไม่รู้เรื่องจริง เมื่อเห็นข่าวเหล่านี้ ก็ถูกชักจูงและร่วมด่าทอเย่ซิวไปพร้อมกับพวกนักเลงคีย์บอร์ดไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ชื่อเสียงของเขาทางอินเทอร์เน็ตก็พังทลายลงมีการใส่สีตีไข่เขามากมาย หากเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนแออาจจะโกรธจนถึงขั้นกระอักเลือดได้แต่สำหรับเย่ซิวที่มีจิตใจมั่นคงดุจดังหินผา เขาไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเด
“นี่เป็นกลวิธีที่พวกเขาชอบใช้ พวกเขาจะเริ่มต้นด้วยการจ้างนักเลงคีย์บอร์ดมาทำลายชื่อเสียงเพื่อลดทอนความตั้งใจของคู่แข่ง และทำให้คู่แข่งขัดแข้งขัดขาตัวเองสเต็ปต่อไป คือการขุดคุ้ยข้อมูลที่เป็นเชิงลบ ถ้ายังไม่ได้ผลก็จะใช้เส้นสายของตัวเองตัดการส่งวัสดุก่อสร้างหนานกงเยวี่ยส่งเสียงหึในลำคออย่างรู้สึกขัดใจ “ช่วยไม่ได้นี่ ก็ครอบครัวของพวกเขามีธุรกิจใหญ่โต สามารถเล่นสกปรกแบบนี้ได้”เธอสองคนออกจากสนามบินไปเรียกแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังบริษัทสตาร์รี่สกายเมื่อมาถึงล็อบบี้ของบริษัท สิ่งที่ทำให้เธอสองคนแปลกใจคือ ที่นั่นกลับเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ได้มีความยุ่งเหยิงแม้แต่น้อยดวงตาของหลินซวงมีความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ‘ดูเหมือนว่าเย่ซิวคนนี้จะเก่งกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก’แม้ว่าภายนอกจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม แต่ภายในบริษัทของเขายังคงมีความสงบนิ่ง นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะบริหารจัดการได้หลังจากทั้งสองคนทำการแนะนำตัวเจ้าหน้าที่ก็รีบขึ้นไปรายงานเขาทันทีผ่านไปไม่นาน เซี่ยซิ่วซิ่วก็ออกมาต้อนรับพวกเธอด้วยตัวเองเมื่อสองสาวเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วก็ถึงกับตกตะลึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องบุคล
เมื่อสองสาวได้พบกับเย่ซิวท่าทางของพวกเธอก็ดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อยแม้ว่าเย่ซิวจะดูหล่อ รูปร่างก็ถือว่าไม่เลว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นหล่อเกินบรรยายอะไรเช่นนั้นผู้ชายแบบนั้นจะคู่ควรกับเซี่ยซิ่วซิ่วได้อย่างไร?สิ่งที่ทำให้เธอทั้งสองรู้สึกเหลือเชื่อนั่นก็คือ เซี่ยซิ่วซิ่วดันไปตกหลุมรักเขา และยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังไม่ได้ตอบรับรักเธอกลับอีกด้วย เย่ซิวไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่เธอทั้งสองคนคิดอยู่ในใจหลังจากลุกขึ้นยืนเชิญให้พวกเธอนั่งลง เขาก็ทำการเริ่มชงชาด้วยตนเองทักษะการชงชาของเขานั้นยอดเยี่ยม ท่าทางลื่นไหลดุจสายน้ำช่างดูงดงามมากทำให้คนที่เห็นไม่สามารถละสายตาจากการกระทำของเขาได้เลยสองสาวต่างก็รู้สึกแปลกใจ ทันใดนั้น พวกเธอก็เริ่มรู้สึกประทับใจในตัวเย่ซิวขึ้นมาผู้ชายที่สามารถชงชาได้ถือว่าเป็นข้อดี เพราะมันสะท้อนถึงการฝึกฝน สะท้อนถึงความลึกซึ้งและบุคลิกภายในของเขาเซี่ยซิ่วซิ่วหลับตาพริ้มเธอได้ค้นพบอีกความสามารถของเย่ซิว แต่ละครั้งที่ศึกษาลึกลงไปในตัวเย่ซิวก็จะพบกับสิ่งที่มีค่าและน่าทึ่งเสมอความรู้สึกนี้ทำให้เธอหลงใหลและไม่สามารถถอนตัวออกมาได้ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเย่ซิวยิ่งลึก
หากราคาสูงเกินไปคงเป็นเรื่องยากที่จะเจรจาธุรกิจกันในวันนี้แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ ราคาที่เย่ซิวให้นั้นต่ำกว่าที่พวกเขาคาดไว้จริง ๆ“ห้าหมื่นบาทต่อตารางเมตร”ผู้หญิงทั้งสองคนพลันเบิกตากว้างพร้อมกันดวงตาของหลินซวงแสดงความประหลาดใจ “คุณเย่ คุณแน่ใจใช่ไหมคะว่าราคานี้ถูกต้องแล้ว?”“คุณได้ยินถูกต้องแล้วครับ ห้าหมื่นบาทต่อตารางเมตร” เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น “แต่ผมมีข้อกำหนดเพิ่มเติมอีกสองข้อ”หลินซวงคิดในใจว่า ‘อย่างที่คาดไว้ มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นอยู่แล้ว’ โดยผิวเผิน พวกเขาไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติแม้แต่น้อย “คุณเย่ บอกมาได้เลยค่ะ ไม่ว่าอะไรก็ตาม หากเราสามารถตกลงกันได้ พวกเราก็จะทำแน่นอนค่ะ”“อย่างแรก ในอนาคต สำหรับพื้นที่เขตที่อยู่อาศัยที่คุณกำลังสร้างอยู่ตรงนั้น ผมหวังว่าคุณจะให้ผมจัดการเรื่องอสังหาริมทรัพย์ได้”หลินซวงพยักหน้า “นั่นไม่มีปัญหาค่ะ”“อย่างที่สอง สำหรับวัสดุก่อสร้างและแรงงานที่จำเป็นในการก่อสร้างพื้นเขตที่อยู่อาศัย ผมหวังว่าบริษัทของคุณจะสามารถครอบคลุมได้ ส่วนเรื่องราคาก็ควรจะเป็นไปตามอัตราตลาด”หากเย่ซิวต้องจัดตั้งทีมของเขาเอง ไม่เพียงแต่ต้องใช้เวลานานและต้องใช้แ
“รู้…แล้ว...”เฉินเยียนจือตอบเสียงแผ่วเบาอย่างที่ใคร ๆ ว่ากันไว้ คนเลวต้องเจอกับคนที่เลวยิ่งกว่า คนแบบเธอ มีแต่ต้องเจอคนที่โหดเหี้ยมกว่าเท่านั้น ถึงจะถูกกำราบอยู่หมัด“ในเมื่อเข้าใจแล้ว ลองเรียกคำว่านายท่านให้ฉันฟังหน่อยสิ”เย่ซิวไม่ได้หลงเชื่อว่าเธอจะยอมสยบง่าย ๆ สิ่งที่เธอแสดงออกตอนนี้มีแต่จะเป็นการยอมจำนนแบบชั่วคราวเท่านั้นและก็จริงตามคาด สีหน้าของเฉินเยียนจือพลันแข็งกระด้างขึ้นมาอีกครั้ง“หืม ไม่อยากพูดงั้นเหรอ” เย่ซิวแกล้งทำหน้าบึ้ง “แสดงว่าบทเรียนเมื่อกี้ยังเบาเกินไปสินะ”เฉินเยียนจือถึงกับสั่นไปทั้งตัว เรื่องเมื่อกี้ยังคงเป็นฝันร้ายที่เธอไม่อยากเผชิญซ้ำอีก“นาย…ท่าน...”สองคำนั้นหลุดออกจากปากเธอด้วยความรู้สึกอัปยศเกินบรรยายเย่ซิวยิ้ม แล้วบิดแหวนผนึกของจากนิ้วของเธอออกมา “เปิดมันซะ”เฉินเยียนจือรู้ว่าขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำตามอย่างว่าง่ายเย่ซิวใช้พลังจิตสำรวจภายในทันที ด้านในมีทั้งศิลาวิญญาณจำนวนมาก สมุนไพรหายาก และโอสถล้ำค่า รวมมูลค่าแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าสิบล้านศิลาวิญญาณเย่ซิวเก็บทั้งหมดเอาไว้โดยไม่ลังเลเฉินเยียนจือเจ็บใจจนแทบร้องไห้ทรัพยากรจำนวนมหาศา
“ฉัวะ!!”สายฝนสีเลือดโปรยปรายลงมาทั่วฟ้าเย่ซิวฉีกสัตว์วิญญาณของเฉินเยียนจือเป็นชิ้น ๆ อย่างไม่ลังเลจากนั้นเตะเข้าหน้าอกเธอเข้าเต็มรักร่างของเธอลอยละลิ่วไปกระแทกกับเนินเขาอย่างรุนแรงเสียงกระดูกหักดังทั่วร่าง ไม่รู้ว่าหักไปกี่จุดเฉินเยียนจือมองเย่ซิวที่ลอยตัวอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น“ไอ้สารเลว แกตายแน่ แกต้องตาย ฉันไม่มีวันปล่อยแกไปเด็ดขาด!!!”ถึงจะเจ็บปางตาย เธอก็ยังไม่หยุดอาฆาต ใจคิดแต่จะแก้แค้นให้ได้ในภายหลัง“เพียะ ๆ ๆ”เย่ซิวไม่ใช่คนที่จะใจอ่อนให้กับคนอย่างเธอเขาตบซ้ายทีขวาที เพียงพริบตาก็ฟาดไปกว่าร้อยครั้งแรงฝ่ามือแต่ละครั้ง ทำให้ใบหน้าที่เคยสวยงามของเธอบวมช้ำจนดูไม่ได้ความแค้นในใจของเธอระเบิดออกจนแทบปิดไม่อยู่ ดวงตาแดงก่ำราวกับจะสังหารได้ทุกสิ่งเธอไม่เคยถูกปฏิบัติแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่เด็กก็เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพ่อแม่และแฟนหนุ่มถูกตามใจทุกอย่างราวกับแตะต้องไม่ได้ แต่วันนี้กลับโดนกระทืบจนแทบจำหน้าตัวเองไม่ได้เย่ซิวเห็นสภาพเธอก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ยังไม่ยอมแพ้ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องปรานีอีกต่อไปเขาควักโอสถสองเม็ดออกมา แล้วยัดใส่ปาก
เจ้าสำนักจ้องมองห้าพี่น้องตรงหน้า พยายามทำให้ท่าทางของตัวเองดูเป็นมิตรมากที่สุด “ไม่ต้องกลัวไปนะ พวกเราไม่ได้มาร้าย เคยได้ยินชื่อสำนักอวิ้นหลิงกันบ้างไหม…”ทั้งห้าคนพยักหน้าเบา ๆผ่านไปครึ่งชั่วโมง เหล่าผู้อาวุโสที่ออกไปตรวจสอบหมู่บ้านก็กลับมาจากที่ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ไม่พบอะไรผิดปกติ ห้าพี่น้องก็อยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้มาตลอดแต่พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่า คนทั้งหมู่บ้านถูกฝังความทรงจำบางอย่างเพิ่มเติมเข้าไปและเรื่องนี้ แน่นอนว่าเป็นฝีมือของจอมมารโลหิตนั่นเอง ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะส่วนระดับพลังของห้าร่างแยกในตอนนี้ ก็ถูกถ่ายโอนมาไว้ที่ร่างหลักของเย่ซิวชั่วคราวทั้งหมดดังนั้น พวกเขาจึงดูเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีใครจับพิรุธได้แม้แต่น้อยแนวคิดนี้ เย่ซิวเคยคิดไว้ตั้งแต่ตอนสอบเข้าเป็นศิษย์ใหม่แล้วสายเซียนกระบี่ในลัทธิ เป็นสายที่มีอิทธิพลและมีพลังมากการเผชิญหน้าตรง ๆ ไม่มีทางชนะแน่นอนเย่ซิวจึงวางแผนจะส่งร่างแยกไปแฝงตัวอยู่ฝั่งนั้นเพราะหากเจออัจฉริยะระดับนี้ แน่นอนว่าทางสำนักต้องทุ่มสุดตัวในการฝึกฝนแน่ซึ่งก็หมายความว่าเหล่าศิษย์รุ่นใหม่คนอื่น ๆ จะได้รับทรัพยากรน้อยลงอย่างมาก
เจ้าสำนักนำเหล่ายอดฝีมือมาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในหุบเขาหนึ่งในผู้อาวุโสเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าสำนัก พวกเรามาที่นี่ทำอะไรกันแน่? ตลอดทางที่มาคุณก็ไม่พูดอะไรสักคำ”เจ้าสำนักส่ายหน้า “ก่อนอื่น ไปปิดล้อมหมู่บ้านนี้ไว้ก่อน แล้วลองหาดูว่ามีเด็กชายที่มีหน้าตาเหมือนกันห้าคนไหม”แม้ทุกคนจะไม่เข้าใจนัก แต่ก็เริ่มลงมือทันทีเจ้าสำนักระงับพลังของตัวเองไว้ แล้วเดินเข้าไปในหมู่บ้านอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับปล่อยพลังจิตออกไปตรวจสอบทั่วพื้นที่ที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านธรรมดา ผู้คนภายในก็ล้วนแต่เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีอะไรผิดปกติแต่เมื่อเขาเดินมาถึงกลางหมู่บ้าน กลับพบเด็กหนุ่มที่หน้าตาธรรมดาห้าคน แต่เปล่งพลังวิญญาณออกมาอย่างชัดเจน แต่ละคนกำลังช่วยกันแบกฟืนและตักน้ำอย่างขยันขันแข็งบรรยากาศอบอุ่นและมีความสุขอย่างน่าประหลาดหัวใจของเจ้าสำนักสั่นสะเทือนเบา ๆ ก่อนที่เขาจะไปเคาะประตูบ้านหลังหนึ่งไม่นานก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาเปิดประตู “สวัสดีครับ มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”เจ้าสำนักยิ้มอย่างเป็นมิตร “พอดีผ่านมาแถวนี้ รู้สึกคอแห้งนิดหน่อย เลยอยากขอน้ำดื่มสักแก้วน่ะ”เด็กหนุ่มเกาหัวแล้วยิ้มอย่างซื่อ
“แกจะส่งมาดี ๆ หรือจะให้ฉันลงมือเอามาเอง”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร”“แกน่าจะรวยมากเลยสินะ บอกไว้เลยนะ ฉันนี่แหละที่เป็นคนขายปีศาจแมวให้แก”เย่ซิวจึงเข้าใจทันที “ก็แสดงว่านายแอบทำอะไรไว้ในตัวเสี่ยวโหรว เพื่อใช้ติดตามฉัน… ดูท่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทำแบบนี้สินะ”ดูจากท่าทางก็รู้ว่าเป็นมืออาชีพใช้วิธีเอาเสี่ยวโหรวไปขายในตลาดมืด พอมีคนซื้อก็ค่อยตามไปแล้วหาจังหวะชิงตัวกลับมาจากนั้นก็เอาไปขายใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆถือเป็นวิธีหาเงินที่รวดเร็วจริง ๆแต่น่าเสียดายที่คราวนี้ดันมาเจอของแข็งเข้าแล้ว“ใช่เลย แกน่ะเป็นคนที่อ่อนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานปราณแท้ ๆ แต่กลับพกศิลาวิญญาณมามากขนาดนั้น อย่างนี้ต้องรวยมากแน่…”พูดยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็ลอบโจมตีทันทีทั้งที่มีพลังระดับวิญญาณก่อกำเนิด แต่ยังเล่นสกปรกด้วยการลอบจู่โจม เรียกได้ว่าทั้งเลวทั้งเจ้าเล่ห์สุด ๆเปรี้ยง!ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าสีม่วงเส้นหนึ่งก็ผ่าลงมากลางหัวอย่างจังชายคนนั้นถูกฟาดจนร่างแหลกละเอียดกลายเป็นเศษธุลีแทบไม่เหลือชิ้นดีเสี่ยวโหรวที่ยืนข้าง ๆ ถึงกับหน้าซีด
“สินค้าชิ้นที่สองของงานประมูล เป็นจิตวิญญาณนักรบระดับถอดจิตขั้นต้นเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้สภาพจิตวิญญาณจึงยังไม่คงที่เราต้องใช้วิชาเฉพาะตัวเพื่อรักษาสภาพเอาไว้ชั่วคราว ต้องพาไปที่ที่มีพลังหยินหนาแน่น หรือไม่ก็ต้องมีจิตวิญญาณนักรบที่แข็งแกร่งช่วยรักษาให้ ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนศิลาวิญญาณ”พูดจบ เธอก็หยิบลูกแก้วคริสตัลออกมา ภายในมีวิญญาณของปีศาจหมาป่าตนหนึ่งถูกผนึกไว้บนร่างมันมีรูโหว่อยู่หลายแห่งมีหลายคนให้ความสนใจ ต่างเริ่มเสนอราคากันเย่ซิวเองก็ถูกจิตวิญญาณนักรบตนนั้นดึงดูดสายตาเข้าแล้วเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากให้กระบี่แม่ลูกกับเสี่ยวโหรวไป เธอก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยไม่นานราคาก็ถูกดันขึ้นไปถึงสองล้านกว่าศิลาวิญญาณถ้ามันไม่บาดเจ็บล่ะก็ ต่อให้มีหลายสิบล้านก็อาจจะยังซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำจำนวนคนที่ร่วมประมูลค่อย ๆ ลดลงเย่ซิวจึงเสนอราคาไปที่สามล้านศิลาวิญญาณในครั้งเดียว และชนะการประมูลไปอย่างราบรื่นของก็ถูกส่งมาถึงมือเย่ซิวอย่างรวดเร็วเขานำมันเก็บเข้าไปในธงหมื่นวิญญาณแล้วให้จิตวิญญาณนักรบทั้งสามที่อยู่ภายในช่วยรักษาบาดแผลให้แน่นอนว่าจอมมารโลหิตดู
แน่นอนว่าการค้างคืนด้วยกันนั้นไม่ได้ทำให้เย่ซิวเสียสมาธิอะไรหากพูดถึงความเย้ายวน ก็ไม่มีใครจะสู้เสวี่ยเหมยได้อยู่แล้วในตลาดมืดแห่งนี้มีขายเสื้อคลุมแบบเดียวกับที่เย่ซิวสวมอยู่เขาซื้อมาเพิ่มอีกสองชุดเก็บไว้หนึ่งชุด อีกชุดให้เสี่ยวโหรวสวมไม่งั้นสายตาโลมเลียจากรอบข้างจะมากเกินไปหน่อยจากนั้นเขาก็พาเสี่ยวโหรวเดินเล่นในตลาดมืดต่อจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อของอะไรเดินวนไปหนึ่งรอบก็ไม่เจอของอะไรที่ดูมีค่าเป็นพิเศษแบบที่ในนิยายบางเรื่องชอบเขียนว่าพระเอกเดินผ่านตลาดแป๊บเดียวก็เจอสมบัติล้ำค่าอะไรแบบนั้น เรื่องแบบนั้นไม่มีเกิดขึ้นที่นี่หรอกสุดท้ายเขาก็มาถึงอาคารจัดประมูลของตลาดมืดถึงจะเรียกว่าอาคาร แต่จริง ๆ ก็แค่โรงเรือนที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้นเองการเข้าไปข้างในต้องจ่ายค่าผ่านประตูคนละหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณเย่ซิวจ่ายไปสองร้อยแล้วก็จับมือเสี่ยวโหรวเดินเข้าไปมือของเธอนุ่มมาก แถมยังเย็นนิด ๆ ชวนให้รู้สึกอยากจับไม่ปล่อยตอนเข้าไป ที่นั่งก็เหลือว่างอยู่ไม่มากแล้วคนอื่น ๆ แค่เหลือบมองเย่ซิวแล้วก็หันหน้ากลับไปทันทีเพราะที่นี่ ถ้าจ้องใครนานเกินไปจะถูก
“วันนี้บังเอิญมีงานประมูลจัดขึ้นพอดี หนึ่งในของประมูลสำคัญคือหุ่นเชิดโบราณตัวหนึ่งมีพลังระดับถอดจิต ถ้าคุณมีฝีมือก็ลองประมูลดูได้”เย่ซิวสะดุดใจขึ้นมาทันที พลังต่อสู้ของหุ่นเชิดระดับถอดจิตนั้นสูงมากถ้าได้มาจะช่วยยกระดับพลังโดยรวมของเขาได้มากทีเดียวเขาพยักหน้าแล้วก็ตรงเข้าสู่เขตตลาดมืดทันทีบรรยากาศภายในตลาดมืดดูไม่ต่างจากตลาดนัดทั่วไปผู้บำเพ็ญตนนั่งเรียงกันสองฝั่งข้างทาง หน้าแต่ละคนมีแผงเล็ก ๆ วางของขายหลากหลาย“แวะมาดูได้เลย ของดีราคาถูก รับประกันไม่มีโกง”“คัมภีร์ประจำตระกูลของแท้ ขอแลกกับหินธาตุไฟ”“หญิงแท้ ขอแลกแต่งงานกับร้อยศิลาวิญญาณ”……ของหลากหลายจนมองตามแทบไม่ทันเย่ซิวเดินผ่านแผงขายของทีละอันของบางอย่างเขาก็สนใจ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีประโยชน์กับเขามากนัก เลยไม่ได้ซื้ออะไรจู่ ๆ เขาก็หยุดที่แผงหนึ่งแผงนี้ไม่ได้มีของวางขายเหมือนแผงอื่น ๆ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่แทนเธอสวมเสื้อผ้าบางเบา ร่างเล็กบอบบางแต่รูปร่างกลับพอดีสัดส่วน หน้าตาจัดว่าระดับแปดเต็มสิบที่เด่นที่สุดคือดวงตาสีฟ้าราวกับไพลินแค่เห็นแวบเดียวก็ยากจะละสายตามีคนจำนวนไม่น้อยหยุดมองที่แผงนี้
เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ