Share

บทที่ 223

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ในขณะที่เธอรีบวิ่งเข้ามา หวังซงเหลือบไปเห็นเธอพอดี

เขาหัวเราะดังลั่นพร้อมตะโกนสั่งเธอว่า “คุกเข่าลงซะ!”

สีหน้าของเลขาสาวเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “ท่านประธานคะ! เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ!”

เนื่องจากเสียงเพลงภายในวิลล่าดังเกินไป หวังซงจึงไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด

เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมคุกเข่าตามที่เขาสั่ง เขาจึงยกมือขึ้นตบเข้าที่ใบหน้าของเธอหนึ่งฉาด

หญิงสาวตาแดงก่ำ เธอรู้สึกเสียใจมาก

แต่เธอก็ไม่อาจทำให้เสียเวลาได้ จึงรีบวิ่งไปปิดเครื่องเสียง

ทุกคนตกตะลึง ในขณะที่หวังซงโกรธเธอมากยิ่งขึ้น “นี่เธออยากตายหรือไง? กล้าดียังไงมาขัดจังหวะความสุขของฉัน!”

เลขาสาวรู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังต้องรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้น

เธอรีบเดินเข้าไปข้าง ๆ หวังซงแล้วกระซิบที่ข้างหูเขาว่า “ท่านประธานคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ…”

หวังซงที่เดิมทีรู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว หลังจากได้ยินคำพูดของเลขาสาว ทันใดนั้น ดวงตาของเขากลับเปล่งประกายด้วยความเยือกเย็นและดูน่ากลัวราวกับงูพิษ

“ฉันประเมินไอเด็กนั่นต่ำไปจริง ๆ!” เขามองเธอด้วยแววตาที่เยือกเย็น “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอยังจัดการมันไม่ได้ แล้วต่อไปฉันจะเชื่อใจอะไรเธอได้อีก?”

เขาส
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 224

    ภายในคลับส่วนตัวแห่งหนึ่ง“ผู้ว่าจาง แก้วนี้ผมดื่มให้กับท่านครับ! นับวันท่านยิ่งดูเด็กลงนะครับ”หวังซงยกแก้วไวน์เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ชายคนหนึ่งที่มีอายุราว ๆ สี่สิบปี เขาสวมแว่นตาและดูสุภาพผู้ชายคนนั้นคือจางต้งเหลียงจางต้งเหลียงยกแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับหวังซงและดื่มไปหนึ่งอึกก่อนจะหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “คุณก็พูดเกินไป ผมเป็นแค่รองผู้ว่า คุณควรจะระมัดระวังคำพูดด้วยนะครับ”หวังซงทำสีหน้าจริงจังแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ท่านนี่ช่างชอบพูดเล่นซะจริงนะครับ ท่านก็รู้ว่าสุขภาพของเขาแย่ลงทุกวัน ผมได้ยินมาว่าปีนี้เขาคงจะต้องเกษียณแล้วทั้งเมืองหวู่เฉิง นอกจากท่านแล้ว ยังมีใครที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับท่านอีกเหรอครับ? เพราะฉะนั้น ถ้าตอนนี้ผมจะเรียกท่านว่าผู้ว่า ก็คงไม่มีปัญหาหรอกครับ”จางต้งเหลียงเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงทันทีพร้อมพูดว่า “ต่อไปห้ามพูดแบบนี้อีกนะครับ ไม่อย่างนั้น ผมจะไม่ยกโทษให้คุณ!”แม้จะพูดแบบนั้น แต่รอยยิ้มในดวงตาของเขากลับเผยความคิดที่แท้จริงของเขาออกมาหวังซงพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “ตามที่ท่านว่าก็ได้ครับ”“อ้อ! จริงสิครับ” หวังซงทำท่าราวกับว่าเขานึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหยิบกล่องที

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 225

    ใบหน้ารูปไข่ที่มีเสน่ห์เล็กน้อยและผมดำเงางามที่นุ่มลื่นดวงตาใสราวกับน้ำพุธรรมชาติเธอคืออวี่เฟยเฟยเย่ซิวเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “บังเอิญจังเลย เจอกันอีกแล้วนะครับ”เฟยเฟยรู้สึกดีใจมากที่วันนี้เธอได้พบเย่ซิวอีกครั้ง “ว่าแต่คุณเย่กำลังจะไปที่ไหนเหรอคะ?”เย่ซิวพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “ไฟท์นี้กำลังจะไปหวู่เฉิงไม่ใช่เหรอครับ? คุณว่าผมจะไปที่ไหนล่ะ?”ใบหน้าของอวี่เฟยเฟยเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย “ฉันนี่ซื่อบื้อจริง ๆ พอเห็นคุณเย่แล้ว ฉันก็เลยรู้สึกตื่นเต้นไปหน่อยน่ะค่ะ“เย่ซิวยิ้มพร้อมกับส่ายศรีษะเบา ๆอวี่เฟยเฟยพูดต่อ “ว่าแต่คุณเย่อยากจะดื่มเครื่องดื่มอะไรดีคะ? หรืออยากทานอะไรหรือเปล่า? ฉันจะได้ไปเตรียมมาให้คุณ”“ผมขอผัดหมี่หนึ่งที่กับน้ำส้มหนึ่งแก้วก็พอครับ”“บ้านนอกจริง ๆ!”ทันทีที่เย่ซิวพูดจบ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เบ้ปากแสดงท่าทางรังเกียจออกมาอย่างเห็นได้ชัด“มานั่งถึงชั้นเฟิร์สคลาสแต่ดันสั่งแค่ผัดหมี่ ฉันว่าคุณคงเก็บเงินเดือนมาหลายเดือนเพื่อที่จะมานั่งชั้นเฟิร์สคลาสละสิ อุตส่าห์ดันทุรังมานั่งถึงชั้นนี้เพราะอยากจะมาจีบสาวใช่ไหมล่ะ?”เย่ซิวหันไปมองผู้หญิงวัยประมาณสี่สิบป

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 226

    “คุณเป็นคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ไหน?”คำถามที่ไม่คาดคิดจากเย่ซิว ทำให้คนตรงหน้าดูตกใจเล็กน้อย แต่เธอก็พยายามปกปิดมันเอาไว้แต่ถึงอย่างนั้นก็ถูกเย่ซิวจับได้อยู่ดีเดิมทีเขายังมีความสงสัยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขามั่นใจอย่างเต็มที่แล้วเพราะเย่ซิวไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับคนตรงหน้ามาก่อน เพราะถ้าเป็นคนปกติก็คงไม่กล้าทำให้ตัวเองเสื่อมเสียถึงขนาดนี้ดังนั้น ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวคือฝ่ายตรงข้ามมีเจตนาที่จะทำแบบนี้เพื่อต้องการที่จะกักตัวเขาไว้ หรืออย่างน้อยก็พยายามถ่วงเวลาเย่ซิวเอาไว้ให้มากที่สุดแม้ฝ่ายตรงข้ามอาจจะไม่รู้ว่าเย่ซิวจะไปที่ไหน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การถ่วงเวลาก็เป็นเรื่องที่ต้องทำคนที่มีเจตนาและจุดประสงค์เช่นนี้ นอกจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์แล้ว เขาเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นใครอื่นไปได้อีก หญิงสาวพูดด้วยเสียงดังขึ้นว่า “ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดอะไร แต่ตอนนี้แกอย่าคิดหนีไปไหนเด็ดขาด!”ยิ่งเธอเอะอะโวยวายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังรู้สึกกระวนกระวายมากเท่านั้นเย่ซิวไม่สนใจว่าเธอจะถูกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไหนส่งมา เพราะถึงอย่างไร เขาก็กำลังจะสะสางทุกอย่างให้เรียบร้อยอ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 227

    กัปตันเดินนำทุกคนไปที่ห้องพักด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ พวกคุณทุกคนจะต้องเก็บเป็นความลับไปตลอดชีวิต!”ใครบางคนเอ่ยถามขึ้น “กัปตันครับ รู้ไหมครับว่าเขามีภูมิหลังยังไง?”กัปตันมีสีหน้าบึ้งตึงและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม!อย่าหาว่าผมไม่เตือนพวกคุณก็แล้วกัน ถ้าเรื่องวันนี้รั่วไหลออกไปแม้แต่นิดเดียว พวกคุณทุกคนอาจจะต้องติดคุกอย่างน้อยห้าถึงหกปี!”เมื่อพูดจบ ทุกคนต่างก็มีท่าทีตกใจ พวกเขาปิดปากเงียบและไม่กล้าถามอะไรอีก……ในเขตที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างเก่าแก่ในหวู่เฉิง มีครอบครัวของหลัวเฟิงอาศัยอยู่นอกเขตที่อยู่อาศัย มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่งคอยเฝ้ารักษาความปลอดภัยให้กับที่พักของหลัวเฟิงตลอดเวลาภายในห้อง หลัวเฟิงนอนอยู่บนเก้าอี้โดยมีลูกชายของเขากำลังป้อนข้าวให้เขาช่วงนี้สุขภาพของเขาแย่ลงเรื่อย ๆ แม้แต่การเคลื่อนไหวก็เริ่มจะลำบากมากขึ้นหลังจากทานโจ๊กไปหนึ่งถ้วย หลัวเฟิงจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและเอ่ยถามลูกชายของเขาว่า “ช่วงนี้พฤติกรรมของจางต้งเหลียงแปลกไปบ้างหรือเปล่า?”เสียงของเขาแหบแห้งจนฟังดูไร้เรี่ยวแรงเขามีอายุราว ๆ หกส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 228

    คำพูดของเย่ซิวทำให้อวี้เฟยเฟยหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้ เธอตอบกลับอย่างเขินอาย“ช่วยไม่ได้ ก็ฟ้าประทานความสวยมาให้ฉันนี่คะ”เย่ซิวหัวเราะเสียงดัง หลังจากนั้น เขาก็เดินออกจากเครื่องบินไปอวี้เฟยเฟยมองไปยังแผ่นหลังของเย่ซิวด้วยแววตาคลั่งไคล้“เขานี่หล่อจริง ๆ เลย แถมมีกลิ่นกายของผู้ชายสุด ๆ”“จริงเหรอ? แกเคยได้กลิ่นของเขาหรือไงกัน?”สาวสวยคนหนึ่งที่บนใบหน้ามีจุดด่างเล็กน้อยเดินเข้ามา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความขบขันเธอเป็นเพื่อนสนิทของอวี้เฟยเฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้น อวี้เฟยเฟยก็หน้าแดงไปทั่วทั้งใบหน้า เธอหันมาหยอกล้อเพื่อนสนิทของเธอ “นี่แน่ะ! นี่แกแอบฟังที่ฉันพูดเหรอ? ดูสิว่าฉันจะจัดการกับแกยังไง”“โอ๊ย! ฉันผิดไปแล้ว อย่านะ…ปล่อยฉันไปเถอะ”สองสาวหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศดูระรื่นตามาก แต่เสียดายที่เย่ซิวไม่ได้เห็น หลังจากออกจากสนามบินมา เย่ซิวก็เรียกแท็กซี่และตรงไปยังที่พักของหลัวเฟิงเขาสืบมาแล้วว่าหลัวเฟิงอาศัยอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยใดเมื่อเย่ซิวมาถึงเขตที่อยู่อาศัยที่หลัวเฟิงอาศัยอยู่ ก็เป็นเวลาเกือบบ่ายสามโมงแล้วเขานี่โชคดีจริง ๆ เมื่อเขามาถึงก็เห็นเจ้าหน้าที่ทางการ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 229

    หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เย่ซิวก็ถอนมือออก“ท่านครับ ท่านมีอาการเลือดลมอ่อนแอ สภาพพื้นฐานเสื่อมโทรมอย่างหนัก อีกทั้งยังเป็นเพราะเมื่อตอนที่ท่านยังเป็นหนุ่ม ท่านทำงานหนักเกินไป และไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอ ดังนั้น โดยปกติแล้วท่านจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกินสามปี”หลัวเฟิงแสดงสีหน้าประหลาดใจต่อคำพูดที่ได้ยินแม้แต่หมอที่มีประสบการณ์การทำงานหลายสิบปีและมีความน่าเคารพยกย่องก็เคยบอกกับเขาแบบนั้นเช่นกันเพียงแค่จากจุดนี้ก็เห็นแล้วว่า ทักษะการแพทย์ของเย่ซิวนั้นยอดเยี่ยมมาก“ไม่เป็นไร…จะช้าจะเร็ว…ฉันก็ต้องตายอยู่ดี…”ท่าทางที่เขาแสดงออกมาช่างดูผ่อนคลายเย่ซิวยิ้มและตอบกลับไปว่า “แต่ท่านครับ ผมไม่ได้จะบอกว่ามันไม่สามารถรักษาได้”หลัวเฟิงตาเบิกโพลงทันทีเย่ซิวจับมือขวาของหลัวเฟิง จากนั้น เขาก็ใช้กำลังภายในของตัวเองแปรสภาพเป็นเส้นเล็ก ๆ หลายสิบเส้นที่ดูคล้ายกับเส้นผมแล้วส่งกระแสเข้าไปในร่างกายของหลัวเฟิงในตอนนี้ ร่างกายของหลัวเฟิงดูเหมือนกับบ่อน้ำที่แห้งเหือดกำลังภายในของเย่ซิวเหมือนกับน้ำฝนที่กำลังบำรุงบ่อน้ำโดยการเติมน้ำกลับเข้าไปใหม่หลัวเฟิงรู้สึกตื่นตัวทันที เขามองเย่ซิวอย่างไม่เชื่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 230

    เมื่อมาถึงบ้านพักของหลัวเฟิงบ้านพักของเขาค่อนข้างเรียบง่าย การตกแต่งก็ดูเรียบ ๆ ซึ่งดูไม่เข้ากับสถานะของเขา“น้องชาย เชิญนั่งก่อน”หลังจากหลัวเฟิงเชิญเย่ซิวให้นั่งลง เขาก็จัดการชงชาให้เย่ซิวด้วยตัวเองความรู้สึกที่สามารถดูแลตัวเองได้แบบนี้ มันทำให้เขา กลับมามีความสุขอีกครั้งเมื่อทั้งสองนั่งลง เย่ซิวไม่พูดจาอ้อมค้อมให้เสียเวลาและเอ่ยความต้องการของเขาออกมาทันทีหลัวเฟิงมองเขาด้วยความชื่นชม “ไม่เลวเลยนะ คุณเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ทำอะไรไม่ปิดบัง นี่แหละถึงจะเรียกว่าชายชาตรี”ยิ่งได้มองเย่ซิวมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกถูกใจมากขึ้นเท่านั้นเย่ซิวยิ้มและพูดขึ้นว่า “ท่านผู้ว่าครับ เนื่องจากร่างกายของท่านยังไม่หายดีเต็มที่ ผมจึงจะขออยู่ที่นี่อีกสักห้าวันและในทุก ๆ วัน ผมจะใช้กำลังภายในช่วยฟื้นฟูร่างกายของท่าน รักษาควบคู่ไปพร้อมกับยาที่ผมให้ไป และอีกไม่นานท่านก็จะหายดีอย่างสมบูรณ์ครับ”หลัวเฟิงรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้ง “ฉันจะไม่พูดขอบคุณให้มันมากละกัน แต่น้องชาย คุณวางใจได้เลย ฉันจะไม่ยอมให้คุณได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมแน่นอน!”เขาไม่สามารถให้การดูแลพิเศษหรือให้สิทธิพิเศษได้แต่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 231

    สายตาของสองพ่อลูกที่มองไปทางเย่ซิวราวกับกำลังมองสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวใช้เวลานานพอสมควรกว่าสติของสองพ่อลูกจะกลับมาหลัวฮุ่ยหมิ่นส่ายหัวเล็กน้อยและเผยรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า “ฉันอายุมากกว่าคุณนิดหน่อย ถ้างั้นฉันจะเรียกคุณว่าน้องชายก็แล้วกัน คืนนี้ต้องอยู่ทานข้าวด้วยกัน คุณห้ามปฏิเสธนะ”เมื่อพูดจบ เธอก็ไม่ให้เย่ซิวได้มีโอกาสตอบและปรี่ไปที่ประตูเพื่อเก็บอาหารที่ตกอยู่บนพื้น จากนั้นเธอก็ปิดประตูลงแล้วรีบไปที่ครัวหลัวเฟิงเป็นคนทำงานรวดเร็วและเด็ดขาด เนื่องจากตอนนี้เขาหายดีแล้ว เมื่อเขาได้ยินความกังวลของเย่ซิว เขาจึงลุกขึ้นทันทีและพูดว่า“คุณนั่งรอตรงนี้ก่อน ฉันจะไปที่หน่วยงานเพื่อเตือนสติให้จางต้งเหลียงไม่กล้าเล่นเล่ห์กับคุณ”เย่ซิวพยักหน้า “รบกวนด้วยนะครับ”หลัวจากหลัวเฟิงเดินจากไปได้ไม่นาน บอดี้การ์ดคนที่ออกไปร้านขายยาก็ได้ซื้อเครื่องยาสมุนไพรที่เย่ซิวต้องการกลับมาแล้วเย่ซิวนำยาสมุนไพรเหล่านั้นไปที่ห้องครัว เพื่อเตรียมที่จะสอนสูตรต้มยากับหลัวฮุ่ยหมิ่น“โอ๊ย!”หลัวฮุ่ยหมิ่นที่กำลังหั่นผักอยู่ ทันใดนั้น เธอก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเธอทิ้งมีดลงและจับนิ้วของตัวเองไว้นิ้วมือถูก

Pinakabagong kabanata

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1174

    เจ้าสำนักจ้องมองห้าพี่น้องตรงหน้า พยายามทำให้ท่าทางของตัวเองดูเป็นมิตรมากที่สุด “ไม่ต้องกลัวไปนะ พวกเราไม่ได้มาร้าย เคยได้ยินชื่อสำนักอวิ้นหลิงกันบ้างไหม…”ทั้งห้าคนพยักหน้าเบา ๆผ่านไปครึ่งชั่วโมง เหล่าผู้อาวุโสที่ออกไปตรวจสอบหมู่บ้านก็กลับมาจากที่ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ไม่พบอะไรผิดปกติ ห้าพี่น้องก็อยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้มาตลอดแต่พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่า คนทั้งหมู่บ้านถูกฝังความทรงจำบางอย่างเพิ่มเติมเข้าไปและเรื่องนี้ แน่นอนว่าเป็นฝีมือของจอมมารโลหิตนั่นเอง ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะส่วนระดับพลังของห้าร่างแยกในตอนนี้ ก็ถูกถ่ายโอนมาไว้ที่ร่างหลักของเย่ซิวชั่วคราวทั้งหมดดังนั้น พวกเขาจึงดูเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีใครจับพิรุธได้แม้แต่น้อยแนวคิดนี้ เย่ซิวเคยคิดไว้ตั้งแต่ตอนสอบเข้าเป็นศิษย์ใหม่แล้วสายเซียนกระบี่ในลัทธิ เป็นสายที่มีอิทธิพลและมีพลังมากการเผชิญหน้าตรง ๆ ไม่มีทางชนะแน่นอนเย่ซิวจึงวางแผนจะส่งร่างแยกไปแฝงตัวอยู่ฝั่งนั้นเพราะหากเจออัจฉริยะระดับนี้ แน่นอนว่าทางสำนักต้องทุ่มสุดตัวในการฝึกฝนแน่ซึ่งก็หมายความว่าเหล่าศิษย์รุ่นใหม่คนอื่น ๆ จะได้รับทรัพยากรน้อยลงอย่างมาก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1173

    เจ้าสำนักนำเหล่ายอดฝีมือมาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในหุบเขาหนึ่งในผู้อาวุโสเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าสำนัก พวกเรามาที่นี่ทำอะไรกันแน่? ตลอดทางที่มาคุณก็ไม่พูดอะไรสักคำ”เจ้าสำนักส่ายหน้า “ก่อนอื่น ไปปิดล้อมหมู่บ้านนี้ไว้ก่อน แล้วลองหาดูว่ามีเด็กชายที่มีหน้าตาเหมือนกันห้าคนไหม”แม้ทุกคนจะไม่เข้าใจนัก แต่ก็เริ่มลงมือทันทีเจ้าสำนักระงับพลังของตัวเองไว้ แล้วเดินเข้าไปในหมู่บ้านอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับปล่อยพลังจิตออกไปตรวจสอบทั่วพื้นที่ที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านธรรมดา ผู้คนภายในก็ล้วนแต่เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีอะไรผิดปกติแต่เมื่อเขาเดินมาถึงกลางหมู่บ้าน กลับพบเด็กหนุ่มที่หน้าตาธรรมดาห้าคน แต่เปล่งพลังวิญญาณออกมาอย่างชัดเจน แต่ละคนกำลังช่วยกันแบกฟืนและตักน้ำอย่างขยันขันแข็งบรรยากาศอบอุ่นและมีความสุขอย่างน่าประหลาดหัวใจของเจ้าสำนักสั่นสะเทือนเบา ๆ ก่อนที่เขาจะไปเคาะประตูบ้านหลังหนึ่งไม่นานก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาเปิดประตู “สวัสดีครับ มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”เจ้าสำนักยิ้มอย่างเป็นมิตร “พอดีผ่านมาแถวนี้ รู้สึกคอแห้งนิดหน่อย เลยอยากขอน้ำดื่มสักแก้วน่ะ”เด็กหนุ่มเกาหัวแล้วยิ้มอย่างซื่อ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1172

    “แกจะส่งมาดี ๆ หรือจะให้ฉันลงมือเอามาเอง”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร”“แกน่าจะรวยมากเลยสินะ บอกไว้เลยนะ ฉันนี่แหละที่เป็นคนขายปีศาจแมวให้แก”เย่ซิวจึงเข้าใจทันที “ก็แสดงว่านายแอบทำอะไรไว้ในตัวเสี่ยวโหรว เพื่อใช้ติดตามฉัน… ดูท่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทำแบบนี้สินะ”ดูจากท่าทางก็รู้ว่าเป็นมืออาชีพใช้วิธีเอาเสี่ยวโหรวไปขายในตลาดมืด พอมีคนซื้อก็ค่อยตามไปแล้วหาจังหวะชิงตัวกลับมาจากนั้นก็เอาไปขายใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆถือเป็นวิธีหาเงินที่รวดเร็วจริง ๆแต่น่าเสียดายที่คราวนี้ดันมาเจอของแข็งเข้าแล้ว“ใช่เลย แกน่ะเป็นคนที่อ่อนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานปราณแท้ ๆ แต่กลับพกศิลาวิญญาณมามากขนาดนั้น อย่างนี้ต้องรวยมากแน่…”พูดยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็ลอบโจมตีทันทีทั้งที่มีพลังระดับวิญญาณก่อกำเนิด แต่ยังเล่นสกปรกด้วยการลอบจู่โจม เรียกได้ว่าทั้งเลวทั้งเจ้าเล่ห์สุด ๆเปรี้ยง!ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าสีม่วงเส้นหนึ่งก็ผ่าลงมากลางหัวอย่างจังชายคนนั้นถูกฟาดจนร่างแหลกละเอียดกลายเป็นเศษธุลีแทบไม่เหลือชิ้นดีเสี่ยวโหรวที่ยืนข้าง ๆ ถึงกับหน้าซีด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1171

    “สินค้าชิ้นที่สองของงานประมูล เป็นจิตวิญญาณนักรบระดับถอดจิตขั้นต้นเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้สภาพจิตวิญญาณจึงยังไม่คงที่เราต้องใช้วิชาเฉพาะตัวเพื่อรักษาสภาพเอาไว้ชั่วคราว ต้องพาไปที่ที่มีพลังหยินหนาแน่น หรือไม่ก็ต้องมีจิตวิญญาณนักรบที่แข็งแกร่งช่วยรักษาให้ ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนศิลาวิญญาณ”พูดจบ เธอก็หยิบลูกแก้วคริสตัลออกมา ภายในมีวิญญาณของปีศาจหมาป่าตนหนึ่งถูกผนึกไว้บนร่างมันมีรูโหว่อยู่หลายแห่งมีหลายคนให้ความสนใจ ต่างเริ่มเสนอราคากันเย่ซิวเองก็ถูกจิตวิญญาณนักรบตนนั้นดึงดูดสายตาเข้าแล้วเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากให้กระบี่แม่ลูกกับเสี่ยวโหรวไป เธอก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยไม่นานราคาก็ถูกดันขึ้นไปถึงสองล้านกว่าศิลาวิญญาณถ้ามันไม่บาดเจ็บล่ะก็ ต่อให้มีหลายสิบล้านก็อาจจะยังซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำจำนวนคนที่ร่วมประมูลค่อย ๆ ลดลงเย่ซิวจึงเสนอราคาไปที่สามล้านศิลาวิญญาณในครั้งเดียว และชนะการประมูลไปอย่างราบรื่นของก็ถูกส่งมาถึงมือเย่ซิวอย่างรวดเร็วเขานำมันเก็บเข้าไปในธงหมื่นวิญญาณแล้วให้จิตวิญญาณนักรบทั้งสามที่อยู่ภายในช่วยรักษาบาดแผลให้แน่นอนว่าจอมมารโลหิตดู

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1170

    แน่นอนว่าการค้างคืนด้วยกันนั้นไม่ได้ทำให้เย่ซิวเสียสมาธิอะไรหากพูดถึงความเย้ายวน ก็ไม่มีใครจะสู้เสวี่ยเหมยได้อยู่แล้วในตลาดมืดแห่งนี้มีขายเสื้อคลุมแบบเดียวกับที่เย่ซิวสวมอยู่เขาซื้อมาเพิ่มอีกสองชุดเก็บไว้หนึ่งชุด อีกชุดให้เสี่ยวโหรวสวมไม่งั้นสายตาโลมเลียจากรอบข้างจะมากเกินไปหน่อยจากนั้นเขาก็พาเสี่ยวโหรวเดินเล่นในตลาดมืดต่อจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อของอะไรเดินวนไปหนึ่งรอบก็ไม่เจอของอะไรที่ดูมีค่าเป็นพิเศษแบบที่ในนิยายบางเรื่องชอบเขียนว่าพระเอกเดินผ่านตลาดแป๊บเดียวก็เจอสมบัติล้ำค่าอะไรแบบนั้น เรื่องแบบนั้นไม่มีเกิดขึ้นที่นี่หรอกสุดท้ายเขาก็มาถึงอาคารจัดประมูลของตลาดมืดถึงจะเรียกว่าอาคาร แต่จริง ๆ ก็แค่โรงเรือนที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้นเองการเข้าไปข้างในต้องจ่ายค่าผ่านประตูคนละหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณเย่ซิวจ่ายไปสองร้อยแล้วก็จับมือเสี่ยวโหรวเดินเข้าไปมือของเธอนุ่มมาก แถมยังเย็นนิด ๆ ชวนให้รู้สึกอยากจับไม่ปล่อยตอนเข้าไป ที่นั่งก็เหลือว่างอยู่ไม่มากแล้วคนอื่น ๆ แค่เหลือบมองเย่ซิวแล้วก็หันหน้ากลับไปทันทีเพราะที่นี่ ถ้าจ้องใครนานเกินไปจะถูก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1169

    “วันนี้บังเอิญมีงานประมูลจัดขึ้นพอดี หนึ่งในของประมูลสำคัญคือหุ่นเชิดโบราณตัวหนึ่งมีพลังระดับถอดจิต ถ้าคุณมีฝีมือก็ลองประมูลดูได้”เย่ซิวสะดุดใจขึ้นมาทันที พลังต่อสู้ของหุ่นเชิดระดับถอดจิตนั้นสูงมากถ้าได้มาจะช่วยยกระดับพลังโดยรวมของเขาได้มากทีเดียวเขาพยักหน้าแล้วก็ตรงเข้าสู่เขตตลาดมืดทันทีบรรยากาศภายในตลาดมืดดูไม่ต่างจากตลาดนัดทั่วไปผู้บำเพ็ญตนนั่งเรียงกันสองฝั่งข้างทาง หน้าแต่ละคนมีแผงเล็ก ๆ วางของขายหลากหลาย“แวะมาดูได้เลย ของดีราคาถูก รับประกันไม่มีโกง”“คัมภีร์ประจำตระกูลของแท้ ขอแลกกับหินธาตุไฟ”“หญิงแท้ ขอแลกแต่งงานกับร้อยศิลาวิญญาณ”……ของหลากหลายจนมองตามแทบไม่ทันเย่ซิวเดินผ่านแผงขายของทีละอันของบางอย่างเขาก็สนใจ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีประโยชน์กับเขามากนัก เลยไม่ได้ซื้ออะไรจู่ ๆ เขาก็หยุดที่แผงหนึ่งแผงนี้ไม่ได้มีของวางขายเหมือนแผงอื่น ๆ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่แทนเธอสวมเสื้อผ้าบางเบา ร่างเล็กบอบบางแต่รูปร่างกลับพอดีสัดส่วน หน้าตาจัดว่าระดับแปดเต็มสิบที่เด่นที่สุดคือดวงตาสีฟ้าราวกับไพลินแค่เห็นแวบเดียวก็ยากจะละสายตามีคนจำนวนไม่น้อยหยุดมองที่แผงนี้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1168

    เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1167

    “อะไรนะ? แค่วันเดียวนายก็กลั่นสำเร็จจริงเหรอ?”ทันทีที่เห็นเย่ซิว เจ้าสำนักก็รีบถามขึ้นด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังเขาเองก็ไม่ได้เพิ่มพลังตัวเองมานานแล้วเหตุผลหลักก็เพราะไม่มีโอสถที่เหมาะสมพอให้ใช้โอสถระดับปฐมญาณนั้นหาได้ยากมากในตลาดต่อให้มีก็จะปรากฏแค่ในงานประมูลเท่านั้น และราคาก็มักจะพุ่งขึ้นสูงเทียมฟ้าเสมอแม้รั่วอวิ๋นจะสามารถกลั่นยาได้แต่เธอต้องลองห้าหกครั้งถึงจะสำเร็จสักครั้ง แถมแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนมหาศาล“ผมไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังครับ” เย่ซิวยื่นโอสถเก้าเม็ดที่ถูกเจือจางแล้วให้ ก่อนถอนหายใจหนึ่งที “ไม่คิดเลยว่าฝีมือกลั่นโอสถของผมจะแย่ขนาดนี้ ทั้งหมดออกมาเป็นแค่ระดับต่ำ”เจ้าสำนักมองโอสถระดับปฐมญาณในมือแล้วถึงกับตกใจ แม้เขาจะเป็นคนสุขุมมาก แต่ก็ยังเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมาแล้วก็หัวเราะลั่นด้วยความยินดี “ดี ดีมาก ๆ ฝีมือกลั่นโอสถของนายอาจจะแซงหน้าอาจารย์ของตัวเองไปแล้วก็ได้นะ”เย่ซิวยิ้มเก้อ ๆ “ไม่น่าเป็นไปได้หรอกครับ ผมยังพัฒนาอีกมาก เอ่อ…”จู่ ๆ สีหน้าเขาก็ซีดเผือด ร่างกายโงนเงนเหมือนจะล้มเจ้าสำนักหรี่ตา “นายเป็นอะไรไป?”“ไม่เป็นไรครับ แค่เสียพลังมากเก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1166

    เย่ซิวเอ่ยรายชื่อวัตถุดิบออกมาติดต่อกันเป็นสิบ ๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายสำหรับการหลอมร่างแยกธาตุดินเขามีแผนการบางอย่างในใจ และจำเป็นต้องสร้างร่างแยกธาตุทั้งห้าสำเร็จเสียก่อนถึงจะลงมือได้ดวงตาของเจ้าสำนักเปล่งประกายวาบ “ฉันมีหินดินธาตุดั้งเดิมอยู่ก็จริง แต่ของสิ่งนี้ล้ำค่ามาก เว้นเสียแต่นายจะสามารถกลั่นโอสถระดับปฐมญาณออกมาได้”เย่ซิวพยักหน้า เขารู้จักโอสถประเภทนี้ดี มันสามารถเพิ่มพลังระดับปฐมญาณได้แต่กระบวนการกลั่นซับซ้อนมาก แถมวัตถุดิบยังหาได้ยากสุด ๆแค่ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นก็เกินสิบล้านศิลาวิญญาณแล้วผู้บำเพ็ญสายอิสระทั่วไปไม่มีทางสู้ราคาไหวแน่“แล้วเจ้าสำนักอยากได้กี่เม็ด ถึงจะยอมแลกล่ะครับ”“นายกลั่นได้จริงเหรอ?” เจ้าสำนักมองเย่ซิวด้วยสีหน้าตกตะลึง ดวงตาฉายแววไม่เชื่อโอสถชนิดนี้ไม่เหมือนกับโอสถวิญญาณหยก ระดับความยากสูงกว่ากันหลายเท่าเย่ซิวไม่ได้รีบตอบในทันที แต่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผมขอลองก่อน ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะสำเร็จเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าสำนักให้วัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นกับผมก่อนถ้ากลั่นไม่ได้ ผมยินดีจ่ายค่าต้นทุน

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status