“นายท่าน ท่านต้องการลูกศิษย์ไหมขอรับ? ดูข้าสิ ทั้งว่านอนสอนง่าย เชื่อฟัง ซื่อสัตย์เป็นที่สุด ท่านจะให้ข้าทำอะไรข้าก็ยอมทำทุกอย่างเลยขอรับ”เมื่อครู่นี้ยังดูน่าเกรงขามราวกับจอมมารอันดับหนึ่งของจักรวาลอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน กลายเป็นคนประจบสอพลอราวกับลูกหมาตัวน้อยทันทีสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นจอมมารของแท้จริง ๆ นิสัยและการกระทำลไม่เหมือนคนทั่วไปเลยสักนิดเย่ซิวส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่อยากเสียเวลาไปกับหมอนี่มากนัก “พูดมาสิว่าเจ้าธงหมื่นวิญญาณนี่มันมีประโยชน์อะไร?”“นี่มันสุดยอดสมบัติเลยนะ!” จอมมารโลหิตตื่นเต้น “พลังและระดับของเจ้าธงนี่ขึ้นอยู่กับจำนวนวิญญาณที่เก็บสะสมไว้ได้ ยิ่งเก็บได้เยอะ ก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นหากสะสมวิญญาณระดับอมตะได้ถึงหมื่นดวงล่ะก็ มันคงเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว รับรองเลยว่าแค่ปล่อยออกมาทั้งหมดทีเดียว ประเทศระดับกลางจะถูกกวาดล้างหายไปได้ในวันเดียว”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเพ้อฝันเย่ซิวรู้สึกขำเล็กน้อย “นายฝันกลางวันอยู่หรือเปล่า ตอนนี้อย่าว่าแต่ระดับอมตะเลย ขนาดระดับจินตานในโลกทั้งใบนี้ก็มีแค่ฉันคนเดียว ระดั
“โอเค งั้นเราไปกันเถอะ”เย่ซิวพาเด็กสาวออกไปจากที่นั่นเมื่อเดินออกมานอกพระราชวัง ด้านนอกก็เต็มไปด้วยความโกลาหลไปหมดมีคนเจอร่างของกษัตริย์ที่ตายแล้ว ทำให้พระราชวังทั้งหลังเต็มไปด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด บรรยากาศรอบตัวอัดแน่นไปด้วยความกดดันราวกับคลื่นความโกรธที่โหมกระหน่ำเด็กสาวมีสีหน้าซีดเซียว มือเล็ก ๆ เผลอกำชายเสื้อของเย่ซิวเอาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัวแต่แล้วเธอก็รู้สึกตัว ก่อนจะรีบปล่อยมือออกและก้มหน้าลงด้วยท่าทางเหมือนทำผิดตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอคงผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อย จนจิตใจของเธอเปราะบางถึงขั้นนี้พอเห็นแบบนี้ทำให้เขานึกถึงจวงเสี่ยวหยิงที่มีชะตากรรมไม่ต่างกันนักความโกรธแค้นที่มีต่อสำนักสหัสธารก็เพิ่มขึ้นอีกระดับบนท้องฟ้าด้านบนมีโดรนมากกว่าพันตัวบินวนอยู่เย่ซิวพาเธอหลบออกไปได้อย่างง่ายดายไม่นานนัก ค่ายกลที่ไม่มีเครื่องยนต์คอยเสริมพลังอย่างต่อเนื่องก็พังทลายลงหลังออกจากพระราชวังไป เย่ซิวก็เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตัวเองและเด็กสาวเล็กน้อยเขาพาเธอไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่สองสามชุดให้เธอ จากนั้นก็พาไปหาอะไรอร่อย ๆ กินให้อิ่มต่อมาเขาก็หาโร
“เอ๊ะ?” เด็กสาวทำหน้าอึดอัด “ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ แถมประตูบานนี้ยังทำจากเหล็กอีก ฉันถีบยังไงก็ไม่พังแน่ ๆ”เย่ซิวยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”หน้าประตูมีบอดี้การ์ดยืนเรียงรายกันเป็นสองแถว แต่ตอนนี้พวกเขากลับขยับตัวไม่ได้เลยเด็กสาวมองรอยยิ้มของเย่ซิว ไม่รู้ทำไมจู่ ๆ ก็รู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมาเธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูใหญ่ หลับตาแน่นแล้วยกขาขวาถีบออกไปสำหรับเด็กสาวธรรมดาที่ไม่เคยบำเพ็ญอะไรมาก่อน แรงถีบย่อมไม่มากอยู่แล้วแต่ทันทีที่เธอยกเท้าถีบออกไป เย่ซิวก็ดีดนิ้วเบา ๆโครม!ประตูเหล็กขนาดใหญ่ล้มลงด้วยแรงถีบของเด็กสาวทันที เธอเองก็ถึงกับยืนนิ่งค้างด้วยความตกตะลึง“ใครวะ? กล้าดียังไงถึงมาป่วนที่นี่”ชายวัยกลางคนหน้าตาน่ารังเกียจคนหนึ่งวิ่งออกมาจากข้างใน เขามองดูประตูที่ล้มลงก่อนจะหันมามองเด็กสาวหลังจากชะงักไปชั่วครู่ แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นโลภอย่างชัดเจน “อ้อ นางเด็กเลว นึกไม่ถึงว่าโตขึ้นมาจะงดงามขนาดนี้ มานี่ซะดี ๆ ฉันจะส่งเธอไปให้เจ้าสำนัก เขาต้องให้รางวัลฉันอย่างงามแน่”พูดจบเขาก็ยื่นมือหมายจะคว้าบ่าเด็กสาวไว้ปัง!เย่ซิวมองเห็นไอสีดำที่ลอยวน
ทันใดนั้นดวงตาของเชียนหลิวอี้เจี้ยนก็วาวโรจน์ด้วยประกายเย็นเยียบ “ข้างนอกมีแขกไม่ได้รับเชิญ ไป๋หลี่ ออกไปจัดการซะ”ชายที่ถูกเรียกว่าไป๋หลี่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนหมุนตัวออกไปเขาผลักประตูเดินออกมาก่อนจะพบกับเย่ซิวและเด็กสาวสองคน ไป๋หลี่หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วจับจ้องไปที่เย่ซิวทันทีเขาสัมผัสได้ว่าชายตรงหน้าคนนี้ไม่ธรรมดาเพราะเย่ซิวเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองไปแล้ว ไป๋หลี่จึงไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือศัตรูตัวฉกาจที่สุดของประเทศอ่ายเหรินในตอนนี้“แกเป็นใคร? ทำไมถึงบุกรุกเข้ามาโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้”ไป๋หลี่ยังไม่เคลื่อนไหวเพราะยังไม่รู้ถึงพลังที่แท้จริงและแรงจูงใจของชายตรงหน้าขณะนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น มีหญิงสาวคนหนึ่งในชุดกระโปรงสีดำเดินเข้ามาเธอเป็นหญิงร่างอวบ สูงเพียงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตรหน้าตาจัดได้ว่าพอประมาณ ให้คะแนนสักเจ็ดเต็มสิบ แต่กลับมีเสน่ห์แบบเย้ายวนที่เพิ่มความน่าสนใจให้เธอมากขึ้นเด็กสาวถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว ผู้หญิงคนนี้คือแม่บุญธรรมของเธอที่มักจะดุด่าว่ากล่าวและทำร้ายเธอบ่อยอยู่ครั้งเมื่อฝ่ายหญิงเห็นเด็กสาว เธอก็สำรวจดูตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยิ้มเยาะ “นึ
เหนือศีรษะของเชียนหลิวอี้เจี้ยนมีไอร้อนพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นเพราะเขาโกรธจนแทบคลั่ง!ชายที่เคยใช้ชีวิตลอยลำอยู่ในวงการอำนาจมายาวนานครึ่งชีวิต กลับต้องมาถูกทรยศถึงในบ้านตัวเองโดยคนที่เขาไว้ใจที่สุดอย่างไป๋หลี่แต่สิ่งที่ทำให้เขารับไม่ได้ที่สุดคือการที่เรื่องนี้ถูกคนนอกจับได้ มันเป็นความอับอายที่ไม่อาจทนได้สิ่งที่เขาทำหลังจากนั้นไม่ใช่การโจมตีเย่ซิว แต่เป็นการตบภรรยาคนแรกของเขาจนเสียชีวิตคาที่จากนั้นเขาก็จ้องมาที่เย่ซิวด้วยดวงตาแดงก่ำ “แกเป็นใคร!”เย่ซิวไม่ได้สนใจเขา แต่กลับดึงเด็กสาวเข้ามาใกล้แล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “หนูอยากฆ่าเขาเองไหม?”เด็กสาวพยักหน้าโดยไม่ลังเลตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอต้องเจ็บปวดและทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสมันเป็นสิ่งที่เธอเคยกล้าทำเพียงแค่ฝันถึงมันในยามหลับเท่านั้น“ดี งั้นรอเดี๋ยวนะ”เชียนหลิวอี้เจี้ยนได้ยินคำพูดของเย่ซิวก็หัวเราะเสียงดัง “ไอ้หนุ่ม แกคงบ้าไปแล้วถึงได้พูดจาเพ้อเจ้อแบบนี้ออกมา รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันคือ…”“หนวกหู ใครใช้ให้แกพูด!”เมื่อครู่เย่ซิวยังคุยกับเด็กสาวอยู่ แต่ในวินาทีถัดมาเขาก็พุ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเชียนหลิวอี้เจี้ย
ช่วงนี้เขากำลังขาดเงินพอดี พอได้เงินก้อนนี้มาก็ช่วยบรรเทาสถานการณ์ทางการเงินไปได้มาก“ยังมีเรื่องอื่นอีกไหม?” เย่ซิวมองดูเชียนหลิวอี้เจี้ยนด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายก็ดูน่าพอใจขึ้นมาบ้าง“ยังมีอีกครับ…” เชียนหลิวอี้เจี้ยนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลองถามอย่างระมัดระวัง “ผมยังมีผู้หญิงอีกกว่าร้อยคน คุณสนใจไหม?”ใบหน้าเย่ฉายแววซิวเยือกเย็นทันที “ใครจะอยากได้ของเหลือใช้พวกนั้นกัน มีทรัพย์สินอย่างอื่นอีกไหม!”“ไม่มีแล้วครับ” เขาส่ายหน้า “เงินของผมแทบทั้งหมดใช้ไปกับการบำเพ็ญไปหมดแล้ว”เย่ซิวหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อย “จัดการได้เลย”เชียนหลิวอี้เจี้ยนทั้งโกรธทั้งตกใจ “แกผิดสัญญานี่!”“ฉันเคยบอกเหรอว่าจะปล่อยแกไป?”เด็กหญิงตัวน้อยจับมีดไว้แน่นและพุ่งเข้าหาเขา ทว่าทุกครั้งที่คิดจะลงมือแทงกลับหยุดชะงักไปไม่ใช่เพราะใจอ่อน แต่เพราะเธอกลัวสุดท้ายเธอก็ยื่นมีดให้เย่ซิวให้เขาช่วยลงมือแทนเย่ซิวพยักหน้า จากนั้นก็ฟาดฝ่ามือบดขยี้กะโหลกของอีกฝ่ายจนแหลกเขาใช้พลังควบคุมธงหมื่นวิญญาณทันที จากนั้นเงาร่างจาง ๆ สายหนึ่งก็ถูกดึงออกจากร่างของชายคนนั้น แล้วเข้าสู่ธงหมื่นวิญญาณทันทีแน่นอนว่ามีเพีย
“นายท่าน เกิดอะไรขึ้นคะ?” เฟยอวี่มองเย่ซิวด้วยความสับสนงุนงง“ถึงเธอจะซ่อนตัวได้ดีแค่ไหน แต่ในสายตาฉัน เธอก็เหมือนหิ่งห้อยในความมืดอยู่ดี มันเด่นชัดมากเลยล่ะ”เฟยอวี่ยิ่งทำหน้ามึนกว่าเดิม “คุณพูดเรื่องอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ นะ”“ยังจะทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกเหรอ? ยายจิ้งจอกน้อย”ทันทีที่คำพูดนั้นสิ้นสุดลง ใบหน้าของเฟยอวี่เปลี่ยนไปทันที หางฟูฟ่องขนาดใหญ่สี่หางก็พุ่งออกมาจากสะโพกของเธอ ก่อนจะฟาดเข้าหาเย่ซิวอย่างรุนแรงเย่ซิวใช้มือขวากดเบา ๆ บนโซฟา จากนั้นร่างของเขาก็ลอยถอยหลังหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดายพลังปีศาจอันน่าสะพรึงกลัวกระจายไปทั่วห้อง มือของเฟยอวี่งอกกรงเล็บที่คมกริบออกมา ใบหน้าของเธอเยือกเย็นดั่งน้ำแข็ง “แกรู้ได้ยังไง?”เย่ซิวยิ้มบาง “ง่ายมาก กลิ่นปีศาจของเธอมันแรงเกินไป‘ฉันอยากรู้ว่าก่อนหน้านี้เธอปกปิดฉันได้ยังไง?ถ้าไม่ใช่ว่าเธอมีของวิเศษอะไรที่สามารถซ่อนพลังได้ งั้นเธอก็คงมีสองบุคลิก เมื่อก่อนเธอเป็นเฟยอวี่ แต่ตอนนี้เธอเป็นอีกคนหนึ่ง”หญิงสาวไม่ตอบอะไร แต่สีหน้าของเธอทำให้รู้ว่าสิ่งที่เย่ซิวคาดเดาไปแบบหลังน่าจะถูกแล้ว“พวกปีศาจจิ้งจอกมักจะเป็นต้นตอของความวุ่นวา
เย่ซิวเผยรอยยิ้มจริงใจออกมา วัยรุ่นนี่ช่างดีจริง ๆ เลยนะแต่เขาเองกลับไม่รู้ตัวเลยว่าปีนี้เขาเพิ่งจะอายุยี่สิบเท่านั้นแต่สิ่งที่เขาได้ประสบพบเจอมานั้นมากมายเกินกว่าชีวิตของคนส่วนใหญ่ทั้งชีวิตหลังจากพวกเธอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้ว เย่ซิวก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ของทั้งสามคน ก่อนจะพากันออกไปเดินเล่นขณะเดียวกัน หุ่นเชิดถูกนำตัวไปยังพื้นที่ห่างไกลจากใจกลางเมืองที่นั่นเต็มไปด้วยทะเลทราย บรรยากาศรกร้างและวังเวงในระยะหลายร้อยลี้ออกไปมีฐานลับแห่งหนึ่งที่นี่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาในฐานลับนั้นมีชายสิบกว่าคนที่ดูเคร่งขรึมนั่งจ้องหน้าจออยู่ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอคือรถที่หุ่นเชิดโดยสารอยู่ชายคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น “ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม?!”เจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างพยักหน้ารับกันถ้วนหน้า“ล็อกเป้าหมายเรียบร้อยแล้วครับ”“ขีปนาวุธหมายเลขหนึ่ง สอง และห้า พร้อมยิงแล้วครับ”แววตาของหัวหน้าฉายความอำมหิต ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน “ครั้งนี้ฉันจะทำให้มันแหลกเป็นผุยผงให้ได้!”นี่เป็นคำสั่งที่เขาเพิ่งได้รับมาเมื่อสองชั่วโมงก่อนบ
“รู้…แล้ว...”เฉินเยียนจือตอบเสียงแผ่วเบาอย่างที่ใคร ๆ ว่ากันไว้ คนเลวต้องเจอกับคนที่เลวยิ่งกว่า คนแบบเธอ มีแต่ต้องเจอคนที่โหดเหี้ยมกว่าเท่านั้น ถึงจะถูกกำราบอยู่หมัด“ในเมื่อเข้าใจแล้ว ลองเรียกคำว่านายท่านให้ฉันฟังหน่อยสิ”เย่ซิวไม่ได้หลงเชื่อว่าเธอจะยอมสยบง่าย ๆ สิ่งที่เธอแสดงออกตอนนี้มีแต่จะเป็นการยอมจำนนแบบชั่วคราวเท่านั้นและก็จริงตามคาด สีหน้าของเฉินเยียนจือพลันแข็งกระด้างขึ้นมาอีกครั้ง“หืม ไม่อยากพูดงั้นเหรอ” เย่ซิวแกล้งทำหน้าบึ้ง “แสดงว่าบทเรียนเมื่อกี้ยังเบาเกินไปสินะ”เฉินเยียนจือถึงกับสั่นไปทั้งตัว เรื่องเมื่อกี้ยังคงเป็นฝันร้ายที่เธอไม่อยากเผชิญซ้ำอีก“นาย…ท่าน...”สองคำนั้นหลุดออกจากปากเธอด้วยความรู้สึกอัปยศเกินบรรยายเย่ซิวยิ้ม แล้วบิดแหวนผนึกของจากนิ้วของเธอออกมา “เปิดมันซะ”เฉินเยียนจือรู้ว่าขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำตามอย่างว่าง่ายเย่ซิวใช้พลังจิตสำรวจภายในทันที ด้านในมีทั้งศิลาวิญญาณจำนวนมาก สมุนไพรหายาก และโอสถล้ำค่า รวมมูลค่าแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าสิบล้านศิลาวิญญาณเย่ซิวเก็บทั้งหมดเอาไว้โดยไม่ลังเลเฉินเยียนจือเจ็บใจจนแทบร้องไห้ทรัพยากรจำนวนมหาศา
“ฉัวะ!!”สายฝนสีเลือดโปรยปรายลงมาทั่วฟ้าเย่ซิวฉีกสัตว์วิญญาณของเฉินเยียนจือเป็นชิ้น ๆ อย่างไม่ลังเลจากนั้นเตะเข้าหน้าอกเธอเข้าเต็มรักร่างของเธอลอยละลิ่วไปกระแทกกับเนินเขาอย่างรุนแรงเสียงกระดูกหักดังทั่วร่าง ไม่รู้ว่าหักไปกี่จุดเฉินเยียนจือมองเย่ซิวที่ลอยตัวอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น“ไอ้สารเลว แกตายแน่ แกต้องตาย ฉันไม่มีวันปล่อยแกไปเด็ดขาด!!!”ถึงจะเจ็บปางตาย เธอก็ยังไม่หยุดอาฆาต ใจคิดแต่จะแก้แค้นให้ได้ในภายหลัง“เพียะ ๆ ๆ”เย่ซิวไม่ใช่คนที่จะใจอ่อนให้กับคนอย่างเธอเขาตบซ้ายทีขวาที เพียงพริบตาก็ฟาดไปกว่าร้อยครั้งแรงฝ่ามือแต่ละครั้ง ทำให้ใบหน้าที่เคยสวยงามของเธอบวมช้ำจนดูไม่ได้ความแค้นในใจของเธอระเบิดออกจนแทบปิดไม่อยู่ ดวงตาแดงก่ำราวกับจะสังหารได้ทุกสิ่งเธอไม่เคยถูกปฏิบัติแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่เด็กก็เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพ่อแม่และแฟนหนุ่มถูกตามใจทุกอย่างราวกับแตะต้องไม่ได้ แต่วันนี้กลับโดนกระทืบจนแทบจำหน้าตัวเองไม่ได้เย่ซิวเห็นสภาพเธอก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ยังไม่ยอมแพ้ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องปรานีอีกต่อไปเขาควักโอสถสองเม็ดออกมา แล้วยัดใส่ปาก
เจ้าสำนักจ้องมองห้าพี่น้องตรงหน้า พยายามทำให้ท่าทางของตัวเองดูเป็นมิตรมากที่สุด “ไม่ต้องกลัวไปนะ พวกเราไม่ได้มาร้าย เคยได้ยินชื่อสำนักอวิ้นหลิงกันบ้างไหม…”ทั้งห้าคนพยักหน้าเบา ๆผ่านไปครึ่งชั่วโมง เหล่าผู้อาวุโสที่ออกไปตรวจสอบหมู่บ้านก็กลับมาจากที่ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ไม่พบอะไรผิดปกติ ห้าพี่น้องก็อยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้มาตลอดแต่พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่า คนทั้งหมู่บ้านถูกฝังความทรงจำบางอย่างเพิ่มเติมเข้าไปและเรื่องนี้ แน่นอนว่าเป็นฝีมือของจอมมารโลหิตนั่นเอง ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะส่วนระดับพลังของห้าร่างแยกในตอนนี้ ก็ถูกถ่ายโอนมาไว้ที่ร่างหลักของเย่ซิวชั่วคราวทั้งหมดดังนั้น พวกเขาจึงดูเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีใครจับพิรุธได้แม้แต่น้อยแนวคิดนี้ เย่ซิวเคยคิดไว้ตั้งแต่ตอนสอบเข้าเป็นศิษย์ใหม่แล้วสายเซียนกระบี่ในลัทธิ เป็นสายที่มีอิทธิพลและมีพลังมากการเผชิญหน้าตรง ๆ ไม่มีทางชนะแน่นอนเย่ซิวจึงวางแผนจะส่งร่างแยกไปแฝงตัวอยู่ฝั่งนั้นเพราะหากเจออัจฉริยะระดับนี้ แน่นอนว่าทางสำนักต้องทุ่มสุดตัวในการฝึกฝนแน่ซึ่งก็หมายความว่าเหล่าศิษย์รุ่นใหม่คนอื่น ๆ จะได้รับทรัพยากรน้อยลงอย่างมาก
เจ้าสำนักนำเหล่ายอดฝีมือมาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในหุบเขาหนึ่งในผู้อาวุโสเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าสำนัก พวกเรามาที่นี่ทำอะไรกันแน่? ตลอดทางที่มาคุณก็ไม่พูดอะไรสักคำ”เจ้าสำนักส่ายหน้า “ก่อนอื่น ไปปิดล้อมหมู่บ้านนี้ไว้ก่อน แล้วลองหาดูว่ามีเด็กชายที่มีหน้าตาเหมือนกันห้าคนไหม”แม้ทุกคนจะไม่เข้าใจนัก แต่ก็เริ่มลงมือทันทีเจ้าสำนักระงับพลังของตัวเองไว้ แล้วเดินเข้าไปในหมู่บ้านอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับปล่อยพลังจิตออกไปตรวจสอบทั่วพื้นที่ที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านธรรมดา ผู้คนภายในก็ล้วนแต่เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีอะไรผิดปกติแต่เมื่อเขาเดินมาถึงกลางหมู่บ้าน กลับพบเด็กหนุ่มที่หน้าตาธรรมดาห้าคน แต่เปล่งพลังวิญญาณออกมาอย่างชัดเจน แต่ละคนกำลังช่วยกันแบกฟืนและตักน้ำอย่างขยันขันแข็งบรรยากาศอบอุ่นและมีความสุขอย่างน่าประหลาดหัวใจของเจ้าสำนักสั่นสะเทือนเบา ๆ ก่อนที่เขาจะไปเคาะประตูบ้านหลังหนึ่งไม่นานก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาเปิดประตู “สวัสดีครับ มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”เจ้าสำนักยิ้มอย่างเป็นมิตร “พอดีผ่านมาแถวนี้ รู้สึกคอแห้งนิดหน่อย เลยอยากขอน้ำดื่มสักแก้วน่ะ”เด็กหนุ่มเกาหัวแล้วยิ้มอย่างซื่อ
“แกจะส่งมาดี ๆ หรือจะให้ฉันลงมือเอามาเอง”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร”“แกน่าจะรวยมากเลยสินะ บอกไว้เลยนะ ฉันนี่แหละที่เป็นคนขายปีศาจแมวให้แก”เย่ซิวจึงเข้าใจทันที “ก็แสดงว่านายแอบทำอะไรไว้ในตัวเสี่ยวโหรว เพื่อใช้ติดตามฉัน… ดูท่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทำแบบนี้สินะ”ดูจากท่าทางก็รู้ว่าเป็นมืออาชีพใช้วิธีเอาเสี่ยวโหรวไปขายในตลาดมืด พอมีคนซื้อก็ค่อยตามไปแล้วหาจังหวะชิงตัวกลับมาจากนั้นก็เอาไปขายใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆถือเป็นวิธีหาเงินที่รวดเร็วจริง ๆแต่น่าเสียดายที่คราวนี้ดันมาเจอของแข็งเข้าแล้ว“ใช่เลย แกน่ะเป็นคนที่อ่อนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานปราณแท้ ๆ แต่กลับพกศิลาวิญญาณมามากขนาดนั้น อย่างนี้ต้องรวยมากแน่…”พูดยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็ลอบโจมตีทันทีทั้งที่มีพลังระดับวิญญาณก่อกำเนิด แต่ยังเล่นสกปรกด้วยการลอบจู่โจม เรียกได้ว่าทั้งเลวทั้งเจ้าเล่ห์สุด ๆเปรี้ยง!ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าสีม่วงเส้นหนึ่งก็ผ่าลงมากลางหัวอย่างจังชายคนนั้นถูกฟาดจนร่างแหลกละเอียดกลายเป็นเศษธุลีแทบไม่เหลือชิ้นดีเสี่ยวโหรวที่ยืนข้าง ๆ ถึงกับหน้าซีด
“สินค้าชิ้นที่สองของงานประมูล เป็นจิตวิญญาณนักรบระดับถอดจิตขั้นต้นเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้สภาพจิตวิญญาณจึงยังไม่คงที่เราต้องใช้วิชาเฉพาะตัวเพื่อรักษาสภาพเอาไว้ชั่วคราว ต้องพาไปที่ที่มีพลังหยินหนาแน่น หรือไม่ก็ต้องมีจิตวิญญาณนักรบที่แข็งแกร่งช่วยรักษาให้ ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนศิลาวิญญาณ”พูดจบ เธอก็หยิบลูกแก้วคริสตัลออกมา ภายในมีวิญญาณของปีศาจหมาป่าตนหนึ่งถูกผนึกไว้บนร่างมันมีรูโหว่อยู่หลายแห่งมีหลายคนให้ความสนใจ ต่างเริ่มเสนอราคากันเย่ซิวเองก็ถูกจิตวิญญาณนักรบตนนั้นดึงดูดสายตาเข้าแล้วเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากให้กระบี่แม่ลูกกับเสี่ยวโหรวไป เธอก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยไม่นานราคาก็ถูกดันขึ้นไปถึงสองล้านกว่าศิลาวิญญาณถ้ามันไม่บาดเจ็บล่ะก็ ต่อให้มีหลายสิบล้านก็อาจจะยังซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำจำนวนคนที่ร่วมประมูลค่อย ๆ ลดลงเย่ซิวจึงเสนอราคาไปที่สามล้านศิลาวิญญาณในครั้งเดียว และชนะการประมูลไปอย่างราบรื่นของก็ถูกส่งมาถึงมือเย่ซิวอย่างรวดเร็วเขานำมันเก็บเข้าไปในธงหมื่นวิญญาณแล้วให้จิตวิญญาณนักรบทั้งสามที่อยู่ภายในช่วยรักษาบาดแผลให้แน่นอนว่าจอมมารโลหิตดู
แน่นอนว่าการค้างคืนด้วยกันนั้นไม่ได้ทำให้เย่ซิวเสียสมาธิอะไรหากพูดถึงความเย้ายวน ก็ไม่มีใครจะสู้เสวี่ยเหมยได้อยู่แล้วในตลาดมืดแห่งนี้มีขายเสื้อคลุมแบบเดียวกับที่เย่ซิวสวมอยู่เขาซื้อมาเพิ่มอีกสองชุดเก็บไว้หนึ่งชุด อีกชุดให้เสี่ยวโหรวสวมไม่งั้นสายตาโลมเลียจากรอบข้างจะมากเกินไปหน่อยจากนั้นเขาก็พาเสี่ยวโหรวเดินเล่นในตลาดมืดต่อจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อของอะไรเดินวนไปหนึ่งรอบก็ไม่เจอของอะไรที่ดูมีค่าเป็นพิเศษแบบที่ในนิยายบางเรื่องชอบเขียนว่าพระเอกเดินผ่านตลาดแป๊บเดียวก็เจอสมบัติล้ำค่าอะไรแบบนั้น เรื่องแบบนั้นไม่มีเกิดขึ้นที่นี่หรอกสุดท้ายเขาก็มาถึงอาคารจัดประมูลของตลาดมืดถึงจะเรียกว่าอาคาร แต่จริง ๆ ก็แค่โรงเรือนที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้นเองการเข้าไปข้างในต้องจ่ายค่าผ่านประตูคนละหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณเย่ซิวจ่ายไปสองร้อยแล้วก็จับมือเสี่ยวโหรวเดินเข้าไปมือของเธอนุ่มมาก แถมยังเย็นนิด ๆ ชวนให้รู้สึกอยากจับไม่ปล่อยตอนเข้าไป ที่นั่งก็เหลือว่างอยู่ไม่มากแล้วคนอื่น ๆ แค่เหลือบมองเย่ซิวแล้วก็หันหน้ากลับไปทันทีเพราะที่นี่ ถ้าจ้องใครนานเกินไปจะถูก
“วันนี้บังเอิญมีงานประมูลจัดขึ้นพอดี หนึ่งในของประมูลสำคัญคือหุ่นเชิดโบราณตัวหนึ่งมีพลังระดับถอดจิต ถ้าคุณมีฝีมือก็ลองประมูลดูได้”เย่ซิวสะดุดใจขึ้นมาทันที พลังต่อสู้ของหุ่นเชิดระดับถอดจิตนั้นสูงมากถ้าได้มาจะช่วยยกระดับพลังโดยรวมของเขาได้มากทีเดียวเขาพยักหน้าแล้วก็ตรงเข้าสู่เขตตลาดมืดทันทีบรรยากาศภายในตลาดมืดดูไม่ต่างจากตลาดนัดทั่วไปผู้บำเพ็ญตนนั่งเรียงกันสองฝั่งข้างทาง หน้าแต่ละคนมีแผงเล็ก ๆ วางของขายหลากหลาย“แวะมาดูได้เลย ของดีราคาถูก รับประกันไม่มีโกง”“คัมภีร์ประจำตระกูลของแท้ ขอแลกกับหินธาตุไฟ”“หญิงแท้ ขอแลกแต่งงานกับร้อยศิลาวิญญาณ”……ของหลากหลายจนมองตามแทบไม่ทันเย่ซิวเดินผ่านแผงขายของทีละอันของบางอย่างเขาก็สนใจ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีประโยชน์กับเขามากนัก เลยไม่ได้ซื้ออะไรจู่ ๆ เขาก็หยุดที่แผงหนึ่งแผงนี้ไม่ได้มีของวางขายเหมือนแผงอื่น ๆ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่แทนเธอสวมเสื้อผ้าบางเบา ร่างเล็กบอบบางแต่รูปร่างกลับพอดีสัดส่วน หน้าตาจัดว่าระดับแปดเต็มสิบที่เด่นที่สุดคือดวงตาสีฟ้าราวกับไพลินแค่เห็นแวบเดียวก็ยากจะละสายตามีคนจำนวนไม่น้อยหยุดมองที่แผงนี้
เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ