เอิงเอย...
"เอยขอโทษด้วยนะคะแม่ที่เอยไม่สามารถทำตามความฝันของแม่ได้ เอยคงไม่ได้เรียนต่อแล้ว แม่อย่าโกรธเอยเลยนะคะ" ฉันนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนอนมองรูปแม่ที่เหลือเพียงใบเดียวอย่างรู้สึกผิด แต่ในขณะที่ฉันกำลังท้อแท้สิ้นหวังที่จะได้เรียนต่อก็เหมือนกับมีพระมาโปรดเหมือนสวรรค์เห็นใจฉัน ในวันต่อมาขณะที่ฉันกำลังกวาดใบไม้รดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านคุณครูที่ปรึกษาของฉันได้มาแจ้งข่าวดีกับฉันถึงที่บ้านว่าทางโรงเรียนได้ส่งเอกสารการเรียนของฉันตั้งแต่มอหนึ่งจนถึงมอหกไปให้กับทางมหาลัยในกรุงเทพหลายแห่งเผื่อว่าจะมีสักแห่งที่รับฉันเป็นนักเรียนทุนจนกระทั่งทางโรงเรียนได้รับหนังสือตอบรับจากมหาลัยซึ่งเป็นมหาลัยอันดับหนึ่งของประเทศว่าฉันเป็นผู้โชคดีเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับทุนเรียนฟรีจนกว่าจะจบหลักสูตร ตอนนั้นฉันทั้งดีใจทั้งสับสนเพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปเรียนไหมเนื่องจากว่าน้าพรพรรณได้พาฉันไปหาผู้จัดการโรงงานและเขาก็รับฉันเข้าทำงานเรียบร้อยแล้วด้วย ฉันจะทำยังไงดีจะเลือกอนาคตของตัวเองหรือของน้องสาว
"แกไปบอกกับนังครูจอมจุ้นของแกเลยนะนังเอยว่าแกขอสละสิทธิ์ที่จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ยอมให้แกไปเรียนต่อเด็ดขาดแกต้องอยู่ที่นี่ทำงานที่โรงงานเข้าใจมั้ย!!!" น้าพรพรรณพอรู้ว่าฉันได้ทุนเรียนต่อที่กรุงเทพก็เกิดความโมโหไม่พอใจบอกให้ฉันไปสละสิทธิ์
"ไม่ต้องสละสิทธิ์เอยไปเรียนต่อเถอะลูก"
"พ่อ" ฉันไม่ได้หูฝาดใช่ไหมที่ได้ยินพ่อพูดแบบนี้ พ่ออนุญาติให้ฉันไปเรียนต่อจริงๆใช่ไหมฉันไม่ได้หูฝาดไม่ได้ฝันไปใช่ไหม
"พี่องอาจ!!" น้าพรพรรณเหมือนจะโกรธพ่อมากที่พ่อพูดแบบนั้น
"พ่อเป็นพ่อแกพ่ออนุญาตให้แกไปเรียนต่อได้ แกเตรียมตัวเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเข้ากรุงเทพได้เลย"
"ขอบคุณนะคะพ่อ" ฉันก้มกราบพ่อด้วยความรู้สึกขอบคุณ ฉันไม่รู้ว่าทำไมพ่อถึงกล้าขัดใจน้าพรพรรณแต่ฉันดีใจที่พ่อยอมให้ฉันไปเรียนต่อ
สองอาทิตย์ต่อมา...
สถานีขนส่งจังหวัดน่าน
"นี่เงิน พ่อมีให้เอยได้เท่านี้เก็บเอาไว้ใช้นะลูก" พ่อยื่นเงินจำนวนนึงมาให้ฉันฉันเงยหน้ามองพ่อก่อนจะยื่นมือออกไปรับแล้วยกมือไหว้พ่ออย่างขอบคุณ ถ้าฉันมีเงินฉันคงไม่รบกวนพ่อแต่นี่ฉันไม่มีถ้าพ่อไม่ให้ฉันก็คงจะมีเงินติดตัวไปกรุงเทพแค่ไม่กี่ร้อย ฉันยังคิดอยู่ว่าถ้าฉันไปถึงที่โน่นแล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนหอพักมหาลัยก็คงจะแพงฉันคงไม่มีปัญญาจ่ายฉันคิดว่าไปหาดาบหน้าละกันอย่างมากก็นอนแถวสถานีขนส่งไปก่อนจนกว่าจะหางานทำหาห้องเช่าได้
"เงินพ่อมีไม่มากนี่พ่อก็ไปขอเบิกล่วงหน้ามาจากเถ้าแก่โรงงาน ยังไงเอยก็ใช้อย่างประหยัดนะลูก"
"เอยขอบคุณพ่อมากๆเลยนะคะที่ยอมให้เอยได้เรียนต่อ"
"พ่อรู้ตัวว่าพ่อเป็นพ่อที่แย่เป็นพ่อที่ไม่ดีไม่เคยปกป้องเอยเลย พ่อรู้ว่าเอยลำบากมาตลอดตั้งแต่แม่เสียไป พ่อผิดต่อแม่ของเอยมามากแล้ว พ่อไม่อยากผิดต่อเอยไปมากกว่านี้ พ่อขอโทษนะลูก" ฉันร้องไห้ก่อนจะเข้าไปกอดพ่อ นานแค่ไหนกันนะที่ฉันไม่ได้กอดพ่อแบบนี้ น่าจะตั้งแต่แม่เสียไปพ่อไม่เคยกอดฉันเลย ก่อนที่ฉันจะขึ้นรถฉันถามพ่อถึงสิ่งที่ยังค้างคาใจ
"ทำไมพ่อถึงยอมให้เอยเรียนต่อคะ"
"ครูของเอยไปหาพ่อที่โรงงานไปขอร้องพ่อบอกว่าให้เห็นแก่อนาคตของเอย ครูบอกกับพ่อว่าแม่ของเอยเคยไปหาคุณครูที่โรงเรียนไปขอร้องครูว่าถ้าหากว่าแม่ของเอยไม่อยู่แล้วขอให้ครูช่วยดูแลเอยเรื่องการเรียนแม่ของเอยอยากให้เอยได้เรียนสูงๆได้รับปริญญาแม้ว่าแม่จะไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จของเอยก็ตาม" ฉันถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวมันอัดอั้นตันใจมันบีบหัวใจของฉัน แม่ห่วงฉันมากจริงๆท่านรู้ว่าท่านจะไม่ได้อยู่จนถึงวันนั้นท่านก็เลยไปขอร้องคุณครู
"เอยจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังค่ะเอยสัญญา" ฉันพูดพร้อมกับมองไปบนท้องฟ้าขณะนั่งอยู่บนรถทัวร์เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ
ตอนนี้ฉันอยู่ที่มหาลัยK ซึ่งเป็นมหาลัยชื่อดังและมีคุณภาพมากที่สุดและมีค่าเทอมแพงที่สุดในประเทศ เท่าที่ฉันเคยถามคุณครูท่านบอกว่าค่าเทอมแต่ละเทอมของที่นี่ก็หลายแสนบาทอยู่แต่เจ้าของท่านก็ใจดีให้ทุนฉันเรียนฟรีจนกว่าจะจบหลักสูตร และวันนี้คือวันที่ฉันต้องมารายงานตัวแต่ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องไปรายงานตัวที่ไหนตรงไหนตึกไหนเพราะฉันเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ฉันเดินเข้ามาเรื่อยๆพร้อมกระเป๋าเดินทางสีซีดใบไม่เล็กไม่ใหญ่แต่ก็หนักเอาเรื่องเพราะทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ข้างในนั้นไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ฉันเดินจนเมื่อยขาปวดแขนปวดไหล่ก็เหมือนจะยังไม่ถึงไหนเพราะมหาลัยแห่งนี้มันกว้างมาก มองไปทางไหนก็เห็นแต่ตึกมากมายหลายสิบตึกซึ่งแต่ละตึกก็จะมีชื่อคณะติดอยู่ส่วนฉันเลือกเรียนคณะบริหารธุรกิจ ขณะที่ฉันกำลังมองหาคนที่พอจะบอกทางฉันได้พี่รปภของมหาลัยก็ปั่นจักรยานผ่านมาพอดีฉันก็เลยรีบวิ่งเข้าไปถามว่านักศึกษาใหม่รายงานตัวที่ไหน พี่รปภบอกให้ฉันไปติดต่อที่ตึกอำนวยการซึ่งพี่เขาก็บอกทางฉันเรียบร้อยว่าต้องเลี้ยวไปทางไหนตึกสีอะไรฉันขอบคุณพี่รปภจากนั้นฉันก็รีบเดินหาตึกอำนวยการต่อจนกระทั่งเจอ ฉันยืนพักหายใจอยู่หน้าตึกด้วยอาการเหนื่อยหอบเพราะเดินมาไกลพอสมควร ซึ่งพอมองเข้าไปในตึกก็เห็นนักศึกษาเดินไปเดินมาหลายสิบคนฉันเดาเอาว่าคงจะมารายงานตัวเหมือนกับฉันแต่คงจะมีแค่ฉันคนเดียวที่เป็นนักเรียนทุน
"ขอโทษนะคือเรามารายงานตัวนักศึกษาใหม่น่ะไม่รู้ว่าต้องไปตรงไหนเหรอ" ฉันเดินเข้าไปถามนักศึกษาหญิงกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินออกมา แต่ทำไมทุกคนถึงมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ พร้อมกับก้าวถอยหลังไปเหมือนฉันเป็นตัวน่ารังเกียจล่ะ คือทุกคนมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าบางคนก็มองด้วยสายตาเหยียดๆฉันก้มมองตัวเองที่อยู่ในชุดที่ใส่มาจากบ้านเป็นเสื้อเชิ๊ตสีขาวที่ตอนนี้ไม่ขาวแล้วเพราะผ่านการใช้งานมานานหลายปีส่วนกางเกงที่ฉันใส่ก็เป็นกางเกงผ้าขายาวสีดำส่วนรองเท้าที่ใส่เป็นรองเท้าผ้าใบสีขาวซีดไม่ต่างจากเสื้อที่ใส่ซึ่งก็ใช้มาหลายปีแล้วเหมือนกัน คือชุดนี้เป็นชุดที่สุภาพที่สุดเท่าที่ฉันมีตอนนี้ เพราะก่อนที่ฉันจะมารายงานตัวฉันอ่านกฎระเบียบของทางมหาลัยที่ส่งไปพร้อมจดหมายตอบรับ บอกว่าถ้ายังไม่มีชุดนักศึกษาก็ให้สวมชุดที่สุภาพมารายงานตัวได้ซึ่งฉันก็คิดว่าชุดที่ฉันใส่อยู่ตอนนี้ก็สุภาพที่สุดแล้วในสายตาของฉันแต่ทำไมทุกคนถึงมองฉันด้วยสายตาแบบนี้ แต่พอฉันมองไปที่เสื้อผ้าของแต่ละคนฉันก็ไม่แปลกใจแล้วเพราะเสื้อผ้าที่แต่ละคนสวมใส่มันทั้งสวยและดูดีและมันคงจะมีราคาแพงมากๆ
"นี่เธอมารายงานตัวนักศึกษาหรือมาสมัครเป็นแม่บ้านกันแน่ยะ" หนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
"เรามารายงานตัวจริงๆนี่ไงใบนัดรายงานตัวของเรา" ฉันยื่นใบรายงานตัวให้กับทุกคนดูแต่ไม่มีใครรับไปดูทุกคนมองกระดาษในมือฉันเหมือนมันคือเชื้อโรคแต่ก็ยังมีเหล่มองดูตัวหนังสือที่ปรากฏอยู่บนจดหมาย
"แกๆยัยนี่มารายงานตัวนักศึกษาใหม่จริงๆเป็นนักเรียนทุนด้วยอ่ะ"
"นักเรียนทุน?? พวกไม่มีเงินพวกจนๆแต่สะเออะอยากมาเรียนมหาลัยดีๆแพงๆ"
"ว๊ายอยู่คณะบริหารด้วยแก"
"ห๊ะ งั้นพวกเราก็ต้องเรียนคณะเดียวกับยัยนี่อ่ะดิ อี๋รับไม่ได้"
"พวกจนแต่ไม่เจียมไม่มีปัญญาหาเงินจ่ายค่าเทอมแต่ก็ยังอยากที่จะมาเรียนที่นี่คงอยากยกระดับตัวเองขึ้นมาให้อยู่ระดับเดียวกับพวกเราสินะ"
ในขณะที่ฉันยืนฟังคำดูถูกจากกลุ่มคนที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกจู่ๆพวกเธอเหล่านั้นก็เลิกสนใจหาเรื่องดูถูกฉันแล้วหันไปสนใจใครอีกคนที่กำลังเดินตรงเข้ามามันทำให้ฉันต้องหันไปมองตามอย่างช่วยไม่ได้แม้จะไม่ได้ตั้งใจหันไปมองเลยก็ตาม
เอิงเอย...."หมายความว่าไง เอยไม่เข้าใจ""ธีร์เคยคุยหลวงพ่อท่านว่าถ้าเอยหายดีเมื่อไหร่ธีร์จะมาสู่ขอเอยกับหลวงพ่อท่านอย่างเป็นทางการทันที""..........""เราอยู่ด้วยกันมานานหลายปีแล้วนะลูกก็มีด้วยกันตั้งสามคน ถึงแม้ว่าเราจะจดทะเบียนกันแล้วแต่ธีร์ก็ยังคิดว่ามันยังไม่พอ เอยมีพ่อมีครอบครัวธีร์ก็เลยอยากทำอะไรที่มันถูกต้องในทุกๆเรื่อง ซึ่งตอนนี้ย่าก็คงจะรอพวกเราอยู่ที่วัด""คุณย่าก็มาเหรอ""อื้ม ท่านมาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะท่านบอกจะมาคุยกับหลวงพ่อท่านก่อน" ที่วัด..."นี่เหรอหลานตา โตๆกันหมดแล้วนะ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูกว่าในรูปที่ส่งมาให้หลวงพ่อดูซะอีก ว่าแต่ชื่ออะไรกันบ้างล่ะลูกไหนบอกหลวงตาทีละคนซิ" หลวงพ่อมองหน้าหลานๆที่นั่งพนมมือมองท่านอยู่"น้องชื่อน้องอุ่นค่ะหลวงตา ^^""น้องชื่อน้องธิชาค่าหลวงตา^^""น้องชื่อน้องธารน้ำค่าหลวงตา ^^" "อื้มมมม อื้มมมม ^^"หลังจากนั้นสามสาวของฉันก็นั่งคุยกับหลวงตาอย่างสนุกสนานท่านพูดคุยหัวเราะกับหลานๆอย่างมีความสุขทำให้ฉันอดน้ำตารื้นไม่ได้เพราะตอนนี้ฉันได้มีครอบครัวที่อบอุ่นและอยู่กันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นพ่อ คุณย่า ธีร์ แล้วก็ลูกๆทั้งสามคน และถึงแม้ฉันจะมีควา
ธีร์....."ก็เกิ้ลชอบไออุ่นจริงๆนะเราเป็นแฟนกันเถอะนะ เกิ้ลสัญญาว่าเกิ้ลจะไม่กินเยอะเกิ้ลจะลดความอ้วนไออุ่นจะได้ชอบเกิ้ลแล้วโตมาเราก็จะแต่งงานกัน^^" ผมมองหน้าเจ้าเด็กกูเกิ้ลที่กระโดดลงจากเตียงแล้วเดินมาจับมือน้องไออุ่นต่อหน้าผมอีก ลูกผมเพิ่งจะขึ้นปอหนึ่งเองนะ แกจะมีแฟนไม่ได้ผมไม่ยอม!!!ที่บ้าน...."แม่คงต้องทำโทษน้องอุ่นนะคะที่น้องทำร้ายเพื่อนจนได้รับบาดเจ็บ""ทำโทษไม่ได้นะครับเมียลูกเราไม่ได้ผิดเจ้าเด็กนั่นต่างหากที่ผิด""ใช่ค่าน้องไม่ผิด""ทำไมจะไม่ผิดคะน้องทำร้ายเพื่อนจนเลือดตกยางออกแบบนี้ธีร์ก็เหมือนกันเข้าข้างลูกแบบนี้ได้ยังไงก็เห็นอยู่ว่าลูกเราไปทำร้ายเค้า""ก็ลูกเราโดนรังแกก่อนนี่นาไม่อย่างงั้นลูกคงไม่ไปต่อยจมูกแล้วเอาแปรงลบกระดานปาหัวจนหัวแตกหรอกจริงไหมครับลูกสาวของพ่อ""จริงค่า""ถ้างั้นก็โดนทำโทษทั้งพ่อทั้งลูก" พูดจบเมียรักก็เดินหน้าตึงออกไปอย่างโกรธๆเวลาต่อมา...ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เมียจ๋าขอผัวเข้าห้องหน่อยครับ"ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เมียจ๋าผัวง่วงแล้วน๊าาาา"ผมยืนเคาะประตูห้องอยู่นานเป็นชั่วโมงเอยก็ไม่ยอมเปิดประตูให้ผมเข้าไป เธอบอกให้ผมไปนอนห้องข้างล่างเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์โทษฐาน
เวลาต่อมา...บนเตียง...ธีร์...ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!!!!"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ จุก ฮือออ มันจุกมันเสียว จนทนไม่ไหวแล้ว ฮืออออ"แรงกระแทกจากทางด้านหลังถูกส่งเข้าไปในร่องรักของเมียรักทำให้เธอครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงครางบ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงความสุขของเธอผมชอบนะยิ่งเวลาที่เห็นเธอร้องครางจนทนไม่ไหวแบบนี้มันทำให้ผมรู้ว่าเธอมีความสุขและเสียวมากแค่ไหนเวลาที่ผมสอดใส่ตัวตนเข้าไปในร่องรักที่คับแน่นของเธอ แม้ว่าเอยจะมีลูกให้ผมแล้วถึงสามคนแม้ว่าเราจะมีอะไรกันแทบทุกวันแต่ร่องรักของเธอก็ยังคงคับแน่นบีบรัดตัวตนของผมเหมือนครั้งแรกๆ ที่เรามีอะไรกันปั่ก!!!!! ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!!!!"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ้าาาา อ๊าาาาาา ธีร์ เอยเสียวจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ฮือออออ ""อ่าาา ซี๊ดดดดด อืมมมมมม ผัวจะแตกแล้วครับเมีย" ยิ่งได้ยินเธอครางผมก็ยิ่งทำแรงขึ้นแรงขึ้นจนมันใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก ยิ่งใกล้แตกผมยิ่งกระแทกหนัก ผมกระตุกไปสามทีจนในที่สุดน้ำสีขาวขุ่นของผมก็พุ่งเข้าสู่ช่องทางรักของเอยอย่างท่วมท้น"อ่าาาาา""กรี๊ดดดดดดด อื้มมมมม" สักพักเอยก็เสร็จตามผมมาติดๆ เธ
หนึ่งปีต่อมา....ตุบ ตุบ ตุบ ตุบตุบ ตุบ ตุบ ตุบ เสียงแข่งกันคลานของสองสาวน้อยฝาแฝดวัยเจ็ดเดือนน้องธิชาแฝดคนพี่กับน้องธารน้ำแฝดคนน้องที่มีพัฒนาการที่เร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกันเพราะปกติเด็กแปดเก้าเดือนถึงจะเริ่มหัดคลานแต่นี่ลูกๆ ของฉันพวกแกเริ่มหัดคลานตั้งแต่อายุได้หกเดือนกว่าไม่ถึงเดือนก็คลานจนคล่องแล้วทำให้ฉันต้องไล่จับจนเหนื่อยแต่ก็เป็นความเหนื่อยที่มีความสุขที่สุด"แอ๊ะ แอ๊ะ แอ๊ะ แอ๊ะ ""แอ๊ะ แอ๊ะ แอ๊ะ แอ๊ะ " พอเห็นพ่อเดินเข้าบ้านมาสองสาวก็ส่งเสียงทันที คนเป็นพ่อพอเห็นลูกคลานไปหาพร้อมกับเรียกก็ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม"นางฟ้าน้อยๆ ของพ่อค่อยๆ คลานมาครับลูกอย่ารีบ" ธีร์รีบวางกุญแจรถกับมือถือไว้บนโต๊ะแล้ววิ่งมาหาลูกๆ ที่กำลังแข่งกันคลานไปหาเขาที่เพิ่งเลิกงานกลับมาในตอนเย็น ธีร์นั่งลงที่พื้นแล้วอุ้มลูกไว้บนตักคนละข้างก่อนจะจับขาลูกขึ้นมาดูแล้วทำหน้าเครียดขึ้นมาราวกับว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โต"พ่อบอกว่าอย่ารีบคลานก็ไม่ฟังพ่อเลยเห็นมั้ยครับว่าเข่าลูกแดงหมดแล้วเจ็บมั้ยเดี๋ยวพ่อเป่าให้นะครับ""พ่วง พ่วง พ่วง หายเจ็บนะครับคนเก่ง""พ่วง พ่วง พ่วง หายเจ็บนะครับคนเก่ง" ฉันนั่งขำกับคุณพ่อลูกแฝดท
ธีร์....."ขอโทษนะที่เมื่อก่อนธีร์ทำไม่ดีกับเอยไว้ตั้งเยอะ ธีร์ขอโทษนะ" ผมมักจะพูดคำนี้กับเอยตอนที่เธอหลับไปแล้ว แม้คำขอโทษมันจะไม่สามารถเปลี่ยนแแปลงอดีตได้ก็ตาม"เอาล่ะค่ะตอนนี้เรามาลุ้นกันนะคะว่าเด็กๆจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือว่าเด็กชาย" ตอนนี้ผมใจจดใจจ่ออยู่หน้าจอมอนิเตอร์ มือก็คอยบีบมือเอยที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับจ้องไปที่หน้าจอเช่นเดียวกันกับผมเพราะอีกกี่อึดใจผมกับเอยเราก็จะรู้กันแล้วว่าลูกของเราเพศอะไร ก็อย่างที่ผมบอกกับเอยไปว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายผมก็รักทั้งนั้น บอกตามตรงเลยนะจนถึงตอนนี้ผมกับเอยเราสองคนยังงงกันอยู่ว่าเรามีลูกแฝดกันได้ยังไงผมกับเอยเราก็ไม่เคยพี่น้องฝาแฝด เราไม่ได้ทำกิ๊ฟหรือเด็กหลอดแก้ว เอยท้องแบบธรรมชาติท้องด้วยฝีมือขั้นเทพของผมล้วนๆที่ขยันกินตับเมียเอาเช้าเอากลางวันเอาเย็นแถมดึกๆก็ยังเอาอีก อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้พระเจ้าท่านคงจะเมตตาและเล็งเห็นถึงความพยายามความขยันของผมท่านก็เลยมอบลูกมาให้กับผมพร้อมกันถึงสองคน ผมโคตรโชคดีสุดๆเมียท้องเดียวได้ลูกถึงสองคน "เห็นแล้วค่าคุณพ่อคุณแม่เห็นมั้ยคะตรงนี้ค่ะ" หมอเอาปากกาชี้ไปที่หน้าจอแล้วบอกให้ผมดูแต่บอกตา
เอิงเอย....."พี่นี่โคตรร่านชิบหายเลยว่ะมาชวนผู้ชายไปเอาในห้องน้ำโดยที่ผู้ชายเค้าไม่อยากไป ถามจริงไม่มียางอายบ้างเหรอ" ถ้าฉันเป็นพี่กัสจังฉันคงจะอายแล้วรีบวิ่งหนีไปแล้วล่ะไม่นั่งอยู่ตรงนี้ให้คนเขามองอย่างสมเพชหรอก"ธีร์พี่เจ็บ" สีหน้าเจ็บปวดของคนตรงหน้าไม่ได้ทำให้ธีร์สงสารเลยสักนิด"ไปไกลๆตีนกูเลยนะไม่ต้องมาสำออยใกล้ตีนกู มึงรีบไปก่อนที่เมียกูจะเข้าใจผิด ไป๊" ฉันมองพี่กัสจังที่รีบลุกแล้วเดินขากะเผลกๆไปอีกทางตอนนี้เธอคงจะอายมาก และคงจะคิดได้ว่าไม่น่าเข้ามาทักเลยตั้งแต่ทีแรก"แม่งเอ้ยเกิดมาหล่อมารวยทำไมมันมีแต่เรื่องแต่ราววะ" หึชมตัวเองก็เป็นฉันอดยิ้มขำไม่ได้ก่อนจะเดินไปหาธีร์ที่ยืนเท้าสะเอวอย่างคนอารมณ์ไม่ดี แต่ฉันชอบนะที่เห็นเขาในมุมนี้มุมที่ดูร้ายๆดูแบดๆเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกันเขาก็ปากร้ายปากเสียใส่ฉันแบบบนี้แล่ะแถมยังเรียกฉันว่ายัยขอทานสกปรกอีก แต่มาตอนนี้สิ เมียจ๋าทุกคำ"ธีร์" ฉันเดินมาหาเขาพร้อมหนังสือที่เลือกไว้ให้ลูก"เมียจ๋า" น้ำเสียงออดอ้อนที่ช่างแตกต่างกับที่ได้ยินเมื่อครู่"เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเหรอ""ไม่มีอะไรหรอกช่างแม่งมันเถอะ ว่าแต่เมียได้หนังสือนิทานลูกครบหรือยังครับ"