Share

บทที่ 12

Penulis: ซูซี
เมื่อเธอได้ยินข่าว จู่ ๆ ซาบริน่าก็รู้สึกปวดใจในทันที

เซบาสเตียนกับซาบริน่าเป็นสามีภรรยากัน แต่พวกเขาก็เป็นเหมือนคนแปลกหน้า

มันเกิดขึ้นแล้ว และคนที่เซบาสเตียนกำลังจะหมั้นด้วย ก็คือศัตรูของเธอ

ใช่!

เซลีนคือศัตรูของเธอ!

ซาบริน่ายังไม่รู้สาเหตุการตายของแม่ของเธอ เธอต้องการสืบสวน แต่ไม่มีเงินเดินทางกลับบ้าน และเธอก็ตั้งท้องลูกอยู่

ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้แล้ว

เธอทำได้เพียงต้องอดทนเท่านั้น

เจดรีบเดินไปหาลินคอล์นและจับมือเขาด้วยความตื่นเต้น “ลินคอล์น สิ่งที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม? เซบาสเตียนจะมีงานหมั้นกับเซลีนเหรอ? พ่อแม่ของทั้งสองครอบครัวควรนัดมาเจอกันก่อนไม่ใช่เหรอ? หรือ ปู่และพ่อของเซบาสเตียนยอมรับเซลีนแล้ว? พวกเขาไม่รังเกียจที่เซลีนถูกรับมาเลี้ยงใช่ไหม?”

เมื่อเธอได้ยินคำว่า “รับมาเลี้ยง” ที่ถูกพูดถึงเมื่อสักครู่ ในใจของซาบริน่าก็รู้สึกเศร้าใจมากขึ้น

เซลีนและซาบริน่าได้รับการเลี้ยงดูโดยตระกูลลินน์

เซลีนถูกรับมาเลี้ยงเมื่ออายุได้ 2 ขวบ และลินคอล์นกับเจดปฏิบัติต่อเธอเหมือนอัญมณีล้ำค่าในทันที ในทางกลับกัน ซาบริน่ากลายเป็นเด็กอุปถัมภ์ที่มาจากบ้านนอก เมื่อตอนอายุ 12 ปี ซึ่งเป็นเวลาถึงแปดปี ที่เธอต้องพึ่งพากุศลผลบุญของผู้อื่น และใช้ชีวิตที่เลวร้ายยิ่งกว่าสุนัขหรือหมูเสียอีก

ซาบริน่าอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญ ทำไมเซลีนถึงมีชีวิตที่ดีเช่นนี้?

เธอเดินออกไปอย่างมืดมน

“หยุดนะ!” เจดขวางหน้าซาบริน่า “ครึ่งล้าน!”

“คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?” ลินคอล์นมองเจดด้วยความตกใจ

“เราเลี้ยงเธอมาตั้งแปดปี ให้ข้าวให้น้ำและเสื้อผ้ากับเธอ ไหนจะจ่ายค่าเล่าเรียน และให้ค่ารักษาพยาบาลกับแม่อายุสั้นของเธอ คุณคิดว่าเงินนั้นตกลงมาจากฟ้าเหรอ?” เจดจ้องที่ลินคอล์นอย่างดุเดือด

ลินคอล์นตอบไปว่า “เจด! อย่าลืม… ”

“อะไร? อย่าลืมว่าเธอ คือสก๊อตต์ ไม่ใช่ลินน์!” เจดแทรกแซงคำพูดของลินคอล์น

ลินคอล์นก็พูดไม่ออกในทันที

ซาบริน่ามองดูคู่รักที่อยู่ข้างหน้าเธอ ขณะที่พวกเขากำลังเล่นเป็นตำรวจดี กับ ตำรวจเลว เธอรู้สึกรังเกียจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เธอมองด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย และพูดไม่ว่า “ฉันให้เงินคุณ 50,000 ดอลลาร์แล้ว ถ้าคุณกล้าที่จะขุดหลุมศพของแม่ฉัน ฉันจะทำร้ายตัวเองให้ตายที่หน้าประตูบ้านคุณ!”

พูดจบเธอก็จากไปโดยไม่หันหลังกลับ

ลินคอล์นรอจนกระทั่งซาบริน่าออกจากประตูไป จากนั้นเขาก็ตะโกนใส่เจดอย่างโกรธเคือง “คุณใจร้ายขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”

“คุณสงสารเธอเหรอ?” เจดเย้ยหยัน “ให้ฉันบอกอะไรคุณให้นะ ลินคอล์น! ถ้าวันหนึ่งเธอรู้ว่าชายที่เซลีนกำลังจะแต่งงานด้วย คือผู้ชายที่เธอช่วยชีวิตด้วยการสละความบริสุทธิ์ของเธอ คุณไม่คิดว่าเธอจะเกลียดคุณเหรอ? และถ้าเซบาสเตียนรู้เรื่องนี้เข้า ครอบครัวของเราจะตายกันหมด! คุณคิดว่าฉันขอเงินเธอครึ่งล้านเพราะฉันต้องการเงินจริง ๆ เหรอ? ฉันต้องการบังคับให้เธอออกจากเมืองเซ้าท์ซิตี้ไป”

“บังคับให้เธอออกไปงั้นเหรอ? คนที่อยู่ตัวคนเดียว และน่าสังเวชแบบนั้นจะไปไหนได้?” ลินคอล์นถาม

“เธอก็ไปในที่ที่เธอชอบได้!” เจดถอนหายใจอย่างเย็นชา “ตราบใดที่มันไม่ส่งผลต่อความสุขของเซลีนอันมีค่าของเรา ลินคอล์น เซลีนถูกคุณเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก หัวใจของคุณไม่ควรเอียงเอนไปทางซาบริน่า!”

เมื่อมีการกล่าวถึงเซลีนลูกสาวของเขา ซาบริน่าก็ถูกลินคอล์นลืมไปทันที

เขายิ้มและมองไปที่เจด “ที่รัก รีบเตรียมสูทและเสื้อคลุมที่เราจะใส่ในงานเลี้ยงหมั้นของเซลีนกันดีกว่า เราไม่ควรเลือกแบบมั่ว ๆ ได้ ในเมื่อลูกสาวของเราหมั้นกับตระกูลฟอร์ดทั้งที”

เจดรู้สึกงงเล็กน้อย “ทำไมไม่มีใครแจ้งเราเกี่ยวกับการหมั้นหมายของเซบาสเตียนกับเซลีน? มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า?”

“ไม่ผิดแน่นอน เซบาสเตียนไม่ชอบทำตัวเป็นจุดสนใจ และบุคลิกของเขาก็เย็นชาเกินไป เขาจะไม่พูดถึงเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการขอแต่งงาน หรือการหมั้นหมายกับผู้หญิง เขาได้มาที่บ้านเราเป็นการส่วนตัวแล้ว และคุยเรื่องการแต่งงานของพวกเขาเมื่อสองวันก่อนแล้วไง คุณคาดหวังให้เขายกขบวนพาเหรดมาขอเซลีนที่บ้านหรือยังไง? ไม่มีทาง” ลินคอล์นกล่าว

เจดพูดว่า “อย่างน้อยพวกเขาควรแจ้งให้เราทราบที่อยู่ของสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงหมั้นไม่ใช่เหรอ?”

“ผมรู้! ผมมีที่อยู่ เมื่อถึงเวลาเราจะไปเอง เราไม่ควรรบกวนเซบาสเตียน รอจนกว่าเซลีนจะแต่งงานเข้าไปในตระกูลฟอร์ด และตั้งท้องลูกของเซบาสเตียน แล้วทุกอย่างจะดีเมื่อถึงเวลานั้น”

เจดพยักหน้าอย่างหนัก “คุณพูดถูก”

คู่รักจากตระกูลลินน์รู้สึกตื่นเต้นที่จะหารือเกี่ยวกับเรื่องการแต่งกายของงานหมั้น ในทางกลับกัน ซาบริน่าที่เพิ่งเดินออกจากบ้านของตระกูลครัวลินน์ ก็เดินไปตามท้องถนน

ตอนนี้เธอต้องการงานและมีรายได้อย่างเร่งด่วน

เธอยังสามารถหางานทำได้ที่ไหนอีก?

โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น เธอคิดว่าเป็นโรงพยาบาลของเกรซที่โทรเข้ามา เธอมองดูโทรศัพท์และเห็นเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก เธอจึงกดรับสาย “สวัสดีค่ะ? ไม่ทราบว่าฉันกำลังพูดสายอยู่กับใครอยู่คะ?”

“ไม่ทราบว่านี่ใช่ ซาบริน่า สก๊อตต์ หรือเปล่าครับ?” คนที่อยู่ปลายสายถามกลับอย่างสุภาพ

“ใช่ค่ะ ฉันคือซาบริน่า สก๊อตต์”

“เราได้รับประวัติย่อที่เขียนด้วยมือของคุณแล้ว ผมขอทราบได้ไหมครับว่า คุณพร้อมสำหรับการนัดสัมภาษณ์ในวันมะรืนนี้ได้หรือไม่?” บุคคลนั้นถาม

วันมะรืนนี้? เป็นวันงานหมั้นของเซบาสเตียน

ซาบริน่าตื่นเต้นมากจนเกือบจะร้องไห้ “ได้ค่ะ ฉันว่าง ฉันว่าง ขอบคุณ ขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ด้วยนะคะ มันดีมาก ๆ เลยค่ะ!”

หลังจากที่เธอวางสาย ซาบริน่าก็ขึ้นรถประจำทางไปที่ร้านเครื่องเขียน ซื้อดินสอ ยางลบ กระดาษร่าง ไม้บรรทัด และอื่น ๆ เธอต้องการที่จะฝึกฝีมือที่บ้าน เธอไม่มีคอมพิวเตอร์ ดังนั้น ทุกอย่างจึงต้องทำด้วยมือ

วันรุ่งขึ้น ซาบริน่าไปโรงพยาบาลแต่เช้าเพื่อไปพบเกรซ จากนั้นจึงกลับมาที่บ้านของเธอเพื่อเริ่มทำงานกับภาพวาดของเธอ เธอวาดภาพหลายแบบจนดึกดื่น เธอรู้ว่าเธอไม่ได้มีโอกาสมากมาย ดังนั้น เธอจึงต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้เมื่อมีโอกาส

เธอไม่มีเวลาสำหรับการล่าถอยอีกแล้ว

เมื่อเซบาสเตียนกลับมาในตอนกลางคืน เขาเห็นว่าไฟยังสว่างอยู่ หลังจากนั้นอีกชั่วโมงหรือสองชั่วโมง เขาออกจากห้องนอน และสังเกตเห็นว่าไฟของเธอก็ยังเปิดอยู่ เขายกมือขึ้นและอยากจะเคาะประตูห้อง เพื่อถามว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่

หลังจากครุ่นคิดแล้ว เขาวางมือลงอีกครั้งและกลับไปนอน

วันรุ่งขึ้น เซบาสเตียนตื่นแต่เช้าตรู่

เขาตกลงกับแม่ของเขาว่าจะจัดงานแต่งเล็ก ๆ กับซาบริน่า ไม่จำเป็นต้องมีการรับรองแขกใด ๆ และพวกเขาจะทำแต่พิธีการเท่านั้น เขาต้องการไปรับแม่ของเขากับซาบริน่า เพื่อที่พวกเขาจะได้มุ่งหน้าไปที่โรงแรมและเตรียมการเพื่อเริ่มพิธีการต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม เขารออยู่ในห้องนั่งเล่นประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่ไม่เห็นซาบริน่าออกมาจากห้องของเธอ เซบาสเตียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

'เธอตื่นสายมาตลอด ก่อนที่จะต้องไปโรงพยาบาลเพื่อดูแลแม่ของเขาหรือเปล่า?'

'ผู้หญิงคนนี้ขี้เกียจจริง ๆ'

หลังจากที่เขารออีกหนึ่งชั่วโมง ซาบริน่าก็ยังไม่ออกมาจากห้องนอน สายตาของเซบาสเตียนเต็มไปด้วยความเยือกเย็น เขาลุกขึ้นไปที่ห้องนอนของซาบริน่า ยกเท้าขึ้นและถีบประตูอย่างไร้ความปราณี

เขามองเข้าไปในห้องนอน และเขาก็ตกตะลึงทันที
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 13

    ห้องนอนของซาบริน่าเต็มไปด้วยความรกเมื่อประตูเปิดออก จะเห็นกระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่ยังไม่ได้รูดซิป ดูเหมือนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของแผงลอยขายของที่ตลาดนัด เสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทางนั้นก็วางระเกะระกะ เตียงก็ยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยเสื้อผ้าเช่นกัน เซบาสเตียนมองดูใกล้ ๆ และเห็นว่าเสื้อผ้าก็ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ และดูซอมซ่อเหมือนผ้าขี้ริ้วเก่า ๆด้วยห้องที่รกเช่นนี้ เป็นไปได้ไหมที่ซาบริน่าหนีไปพร้อมกับเงิน 50,000 ดอลลาร์ ที่เขามอบให้เธอ?สายตาของเซบาสเตียนยังคงเยือกเย็นและเรียบเฉย เขาปิดประตู หยิบกุญแจและขับรถตรงไปที่โรงพยาบาลที่แม่ของเขาอยู่ซาบริน่าไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลเซบาสเตียนหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดหมายเลขของซาบริน่าเขาอาจจะทนต่อเธอได้หากเธอหลอกเขา แต่การหลอกแม่ของเขาที่อายุขัยเหลือเพียงแค่สองเดือน ทำให้เขาเหลืออดจริง ๆ!เมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าเขาจะต้องทำให้เซ้าท์ซิตี้นองไปด้วยเลือด เขาก็จะต้องจับซาบริน่ากลับมาให้ได้อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์ดังขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซาบริน่าก็หยิบขึ้นมาแล้วน้ำเสียงของเธอกระวนกระวายเล็กน้อย “คุณฟอร์ด วันนี้ฉันไม่ได้ไปหาป้าเกรซนะ ฉันมีเรื่องต้องจัดกา

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 14

    ซาบริน่าชะงักทันทีซาบริน่าเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าวันนี้เป็นงานหมั้นของเซบาสเตียนกับเซลีนเมื่อวันก่อน ซาบริน่าได้ยินลินคอล์นพูดถึงเรื่องนี้ เมื่อเธอไปที่บ้านของตระกูลลินน์เพื่อคืนเงินเธอเห็นเซลีนสวมชุดแต่งงานที่งดงาม สวมสร้อยคอเพชรรอบคอ ต่างหูเพชร และมงกุฏดอกไม้บนศีรษะของเธอเซลีนงดงามราวกับนางฟ้าจากสวรรค์เซลีนเป็นตัวละครหลักในวันนี้ ต่างจากเธอ เธอมาทำอะไรที่นี่?เธอมองดูสิ่งที่เธอสวม เสื้อเบลาส์สีขาวที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นถ่านและกระโปรงสีดำที่มีรอยขีดข่วนและคลุมด้วยผ้าสำลี เธอมาที่นี่เพื่อขออาหารเหรอ?'เซบาสเตียนมีความคิดแบบไหนกัน?''เซลีนและงานหมั้นของเขาเกี่ยวอะไรกับเธอ และทำไมถึงขอให้เธอมาที่นี่ เพื่อหลอกเธอเหรอ?'คลื่นแห่งความโกรธพุ่งเข้าใส่หัวใจของซาบริน่าซาบริน่ามองดูเซลีนด้วยท่าทางสงบแต่เศร้า “ใช่ ฉันมาทำอะไรที่นี่?”“เธอ! ซาบริน่า สก๊อตต์! เธอนี่ไร้ยางอายมาก! วันนี้เป็นงานหมั้นของฉันกับเซบาสเตียน! เธอสกปรกไปหมด และขาที่กะเผลกของเธอก็ยังเดินไม่เข้ากันอีกด้วย เธอเพิ่งอยู่กับผู้ชายมาแล้วกี่คน แล้วเธอเพิ่งมานำโชคร้ายมาให้ฉันเหรอ? ไสหัวไป!” เซลีนอยากจะฉีกซาบริน่าออกเป็นช

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 15

    ซาบริน่าตกตะลึงและยืนตัวแข็งทื่อ “อะไรนะ… คุณพูดว่าอะไร?”แม้ว่าเธอจะใจเย็น และมีความคิดที่ไม่ใส่ใจกับทุกสิ่ง แต่เธอก็ตกใจไปถึงกลางใจ เมื่อได้ยินสิ่งที่เซบาสเตียนพูด“คุณผู้หญิง! เธอมัวแต่ทำให้เรื่องนี้ช้าอยู่นั้นแหละ!” เซบาสเตียนไม่เคยตั้งใจจะอธิบายอะไรให้ซาบริน่าฟัง เขาดึงแขนเธอเข้าไปภายในของร้านอาหารอย่างแรงข้างหลังเขาคือไนเจลที่ตกตะลึงอยู่ คนที่เพิ่งขับรถให้ซาบริน่าจากที่ไซต์ก่อสร้างมาที่นี่ และแสร้งทำเป็นเป็นคู่ควงของซาบริน่า ไนเจลจับหน้าผากของเขา ในขณะที่เขาคลำหาโทรศัพท์ออกมา และกดหมายเลขโทรศัพท์อย่างประหม่าไม่นาน อีกฝ่ายก็รับสาย“เซย์น ฉันอาจจะตายในไม่ช้านี้” เสียงของไนเจลสั่นเครือเซย์น ซึ่งกำลังขับรถอยู่ พูดแซวและถามไปว่า “เกิดอะไรขึ้นครับ? ท่านไนเจล อย่าบอกนะว่าคุณได้คบกับผู้หญิงที่คุณลักพาตัวไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว และเธอเกือบจะฆ่าคุณใช่ไหมล่ะ?”“ฉันไม่มีอารมณ์จะพูดเล่น! ผู้หญิงคนนั้น คือผู้หญิงของเซบาสเตียน”เซย์นไม่มีคำใดให้เป็นคำตอบผ่านไปครู่หนึ่ง เซย์นพูดขึ้นอย่างไม่จริงใจ “เอ่อ ไนเจล ผม… กำลังขับรถอยู่ ไม่สะดวกที่จะคุยโทรศัพท์เลย บาย บาย!”ไนเจลพูดไม่ออกจากสา

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 16

    หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ถอดกระโปรงทรงดินสอที่ขาดรุ่งริ่งและเสื้อตัวบนสีขาวออก เธอเปลี่ยนเป็นชุดแต่งงานและสวมรองเท้าส้นสูงคริสตัล ด้วยความสูง 170 เซนติเมตร ซาบริน่าจึงทั้งสูงและผอมเพรียวอย่างไรก็ตาม เธอดูสูงขึ้นด้วยส้นสูงคริสตัลที่สูง 10 เซนติเมตรและมีขาอันยาวสมบูรณ์แบบอย่างเป็นที่สุดเธอเพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าและยังไม่ได้แต่งหน้ารูปลักษณ์ของเธอเมื่อไม่แต่งหน้าก็เพียงพอที่จะทำให้เซบาสเตียนตกตะลึงเธอยังคงหลงเหลือความเย็นชาที่ราวกับว่าทุกสิ่งในโลกไม่มีความหมายต่อเธอ หลังจากสวมชุดแต่งงานอันวิจิตรงดงามชุดนี้แล้ว ความงามของเธอก็ยิ่งเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้นและไร้ข้อจำกัดเธอมองเข้าไปในดวงตาของเขาด้วยความรู้สึกไร้เดียงสาและเย็นชา แต่ก็ไม่พูดอะไรสักคำในใจของเซบาสเตียนรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างฉับพลัน โดยไม่รู้ว่าทำไมน้ำเสียงของเขาเย็นชาและมีเสียงแหบ “เมื่อเช้านี้เธอทำอะไรอยู่? รู้ไหมว่าเธอเกือบทำงานใหญ่ของฉันพลาด?!"“นี่งานแต่งของเราเหรอ?” ซาบริน่าถามอย่างตรงไปตรงมาหลังจากถามแล้ว เธอบอกกับตัวเองว่า “ฉันไม่ได้ต้องการงานแต่งงานนี้! ฉันคิดว่าคุณก็ไม่ได้ต้องการมันเช่นกัน คุณกำลังจะแต่งงานกับเซ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 17

    ซาบริน่าเข้าใจทุกอย่างในทันทีชัดเจนแล้วว่าเกรซเป็นคนจัดการเรื่องนี้เป็นพิเศษเกรซบอกกับเธอเมื่อสองสามวันก่อนว่าเกรซจะทำเซอร์ไพรส์ให้เธอซาบริน่ารู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมาทันทีไม่ว่าเซบาสเตียนจะปฏิบัติต่อเธออย่างไร เกรซเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่ให้ความอบอุ่นแก่ซาบริน่า เกรซมีเวลาอยู่เพียงสองเดือน ดังนั้นเพื่อเห็นแก่เกรซ ซาบริน่าจึงต้องร่วมมือกับเซบาสเตียนและสวมบทบาทอย่างเต็มที่“ขอบคุณค่ะแม่ หนูชอบเซอร์ไพรส์นี้มาก แม่ดูนี่สิ นี่คือชุดแต่งงานที่เซบาสเตียนเตรียมไว้ให้หนู ดูดีไหมคะ?” ซาบริน่ายกมุมชุดแต่งงานของเธอขึ้นและถามเกรซสำรวจชุดสองสามครั้ง และจากนั้นเธอก็เริ่มน้ำตาไหล“แซบบี้ แม่ไม่คาดคิดเลยว่าหนูจะสวยและแต่งหน้าได้ดีขนาดนี้ หนูกับเซบาสเตียนเป็นคู่ที่สมกันราวกับสวรรค์สร้างจริง ๆ ” เกรซยิ้มกว้างสิ่งที่เธอพูดไม่ใช่เรื่องที่ผิดไม่ใช่แค่เกรซเท่านั้นที่รู้สึกว่าซาบริน่าและเซบาสเตียนคู่ที่สมกันราวกับสวรรค์สร้าง แต่พนักงานในร้านอาหารรู้สึกว่าทั้งคู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นกัน“แซบบี้ แม่ไม่เคยแต่งงานเลยในชีวิต และไม่ได้สวมชุดแต่งงานด้วยซ้ำ แม่เลยหวังไว้สูงว่าหนูจะได้สวมชุดแต่งงานและแต่งง

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 18

    ชายที่อยู่อีกด้านหนึ่งของสาย เฮย์ส เป็นอันธพาลที่ทำงานประเภทนี้ของเซ้าท์ ซิตี้ งานสกปรกทุกอย่างทั้งก่อนและหลังการถูกคุมขังของซาบริน่าก็ถูกดำเนินการโดยเฮย์สครอบครัวลินน์พัวพันกับเฮย์สมากกว่าหนึ่งครั้งเซลีนคิดว่าเธอจะทำให้เต็มที่ในครั้งนี้เช่นกันในตอนแรกครอบครัวลินน์ไม่ต้องการพรากชีวิตไปจากซาบริน่าก่อนงานแต่งงานของเซลีนและเซบาสเตียน พวกเขากลัวว่ามันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ และงานแต่งงานจะได้รับผลกระทบ แต่ก็มีเหตุผลอื่นเช่นกัน เซลีนต้องการส่งข่าวไปยังซาบริน่าเป็นการส่วนตัวว่าความสุขทั้งหมดที่เธอได้รับนั้นต้องแลกมากับร่างกายของซาบริน่าเซลีนอยากจะทำให้ซาบริน่าโกรธถึงกระนั้น เซลีนก็ไม่อาจจะสนใจอะไรได้อีกต่อไปแล้วเธอต้องการให้ซาบริน่าตาย!เธอต้องการให้ซาบริน่าตายโดยทันทีอีกด้านหนึ่ง เฮย์สขอเงินสิบล้านดอลลาร์ในรวดเดียวเซลีนตกใจ “เฮย์ส! ความโลภของนายมากเกินไปไหม?”อย่างไรก็ตาม เฮย์สก็ได้แต่ปล่อยเสียงหัวเราะชั่วร้ายออกมา “ผมรู้ว่าคนที่คุณอยากให้ผมจัดการคือใคร ผมจะไม่เพียงแต่ช่วยคุณเช็ดล้างเท่านั้น แต่ผมยังจะทำให้เธอพบกับจุดจบที่เลวร้ายอีกด้วย ความเกลียดชังของคุณจะได้จบใช่ไหมล่ะ? หา

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 19

    ทำไมเธอถึงมาอยู่ในห้องนอนฉัน?แสงเย็นเยียบกระหายเลือดส่องประกายในดวงตาของเซบาสเตียนหลังงานแต่งงาน เขาได้รับโทรศัพท์ด่วนจากนายท่านอาวุโสฟอร์ด เฮนรี่ ฟอร์ด ขอให้เขากลับมานายท่านอาวุโสฟอร์ดอายุ 96 ปี และแม้ว่าเขาจะเกษียณจากตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวฟอร์ดมาเกือบ 40 ปีแล้ว แต่นายท่านอาวุโสก็ยังเป็นผู้มีอำนาจในครอบครัวฟอร์ดคล้ายกับพ่อของกษัตริย์เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เมื่อเซบาสเตียนเข้าควบคุมฟอร์ดกรุ๊ปในคราวเดียวและขจัดปัญหาที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด ชายชราจึงออกคำสั่งให้เขาว่า“เซบาสเตียน ในเมื่อนายกำจัดสิ่งกีดขวางทั้งหมดแล้ว นายก็ไม่ควรเอาสิ่งที่เหลืออยู่ออกไปด้วย ถ้านายสัญญากับปู่ได้ ปู่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของนายอีกในอนาคต" เฮนรี่กล่าว ส่วนหนึ่งเป็นคำสั่งแต่บางส่วนก็เป็นข้ออ้างด้วยเซบาสเตียนตอบด้วยสีหน้าเย็นชาและกังวล “ได้ครับ!”เซบาสเตียนรับหน้าที่ดูแลฟอร์ดในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา และชายชราคนนี้ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขาอีกเลยอย่างไรก็ตาม เมื่องานแต่งงานเสร็จสิ้นในวันนี้ และก่อนที่เขาจะมีเวลาส่งแม่กลับไปโรงพยาบาล ชายชราก็ขอให้เขากลับมาหาโดยด่วนเซบาสเตียนคิดว่าชายชราได้

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 20

    "ฟังนะ!" เสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำ และเสียงที่เย็นเยียบพูดอย่างชัดเจนตามมาเพียงไม่กี่คำ “บุกเข้ามาในห้องของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้ง เธอตายแน่!”ซาบริน่าดูเหมือนกวางที่หลงทาง ขนตางอนยาวของเธอกระพริบอย่างรวดเร็ว และเธอก็พยักหน้าสุดกำลังชายหนุ่มหันกลับมาหยิบสร้อยข้อมือสีเขียวมรกตจากโต๊ะข้างเตียง จากนั้นเขาก็อุ้มซาบริน่า เปิดประตู เข้าไปในห้องของซาบริน่าแล้ววางเธอลง หลังจากนั้นเขาสวมสร้อยข้อมือกลับมาที่ข้อมือเธอแล้วพูดว่า "พรุ่งนี้ใส่ไปเยี่ยมแม่ของฉัน แม่คงจะมีความสุขมากกว่านี้""ฉันเข้าใจแล้ว" เสียงเล็กและแผ่วเบาของเธอติดอยู่ในลำคอ ขณะที่เธอตอบเขาอย่างระมัดระวังชายคนนั้นหันกลับมาและจากไปจากนั้นซาบริน่าก็เคลื่อนที่ไปปิดประตูห้องและพิงน้ำหนักทั้งหมดไว้ที่ประตู ขาของเธอไม่มีแรงพยุงเธออีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงทรุดตัวลงกับพื้นและหายใจแรงเธอรู้สึกเหมือนได้เดินผ่านประตูนรกโชคดีที่มันเป็นแค่การเตือนถึงความผิดพลาดหลังจากที่สงบสติอารมณ์แล้ว เธอถอดชุดแต่งงานและส้นสูงคริสตัลออกและอาบน้ำล้างตัวก่อนเข้านอนวันรุ่งขึ้นจะเป็นการทำงานวันแรกของเธอ ดังนั้นเธอต้องอยู่ในสภาพที่ดีในเช้าวันรุ่ง

Bab terbaru

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 330

    คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 329

    “ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 328

    มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 327

    ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 326

    มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 325

    เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 324

    ซาบริน่าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไรประโยคนั้นไม่มีเหตุผลเลย!เธอถามว่า “กำไลอะไรคะ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณซื้อเสื้อผ้าให้ฉันแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเลยนะ”เขาพยายามที่จะขู่กรรโชกเธอเหรอ?เธอไม่ได้ขโมยกำไลของเขามา!น้ำเสียงเยือกเย็นของเซบาสเตียนไม่เปลี่ยนไป “ฉันถามถึงกำไลเมื่อหกปีที่แล้ว!”สิ่งนี้ทำให้ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนจะออกมาจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้เมื่อหกปีที่แล้ว เธอได้ทิ้งกำไลนั้นไว้พร้อมกับร่างของป้าเกรซ ซาบริน่าอยากให้กำไลเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ ดังนั้น เธอจึงทิ้งมันไว้ที่นั่นเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าเกรซ ในตอนนั้น มันคือสิ่งเดียวที่ซาบริน่าสามารถทำได้เพื่อเกรซหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ซาบริน่ากล่าวว่า “ฉันคงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณไม่ได้พูดขึ้นมา ฉันพยายามคืนให้คุณเมื่อหกปีที่แล้ว แต่ในตอนนั้นคุณไม่ยอมรับมันไว้ คุณบอกว่าฉันควรเป็นคนเก็บมันไว้เพราะแม่ของคุณให้ฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องการมันคืนในตอนนี้ล่ะ?”ในขณะนั้น เซบาสเตียนรู้สึกเหมือนเพิ่งถูกซาบริน่าตำหนิและไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรแต่มันยังทำให้เขาโกรธอีกด้วย!ความเข้าใจผิดต่อเซบาสเตียนดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกของเธ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 323

    ไอโนะถามว่า “... ลุงคิงส์ตันคะ ยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?” อย่างไรคำศัพท์ของเด็กหญิงตัวน้อยก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่คิงส์ตันตอบว่า “มันหมายความว่า…” ขณะกำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหญิงตัวน้อย เขาสังเกตเห็นการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของนายน้อยจากกระจกมองหลัง เขาหุบปากทันทีคิงส์ตันเรียนรู้วิธีอ่านท่าทางของนายท่านเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้มีทักษะนั้น เมื่อเธอเห็นว่าคิงส์ตันไม่ตอบคำถามของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็หันไปหาพ่อตูดหมึกของเธอ กลอกตาและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอถามคุณหน่อยเถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?”ในตอนนี้ ไอโนะไม่ต้องพึ่งพาอ้อมกอดของพ่อเหมือนที่เธอเคยได้รับที่บ้านเก่าแก่หลังนั้นอีกต่อไป อันที่จริงเธอไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำเพราะว่ามีแค่พวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะจับเขาไอโนะเกลียดเรื่องนี้!เมื่อเซบาสเตียนเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อย เขาไม่รู้ว่าเธออยากหัวเราะหรือร้องไห้แทนที่จะตอบไอโนะ เขากลับสวนกลับด้วยคำถามอื่น “ทำไมหนูถึ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 322

    ถ้านายท่านอาวุโสชอว์ไม่เอ่ยถึงกำไลนั้น เซบาสเตียนคงลืมมันไปแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอได้มอบกำไลให้ซาบริน่า ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอันประเมินค่ามิได้นายท่านอาวุโสชอว์กล่าวต่อ “เซบาสเตียน ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกำลังวางแผนต่อต้านนายอยู่แน่ ๆ ลองคิดดู เธอทำร้ายไนเจล เซย์นนายน้อยแห่งตระกูลสมิธ หรือแม้แต่มาร์คัสมากแค่ไหน“เธอไม่สามารถเทียบได้กับแม่ของนายได้“ผู้หญิงแบบนั้นจะสามารถสอนลูกของนายให้ถูกต้องได้อย่างไร?”เซบาสเตียนฝืนยิ้ม “ตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่กับผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอ?!“นายท่านอาวุโสชอว์ด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ!“สำหรับการอบรมลูกสาวของผม ผมไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนั้น นายท่านอาวุโสชอว์ คุณควรให้ความสำคัญกับการอบรมหลานสาวของคุณเองอย่างเหมาะสม คุณจะได้หยุดดูหมิ่นตัวเองต่อหน้าตระกูลฟอร์ดสักที!”หลังจากพูดอย่างนั้น เซบาสเตียนก็อุ้มไอโนะไว้ในอ้อมแขนและพยายามจะออกจากห้องโถงไป“เซบาสเตียน!” เฮนรี่ตะโกน “จะไปไหน นายบอกว่าเราจะทานข้าวกับไอโนะไม่ใช่เหรอ? ย่าของนายเตรียมของขวัญมากมายไว้ให้เธอแล้วนะ เซบาสเตียน…”เ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status