แทนไทนั่งอยู่ในโซนวีไอพีด้านบนของงานปาร์ตี้ประจำควอเตอร์มาตั้งแต่เริ่มงาน ดวงตาคมจ้องมองลงไปยังฝูงชนด้านล่าง แต่ทันทีที่เขาเห็นร่างบางในชุดเดรสสีดำที่กำลังเดินเข้ามาในงาน ทุกอย่างรอบตัวเหมือนหยุดนิ่ง
เขาขบกรามแน่นจนเห็นสันกรามชัด สายตาคมกริบมองเธอที่อยู่ในเดรสสีดำเข้ารูปอย่างไม่พอใจ
เธอโคตรสวย...
ผิวขาวเนียนตัดกับผ้าสีดำแนบลำตัว เส้นโค้งเว้าถูกเน้นจนเห็นได้ชัดแบบที่ใครเห็นก็ต้องมองตาม แผ่นหลังที่เปิดเผยในชุดนั้นทำให้เขารู้สึกบางอย่างพลุ่งพล่าน
แต่สิ่งที่ทำให้เขาหัวเสีย คือชุดนั้น
มันเน้นรูปร่างของเธอทุกส่วนอย่างชัดเจน แผ่นหลังที่เปิดเผยขับกับผิวเนียนละเอียดจนใคร ๆ ก็ต้องมอง เธอดึงดูดสายตาของผู้ชายทุกคนในงาน รวมถึงคนที่เขาไม่อยากให้มอง
“ให้ตายสิ…” เขาพึมพำเสียงต่ำ ก่อนจะกระดกแก้ววิสกี้ในมือจนหมดในครั้งเดียว แล้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงจนแก้วแทบแตก
ปึง!
“ใจเย็น นายหัวร้อนอะไร?” เสียงทุ้มต่ำของเคน พี่ชายต่างแม่ดังขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขานั่งพิงโซฟาอย่างสบายใจ
“เปล่า...” แทนไทตอบเสียงแข็ง ใบหน้าเคร่งขรึม สายตายังจับจ้องไปที่เจไม่วางตา
“หวงล่ะสิ” เคนยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นพลางยิ้มกวน
“ไม่แปลกหรอก ผู้หญิงคนนั้นสวยจริง ๆ แล้วดูสิ ชุดนั้น...เกิดมาเพื่อเธอเลย”
แทนไทหันขวับไปมองเคนด้วยสายตาที่คมยิ่งกว่าเดิม
“พี่ พูดน้อยๆ หน่อยได้มั้ย?”
เคนหัวเราะลั่น
“โห ขนาดนี้เลยเหรอ? ถ้านายไม่ชอบ ก็ต้องทำไรซักอย่างดิ”
แทนไทเงียบไป แต่ในใจกำลังลุกไหม้ด้วยความรู้สึกที่เขาเองก็อธิบายไม่ได้
ความไม่พอใจ ความหงุดหงิด และ...ความหวงที่แทบระเบิด
สายตาของเขายังจับจ้องไปที่เจที่กำลังยิ้มบาง ๆ ให้เพื่อน ๆ ท่ามกลางสายตาของผู้ชายหลายคนในงาน เขายกแก้วใหม่ขึ้นมากระดกอีกรอบ
คืนนี้...เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างจริง ๆ
เจนั่งจิบค็อกเทลเบา ๆ อยู่ที่โต๊ะ มองดูบรรยากาศในงานที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงและผู้คนที่กำลังสนุกสนาน แสงไฟสีสันสะท้อนแววตาเธออย่างเงียบ ๆ ขณะที่แพรวากำลังเต้นอย่างเมามันอยู่กลางฟลอร์
“เจ! มาเต้นกันเถอะ!” เสียงแพรวาแหวกเสียงเพลงดังมาจากฟลอร์ เธอโบกมือเรียกพลางยิ้มกว้าง
เจหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่เอาแก เต้นไปเถอะ ฉันขอดูอยู่ตรงนี้”
แต่ดูเหมือนคำปฏิเสธจะไม่เป็นผล เพราะไม่นานแพรวาก็เดินตรงมาหาเธอ พร้อมดึงมือเจให้ลุกขึ้นทันที
“อย่ามัวนั่งเหี่ยวเฉาสิ! มาสนุกกันเหอะ!”
“เฮ้ย! เดี๋ยวสิแก!”
เจร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่แพรวาไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เธอลากเพื่อนรักของตัวเองมาถึงกลางฟลอร์จนได้
แสงไฟวูบวาบ ผสานกับจังหวะเพลงเร้าใจ ทำให้เจที่ยืนงง ๆ อยู่กลางวงคนเต้นรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในกระแสนั้น เธอพยายามขืนตัวเล็กน้อย แต่เมื่อหันไปเห็นรอยยิ้มของแพรวาที่กำลังเต้นอย่างมีความสุข เธอก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้
“เอาน่า แค่เพลงเดียว! แล้วฉันจะไม่บังคับแกอีก!” แพรวาว่าอย่างอ้อนวอน
เจถอนหายใจอย่างยอมแพ้ ก่อนจะเริ่มขยับตัวเล็กน้อยไปตามจังหวะเพลง เสียงเชียร์จากแพรวาและเพื่อน ๆ รอบตัวดังขึ้นอย่างล้นหลาม
แต่ในความสนุกนั้น เจก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่เธอ... สายตาคมกริบที่แฝงไปด้วยบางอย่างที่เธอไม่กล้าหันไปสบ
ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรมากกว่านั้น เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“เฮ้ย เจ มาด้วยเหรอ?”
เจหันไปมอง และเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอก็ยิ้มกว้างทันที
“อ้าว พี่กานต์”
กานต์ รุ่นพี่ปีสามที่เธอนับถือ เป็นทั้งที่ปรึกษาเรื่องการเขียนโค้ดและเพื่อนเล่นเกมที่มักจะอยู่ทีมเดียวกับเธอเสมอ เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางสบาย ๆ ขณะขยับตัวตามจังหวะเพลง
“โอ้โห น้ำท่วมกรุงเทพฯ แน่ ๆ ยัยคนเก็บตัวอย่างเจออกจากคาเฟ่ได้!” กานต์พูดพลางหัวเราะร่วน
เจย่นจมูกใส่เขาเล็กน้อย แต่แพรวาที่อยู่ข้าง ๆ กลับหัวเราะเสียงดังยิ่งกว่า
“เห็นมะ? พี่กานต์ยังตกใจเลย”
“นี่รุมกันเหรอ?”
กานต์ยิ้มกว้าง
“ก็แกน่ะอยู่แต่ในร้านคาเฟ่หรือติดเกมตลอด พอมางานแบบนี้ก็ต้องแปลกใจกันบ้างล่ะ”
“อย่าแซะเยอะ เดี๋ยวกลับนะ” เจตอบกลับอย่างขี้เล่น
“เฮ้ย ๆ ล้อเล่นน่า มาแล้วก็อยู่สนุกให้เต็มที่” กานต์ว่าพลางขยับมาเต้นข้าง ๆ เธอ
เจหัวเราะออกมาเบา ๆ ความกดดันจากสายตาที่เธอรู้สึกก่อนหน้านี้ค่อย ๆ จางหายไป เมื่ออยู่ในวงล้อมของเพื่อน ๆ ที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ
ไม่นานนัก จังหวะดนตรีในผับเปลี่ยนเป็นเพลงช้า แสงไฟหลากสีที่เคยสว่างจ้าค่อย ๆ หรี่ลงจนกลายเป็นโทนสลัว บรรยากาศรอบตัวพลันโรแมนติกขึ้นมาโดยปริยาย
กานต์มองหน้าเจยิ้มๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“สโลว์หน่อยมะ?”
เจหัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบรับ
“ได้สิพี่” เธอยกมือขึ้นโอบรอบคอของเขาอย่างไม่คิดอะไร ขณะที่กานต์วางมือโอบเอวเธอไว้อย่างหลวม ๆ
เสียงเพลงช้าดังก้องในบรรยากาศที่ดูเหมือนจะหยุดนิ่งเป็นพิเศษ เจกับกานต์ขยับตัวไปตามจังหวะเพลงอย่างผ่อนคลาย
“สิ้นเดือนนี้ต้องลงทัวร์นาเมนต์เก็บอารีน่าอีกละดิ คิดว่ากิลด์เราจะชนะมั้ย?” กานต์กระซิบถามข้างหูเจ
“ชนะอยู่แล้ว” เจตอบพลางหัวเราะเบา ๆ น้ำเสียงมั่นใจของเธอทำให้กานต์หัวเราะตาม
แต่บรรยากาศที่เหมือนจะดำเนินไปด้วยความเรียบง่าย กลับถูกขัดจังหวะด้วยเงาร่างของใครบางคนที่เดินตรงเข้ามาอย่างแน่วแน่
“ขอโทษครับ”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านข้าง ทำให้เจและกานต์ชะงัก เธอหันไปตามเสียง และสิ่งที่เห็นทำให้เธอหยุดนิ่ง
แทนไทยืนอยู่ตรงนั้น ร่างสูงสง่าเต็มไปด้วยออร่าที่ดึงดูดทุกสายตา เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำพอดีตัว เนื้อผ้าคุณภาพดีแนบไปกับกล้ามเนื้อแกร่งกำลังดี เพิ่มเสน่ห์ที่ดูสุขุมแต่ทรงพลัง กระดุมเม็ดบนถูกปลดออกหนึ่งเม็ด เผยให้เห็นลำคอและช่วงอกที่ล่ำสันพอเหมาะ
กางเกงสแลคสีดำสนิทที่ตัดเย็บอย่างประณีตเข้าคู่กับรองเท้าหนังขัดเงาสมบูรณ์แบบ ใบหน้าคมเข้มของเขายิ่งดูโดดเด่นในแสงไฟสลัวของงาน ผมสีน้ำตาลเข้มถูกเซ็ตอย่างมีสไตล์ เพิ่มความเนี้ยบ แต่ยังแฝงด้วยเสน่ห์แบบดิบ ๆ
สายตาคมกริบของเขาจับจ้องมาที่เจโดยตรง ราวกับเธอคือคนเดียวในห้องที่เขามองเห็น
เขาดูดีจนน่าหวั่นใจ...
“ผมขอเต้นกับเธอได้มั้ย?” แทนไทเอ่ย เสียงของเขาเยือกเย็นและหนักแน่น
กานต์เลิกคิ้วเล็กน้อย เขามองแทนไทอย่างสงสัย แต่ก็ยิ้มออกมาเบา ๆ ก่อนจะปล่อยมือออกจากเอวของเจ
“เอาสิ ฝากเจด้วยนะ” กานต์พูดด้วยน้ำเสียงติดขำเล็กน้อย ก่อนจะก้าวถอยออกไป
เจอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ยังไม่ทันได้เอ่ย แทนไทก็ก้าวเข้ามาใกล้ เธอรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
“มือ” เขายื่นมือออกมา น้ำเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยความเด็ดขาด
เจลังเลอยู่ชั่วขณะ แต่ราวกับร่างกายของเธอตอบสนองไปเอง มือเรียวถูกยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่แทนไทจะคว้ามือของเธอไว้ ดึงมันไปโอบรอบคอของเขา
เขาโอบเอวของเธอแนบแน่นยิ่งขึ้น ร่างบางของเธอถูกดึงเข้ามาใกล้จนไม่มีช่องว่างระหว่างพวกเขา กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากตัวเขาอบอวลจนเธอรู้สึกเหมือนหายใจติดขัด
จังหวะดนตรีช้า ๆ ดำเนินต่อไป พวกเขาขยับตัวไปตามเพลง ท่ามกลางสายตาของผู้คนในผับที่หันมามองด้วยความสนใจ
“เมื่อวาน ทำไมรีบกลับ?” แทนไทเอ่ยถามเสียงต่ำ ขณะมองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“เอ่อ..ก็คุณ..”
“พี่”
“คะ?” เจขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเขาด้วยความสงสัย
“เรียกฉันว่า พี่” เขาพูดช้า ๆ น้ำเสียงจริงจัง
“แต่...”
“เร็วสิ” แทนไทกระชับวงแขนที่โอบเอวเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดข้างแก้ม
“ไม่งั้น...อาจโดนเหมือนเมื่อวาน” ประโยคหลังเขากระซิบชิดข้างหูเธอ น้ำเสียงแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์
ดวงตาคู่สวยของเจเบิกกว้าง ใบหน้าร้อนผ่าววูบวาบ หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา
“อย่านะคะ คุณ..เอ่อ พี่แทนไท” เธอรีบเปลี่ยนสรรพนามทันที พยายามดึงตัวออก แต่กลับถูกวงแขนของเขารัดแน่นกว่าเดิม
“ดีมาก” ริมฝีปากสวยยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงต่ำอีกครั้ง
“พี่แทนเฉย ๆ ก็พอ”
เจเม้มริมฝีปากแน่น ความใกล้ชิดของเขาทำให้เธอรู้สึกทั้งตื่นเต้นและสับสน หัวใจของเธอเต้นแรงเสียจนเธอกลัวว่าเขาจะได้ยิน
เสียงบรรเลงเปียโนแผ่วเบาของ Canon in D คลอเคลียไปกับบรรยากาศแสนโรแมนติกของ Aurora Grand Hall สถานที่จัดงานแต่งงานสุดหรูที่ถูกตกแต่งอย่างงดงามเหนือคำบรรยายภายในฮอลล์กว้างใหญ่ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีขาวนวล สลับกับสีพีชและทองอย่างลงตัว ซุ้มดอกไม้ที่ตกแต่งด้วย ไลแลค และ ไฮเดรนเยีย ส่งกลิ่นหอมละมุนชวนให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย แสงไฟจากแชนเดอเลียร์คริสตัลที่ห้อยระย้าอยู่เหนือศีรษะส่องประกายระยิบระยับ เพิ่มความหรูหราให้กับงานราวกับงานราตรีในเทพนิยายพรมยาวสีงาช้างทอดตัวจากประตูทางเข้าจรดแท่นพิธี สองข้างทางเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญ ทุกสายตาจับจ้องไปยังประตูทางเข้า—ที่ซึ่งช่วงเวลาสำคัญของงานกำลังจะเริ่มขึ้นบนเวทีหลัก มีจอ LED ขนาดใหญ่กำลังฉายภาพของคู่บ่าวสาว ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาพบกัน จนถึงวันที่พวกเขาก้าวข้ามทุกอุปสรรคและยืนเคียงข้างกันในวันนี้—วันที่พวกเขาจะเริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกัน—และแล้ว ประตูบานใหญ่ก็ค่อยๆ เปิดออก—เสียงบรรเลงดนตรีดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง แขกในงานต่างกลั้นหายใจ เฝ้ารอการปรากฏตัวของเจ้าสาวที่แท่นพิธี เจ้าบ่าว—แทนไทยืนรออยู่ในชุดสูททักซิ
ภายในห้องแต่งตัวของเจ้าสาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลิลลี่และกุหลาบขาวอบอวลไปทั่ว ผสมกับกลิ่นหอมจางๆ ของเครื่องหอมที่จุดไว้เพื่อสร้างบรรยากาศให้สงบและผ่อนคลายแสงแดดยามสายส่องผ่านม่านโปร่งสีขาว กระทบกับชุดเจ้าสาวที่เจสวมใส่อยู่ ชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ตัดเย็บด้วยผ้าซาตินเนื้อนุ่ม แต่งด้วยลูกไม้ปักมือที่แสนประณีต ประดับไข่มุกเม็ดเล็กละเอียดราวกับหยดน้ำค้างต้องแสง กลีบผ้าถูกออกแบบให้พริ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติ สะท้อนแสงวาววับราวกับต้องมนต์เจนั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ผิวเนียนละเอียดของเธอแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ดวงตากลมสวยสะท้อนเงาของตัวเองในกระจก ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบร้อย ปล่อยปอยผมนิดๆ ลงมารับกับกรอบหน้าทำให้ดูอ่อนหวานกว่าเดิมเธอขยับมือสัมผัสชายกระโปรงเบาๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับเพิ่งตระหนักได้จริงๆ ว่าวันนี้...เป็นวันแต่งงานของเธอ“เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแผ่วเบาหลุดออกมา เธอไม่ได้ไม่อยากแต่งงาน... แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปเพียงสามเดือนก่อน ข่าวการหมั้นหมายของเธอกับแทนไทกลายเป็นกระแสใหญ่ ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังจะได้แต่งงานกับเจ้าของบริษัทเ
สามเดือนต่อมา—บรรยากาศภายใน Aurora Convention Hall คึกคักไปด้วยเสียงฮือฮาของเหล่านักข่าวและแฟนเกมที่มารวมตัวกันเพื่องานแถลงข่าวครั้งยิ่งใหญ่ของเมกาเบิร์ธ สตูดิโอบนเวทีหลัก จอ LED ขนาดยักษ์ฉายภาพโลโก้ของเกมใหม่ล่าสุด ‘Helios Online’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ โปรเจกต์ H—เกมออนไลน์ระดับ Next-Gen ที่ใช้เทคโนโลยี Neural AI อันล้ำสมัย ซึ่งสามารถพัฒนาและตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างอัจฉริยะและบุคคลที่กำลังได้รับความสนใจจากทุกสายตาในตอนนี้ คือชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำสง่า ‘แทนไท ไทระ คณิณัตถ์’ ซีอีโอของเมกาเบิร์ธ สตูดิโอเขานั่งอยู่บนเวทีหลัก ข้างๆ กับคณะผู้บริหารและทีมพัฒนา ใบหน้าคมเข้มยังคงสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจแสงแฟลชจากกล้องจำนวนมากสาดส่องมายังเวทีแทนไทนั่งไขว่ห้าง มือข้างหนึ่งจับไมโครโฟน ดวงตาคมจับจ้องไปที่นักข่าวที่กำลังยกมือขอสัมภาษณ์พิธีกรยื่นไมค์ให้กับนักข่าวคนแรก“คุณแทนไท โปรเจกต์ H หรือ Helios Online เป็นเกมที่ใช้ AI ขั้นสูง ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีใหม่ของวงการเกมออนไลน์ คุณช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไหมครับ?”แทนไทพยักหน้าช้าๆ ก่อนตอบเสียงเรียบแต่หนักแน่น“Helios
ภายในห้องทำงานของแทนไท กลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ลอยอวลในอากาศ แต่บรรยากาศกลับเย็นยะเยือกจนน่าขนลุกชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาหนังสีดำ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ที่กำลังรายงานข่าว การหายตัวไปของบุคคลสำคัญในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี“คริส วอลตัน ผู้บริหารระดับสูงของนีโอนิกซ์ หายตัวไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางการกำลังเร่งติดตามตัว— “ซันที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะทำงาน พึมพำขึ้นขณะโยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะกระจกเสียงดัง“หมอนั่นหายตัวไปเหรอ?”“ก็ไม่แปลก” คินเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ หยิบแก้วเหล้าขึ้นจิบด้วยสีหน้าเรียบเฉย“คนอย่างมัน พอรู้ว่าทางการกำลังจ้องเล่นงาน ก็คงเตรียมแผนหนีไว้อยู่แล้ว”แทนไทเหยียดยิ้มบางๆ แต่ในดวงตามีเพียงความเย็นชา“หนี? คิดว่าไปได้ไกลแค่ไหนกัน?”เขาหยิบมือถือขึ้นมา กดโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง เสียงเรียกสัญญาณดังขึ้นเพียงครั้งเดียว ก่อนจะมีเสียงตอบรับจากปลายสายแทนไทพูดเพียงสั้น ๆ“จัดการตามแผน”ปลายสายเงียบไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะตอบกลับมาเสียงเรียบ “รับทราบครับ”• • • • • • •อีกฟากหนึ่งของโลก—“บ้าชิบ! ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้!?”คริส วอลตัน เดินวนไปมาอยู่ภายในห้องเพนต์เฮา
ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล เสียงเครื่องวัดชีพจรดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจางๆ ลอยอวลในอากาศ แสงไฟสีขาวสะอาดตาทำให้บรรยากาศของห้องดูเงียบเหงาไปถนัดตาซันและคินนั่งอยู่คนละฝั่งของเตียง พวกเขาเฝ้าดูธีรัชที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ ผ้าพันแผลสีขาวบริเวณชายโครงด้านซ้ายของเขา บ่งบอกถึงร่องรอยของกระสุนที่ฝังเข้าไปในร่างกายเขาเกือบตาย—เพราะการตัดสินใจของตัวเองโชคดีที่นำตัวมาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงไปนอนเฝ้ารากมะม่วงแล้ว หมอแจ้งว่า กระสุนไม่โดนอวัยวะสำคัญแต่ก็ทำให้เสียเลือดไปมากกว่าที่คาด ทั้งซันและคินถึงจะได้ยินแบบนั้น แต่ก็ยังไม่วางใจแม้หมอจะบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ทั้งซันและคินก็ยังไม่วางใจกริ๊ก...เสียงเปิดประตูทำให้ทั้งสองเงยหน้าขึ้นทันที“มันยังไม่ตื่นอีกเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากหน้าประตู ก่อนที่ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตดำจะก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตาคมกริบของแทนไทกวาดมองไปยังร่างที่นอนแน่นิ่งบนเตียง ก่อนจะสบตากับซันและคิน“อืม...หมอบอกว่ามันเสียเลือดเยอะ โชคดีที่กระสุนไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ” ซันพูดเสียงเรียบ แต่แฝงความเป็นกังวล“แต่มันก็เกือบไปแล้
ภายในห้องประชุมลับของเมกาเบิร์ธ แทนไทนั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มือข้างหนึ่งเคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังหน้าจอที่กำลังแสดงข้อมูลของ นีโอนิกซ์—บริษัทคู่แข่งที่พยายามเล่นสกปรกกับพวกเขามาตลอดทุกการเคลื่อนไหวของฝั่งนั้นถูกเก็บบันทึกไว้หมดแล้วหลักฐานการว่าจ้างแฮ็กเกอร์ที่พยายามแทรกซึมเข้าระบบ ข้อมูลการโอนเงินระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง—ทุกอย่างอยู่ในมือของพวกเขาแล้วซันนั่งไขว่ห้างอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ เขาใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด ขณะที่คินนั่งเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ กอดอกแน่น พลางจ้องมองหน้าจอที่ฉายเอกสารลับต่างๆ“เราได้ข้อมูลที่ต้องการหมดแล้ว” ซันเป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและจริงจัง“ไอ้พวกนั้นคิดว่าแผนมันยังไม่แตก” คินเสริมเสียงเรียบ ก่อนจะกระตุกยิ้มเย็นแทนไทละสายตาจากหน้าจอ ดวงตาคมกริบเปล่งประกายเจ้าเล่ห์“เพราะงั้น...” เขาหยุดเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“ได้เวลา ‘ส่งคืน’ แล้วล่ะ”ซันกับคินสบตากันทันที—พวกเขารู้ดีว่า แทนไทหมายถึงอะไรแทนไทยิ้มเย็นขณะเลื่อนสายตาอ่านแผนตอบโต้บนไอแพดที่เขาเตรียมการมาอย่างดี เขาหันไปม