Home / โรแมนติก / โอบฟ้ามาห่มดิน / บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 100%

Share

บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 100%

last update Last Updated: 2025-05-24 19:05:32

คนถูกถามทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถามกลับมา

“แล้วอยากไปไหนล่ะ”

คราวนี้พราวนภาหันไปหาชายหนุ่มทั้งตัวแล้วตอบด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“พราวอยากดูหนัง มีหนังแฟนตาซีเข้าใหม่ด้วย พี่ดินไปดูกับพราวนะ”

นฤบดินทร์หันไปมองหญิงสาวครู่หนึ่งแล้วรีบละสายตาไปมองถนนด้วยความรวดเร็ว วันนี้พราวนภาอยู่ในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดความยาวเสมอเข่า เวลานั่งชายกระโปรงจึงร่นขึ้นไปเล็กน้อย แต่เมื่อครู่ที่เธอนั่งตะแคงเพื่อหันมาทางเขาทั้งตัว ชายกระโปรงของเธอจึงร่นขึ้นสูงไปอีก เขาจึงไม่กล้าหันไปมองเธอนานนัก

เมื่อก่อนเวลาที่เห็นพราวนภานุ่งกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น เขาก็ไม่เคยรู้สึกอะไรเพราะเห็นจนชินตา ทว่าตั้งแต่หญิงสาวขึ้นมัธยมปลายมา เวลาเธอเอาตัวมาอยู่ใกล้ ๆ หรือสัมผัสเนื้อตัวกันแม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขารู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวอย่างบอกไม่ถูก และดูเหมือนว่าอาการนี้จะยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที จนเขากลัวว่าจะเผลอลืมตัวเข้าสักวัน ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้จึงมีเพียงอยู่ให้ห่างจากพราวนภาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

แต่เพราะบ้านอยู่ติดกัน ต่อให้เขาหลบหน้าเธอเท่าไร หญิงสาวก็มักเอาหน้าใส ๆ ที่มีรอยยิ้มเจิดจ้ากับแก้มบุ๋มน่ารักมาโผล่ให้เขาเห็นอยู่เสมอ หรือไม่ก็หากเธอมาค้างบ้านมารดาหลายวันแล้วไม่ได้เจอกัน พราวนภาก็มักโทรศัพท์มาคุยด้วย ไม่เคยขาดการติดต่อ ทว่าครั้งนี้เธอเงียบหายไป สุดท้ายก็ต้องเป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายมาหาเธอบ้าง

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาต้องหนีไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะหากยังอยู่ในจุดที่สามารถไปมาหาสู่กันได้ต่อไป เขาไม่กล้ามั่นใจตัวเองเลยว่าจะอดทนอดกลั้นได้หรือเปล่า

และแน่นอนว่าการไปนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ด้วยกันสองคนนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง

“ไม่เอาไม่อยากดู ไปหาอะไรกินดีกว่า” เขาปฏิเสธเสียงเรียบ

“อีกละ ทุกทีเลย” พราวนภาทำหน้าง้ำพลางกลับไปนั่งตัวตรงตามเดิม กระนั้นก็ยังไม่วายเหล่มองชายหนุ่มด้วยหางตา แต่พอไม่เห็นเขาหันมาให้ความสนใจเธอจึงสะบัดหน้าหันไปมองวิวข้างทางแทน

ซึ่งพอหญิงสาวหันไปแล้ว นฤบดินทร์จึงค่อยเหลือบมองอีกฝ่ายพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก

รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำเลี้ยวเข้าไปในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองซึ่งเป็นย่านที่การจราจรติดขัดที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ พราวนภาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจพลางหันไปมองคนที่กำลังใช้มือขวาข้างเดียวหมุนพวงมาลัยเพื่อจอดรถเข้าซอง เธอรู้ดีว่าคนอย่างนฤบดินทร์นั้นไม่ค่อยชอบการเข้ามาในย่านธุรกิจเท่าไรนักเนื่องจากเขาเบื่อการจราจร

“นึกยังไงถึงมาที่นี่ละ ปกติพี่ดินไม่ชอบมาแถวสยามนี่นา” ก่อนหน้านี้เธอมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจึงไม่ทันสังเกตสองข้างทางว่าเขาขับพามาถึงย่านสยามสแควร์ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้ามาในห้างสรรพสินค้าแล้ว

“นาน ๆ มาที” เขาตอบสั้น ๆ เช่นเคยก่อนจะพยักหน้าชวนเธอลงจากรถ

ขณะที่เดินผ่านประตูเข้าไปในห้างสรรพสินค้า พราวนภาอดหลุบตามองมือของชายหนุ่มไม่ได้ เธออยากรู้ว่าหากตนถือวิสาสะทำหน้ามึนไปจับมือเขา ไม่รู้ว่านฤบดินทร์จะทำหน้าอย่างไรบ้าง

ทว่าเหมือนชายหนุ่มล่วงรู้ความคิดของพราวนภา จู่ ๆ เขาก็เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงไปเสียดื้อ ๆ ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่แอบยู่หน้าด้วยความเสียดาย

“หิวรึยัง” เสียงทุ้มถามขึ้นเหนือศีรษะ พราวนภาจึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า

“ตอนนี้ยัง พี่ดินหิวแล้วหรือ” หญิงสาวเงยหน้าถามเขา แต่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เอี้ยวตัวมาทางด้านหลังของเธอด้วยความรวดเร็ว ทำให้ต้นแขนของเขากระแทกหลังของเธอเบา ๆ จากนั้นก็ได้ยินเสียงผู้ชายชาวต่างชาติเอ่ยปากขอโทษอยู่สองสามครั้งจนพราวนภาต้องหันไปมอง แต่ก็เห็นเพียงแผ่นหลังของผู้ชายคนนั้นเดินจากไป

“มีอะไรหรือพี่ดิน”

“ไม่มีอะไรหรอก เมื่อกี้เขาเกือบเดินชนพราวน่ะ" เขาตอบพลางเริ่มก้าวเดินอีกครั้ง ขณะที่คนฟังหัวใจพองโตขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าชายหนุ่มอุตส่าห์เอาตัวเองไปกันไว้ไม่ให้เธอถูกผู้ชายต่างชาติคนนั้นชน

“ตกลงเราจะไม่ดูหนัง...” พราวนภาพูดได้แค่นั้นก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อนฤบดินทร์พาเธอมาหยุดอยู่ตรงลานกิจกรรมของทางห้างฯ ซึ่งกำลังจัดงานแสดงสินค้าและของใช้เกี่ยวกับ Teddy Bear

“เท็ดดี้แบร์!” พราวนภาร้องออกมาอย่างตื่นเต้นพลางเอามือไปเกาะแขนของชายหนุ่มแล้วเขย่าอย่างลืมตัว

“พี่ดินพาหนูพราวมางานเท็ดดี้นี่เอง พี่ดินน่ารักที่สุดเลย” เธอยิ้มไม่หุบเพราะหมีเท็ดดี้เป็นของสะสมสุดโปรดของเธอมาตั้งแต่เด็ก และคนที่ทำให้เธอชอบเท็ดดี้แบร์ก็คือผู้ชายตรงหน้าคนนี้

นฤบดินทร์ยิ้มบาง ๆ พลางใช้หลังนิ้วลูบลักยิ้มบนแก้มซ้ายของพราวนภาอย่างลืมตัว ครั้นพอนึกขึ้นได้เขาก็รีบเอามือลงทันที

“เข้าไปดูสิ อยากได้อะไรก็บอก น้าจ่ายให้เอง”

พราวนภาได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มร่าพลางก้าวเท้าเร็ว ๆ เข้าไปในงานทันที ขณะที่ชายหนุ่มได้แต่เดินตามหลังไปช้า ๆ และไม่เข้าไปรบกวนการเลือกดูหรือชื่นชมสินค้าของเธอ

สายตาของนฤบดินทร์แทบตามติดอยู่ที่พราวนภาตลอดเวลาโดยไม่คิดจะหันไปมองที่อื่น เขาเห็นหญิงสาวยิ้มไม่หุบ ดูมีความสุขเวลาได้อยู่กับสิ่งที่ตนรักก็อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ พราวนภาเป็นคนยิ้มสวย ลักยิ้มที่แก้มของเธอยิ่งเสริมเสน่ห์ให้ดูน่ามองมากขึ้นจนแทบไม่อยากละสายตา เขาเองก็ชอบใช้นิ้วจิ้มลักยิ้มของเธอมาตั้งแต่เด็ก แต่พอเธอโตเป็นสาวเขาจึงต้องพยายามเก็บมือไว้ให้นิ่งที่สุด กระนั้นเมื่อครู่ก็ยังเผลอลืมตัวจนได้

ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าพราวนภาอายุแค่สิบเจ็ดปี แต่เสน่ห์ของเธอกลับมีอิทธิพลล้นเหลือต่อใจเขาจนเกินต้านทาน และถ้าเวลาผ่านไปนานวันเข้า เขาเชื่อว่าเธอจะกลายเป็นหญิงสาวที่พราวเสน่ห์จนหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่พากันตบเท้าเข้าแถวมาขอสานสัมพันธ์แน่นอน

แค่คิดไปว่าลักยิ้มของเธอจะถูกคนอื่นสัมผัส นฤบดินทร์ก็รู้สึกอึดอัดในใจขึ้นมาทันที เขาหวงรอยยิ้มนั่น และหวงทุกอย่างที่เป็นพราวนภา

แต่เขาจะทำอะไรได้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ อีกสามหรือสี่ปีข้างหน้ายังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อถึงเวลานั้น เธออาจจะมีคนรักเป็นตัวเป็นตนไปแล้วก็เป็นได้

นฤบดินทร์แค่คิดเท่านั้น แต่ภาพตรงหน้าที่เขาเห็นคือมีผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพราวนภากำลังยืนคุยกับเธอด้วยท่าทางสนิทสนม อีกทั้งสายตาที่มองหญิงสาวนั้นหวานเชื่อมเสียจนเขาเห็นแล้วไม่สบอารมณ์อย่างแรง!

การกระทำไปไวกว่าสมอง สองเท้าของนฤบดินทร์จึงก้าวยาว ๆ ไปทางคนทั้งคู่ทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทส่งท้าย รักคนอื่นไม่เป็น - 100%

    “เยี่ยมเลยเมียจ๋า” วิเศษยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะ ณ เวลานี้นอกจากเขาจะได้นอนมองภูเขาไฟฟูจิแล้ว ตรงหน้าเขาก็ยังมีสาวเปลือยหุ่นเซ็กซี่มาส่ายบั้นท้ายสวย ๆ สร้างความสุขให้เขาอีกด้วย แม้จะเห็นแค่แผ่นหลังของเธอ แต่แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องมากระทบร่างของหญิงสาวจนทำให้ดูเหมือนร่างทั้งร่างของเธอเปล่งประกายขึ้น ก็ยิ่งทำให้ภาพเบื้องหน้าเขาตอนนี้สวยงามราวกับศิลปะชิ้นเอกสองปีกว่าที่อยู่ในฐานะคู่หมั้น แต่เขากับเธอใช้ชีวิตร่วมกันในคอนโดฯ ไม่ต่างจากสามีภรรยาคู่หนึ่ง จะต่างก็แค่พราวนภาไม่ได้นอนค้างกับเขาเพราะต้องกลับไปนอนที่บ้าน เขาเองก็เช่นกันที่ต้องกลับไปนอนบ้านของตัวเอง นอกเหนือจากนั้นเราสองคนต่างดูแลกันและกันเป็นอย่างดีเขาคอยเป็นที่ปรึกษาให้พราวนภาทั้งเรื่องการเรียน การทำงาน รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ทั่วไป ให้เงินเธอใช้ และดูแลให้เธอสุขสบายเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ ส่วนพราวนภาก็คอยมาดูแลทำความสะอาดห้องในคอนโดฯ ให้เขา ทำกับข้าวให้กิน และดูแลเขาในเรื่องอื่น ๆ ไม่ต่างจากภรรยาคนหนึ่งดังนั้นเขาจึงเห็นว่าถ้าพราวนภาเรียนจบเมื่อไรจึงอยากจัดงานแต่งงานทันที เพราะอยา

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทส่งท้าย รักคนอื่นไม่เป็น - 70%

    พราวนภาค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงียจากนั้นก็เดินไปเข้าห้องน้ำราวกับยังไม่ตื่นดี เธอเข้าไปสักพักก็ออกมาด้วยสีหน้าแจ่มใส ตามไรผมมีหยดน้ำเกาะอยู่ประปรายบ่งบอกว่าเจ้าตัวล้างหน้าเพื่อความสดชื่น“พี่ดินทำเสร็จแล้วหรือ” หญิงสาวมองไปยังคอมพิวเตอร์ที่วางเรียงรายกันหกเครื่องแล้วก็ห่อปากทำตาโต“โห อย่างกับฐานปฏิบัติการในซีรีส์ฝรั่งเลย แต่พี่ต้องรอให้เขามาติดอินเทอร์เน็ตให้ก่อนใช่ไหม”“ใช่ แต่ทำเรื่องขอไปแล้วละ รอเขาติดต่อกลับมา พราวหิวรึยัง แล้วทำไมดูเหมือนเดินขาสั่น ๆ ล่ะ”เขาแกล้งถามทั้งที่รู้ดีแก่ใจ วันนี้เขาให้หญิงสาวขึ้นคุมเกมทั้งควบทั้งขย่มได้ตามต้องการ เธอเร่าร้อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเขาก็ชอบมากที่หญิงสาวปลดปล่อยอารมณ์ปรารถนาออกมาอย่างเต็มที่ คู่หมั้นของเขาแซ่บลืมโลกขนาดนี้แล้วทำไมเขาต้องรับไมตรีจากผู้หญิงคนอื่นมาทำให้ชีวิตคู่ของเขาต้องวุ่นวายอีกเล่า“ยังจะถามอีกนะ” เธอหันมาค้อนให้วงใหญ่ก่อนจะพูดอีกว่า“พราวไม่คิดมาก่อนเลยนะว่าคนนิ่ง ๆ แบบพี่ดินจะหื่นจัดได้ขนาดนี้”นฤบดินทร์ห

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทส่งท้าย รักคนอื่นไม่เป็น - 35%

    “พี่ดิน เดี๋ยวพี่ รอผมก่อน” เสียงห้าวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งในหมู่บ้านตะโกนเรียกมาแต่ไกล ทำให้นฤบดินทร์ต้องหยุดรออย่างเสียไม่ได้ เมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นวิ่งมาถึงก็ยื่นช่อดอกกุหลาบช่อเล็กที่มักทำขายกันในวันวาเลนไทน์มาให้เขาแล้วพูดว่า“ผมฝากให้พราวหน่อยสิพี่ วันนี้ขี่จักรยานผ่านหลายรอบแล้วแต่ก็ไม่เห็นพราวออกจากบ้านเลย นะพี่นะ”นฤบดินทร์ยืนเท้าเอวมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องทันที “นี่ไอ้อั๋น มึงเอากลับไปเลยนะ หรือจะเอาไปให้สาวที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่พราว น้องมันเพิ่งอยู่ม.สองมึงจะมาให้ดอกไม้บ้าบออะไรเนี่ย เดี๋ยวกูเตะให้เลย”“โธ่พี่ผมไหว้ล่ะ ผมชอบพราวจริง ๆ นะแต่ผมไม่กล้าเอาไปให้ที่บ้าน ผมกลัวพ่อเขาน่ะ” อั๋นยิ้มแหยเมื่อพูดถึงบิดาของพราวนภานฤบดินทร์ทำทีเป็นหักนิ้วดังเป๊าะ ๆ พลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยว่า “แล้วมึงไม่กลัวกูรึไง กูก็มีศักดิ์เป็นน้าของพราวนะเว้ยมึงอย่าลืม หลานกูยังเด็ก โอเค้ มึงไปไกล ๆ ตีนกูเลยก่อนที่กูจะของขึ้น”“โธ่พี่ จะหวงไว้กินเองรึไงเนี่ย เหวอ!”

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 27 หนุ่มออฟฟิศ - 100%

    “ไม่จริงมั้งพี่ต่าย วันก่อนผมเห็นนะว่าพี่ควงสาวไปกินซูชิน่ะ สาวคนนั้นก็หน้าคุ้น ๆ ซะด้วยสิเหมือนว่าจะทำงานที่นี่เหมือนกันด้วยนี่นา” เขาพูดไปแค่นั้น ในแผนกก็ฮือฮาขึ้นทันที ต่างพากันรุมถามกันยกใหญ่ว่าหญิงสาวที่ต่ายพาไปออกเดตนั้นคือใคร แต่นฤบดินทร์ไม่ตอบเพราะต้องการให้เจ้าตัวพูดเอง“แหมไอ้นี่ พี่อุตส่าห์แกล้งทำเป็นไม่เห็นแกกับสาวนักศึกษาคนนั้นแล้วนะ แต่แกเสือกเห็นพี่ด้วยหรือวะ” ต่ายพูดไปยิ้มไป ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย“เห็นสิพี่ ผมยังชี้ให้แฟนผมดูเลยว่านั่นน่ะรุ่นที่พี่แผนก ส่วนสาวคนนั้นก็...พวกพี่ไปสอบถามกันเองละกันนะ ผมพับไมค์ละ” เขาเว้นเอาไว้เพราะจะให้ทุกคนไปถามกับเจ้าตัวเลยดีกว่าหลังจากเลิกงาน นฤบดินทร์รีบไปที่คอนโดมิเนียมที่ตนซื้อเอาไว้เพราะช่างโทรศัพท์มาแจ้งว่าเดินสายไฟเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว และอยากให้เขาเข้าไปตรวจเช็กความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่งเมื่อตรวจดูและทดสอบทุกจุดแล้วไม่มีปัญหา อีกทั้งช่างก็เก็บงาน และทำรางเก็บสายไฟเอาไว้ให้ด้วยทำให้นฤบดินทร์พอใจมาก จึงโอนเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือให้ช่างทันที ครา

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 27 หนุ่มออฟฟิศ - 70%

    “เพิ่งซื้อเมื่อไม่กี่วันนี่เอง เป็นคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่น่ะ ความจริงแล้วพี่ซื้อดาวน์ต่อมาจากคนอื่นเพราะเขาผ่อนต่อไม่ไหว จะเอาไว้แอบกินอีหนูคนนี้นี่แหละเพราะมีอยู่คนเดียวเนี่ย” เขายื่นหน้าไปจูบริมฝีปากอิ่ม“พรุ่งนี้พี่ต้องไปทำงานแล้วนะ พราวคงต้องติดรถพ่อไปเรียนเหมือนเดิมแล้วละ”“อืม แต่คุณตากับคุณยายยังไม่รู้เลยใช่ไหมว่าพี่ได้งานทำแล้ว” พราวนภายังคงติดเรียกบิดามารดาของเขาว่าคุณตาคุณยายอยู่ แต่เขาก็ไม่อยากเคี่ยวเข็ญว่าต้องเปลี่ยน เอาที่เธอสบายใจดีกว่า“ใช่ อยากเห็นจริง ๆ ว่าพรุ่งนี้จะทำหน้ากันยังไง คงเหวอน่าดู” เขาหัวเราะคิกคัก คนอื่นอาจจะชอบแกล้งเพื่อนแกล้งแฟน แต่เขาชอบแกล้งบิดามารดาของตัวเอง“คอนโดฯ ที่พี่ดินซื้ออยู่แถวที่ทำงานหรือ” หญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนอนคว่ำแล้วยกตัวช่วงบนขึ้น ส่งผลให้ทรวงอกกลมกลึงชูช่ออะร้าอร่ามอวดสายตาจนชายหนุ่มได้แต่มองตาปรอย“ใช่ เพราะบ้านพี่มันไม่มีพื้นที่สำหรับทำห้องทำงานน่ะ บ้านพี่หลังเล็กไม่ใหญ่เหมือนบ้านพราวก็เลยต้องออกมาซื้อข้างนอกไว้ทำออฟฟิศส่

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 27 หนุ่มออฟฟิศ - 35%

    บิดามารดาของนฤบดินทร์มองดูบุตรชายที่กำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาในห้องรับแขกอย่างไม่ทุกข์ร้อน ตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอกจนกระทั่งหมั้นกับสาวข้างบ้านไปแล้วเรียบร้อย เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าจะออกไปหางานทำอย่างที่ควรจะเป็น จนในที่สุดผู้เป็นบิดาก็ทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยปากถามออกไปในที่สุด“ไอ้ดิน นี่แกไม่คิดจะออกไปหางานหาการทำรึไงเนี่ย แกจะเอ้อระเหยเกินไปแล้วนะ”“ไว้ก่อนครับ ขี้เกียจ” เจ้าตัวตอบมาสั้น ๆ พลางหยิบขนมในจานมากินทั้งที่ยังนอนอยู่“ตาดิน แกจะทำตัวอย่างนี้ไม่ได้นะลูก เรามีคู่หมั้นคู่หมายแล้วนะ นี่ถ้าบ้านโน้นเขาเห็นแกยังนอนไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่ยอมออกไปหางานทำเขาจะคิดยังไง” ผู้เป็นมารดาเอ่ยปากเตือนขึ้นมาบ้าง เพราะกิจวัตรประจำวันของบุตรชายตอนนี้นอกจากไปรับส่งคู่หมั้นสาวที่มหาวิทยาลัยทุกวันแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอีกนอกจากนอนดูโทรทัศน์“เอาน่า ถ้าผมอยากไปหางานทำเมื่อไรเดี๋ยวก็ไปเองนั่นแหละ พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงหรอก” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ ยิ่งได้ยินบิดามารดาบ่นกันตามประสาคนแก่ เขาก็แทบกลั้นขำไม่ไหว นั่นเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status