Home / โรแมนติก / โอบฟ้ามาห่มดิน / บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 100%

Share

บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 100%

last update Last Updated: 2025-05-24 19:05:32

คนถูกถามทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถามกลับมา

“แล้วอยากไปไหนล่ะ”

คราวนี้พราวนภาหันไปหาชายหนุ่มทั้งตัวแล้วตอบด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“พราวอยากดูหนัง มีหนังแฟนตาซีเข้าใหม่ด้วย พี่ดินไปดูกับพราวนะ”

นฤบดินทร์หันไปมองหญิงสาวครู่หนึ่งแล้วรีบละสายตาไปมองถนนด้วยความรวดเร็ว วันนี้พราวนภาอยู่ในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดความยาวเสมอเข่า เวลานั่งชายกระโปรงจึงร่นขึ้นไปเล็กน้อย แต่เมื่อครู่ที่เธอนั่งตะแคงเพื่อหันมาทางเขาทั้งตัว ชายกระโปรงของเธอจึงร่นขึ้นสูงไปอีก เขาจึงไม่กล้าหันไปมองเธอนานนัก

เมื่อก่อนเวลาที่เห็นพราวนภานุ่งกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น เขาก็ไม่เคยรู้สึกอะไรเพราะเห็นจนชินตา ทว่าตั้งแต่หญิงสาวขึ้นมัธยมปลายมา เวลาเธอเอาตัวมาอยู่ใกล้ ๆ หรือสัมผัสเนื้อตัวกันแม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขารู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวอย่างบอกไม่ถูก และดูเหมือนว่าอาการนี้จะยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที จนเขากลัวว่าจะเผลอลืมตัวเข้าสักวัน ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้จึงมีเพียงอยู่ให้ห่างจากพราวนภาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

แต่เพราะบ้านอยู่ติดกัน ต่อให้เขาหลบหน้าเธอเท่าไร หญิงสาวก็มักเอาหน้าใส ๆ ที่มีรอยยิ้มเจิดจ้ากับแก้มบุ๋มน่ารักมาโผล่ให้เขาเห็นอยู่เสมอ หรือไม่ก็หากเธอมาค้างบ้านมารดาหลายวันแล้วไม่ได้เจอกัน พราวนภาก็มักโทรศัพท์มาคุยด้วย ไม่เคยขาดการติดต่อ ทว่าครั้งนี้เธอเงียบหายไป สุดท้ายก็ต้องเป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายมาหาเธอบ้าง

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาต้องหนีไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะหากยังอยู่ในจุดที่สามารถไปมาหาสู่กันได้ต่อไป เขาไม่กล้ามั่นใจตัวเองเลยว่าจะอดทนอดกลั้นได้หรือเปล่า

และแน่นอนว่าการไปนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ด้วยกันสองคนนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง

“ไม่เอาไม่อยากดู ไปหาอะไรกินดีกว่า” เขาปฏิเสธเสียงเรียบ

“อีกละ ทุกทีเลย” พราวนภาทำหน้าง้ำพลางกลับไปนั่งตัวตรงตามเดิม กระนั้นก็ยังไม่วายเหล่มองชายหนุ่มด้วยหางตา แต่พอไม่เห็นเขาหันมาให้ความสนใจเธอจึงสะบัดหน้าหันไปมองวิวข้างทางแทน

ซึ่งพอหญิงสาวหันไปแล้ว นฤบดินทร์จึงค่อยเหลือบมองอีกฝ่ายพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก

รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำเลี้ยวเข้าไปในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองซึ่งเป็นย่านที่การจราจรติดขัดที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ พราวนภาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจพลางหันไปมองคนที่กำลังใช้มือขวาข้างเดียวหมุนพวงมาลัยเพื่อจอดรถเข้าซอง เธอรู้ดีว่าคนอย่างนฤบดินทร์นั้นไม่ค่อยชอบการเข้ามาในย่านธุรกิจเท่าไรนักเนื่องจากเขาเบื่อการจราจร

“นึกยังไงถึงมาที่นี่ละ ปกติพี่ดินไม่ชอบมาแถวสยามนี่นา” ก่อนหน้านี้เธอมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจึงไม่ทันสังเกตสองข้างทางว่าเขาขับพามาถึงย่านสยามสแควร์ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้ามาในห้างสรรพสินค้าแล้ว

“นาน ๆ มาที” เขาตอบสั้น ๆ เช่นเคยก่อนจะพยักหน้าชวนเธอลงจากรถ

ขณะที่เดินผ่านประตูเข้าไปในห้างสรรพสินค้า พราวนภาอดหลุบตามองมือของชายหนุ่มไม่ได้ เธออยากรู้ว่าหากตนถือวิสาสะทำหน้ามึนไปจับมือเขา ไม่รู้ว่านฤบดินทร์จะทำหน้าอย่างไรบ้าง

ทว่าเหมือนชายหนุ่มล่วงรู้ความคิดของพราวนภา จู่ ๆ เขาก็เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงไปเสียดื้อ ๆ ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่แอบยู่หน้าด้วยความเสียดาย

“หิวรึยัง” เสียงทุ้มถามขึ้นเหนือศีรษะ พราวนภาจึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า

“ตอนนี้ยัง พี่ดินหิวแล้วหรือ” หญิงสาวเงยหน้าถามเขา แต่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เอี้ยวตัวมาทางด้านหลังของเธอด้วยความรวดเร็ว ทำให้ต้นแขนของเขากระแทกหลังของเธอเบา ๆ จากนั้นก็ได้ยินเสียงผู้ชายชาวต่างชาติเอ่ยปากขอโทษอยู่สองสามครั้งจนพราวนภาต้องหันไปมอง แต่ก็เห็นเพียงแผ่นหลังของผู้ชายคนนั้นเดินจากไป

“มีอะไรหรือพี่ดิน”

“ไม่มีอะไรหรอก เมื่อกี้เขาเกือบเดินชนพราวน่ะ" เขาตอบพลางเริ่มก้าวเดินอีกครั้ง ขณะที่คนฟังหัวใจพองโตขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าชายหนุ่มอุตส่าห์เอาตัวเองไปกันไว้ไม่ให้เธอถูกผู้ชายต่างชาติคนนั้นชน

“ตกลงเราจะไม่ดูหนัง...” พราวนภาพูดได้แค่นั้นก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อนฤบดินทร์พาเธอมาหยุดอยู่ตรงลานกิจกรรมของทางห้างฯ ซึ่งกำลังจัดงานแสดงสินค้าและของใช้เกี่ยวกับ Teddy Bear

“เท็ดดี้แบร์!” พราวนภาร้องออกมาอย่างตื่นเต้นพลางเอามือไปเกาะแขนของชายหนุ่มแล้วเขย่าอย่างลืมตัว

“พี่ดินพาหนูพราวมางานเท็ดดี้นี่เอง พี่ดินน่ารักที่สุดเลย” เธอยิ้มไม่หุบเพราะหมีเท็ดดี้เป็นของสะสมสุดโปรดของเธอมาตั้งแต่เด็ก และคนที่ทำให้เธอชอบเท็ดดี้แบร์ก็คือผู้ชายตรงหน้าคนนี้

นฤบดินทร์ยิ้มบาง ๆ พลางใช้หลังนิ้วลูบลักยิ้มบนแก้มซ้ายของพราวนภาอย่างลืมตัว ครั้นพอนึกขึ้นได้เขาก็รีบเอามือลงทันที

“เข้าไปดูสิ อยากได้อะไรก็บอก น้าจ่ายให้เอง”

พราวนภาได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มร่าพลางก้าวเท้าเร็ว ๆ เข้าไปในงานทันที ขณะที่ชายหนุ่มได้แต่เดินตามหลังไปช้า ๆ และไม่เข้าไปรบกวนการเลือกดูหรือชื่นชมสินค้าของเธอ

สายตาของนฤบดินทร์แทบตามติดอยู่ที่พราวนภาตลอดเวลาโดยไม่คิดจะหันไปมองที่อื่น เขาเห็นหญิงสาวยิ้มไม่หุบ ดูมีความสุขเวลาได้อยู่กับสิ่งที่ตนรักก็อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ พราวนภาเป็นคนยิ้มสวย ลักยิ้มที่แก้มของเธอยิ่งเสริมเสน่ห์ให้ดูน่ามองมากขึ้นจนแทบไม่อยากละสายตา เขาเองก็ชอบใช้นิ้วจิ้มลักยิ้มของเธอมาตั้งแต่เด็ก แต่พอเธอโตเป็นสาวเขาจึงต้องพยายามเก็บมือไว้ให้นิ่งที่สุด กระนั้นเมื่อครู่ก็ยังเผลอลืมตัวจนได้

ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าพราวนภาอายุแค่สิบเจ็ดปี แต่เสน่ห์ของเธอกลับมีอิทธิพลล้นเหลือต่อใจเขาจนเกินต้านทาน และถ้าเวลาผ่านไปนานวันเข้า เขาเชื่อว่าเธอจะกลายเป็นหญิงสาวที่พราวเสน่ห์จนหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่พากันตบเท้าเข้าแถวมาขอสานสัมพันธ์แน่นอน

แค่คิดไปว่าลักยิ้มของเธอจะถูกคนอื่นสัมผัส นฤบดินทร์ก็รู้สึกอึดอัดในใจขึ้นมาทันที เขาหวงรอยยิ้มนั่น และหวงทุกอย่างที่เป็นพราวนภา

แต่เขาจะทำอะไรได้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ อีกสามหรือสี่ปีข้างหน้ายังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อถึงเวลานั้น เธออาจจะมีคนรักเป็นตัวเป็นตนไปแล้วก็เป็นได้

นฤบดินทร์แค่คิดเท่านั้น แต่ภาพตรงหน้าที่เขาเห็นคือมีผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพราวนภากำลังยืนคุยกับเธอด้วยท่าทางสนิทสนม อีกทั้งสายตาที่มองหญิงสาวนั้นหวานเชื่อมเสียจนเขาเห็นแล้วไม่สบอารมณ์อย่างแรง!

การกระทำไปไวกว่าสมอง สองเท้าของนฤบดินทร์จึงก้าวยาว ๆ ไปทางคนทั้งคู่ทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 3 ของแทนใจ - 25%

    นฤบดินทร์เดินเข้าไปยืนขนาบข้างพราวนภาแต่สายตาจดจ้องอยู่ที่เพื่อนชายของเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะมองเลยไปที่หญิงสาวโดยไม่พูดอะไร เขาอยากรู้ว่าพราวนภาจะแนะนำเขาให้เพื่อนของเธอรู้จักหรือไม่ และจะแนะนำว่าเขาเป็นพี่ชายข้างบ้านหรือว่าน้าชาย เพราะกับกลุ่มเพื่อนสาวคนสนิทของเธอที่เคยพากันมาให้เขาติวคณิตศาสตร์ให้ พราวนภาแนะนำว่าเขาคือพี่ชายข้างบ้านพราวนภาหันมายิ้มให้เขาก่อนจะพูดกับเพื่อนชายคนนั้นว่า “บีม นี่น้าเราเอง น้าดินนี่บีมค่ะ เรียนที่เดียวกับพราวแต่คนละห้อง”บีมยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้นฤบดินทร์ แต่ชายหนุ่มไม่ได้รับไหว้ เขาแค่พยักหน้าให้เล็กน้อยเท่านั้น แม้กระทั่งรอยยิ้มบาง ๆ ก็ไม่มี ซึ่งความเย็นชานิ่งเฉยของเขาแบบนี้พราวนภาคุ้นเคยดีอยู่แล้วจึงไม่ได้ใส่ใจ หากแต่คนที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรกอย่างบีมนั้นถึงกับวางหน้าไม่ถูก เพราะเขารู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์จากอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน“งั้นเราไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวพวกนั้นมันจะรอ เจอกันตอนเปิดเทอมนะพราว” บีมยิ้มทำท่าจะผละจากไป แต่แล้วเขาก็เดินกลับมาอีกครั้งแล้วพูดกับพราวนภาด้วยท่าทางขัดเขินระคนไม่มั่นใจว่า“

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 100%

    คนถูกถามทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถามกลับมา“แล้วอยากไปไหนล่ะ”คราวนี้พราวนภาหันไปหาชายหนุ่มทั้งตัวแล้วตอบด้วยน้ำเสียงออดอ้อน“พราวอยากดูหนัง มีหนังแฟนตาซีเข้าใหม่ด้วย พี่ดินไปดูกับพราวนะ”นฤบดินทร์หันไปมองหญิงสาวครู่หนึ่งแล้วรีบละสายตาไปมองถนนด้วยความรวดเร็ว วันนี้พราวนภาอยู่ในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดความยาวเสมอเข่า เวลานั่งชายกระโปรงจึงร่นขึ้นไปเล็กน้อย แต่เมื่อครู่ที่เธอนั่งตะแคงเพื่อหันมาทางเขาทั้งตัว ชายกระโปรงของเธอจึงร่นขึ้นสูงไปอีก เขาจึงไม่กล้าหันไปมองเธอนานนักเมื่อก่อนเวลาที่เห็นพราวนภานุ่งกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น เขาก็ไม่เคยรู้สึกอะไรเพราะเห็นจนชินตา ทว่าตั้งแต่หญิงสาวขึ้นมัธยมปลายมา เวลาเธอเอาตัวมาอยู่ใกล้ ๆ หรือสัมผัสเนื้อตัวกันแม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขารู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวอย่างบอกไม่ถูก และดูเหมือนว่าอาการนี้จะยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที จนเขากลัวว่าจะเผลอลืมตัวเข้าสักวัน ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้จึงมีเพียงอยู่ให้ห่างจากพราวนภาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้แต่เพราะบ้านอยู่ติดกัน ต่อให้เขาหลบหน้าเธอเท่าไร หญิงสาวก็มักเอาหน้าใส ๆ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 75%

    “เห็นไหมแก ฉันบอกแล้วว่าแกน่ะง้อเขาและตื๊อเขามากเกินไป แกต้องหัดเล่นตัว ทำเป็นหายหัวไม่ติดต่อเขาไปก่อนแบบนี้แหละ ให้เขาเป็นฝ่ายตามแกบ้าง แกจะได้รู้ไงว่าตกลงเขาคิดยังไงกับแกกันแน่”“เขาส่งข้อความมาหาฉันก่อนแบบนี้แสดงว่าเขาก็คงชอบฉันเหมือนกันใช่ไหมแพม แต่วันนั้นที่ฉันแอบได้ยินเขาคุยกับคุณแม่ เอ่อ พี่สาวเขาน่ะ เขาพูดชัดถ้อยชัดคำเลยนะว่าไม่ได้คิดเกินเลยกับฉัน”“แล้วแกคิดว่าผู้ชายปากหนักอย่างพี่ดินเขาจะยอมรับออกมาโต้ง ๆ รึไงว่าเขาชอบแก ขนาดฉันได้เจอเขาแค่ไม่กี่ครั้งฉันยังรู้เลยว่าเขาเป็นคนยังไง แล้วแกที่ตามเกาะแข้งเกาะขาเขามาตั้งแต่เด็กจะไม่รู้เลยหรือไงยะ”“มันก็ใช่ แต่ฉันก็ไม่แน่ใจ...ว้าย! แก...พี่ดินโทร. มา กรี๊ด! ฉันควรทำไงดี” พราวนภาลุกขึ้นเดินไปมาอยู่ในห้องด้วยความตื่นเต้นเมื่อมีสายเรียกซ้อนเข้ามาจากนฤบดินทร์“ห้ามรับนะแก ปล่อยให้สายตัดไปเลย” ภัทรวีเตือนเพื่อนเสียงเข้มมาตามสาย“แต่ฉันอยากรับนี่นา ไม่ได้คุยกับเขาตั้งสามวันแล้วนะ ฉันคิดถึงพี่ดินน่ะ แค่นี้ก่อนนะแพม เดี๋ยวฉันโทร. ไปใหม่” พูดจบพราวนภาก็ตัดสายจากเพื่อนทันทีโดยไม่ฟังคำทัดทานของอีกฝ่าย จาก

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 50%

    อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน หากทั้งคู่คบหากันตั้งแต่ตอนนี้ และถ้าวันข้างหน้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปเจอคนที่ใช่กว่า สุดท้ายคงไม่พ้นต้องเลิกรา และมองหน้ากันไม่ติดทั้งสองบ้านแน่นอน“เชื่อแม่นะหนูพราว ถ้าหนูกับเขาเป็นเนื้อคู่กันจริง ๆ ยังไงก็ต้องได้อยู่ด้วยกันอีกแน่ แต่ถ้าไม่ใช่ ต่อให้เราดึงดันยังไงมันก็ไม่ใช่อยู่วันยังค่ำ ตอนนี้แม่อยากให้หนูใช้ชีวิตวัยรุ่นให้เต็มที่มากกว่า”พราวนภายิ้มพลางลุกขึ้นนั่งแล้วกอดจันทร์เจ้าอย่างออดอ้อน“ค่ะคุณแม่ หนูพราวเชื่อคุณแม่ค่ะ”แต่แล้วหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มแหยให้ “แต่หนูพราวขอร้องคุณแม่อย่างหนึ่งนะคะ อย่าบอกเรื่องที่หนูชอบพี่ดินให้คุณพ่อกับแม่มะลิรู้เชียวนะ คุณแม่มะลิน่ะไม่เท่าไรหรอกค่ะ แต่คุณพ่อนี่สิถ้ารู้ละก็ระเบิดลงแน่”จันทร์เจ้าหัวเราะเบา ๆ พลางพยักหน้ารับปาก ทั้งที่ตนอยากบอกเหลือเกินว่าทุกคนน่าจะรู้กันหมดแล้ว รวมทั้งภาวิน คุณพ่อจอมหวงนั่นก็ด้วยสองวันถัดมา นฤบดินทร์เดินออกจากห้องน้ำโดยนุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียวเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเปิดตู้เสื้อผ้านั้น เขาก็ได้ย

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 25%

    พราวนภาหยิบผ้านวมมาห่มให้รุ้งจันทราอย่างเบามือเพราะเด็กน้อยค่อนข้างตื่นง่าย เป็นเวลาเดียวกับที่จันทร์เจ้า ผู้เป็นมารดาของรุ้งจันทราเปิดประตูเข้ามาในห้องพอดี หญิงสาวจึงพูดโดยไม่มีเสียงว่า“หลับปุ๋ยแล้วค่ะ”จันทร์เจ้ายิ้มพลางเดินเข้ามาดูบุตรสาวตัวน้อย ก่อนจะทรุดตัวนั่งบนเตียงข้างพราวนภาแล้วพูดว่า“หนูรุ้งน่ะเหมือนหนูพราวตอนเด็ก ๆ เลยนะรู้ไหม ดูสิเนี่ย ชอบเอาตุ๊กตามานอนเรียงเป็นเพื่อนกัน แล้วยังไม่ชอบกินแคร์รอตเหมือนกันอีกด้วย”“แต่ตอนนี้หนูกินแคร์รอตแล้วนะ และกินผักเก่งมากเลยด้วยคุณแม่ก็รู้นี่นา” พราวนภายิ้มกว้างอย่างประจบ ก่อนจะเอนตัวลงนอนหนุนตักผู้เป็นน้า แต่ตนเรียกอีกฝ่ายว่าแม่มาตั้งแต่จำความได้จันทร์เจ้ายิ้มพร้อมกับลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู สายตาที่มองพราวนภายังคงมีแต่ความรักไม่แปรเปลี่ยนแม้ว่าตนจะมีบุตรสาวและบุตรชายของตัวเองแล้วก็ตาม“เป็นอะไรล่ะฮึ จู่ ๆ ก็มาอ้อนแม่” น้ำเสียงอ่อนโยนของจันทร์เจ้า ทำให้พราวนภายกแขนขึ้นโอบเอวอีกฝ่ายไว้“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ หนูพราวแค่รู้สึกว่าอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจัง ไม่อยากโตเป็น

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 1 ความปรารถนาของพราวนภา - 100%

    “ใช่ครับ คนจีบพี่พราวเยอะมากเลย เวลาพีทไปเล่นข้างนอกก็มีแต่คนถามหาพี่พราว เนอะพายเนอะ”“แล้วไปยังไง เรียกแท็กซี่หรือพ่อเราไปส่ง” ชายหนุ่มยังถามต่อ“แท็กซี่ครับ/มีคนมารับค่ะ” สองพี่น้องพูดพร้อมกัน แต่คำตอบไปคนละทางจนทั้งคู่ต่างหันมามองหน้ากันและกัน ขณะที่ผู้เป็นน้าอย่างนฤบดินทร์ได้แต่ถอนหายใจที่คงไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรจากหลานตัวแสบเป็นแน่“ไม่เป็นไร เดี๋ยวน้าไปถามแม่เราเองก็ได้” เขาพูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดโทร. ออก แต่สองพี่สองรีบโบกมือห้ามเป็นพัลวัน“อย่านะคะน้าดิน พี่พราวสั่งเอาไว้ว่าห้ามบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าพี่พราวไปเที่ยวกับแฟน ไม่งั้นคุณพ่อจะดุเอาได้ น้าดินอย่าถามคุณแม่นะคะ ขอร้องล่ะ นะคะน้าดิน” ภัทร์นรินท์ยกมือไหว้ปะหลก ๆ พร้อมกับทำตาสลดอย่างน่าสงสาร ภานุภัทร์เห็นอย่างนั้นจึงทำตามบ้าง“ใช่ครับน้าดิน เห็นใจพวกเราเถอะนะครับ พี่พราวอุตส่าห์ไว้ใจให้พวกเราเก็บความลับ พีทไม่อยากให้พี่พราวถูกดุครับ นะครับน้าดิน”ชายหนุ่มลอบยิ้ม “ก็ได้ ไม่ถามก็ไม่ถาม น้าเข้าบ้านก่อนนะ พวกเราก็เข้าบ้านเถอะ ข้างนอกมันร้อน”เขาเตรียมตัวจะหันหลังกลับ แต่จู่ ๆ หลานสาวตัวดีก็ยื่นมือมากระตุกชายเสื้อเขาเบา ๆ คร

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 1 ความปรารถนาของพราวนภา - 75%

    “แล้วแกล่ะ จะไม่คิดถึงหนูพราวบ้างหรือ” มัลลิกาอมยิ้ม แต่เจ้าตัวกลับขมวดคิ้วมุ่นพลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเคย“คิดถึงทำไม ปกติก็ต่างคนต่างอยู่กันอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันสักหน่อย”“ถามจริง! แกไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์หนูพราวบ้างเลยรึไง สามปีเชียวนะที่จะไม่ได้เจอกัน” มัลลิกายังคงเย้าไม่เลิกจนชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาราวกับหงุดหงิดเต็มทีก่อนพูดว่า“แล้วไง ต่อให้สามปีหรือสามสิบปีก็ไม่มีอะไรแตกต่าง มันก็ชีวิตใครชีวิตมันอยู่แล้ว พี่เลิกชงเถอะ ไม่ได้ผลหรอก”“ชิ!” ไอ้คนปากแข็ง!มัลลิกาเบ้ปากใส่น้องชายด้วยความหมั่นไส้ แค่นี้ก็รู้แล้วว่านฤบดินทร์เองก็ใจหายและคงคิดถึงพราวนภาไม่น้อย แต่ไม่ยอมพูดความจริงออกมา เธอเป็นพี่น้องกับชายหนุ่มตรงหน้ามายี่สิบกว่าปีมีหรือจะเดาใจอีกฝ่ายไม่ออก เพราะหากนฤบดินทร์ไม่สนใจพราวนภาจริง เจ้าตัวก็จะแสดงออกด้วยการนิ่งเฉย ไม่ต่อปากต่อคำมาหลายประโยคแบบนี้แน่“ก็ดี พี่จะได้เลิกกั๊กหนูพราวไว้ให้แก คราวนี้ถ้ามีคนมาจีบหนูพราวอีกพี่จะได้ปล่อยเลยตามเลย ไม่กันท่าไว้ให้แกแล้วเพราะแกเอ็นดูหนูพราวเหมือนน้องสาว โธ่เอ๊ย...นี่พี่เข้าใจผิดไปเองหรือเนี่ย”เมื่อมัลลิกาพูดจบก็ได้รับส

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 1 ความปรารถนาของพราวนภา - 50%

    แม้ช่วงแรกจะเอ่ยปากชม แต่สุดท้ายภาวินก็อดเกทับอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะเมื่อครั้งที่เขาอายุยี่สิบต้น ๆ แม้จะมีปาร์ตี้และเที่ยวกลางคืนบ่อย แต่เขาก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเมามายจนไม่มีสติเลยสักครั้งกว่าสิบปีที่เขารู้จักนฤบดินทร์มาตั้งแต่อีกฝ่ายยังเป็นเด็กวัยรุ่นเลือดร้อนจนกระทั่งเติบโตเป็นชายหนุ่มเต็มตัว เขาเห็นว่าน้องภรรยาคนนี้จัดว่าเป็นผู้ชายที่ครบเครื่องคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหล่อเหลาจนบางมุมแทบจะเรียกได้ว่าสวยด้วยซ้ำ รูปร่างก็สูงโปร่งพอกันกับเขา นิสัยก็เงียบขรึม และมีความสุขุม ทุกอย่างดูดีไปหมดเสียอย่างเดียว สายตาที่มองพราวนภานั้นดูจะร้อนแรงมากเกินไปหน่อยราวกับต้องการกลืนกินบุตรสาวของเขาไปทั้งตัว เขาไม่ชอบเอาเสียเลย!พราวนภายังเด็ก อายุเพิ่งจะสิบเจ็ดปีเท่านั้น ยังไม่จบมัธยมปลายเลย แต่บุตรสาวของเขาดันหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู อีกไม่กี่ปีก็จะเติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง ขณะที่นฤบดินทร์ก็เป็นหนุ่มเต็มตัว และสองคนนี้มักใกล้ชิดกันบ่อยเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นในบ้าน“ทำไงได้ ผมมันพวกคออ่อนซะด้วยสิ” นฤบดินทร์พูดยิ้ม ๆ พลางชะเง้อมองเข้าไปในบ้านของภาวินแล้วพูดว่า“เดี๋ยวผมเอ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 1 ความปรารถนาของพราวนภา - 25%

    ในห้องที่ปิดไฟจนมืดสลัว นอกจากเสียงเครื่องปรับอากาศแล้วก็มีเพียงเสียงสวบสาบของผ้าห่มและเสียงถอนหายใจอย่างแผ่วเบาดังมาจากเตียงนอนหลังใหญ่ ผู้ที่อยู่ใต้ผ้าห่มพลิกตัวไปมาบ่อยครั้งราวกับคนที่กำลังมีเรื่องกลัดกลุ้มเกาะกินใจจนไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้พราวนภานอนลืมตาโพลงท่ามกลางความมืดอยู่บนเตียงนอนของตน หญิงสาวไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาใด แต่คิดว่าน่าจะล่วงเข้าวันใหม่แล้วเพราะก่อนนอนเธอคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทร่วมชั่วโมงกว่า และเพิ่งวางสายไปตอนห้าทุ่มเศษ เนื้อหาของบทสนทนานั้นก็เป็นเรื่องเดิม ๆ คือปรึกษาปัญหาหัวใจ เพราะต่างคนก็ต่างมีชายหนุ่มให้แอบรักเป็นของตัวเองหญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนอนตะแคง สายตาจึงตกที่ตุ๊กตาหมีสองตัวที่นอนเคียงคู่กันอยู่บนพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของเตียง ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ชายหญิงคู่นี้นฤบดินทร์ซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดตอนอายุครบสิบสามปีหมีผู้ชายใส่ชุดเอี๊ยมกางเกงลายสก๊อตสีน้ำเงินกับเสื้อสีขาว หมีผู้หญิงใส่ชุดเอี๊ยมกระโปรงลายสก๊อตสีแดงกับเสื้อสีขาวเช่นกัน เธอรักมันมาก ไม่ว่าจะนอนที่บ้านนี้ หรือบ้านของแม่จันทร์เจ้า ผู้เป็นน้าสาว เธอก็จะนำตุ๊กตาหมีคู่นี้ไปนอนข้างกายด้วยทุก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status