Beranda / โรแมนติก / โอบฟ้ามาห่มดิน / บทที่ 3 ของแทนใจ - 25%

Share

บทที่ 3 ของแทนใจ - 25%

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-25 13:05:49

นฤบดินทร์เดินเข้าไปยืนขนาบข้างพราวนภาแต่สายตาจดจ้องอยู่ที่เพื่อนชายของเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะมองเลยไปที่หญิงสาวโดยไม่พูดอะไร เขาอยากรู้ว่าพราวนภาจะแนะนำเขาให้เพื่อนของเธอรู้จักหรือไม่ และจะแนะนำว่าเขาเป็นพี่ชายข้างบ้านหรือว่าน้าชาย เพราะกับกลุ่มเพื่อนสาวคนสนิทของเธอที่เคยพากันมาให้เขาติวคณิตศาสตร์ให้ พราวนภาแนะนำว่าเขาคือพี่ชายข้างบ้าน

พราวนภาหันมายิ้มให้เขาก่อนจะพูดกับเพื่อนชายคนนั้นว่า “บีม นี่น้าเราเอง น้าดินนี่บีมค่ะ เรียนที่เดียวกับพราวแต่คนละห้อง”

บีมยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้นฤบดินทร์ แต่ชายหนุ่มไม่ได้รับไหว้ เขาแค่พยักหน้าให้เล็กน้อยเท่านั้น แม้กระทั่งรอยยิ้มบาง ๆ ก็ไม่มี ซึ่งความเย็นชานิ่งเฉยของเขาแบบนี้พราวนภาคุ้นเคยดีอยู่แล้วจึงไม่ได้ใส่ใจ หากแต่คนที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรกอย่างบีมนั้นถึงกับวางหน้าไม่ถูก เพราะเขารู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์จากอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

“งั้นเราไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวพวกนั้นมันจะรอ เจอกันตอนเปิดเทอมนะพราว” บีมยิ้มทำท่าจะผละจากไป แต่แล้วเขาก็เดินกลับมาอีกครั้งแล้วพูดกับพราวนภาด้วยท่าทางขัดเขินระคนไม่มั่นใจว่า

“คืนนี้เราขอโทร. หาพราวนะ”

พราวนภางุนงงที่จู่ ๆ อีกฝ่ายบอกว่าจะโทรศัพท์มาคุยด้วย แต่เธอจำได้ว่าไม่เคยให้เบอร์ส่วนตัวกับเพื่อนคนนี้จึงได้แต่พยักหน้าส่ง ๆ ไป ซึ่งหลังจากที่หญิงสาวพยักหน้าให้ บีมก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นก็ยังหันหน้ามามองพราวนภาด้วยรอยยิ้มอยู่เป็นระยะ

นฤบดินทร์มองเหตุการณ์ทุกอย่างตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย หากแต่ในใจนั้นรู้สึกเหมือนมีคลื่นระลอกใหญ่สาดซัดถาโถมอยู่ข้างในจนปั่นป่วนไปทั้งช่องอก

เธอแนะนำกับหมอนั่นว่าเขาคือน้าชาย อีกทั้งยังเรียกเขาว่าน้าอีกด้วย

น่าแปลกที่ก่อนหน้านี้เขาพร่ำบอกให้พราวนภาเรียกเขาว่าน้าอยู่หลายครั้ง แต่เธอไม่เคยเอ่ยปากเรียกแม้แต่ครั้งเดียว ทว่ามาวันนี้พอได้ยินเธอเรียกว่าน้าตามที่เขาเคยต้องการ เขากลับรู้สึกไม่คุ้นชินและฟังขัดหูอย่างบอกไม่ถูก

“ว่าไง ตกลงถูกใจอันไหนบ้าง” เขาพูดพลางหยิบกล่องดนตรีชิ้นหนึ่งขึ้นมาและลองไขลานเพื่อฟังเพลง

“ถูกใจไปหมดเลยพี่ดิน เห็นอันไหนก็อยากได้กลับบ้านไปหมดมีแต่น่ารักทั้งนั้นเลย” พราวนภาหยิบสโนว์โกลบอันหนึ่งขึ้นมา ในลูกแก้วใสนั้นมีหมีเท็ดดี้สองตัวนั่งกอดหัวใจดวงเดียวกันใต้ต้นไม้

ชายหนุ่มหันไปมองหน้าเธอพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกแล้วพูดว่า

“ไม่เรียกน้าแล้วหรือ”

พราวนภาหันมายิ้มจนแก้มบุ๋ม เขาเห็นแล้วอยากใช้นิ้วจิ้มลักยิ้มนั่นแต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้

“แล้วพี่ดินอยากให้พราวเรียกอะไรล่ะ น้าดินหรือพี่ดิน” เธอเขย่งยืนบนปลายเท้าเพื่อให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับเขา แต่ทว่าก็ยังเตี้ยกว่าอยู่ดี ชายหนุ่มมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของพราวนภา แววตาของเธอยังเจือความรู้สึกอ่อนหวานที่มีต่อเขาอยู่ จึงตอบไปว่า

“ก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าอยากให้เรียกว่าอะไร ยังจะถามอีก”

พราวนภายู่หน้าใส่เขา “ไม่เอา จะเรียกพี่ดินอย่างนี้แหละไม่ยอมเปลี่ยนหรอก”

นฤบดินทร์ลอบยิ้ม เห็นชัดเลยว่าเมื่อครู่นี้หญิงสาวแค่จงใจอยากแกล้งเขาเล่นเท่านั้นเอง ถึงได้แนะนำว่าเขาเป็นน้ากับเพื่อนที่โรงเรียน

“อยากได้ชิ้นไหนบ้างก็บอกพนักงานเขาละกัน แล้วตอนจะจ่ายเงินก็โทร. มาเรียกน้านะ” พูดจบ ชายหนุ่มก็ทำท่าจะผละจากไป แต่พราวนภาเอื้อมไปคว้าข้อมือของชายหนุ่มได้ก่อน

“พี่ดินจะไปไหน”

นฤบดินทร์บุ้ยหน้าไปทางด้านขวามือแล้วตอบว่า “จะไปซื้อกาแฟกินสักหน่อย เราจะเอาอะไรรึเปล่า”

พราวนภาส่ายหน้าพร้อมกับปล่อยข้อมือของเขาให้เป็นอิสระ “ไม่เอาค่ะ งั้นพราวเดินดูของในงานรอพี่นะ”

ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินออกจากลานกิจกรรมไปโดยมีสายตาของหญิงสาวมองตามหลังไปตลอดจนกระทั่งร่างสูงโปร่งของนฤบดินทร์กลืนหายไปกับกลุ่มคนแล้ว เธอจึงเดินเลือกสินค้าในงานต่อ

นฤบดินทร์ไม่ได้แวะร้านกาแฟอย่างที่บอก แต่ชายหนุ่มขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสามของห้างสรรพสินค้าโซนพลาซ่า จากนั้นก็ก้าวยาว ๆ ไปยังร้านขายของสะสม และของประดับตกแต่งบ้านร้านหนึ่ง

เขาเสิร์ชเจอร้านนี้โดยบังเอิญจากอินเทอร์เน็ตเมื่อปลายปีที่แล้ว เพราะตั้งใจจะหากล่องดนตรีสวย ๆ สักชิ้นให้พราวนภา ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีหมีเท็ดดี้เป็นส่วนประกอบหลัก และร้านนี้ก็มีของสะสม และของหายากจากทั่วทุกมุมโลกมาจำหน่าย ตอนนั้นเขาถูกใจกล่องดนตรีชิ้นหนึ่งเป็นรูปหมีเท็ดดี้ผู้หญิงกับผู้ชาย ตัวผู้หญิงนั่งอ่านหนังสืออยู่บนชิงช้า และตัวผู้ชายถือช่อดอกไม้ยืนอยู่ ตรงกลางระหว่างหมีทั้งสองตัวมีสโนว์โกลบอันเล็กตั้งไว้ ในลูกแก้วนั้นเป็นดอกไม้รูปหัวใจราวกับว่าดอกไม้นั้นเป็นตัวแทนของความรักที่ทั้งคู่ร่วมกันปลูกขึ้นมา

แค่เห็นเพียงครั้งแรกก็รู้สึกถูกใจ นฤบดินทร์จึงรีบโทรศัพท์ไปติดต่อขอซื้อทันที ทว่าน่าเสียดายที่กล่องดนตรีชิ้นนั้นถูกขายไปแล้ว

โชคดีที่ทางร้านรับปากว่าจะเสาะหามาให้ แต่ไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ว่าจะมีเมื่อไร ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้แต่รอ กระทั่งในที่สุดเจ้าของร้านก็โทรศัพท์มาบอกเขาเมื่อวานว่าได้สินค้ามาแล้ว จึงอยากให้เขาเข้าไปดูที่ร้านว่าพอใจกับสินค้าหรือไม่

เมื่อนฤบดินทร์เปิดประตูเข้าไปในร้านก็เห็นพนักงานสาวคนหนึ่งกำลังจัดเรียงสินค้าบนตู้โชว์จึงแจ้งกับอีกฝ่ายว่า

“สวัสดีครับ คุณรุจให้ผมมาดูกล่องดนตรีน่ะ”

เมื่อพนักงานคนนั้นหันมาก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นสินค้าชิ้นไหนเพราะมีลูกค้าเพียงคนเดียวที่รอสินค้าเป็นกล่องดนตรี

“รอสักครู่นะคะ ดิฉันจะนำออกมาให้ดูค่ะ”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ระหว่างรอเขาจึงมองไปรอบร้านด้วยความสนใจ เพราะร้านนี้มีแต่ของสะสมแปลกตา ไม่ว่าจะเป็นของเล่น รูปปั้น งานฝีมือ ของตั้งโชว์ต่าง ๆ และโดยส่วนใหญ่จะมีแค่อย่างละหนึ่งชิ้นเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ราคาของแต่ละชิ้นจะมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน

กล่องดนตรีที่เขาซื้อให้พราวนภาก็เช่นกัน ชิ้นนี้ราคาเกือบสามหมื่นบาทเพราะหายาก และผลิตมาตั้งแต่ปี 1999

คนอื่นอาจมองว่าเขาใช้เงินมือเติบซื้อของเล่นไร้สาระชิ้นเดียวตั้งหลายหมื่น แต่สำหรับเขาแล้วไม่มีอะไรที่แพงเกินไป หรือถูกเกินไปหากสินค้านั้นมีคุณค่าทางจิตใจ และสามารถเป็นตัวแทนของความทรงจำที่เรามีร่วมกับใครอีกคน

“เชิญค่ะคุณลูกค้า” พนักงานวางกล่องไม้ใบหนึ่งลงบนเคาน์เตอร์ จากนั้นก็ปลดสลักตัวล็อกทั้งสี่ด้านออกจนกระทั่งแผ่นไม้แต่ละด้านเอนราบไปกับพื้น

ในที่สุดกล่องดนตรีขนาดเจ็ดคูณเจ็ดนิ้วก็ปรากฏสู่สายตา วัสดุทำจากเรซิ่นทั้งหมด แต่น้ำในลูกแก้วเริ่มมีสีเหลืองเล็กน้อย ทว่าสภาพโดยรวมก็ถือว่าสินค้าชิ้นนี้สมบูรณ์มาก

“แต่ทางร้านต้องขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าเพลงมันจะเล่นได้ไม่ค่อยดีนัก คือมันมีติดขัดบ้างค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าอยากเปลี่ยนกล่องเพลงข้างในเป็นอันใหม่ไหมคะ”

นฤบดินทร์เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ “ถ้าจะเปลี่ยนนี่ผมสามารถเลือกเพลงเองได้ไหมครับ”

“เลือกได้ค่ะ แต่การเปลี่ยนกล่องเพลงใหม่และใช้เพลงที่ลูกค้ากำหนดจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มนะคะ” พนักงานยิ้มอย่างเกรงใจ

“ไม่มีปัญหาครับ เรื่องราคาผมไม่เกี่ยง ว่าแต่จะใช้เวลาประมาณกี่วันครับ ภายในกลางเดือนหน้าจะเสร็จทันให้ผมรึเปล่า เพราะผมจะใช้ช่วงนั้น” เพราะตอนนั้นเขาต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้ว

พนักงานสาวดูไม่ค่อยแน่ใจนักจึงไม่กล้ารับปาก “คุณลูกค้ารอสักครู่นะคะ ขอดิฉันโทรศัพท์ไปสอบถามกับผู้จัดการก่อนค่ะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทส่งท้าย รักคนอื่นไม่เป็น - 100%

    “เยี่ยมเลยเมียจ๋า” วิเศษยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะ ณ เวลานี้นอกจากเขาจะได้นอนมองภูเขาไฟฟูจิแล้ว ตรงหน้าเขาก็ยังมีสาวเปลือยหุ่นเซ็กซี่มาส่ายบั้นท้ายสวย ๆ สร้างความสุขให้เขาอีกด้วย แม้จะเห็นแค่แผ่นหลังของเธอ แต่แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องมากระทบร่างของหญิงสาวจนทำให้ดูเหมือนร่างทั้งร่างของเธอเปล่งประกายขึ้น ก็ยิ่งทำให้ภาพเบื้องหน้าเขาตอนนี้สวยงามราวกับศิลปะชิ้นเอกสองปีกว่าที่อยู่ในฐานะคู่หมั้น แต่เขากับเธอใช้ชีวิตร่วมกันในคอนโดฯ ไม่ต่างจากสามีภรรยาคู่หนึ่ง จะต่างก็แค่พราวนภาไม่ได้นอนค้างกับเขาเพราะต้องกลับไปนอนที่บ้าน เขาเองก็เช่นกันที่ต้องกลับไปนอนบ้านของตัวเอง นอกเหนือจากนั้นเราสองคนต่างดูแลกันและกันเป็นอย่างดีเขาคอยเป็นที่ปรึกษาให้พราวนภาทั้งเรื่องการเรียน การทำงาน รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ทั่วไป ให้เงินเธอใช้ และดูแลให้เธอสุขสบายเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ ส่วนพราวนภาก็คอยมาดูแลทำความสะอาดห้องในคอนโดฯ ให้เขา ทำกับข้าวให้กิน และดูแลเขาในเรื่องอื่น ๆ ไม่ต่างจากภรรยาคนหนึ่งดังนั้นเขาจึงเห็นว่าถ้าพราวนภาเรียนจบเมื่อไรจึงอยากจัดงานแต่งงานทันที เพราะอยา

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทส่งท้าย รักคนอื่นไม่เป็น - 70%

    พราวนภาค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงียจากนั้นก็เดินไปเข้าห้องน้ำราวกับยังไม่ตื่นดี เธอเข้าไปสักพักก็ออกมาด้วยสีหน้าแจ่มใส ตามไรผมมีหยดน้ำเกาะอยู่ประปรายบ่งบอกว่าเจ้าตัวล้างหน้าเพื่อความสดชื่น“พี่ดินทำเสร็จแล้วหรือ” หญิงสาวมองไปยังคอมพิวเตอร์ที่วางเรียงรายกันหกเครื่องแล้วก็ห่อปากทำตาโต“โห อย่างกับฐานปฏิบัติการในซีรีส์ฝรั่งเลย แต่พี่ต้องรอให้เขามาติดอินเทอร์เน็ตให้ก่อนใช่ไหม”“ใช่ แต่ทำเรื่องขอไปแล้วละ รอเขาติดต่อกลับมา พราวหิวรึยัง แล้วทำไมดูเหมือนเดินขาสั่น ๆ ล่ะ”เขาแกล้งถามทั้งที่รู้ดีแก่ใจ วันนี้เขาให้หญิงสาวขึ้นคุมเกมทั้งควบทั้งขย่มได้ตามต้องการ เธอเร่าร้อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเขาก็ชอบมากที่หญิงสาวปลดปล่อยอารมณ์ปรารถนาออกมาอย่างเต็มที่ คู่หมั้นของเขาแซ่บลืมโลกขนาดนี้แล้วทำไมเขาต้องรับไมตรีจากผู้หญิงคนอื่นมาทำให้ชีวิตคู่ของเขาต้องวุ่นวายอีกเล่า“ยังจะถามอีกนะ” เธอหันมาค้อนให้วงใหญ่ก่อนจะพูดอีกว่า“พราวไม่คิดมาก่อนเลยนะว่าคนนิ่ง ๆ แบบพี่ดินจะหื่นจัดได้ขนาดนี้”นฤบดินทร์ห

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทส่งท้าย รักคนอื่นไม่เป็น - 35%

    “พี่ดิน เดี๋ยวพี่ รอผมก่อน” เสียงห้าวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งในหมู่บ้านตะโกนเรียกมาแต่ไกล ทำให้นฤบดินทร์ต้องหยุดรออย่างเสียไม่ได้ เมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นวิ่งมาถึงก็ยื่นช่อดอกกุหลาบช่อเล็กที่มักทำขายกันในวันวาเลนไทน์มาให้เขาแล้วพูดว่า“ผมฝากให้พราวหน่อยสิพี่ วันนี้ขี่จักรยานผ่านหลายรอบแล้วแต่ก็ไม่เห็นพราวออกจากบ้านเลย นะพี่นะ”นฤบดินทร์ยืนเท้าเอวมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องทันที “นี่ไอ้อั๋น มึงเอากลับไปเลยนะ หรือจะเอาไปให้สาวที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่พราว น้องมันเพิ่งอยู่ม.สองมึงจะมาให้ดอกไม้บ้าบออะไรเนี่ย เดี๋ยวกูเตะให้เลย”“โธ่พี่ผมไหว้ล่ะ ผมชอบพราวจริง ๆ นะแต่ผมไม่กล้าเอาไปให้ที่บ้าน ผมกลัวพ่อเขาน่ะ” อั๋นยิ้มแหยเมื่อพูดถึงบิดาของพราวนภานฤบดินทร์ทำทีเป็นหักนิ้วดังเป๊าะ ๆ พลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยว่า “แล้วมึงไม่กลัวกูรึไง กูก็มีศักดิ์เป็นน้าของพราวนะเว้ยมึงอย่าลืม หลานกูยังเด็ก โอเค้ มึงไปไกล ๆ ตีนกูเลยก่อนที่กูจะของขึ้น”“โธ่พี่ จะหวงไว้กินเองรึไงเนี่ย เหวอ!”

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 27 หนุ่มออฟฟิศ - 100%

    “ไม่จริงมั้งพี่ต่าย วันก่อนผมเห็นนะว่าพี่ควงสาวไปกินซูชิน่ะ สาวคนนั้นก็หน้าคุ้น ๆ ซะด้วยสิเหมือนว่าจะทำงานที่นี่เหมือนกันด้วยนี่นา” เขาพูดไปแค่นั้น ในแผนกก็ฮือฮาขึ้นทันที ต่างพากันรุมถามกันยกใหญ่ว่าหญิงสาวที่ต่ายพาไปออกเดตนั้นคือใคร แต่นฤบดินทร์ไม่ตอบเพราะต้องการให้เจ้าตัวพูดเอง“แหมไอ้นี่ พี่อุตส่าห์แกล้งทำเป็นไม่เห็นแกกับสาวนักศึกษาคนนั้นแล้วนะ แต่แกเสือกเห็นพี่ด้วยหรือวะ” ต่ายพูดไปยิ้มไป ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย“เห็นสิพี่ ผมยังชี้ให้แฟนผมดูเลยว่านั่นน่ะรุ่นที่พี่แผนก ส่วนสาวคนนั้นก็...พวกพี่ไปสอบถามกันเองละกันนะ ผมพับไมค์ละ” เขาเว้นเอาไว้เพราะจะให้ทุกคนไปถามกับเจ้าตัวเลยดีกว่าหลังจากเลิกงาน นฤบดินทร์รีบไปที่คอนโดมิเนียมที่ตนซื้อเอาไว้เพราะช่างโทรศัพท์มาแจ้งว่าเดินสายไฟเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว และอยากให้เขาเข้าไปตรวจเช็กความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่งเมื่อตรวจดูและทดสอบทุกจุดแล้วไม่มีปัญหา อีกทั้งช่างก็เก็บงาน และทำรางเก็บสายไฟเอาไว้ให้ด้วยทำให้นฤบดินทร์พอใจมาก จึงโอนเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือให้ช่างทันที ครา

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 27 หนุ่มออฟฟิศ - 70%

    “เพิ่งซื้อเมื่อไม่กี่วันนี่เอง เป็นคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่น่ะ ความจริงแล้วพี่ซื้อดาวน์ต่อมาจากคนอื่นเพราะเขาผ่อนต่อไม่ไหว จะเอาไว้แอบกินอีหนูคนนี้นี่แหละเพราะมีอยู่คนเดียวเนี่ย” เขายื่นหน้าไปจูบริมฝีปากอิ่ม“พรุ่งนี้พี่ต้องไปทำงานแล้วนะ พราวคงต้องติดรถพ่อไปเรียนเหมือนเดิมแล้วละ”“อืม แต่คุณตากับคุณยายยังไม่รู้เลยใช่ไหมว่าพี่ได้งานทำแล้ว” พราวนภายังคงติดเรียกบิดามารดาของเขาว่าคุณตาคุณยายอยู่ แต่เขาก็ไม่อยากเคี่ยวเข็ญว่าต้องเปลี่ยน เอาที่เธอสบายใจดีกว่า“ใช่ อยากเห็นจริง ๆ ว่าพรุ่งนี้จะทำหน้ากันยังไง คงเหวอน่าดู” เขาหัวเราะคิกคัก คนอื่นอาจจะชอบแกล้งเพื่อนแกล้งแฟน แต่เขาชอบแกล้งบิดามารดาของตัวเอง“คอนโดฯ ที่พี่ดินซื้ออยู่แถวที่ทำงานหรือ” หญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนอนคว่ำแล้วยกตัวช่วงบนขึ้น ส่งผลให้ทรวงอกกลมกลึงชูช่ออะร้าอร่ามอวดสายตาจนชายหนุ่มได้แต่มองตาปรอย“ใช่ เพราะบ้านพี่มันไม่มีพื้นที่สำหรับทำห้องทำงานน่ะ บ้านพี่หลังเล็กไม่ใหญ่เหมือนบ้านพราวก็เลยต้องออกมาซื้อข้างนอกไว้ทำออฟฟิศส่

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 27 หนุ่มออฟฟิศ - 35%

    บิดามารดาของนฤบดินทร์มองดูบุตรชายที่กำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาในห้องรับแขกอย่างไม่ทุกข์ร้อน ตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอกจนกระทั่งหมั้นกับสาวข้างบ้านไปแล้วเรียบร้อย เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าจะออกไปหางานทำอย่างที่ควรจะเป็น จนในที่สุดผู้เป็นบิดาก็ทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยปากถามออกไปในที่สุด“ไอ้ดิน นี่แกไม่คิดจะออกไปหางานหาการทำรึไงเนี่ย แกจะเอ้อระเหยเกินไปแล้วนะ”“ไว้ก่อนครับ ขี้เกียจ” เจ้าตัวตอบมาสั้น ๆ พลางหยิบขนมในจานมากินทั้งที่ยังนอนอยู่“ตาดิน แกจะทำตัวอย่างนี้ไม่ได้นะลูก เรามีคู่หมั้นคู่หมายแล้วนะ นี่ถ้าบ้านโน้นเขาเห็นแกยังนอนไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่ยอมออกไปหางานทำเขาจะคิดยังไง” ผู้เป็นมารดาเอ่ยปากเตือนขึ้นมาบ้าง เพราะกิจวัตรประจำวันของบุตรชายตอนนี้นอกจากไปรับส่งคู่หมั้นสาวที่มหาวิทยาลัยทุกวันแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอีกนอกจากนอนดูโทรทัศน์“เอาน่า ถ้าผมอยากไปหางานทำเมื่อไรเดี๋ยวก็ไปเองนั่นแหละ พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงหรอก” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ ยิ่งได้ยินบิดามารดาบ่นกันตามประสาคนแก่ เขาก็แทบกลั้นขำไม่ไหว นั่นเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status