Home / โรแมนติก / ใต้เงาบุษบา / 3.ขั้วบวก ขั้วลบ (1)

Share

3.ขั้วบวก ขั้วลบ (1)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-04-20 18:37:00

“อ้าวน้องพลอย คุณพ่อ สวัสดีค่ะ”

มาธาวีเป็นคนทักขึ้นก่อน

“สวัสดีค่ะคุณครู”

น้องพลอยยกมือไหว้ทั้งสามสาว ก่อนจะไหว้ทุกคนที่เหลือด้วยแม้จะไม่รู้จักก็ตาม

“เป็นไงคะน้องพลอย เพื่อนๆ คนอื่นล่ะคะ”

กัญญานันเอ่ยถามขึ้น

“เพื่อนแยกย้ายไปกับพ่อแม่แล้วค่ะ แต่พลอยอยากถ่ายรูปกับคุณครูน่ะค่ะ พลอยให้คุณพ่อถ่ายรูปกับวิดีโอตอนที่ครูรำเอาไว้เยอะเลยนะคะ คุณพ่อบอกว่าคุณครูสวยมากๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะครูปราง”

น้องพลอยบอกแล้วเข้ามาเกาะแขนคุณครูคนสวยอย่างอ้อนๆ ในบรรดาสามสาวเด็กน้อยชื่นชอบครูปรางที่สุด

เด็กๆ ที่เรียนกับสามสาวไม่ได้พูดภาษาคำเมืองกับพวกเธอเพราะเวลาสอนสามสาวไม่ได้พูดคำเมือง แม้ทั้งกัญญานันและพิมพ์ปรางจะรู้สึกว่าเวลาเด็กๆ พูดคำเมืองแล้วดูน่ารักดีก็ตาม

“ขอบใจจ้ะ”

พิมพ์ปรางยิ้มให้สาวน้อยอย่างเอ็นดูในขณะที่คนเป็นพ่อยิ้มเก็บอาการที่ลูกสาวทำถูกใจเอาไว้ไม่อยู่ และผู้ใหญ่ทุกคนก็มองออก โดยเฉพาะกิตติกรที่ตาวาววับขึ้นมาทันควัน

จากนั้นคุณครูทั้งสามก็ถ่ายภาพร่วมกับน้องพลอยจนกระทั่งสาวน้อยพอใจ

“แล้วนี่จะไปจุดผางปะตี๊ดหรือแขวนโคมกันไหมครับ”

อยู่ๆ พัลลภก็ถามขึ้นมา พิมพ์ปรางไม่คิดอะไรมากจึงตอบไปตามตรง

“ก็คิดว่าจะไปอยู่เหมือนกันค่ะ”

ผางปะตี๊ดคือภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนาเพื่อสักการบูชาพระพุทธศาสนาในประเพณีเดือนยี่เป็ง นอกจากส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมแล้วยังทดแทนการลอยโคมได้อีกด้วย

“อ้อ พอดีหนึ่งอยากไปหาอะไรทานกันก่อนน่ะค่ะ หิวแล้ว”

มาธาวีพูดสวนขึ้นทำให้พิมพ์ปรางหันไปมองแต่เพื่อนไม่ได้มองเธอ อีกฝ่ายหันไปหากัญญานันให้ช่วยสนับสนุน

“ใช่ไหมก้อย”

หญิงสาวขยิบตาให้พร้อมถาม

กัญญานันยังงุนงงตามไม่ทันแต่ก็พยักหน้าตอบในสิ่งที่เพื่อนต้องการ

“จ้ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็พอดีเลยครับ น้องพลอยก็หิวแล้วเหมือนกัน ยังไงผมกับน้องพลอยตามไปด้วยนะครับ ทานหลายๆ คนครึกครื้นดี”

มาธาวีแทบจะยิ้มค้าง หญิงสาวหันมองทุกคนในกลุ่ม ไม่มีใครมีท่าทางจะปฏิเสธ เพราะหากพูดออกไปก็จะเสียมารยาท ในที่สุดคนที่ทนไม่ไหวก็เป็นมาลินี

“ไปด้วยกันหมดนี่แหละค่ะ รีบออกไปจากตรงนี้ดีกว่า ยืนตั้งนานแล้ว ทุกคนคงเมื่อยกันแล้ว”

น้องสาวหันขวับมองพี่สาวด้วยแววตาขัดอกขัดใจแต่ไม่พูดอะไรนอกจากคว้ามือพิมพ์ปรางให้เดินออกไป แต่เพราะน้องพลอยเกาะแขนหญิงสาวอยู่จึงเท่าว่ากับพาน้องพลอยกับพ่อของเด็กน้อยให้เดินตามไปด้วย กัญญานันเองก็เดินตามเพื่อนทำให้เปรมินทร์รีบโอบไหล่บางเพื่อไม่ให้มีใครมาเดินชน กิตติกรขยับตัวก้าวตามไปโดยมาลินีเกาะเดินข้างเคียงไม่ยอมห่าง

=====

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ใต้เงาบุษบา    3.ขั้วบวก ขั้วลบ (2)

    โต๊ะอาหารในร้านพื้นเมืองแทบทุกร้านค่อนข้างแน่น แต่พวกเขาก็สามารถหาร้านว่างได้โดยเดินออกมาไม่ไกลมากนักเพราะตกลงกันว่าจะทานร้านที่ไม่ไกลจากบริเวณงานยี่เป็งมากนักภายในโต๊ะมาธาวีมองลำดับการนั่งอย่างขัดเคือง เพราะกลายเป็นว่าพิมพ์ปรางต้องนั่งตรงกลางระหว่างสองพ่อลูก นั่นเป็นเพราะน้องพลอยดันมาขอนั่งแทนที่เธอแล้วพ่อของสาวน้อยก็เข้ามาเสียบอีกด้านทันที หญิงสาวจำต้องนั่งข้างพี่สาวตัวเองอย่างหงุดหงิดแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจมาธาวีดูออกว่าคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวหนุ่มใหญ่คนนี้คิดอย่างไรพิมพ์ปราง แรกๆ เธอก็ไม่ได้ติดขัดอะไรเพราะอีกฝ่ายก็มีฐานะหน้าตาทางสังคม เป็นถึงข้าราชการระดับซีสูง ทว่าตั้งแต่วันที่หม่อมหลวงกิตติกรอาสาเลี้ยงข้าวมาธาวีได้เห็นปฏิกิริยาชวนสะดุดใจบางอย่างจากชายหนุ่มเขาดูแลพี่สาวเธอตักอาหารให้ตามมารยาท พูดคุยกับเธอแต่ไม่คุยพิมพ์ปราง เธอจำได้ว่าเคยเห็นทั้งสองคนพูดคุยกันบ้างเล็กน้อยบางครั้ง แต่เมื่ออยู่ในกลุ่มคนทั้งสองจะต่างคนต่างอยู่ราวกับไม่รู้จัก ไม่สนิทสนม ทั้งที่ควรจะสนิทเพราะพิมพ์ปรางเคยอยู่ที่บ้านอรรถพันธ์พงศ์มาก่อนกระทั่งเรียนมัธยมปลาย และทุกครั้งที่มีกิตติกรอยู่ด้วยพิมพ์ปราง

    Last Updated : 2025-04-20
  • ใต้เงาบุษบา    4.ฝันร้าย (1)

    ร่างบางถูกลากจนตัวแทบจะปลิวออกไปทางหน้าร้านซึ่งอยู่คนมุมกับที่ทุกคนนั่งอยู่จึงไม่มีใครมองเห็น“คุณกลางปล่อยฉัน”“เงียบไปเลยนะ ถ้าโวยวายเสียงดังฉันจะอุ้มไปจากตรงนี้ให้คนมองเลย”ชายหนุ่มหันกลับมากระซิบบอกเสียงเครียด ทำให้หญิงสาวต้องชะงักคำพูดทุกอย่างลงในทันทีกิตติกรพาหญิงสาวเดินลัดเลาะฝ่าผู้คนมาตามถนนรอบคูเมืองโดยไม่สนใจความสวยของผางประทีบที่จุดไว้บริเวณต่างๆ รวมถึงประตูท่าแพที่พวกเขาต้องเดินผ่านด้วยเนื่องจากจอดรถไม่ห่างจากประตูท่าแพนัก เมื่อมาถึงก็ดันหญิงสาวเข้าไปในรถแล้วสั่ง“ห้ามลงจากรถเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อกัน คงรู้นะว่าจะเจอกับอะไร เพราะยังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้น”แน่นอนว่าพิมพ์ปรางกลัวอีกฝ่ายเกินกว่าจะกล้าขยับตัวจากนั้นชายหนุ่มก็ก้าวเร็วๆ ไปอีกฝั่ง เมื่อมาอยู่หลังพวงมาลัยแล้วเขาก็ล็อกรถทันทีก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมากดโทรหาน้องสาว“น้องก้อย เดี๋ยวพี่พาปรางกลับไปที่โรงเรียนนะ เพื่อนเราไม่ค่อยสบายน่ะ”“อะไรนะคะ ปรางไม่สบายเหรอคะ”“ครับ”ตอบรับน้องสาวพร้อมกับมองไปยังคนที่เขาอ้างว่าป่วยแล้วก็เห็นอีกฝ่ายมองเขาอยู่แล้วด้วยสายตาวิตก“น้องก้อยขึ้นภูไปกับไอ้มินทร์ได้เลยนะ ไม่ต้องห่วง เรื่องป

    Last Updated : 2025-04-26
  • ใต้เงาบุษบา    4.ฝันร้าย (2)

    ค่ำนี้บ้านเรือนริมถนนเต็มไปด้วยผางประทีบประดับประดาทว่าไม่มีใครสนใจความงดงามสองข้างทาง ชายหนุ่มขับรถด้วยความเร็วสีหน้าเคร่งเครียดจนคนนั่งมาด้วยกดดันนั่งไม่ติด รู้สึกถึงเหงื่อที่ซึมออกมาตามฝ่ามือ หน้าผาก และลำคอไม่กี่นาทีต่อมารถคันหรูก็มาจอดนิ่งหน้าโรงเรียนของสามสาว ‘นาฏช่างฟ้อน’ เป็นชื่อที่ทั้งสามคนช่วยกันคิด พิมพ์ปรางชอบชื่อนี้มาก เธอคิดว่าลงตัวเข้ากับที่นี่และพวกเธอที่มาจากกรุงเทพฯ ดี ในขณะเดียวกันหญิงสาวก็เป็นคนที่อยู่ที่นี่ตลอดเวลาแตกต่างจากเพื่อนสองคนที่ไปกลับบ้านในวันหยุด แต่โดยรวมแล้วทั้งสามสาวมักอยู่โยงที่โรงเรียนเสียมากกว่า“ฉันลงไปได้หรือยังคะ”“ลงสิ”คนตอบตอบเสียงดุพิมพ์ปรางลงไปจากรถช้าๆ แล้วเดินไปยังหน้าประตูโดยมีอีกฝ่ายตามลงมา เธอเหลือบมองเขาด้วยความไม่สบายใจ ขณะที่กิตติกรพยักพเยิดให้ไขกุญแจหญิงสาวค่อยๆ ยื่นมือถือคืนให้อีกฝ่ายราวกับเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ชายหนุ่มจึงรับไปแล้วใช้สายตาบังคับให้เธอไขกุญแจอีกครั้ง พิมพ์ปรางจึงต้องเปิดประตูอย่างจำใจ และเมื่อเห็นว่าเธอดันเหล็กที่ปิดอยู่ได้ช้า เขาก็เป็นคนจัดการเอง“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”เสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้น แต่ร่างสูงกว่ายังยืนนิ่งไม

    Last Updated : 2025-04-26
  • ใต้เงาบุษบา    5.น้ำตาไม่ช่วยอะไร (1)

    ใบหน้าคมที่แนบลงมาหาพร้อมสัดส่วนแข็งแกร่งเบียดเสียดกับร่างกายเธอทำให้พิมพ์ปรางขนลุกชัน หญิงสาวหลับตาลงเอียงหน้าหลบไม่อยากรับรู้อะไรอีกแม้สัมผัสที่แนบลงมาข้างแก้มแล้วเคลื่อนมาบนริมฝีปากจะไม่ได้รุนแรงทว่าก็หนักหน่วงเอาแต่ใจ ความรู้สึกเดิมๆ วนกลับมาอีกครั้ง กิตติกรมักจะแตะต้องเธอในแบบนี้ เขาไม่เคยทำร้ายร่างกายเธอแต่บีบบังคับเธอด้วยการเรียกร้องให้ตัวเองได้ในสิ่งที่อยากได้เธอไม่เคยเจ็บปวดทางร่างกายเพราะเขา แต่จิตใจแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดีกิตติกรผละออกมามองอีกฝ่ายใกล้ๆ ปลายนิ้วโป้งยกขึ้นไล้กลีบปากสีสวยมองนิ่งอยู่อย่างนั้นการกระทำของชายหนุ่มทำให้พิมพ์ปรางต้องลืมตาขึ้นมามอง แล้วก็เห็นว่าตาคมจ้องอยู่ที่ปากเธอ กระแสบางอย่างวิ่งแปลบปลาบไปทั่วทั้งร่างจนหญิงสาวหวาดหวั่น แล้วอยู่ๆ เขาก็เหลือบขึ้นมาทั้งคู่จึงได้สบสายตากันในระยะประชิด ดวงตาคมวูบวาบน่ากลัวก่อนเขาจะเอ่ยขึ้น“เธอ...”เสียงทุ้มเต็มไปด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ“กล้าให้คนอื่นทำแบบที่ฉันทำจริงๆ เหรอ”“ถ้าเขาไม่บังคับฉันก็ยินดี”ขณะพูดพิมพ์ปรางรู้ว่าแววตากับน้ำเสียงของเธอไม่มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด แต่เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มรู้ว่าเธอก็ยังเป็นคน

    Last Updated : 2025-04-27
  • ใต้เงาบุษบา    5.น้ำตาไม่ช่วยอะไร (2)

    “ถ้าเธอไม่ถอดฉันจะทำให้มันขาดให้หมดเลย”พิมพ์ปรางกัดริมฝีปากตนเอง แม้ไม่อยากยอมจำนนแต่ชุดรำที่เธอใส่อยู่เป็นชุดเช่า ถ้าเกิดความเสียหายอย่างน้อยเพื่อนของเธอสองคนก็ต้องสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่มือบางสั่นเทาค่อยๆ ปลดกระดุมที่เหลืออย่างจำใจ เชื่องช้าจนสายตาคมที่มองตามรู้สึกลุ้นอย่างไม่อาจห้ามได้ แม้อยากให้อีกฝ่ายทำเร็วขึ้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพอใจกับการรอคอยอยู่ลึกๆ เมื่อกระดุมถูกปลดออกหมดชายหนุ่มก็ไม่รอช้าแหวกเสื้อออกให้เผยสัดส่วนสล้างต่อสายตาในทันที ถึงจะยังมีเสื้อชั้นในอยู่แต่ความอวบอิ่มชวนมองก็ไม่อาจปกปิดได้ใบหน้าคมลดลงมายังอกคู่สวย พร้อมมือหนาก็ปัดเสื้อหญิงสาวออกจากไหล่มนและแขน แถมยังดันร่างบางขึ้นเพื่อปลดตะขอเสื้อชั้นในของคนตัวเล็กได้อย่างง่าย ปลายจมูกกับปากที่ฝังอยู่บนความอวบอิ่มก็ทำหน้าที่ไล้เลียและเล็มไม่ยอมห่าง เมื่อผ้าลูกไม้ถูกรั้งออกไปปากได้รูปก็ครอบครองยอดอกสีสวยในทันทีเสียงหอบหายใจดังจากร่างบางยิ่งพาให้ชายหนุ่มดูดกลืนอกอวบแรงขึ้น“อืม”กิตติกรครางในลำคออย่างพึงพอใจ รับรู้ว่ามือบางที่ผลักไหล่เขาเริ่มอ่อนแรงเป็นเกาะเกี่ยว มือหนาข้างหนึ่งก็ขยับเคล้นคลึงความนุ่มแน่น

    Last Updated : 2025-04-27
  • ใต้เงาบุษบา    6.เงาอดีต (1)

    ‘นี่มันขืนใจชัดๆ’พิมพ์ปรางบอกตัวเองแต่ไม่กล้าพอที่จะพูดออกไป เขาทำกับเธอขนาดนี้ได้ยังไง ครั้งหนึ่งเธอคิดว่ากิตติกรดูเป็นผู้ใหญ่ ภูมิฐาน มีความคิดและเหตุผลมากกว่าเมื่อก่อน แต่มันไม่ใช่เลย ตอนนี้ชายหนุ่มกลับแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ“บอกมา เธอยอมให้ไอ้หมอนั่นแตะต้องแล้วจริงๆ หรือแค่ประชดฉัน”กิตติกรเอ่ยถามขึ้น ขณะนอนเอามือรองศีรษะมองเพดาน หญิงสาวที่หันหลังให้เขาเงียบกริบไม่ตอบ“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้หลับ ตอบมา”“นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันนะคะ”หลังคำตอบไหล่มนก็ถูกคว้าให้หญิงสาวหันไปเผชิญหน้ากับเขา“ยังกล้าพูดแบบนี้อีกเหรอ”“ทำไมจะพูดไม่ได้คะ”ดวงตาคู่สวยดูกร้าวขึ้นหากก็แฝงไปด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ชายหนุ่มมองคนกล้าเถียงเขาอย่างกรุ่นโกรธ“อย่าให้มันแตะต้องอีก ไม่งั้นฉันไม่เอามันไว้แน่”กิตติกรขู่เสียงเข้ม ตาคมดุดัน ก่อนร่างสูงใหญ่จะขยับตัวลุกขึ้น มองหากางเกงตัวเองแล้วหยิบขึ้นมา“ผ้าขนหนูเธออยู่ไหน”เมื่อหญิงสาวเงียบเขาก็หันไปดุ และเห็นว่าเธอไม่มองมาทางเขาที่กำลังโป๊อยู่“ปราง”“ในตู้ขวามือค่ะ”ชายหนุ่มเดินไปยังตู้เสื้อผ้าโดยไม่ได้แคร์เท่าไรนักว่าตนเองกำลังอยู่ในสภาพไหน เป็นหญิงสาวเองที่หลบเลี่ยงจะมอง

    Last Updated : 2025-05-02
  • ใต้เงาบุษบา    6.เงาอดีต (2)

    “เมื่อกี้พี่ต้องขอโทษปรางด้วยนะที่เข้าใจผิดว่าเป็นน้องก้อย”“ไม่เป็นไรคะ”พิมพ์ปรางตอบเสียงเบาแล้วก้มหน้า รู้สึกตัวเองหน้าร้อนผาว แม้จะไม่ได้คิดอะไรแต่เพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ขนาดนี้ แม้จะคุ้นเคยกับปัฐวิกรมาตั้งแต่เด็ก ทว่านับตั้งแต่เขาไปเรียนต่างประเทศทั้งคู่ก็แทบจะไม่ได้พูดคุยกันเท่าไรนักแม้ชายหนุ่มจะกลับมาเยี่ยมบ้านปีละสองครั้งก็ตาม ความสนิทสนมเคยชินก็ไม่เท่ากับเมื่อก่อน แถมปัฐวิกรยังตัวโตสูงใหญ่ไหล่กว้างแตกต่างจากหลายปีก่อนมาก“พี่ปัฐมองผิดก็ไม่แปลกหรอกค่ะ เพื่อนๆ ยังทักผิดประจำเลย ก้อยกับปรางเลยถักเปียให้ต่างกันทุกวัน เพื่อนเห็นข้างหลังจะได้เรียกถูกไงคะ”กัญญานันจับผมเปียสองข้างของตนข้างหนึ่งชูให้พี่ชายดู ส่วนพิมพ์ปรางนั้นรวบผมไปถักเอาไว้ด้านหลังทั้งหมดรูปร่างของสองสาวน้อยไม่ต่างกันแม้แต่น้อย ผมเองก็ยาวหนาสลวยเหมือนกัน เมื่อใส่ชุดนักเรียนเหมือนกันแบบนี้ต้องมองจากด้านหน้าจริงๆ ถึงจะแยกออก“อ้าว พี่ปัฐมาดักเจอน้องก้อยก่อนซะแล้ว ผมอุตส่าห์กำชับยายจันทร์ว่ายังไม่ต้องบอก กะว่าจะเซอร์ไพรส์สักหน่อย”ทั้งหมดมองไปตามเสียงแล้วชายหนุ่มที่รูปร่างสูงโปร่งดูบอบบางกว่าปัฐวิกรเล็กน้อยยื

    Last Updated : 2025-05-02
  • ใต้เงาบุษบา    บทนำ

    โอ้ว่าน่าเสียดายตัวนัก เพราะเชื่อลิ้นหลงรักจึงช้ำจิตจะออกชื่อลือชั่วไปทั่วทิศ เมื่อพลั้งคิดผิดแล้วจะโทษใครเสียแรงหวังฝังฝากชีวี พระจะมีเมตตาก็หาไม่หมายบำเหน็จจะรีบเสด็จไป ก็รู้เท่าเข้าใจในทำนองด้วยระเด่นบุษบาโฉมตรู ควรคู่ภิรมย์สมสองไม่ต่ำศักดิ์รูปชั่วเหมือนตัวน้อง ทั้งพวกพ้องสุริยวงศ์พงศ์พันธุ์แต่นี้สืบไปภายหน้า จะอายชาวดาหาเป็นแม่นมั่นเขาจะค่อนนินทาทุกสิ่งอัน นางรำพันว่าพลางทางโศกา[1] ความงดงามอ้อนช้อยที่ร่างแบบบางกำลังกรีดกรายตามคำตัดพ้อต่อว่า โดยมีร่างกำยำอีกร่างร่ายรำปลอบโยนทำให้กิตติกรจ้องมองไม่วางตาด้วยขุ่นขวางอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้สึกซึมซับประทับใจกับความอ่อนช้อยงดงามเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าบทละครนี้เขาเคยมีโอกาสได้ดูมาแล้วเพราะน้องสาวของเขาเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์มีงานให้แสดงเสมอไม่ขาด หลายครั้งก็มักจะเป็นบทละครรำเรื่องอิเหนาอย่างเช่นคราวนี้ และเขาก็แปลกใจเหลือเกินว่าทำไมต้องเป

    Last Updated : 2025-04-19

Latest chapter

  • ใต้เงาบุษบา    6.เงาอดีต (2)

    “เมื่อกี้พี่ต้องขอโทษปรางด้วยนะที่เข้าใจผิดว่าเป็นน้องก้อย”“ไม่เป็นไรคะ”พิมพ์ปรางตอบเสียงเบาแล้วก้มหน้า รู้สึกตัวเองหน้าร้อนผาว แม้จะไม่ได้คิดอะไรแต่เพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ขนาดนี้ แม้จะคุ้นเคยกับปัฐวิกรมาตั้งแต่เด็ก ทว่านับตั้งแต่เขาไปเรียนต่างประเทศทั้งคู่ก็แทบจะไม่ได้พูดคุยกันเท่าไรนักแม้ชายหนุ่มจะกลับมาเยี่ยมบ้านปีละสองครั้งก็ตาม ความสนิทสนมเคยชินก็ไม่เท่ากับเมื่อก่อน แถมปัฐวิกรยังตัวโตสูงใหญ่ไหล่กว้างแตกต่างจากหลายปีก่อนมาก“พี่ปัฐมองผิดก็ไม่แปลกหรอกค่ะ เพื่อนๆ ยังทักผิดประจำเลย ก้อยกับปรางเลยถักเปียให้ต่างกันทุกวัน เพื่อนเห็นข้างหลังจะได้เรียกถูกไงคะ”กัญญานันจับผมเปียสองข้างของตนข้างหนึ่งชูให้พี่ชายดู ส่วนพิมพ์ปรางนั้นรวบผมไปถักเอาไว้ด้านหลังทั้งหมดรูปร่างของสองสาวน้อยไม่ต่างกันแม้แต่น้อย ผมเองก็ยาวหนาสลวยเหมือนกัน เมื่อใส่ชุดนักเรียนเหมือนกันแบบนี้ต้องมองจากด้านหน้าจริงๆ ถึงจะแยกออก“อ้าว พี่ปัฐมาดักเจอน้องก้อยก่อนซะแล้ว ผมอุตส่าห์กำชับยายจันทร์ว่ายังไม่ต้องบอก กะว่าจะเซอร์ไพรส์สักหน่อย”ทั้งหมดมองไปตามเสียงแล้วชายหนุ่มที่รูปร่างสูงโปร่งดูบอบบางกว่าปัฐวิกรเล็กน้อยยื

  • ใต้เงาบุษบา    6.เงาอดีต (1)

    ‘นี่มันขืนใจชัดๆ’พิมพ์ปรางบอกตัวเองแต่ไม่กล้าพอที่จะพูดออกไป เขาทำกับเธอขนาดนี้ได้ยังไง ครั้งหนึ่งเธอคิดว่ากิตติกรดูเป็นผู้ใหญ่ ภูมิฐาน มีความคิดและเหตุผลมากกว่าเมื่อก่อน แต่มันไม่ใช่เลย ตอนนี้ชายหนุ่มกลับแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ“บอกมา เธอยอมให้ไอ้หมอนั่นแตะต้องแล้วจริงๆ หรือแค่ประชดฉัน”กิตติกรเอ่ยถามขึ้น ขณะนอนเอามือรองศีรษะมองเพดาน หญิงสาวที่หันหลังให้เขาเงียบกริบไม่ตอบ“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้หลับ ตอบมา”“นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันนะคะ”หลังคำตอบไหล่มนก็ถูกคว้าให้หญิงสาวหันไปเผชิญหน้ากับเขา“ยังกล้าพูดแบบนี้อีกเหรอ”“ทำไมจะพูดไม่ได้คะ”ดวงตาคู่สวยดูกร้าวขึ้นหากก็แฝงไปด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ชายหนุ่มมองคนกล้าเถียงเขาอย่างกรุ่นโกรธ“อย่าให้มันแตะต้องอีก ไม่งั้นฉันไม่เอามันไว้แน่”กิตติกรขู่เสียงเข้ม ตาคมดุดัน ก่อนร่างสูงใหญ่จะขยับตัวลุกขึ้น มองหากางเกงตัวเองแล้วหยิบขึ้นมา“ผ้าขนหนูเธออยู่ไหน”เมื่อหญิงสาวเงียบเขาก็หันไปดุ และเห็นว่าเธอไม่มองมาทางเขาที่กำลังโป๊อยู่“ปราง”“ในตู้ขวามือค่ะ”ชายหนุ่มเดินไปยังตู้เสื้อผ้าโดยไม่ได้แคร์เท่าไรนักว่าตนเองกำลังอยู่ในสภาพไหน เป็นหญิงสาวเองที่หลบเลี่ยงจะมอง

  • ใต้เงาบุษบา    5.น้ำตาไม่ช่วยอะไร (2)

    “ถ้าเธอไม่ถอดฉันจะทำให้มันขาดให้หมดเลย”พิมพ์ปรางกัดริมฝีปากตนเอง แม้ไม่อยากยอมจำนนแต่ชุดรำที่เธอใส่อยู่เป็นชุดเช่า ถ้าเกิดความเสียหายอย่างน้อยเพื่อนของเธอสองคนก็ต้องสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่มือบางสั่นเทาค่อยๆ ปลดกระดุมที่เหลืออย่างจำใจ เชื่องช้าจนสายตาคมที่มองตามรู้สึกลุ้นอย่างไม่อาจห้ามได้ แม้อยากให้อีกฝ่ายทำเร็วขึ้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพอใจกับการรอคอยอยู่ลึกๆ เมื่อกระดุมถูกปลดออกหมดชายหนุ่มก็ไม่รอช้าแหวกเสื้อออกให้เผยสัดส่วนสล้างต่อสายตาในทันที ถึงจะยังมีเสื้อชั้นในอยู่แต่ความอวบอิ่มชวนมองก็ไม่อาจปกปิดได้ใบหน้าคมลดลงมายังอกคู่สวย พร้อมมือหนาก็ปัดเสื้อหญิงสาวออกจากไหล่มนและแขน แถมยังดันร่างบางขึ้นเพื่อปลดตะขอเสื้อชั้นในของคนตัวเล็กได้อย่างง่าย ปลายจมูกกับปากที่ฝังอยู่บนความอวบอิ่มก็ทำหน้าที่ไล้เลียและเล็มไม่ยอมห่าง เมื่อผ้าลูกไม้ถูกรั้งออกไปปากได้รูปก็ครอบครองยอดอกสีสวยในทันทีเสียงหอบหายใจดังจากร่างบางยิ่งพาให้ชายหนุ่มดูดกลืนอกอวบแรงขึ้น“อืม”กิตติกรครางในลำคออย่างพึงพอใจ รับรู้ว่ามือบางที่ผลักไหล่เขาเริ่มอ่อนแรงเป็นเกาะเกี่ยว มือหนาข้างหนึ่งก็ขยับเคล้นคลึงความนุ่มแน่น

  • ใต้เงาบุษบา    5.น้ำตาไม่ช่วยอะไร (1)

    ใบหน้าคมที่แนบลงมาหาพร้อมสัดส่วนแข็งแกร่งเบียดเสียดกับร่างกายเธอทำให้พิมพ์ปรางขนลุกชัน หญิงสาวหลับตาลงเอียงหน้าหลบไม่อยากรับรู้อะไรอีกแม้สัมผัสที่แนบลงมาข้างแก้มแล้วเคลื่อนมาบนริมฝีปากจะไม่ได้รุนแรงทว่าก็หนักหน่วงเอาแต่ใจ ความรู้สึกเดิมๆ วนกลับมาอีกครั้ง กิตติกรมักจะแตะต้องเธอในแบบนี้ เขาไม่เคยทำร้ายร่างกายเธอแต่บีบบังคับเธอด้วยการเรียกร้องให้ตัวเองได้ในสิ่งที่อยากได้เธอไม่เคยเจ็บปวดทางร่างกายเพราะเขา แต่จิตใจแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดีกิตติกรผละออกมามองอีกฝ่ายใกล้ๆ ปลายนิ้วโป้งยกขึ้นไล้กลีบปากสีสวยมองนิ่งอยู่อย่างนั้นการกระทำของชายหนุ่มทำให้พิมพ์ปรางต้องลืมตาขึ้นมามอง แล้วก็เห็นว่าตาคมจ้องอยู่ที่ปากเธอ กระแสบางอย่างวิ่งแปลบปลาบไปทั่วทั้งร่างจนหญิงสาวหวาดหวั่น แล้วอยู่ๆ เขาก็เหลือบขึ้นมาทั้งคู่จึงได้สบสายตากันในระยะประชิด ดวงตาคมวูบวาบน่ากลัวก่อนเขาจะเอ่ยขึ้น“เธอ...”เสียงทุ้มเต็มไปด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ“กล้าให้คนอื่นทำแบบที่ฉันทำจริงๆ เหรอ”“ถ้าเขาไม่บังคับฉันก็ยินดี”ขณะพูดพิมพ์ปรางรู้ว่าแววตากับน้ำเสียงของเธอไม่มีความน่าเชื่อถือเลยสักนิด แต่เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มรู้ว่าเธอก็ยังเป็นคน

  • ใต้เงาบุษบา    4.ฝันร้าย (2)

    ค่ำนี้บ้านเรือนริมถนนเต็มไปด้วยผางประทีบประดับประดาทว่าไม่มีใครสนใจความงดงามสองข้างทาง ชายหนุ่มขับรถด้วยความเร็วสีหน้าเคร่งเครียดจนคนนั่งมาด้วยกดดันนั่งไม่ติด รู้สึกถึงเหงื่อที่ซึมออกมาตามฝ่ามือ หน้าผาก และลำคอไม่กี่นาทีต่อมารถคันหรูก็มาจอดนิ่งหน้าโรงเรียนของสามสาว ‘นาฏช่างฟ้อน’ เป็นชื่อที่ทั้งสามคนช่วยกันคิด พิมพ์ปรางชอบชื่อนี้มาก เธอคิดว่าลงตัวเข้ากับที่นี่และพวกเธอที่มาจากกรุงเทพฯ ดี ในขณะเดียวกันหญิงสาวก็เป็นคนที่อยู่ที่นี่ตลอดเวลาแตกต่างจากเพื่อนสองคนที่ไปกลับบ้านในวันหยุด แต่โดยรวมแล้วทั้งสามสาวมักอยู่โยงที่โรงเรียนเสียมากกว่า“ฉันลงไปได้หรือยังคะ”“ลงสิ”คนตอบตอบเสียงดุพิมพ์ปรางลงไปจากรถช้าๆ แล้วเดินไปยังหน้าประตูโดยมีอีกฝ่ายตามลงมา เธอเหลือบมองเขาด้วยความไม่สบายใจ ขณะที่กิตติกรพยักพเยิดให้ไขกุญแจหญิงสาวค่อยๆ ยื่นมือถือคืนให้อีกฝ่ายราวกับเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ชายหนุ่มจึงรับไปแล้วใช้สายตาบังคับให้เธอไขกุญแจอีกครั้ง พิมพ์ปรางจึงต้องเปิดประตูอย่างจำใจ และเมื่อเห็นว่าเธอดันเหล็กที่ปิดอยู่ได้ช้า เขาก็เป็นคนจัดการเอง“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”เสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้น แต่ร่างสูงกว่ายังยืนนิ่งไม

  • ใต้เงาบุษบา    4.ฝันร้าย (1)

    ร่างบางถูกลากจนตัวแทบจะปลิวออกไปทางหน้าร้านซึ่งอยู่คนมุมกับที่ทุกคนนั่งอยู่จึงไม่มีใครมองเห็น“คุณกลางปล่อยฉัน”“เงียบไปเลยนะ ถ้าโวยวายเสียงดังฉันจะอุ้มไปจากตรงนี้ให้คนมองเลย”ชายหนุ่มหันกลับมากระซิบบอกเสียงเครียด ทำให้หญิงสาวต้องชะงักคำพูดทุกอย่างลงในทันทีกิตติกรพาหญิงสาวเดินลัดเลาะฝ่าผู้คนมาตามถนนรอบคูเมืองโดยไม่สนใจความสวยของผางประทีบที่จุดไว้บริเวณต่างๆ รวมถึงประตูท่าแพที่พวกเขาต้องเดินผ่านด้วยเนื่องจากจอดรถไม่ห่างจากประตูท่าแพนัก เมื่อมาถึงก็ดันหญิงสาวเข้าไปในรถแล้วสั่ง“ห้ามลงจากรถเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อกัน คงรู้นะว่าจะเจอกับอะไร เพราะยังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้น”แน่นอนว่าพิมพ์ปรางกลัวอีกฝ่ายเกินกว่าจะกล้าขยับตัวจากนั้นชายหนุ่มก็ก้าวเร็วๆ ไปอีกฝั่ง เมื่อมาอยู่หลังพวงมาลัยแล้วเขาก็ล็อกรถทันทีก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมากดโทรหาน้องสาว“น้องก้อย เดี๋ยวพี่พาปรางกลับไปที่โรงเรียนนะ เพื่อนเราไม่ค่อยสบายน่ะ”“อะไรนะคะ ปรางไม่สบายเหรอคะ”“ครับ”ตอบรับน้องสาวพร้อมกับมองไปยังคนที่เขาอ้างว่าป่วยแล้วก็เห็นอีกฝ่ายมองเขาอยู่แล้วด้วยสายตาวิตก“น้องก้อยขึ้นภูไปกับไอ้มินทร์ได้เลยนะ ไม่ต้องห่วง เรื่องป

  • ใต้เงาบุษบา    3.ขั้วบวก ขั้วลบ (2)

    โต๊ะอาหารในร้านพื้นเมืองแทบทุกร้านค่อนข้างแน่น แต่พวกเขาก็สามารถหาร้านว่างได้โดยเดินออกมาไม่ไกลมากนักเพราะตกลงกันว่าจะทานร้านที่ไม่ไกลจากบริเวณงานยี่เป็งมากนักภายในโต๊ะมาธาวีมองลำดับการนั่งอย่างขัดเคือง เพราะกลายเป็นว่าพิมพ์ปรางต้องนั่งตรงกลางระหว่างสองพ่อลูก นั่นเป็นเพราะน้องพลอยดันมาขอนั่งแทนที่เธอแล้วพ่อของสาวน้อยก็เข้ามาเสียบอีกด้านทันที หญิงสาวจำต้องนั่งข้างพี่สาวตัวเองอย่างหงุดหงิดแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจมาธาวีดูออกว่าคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวหนุ่มใหญ่คนนี้คิดอย่างไรพิมพ์ปราง แรกๆ เธอก็ไม่ได้ติดขัดอะไรเพราะอีกฝ่ายก็มีฐานะหน้าตาทางสังคม เป็นถึงข้าราชการระดับซีสูง ทว่าตั้งแต่วันที่หม่อมหลวงกิตติกรอาสาเลี้ยงข้าวมาธาวีได้เห็นปฏิกิริยาชวนสะดุดใจบางอย่างจากชายหนุ่มเขาดูแลพี่สาวเธอตักอาหารให้ตามมารยาท พูดคุยกับเธอแต่ไม่คุยพิมพ์ปราง เธอจำได้ว่าเคยเห็นทั้งสองคนพูดคุยกันบ้างเล็กน้อยบางครั้ง แต่เมื่ออยู่ในกลุ่มคนทั้งสองจะต่างคนต่างอยู่ราวกับไม่รู้จัก ไม่สนิทสนม ทั้งที่ควรจะสนิทเพราะพิมพ์ปรางเคยอยู่ที่บ้านอรรถพันธ์พงศ์มาก่อนกระทั่งเรียนมัธยมปลาย และทุกครั้งที่มีกิตติกรอยู่ด้วยพิมพ์ปราง

  • ใต้เงาบุษบา    3.ขั้วบวก ขั้วลบ (1)

    “อ้าวน้องพลอย คุณพ่อ สวัสดีค่ะ”มาธาวีเป็นคนทักขึ้นก่อน“สวัสดีค่ะคุณครู”น้องพลอยยกมือไหว้ทั้งสามสาว ก่อนจะไหว้ทุกคนที่เหลือด้วยแม้จะไม่รู้จักก็ตาม“เป็นไงคะน้องพลอย เพื่อนๆ คนอื่นล่ะคะ”กัญญานันเอ่ยถามขึ้น“เพื่อนแยกย้ายไปกับพ่อแม่แล้วค่ะ แต่พลอยอยากถ่ายรูปกับคุณครูน่ะค่ะ พลอยให้คุณพ่อถ่ายรูปกับวิดีโอตอนที่ครูรำเอาไว้เยอะเลยนะคะ คุณพ่อบอกว่าคุณครูสวยมากๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะครูปราง”น้องพลอยบอกแล้วเข้ามาเกาะแขนคุณครูคนสวยอย่างอ้อนๆ ในบรรดาสามสาวเด็กน้อยชื่นชอบครูปรางที่สุดเด็กๆ ที่เรียนกับสามสาวไม่ได้พูดภาษาคำเมืองกับพวกเธอเพราะเวลาสอนสามสาวไม่ได้พูดคำเมือง แม้ทั้งกัญญานันและพิมพ์ปรางจะรู้สึกว่าเวลาเด็กๆ พูดคำเมืองแล้วดูน่ารักดีก็ตาม“ขอบใจจ้ะ”พิมพ์ปรางยิ้มให้สาวน้อยอย่างเอ็นดูในขณะที่คนเป็นพ่อยิ้มเก็บอาการที่ลูกสาวทำถูกใจเอาไว้ไม่อยู่ และผู้ใหญ่ทุกคนก็มองออก โดยเฉพาะกิตติกรที่ตาวาววับขึ้นมาทันควันจากนั้นคุณครูทั้งสามก็ถ่ายภาพร่วมกับน้องพลอยจนกระทั่งสาวน้อยพอใจ“แล้วนี่จะไปจุดผางปะตี๊ดหรือแขวนโคมกันไหมครับ”อยู่ๆ พัลลภก็ถามขึ้นมา พิมพ์ปรางไม่คิดอะไรมากจึงตอบไปตามตรง“ก็คิดว่าจะไปอยู่เ

  • ใต้เงาบุษบา    2.นางรำขวัญใจประชาชน (2)

    แม้จะแปลกใจแต่กิตติกรก็เอ่ยทักหญิงสาวอย่างเป็นธรรมชาติ อีกฝ่ายยิ้มกว้างเดินมายืนตรงหน้าเขาทันที“ค่ะ พอดีว่าคุณแม่ฝากของมาให้สองน่ะค่ะ ก็เลยแวะเอามาให้ก่อนกลับบ้าน”กิตติกรมองใบหน้าสวยราวกับสนใจในขณะที่สมองพยายามนึกว่าเขาไม่เห็นรถคนอื่นหน้าโรงเรียนนอกจากรถของผู้ปกครองที่ยืนคุยกับพิมพ์ปรางจึงไม่คิดว่ามีคนอื่นอยู่ที่นี่ด้วย“เราไปกันเลยไหมคะ หนึ่งหิวแล้ว”สาวสวยเอ่ยชวนอย่างร่าเริงไม่ได้ขัดเขินที่จะแสดงออกว่าตนเองพอใจชายหนุ่มตรงหน้ามากแค่ไหน จนแม้แต่คนเป็นน้องสาวเองยังแอบส่ายหน้าเบาๆ“อ้อ ครับ”ชายหนุ่มยิ้มรับก่อนจะเหลือบมองไปด้านหลังมาลินี“เชิญเลยครับสาวๆ”“ค่ะ”มาธาวีตอบรับแล้วหันไปพยักหน้าให้เพื่อนหลังเคานเตอร์“ไปเร็วปราง นานๆ ทีจะมีคนเลี้ยงข้าวเราสักที”คนถูกชวนเดินออกมาจากเคานเตอร์โดยไม่มีท่าทางอิดออดแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการดีใจใดๆ“คุณกลางไปกับพี่หนึ่งนะคะ เดี๋ยวสองกับปรางจะไปรถอีกคัน”“ไปด้วยกันก็ได้นี่ครับ”กิตติกรบอกพร้อมมองหน้ามาธาวีคล้ายตั้งคำถามอีกฝ่ายจึงยิ้มกว้าง แต่น้องสาวยังไม่ทันพูดพี่สาวก็เอ่ยขึ้นมาแทน“พอดีว่ารถหนึ่งรวนอีกแล้วน่ะค่ะ ที่มานี่ก็ให้เพื่อนมาส่ง กำลังจะโทรให้ร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status