ร่างเล็กนอนสั่นระริกอยู่ใต้ร่างของมาเฟียหนุ่ม ที่ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักในวงการนักธุรกิจอสังหาฯ มาร์คัส ไร้ความอ่อนโยนอย่างน่าแปลก ดูเหมือนคนที่หิวโหย ทำเหมือนคนที่นอนร้องไห้ตัวสั่นอยู่ตรงหน้าจะไม่มีจิตวิญญาณ ที่เขาต้องเห็นใจเมตตาแม้แต่น้อย แก่นกายที่แข็งขืนของชายหนุ่มพยายามแหวกทางรักที่มันคับแคบไปให้ได้ แต่เขาคงลืมคิดไปว่า ร่างเล็กที่ร้องไห้เพราะความเจ็บปวดมันรู้สึกแทบขาดใจแล้วตอนนี้ "แน่นชะมัด เธอนี่สมกับคำที่พ่อเธอเสนอมาจริงๆ ฮึก" เขากลืนก้อนน้ำลายลงที่ลำคอเกร็ง ขบกัดสันกรามจนนูนเด่นชัด ยิ่งช่องทางรักของเทียนหอมมันคับแคบจนยากที่จะแหวกเข้าไป ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะเอาชนะมันให้ได้เสียเดี๋ยวนี้ "อ๊ะ ฮือ ฮื้อ จะ เจ็บ หนูเจ็บ" เสียงกระเส่าร้องบอกให้คนที่กระทำยังร่างของเธอได้รับรู้ แต่แล้วเขากับยกยิ้มขึ้นมาอย่างได้ใจ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไร้จิตสำนึก "ดี! แน่นแบบนี้แหละดี ฉันยากรู้ว่าข้างในของเธอมันจะตอดดีขนาดไหน!" "ยะอย่า นะคะ อร้าย!" สวบ มาร์คัส จับสองขาเรียวของเทียนหอมให้อ้าออก รั้งมันไว้แน่น ดันแก่นกายเข้าไปจนสุดแรง จนทำให้สาวน้อยที่พึ่งแรกแย้มร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด ไม่เพียงเท่านั้น ร่างกายของเธอก็สั่นเทาไปหมด บริเวณท้องน้อยมันรู้สึกจุกจนน้ำตาเล็ด ช่องทางรักตอนนี้รู้สึกปวดหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ จนเทียนหอมต้องเอื้อมมือไปกุมผ้าปูที่นอนแน่น ใบหน้าสวยก็เริ่มบิดเบี้ยวขึ้นเล็กน้อย ท่อนเอ็นที่แข็งขืนกดแช่ไว้ในช่องอ่อนนุ่มอยู่สักพัก มันรู้สึกได้ว่าอึดอัดเหมือนจะหายใจไม่สะดวก แต่ระหว่างนั้นเอง ร่างหนาก็เริ่มขยับสะโพกเข้าออก ความอึดอัดคับแคบก่อนหน้ามันเริ่มหล่อลื่นด้วยน้ำหวานของคนใต้ร่าง น้ำเมือกที่ปนไปด้วยกลิ่นคาวเลือดสีสดที่เริ่มไหลออกมาเพียงเล็กน้อย มันบ่งบอกได้ถึงความบริสุทธิ์ของเธอ "ฮึก" มาร์คัสขบสันกรามขึ้นอีกรอบ จากนั้นก็โน้มตัวลงมาดูดยอดอกของเทียนหอมจนตัวสั่นระริก ขนอ่อนในร่างชูชนขึ้นทุกเส้น ความเจ็บปวดพร้อมความจุกวิ่งวนปะปนกันไปหมด ยิ่งเวลาที่เอวหนักของเขาส่วนเข้าทางรักอยู่บ่อยครั้งยิ่งทำให้เทียนหอมสั่นเทิ้มขึ้น "ฮื้อ!" เธอเม้มปากแน่นขึ้น มันบอกอารมณ์ไม่ถูกเลยตอนนี้ ความเจ็บที่มีก่อนหน้า เหมือนจะมีความรู้สึกใหม่เข้ามาแทนที่ ร่างกายของเธอเริ่มสัมผัสได้ถึงความโอ้ลม ความโอฬารของสิ่งที่ผุบโผล่เข้าออก ติ่งเกสรที่เคยสีแดงสด ป่านนี้คงแดงช้ำไปกับการกระแทกของคนร่างหนาแล้ว ปึก ปึก ปึก แก่นกายขนาดใหญ่ไม่คิดจะหยุดนิ่ง เขาสวนสะโพกเข้าไปอย่างแรง กระแทกจนน้ำรักไหลเยิ้มกลีบกุหลาบที่เคยสีสวยปลิ้นเข้าปลิ้นออกจนช้ำ แต่อย่างนั้น ใช่ว่ามาเฟียหนุ่มเจ้าของบ่อนจะพอใจ ยิ่งเห็นคนที่นอนใต้ร่างสั่นเทาเท่าไหร่ ตัวเขาก็ยังตอกอัดเข้าไปไม่ยัง ปักปักปัก "อ๊ะ....จุก หนูจุก" ทุกท่วงท่าถูกมาร์คัสจัดตามใจตัวเองไม่ให้ขาด แม้ร่างเล็กจะแทบหมดแรง ตัวขาว ๆ ของเทียนหอมแดงระเรื่อจนเห็นได้ชัด จนน้ำหวานที่ไหลรินออกมามันดังแจ๊ะแจ๊ะ ทุกครั้งที่สะโพกของชายหนุ่มสวนเข้าออก เทียนหอมเริ่มครางไม่เป็นภาษา เธอรู้สึกว่าลมหายใจมันขาดเป็นห้วงๆ ดูเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้ จนกระทั่ง ปึก! ร่างนั้นตอกอัดเข้าไปสุดแรงแล้วชักลำเอ็นออกมาปลดปล่อยน้ำสีขุ่นอยู่ด้านนอก ทว่ามันไม่มีแค่น้ำหล่อลื่นแล้วตอนนี้ มันยังมีเลือดของสาวบริสุทธิ์บนออกมาด้วย "ไม่น่าเชื่อ เด็กอย่างเธอจะยังซิงอยู่!" เขาพูดขึ้นด้วยความพอใจพร้อมรอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายที่เทียนหอมฝั่งลงในสมอง การอ้อนวอนร้องขอไม่ได้ช่วยให้เธอรอดพ้นน้ำมือเขา แถมการกระทำที่เขามอบให้เธอในวันนี้มันแสนจะป่าเถื่อน มาร์คัส ทำเหมือนเธอเป็นสัตว์ตัวหนึ่งเท่านั้น หลังจากที่เขาปล่อยน้ำสีขุ่นลงที่ต้นขาของเธอแล้ว ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องนั้น ส่วนเทียนหอมเธอพยายามดันร่างกายที่หมดเรี่ยวแรงลุกขึ้น สองขาที่สั่นเทาในเมื่อครู่ค่อย ๆ แตะลงที่พื้น ก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าของตนพร้อมน้ำตา สมองคิดแค่ว่าต้องกลับบ้านไปหาแม่ แต่ระหว่างนั้น ชายหนุ่มร่างสูงก็พันผ้าขนหนูออกมาพร้อมประโยคคำถาม "จะไปไหน" "หนูทำงานแล้ว หนูจะกลับบ้าน" "ใครอนุญาตเธอ เธอมีสมองหรือเปล่าฉันก็บอกแล้วไงว่าเธอต้องอยู่ที่นี่" "หนูอยู่ที่นี่ไม่ได้ หนูเป็นห่วงแม่ อีกอย่างหนูต้องไปเรียน" ประโยคของเทียนหอมทำให้มาร์คัสต้องเดินมาบีบที่ต้นแขนของเทียนหอมแน่น จากนั้น เขาก็พูดขึ้นเสียงดุ "อย่ามาทำเยอะแถวนี้ เธอไม่ได้วิเศษขนาดนั้น หน้าที่ ที่เธอต้องทำคือนอนอ้าขาให้ฉัน เงินที่พ่อเธอเอาไปกับตัวเธอ ฉันบอกตรงนี้เลยว่ามันไม่ได้คุ้ม ดังนั้นอย่าเรื่องมาก จำใส่สมองไว้!" สะบัดแขนของเทียนหอมจนตัวเธอแทบเสียหลัก เด็กสาวผู้น่าสงสารยืนหอบเสื้อผ้าตัวเอง เธอยังไม่ได้สวมใส่มันด้วยซ้ำ ส่วนคนกระทำ เดินไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ และเขาก็พร้อมจะจากไป โดยไม่สนใจเลยว่าเธอจะอยู่ยังไงหลังจากนี้
บ้านหรูใจกลางกรุง"ครับพิมพ์ เดี๋ยวผมจะรีบไปรับ"มาร์คัสยกมือถือขึ้นมาแนบที่หู ประโยคสนทนาที่แสนสั้น เมื่อบอกปลายสายไปแล้วก็รีบกดวาง จากนั้นเขาก็เก็บมือถือลงกระเป๋าเสื้อสูทตามเดิมส่วนคนที่โทรเข้ามา เธอคือ พิมพ์รดา เป็นคู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มกับแฟนสาวคบหาดูใจกันมาถึงหนึ่งปีด้วยคำแนะนำของผู้เป็นพ่อ พ่อของพิมพ์รดาเป็นเพื่อนรักของพ่อเขา ส่วนพิมพ์รดาก็มีหน้ามีตาเป็นคนในวงการธุรกิจ มาร์คัสไม่รอช้าเร่งรีบออกจากตัวบ้าน บ้านหลังใหญ่ที่เขาอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ส่วนพ่อกับแม่อยู่ต่างประเทศกันหมดระหว่างที่รถหรูเคลื่อนตัวออกจากที่ ชายหนุ่มฉุกคิดได้ว่าสั่งลูกน้องคนสนิทเดินทางไปจัดการกับเด็กคนนั้น มาร์คัสหยิบมือถือขึ้นมาอีกรอบ แล้วต่อสายไปหาสิงห์ที่คอนโดโทรศัพท์"เป็นไงบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า"(ไม่มีครับนาย จะมีก็แค่ เธออยากติดต่อกับแม่ของเธอเท่านั้น)"อืม....เดี๋ยวกูเข้าไปจัดการเอง"ในเมื่อบอกปลายสายไปแล้วก็กดวาง การมารับพิมพ์รดาที่บ้านตัวเขาไม่ได้เป็นคนขับรถเองหรอกนะ จะไปไหนก็ต้องมีลูกน้องคอยตามไม่ห่างรถหรูแล่นมาถึงตัวบ้านของพิมพ์รดา ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ เมื่อมาถึงแล้ว ก
 เด่นดวงนั่งรอลูกสาวตั้งแต่เมื่อคืนจนกระทั่งรุ่งเช้า แต่ก็ไร้เงาของเทียนหอม แม้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนเธอจะขอให้คนอื่นช่วยตามตัวลูกสาวแต่เชื่อไหมว่าไม่มีใครอยากยุ่ง บางคนแนะนำให้เธอไปแจ้งความแต่เธอก็ไม่ทำ กลัวว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่ ส่วนทรงพลตั้งแต่พาตัวเทียนหอมไปเมื่อคืนเขาเองก็ยังไม่กลับ "ธูป...แกโทรหาพ่อแกหรือยัง" "ทำไมต้องโทรละแม่ เขาก็เป็นแบบนี้มานานแล้วนิ ทุกครั้งไม่เห็นว่าแม่จะโทร" ชายหนุ่มวัยเพียง16ตอบกลับมาด้วยท่าทีเฉยเมย ดูเหมือนกับว่าเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้สร้างความห่วงใยให้กับพี่สาวแม้แต่นิด "แกไม่เห็นหรือไง พ่อแกพาพี่แกไป แกรู้จักเป็นห่วงคนอื่นบ้างหรือเปล่า" "โถ่แม่! พี่เทียนโตแล้ว เขาไม่ปล่อยตัวเองตายหรอก หากเป็นอะไรเขาก็คงโทรหาแม่แล้ว" ใช่! คงจะโทรหา ทว่ามือถือของลูกสาวมันหล่นอยู่ที่บ้านตั้งแต่พ่อของเขาฉุดกระชากลากถูไปขึ้นรถ เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่สนใจห่วงใยคนอื่น มันทำให้เด่นดวงถึงขั้นก้มหน้าร้องไห้อีกครั้ง ธูป นิสัยของเขาเหมือนพ่อไม่มีผิด ระหว่างที่นั่งเศร้า รถแท็กซี่ก็ขับมาจอดหน้าบ้าน บ้านไม้สองชั้นที่อาศัยอยู่4คน แต่คนที่ลงรถมาดันเป็นทรงพลแค่คนเดียว "พี่...ยัย
ร่างเล็กนอนสั่นระริกอยู่ใต้ร่างของมาเฟียหนุ่ม ที่ใคร ๆ ก็ต่างรู้จักในวงการนักธุรกิจอสังหาฯ มาร์คัส ไร้ความอ่อนโยนอย่างน่าแปลก ดูเหมือนคนที่หิวโหย ทำเหมือนคนที่นอนร้องไห้ตัวสั่นอยู่ตรงหน้าจะไม่มีจิตวิญญาณ ที่เขาต้องเห็นใจเมตตาแม้แต่น้อย แก่นกายที่แข็งขืนของชายหนุ่มพยายามแหวกทางรักที่มันคับแคบไปให้ได้ แต่เขาคงลืมคิดไปว่า ร่างเล็กที่ร้องไห้เพราะความเจ็บปวดมันรู้สึกแทบขาดใจแล้วตอนนี้"แน่นชะมัด เธอนี่สมกับคำที่พ่อเธอเสนอมาจริงๆ ฮึก"เขากลืนก้อนน้ำลายลงที่ลำคอเกร็ง ขบกัดสันกรามจนนูนเด่นชัด ยิ่งช่องทางรักของเทียนหอมมันคับแคบจนยากที่จะแหวกเข้าไป ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะเอาชนะมันให้ได้เสียเดี๋ยวนี้"อ๊ะ ฮือ ฮื้อ จะ เจ็บ หนูเจ็บ" เสียงกระเส่าร้องบอกให้คนที่กระทำยังร่างของเธอได้รับรู้ แต่แล้วเขากับยกยิ้มขึ้นมาอย่างได้ใจ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างไร้จิตสำนึก"ดี! แน่นแบบนี้แหละดี ฉันยากรู้ว่าข้างในของเธอมันจะตอดดีขนาดไหน!""ยะอย่า นะคะ อร้าย!"สวบมาร์คัส จับสองขาเรียวของเทียนหอมให้อ้าออก รั้งมันไว้แน่น ดันแก่นกายเข้าไปจนสุดแรง จนทำให้สาวน้อยที่พึ่งแรกแย้มร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด ไม่เพียงเท่านั้น
เนื้อหาต่อไปนี้มีความรุนแรง ขัดขืน ฝืนใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน  ชายหนุ่มร่างสูงโอบรัดเรือนร่างของเทียนหอมเอาไว้แน่น ไม่เพียงเท่านั้น เขายังซุกใบหน้าอันหล่อเหลาลงที่ต้นคอของเทียนหอมอีกต่างหาก ริมฝีปากหยักทำหน้าที่กดจูบประพรมความร้อนไปทุกส่วนของต้นคอขาวๆ ส่วนคนที่ถูกกระทำเหมือนจะผลักอกเขาให้ถอย แต่ก็ไร้ผล ด้วยความที่มาร์คัสเป็นลูกครึ่งรูปร่างของเขาสูงใหญ่กว่าเธอมาก "ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ" "อย่าเล่นตัวให้มากนักได้ไหม เธอมันก็เด็กใจแตกคนหนึ่งเท่านั้น" ประโยคที่หลุดออกมาเป็นคำพูดทิ่มแทงใจของเด็กสาวมาก เทียนหอมเธอทั้งร้องห้าม ทั้งพยายามขัดขืนการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนมาร์คัสจะไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลย เพราะปกติแล้ว เด็กที่เข้าหาเขาก็หวังแค่เงินทั้งนั้น ปึก! "ฮืออ" ร่างเล็กของเทียนหอมถูกเหวี่ยงไปที่เตียงนอน ในขณะที่ร่างของเธอยังคงแผ่หลา มาร์คัสก็รีบขึ้นคร่อมในทันที ดูเหมือนสิ่งที่เขาทำจะไม่ต่างจะเสือที่ตะปบเหยื่อตรงหน้า สองมือของเขาแหวกเสื้อคลุมสีขาวออกจนเห็นเนินอกของเทียนหอม ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มออกมา ทว่าเด็กสาวที่ไร้หนทางต่อสู้กับร้องขอด้วยความเมตตา "หนูกลัว...อย่า
มาร์คัสเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคำพูดของเด็กสาวดูเหมือนจะง่าย ทว่าเขากับมองเป็นเรื่องน่าขำ "เธอชื่ออะไร?" เขาไม่ตอบคำถามของเทียนหอม แต่กลับถามเรื่องส่วนตัวของเธอแทน และแน่นอนว่าคนที่ถูกถามก็ต้องตอบ "หนูชื่อ เทียนหอม" "เทียนหอมอย่างนั้นเหรอ ดูเหมือนเธอจะเป็นเด็กที่โชคร้ายมากนะ ที่มีพ่ออย่างไอ้ทรงพล มีอย่างที่ไหนเอาลูกมาใช้หนี้ " "หนูไม่ใช่ลูกเขา!" คำตอบที่สวนกลับมาทำเอามาร์คัสที่นั่งอยู่ชะงักไปเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ คิดแค่ว่าสิ่งตรงหน้าคือของชิ้นหนึ่งที่เขาซื้อมาแล้ว และจะทำอะไรกับมันก็ได้ "คืนนี้เธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร" เทียนหอมชะงักนิ่ง เหงื่อที่หน้าผากเริ่มผุดออกมาให้เห็นเป็นเงา จริงอยู่ว่าเธอโตเป็นสาวผ่านอายุมาถึง20ปี แต่ก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเพราะเวลาส่วนมากเอามาช่วยแม่ทำงานแถมเธอยังเป็นเด็กเรียนดี สิ่งที่เธอคิดคือ อยากเรียนให้จบทำงานดี ๆ แม่ของเธอจะได้สบาย แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อเลี้ยงใจร้ายจะทำกับเธอแบบนี้ แค่เขาทุบตีตั้งแต่เธอยังเด็กก็น่าจะเกินพอ "คือ...คือ" "ไปอาบน้ำ ฉันจะรอเธออยู่ในห้อง" มาร์คัสสั่งแล้วก็ลุกเดินออกไปจากโซฟาตัวใหญ่ ส่วนเทียนหอมเธออ
ร่างของเทียนหอมถูกพาเข้ามาในห้อง ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าคนที่พ่อเธอเรียกว่าเสี่ยคือใคร แต่สิ่งที่เธอเห็นคือชายฉกรรจ์ราวห้าคนยืนอยู่ในห้อง ทุกคนดูน่ากลัว ส่วนตัวเธอนั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟากว้าง ด้วยอาการสั่นเทา ไม่นานนักเสียงฝีเท้าของคนที่สวมรองเท้าขัดมันก็เดินเข้ามาดัง ตึก ตึก พร้อมเสียงหัวใจของเธอที่เต้นแรงอยู่อย่างนั้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงทุ้มพูดขึ้น "สวัสดีครับเสี่ย ผมพาลูกสาวมาให้ดู" เป็นทรงพลที่ยกมือไหว้ชายหนุ่มที่อ่อนกว่าเขาหลายปี มาร์คัส เป็นนักธุรกิจที่ชอบลงทุน และชอบลงทุนกับบ่อยการพนันหลายที ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นเจ้าของโครงการหลายแห่ง "นายครับ ไอ้ทรงพลที่เสนอลูกสาวมาใช้หนี้ เราจ่ายหนี้บ่อนให้มันหนึ่งล้าน มันบอกว่าลูกสาวมันยังสาว มันเลยขอเพิ่ม...." สิงห์คนสนิทยังพูดไม่จบ มาร์คัส ก็หย่อนก้นลงนั่งแล้วจ้องมองมาทาง เทียนหอม ที่ก้มหน้าตัวสั่นระริก "นี่นะเหรอที่ขอเพิ่มล้านหนึ่ง หน้าตาดีแต่ดูซอมซ่อไปหน่อย" ประโยคของชายหนุ่มทำให้คนที่นั่งก้มหน้าต้องเงยขึ้นมามองเพียงแวบเดียว เป็นจังหวะที่สบตากับ มาร์คัสพอดี จึงทำให้ เทียนหอมงุดหน้าลงอีกรอบ "ถึงนางเทียนมันจะดูซอมซ่อแต่เชื่อเ