Semua Bab ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย: Bab 31 - Bab 40
720 Bab
บทที่ 31
“พระชายาเจ้าคะ เหตุใดนักพรตเต๋าคนนั้นถึงใจจดใจจ่อกับท่านขนาดนี้ พระชายาจะช่วยเขาแก้ไสยศาสตร์จริง ๆ หรือเจ้าคะ? แต่บ่าวคิดว่าเขาไม่ใช่คนดี” จือเฉาถามอย่างสงสัยลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “สายตาเจ้าช่างเฉียบแหลมนัก ดีกว่าพ่อข้ามาก” “ไสยศาสตร์ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแน่นอน แม้ว่าเขาจะทำเรื่องเลวร้ายไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายมาก จะไม่มีผลกรรมที่น่าสลดใจอะไร” “เขาจะโชคร้ายมากยิ่งขึ้น หากเขายังหลอกลวงต่อไป ทุกเรื่องจะไม่ราบรื่น ข้าจะหลอกเขาหน่อย จะทำให้เขากลับไปสู่ทางที่ถูกต้องได้ ถือว่าทำบุญ” “มหาเสนาบดีจะตอบรับคำร้องขอของนักต้มตุ๋นนี้เสมอ เขาคงคิดไม่ถึงแน่ คนโกหกผู้นั้นถูกพระชายาของเราปราบแล้ว" ลั่วชิงยวนได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ ตอนกลางคืน รถม้าค่อย ๆ ออกห่างจากเมืองหลวง รอบข้างดูมืดมิดไปหมด มีเพียงแสงจันทร์ส่องสว่างทางข้างหน้า เดิมทีจือเฉายังไม่รู้สึกกลัว แต่ค่อย ๆ รู้สึก สถานที่ที่รถม้าไปยิ่งเปลี่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองด้านล้วนเป็นป่าทึบ บางครั้งก็มีเสียงนกร้อง ช่างน่ากลัวนัก “พระชายา เราจะไปไหนกันหรือเจ้าคะ?” จือเฉาดึงแขนเสื้อของลั่วชิงยวนด้วยความกลัว “ถึงแล้วเจ้
Baca selengkapnya
บทที่ 32
ว่างเปล่า! จือเฉาแอบมองผ่านระหว่างนิ้ว แล้วก็ตกใจทันที “หือ? ว่างเปล่า? ” ลั่วชิงยวนไม่อยากจะเชื่อ ก็กระโดดเข้าไปในโลงศพพร้อมคบเพลิง ก้มลงตรวจดูอย่างละเอียด ลูบภายในโลงศพ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีกับดัก หรือช่องลับอะไรซ่อนอยู่ ค้นหาอย่างละเอียด แท้จริงแล้วเป็นโลงศพที่ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย “หรือว่ามีคนเปิดโลงศพก่อนพวกเราเจ้าคะ?” จือเฉาถามอย่างสงสัย ลั่วชิงยวนส่ายหัว “ฝาโลงปิดสนิทมาก ถ้ามีคนเคยเปิดมาก่อน จะต้องมีร่องรอย” “อย่างนั้นก็หมายความว่า... ” จือเฉาขมวดคิ้วและคิด ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว แววตาเย็นชาเล็กน้อย “ตั้งแต่การฝังศพ นี่ก็เป็นโลงศพที่ว่างเปล่า” สมบัติอะไรกันล่ะ? แม้แต่ศพของแม่นางก็ไม่มี จือเฉาตกใจมาก “พระชายา ท่านแม่ของท่านยังมีชีวิตอยู่!” ลั่วชิงยวนก็คิดอย่างนี้เช่นกัน แอบกำหมัดแน่น และพูดว่า “ข้าไม่รู้” ถ้าแม่ของนางยังมีชีวิตอยู่ แล้วทำไมต้องแกล้งตาย? หากเป็นเพราะต้องแกล้งตายด้วยเหตุผลบางอย่าง งั้นลั่วไห่ผิงต้องห้ามนางไม่ให้ไปค้นหาสมบัติของแม่นางขนาดนั้น ตามเหตุผลแล้วน่าจะช่วยแม่ของนางปิดบังความจริงว่ายังมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ลั่วไห่ผิงน่าจะปกป
Baca selengkapnya
บทที่ 33
“อะไรนะ นางขุดหลุมศพแม่ของนางรึ?!” ในห้องหนังสือ มีเสียงตกใจออกมา ชายผู้หนึ่งลุกขึ้นทุบโต๊ะ เซียวชูพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นกับตา แต่ในโลงศพแม่ของนาง ว่างเปล่าพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อได้ยิน ฟู่เฉินหวนก็ตกใจมากยิ่งขึ้น “ว่างเปล่า?” เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีแสงลึกล้ำในดวงตา “ไม่น่าแปลกใจ ที่ลั่วไห่ผิงหลีกเลี่ยงเรื่องเถ้ากระดูกของแม่นาง แล้วยังต้องเชิญนักพรตเต๋ามาขับไล่ผีให้ลั่วชิงยวน นี่ลั่วไห่ผิงซ่อนความลับลับลมคมในอะไรไว้กันแน่? ” เป็นเพราะจู่ ๆ ลั่วไห่ผิงพูดออกมาว่า ต้องการเชิญคนมาขับไล่วิญญาณร้าย เขาจึงเกิดความสงสัย จึงเซียวชูไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของจวนอัครอัครเสนาบดีตลอดเวลา คิดไม่ถึงว่าจะพบความลับจริง ๆ ซูโหยวที่อยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึก “คุณหนูลั่วกล้าหาญมากจริง ๆ ยังขุดหลุมศพแม่ของตน หากพ่อของนางรู้ เกรงว่าจะเฆี่ยนนางจนตาย” “ใช่ หากไม่ได้เห็นด้วยตาข้าเอง ข้าคงไม่เชื่อ มันคงนอกรีตเกินไป” เซียวชูก็ถอนหายใจ ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว มีความคิดซับซ้อนซูโหยวอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ท่านอ๋องทรงคิดว่า สิ่งที่เขากำลังหานั้นเกี่ยวข้องกับแม่ของลั่วชิงยวนด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ฟู
Baca selengkapnya
บทที่ 34
“อ๊า…” ยามดึกก็มีเสียงกรีดร้องมาจากจวนมหาเสนาบดีอันเงียบสงัด ปลุกคนที่หลับหลายคนให้ตื่นทันที ลั่วเยวี่ยอิงลืมตาขึ้นทันที เสียงอะไร?! นางตะโกนเรียกทาสใบ้โดยไม่รู้ตัว แต่คืนนี้ทุกคนถูกขอให้อยู่ในห้องของตนและไม่อนุญาตให้ออกมา ทาสใบ้ไม่ได้อยู่ในลานจวน เรียกนางนางก็ไม่ได้ยิน รอบ ๆ มืดมิดสนิทไปหมด นางยืนขึ้นจุดตะเกียงอย่างตกใจหวาดผวา หากไม่มืดบางทีก็อาจจะไม่กลัว แต่ขณะที่นางเดินไปที่แสงเทียน จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็รีบวิ่งไปที่ประตู ทุบอย่างบ้าคลั่ง ปัง ปัง ปัง… พร้อมกับเสียงคำรามและเสียงกรีดร้องที่เลือนราง ลั่วเยวี่ยอิงหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว กรีดร้องและหมอบลงกับพื้นทันที ขดตัวอยู่ในมุม มองดูร่างที่ชัดเจนตรงประตู เสียงเคาะประตูห้องอย่างบ้าคลั่ง นางขนพองสยองเกล้าทั้งตัว หวาดกลัวมาก"พ่อ..."“โฮก… คืนชีวิตข้ามา คืนชีวิตข้ามา!” ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นและทุบประตูอย่างบ้าคลั่ง เสียงคำรามดังกึกก้อง ลั่วเยวี่ยอิงหวาดกลัวมากจนตัวสั่น หลับตาและไม่กล้ามองเลย ลั่วชิงยวนรู้ว่า เวลานี้ลั่วเยวี่ยอิงต้องตกใจตายแน่นอน ก็ไถลลงสู่พื้นทีละนิด ค่อย ๆ หลบหนีไป ไม่มีเสียงแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงรวบรวมความ
Baca selengkapnya
บทที่ 35
“นักพรตเต๋า สถานการณ์เป็นเยี่ยงไรบ้าง? ปราบวิญญาณร้ายได้หรือไม่? ” ลั่วไห่ผิงถามอย่างเคร่งขรึม นักพรตเต๋าจอมหลอกลวงปาดเหงื่อแล้วพูดว่า “วิญญาณร้ายนี้ร้ายกาจนัก ข้าไล่นางออกจากจวนอัครเสนาบดีชั่วคราว ไม่มีอะไรแล้ว” ได้ยินเช่นนี้ ลั่วไห่ผิงก็โล่งใจหน่อย มองไปทางห้องทันที แล้วพูดว่า “ลูกสาวของข้าล่ะ” “เมื่อคืนนี้ลูกสาวของท่านก็ถูกวิญญาณร้ายทรมานอย่างหนัก ตอนนี้หลับไปแล้ว หลังตื่นน่าจะกลับมาเป็นปกติ” ได้ยินเช่นนี้ ลั่วไห่ผิงก็โล่งใจมากขึ้น “งั้นก็ดี ข้าหวังว่า นักพรตเต๋าจะอยู่ต่ออีกสักสองวัน ให้แน่ใจว่าวิญญาณร้ายนี้จะไม่กลับมา! ข้าจะตอบแทนรางวัลให้ท่านอย่างงามเป็นแน่!” “ขอรับ” นักพรตเต๋าจอมหลอกลวงสีหน้านิ่งไม่ไหวติง ไม่มีการตอบสนองต่อเงินเลย ลั่วไห่ผิงยิ่งมั่นใจว่า ท่านอาจารย์ผู้นี้ช่างเก่งกาจที่จริงแล้วเป็นเพราะว่า เงินนี้ก็จะมอบให้กับลั่วชิงยวนด้วย ไม่อาจตกไปอยู่ในมือของเขาได้ นักพรตเต๋าจอมหลอกลวงเพียงต้องการให้เรื่องนี้ยุติลง คุณหญิงท่านนั้นสามารถให้ของที่แก้ไสยศาสตร์แก่เขา เงินไม่สำคัญเท่ากับชีวิต …… ลั่วชิงยวนที่ไม่ได้นอนทั้งคืน ทั้งไปขุดโลงศพที่หลุมศพของบรรพบุรุษ ทั้
Baca selengkapnya
บทที่ 36
ลั่วเยวี่ยอิงตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง เมื่อเห็นนาง มีสีหน้าระแวงและพูดว่า “เจ้า...” ลั่วชิงยวนรีบพูดขัดด้วยเสียงสะอื้นว่า “ทำไมน้องถึงดูซีดเซียวได้ถึงเพียงนี้ เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นรึ? ถึงทำให้น้องสาวตกใจเยี่ยงนี้ เป็นความผิดของพี่เอง” สายตาของลั่วเยวี่ยอิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ทาสใบ้ที่ยืนอยู่ในลานได้ยินเช่นนี้ ก็โล่งใจมาก ดูท่าจะถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงมาก่อนจริงๆ ขับไล่วิญญาณร้ายไปแล้วก็กลับมาเป็นปกติ ลั่วชิงยวนลูบชามยาที่ร้อน ๆ นางตักน้ำแกงยาหนึ่งช้อน ป้อนให้ลั่วเยวี่ยอิง “น้องสาว กินยาเถิด” ลั่วเยวี่ยอิงจ้องมองนางอย่างหน้าบูดบึ้ง เอ่ยปากเรียกทาสใบ้ แต่ลั่วชิงยวนยิ้ม และตักน้ำแกงยาร้อน ๆ หนึ่งช้อนยัดเข้าไปในปากของลั่วเยวี่ยอิง “น้องสาว กินยาอย่างเชื่อฟังสิ กินยาแล้วถึงจะดีขึ้นนะ” ในปากของลั่วเยวี่ยอิงพองขึ้นทันทีหลังจากกินยาสมุนไพรร้อน ๆ ไปหนึ่งช้อน นางยันร่างที่อ่อนแอให้ลุกขึ้น อยากจะเรียกทาสใบ้ แต่จู่ ๆ เสียงก็แหบแห้งเมื่อนางอ้าปาก จือเฉาตอบสนองอย่างเร็ว เดินเข้าไปจับลั่วเยวี่ยอิงทันที หญิงสาวผู้นี้เคยทำร้ายพระชายามาสามสี่ครั้งแล้ว คราวนี้ถึงทีแก้แค้น ลั่วชิง
Baca selengkapnya
บทที่ 37
จือเฉาหยิบโอสถทาแผลขึ้นมาทันที ใช้เข็มเจาะตุ่มอย่างระวัง แล้วจึงทาโอสถก่อนพันแผล …… หลังมื้อเย็น ลั่วไห่ผิงก็มาด้วยความโกรธจัด ลั่วชิงยวนลุกขึ้นเข้าไปทักทายว่า “ท่านพ่อ” ลั่วไห่ผิงเดินมาด้วยความโกรธ ยกฝ่ามือขึ้นตบอย่างแรง เพียะ… เสียงตบหน้าดังขึ้น ลั่วชิงยวนถูกตบจนเลือดออกที่มุมปาก ในขณะนั้น นางแผ่เจตนาฆ่าในสายตาที่เย็นชา พลางหลับตาระงับความโกรธไว้ เงยหน้าขึ้นมอง แววตาที่ชัดเจน เต็มไปด้วยความสับสนและน้อยใจ “ท่านพ่อ…” ลั่วไห่ผิงเต็มไปด้วยความโกรธ “ยังจะเสแสร้ง ข้าถามเจ้าหน่อย แผลพองเต็มปากของน้องสาวเจ้า นางทำตัวเองหรืออย่างไร? รู้ไหมว่าเกือบจะทำลายลำคอของนางแล้ว ข้าคิดว่า ก่อนนี้เจ้าถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิง ไล่ผีวิญญาณร้ายให้เจ้าก็จะดีขึ้นแล้ว! ใครจะรู้ว่าเจ้ากำลังซ่อนจิตใจที่ชั่วร้าย และต้องการจะฆ่าน้องสาวของเจ้าเอง!” ลั่วไห่ผิงพลันน้ำตาไหลด้วยความน้อยใจ “ท่านพ่อ ข้าจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น แต่ทำไมท่านไม่ฟังข้าอธิบายก่อนที่จะตีข้าล่ะ? ท่านพ่อเคยรักข้ามากที่สุดไม่ใช่หรือ?” ดูท่าทางน้อยใจของนางสิ ทำให้ลั่วไห่ผิงเบื่อหน่าย หัวบวมด้วยความโกรธอีกครั
Baca selengkapnya
บทที่ 38
ลั่วไห่ผิงหันกลับมาและมองนางอย่างลังเลเล็กน้อย เห็นท่าทีลังเลของลั่วไห่ผิง ลั่วชิงยวนก็รู้ว่า เขาอ้างให้นางขับไล่วิญญาณร้ายในจวน บอกว่าจะส่งตัวพระชายาที่เหมาะสมคืนให้ตำหนักอ๋อง จริง ๆ แล้วไม่ได้วางแผนที่จะให้นางกลับตำหนักอ๋องอีกเลย! “พ่อรู้ดีว่า เจ้าเองชอบท่านอ๋องมาตั้งแต่เจ้ายังเด็ก แต่... ตอนนี้เจ้าเป็นเช่นนี้ ไม่คู่ควรกับท่านอ๋องเลยจริง ๆ” ลั่วไห่ผิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “การที่เจ้าแต่งงานแทนนั้นเป็นความผิดตั้งแต่แรก พ่ออยากให้เยวี่ยอิงกลับตำหนักอ๋อง” ลั่วชิงยวนคิ้วกระตุก ทำให้ลั่วเยวี่ยอิงเป็นพระชายาอ๋อง โดยอาศัยความรักและอำนาจของท่าอ๋อง ไม่ถามถึงว่า นางจะเอาของของท่านแม่กลับมาได้หรือแม่ ถามว่านางจะมีชีวิตอยู่รอดไปได้หรือไม่ดีกว่า? ลั่วเยวี่ยอิงจะฆ่านางให้ตายอย่างแน่นอน! ลั่วชิงยวนก้มหัวลง “ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าสัญญา ข้าจะนำเกียรติมาสู่จวนอัครเสนาบดี” กลั้นความรู้สึกที่อยากร้องไห้ไว้ ยังทำให้ลั่วไห่ผิงใจอ่อนขึ้นหน่อย นอกจากนี้ยังกล่าวหานางอย่างผิด ๆ และตบนาง เสียใจเล็กน้อย ลังเลซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็ตกลงและพูดว่า “ได้ พรุ่งนี้พ่อจะส่งคนมารับเจ้ากลับไป” ตราบใดที่ลั่วชิงยวนเชื
Baca selengkapnya
บทที่ 39
หลังจากที่ลั่วไห่ผิงกลับไปก็ไปดูลั่วเยวี่ยอิงอีกครั้ง อธิบายสาเหตุที่ลั่วชิงยวนทำน้ำร้อนลวกนาง ลั่วเยวี่ยอิงฟังจบสีหน้าก็เปลี่ยนไป จับแขนของลั่วไห่ผิง ส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง อยากจะพูดแต่ไม่มีเสียงออกมา เจ็บคอมาก ลั่วไห่ผิงตบหลังมือของนาง “พ่อรู้ว่าเจ้าน้อยใจ เจ้าต้องทนทุกข์ทรมาน แต่ชิงยวนก็ไม่ได้ตั้งใจ เจ้าให้อภัยนางเถอะ” “แต่ก่อนนางทำผิดร้ายแรงบ้างจริง ๆ แต่น่าจะเกิดจากการถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง ตอนนี้นางได้ขับไล่วิญญาณชั่วร้ายและกลับมาเป็นปกติแล้ว เจ้าอย่าเคียดแค้นนางมากเกินไป อย่างไรแล้วนางก็เป็นพี่สาวของเจ้า” ลั่วไห่ผิงปลอบใจอย่างอดทน ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้อย่างกังวล นางอยากบอกพ่อมากว่า ลั่วชิงยวนไม่ได้ถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงเลย นางจงใจเอาน้ำร้อนลวกตน! อย่างไรก็ตาม การที่นางไม่สามารถเอ่ยออกมาได้ ก็ทำให้นางอารมณ์เสีย นางถูกลั่วชิงยวนทำร้ายสาหัสถึงเพียงนี้ แต่พ่อของนางกลับไม่ได้ตำหนิลั่วชิงยวนเลยจริง ๆ ยังขอให้นางใจกว้าง และอย่าโกรธเคืองลั่วชิงยวน จะให้นางทนฝืนกลืนความโกรธลงไปได้อย่างไรกัน! “เจ้าอย่าได้กังวลนัก พ่อจะรักษาคอของเจ้าให้หาย เจ้าพักฟื้นที่จวนสักระยะหนึ่ง! เจ้าคงจะโกรธ
Baca selengkapnya
บทที่ 40
รถม้าหยุดอยู่ด้านนอกตำหนักอ๋อง กลุ่มนางรับใช้ที่กำลังรออยู่ เมื่อเห็นรถม้าจากจวนอัครเสนาบดีมาถึง ทุกคนก็ต่างปลื้มดีใจ และอุทานว่า “คุณหนูรองมาแล้ว” “เร็ว เร็ว เร็ว” ทุกคนรีบเดินไปข้างหน้าต้อนรับลั่วเยวี่ยอิง เมื่อลั่วชิงยวนก้าวลงจากรถม้า นางรับใช้ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง สิ่งที่ตามมาทันทีคือ ความผิดหวังและความรังเกียจ “ทำไมถึงเป็นนางล่ะ” นางรับใช้สองคนที่อยู่ไม่ไกลกระซิบกัน รังเกียจอย่างยิ่ง จือเฉาตอบโต้อย่างไม่เกรงใจ “พระชายาก็คือพระชายาจะไม่ใช่นางได้เยี่ยงไร?” นางรับใช้หลายคนจ้องมองไปที่จือเฉา พึมพำต่อว่า “พวกเขาบอกว่านางจะไม่รอดมิใช่รึ? ทุกคนกำลังรอคุณหนูรองกลับมาที่ตำหนัก คุณหนูรองต่างหากที่เป็นพระชายาตัวจริง!” “ถูกต้อง เจ้าอ้วนนี่จะคู่ควรกับท่านอ๋องของเราได้อย่างไร” นางรับใช้ดูถูกเหยียดหยามอย่างมาก และก็พูดอย่างไม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าเสียงจะเบา แต่ก็เข้าหูของลั่วชิงยวนก็ได้ยินอย่างชัดเจน เพียะ… การตบหน้าที่ดังชัดเจน ทำให้ทั้งตำหนักเงียบสงบลง ทุกคนต่างตกตะลึง นางรับใช้ที่ถูกตบเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ จากนั้นก็สบตาที่ดุดันของลั่วชิงยวน ตกใจจนตัวขด “
Baca selengkapnya
Sebelumnya
123456
...
72
DMCA.com Protection Status