Share

บทที่ 40

Author: หว่านชิงอิ๋น
รถม้าหยุดอยู่ด้านนอกตำหนักอ๋อง กลุ่มนางรับใช้ที่กำลังรออยู่ เมื่อเห็นรถม้าจากจวนอัครเสนาบดีมาถึง ทุกคนก็ต่างปลื้มดีใจ และอุทานว่า “คุณหนูรองมาแล้ว”

“เร็ว เร็ว เร็ว”

ทุกคนรีบเดินไปข้างหน้าต้อนรับลั่วเยวี่ยอิง

เมื่อลั่วชิงยวนก้าวลงจากรถม้า นางรับใช้ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง สิ่งที่ตามมาทันทีคือ ความผิดหวังและความรังเกียจ

“ทำไมถึงเป็นนางล่ะ” นางรับใช้สองคนที่อยู่ไม่ไกลกระซิบกัน รังเกียจอย่างยิ่ง

จือเฉาตอบโต้อย่างไม่เกรงใจ “พระชายาก็คือพระชายาจะไม่ใช่นางได้เยี่ยงไร?”

นางรับใช้หลายคนจ้องมองไปที่จือเฉา พึมพำต่อว่า “พวกเขาบอกว่านางจะไม่รอดมิใช่รึ? ทุกคนกำลังรอคุณหนูรองกลับมาที่ตำหนัก คุณหนูรองต่างหากที่เป็นพระชายาตัวจริง!”

“ถูกต้อง เจ้าอ้วนนี่จะคู่ควรกับท่านอ๋องของเราได้อย่างไร”

นางรับใช้ดูถูกเหยียดหยามอย่างมาก และก็พูดอย่างไม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าเสียงจะเบา แต่ก็เข้าหูของลั่วชิงยวนก็ได้ยินอย่างชัดเจน

เพียะ…

การตบหน้าที่ดังชัดเจน ทำให้ทั้งตำหนักเงียบสงบลง ทุกคนต่างตกตะลึง

นางรับใช้ที่ถูกตบเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ จากนั้นก็สบตาที่ดุดันของลั่วชิงยวน ตกใจจนตัวขด

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 41

    คืนก่อนหน้านั้น เขาได้ถามหมอเทวดากู้โดยเฉพาะว่า มีการวินิจฉัยผิดพลาดหรือไม่ หมอเทวดากู้ยืนกรานว่า ลั่วชิงยวนไม่รอด บอกว่าแม้ว่านางจะผ่านไปได้ ผ่านช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด แต่อวัยวะ​ภายในได้รับความเสียหายแล้ว มีชีวิตได้เพียงสองวันเท่านั้น ตอนนี้ ก็เกินสองวันมาแล้ว​แต่ลั่วชิงยวนยังมีชีวิตอยู่ ลั่วชิงยวนนั่งเก้าอี้ตรงข้ามฟู่เฉินหวน มองดูเขาอย่างลึกซึ้ง “คืนนั้นที่สุสาน ท่านส่งคนมาสะกดรอยตามหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ?” หากผู้นั้นไม่ใช่ลั่วไห่ผิงส่งไป เช่นนั้นก็เป็นฟู่เฉินหวน ฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ มีแววตาประหลาดใจอย่างชัดเจน หรี่ตาลงเล็กน้อย มองลั่วชิงยวนอย่างลึกซึ้ง ตัวของนางอ้วน ไม่มีทักษะอันแข็งแกร่งปราดเปรียว ไม่มีวรยุทธเลย เหตุใดจึงพบว่าเซียวชูสะกดรอยตามอยู่? ต้องรู้ว่าวรยุทธของเซียวชูนั้นถือมือหนึ่งในตำหนักอ๋องแล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนที่สะกดรอยตามจับได้ ลั่วชิงยวนมีความสามารถเช่นนี้เลยรึ? “หม่อมฉันรู้ว่าท่านทรงเกลียดข้า สุดท้ายแล้วหม่อมฉันเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านไม่สามารถสมรสกับหญิงที่ท่านรักได้ ท่านจะทรงเกลียดหม่อมฉันก็เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่หม่อมฉันต้องทนทุกข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 42

    ”ท่านอ๋องโปรดทรงช่วยหม่อมฉันเอาเถ้ากระดูกของแม่กลับคืนด้วยเพคะ!” ได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็สีหน้าเปลี่ยน ขมวดคิ้วมองนาง “เจ้าต้องการใช้ให้ข้าเข้าใกล้ลั่วเยวี่ยอิงเพื่อเอาสมบัติมาอย่างนั้นรึ?” ฟู่เฉินหวนตกใจมาก เหตุใดลั่วชิงยวนถึงกล้าใช้เขาอย่างเปิดเผยเยี่ยงนี้? แต่การพูดคุยที่รวดเร็ว ทำให้ลั่วชิงยวนได้ยินเป็นความหมายอื่น นางขมวดคิ้วอย่างความสับสน โน้มกายลงบนโต๊ะพลางจ้องมองฟู่เฉินหวนและ พูดด้วยเสียงอ่อนว่า “แท้จริงแล้วท่านอ๋องทรงเชื่ออย่างนั้นหรือเพคะ? ท่านอ๋องเชื่อว่าลั่วเยวี่ยอิงเอาสมบัติของท่านแม่หม่อมฉันไป ” พ่อของนางเองยังไม่เชื่อเลย! ฟู่เฉินหวนเชื่อเช่นนั้นจริงหรือ? นางไม่อยากจะเชื่อเลย ใบหน้าของฟู่เฉินหวนพลันเคร่งขรึม และหลบสายตาอย่างเย็นชา “แล้วไม่ใช่ว่า เจ้าเชื่อมาตลอดหรือรึว่า ลั่วเยวี่ยอิงเอาสมบัติแม่ของเจ้าไป? หากเจ้าอยากให้ข้าช่วย ก็ทำได้เพียงไปเอาจากเยวี่ยอิงเท่านั้น!” คำอธิบายนี้ ลั่วชิงยวนก็ไม่ได้ยินอะไรที่ผิดปกติ “เช่นนั้นแล้วท่านอ๋องจะทรงเต็มใจหรือไม่เพคะ? หม่อมฉันเชื่อว่า หม่อมฉันจะเป็นประโยชน์ต่อท่านอ๋องมาก ตราบใดที่ท่านอ๋องทรงช่วยหม่อมฉันเอาสมบัติของท่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 43

    จือเฉาถูกนางรับใช้หลายคนจับตัวไป ถูกกดลงกับพื้นและพยายามดิ้นอย่างสุดชีวิต ข้างหน้า แม่บ้านเมิ่งที่แต่งตัวดีเดินด้วยท่าทีสบาย ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยองว่า “คิดว่าติดตามเจ้านายแล้วจะผงาดได้งั้นรึ ตอนนี้เจ้ากล้าฝ่าฝืนคำสั่งข้า กล้าต่อปากต่อคำกับข้า เจ้าต้องรู้ว่า ทาสทั้งหมดในตำหนักนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้า เจ้าเองก็ไม่เว้น! ” “ฟาดปากนาง!” แม่บ้านเมิ่งหยิบท่อนไม้ยาวเท่านิ้วแล้วโยนมันลงไปอย่างโหดเหี้ยม นางรับใช้หยิบท่อนไม้ยาวขึ้นมา ฟาดไปที่ปากของจือเฉาอย่างแรง จือเฉาที่เจ็บปวดก็หลั่งน้ำตา ฟาดไปหลายที ปากของจือเฉากลายเป็นสีแดงบวมและแตกทันที นางขดตัวหลบจากความเจ็บปวด คิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความกลัว “รู้ว่าผิดรึยัง?” แม่บ้านเมิ่งเอามือไพล่หลังและถามอย่างเย็นชา จือเฉาเจ็บปวดจนร้องไห้ ได้แต่กัดฟันพูดอย่างอดทน “ข้าไม่ผิด ข้าจะไม่เอาน้ำแกงยาพิษไปให้พระชายาเด็ดขาด” ได้ยินเช่นนี้ แม่บ้านเมิ่งก็หน้าตาบูดบึ้ง ดุเสียงดังว่า “ยังจะกล้าปากดี! ตีต่อไป! ดูท่าข้าจะจากไปนานเกินไป พวกเจ้าชั้นต่ำถึงปีกกล้าขาแข็ง กล้าต่อปากต่อคำกับข้า! วันนี้จะต้องบอกให้พวกเจ้ารู้ว่าข้าน่าเกรงขามแค่ไหน!"

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 44

    นางรับใช้หลายคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พระชายาถึงกับยกเอาท่านอ๋องขึ้นมาพูด อีกทั้งยังเอาจุดอ่อนที่แม่บ้านเมิ่งไม่เคารพท่านอ๋องอีกด้วย โดยเฉพาะคิดว่า พระชายาตีได้โหดเหี้ยมเพียงใด แม่นมเติ้งที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ยังไม่กลับมาเลย เกรงว่ามันจะพบกับชะตากรรมที่น่าสังเวชมาก ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกิน จึงค่อย ๆ เดินเข้าไปและจับแม่บ้านเมิ่ง แม่บ้านเมิ่งตกใจ “พวกชั้นต่ำ! ข้าเป็นแม่บ้านของที่นี่! พวกเจ้ากล้าจับข้ารึ?!” นางรับใช้หลายคนก็หวาดกลัวมาก “พวกข้าแค่ทำตามคำสั่ง แม่บ้านเมิ่งอย่าโทษพวกข้าเลย!” ขณะพูดก็กดแม่บ้านเมิ่งไว้ ลั่วชิงยวนถือท่อนไม้เดินเข้าไปช้า ๆ สายตาที่เย็นชาแฝงไปด้วยความโหดร้าย “เจ้ากล้าตีข้า ระวังวันนี้เจ้าจะถูกไล่ออก!” แม่บ้านเมิ่งที่ดิ้นขัดขืนไม่ได้ จ้องมองลั่วชิงยวนด้วยความโกรธเกรี้ยว ยังดูถูกนางที่มาแต่งงานแทน อัปลักษณ์ พฤติกรรมตัวผิดศีลธรรม ท่านอ๋องถึงไม่ชอบนาง! เพีย… ลั่วชิงยวนถือท่อนไม้ฟาดไปอย่างแรงโดยไม่ไยดี ทันใดนั้น รอยแดงยาวก็ปรากฏบนใบหน้าของของแม่บ้านเมิ่ง ความเจ็บปวดทำให้นางน้ำตาไหล ตะโกนด่าด้วยความโกรธมากขึ้น “สารเลว!” ผลัวะ ผลัวะ… ลั่วชิงยวนยืนมอง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 45

    หลังจากแม่บ้านเมิ่งกรีดร้องอยู่ครู่หนึ่ง ลั่วชิงยวนจึงปล่อยนางไป “จือเฉา ไปเถอะ” ลั่วชิงยวนมองจือเฉาอย่างปวดใจ หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมายื่นให้นาง “ขอบคุณเจ้าค่ะ พระชายา” จือเฉาซาบซึ้งใจมาก นางคิดไม่ถึงว่าพระชายาจะทุบตีแม่บ้านเมิ่งเพื่อแก้แค้นให้นาง สุดท้ายแม่บ้านเมิ่งก็เป็นผู้อาวุโสในตำหนักแห่งนี้ แม่บ้านเมิ่งนอนอยู่บนพื้น ความเจ็บปวดที่ข้อมือทำให้สั่นไปทั้งมือ สายตาของนางดูน่ากลัว จ้องมองร่างที่จากไปด้วยโทสะ นางกัดฟัน พลันลุกขึ้นพุ่งไปอีกครั้ง “สารเลว! ข้าจะตายไปพร้อมกับเจ้า!” ลูกสาวคนเดียวของนางจากไปแล้ว วันนี้นางยังถูกผู้หญิงสารเลวนี้ทำให้อับอายเช่นนี้ แม้ว่าวันนี้จะจากไป เรื่องอื้อฉาวนี้ก็จะยังคงแพร่กระจายไปในตำหนักแห่งนี้ นางไม่สามารถยืนหยัดในอำนาจได้อีกต่อไป มีแต่จะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเท่านั้น! ต่อสู้กับนางให้รู้แล้วรู้รอดไป แก้แค้นให้จิ๋นอวี่! จือเฉามองกลับไป ชั่วพริบตาก็ตกใจและพูดว่า “พระชายาระวังเจ้าค่ะ!” นางผลักลั่วชิงยวนออกไป ลั่วชิงยวนเซถอยไปด้านหลัง แต่ถูกแม่บ้านเมิ่งกระโจนใส่ นางล้มลงพื้นอย่างแรง ร่างที่หนักอึ้งก็เอนล้มลงไป การสั่นสะเทือนทำให้นางเจ็บปวดอย่างรุ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 46

    เมื่อสักครู่นี้ นางเห็นลางมรณะตรงหว่างคิ้วของแม่บ้านเมิ่งแล้ว ถึงแม้ว่านางจะโหดเหี้ยม แต่นางก็มิได้คิดจะเล่นงานถึงตาย และไม่มีเจตนาสังหารจริง ๆ ทว่ากลับยังเห็นลางมรณะตรงหว่างคิ้วของแม่บ้านเมิ่ง นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตายเพราะอะไรกันแน่ เมื่อแม่นมเติ้งเห็นสายตาล้ำลึกยากหยั่งถึงของพระชายาก็ให้รู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก ชะรอยแม่บ้านเมิ่งผู้นี้คงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้วจริง ๆ เมื่อเห็นพระชายาเป็นเช่นนี้เข้า นางก็ระแวดระวังอยู่ไม่คลาย! ลั่วชิงยวนนึกได้ก็เหลือบมองจือเฉา "กลับกันเถอะ อาการบาดเจ็บของเจ้าต้องรักษาเสียแต่เนิ่น ๆ" จือเฉาผงกศีรษะ เมื่อทั้งสามคนกลับมาถึงเรือน แม่นมเติ้งก็เรียกชิงสุ่ยให้มาช่วยขัดคราบโลหิตออกไป จากนั้นลั่วชิงยวนก็มอบโอสถรักษาบาดแผลที่ก่อนหน้านี้เซียวชูยังใช้ไม่หมดให้แก่นาง "พระชายา แม่บ้านเมิ่งเป็นต้นเหตุทำให้เมิ่งจิ๋นอวี่ตายเช่นนั้นหรือเจ้าคะ? วันนี้ตอนที่กลับมา บ่าวได้ยินข้างนอกลือกันหนาหูเชียว" นางไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในเรือนเพราะกลับบ้านไปสองสามวัน ฉะนั้นนางจึงไต่ถามเรื่องนั้นจนได้รู้ว่า เมิ่งจิ๋นอวี่ตายแล้ว ส่วนแม่บ้านเมิ่งก็กลับมาด้วย ลั่วชิงยวนพยัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 47

    น้ำเสียงสั่นเครือแฝงแววหวาดหวั่นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกปวดใจไปชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็ยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของอีกฝ่าย "เจ้าเด็กโง่เอ๋ย ข้าจะไม่ต้องการเจ้าได้อย่างไรเล่า" "พระชายา แม่บ้านเมิ่งโดนจัดการย่ำแย่เสียเพียงนั้น ถ้าเกิดนางเอาเรื่องไปบอกท่านอ๋องจะทำอย่างไรหรือเจ้าคะ? ท่านอ๋องจะลงโทษท่านหรือไม่? " จือเฉามองนางด้วยสายตาเป็นกังวล "ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก เจ้าพักรักษาตัวอยู่ในห้องให้ดี ๆ เถอะ อย่าได้เที่ยวเดินเตร็ดเตร่ไปทั่ว แม่นมเติ้งก็อยู่กับข้าทั้งคน" จือเฉาผงกศีรษะ ทันทีที่พูดจบ ซูโหยวก็เดินเข้ามาในเรือน "ท่านอ๋องรับสั่งให้พระชายาเข้าเฝ้าขอรับ" ลั่วชิงยวนไม่แปลกใจที่ฟู่เฉินหวนจะตามหาตน นางเดินตามซูโหยวไปยังเรือนของฟู่เฉินหวน ยังมีคราบโลหิตอยู่ในเรือน และแม่บ้านเมิ่งก็เคยมาที่นี่ แต่นางกลับไปแล้ว คาดว่านางคงถูกนำตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บของตน ยามที่นางเดินเข้ามาในเรือน นางก็เห็นฟู่เฉินหวนเอามือไพล่หลังพลางทำสีหน้าหม่นคล้ำระหว่างที่รอนาง "พอกลับมาถึงตำหนักก็อยู่ไม่สุขเลยสินะ เจ้าจงใจหาเรื่องช้าผู้เป็นอ๋องใช่หรือไม่!" สีหน้าของฟู่เฉินหวนตะคอกใส่ด้วยโทสะ ลั่วชิงยวนกลับมีส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 48

    วาจาเหน็บแนมอันเย็นชาของนางทำให้มือที่ฟู่เฉินหวนไพล่หลังเอาไว้ต้องกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังเกิดระลอกคลื่นในดวงตาสงบนิ่งลึกล้ำของเขา ฟู่เฉินหวนบอกไม่ถูกว่าตนเองรู้สึกเช่นใด นางเป็นคนผิดเห็น ๆ ทว่ากลับมีท่าทีเปิดเผยทั้งยังสามารถพูดได้คล่องปากอีกต่างหาก ราวกับว่าเขาทำเรื่องไม่ถูกไม่ควรขึ้นมาจริง ๆ อย่างไรอย่างนั้น! นี่อาจจะเป็นข้อดีของสตรีผู้นี้ก็ได้ การแต่งงานกับนางแทนนั้นสมควรแล้วหรือไม่? เมื่อนึกขึ้นได้เช่นนี้ โทสะระลอกหนึ่งก็ปะทุขึ้นในจิตใจของเขาอีกครั้ง "สามหาว! ถึงแม้ว่าข้าสัญญาว่าจะร่วมมือกับเจ้า แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เจ้าจะทำร้ายผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ! "ถ้ายังมีคราวหน้าอีก เจ้าก็ไสหัวออกไปจากตำหนักอ๋องของข้าได้เลย!" นับตั้งแต่ลั่วชิงยวนแต่งเข้ามา ตำหนักอ๋องที่เคยสงบสุขมาโดยตลอดก็เกิดเรื่องอยู่บ่อยครั้ง ถ้าหากนางอยู่ไม่สุขนักล่ะก็ เขาจะไม่เก็บนางเอาไว้แน่! เมื่อได้ยินวาจาทิ่มแทงของฟู่เฉินหวน อาการเจ็บแปลบตามร่างกายทำให้นางถึงกับเหงื่อกาฬชุ่มโชก และพูดไม่ออก ฉะนั้นนางจึงทำได้เพียงแค่กัดฟัน และไม่ยอมส่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย ฟู่เฉินหวนสัมผัสได้ถึงความดันทุรังของนางแล

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status