Semua Bab ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา: Bab 11 - Bab 20
262 Bab
บทที่ 11 เจตนาที่ชั่วร้าย
นางเซี่ยงกวาดตามองสำรวจไปรอบๆขณะที่นางกำลังจะพูด เจิ้งซื่อหลางก็ดึงแขนเสื้อของนาง แล้วชี้ไปที่ซูฝูและซูหรง“ท่านแม่ ข้าไม่ต้องการนาง ข้าต้องการพวกนางสองคนนั้น”และใบหน้าของซูหรงก็ดำคล้ำขึ้นมาทันทีเจิ้งซื่อหลางคนนี้เป็นเพียงคางคกที่อยากจะกินเนื้อหงส์เท่านั้น!ซูหวั่นเม้มริมปาก จับนางหลี่ที่คิดจะพูดอะไรออกมาเอาไว้ และยืนอยู่ข้างๆนางและแม่เฒ่าเซี่ยงก็อดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ตามที่คิดเอาไว้“ซื่อหลาง ไม่ใช่ว่าข้าจะต่อว่าเจ้านะ เจ้าก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ทำไมยังจะมาจู้จี้จุกจิกอีก!”คางคกที่อยากจะกินเนื้อหงส์ยังต้องส่องกระจกมองดูตัวเองนะนางไม่ค่อยจะถูกชะตากับหลานคนนี้มาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว หากไม่เห็นแก่น้องสาวของตัวเองแล้วละก็ แม่เฒ่าเซี่ยงก็คงจะหยิบท่อนไม้ไล่ออกไปตั้งนานแล้วเจิ้งซื่อหลางเลียใบหน้าที่เจ้าเล่ห์ของตัวเอง แล้วโน้มตัวเข้ามา“ท่านน้า ท่านน้าพูดแบบนี้ข้าไม่ค่อยจะชอบมากนัก ไม่ว่าจะอย่างไรข้าก็ไม่สนใจหรอกนะ รับเงินอัดข้าไปแล้วก็ต้องส่งคนมาให้ข้า!”นางเซี่ยงรักเจิ้งซื่อหลางลูกชายคนนี้มากที่สุด เขาพูดอะไรก็เป็นอย่างนั้นมาโดยตลอด“ท่านพี่ ชีวิตนี้ข้าไม่เคยขอร้องอะไรพี่เลยนะ ข้าขอพี่คร
Baca selengkapnya
บทที่ 12 จุดไฟเผาบ้าน
“อุ๊ย!ดับสิๆ คอยดูก็แล้วกันว่าข้าจะจัดการกับนังเด็กคนนี้ยังไง!”แม่เฒ่าเซี่ยงยังคงสาปแช่งต่อไปพลังการต่อสู้นั้นน่าทึ่งมาก แต่สองหมัดจะสู้สี่มือได้อย่างไร และเศษเงินอัดในกระเป๋าก็ถูกนางเซี่ยงแย่งเอาไปทั้งหมดแล้วโดยที่ซูหวั่นได้เฝ้ามองสถานการณ์นี้ตั้งแต่ต้นจนจบนางกระตุกมุมปากขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน โดยที่นึกตลกขึ้นมาในใจว่า คนชั่วก็ต้องให้คนชั่วจัดการกันเองสินะประโยคนี้ช่างสมเหตุสมผลเสียจริงๆในฐานะลูกสะใภ้ นางหลี่ก็ได้เข้าไปช่วยห้ามด้วยเช่นกัน แต่ก็ถูกตบกลับมาสองสามฉาดแทน เดิมทีซูหวั่นก็คิดอยากจะเข้าไปช่วยนาง แต่คิดไปคิดมานางก็หยุดฝีเท้าลงเพราะเห็นว่าการดับไฟค่อนข้างจะตึงเครียดมากยิ่งกว่าแม้ว่านางจะจุดไฟ แต่นางก็ไม่อยากจะเผาบ้านให้มอดไหม้ไปหรอกนะ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วนาง แม่ และน้องชายจะไปอยู่ที่ไหนได้?“ปัง!”หมู่บ้านซีสุ่ยมีขนาดไม่ใหญ่นัก เมื่อมีเพลิงไหม้เกิดขึ้นก็จะมีคนถือถังไม้มาช่วยดับไฟในทันทีเมื่อผลักเปิดประตูไม้ออกมา ทุกคนก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่อยู่ด้านในและเมื่อหญิงชราคนหนึ่งได้เห็นแม่เฒ่าเซี่ยงที่เสื้อผ้ารุ่งริ่งไปหมดก็ถามขึ้นมาว่า“เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องลุกขึ้นมาต
Baca selengkapnya
บทที่ 13 ปลากระโดดลงกระบุงหาบเอง
“ท่านย่า มีอะไรหรือเปล่าคะ?”ซูหวั่นหยุดฝีเท้าลงอย่างไม่แยแสและแม่เฒ่าเซี่ยงก็เงื้อมือขึ้นมาและการตบฉาดนี้ก็ไม่มีเสียงดังขึ้นตามที่คาดเอาไว้ ซูหวั่นบีบข้อมือของแม่เฒ่าเซี่ยงเอาไว้ และผลักกลับอย่างเต็มแรงและดุดัน“คิดจะตีข้างั้นเหรอ?”“นังเด็กจิตใจต่ำทราม โอ๊ย เอวข้า!”แม่เฒ่าเซี่ยงจับเอวและร้องไห้คร่ำครวญ เหงื่อท่วมตัวด้วยความเจ็บปวด“ซูหวั่น เจ้าไสหัวออกจากสกุลซูไปเดี๋ยวนี้ บ้านสกุลซูของเราไม่มีหลานสาวอย่างเจ้า!”ซูหวั่นบุ้ยๆปาก และทำหูทวนลมต่อคำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยงหลังจากแบกกระบุงหาบขึ้นหลังแล้ว นางก็พาซูลิ่วหลางขึ้นไปบนภูเขาทันทีนางหลี่รู้ดีว่ามันคงไม่เป็นผลดีแน่หากจะอยู่ประจันหน้ากับแม่เฒ่าเซี่ยงต่อไป นางจึงหยิบจอบและลงไปทำนาด้วยเช่นกันและซูฝูก็ได้ประคองแม่เฒ่าเซี่ยงให้ขึ้นไปบ้านใหญ่“ท่านย่า เมื่อครู่ท่านย่าได้ยินหรือเปล่า ซูหวั่นเกือบจะพูดเรื่องของข้าออกไปแล้ว”“นังเด็กบ้า!”แม่เฒ่าเซี่ยงกุมเอว ดวงตาหย่อนคล้อย พร้อมกับพูดว่า“รอให้พ่อของนางกลับมาเสียก่อนเถอะ ข้าจะต้องขายนางออกไปอย่างแน่นอน!”ซูฝูยิ้มๆและพัดวีให้กับแม่เฒ่าเซี่ยง“ท่านย่า ข้ารู้จักครอบครัวดีๆอยู่ เราสามารถได้เ
Baca selengkapnya
บทที่ 14 การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
“เคร้ง!”แม่เฒ่าเซี่ยงไม่ชอบใจกับน้ำเสียงเช่นนี้ของนาง และตะเกียบก็กระเด้งสองสามทีแล้วตกลงไปบนพื้น“หมายความว่าไง แม่เจ้าอยู่ที่ไหนข้าจะไปรู้ได้ไง คนทั้งคนข้าจะซ่อนเอาไว้ได้งั้นเหรอ ข้าไม่ได้ต่อว่านางที่ขี้เกียจไม่หุงหาอาหารก็ดีแค่ไหนแล้ว!”แม่เฒ่าเซี่ยงราวกับว่าได้กินดินปืนเข้าไป นางพูดพร่ำต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อนและทุกอย่างที่กินเข้าไปในปากก็ได้พุ่งออกมาตามรอยฟันแล้วซูหวั่นขมวดคิ้ว หากนางไม่ได้สนใจกฎหมายของยุคสมัยนี้ นางก็คงเข้าไปกระทืบแม่เฒ่าเซี่ยงจนฟุบพื้นไปแล้ว“อาหวั่น เกิดเรื่องกับแม่ของเจ้าแล้ว รีบไปดูที่ที่นากันเถอะ......”มีป้าสองสามคนมายืนตะโกนอยู่ที่หน้าประตู และซูหวั่นก็รีบกระโจนออกไปโดยไม่ต้องคิด โดยที่วิ่งไปตามเส้นทางของความทรงจำนั้นโดยกลุ่มคนที่อยู่ในห้องก็มองหน้ากัน แต่ก็ยังกินข้าวอยู่อย่างนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด......นางหลี่นอนหมดสติอยู่บนท้องนา โดยมีปุ๋ยหมักธรรมชาติตกกระจายไปทั่วและกลิ่นนั้นก็ฉุนเอาเสียมากๆจนแทบจะอาเจียนออกมาเลยทีเดียวซูหวั่นรีบเดินเข้าไปทันที แต่โชคดีที่ไม่มีอาการบาดเจ็บหรือปุ๋ยอยู่บนร่างกายของนางหลี่“ท่านแม่!”นางเอื้อมม
Baca selengkapnya
บทที่ 15 ไม่รักษายังจะดีเสียกว่า
ทางด้านทิศตะวันตกของบ้านใหญ่ซูฝูจับมือนางจางเอาไว้อย่างกระวนกระวายใจ“ท่านแม่ ท่านแม่ว่าจู่ๆท่านปู่ก็กลับมา หรือเขาจะรู้เรื่องของข้าแล้ว?”นางจางสัมผัสได้ว่ามือและเท้าของซูฝูเย็นเฉียบด้วยความกลัว และนางก็เจ็บปวดแทบขาดใจ“อาฝูเจ้าอย่ากลัวไปเลยนะ ต่อให้ท่านปู่ของเจ้าจะรู้เรื่องแล้ว แม่ก็จะปกป้องเจ้าจนสุดชีวิตเอง”แม้นางจะพูดออกไปแบบนี้ แต่ในใจกลับครุ่นคิดว่าใครกันแน่ที่เป็นคนปล่อยข่าวออกไปแล้วข่าวได้แพร่กระจายออกไปเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?ดวงตาของซูฝูแดงก่ำ นางปาดน้ำตาที่หางตาแล้วพูดว่า“ข้าไม่อยากจะถูกจับลงกรงหมู ท่านแม่ ท่านแม่ต้องช่วยข้านะ!”“ชู่ว์!”นางจางปิดปากซูฝูเอาไว้แน่น พร้อมกับส่งสัญญาณว่าให้นางพูดเบาๆหน่อย“แม่จะออกไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าอยู่รอในห้องห้ามออกไปไหนนะ อาหรง เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่ด้วย”ซูหรงเข้ามาจับมือของซูฝูและดึงนางไปที่เตียงอิฐไฟ“ท่านพี่ต้องคิดมากไปแน่ๆ ท่านปู่จะรู้เรื่องได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน ต่อให้ซูหวั่นจะป่าวประกาศไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ๆ มันก็ต้องใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเลยนะ!”ซูฝูจึงค่อยๆดึงสติกลับมาได้ และปลายนิ้วมือของนางก็อุ่นขึ้น“อาหรง เจ้
Baca selengkapnya
บทที่ 16 ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เย็นชา
“ข้าไม่ไปเอาหรอก อยากได้เจ้าก็ไปเอาเองสิ!”จะเป็นจะตายแม่เฒ่าเซี่ยงก็ไม่ยอมไปเอากล่องไม้ใส่เงินนั้นออกมาเพราะการเอาเงินมาช่วยชีวิตคนพิการแบบนี้ นางไม่ยอมหรอกนะ!ลูกชายคนที่สี่ของนางยังไม่ได้แต่งงานเลย!นางยังต้องจ่ายเงินค่าเล่าเรียนให้กับเขา โดยที่เก็บหอมรอมริบเอาไว้ ซูเหลียนเฉิงอะไรนั่นก็ใกล้จะตายแล้ว ทำไมจะต้องใช้เงินไปช่วยชีวิตเอาไว้อีก!พ่อเฒ่าซูเหลือบไปมองภรรยาของตัวเองแวบหนึ่งจากนั้นก็หันหลังกลับเพื่อไปหยิบกล่องไม้ที่หัวเตียงนั้นมา เมื่อแม่เฒ่าเซี่ยงเห็นว่าเขาจะไปหยิบมันมาจริงๆ นางก็นั่งลงกับพื้นอย่างเต็มแรงและเริ่มตีโพยตีพายออกมาทั้งดึงผม ดึงเสื้อผ้า และก็ทุบทำลายข้าวของอีก“โอ้พระเจ้า นี่กะจะเอาชีวิตข้าเลยนะ ใครๆก็คิดที่จะมาเอาเงินสะสมเล็กน้อยนั่นของข้าไป ท่านทำให้ฟ้าผ่าข้าตายไปเลยจะดีเสียกว่า เก็บข้าเอาไว้ทำไมกัน!”พ่อเฒ่าซูตัวแข็งอยู่กับที่เขาหันมาถลึงตาใส่ภรรยาของตัวเอง แล้วก็หันไปมองนางหลี่และซูลิ่วหลางที่นั่งอยู่โดยที่โขกศีรษะจนเลือดไหลอาบแล้วซูฉางฝูและซูฉางโซว่มองหน้ากัน“ท่านพ่อ ที่ท่านแม่พูดก็ถูกต้องนะครับ พี่รองเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะช่วยหรือไม่มันก็ไม่แตกต่
Baca selengkapnya
บทที่ 17 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
หลังจากเกลี้ยกล่อมอยู่นาน นางหลี่ถึงตอบตกลงที่จะไม่ไปซูหวั่นอาศัยเวลากลางคืนในการขับเกวียนออกไป โดยที่สภาพการมองเห็นไม่ค่อยจะดีนักและนางไม่ได้ไปยังตัวอำเภอตามที่กล่าวเอาไว้แต่พวกเขามายังถ้ำแห่งหนึ่งที่คุ้นเคย โดยช่วยกันประคองซูเหลียนเฉิงให้เข้าไปด้านในพร้อมกับซูลิ่วหลางซูเหลียนเฉิงปวดระบมไปทั้งตัว โดยเฉพาะร่างกายส่วนล่างและเอว เพียงแค่ขยับตัวนิดเดียวก็ทำให้เขาโอดครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด และเขาก็ไม่รู้ว่าซูหวั่นทำไมถึงพาเขามาในถ้ำแห่งนี้ด้วยแต่ในใจลึกๆแล้ว เขารู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้สามารถประหยัดเงินอัดไว้ให้พวกเขาทั้งสามได้นิดหน่อยก็ยังดี!ซูหวั่นก่อกองไฟ และปาดน้ำฝนที่ใบหน้า“ท่านพ่อ ข้าสามารถรักษาท่านได้ ท่านเชื่อข้าหรือเปล่า?”ซูเหลียนเฉิงรู้สึกมั่นใจขึ้นเมื่อได้ยินซูหวั่นพูดแบบนี้ออกมา“พ่อเชื่อเจ้า”“ดีค่ะ ท่านพ่อต้องอดทนหน่อยนะคะ เดี๋ยวจะรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย”ซูหวั่นกำชับให้ซูลิ่วหลางออกไปข้างนอกเพื่อดูต้นลม แม้ว่าคืนที่ฝนตกหนักขนาดนี้จะไม่มีใครเข้ามา แต่ก็ต้องป้องกันเอาไว้เสียก่อนนางหลีกเลี่ยงจากสายตาของซูเหลียนเฉิง แล้วหยิบยาชาออกจากพื้นที่จิ
Baca selengkapnya
บทที่ 18 หารือเรื่องการแยกครอบครัว
ซูลิ่วหลางมองออกไปด้านนอกด้วยสายตาที่ง่วงนอน“ท่านพี่ คนคนนั้นไปแล้วเหรอ”“อืม เจ้าก็งีบอีกสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวพี่จะเฝ้ายามเอง”ซูหวั่นให้ซูลิ่วหลางนอนกับซูเหลียนเฉิง ขณะที่นางเฝ้ายามอยู่ด้านนอกภายนอกถ้ำมืดมิดและฝนตกกระหน่ำเสียงฟ้าร้องครืนๆ ดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด ฟังแล้วน่าหดหู่เป็นอย่างมากนางรู้ดีแก่ใจว่า ชายที่มาเมื่อสักครู่นั้นไม่ใช่เป็นคนที่จะรับมือได้ง่ายๆ เขาได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังไม่ให้ลิ่วหลางตะโกนร้องออกมา นั่นก็หมายความได้เพียงอย่างเดียวว่าเขากำลังถูกคนตามล่าอยู่อย่างแน่นอนและในตอนนี้นางก็ได้แต่หวังว่า หยาดเม็ดฝนด้านนอกจะสามารถชะล้างร่องรอยของชายคนเมื่อสักครู่นี้ออกไปได้ เพื่อให้คนอีกกลุ่มตามมาไม่เจอเขา เพราะนางไม่อยากจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายด้วยโชคดีที่คืนนั้นไม่มีใครเข้ามาอีกแล้วซูหวั่นนำหยกและเงินอัดใส่ไว้ในพื้นที่จินตนาการ จากนั้นก็เดินทางเข้าเมืองในตอนกลางคืนเพื่อซื้อยารักษาอาการบาดเจ็บที่ขา แล้วก็รีบกลับมาที่ถ้ำนางยื่นซาลาเปาเนื้อร้อนๆให้กับซูลิ่วหลาง“รีบกินเถอะ กินเสร็จเราก็จะกลับกันแล้ว”“ท่านพี่ พี่ก็กินด้วยสิครับ”ซูลิ่วหลางกะพริบตาปริบๆ และแบ่งซาลาเปาให้ซูหวั่น
Baca selengkapnya
บทที่ 19 เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ดวงตาของซูหวั่นร้อนเผ่าขึ้นมา“ท่านพ่อ ท่านพ่อคิดว่าตัวเองขาพิการแล้วจะทำงานหาเลี้ยงพวกเราและท่านแม่ไม่ได้ใช่ไหมคะ?”คงไม่ต้องคิด ซูเหลียนเฉิงจะต้องคิดแบบนี้อย่างแน่นอนในยุคสมัยนี้ เมื่อขาพิการและไม่รู้หนังสือก็เท่ากันเป็นคนไร้ค่าไปแล้ว และหากขาดแคลนแรงงานภายในบ้านไปก็เท่ากับว่าได้สูญเสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่งเมื่อเห็นว่าซูเหลียนเฉิงไม่พูดอะไร ซูหวั่นก็พูดเกลี้ยกล่อมต่อไปอีกว่า“หากท่านย่าต้องการแยกครอบครัว แต่ท่านพ่อยังคงดึงดันที่จะไม่แยกอยู่แบบนั้น มันก็รนแต่ทำให้พวกเราและท่านแม่ยิ่งจะอยู่ยากขึ้นนะครับ!”ซูเหลียนเฉิงจ้องมองลูกสาวด้วยขอบตาที่แดงก่ำเขาไม่รู้จริงๆว่าจะต้องทำอย่างไรดี ตัวเขาไม่เอาไหนเลยสักอย่าง ลูกชายก็เป็นเด็กหัวช้าอีก ลูกสาวก็ผอมบาง ไม่มีใครที่จะสามารถพึ่งพาได้เลยปัก!เขายกมือขึ้นและทุบไปที่เสื่อหญ้าด้วยความคับแค้นใจ และโทษที่ตัวเองไม่เอาไหน“อาหวั่น เพราะพ่อไม่เอาไหนเอง!”“ท่านพ่อ ข้าขอสัญญาว่า ขอแค่ท่านพ่อตกลงที่จะแยกครอบครัวออกมา ข้าจะดูแลท่านแม่และน้องๆให้ดี โดยที่ขาของท่านพ่อก็จะต้องรักษาจนหายได้เช่นกัน ข้าเชื่อว่าเทพเจ้าจะไม่โกหกข้า”ซูเหลียนเฉิงตกตะลึงข
Baca selengkapnya
บทที่ 20 ทนไม่ไหว
คำพูดประโยคนี้ของซูหวั่นไม่ได้พูดกับแม่เฒ่าเซี่ยง แต่พูดให้พ่อเฒ่าซูหัวหน้าสกุลซูที่แท้จริงฟังเสียต่างหากพ่อเฒ่าซูดูมีเหตุผลกว่าแม่เฒ่าเซี่ยงมาก“เอะอะโวยวายอะไร เรื่องมันยังไม่ใหญ่พองั้นรึ!”พ่อเฒ่าซูเคาะไปที่โต๊ะเตี้ยอย่างเต็มแรง แล้วถลึงตาใส่แม่เฒ่าเซี่ยง“ที่เจ้ารองบาดเจ็บก็เป็นเพราะข้า จะจ่ายไปเท่าไหร่มันก็คุ้มค่าอยู่แล้ว!”แม่เฒ่าเซี่ยงไม่กล้าต่อปากต่อคำกับพ่อเฒ่าซู นางทำได้เพียงฟึดฟัดไปสองสามทีเท่านั้น“บ้านสกุลซูของเราไม่เลี้ยงคนที่ไม่มีประโยชน์เอาไว้หรอกนะ ครอบครัวของเจ้ารองแยกออกไป ข้าจะยกเรือนฝั่งตะวันออกให้อยู่ก็แล้วกัน!”พ่อเฒ่าซูมองไปยังซูเหลียนเฉิง แล้วก็มองไปยังแม่เฒ่าเซี่ยงอีกครั้ง“เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไรน่ะ!”“ท่านพ่อ ที่ท่านแม่พูดก็ถูกนะครับ ตอนนี้พี่รองกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ไม่มีเหตุผลที่เราจะเลี้ยงทั้งครอบครัวของเขา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราเองก็ไม่ได้อยู่ดีกินดีสักเท่าไหร่ ให้พวกเขาแยกออกไปก็จะเป็นผลดีต่อพวกเขาด้วยนะครับ”ซูฉางโซว่พูดเก่งและมีวาทศิลป์อยู่เสมอ จากนั้นเขาก็ขยิบตาไปที่ซูฉางฝูอีกครั้งพ่อเฒ่าซูมองมาที่ซูฉางฝู“เจ้าล่ะว่าไง?”“ข้าคิดว่าน้องสามพูดถูก ท่านพ่อ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
123456
...
27
DMCA.com Protection Status