All Chapters of รักอยู่ที่ไหนสุขอยู่ที่นั่น: สามีสายฟ้าแล่บของฉันเป็นบอสใหญ่: Chapter 21 - Chapter 30
124 Chapters
บทที่ 21
แววตาของโป๋ซู่ก็ทอประกายอารมณ์โมโหที่ระเบิดออกมา "คุณหญิงที่ยโสโอหังคนนั้น ที่แท้ก็เป็นแม่เลี้ยงของผมนี่เอง" จากนั้นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็ดำทะมึนขึ้นมา "ไป๋เจ๋ว์บริจาคให้โรงพยาบาลตี้ตู้เป็นเงินเท่าไหร่ ทางเราก็บริจาคให้มากกว่าเขา 2 ล้าน บอกผู้อำนวยการด้วยว่าเงื่อไขคือห้ามไล่หยานซูออกเด็ดขาด"เฮยเสี่ยวถึงกับตื่นตระหนก หน้าผากของเขาเริ่มมีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมา ท่านประธานและแม่เลี้ยงเป็นคู่อริกัน บางครั้งเขาก็ท้าทายอำนาจของท่านพ่อของเขาที่ผ่านมาเฮยเสี่ยวเชื่อฟังคำสั่งโป๋ซู่มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้เขาจะปล่อยให้เจ้านายของเขาไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้เด็ดขาด : "ท่านประธานใช้เงินมากขนาดนั้นในการสนับสนุนโรงพยาบาลตี้ตู้ มันคุ้มแล้วงั้นเหรอ?"โป๋ซู่หัวเราะยิ้มขึ้นมา : "ภรรยาของผมมีตำแหน่งงานอยู่ในนั้น คุณคิดว่ามันคุ้มไหมล่ะ?"เฮยเสี่ยวก็นึกถึงคำพูดสัญญาของโป๋ซู่ที่กล่าวเกินจริงในตอนนั้นได้ขึ้นมา : "ถ้าเขาหาเงินได้กองเท่าภูเขา เขาจะเอาเงินให้ภรรยาใช้โปรยเล่น"เฮยเสี่ยวหุบปากในทันที"ครับ ท่านประธาน"หมู่บ้านฮวนฮวาเซียงหยานซูหลังจากเลิกเงินก็ตรงกลับเหมือนเช่นในทุกวันคุณพ่อของหยานซูไม่อยู่บ้า
Read more
บทที่ 22
กู่หยูเฉิงพูดอย่างเยาะเย้ย : "คนอื่นมอบดอกไม้ให้คุณดอกหนึ่ง ให้เสื้อผ้าคุณหลายชุด คุณคงจะไม่ไร้เดียงสาคิดว่าเขารักคุณหรอกใช่ไหม? หยานซู คุณไม่ดูตัวคุณเองเลย นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ความคิดคุณยังอยู่ในยุคสังคมศักดินา สมัยนี้จะมีผู้ชายสักกี่คนกันที่ยอมรับความรักโดยไม่มีเรื่องเพศมาเกี่ยว ขอเพียงเขารู้ว่าคุณเป็นโรคกลัวผู้ชาย เขาจะต้องแอบชิ่งหนีไปแน่นอน ไม่มีผู้ชายปกติคนไหนหรอกที่ชอบคนอย่างคุณ พวกเขาอย่างมากก็แค่เห็นคนเป็นของเล่นเอาไว้เล่น"หยานซูกัดฟันกรอด : "กู่หยูเฉิง คุณอย่าคิดว่าคนอื่นจะมีความคิดอัปมงคลเหมือนคุณจะดีกว่า การที่ฉันได้หลุดพ้นผู้ชายอย่างคุณที่ชอบกินข้าวนิ่มมาได้ก็นับว่าบุญหัวแล้ว" (กินข้าวนิ่ม หมายถึง เกาะคนอื่นกิน)หลังจากด่ากู่หยูเฉิงด้วยความเดือดดาล หยานซูก็ตัดสายทิ้งทันทีกู่หยูเฉิงโกรธจนหน้าดำหน้าแดงอีกด้านหนึ่งคุณพ่อของหยานซูก็ถือของมาเยี่ยมถุงเล็กถุงน้อยมาถึงบ้านครอบครัวกู่ คุณแม่ของกู่หยูเฉิงพอเปิดปีะตูออกมาก็เห็นคุณพ่อของหยานซู สีหน้าของนางลำบากใจอยู่เล็กน้อย"คุณพ่อหยานซู คือว่าคุณ?""คุณแม่หยูเฉิง ผมได้ยินว่าหยูเฉิงกลับบ้านมาแล้ว คือว่า? เด็กคนนี้? ทำไมกลั
Read more
บทที่ 23
คุณพ่อของหยานซูเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก ในเมื่อหยานซูไม่ได้เจตนาหมายถึงจะเลิกกับหยานซู คุณพ่อของหยานซูเลยยังเชื่อใจว่าที่ลูกเขยผู้มีความสามารถคนนี้อยู่ เขาเลยจึงเป็นฝ่ายเชิญกู่หยูเฉิงให้ไปเป็นแขกที่ครอบครัวหยานด้วยตัวเอง"หยูเฉิง พรุ่งนี้เสาร์อาทิตย์ เธอก็มาเป็นแขกที่บ้านของพวกเราสิ ลุงเองก็ได้เชิญเพื่อนสนิทมาหลายคนให้มาที่บ้านคงจะครึกครื้นดี"กู่หยูเฉิงจะปฏิเสธก็ไม่ได้ จะตอบปากรับคำก็ไม่ได้ เขาจึงได้แต่เบี่ยงประเด็น "คุณลุง ผมช่วงนี้ยุ่งมาก พรุ่งนี้ผมคงไปไม่ได้"คุณพ่อของหยานซูก็เห็นอกเห็นใจอย่างมาก : "ก็จริง เธอเองก็เพิ่งกลับมาและยังต้องเตรียมธุระเรื่องการฝึกงานอีก งั้นก็ได้ รอเธอว่างเมื่อไหร่ เธอก็จำไว้ว่าต้องมาด้วยล่ะ คุณป้าเขาจะทำอาหารอร่อยให้ทาน""ครับ" กู่หยูเฉิงตอบอย่างส่งๆตกกลางคืนเพื่อนบ้านของหยานซูลุงหวังและภรรยาของเขาก็มาหาด้วยอารมณ์คึกคัก โดยมาเชิญพวกเขาให้ไปงานเลี้ยงรวมครอบครัวของพวกเขาในวันพรุ่งนี้คุณแม่ของจื่อเหวินก็ดีใจจนพูดไม่หยุด : "นี่เป็นครั้งแรกที่แฟนหนุ่มของจื่อเหวิน มาเยี่ยมเราถึงบ้าน เขาจบตั้งปริญญาเอก คู่ควรมากเกินพอไปด้วยซ้ำสำหรับจื่อเหวินของเราที่จ
Read more
บทที่ 24
หยานซูเงยหน้าขึ้นมา แววตาที่ดำลึกหันมองกู่หยูเฉิงและหวังจื่อเหวินพวกเขาทำไมถึงได้มีน้ำหน้ามาบิดเบือนความจริง?นางตั้งใจจะไม่โวยวาย เพราะว่านางเป็นห่วงสุขภาพโรคหัวใจของคุณแม่ ดังนั้นต่อให้พวกเขาพูดคำโกหกเต็มปาก นางคงได้แต่ต้องกล้ำกลืนความน้อยใจลงไปหยานซูค่อยๆ ลุกยืนขึ้นมาจากโซฟา นางเดินมาหาคุณพ่อคุณแม่อย่างไม่เร่งรีบและพูดขึ้นมา : "พ่อคะ แม่คะ หนูเลิกกับเขาแล้วจริงๆ คะ"คุณพ่อของหยานซูตะลึงตาค้างคุณแม่ของหยานซูไม่เข้าใจ : "ทำไม? ลูกไม่ได้หวังที่อยากจะแต่งงานกับเขามาโดยตลอดหรอกหรือ?"หยานซูหันมองกู่หยูเฉิงพร้อมกับพูดกับเขาอย่างลำบากใจ : "คุณบอกพวกเขาเองคงจะดีกว่าว่าทำไมพวกเราต้องเลิกกัน?"กู่หยูเฉิงสีหน้ารู้สึกอึดอัดใจคุณพ่อของหยานซูก็ได้สติกลับมา จากนั้นก็ยกกำปั้นขึ้นมาจะชกกู่หยูเฉิง "ไอเด็กสารเลว ซูซูของพวกเราจริงใจกับแกมาโดยตลอด แต่แกกลับไปเล่นชู้สวาทกับเพื่อนนรักของนาง การกระทำของแกแบบนี้ แกจะไปต่างอะไรกับกับหมาป่าตาขาวที่เนรคุณ?"คุณพ่อของหยานซูท่าทีขึงขังและยกกำปั้นขึ้นต่อยไปที่หน้ากู่หยูเฉิง พริบตากู่หยูเฉิงก็มีเลือดกำเดาไหลอาบหวังจื่อเหวินก็รีบเอาตัวมาบังอยู่ข้างหน
Read more
บทที่ 25
หยานซูก็รีบลางาน นางเอาแต่เฝ้าดูแลคุณแม่ที่อาการสาหัสจนเหนื่อยล้า โทรศัพท์แบตหมดไปแล้วแต่นางก็ไม่ได้มีเวลาไปชาร์จช่วงสองวันนี้นางไม่ได้ติดต่อกับสามีที่เพิ่งแต่งงานไปเลย นี่ทำให้โป๋ซู่อย่างห่างไกลถึงต่างประเทศรู้สึกเป็นห่วงนางอย่างมาก ในตอนท้ายโป๋ซู่ก็หมดความอดทน เขาเลยโทรศัพท์ไปหาโป๋เฉินซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องชายของเขาโป๋เฉินรับสาย เขารู้สึกประหลาดใจที่อยู่ดีพี่โป๋ซู่ก็คิดถึงเขา หลังจากเขายืนยันหมายเลขโทณศัพท์อยู่หลายครั้ง เขาก็ถึงจะหยอกล้อโป๋ซู่ด้วยรอยยิ้มที่ขี้เล่น : "พี่ครับ หลุดศพของตระกูลเราไฟไหม้งั้นเหรอ? ไม่งั้นเจ้าพ่ออย่างพี่ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยนึกถึงจะมีเวลาว่างโทรมาหาได้อย่างไร? ถ้าสามารถได้เป็นที่โปรดปราณของเสี่ย ผมต่อให้ฝันจริงๆ ก็คงหัวเราะตื่นขึ้มาแล้ว""เลิกพูดพล่ามได้แล้ว พี่มีเรื่องจะให้เจ้าช่วย"สีหน้าโป๋เฉินจริงจังขึ้นมาทันที : "พี่ครับ บนโลกนี้มีเรื่องที่พี่ทำไม่ได้ด้วยงั้นเหรอ? พี่มีเรื่องอะไรก็สั่งมาได้เลย ผมจะบุกน้ำลุยไฟทำเพื่อพี่อย่างไม่ลังเลเลย""โทรศัพท์พี่สะใภ้แกสองวันนี้พี่โทรไม่ติดเลย แกไปที่โรงพยาบาลตี้ตู้ช่วยพี่ไปดูนางให้ที หากนางเจอเรื่องลำบากใจอะไร
Read more
บทที่ 26
คุณแม่ของจื่อเหวินก็สะอึกจนหน้าโกรธหน้าดำหน้าแดง จากนั้นนางก็โมโหถลึงตามองหยานซู : "หยานซู เธอบอกแม่เธอสิ ว่าจื่อเหวินของพวกเราเป็นมือที่สามใช่ไหม? เห็นๆ อยู่ความรักของเธอกับกู่หยูเฉิงได้เปลี่ยนไป จื่อเหวินของพวกเราและกู่หยูเฉิงคบกันหลังจากพวกเธอได้เลิกกันแล้ว จื่อเหวินของพวกเราจะไปเป็นมือที่สามได้อย่างไร?"หยานซูยืนขึ้นมาอย่างไม่มีทางเลือกและเดินมาอยู่ตรงหน้าของคุณแม่ของจื่อเหวิน : "คุณป้าหวัง กลับไปบอกลูกสาวของของคุณป้าว่าในเมื่อเลือกจะเป็นกะหรี่ก็เลิกคิดวางแผนจะได้สร้างซุ้มประกาศเกียรติคุณซื่อสัตย์ภักดีได้แล้ว ไม่งั้นฉันเองก็จะไม่ถือสาที่จะต้องเขียนงานวิจัยระดับ SCI เพื่อพิสูจน์ว่าลูกสาวขอคุณป้าขโมยคู่หมั้นของเพื่อนสนิทหญิงไปได้อย่างไร" (ซุ้มประกาศเกียรติคุณซื่อสัตย์ภักดี เป็นซุ้มประตูสมัยราชวงศ์ชิงที่จักรพรรดิพระทานให้สาวพรหมจรรย์ให้เป็นเกียรติกับตระกูล)คุณแม่ของจื่อเหวินถึงกับตกตะลึงในสายตาถ้าหากงานวิจัยนี้เผยแพร่สู่สาธารณะ หน้าตาของตระกูลครอบครัวนางจะเป็นอย่างไร?คุณพ่อจื่อเหวินก็กล่าวด้วยความอับอาย : "ซูซู จื่อเหวินแย่งแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิท เรื่องนี้นางทำผิดจรรยาบรรณ เพียง
Read more
บทที่ 27
โป๋เฉินหัวเราะคิกคักเดินออกมา พร้อมกับแซวล้อเลียนหยานซู : "พี่สาว พี่ช่างดูล้มเหลวมากจริงๆ พี่ดูสิว่าพี่ออกจะสวยขนาดนี้ อีกอย่างเรียนสูงจนเป็นหมอ แต่ทำไมสายตาของพี่ถึงได้ต่ำขนาดนี้? นึกไม่ถึงว่าจะไปชอบผู้ชายประเภท 'เลวทรามไร้ศีลธรรม'? เห้อ ขนาดขาสองข้างของคางคกตัวนี้ยังหาไม่เจอ ขาที่สามของผู้ชายไม่ใช่ว่าคงจะเล็กมากหรอกเหรอ? ต่อให้พี่สาวหลับตาเลือกผู้ชาย ผู้ชายที่หามาได้ก็ยังดีกว่าคนนี้เป็นหมื่นเท่า"โป๋เฉินสงสัยอย่างมาก ลูกพี่ลูกน้องชายของเขาที่เป็นตำนานในด้านธุรกิจคนนั้น รอบกายมีสุภาพสตรีที่งดงามเพียบพร้อมตั้งไม่รู้กี่คน ครอบครัวมีเงินทองรายล้อมรอบเขา ทำไมเขากลับมาชอบผู้หญิงประเภทหยานซูที่มีคนรักอยู่แล้วโป๋เฉินยั่วโมโหกู่หยูเฉิงได้สำเร็จ กู่หยูเฉิงกล่าวอย่างโมโห : "แกเป็นใคร? วันทำงานปกติไม่ไปทำงาน มาอยู่นี่เป็นหมาจับหนู ยุ่งเรื่องคนอื่น คงไม่ใช่ว่าเป็นพวกไม่มีการมีงานทำหรอกใช่ไหม?" (หมาจับหนู หมายถึง ยุ่งเรื่องของชาวบ้านทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องตัวเอง)โป๋เฉินถึงกับหลุดหัวเราะพรืดออกมา : "พี่สาวซูซู ในที่สุดผมก็รู้แล้วว่าทำไมพี่สาวถึงแพ้ให้ผู้หญิงคนนี้ ที่แท้ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ดี แต่เพรา
Read more
บทที่ 28
หยานซูและเจสันก็ได้พูดเกี่ยวกับอาการป่วยของคุณแม่คราวๆ จากนั้นเจสันก็พาผู้ช่วยเข้าไปในห้องผู้ป่วยมีเพียงกู่หยูเฉิงและคนของตระกูลหวังที่ถูกไล่ออกไปข้างนอก ทั้งเขินอายและสับสนในหัวของพวกเขาเต็มไปด้วยคำถามที่วนเวียน : "โป๋เฉินทำไมต้องช่วยหยานซู""หยานซูรู้จักคนใหญ่คนโตอย่างโป๋เฉินคนนี้งั้นเหรอ?"ครอบครัวตระกูลหวังอาศัยช่วงที่คุณแม่ของหยานซูป่วยหนักพยายามแสดงความกังวลเป็นห่วง เพื่อกลบเกลื่อนความบาดหมางระหว่างตระกูลหยานและตระกูลหวัง พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่านี่จะเป็นความคิดที่ดีมาก แต่ความจริงก็กลับตบหน้าพวกเขา ไม่เพียงแต่ไม่สามารถคลายความขัดแย้งได้แล้ว แต่ยังนำความอัปยศอดสูมาให้อีกด้วยหลังจากเยี่ยมอาการเสร็จ กู่หยูเฉิงก็อกสั่นขวัญหายพาหวังจื่อเหวินและแม่ขอนางออกจากโรงพยาบาลหวังจื่อเหวินพอเห็นกู่หยูเฉิงเหม่อลอยไม่มีสติ ในใจก็รู้สึกอึดอัดอย่างมาก กู่หยูเฉิงเป็นผู้ชายที่ทะเยอทะยานในหน้าที่การงาน ตอนนั้นที่เลิกกับหยานซูและมาคบกับนาง ก็เพราะเหตุผลส่วนใหญ่คือเห็นคุณค่าความสำคัญหน้าที่การงานของคุณพ่อของนางมากกว่า พ่อของนางสามารถช่วยเขาหางานได้ตอนนี้หยานซูเองก็ไม่รู้ว่าไปรู้จักคนใหญ่คนโตอย
Read more
บทที่ 29
โป๋เฉินรีบพูดขึ้นมาอย่างกับหมาจนตรอก : "พี่ชาย พี่อย่าถือสาเลย พี่ดูผมอุตส่าห์คอยวิ่งเต้นจัดการรับใช้ปรนนิบัติคุณป้าหยานให้ขนาดนี้ พี่ออกจะใจกว้างดั่งมหาสมุทรขนาดนั้น ยกโทษให้ผมสักครั้งเถอะ"โป๋ซู่ขี้เกียจจะเถียงกับโป๋เฉิน เขาแค่อยากโทรศัพท์คุยกับหยานซู : "ซูซู โป๋เฉินเป็นลูกพี่ลูกน้องชายของผม นิสัยทะเล้น หลังจากนี้คุณก็อภัยให้เขาหน่อยเถอะ"หยานซูรู้สึกขอบคุณโป๋เฉินที่ช่วยมาแก้สถานการณ์ให้ในวันนี้ ดังนั้นนางจึงรู้สึกว่าท่าทีทะเล้นของโป๋เฉินก็ดูน่ารักตรงไปตรงมาดีหยานซูพูดขึ้นมา : "โป๋ซู่ วันนี้โป๋เฉินช่วยฉันเอาไว้ได้มาก ฉันอยากเชิญเขาและศาสตราจารย์เจสันไปทานข้าว คุณจะมาด้วยไหม?"โป๋ซู่ชะงักไปเล็กน้อย ศาสตราจารย์เจสันรับเงินค่าตรวจรักษาจากเขาไปมหาศาลจนทำให้เขาเป็นเศรษฐีได้เลย โป๋เฉินทุกเดือนก็ใช้เงินค่าขนมจำนวนมาก แค่เชิญพวกเขาสองคนไปกินข้าว มันจะไปพองั้นเหรอ?แต่ว่าน้ำใจตอบแทนบุญคุณของหยานซูถือเป็นสมบัติไม่อาจประเมินมูลค่าได้ โป๋ซู่ก็ไม่อยากขัดใจของนาง"ภรรยาคิดได้รอบคอบดีมาก อันที่จริงก็ควรจะขอบคุณศาสตราจารย์เจสัน วันนี้สี่โมงผมจะถึงเมืองตี้ตู้ พอถึงเวลาผมจะไปที่โรงแรมเลย""อืม
Read more
บทที่ 30
โป๋ซู่เช่นนี้ เห็นชัดอยู่ว่าเขาแค่พูดอธิบายเรื่องที่ไม่ได้นักหนาสำคัญ แต่นั่นกลับทำให้หยานซูรู้สึกเจ็บปวดใจนางไม่ใช่คนที่จะเศร้าใจยามวสันต์ หดหู่ยามสารท แต่นางกลับชอบที่จะเอาความขมขื่นในชีวิตให้ผ่านพ้นไปเหมือนดั่งบทกวี จู่ๆ แขนที่นางคล้องแขนโป๋ซู่ก็แน่นขึ้นพร้อมกับกล่าวยิ้ม : "หลังจากนี้ ฉันจะมารับที่สนามบินทุกครั้งเลย" (เศร้าใจยามวสันต์ หดหู่ยามสารท หมายถึง อารมณ์อ่อนไหว)โป๋ซู่ยิ้มไปด้วยความสุขที่เปี่ยมล้น : "ซูซู คุณทำแบบนี้อย่างกับผมเป็นสัตว์เลี้ยงที่อ่อนแอเลย"หยานซูพอนึกถึงกู่หยูเฉิงและก็กล่าวอย่างเย้ยหยัน : "ทำอย่างกับฉันไม่เคยเลี้ยงสัตว์อ่อนแอไปได้ เลี้ยงเพิ่มอีกสักตัวก็ไม่ได้เยอะนักหนาอะไร"โป๋ซู่ขมวดคิ้ว นี่เอาเขาไปเปรียบกับกู่หยูเฉิงผู้ชายสารเลวคนนั้นงั้นเหรอ?เขารับไม่ได้"ซูซู ผมไม่ได้ต้องการให้คุณมาเลี้ยงดูผม ผมต้องการแค่คุณรักผมก็เท่านั้น"หยานซูชะงักไป มันต่างกันเหรอ ?ตอนที่โป๋ซู่และหยานซูเดินออกมาจากสนามบิน นางก็เห็นกลุ่มคนหันกลับมามองอยู่บ่อยครั้ง หยานซูรู้สึกแปลกประหลาด พวกเขาน่าดึงดูดความสนใจขนาดนี้เลยเหรอ?จากนั้นข้างหูนางก็ได้ยินเสียงผู้หญิงหนึ่งที่กำลั
Read more
PREV
123456
...
13
DMCA.com Protection Status