บททั้งหมดของ องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน: บทที่ 21 - บทที่ 30

1090

บทที่ 21

สองวันให้หลัง งานเลี้ยงฉลองจวนใหม่องค์ชายหกที่เชิญพวกขุนนางมาก็เริ่มขึ้นแล้วทว่า นอกจวนองค์ชายหกนั้นคึกคักยิ่ง มีขุนนางจากราชสำนักหรือไม่ก็พวกผู้อาวุโสที่จะส่งคนมามอบของขวัญเป็นพักๆ ไม่ขาดสาย แต่ล้วนมามอบของแล้วจากไปเลย ไม่แม้นแต่จะย่างเข้าประตูจวนเมื่อเทียบกับความคึกคักนอกจวนแล้ว ภายในจวนกลับเงียบเหงาจนวังเวงหยุนเจิงนั่งวางแผนของอนาคตของที่เรือนหลัง วันนี้รับของมามากมาย อย่างไรตอนนี้ก็จะมีเงินแล้วถัดมาก็ต้องสั่งสมกำลังคนของตนเองสักหน่อยแล้ว!แต่ก็ห้ามให้คนอื่นรู้แผนการในใจของเขาเด็ดขาด ดังนั้น เขาไม่สามารถเรียกบรรดาเหล่าจอมยุทธ์มาที่จวนได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาขึ้นแล้ว“เรียนองค์ชาย คุณหนูเสิ่นมาแล้วเพคะ”เวลานี้ มีสาวรับใช้มารายงาน“นำนางเข้ามาเถิด!”หยุนเจิงแม้นจะโบกมือขึ้นอย่างเฉยเมย แต่ในใจกลับสงสัยเสิ่นลั่วเยี่ยนมาทำอะไร?คงไม่ได้มาหัวเราะเยาะตัวเองหรอกนะ?หรือว่า นางคิดตกแล้ว รู้ว่างานในวันนี้ ใครจะไม่มาก็ได้ แต่นางต้องมา?รอเสิ่นลั่วเยี่ยนเข้ามาแล้ว หยุนเจิงก็ให้สาวรับใช้ออกไป“เจ้าไม่ได้จัดงานเลี้ยงเข้าจวนหรอกหรือ เหตุใดจึงไม่จัดสุราอาหารเลยล่ะ?”เสิ่นลั
Read More

บทที่ 22

หยุนเจิงหัวเราะเยาะ “อย่าพูดขู่อีกเลย! ความกล้าระดับนี้ของเจ้า เหตุใดตอนนั้นต้องรับราชโองการทั้งน้ำตาด้วยเล่า?”“ข้า…”เสิ่นลั่วเยี่ยนพูดไม่ออก เจ็บใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัวนางอยากจัดหยุนเจิงสักยก แต่ก็ไม่อาจทำอะไรหยุนเจิงได้ ทำได้เพียงนั่งจมอยู่กับความโกรธตรงนั้นหยุนเจิงยิ้มองเสิ่นลั่วเยี่ยน แล้วถามขึ้นอีกว่า “เจ้ามาที่นี่เอง หรือเพราะคนอื่นบอกเจ้าให้มาล่ะ?”เสิ่นลั่วเยี่ยนแค่นเสียงเหอะ “หากไม่ใช่เพราะแม่ข้าไม่สบาย ข้าคงไม่มาเองหรอก!”นางไม่อยากมาจริงๆ แต่ไม่มาไม่ได้ก็เหมือนกับที่พี่สะใภ้รองเยี่ยจื่อบอกนาง ที่นี่อีกไม่นานก็จะเป็นบ้านของนางแล้ว!ต่อให้มาเพียงแค่เป็นพิธี นางก็ต้องมาสักครู่!หยุนเจิงมองสภาพที่ไม่ยินยอมพร้อมใจของนาง ก็ส่ายศีรษะแล้วหัวเราะ “หากเจ้าไม่อยากเห็นหน้าข้า เจ้าก็ไปที่อื่นเถิด หรือว่าเจ้าจะกลับบ้านก็ได้นะ”เสิ่นลั่วเยี่ยนพอได้ยินก็รีบลุกขึ้นทันทีกระนั้น นางก็ไม่ได้ขยับเท้าเดินไปไหนเวลาชั่วครั่วจากนั้น เสิ่นลั่วเยี่ยนก็นั่งลงอีก มองหยุนเจิงจากหัวจรดเท้า“นี่เจ้ากำลังทำอะไร?”หยุนเจิงถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจเสิ่นลั่วเยี่ยนจ้องตาของหยุนเจิง “พี่สะใภ้ร
Read More

บทที่ 23

งานเลี้ยงขึ้นจวนใหม่ของหยุนเจิงที่ไม่มีใครมาร่วม ทำให้เขาได้กำไรเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยวจักรพรรดิเหวินแม้นจว่าจะไม่ได้มาร่วมงานด้วยพระองค์เองเนื่องจากมีพระราชกิจติดตัว แต่ก็สั่งให้คนนำของมามอบให้เขาแล้วจักรพรรดิเหวินได้มอบของขวัญแล้ว บรรดาองค์ชายองค์หญิงก็ต้องมอบของด้วยเช่นกันยังมีผู้คนมากมายที่เขาไม่ได้ส่งเทียบเชิญให้ คนพวกนั้นล้วนส่งคนมามอบของขวัญแก่เขาแค่คิดคร่าวๆ ของพวกนี้ที่ได้รับมีมูลค่าราวหนึ่งแสนตำลึงเงินแล้วสิ่งที่น่าปวดหัวตอนนี้คือ จะทำยังไงให้เขามีกองทัพทหารในมือขึ้นจริงๆเพิ่งรับของมาวันนี้ วันรุ่งก็นำไปขายเลย หากบอกกล่าวออกไป ดูท่าคงไม่ดีนัก!หยุนเจิงคิดจนถึงดึกดื่น ก็ไม่สามารถหากเหตุผลที่ดีมากพอที่จะแปลงของพวกนี้เป็นเงินสด สุดท้ายจึงคร้านจะคิดต่ออย่างไรเสียในวันแต่งงานก็ต้องได้รับของกำนัลอีกมากโขถึงเวลานั้นค่อยคิดหาทางแปลงเป็นเงินสดก็แล้วกัน!กลางดึก ในพระราชวัง“สถานการณ์ทางเจ้าหกเป็นเช่นไรบ้าง”จักรพรรดิเหวินสั่งให้คนรอบกายออกไป เรียกองครักษ์เงามาพูดคุยด้วยเป็นการส่วนตัวองครักษ์เงาตอบว่า “ขุนนางบู๊บุ๋นทั้งทั้งราชสำนัก ต่างก็ส่งของกำนัลไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ เพี
Read More

บทที่ 24

จะมาอย่างสันติหรือจะท้ารบ ก็ยังไม่ทราบได้กำลังทหารของเขาไม่เท่าเป่ยหวน คดีขององค์รัชทายาทก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียวแคว้นรอบๆ ก็คอยจ้องจะเขมือบตลอดเวลาต่อให้เอาชนะเป่ยหวนได้ หากต้าเฉียนได้รับบาดเจ็บสาหัด เขาจะหยุดยั้งพวกแคว้นที่หิวโซรอบๆ ได้อย่างไรเล่าพอถึงตอนนั้น แคว้นพวกนั้นก็จะโจมตีต้าเฉียน ต้าเฉียนก็สิ้นแล้วแต่จะให้ส่งเสบียงกรังแก่เป่ยหวน เขาก็ทนไม่ได้จริงๆ!ปวดเศียร ปวดเศียรเวียนเกล้าจริงๆ!จักรพรรดิเหวินครุ่นคิดทั้งคืนจนถึงรุ้งเช้า ถึงตัดสินพระทัยได้ให้ไปเถอะ!ต้าเฉียนไม่ได้เตรียมมือพร้อมทำการสู้รบ หากเปิดศึกตอนนี้ โอกาสจะชนะแทบจะเป็นสูญ…ช่วงบ่าย สองวันให้หลังหยุนเจิงเพิ่งซื้อหญิงสาวที่ถูกพ่อผีพนันของนางขายไปที่หอโคมเขียวมา ในวังก็มีคนมาหาแล้ว“คืนนี้ฮ่องเต้จะทรงจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตเป่ยหวนที่วังว่านโซ่ว เชิญองค์ชายหกพร้อมด้วยพระชายาองค์ชายหกเข้าร่วมงานตรงตามเวลาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ได้เลย รบกวนกงกงมากแล้ว!”หยุนเจิงพูดตอบ แล้วให้คนมาตบรางวัลให้กงกงที่มาส่งข่าวกงกงที่เพิ่งได้รับเงินราลวัลก็กล่าวขอบพระทัย แล้วจากไปอย่างชื่นบาน“จากนี้ไป เจ้าก็ชื่อซินเซิงแล้วก
Read More

บทที่ 25

วังว่านโซ่วยังเร็วอยู่กว่าจะถึงเวลาเริ่มงานเลี้ยงค่ำทว่า ภายนอกพระราชวังมีคนคอยท่าอยู่เป็นจำนวนมากแล้วนี่เป็นถึงงานเลี้ยงที่จักรพรรดิเหวินจัดขึ้นเพื่อต้อนรับคณะทูตเป่ยหวนเชียวนะ เป็นยามแสดงให้เห็นถึงความเกรียงไกรของราชวงศ์ต้าเฉียน ไม่มีใครกล้ามาสายเป็นดังที่เสิ่นลั่วเยี่ยนคาดไว้ นอกจากเชื้อพระวงศ์แล้ว คนที่มาล้วนเป็นขุนนางคนสำคัญในราชสำนักขุนนางที่ต่ำกว่าขั้นสาม แทบจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมงาน“น้องหก วันนี้ลมอะไรหอบเจ้ามาได้ล่ะ?”“ข้าคิดว่าน้องหกจะแสร้งป่วยเสียอีก!”“นี่ก็คือพี่หกงั้นหรือ? เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าไม่เคยพบมาก่อนเลยล่ะ?”“เจ้าเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง? อย่าว่าเจ้าไม่เคยเจอเลย ข้าเองก็เคยเห็นพี่หกเจ้ามากนัก เขาพบตัวได้ยากกว่านางนารีในป่าลึกเสียอีก …”องค์ชายและองค์หญิงที่ตามหลังหยุนเจิงกับเสิ่นลั่วเยี่ยนมาต่างพูดหยอกเขาขึ้นมา แม้แต่เจ้าแปดที่เพิ่งอายุได้ 13 ชันษาก็หัวเราะเยาะเขากับเขาด้วยเสิ่นลั่วเยี่ยนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการหัวเราะเยาะของผู้คน ในใจนางแค้นยิ่งนัก แต่หยุนเจิงกลับสงบนิ่งผิดปกติ ใบหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดเลย“น้องหก เจ้าพูดอะไรสักอย่างสิ!”องค์ชายห้า
Read More

บทที่ 26

หยุนเจิงเงยหน้าขึ้นมองไปยังบรรดาองค์ชายองค์หญิงด้วยสีหน้า ‘อมทุกข์’ สายตาที่ตอบรับหยุนเจิงนั้นราวกับมองเห็นเทพเจ้าแห่งโรคระบาด พวกเขารีบจากไปตามทางของตน กลัวว่าจะโดนเทพเจ้าโรคระบาดนี่มาขอยืมเงินในระหว่างนี้ คนที่มาล้อมรอบพวกเขาไว้หลีกหายไปจนหมดไม่มีคนกลุ่มนี้ หยุนเจิงรู้สึกว่าอากาศรอบตัวบริสุทธิ์ขึ้นไม่น้อย“เจ้าอายคนเขาบ้างไหมนั่น!”เสิ่นลั่วเยี่ยนโกรธจนตัวสั่น พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงย่ำแย่ว่า “รู้ทั้งรู้ว่าพวกเขาจะไม่ยืมเงินให้เจ้าแน่นอน เจ้ายังจะกล้าเปิดปากพูด? ข้าล่ะรู้สึกอายคนแทนเจ้าจริงๆ!”“ก็ข้าไร้ซึ่งหนทางแล้วนี่?” หยุนเจิงสูดจมูก สายตาตกไปบนตัวเสิ่นลั่วเยี่ยน “ไม่เช่นนั้น เจ้าให้ข้ายืมหน่อยไหม…”“อย่าแม้แต่จะคิด!”เสิ่นลั่วเยี่ยนสกัดความคิดของหยุนเจิง หันหน้าไปทางอื่นหากเป็นไปได้ นางอยากจะหารูมุดหนีไปจริงๆขณะนั้นเอง หยุนลี่มาถึงก็มีกลุ่มคนหนึ่งกรูกันเข้ามาพรรคพวกขององค์ชายสามมีอำนาจมากที่สุดในราชวงศ์นี้พอหยุนลี่มาถึงก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางทันทีหยุนลี่มองปราดเดียวก็เห็นหยุนเจิงกับเสิ่นลั่วเยี่ยนที่ยืนกันอยู่สองคนด้านข้างจังหวะที่หยุนลี่เห็นหยุนเจิง มีความเฉี
Read More

บทที่ 27

ยืมเงิน?พอหยุนลี่ได้ยินคำพูดนี้ของหยุนเจิง หน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำไอ้เวรนี่!ไหลไปตามน้ำเก่งจริงๆ!เอาล่ะ!ให้ยืมก็ให้ยืมสิ!ดีเหมือนกันจะได้ทำเล่นบทเปลี่ยนความเกลียดชังเป็นมิตรภาพต่อหน้าผู้คนสักหน่อยหากในอนาคตเกิดเรื่องอะไรกับไอ้เวรนี่ ก็อย่าสาวมาถึงตัวเขาก็แล้วกัน!“น้องหก เจ้าจะยืมเงินสักเท่าไหร่ล่ะ?”หยุนลี่สอบถาม!“สามหมื่นตำลึง!”หยุนเจิงเปิดปากก็โลภเอาทรัพย์คำเลย พูดความต้องการของตัวเองขึ้นมาอย่างน่าสงสารความหมายนั่นก็คือ สามวันยังไม่พอเสียด้วยซ้ำ จะให้ดีก็เพิ่มเงินให้เขายืมอีกหน่อยสาม...สามหมื่นตำลึง?ใบหน้าหยุนลี่กระตุกแรงๆ หนึ่งที แทบจะกระทืบเขาไปทีหนึ่งองค์ชายอย่างพวกเขา เดือนหนึ่งได้รับเงินก็แค่หนึ่งพันตำลึงเจ้าสุนัขตัวนี้ เปิดปากก็จะเอาสามหมื่นตำลึง!คิดว่าเขาเป็นท้องพระคลังหรือไง?หยุนลี่โกรธจนจะตายแล้ว แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรได้มาก ทำได้เพียงนำตัวเงินหยัดเข้ามือหยุนเจิง “ตั๋วเงินที่พี่สามนำติดตัวมานี้เอาให้เจ้าทั้งหมด หากไม่พอ เจ้าก็ไปขอยืมกับพี่สองเจ้าเถอะ!”พูดจบ หยุนลี่ก็รีบวิ่งหนี ในใจคิดอย่างเกลียดแค้นว่า: แล้วข้าจะจัดการเจ้าอย่างสาสม!
Read More

บทที่ 28

หยุนเจิงรู้สึกว่าไอ้ตัวเลวนี่ไม่ได้มาว่าการทูต แต่มาเพื่อประกาศสงครามต่างหาก!เมื่อเห็นท่าทีสูงศักดิ์ของพวกคณะทูตเป่ยหวน พวกที่ยืนอยู่ฝั่งสนับสนุนให้ทำสงครามก็รู้สึกคันเหงือกขึ้นมาทันทีพระเนตรของจักรพรรดิเหวินก็ฉายแสงเย็นเฉียบ พยายามระงับความโกรธ สายตาจ้องไปที่ปานปู้เป็นชั่วเวลาหนึ่งห้าปีก่อนที่เขาเสด็จออกรับที่ซั่วเป่ย หลงกลอุบายของปานปู้ผู้นี้แหละ ถึงได้ถูกกองทัพของพวกเป่ยหวนล้อมรอบเอาไว้ได้แม้ว่าเสิ่นหนานเจิงจะเอาความชีวิตเข้าแลกเพื่อแก้กล แต่กำลังของต้าเฉียนนั้นร่อยหรอแล้ว สุดท้ายถูกบีบให้ขีดแบ่งสามเขตเมืองที่อยู่เหนือแม่น้ำไป๋สุ่ยเพื่อแลกกับความสงบสุขวันนี้ได้พบกับปานปู้อีกครั้ง ก็เท่ากับว่าเป็นการพบหน้ากันของศัตรูเก่าอีกครั้ง แน่นอนว่าตาต้องแดงขึ้นมา“ฮ่องเต้แห่งต้าเฉียน ไม่พานพบกันห้าปี สีหน้าของท่านดีขึ้นกว่าเดิมมากเลยนี่!”ปานปู้ยืนขึ้นมั่น มองไปที่จักรพรรดิเหวินหน้าเปื้อนรอยยิ้มเพียงแต่ รอยยิ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยการเสียดสี“บังอาจ!”อวี้กั๋วกงเซียวว่านโฉวตบโต๊ะเตี้ยแล้วลุกขึ้น กล่าวขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “คณะทูตเป่ยหวนเข้าเฝ้าพระพักตร์ เหตุใดจึงไม่คาราวะต่อฮ่องเต
Read More

บทที่ 29

นี่มันรูบิคยุคโบราณหรือนี่?แต่ก็เป็นเพียงรูบิคสามคูณสามขั้นพื้นฐานเท่านั้นอีกทั้งยังเป็นรูบิคที่ทำจากหยกเสียด้วยผู้คนมองสิ่งของที่อยู่ในมือของปานปู้ ผู้คนสงสัยกันอย่างยิ่งชาวต้าเฉียน นอกจากหยุนเจิงแล้ว ก็ไม่มีใครเคยเห็นสิ่งของเช่นนี้มาก่อนปานปู้มองไปที่ผู้คนด้วยแววตาหยิ่งยโส “ข้าได้ยินมานานแล้วว่าต้าเฉียนนั้นวรรณกรรมสูงส่ง มีปราชญ์ที่มากความสามารถมากมาย”“วันนี้ ข้าผู้เป็นราชครูจึงได้นำของสิ่งนี้มาทดสอบทุกท่าน ดูสิว่าจะมีใครในต้าเฉียนที่สามารถแก้ของสิ่งนี้ได้หรือไม่!”“หากต้าเฉียนไม่มีนายทหารที่แกร่งกล้า และไม่มีทั้งปราชญ์ผู้ปราดเปรื่องรอบรู้ แล้วเหตุใดราชครูเช่นข้าต้องทำการคาราวะด้วย?”ผู้คนพอได้ฟังคำของปานปู้ก็ฉงนใจยิ่ง“ข้าขอลอง!”เซียวว่านโฉวเป็นคนแรกที่พุ่งตัวออกไป เขาตะคอกด้วยความรังเกียจ "ของพรรค์นี้ ข้าสามารถบดขยี้มันได้ด้วยมือเดียว!"“…”ใบหน้าหยุนเจิงกระตุก มองไปที่ชายชราอย่างหมดคำจะพูดผู้อื่นให้เจ้ามาแก้ลูกรูบิค!ไม่ใช่ให้เจ้ามาทุบจนแตก!“ท่านแม่ทัพใหญ่เจียง เกรงว่าเจ้าจะไม่เข้าใจคำของข้า”ปานปู้หัวเราะกล่าว “ข้าให้เจ้าแก้ของสิ่งนี้ ไม่ใช่ให้เจ้าทุบตีมั
Read More

บทที่ 30

ปานปู้มองไปทางหยุนลี่อย่างเหยียดหยามราวกับกำลังมองลิงอย่างไรอย่างนั้น “นี่เพิ่งจะแก้ได้ด้านเดียวเอง ยังมีอีกตั้งห้าด้าน!”“ล้วนใช้หลักการเดียวกันทั้งนั้น!”หยุนลี่หัวเราะอย่างได้ใจ “แก้ได้ด้านหนึ่งแล้ว ด้านที่เหลือก็เช่นเดียวกันมิใช่รึ?”ผู้คนพอได้ยินก็พยักหน้าตามหยุนเจิงที่มองหยุนลี่หมุนลูกรูบิควนอยู่กับที่เดิม ก็อดลอบส่ายหัวไม่ได้ไอ้งั่งเอ้ย!ของที่แก้ง่ายเช่นนี้ ยังให้ผู้อื่นนำมาข่มขู่พวกเจ้าได้?พวกเจ้าคิดว่าตนเป็นคนฉลาดจริงๆ หรือ?ล้วนเป็นพวกเก่งแต่โอ้อ้วดทั้งนั้น!เสิ่นลั่วเยี่ยนที่เห็นหยุนเจิงส่ายหัว ก็แค่นเสียงเหอะ “อิจฉารึไง”“ข้าเนี่ยนะอิจฉาเขา?”หยุนเจิงเบะปาก “เขาแก้ไม่ได้หรอก!”“เจ้าอิจฉาเขาชัดๆ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนแค่นเสียงเหอะ “ถ้าเจ้าเก่งก็ลองไปแก้ดูสิ! หากทำไม่ได้ก็อย่ามาแช่งผู้อื่นด้วยความอิจฉาอยู่ที่นี่!”มุมปากหยุนเจิงกระตุก พูดถามขึ้นว่า “นี่เจ้าคงไม่ได้ชอบเจ้าสามหรอกนะ?”“ถุย!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพ่นถุยเบาๆ พูดอย่างรังเกียจเต็มใบหน้า “เป็นคนที่ไร้น้ำใจที่สุดก็คือราชวงศ์! ข้าไม่อยากเกี่ยวดองกับใครทั้งนั้นในเชื้อพระวงศ์นี้!”เอ๋?ยัยเด็กนี่ก็ไม่ได้โง่นี
Read More
ก่อนหน้า
123456
...
109
DMCA.com Protection Status