บททั้งหมดของ องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน: บทที่ 41 - บทที่ 50

1090

บทที่ 41

ผู้คนเงียบเสียงลง ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าจะว่ากล่าวเช่นไรอีก“ฝ่าบาท องค์ชายหกมีคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่จริง!”สวีสือฝู่ยืนขึ้นมา “ทว่า กระหม่อมคิดว่า ตอนนี้เป่ยหวนเพียงพูดคืนดินแดนที่สูญเสียไปอย่างปากเปล่า เรื่องนี้นับว่ายังไม่ได้รับข้อสรุปชั่วคราว! ต่อให้ฝ่าบาทใคร่จะแต่งตั้งองค์ชายหกเป็นอ๋อง ก็ต้องรอให้ได้รับข้อสรุปในตอนท้ายแล้วค่อยว่ากันใหม่พ่ะย่ะค่ะ!”“คำพูดนี้ของจิ้วกั๋วกงมีเหตุผล!”“สมควรเป็นเช่นนี้!”“กล่าวอย่างยอมถอยให้หมื่นก้าว อย่างน้อยก็ต้องรอให้ลงนามหนังสือข้อตกลงการคืนดินแดนก่อนค่อยว่ากัน”“ใช่แล้วๆ ตอนนี้หากจะฝ่ากฎแต่งตั้ง องค์ชายหกเป็นอ๋อง ยังเร็วเกินไปมากนัก…”ผู้คนเห็นด้วยตามๆ กัน“เป็นเพราะเสด็จพ่อยังไม่สร่างเมาหรือไม่…”และในเวลานี้ มีเสียงบ่นงึมงำดังขึ้นมาทันใดนั้น ผู้คนทะยอยกวาดสายตาไปยังแถวท้ายสุดพระพักตร์ของจักรพรรดิเหวินก็กระตุก จ้องไปที่หยุนเจิงที่อยู่ตรงมุม อย่างน่าโกรธและน่าขัน “เจ้าหก เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ”“หา?”หยุนเจิงเงยหน้าขึ้นมาทันที แสร้งทำเป็นจ้องไปยังจักรพรรดิเหวินกับผู้คนอย่างลุกลี้ลุกลน จากนั้นก็แสร้างทำท่าหงอยๆ พูดติดๆ ขัดๆ ว่า “ลูก ไ
Read More

บทที่ 42

พอได้ยินคำพูดของจักรพรรดิเหวิน เหล่าขุนนางก็เก็บเสียงเงียบกริบมารดาสิ เรื่องนี้ใครจะรู้!ที่เป่ยหวนคิด แน่นอนว่ายิ่งมากยิ่งดีสิ!ปัญหาไม่ใช่เรื่องที่เป่ยหวนอยากได้เท่าไหร่ ปัญหาคือต้าเฉียนให้ได้แค่ไหน สรุปแล้วจุดขีดสุดของต้าเฉียนอยู่ตรงไหนต่างหาก!นี่ต่างหากที่เป็นปัญหา!ในขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าจะเปิดปากพูดเช่นไร เซียวว่านโฉวเดินออกมาพูดว่า “มอบเสบียงให้พวกเขาสักหน่อย แค่คนของพวกเขาไม่หิวตายก็พอแล้ว! หากอยากได้มากกว่านั้น ก็นำทหารรบมาแลก!”เซียวว่านโฉวเป็นฝ่ายสนับสนุนการรบ เขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการช่วยเหลือเป่ยหวนด้านเสบียงกรังแต่ในเมื่อจักรพรรดิเหวินได้ตัดสินใจไม่เปิดศึกแล้ว เขาเองก็ไม่สามารถว่าอะไรได้ในใจเขาก็เข้าใจดี หากเวลานี้เปิดศึกกับเป่ยหวนนั้นไม่เป็นประโยชน์กับต้าเฉียนเลยสักนิด“เกรงว่าเป่ยหวนจะไม่เรียกร้องมากกว่านี้น่ะสิ!”จักรพรรดิเหวินถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง กลัดกลุ้มพระทัยเป็นอย่างมากเช่นกัน“เสด็จพ่อ ลูกคิดว่า หากเป่ยหวนยินยอมลงนามบนสัญญาคืนดินแดนที่เราเสียไป ให้เสบียงพวกเขามากน้อยก็ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ!”เวลานี้ องค์ชายสี่หยุนถิงก็ออกมาเสนอความเห็นคำพูดของอ
Read More

บทที่ 43

หลังจากกลับถึงบ้านแล้วหยุนเจิงก็นอนชดเชยก่อนเลยแน่นอนว่า การนอนชดเชยนั้นเขาเพียงทำให้ผู้อื่นดู ที่จริงเขากำลังเอนกายครุ่นคิดเรื่องต่างๆ อยู่บนเตียงผ่านไปเพียงครู่ ซินเซิงสาวใช้ที่เขาเพิ่งรับมาก็มาปลุกเขา บอกว่าคนจากทางวันนำของรางวัลมาให้แล้วหยุนเจิงมองสาวรับใช้คนนี้อดไม่ได้คิดว่า ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งจริงๆก่อนหน้านี้สาวรับใช้คนนี้ตัวสกปรกมอมแมม ดูไปแล้วก็แค่นั้นแต่ตอนนี้พออาบน้ำให้สะอาดแล้วเปลี่ยนใส่อาภรณ์ใหม่ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้สดใสเป็นอย่างมากทว่า เด็กสาวคนนี้เพิ่งจะอายุได้สิบหกปี ยังไม่ถึงวัยแรกแย้มอย่าเต็มตัวแม้ว่าหยุนเจิงรู้สึกตัวเองก็สมควรจะได้ใช้ชีวิตเสเพลดั่งองค์ชาย แต่การเป็นคนรุ่นใหม่ที่ดีนั้น เขาไม่ควรคิดไม่ดีไม่ร้ายกับเด็กสาวคนนี้อืม เลี้ยงไว้อีกหน่อยแล้วกัน!ทันใดนั้นในสมองของหยุนเจิงก็เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นความคิดเช่นนี้ทำให้หยุนเจิงสะดุ้งโหยงเวรเอ้ย!ที่แท้เราก็เป็นชั่วร้ายเหมือนกัน!เอ๋ ไม่ใช่สิ!น่าจะเป็นสัญชาตญาณของลูกพี่ผู้เป็นเจ้าของร่างเดิมที่ยังหลงเหลืออยู่!ต้องใช่แน่ๆ!หยุนเจิงหาเหตุผลที่เหมาะสมแก่ตัวเอง จากนั้นจึงนำซินเ
Read More

บทที่ 44

“ค่อยยังชั่ว”เยี่ยจื่อพยักหน้าเล็กน้อย “งานแต่งนี้แม้จะมีคนจากทางวังคอยจัดแจง แต่อย่างไรเสียองค์ชายหกเป็นถึงองค์ชาย มีรับก็ต้องมีแลก มีที่ให้ใช้เงินอยู่ไม่น้อยจริงๆ”หยุนเจิงพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็พูดต่อว่า “พี่สะใภ้ ที่จวนข้ายังมีของขวัญอีกบางส่วน เดี๋ยวเจ้าช่วยข้าเอาไปขายแลกเงินเสียเถอะ!”เยี่ยจื่อตะลึงเล็กน้อยแล้วก็ถามขึ้นอย่างฉงนใจว่า “องค์ชายไม่กลัวข้าแอบเก็บไว้เองหรือ”“ข้าเชื่อว่าพี่สะใภ้ไม่ใช่คนเช่นนั้น”หยุนเจิงหัวเราะเหอะๆ “อีกอย่าง ข้ากับลั่วเยี่ยนก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ของของข้าก็เป็นของของนั้นมิใช่หรือ พี่สะใภ้กับลั่วเยี่ยนดีต่อกันเช่นนี้ ไม่มีทางละโมบเงินของนางหรอกใช่ไหม”เสิ่นลั่วเยี่ยนเบะปาก แค่นเสียงเบากล่าวว่า “ข้าว่านะ เจ้าคงกลัวว่าเจ้าไปขายเองจะเสียหน้า ก็เลยให้พี่สะใภ้ของข้าไปช่วยเจ้าจัดการเรื่องนี้สิท่า!”“แค่กๆ…”หยุนเจิงไอแห้งสองที แล้วก็แสร้งทำเหมือนคนโดนเปิดโปงความคิดเยี่ยจื่อเขม่นเสิ่นลั่วเยี่ยนไปทีหนึ่ง ส่งสัญญาณไม่ให้นางพูดจาเลอะเลือน ขณะเดียวกันก็ยิ้มพยักหน้า “ท่านแม่ให้ข้ามาก็เพื่อมาช่วยอยู๋แล้ว ในเมื่อองค์ชายมั่นใจในตัวข้าเช่นนี้ เรื่องนี้ก็
Read More

บทที่ 45

พอได้ยินเสียงของเกาเหอ คนที่กำลังดึงกล่องลมไม่แม้แต่จะหันกลับมามองสักนิด แล้วกล่าวขึ้นอย่างแช่มช้าว่า “เจ้าจำผิดคนแล้ว”“ไม่มีทาง!”เกาเหอรีบขึ้นไปตรงหน้า พูดขึ้นอย่างมั่นใจว่า “ปีนั้นตอนอยู่ที่ซั่วเป่ย ท่านยังเคยแสดงฝีมือการขี่ม้าและยิงธนูต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท ได้รับคำชมจากฝ่าบาทด้วย!”“เจ้าจำผิดคนแล้ว”ตู้กุยหยวนพูดขึ้นอีกครั้ง แล้วดึงกล่องลมของตนต่อไปเกาเหอยังอยากจะพูดต่อ แต่หยุนเจิงหยุดเขาไว้ “เจ้ารู้จักคนผู้นี้”“อื้อ!”เกาเหอพยักหน้า “เดิมเขาเป็นผู้บัญชาการกองทหารโลหิต!”ทหารโลหิต?หยุนเจิงถามขึ้นอย่างสงสัย “ทหารโลหิตคืออะไรรึ?”“แม้แต่ทหารโลหิตเจ้าก็ไม่รู้จักหรือ”เสิ่นลั่วเยี่ยนมองไปยังหยุนเจิงอย่างดูถูก อดไม่ได้กระแหนะกระแหนเขาขึ้นในใจเขาไม่ได้พูดปาวๆ ว่าจะไปซั่วเป่ยหรอกหรือแม้แต่ทหารโลหิตเขาก็ไม่รู้จัก?เยี่ยจื่อยิ้มแล้วกล่าวว่า “ทหารโลหิตเป็นหน่วยที่ยอดเยี่ยมที่สุดของกองทัพในมณฑลทางเหนือ ว่ากันว่ามีคนน้อยกว่าห้าร้อยคนในกองทัพทหารโลหิต และเงื่อนไขในการเข้าร่วมกองทัพนี้นั้นโหดมาก”“ทุกครั้งที่พวกเขาออกรบจะมีโลหิตท่วมกาย จึงถูกเรียกว่าทหารโลหิตมาแต่ไหนแต่ไรแล
Read More

บทที่ 46

ก่อนที่หยุนเจิงจะทะลุมิติมา เขาก็เป็นทหารมาก่อนเขาเชื่อว่าตนเองจะเข้าใจตู้กุยหยวนได้แม่ทัพที่กล้าหาญปานนั้นจะไม่มีใจนักรบได้อย่างไรเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหยุนเจิง เสิ่นลั่วเยี่ยนแทบจะลุกไปทุบสมองอันโง่เง่าเต่าตุ่นของเขาเสียเจ้าคนโง่เง่าเต่าตุ่น!ไม่ว่าจะเป็นตายอย่างไรเขาก็ยังจะดันทุรังหาความตายที่ซั่วเป่ยให้ได้ใช่หรือไม่?เขายืนกรานจะให้ตนเองเป็นหม้ายไปตลอดชีวิตเลยอย่างนั้นหรือตู้กุยหยวนเองก็ตกใจกับคำพูดของหยุนเจิงเช่นกัน ครู่หนึ่งเขาจึงส่ายหน้ายิ้มเจื่อนพลางกล่าวว่า “เรียนองค์ชายตามตรง ศึกการสู้รบเมื่อห้าปีก่อน ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้น้อยแขนหักเท่านั้น แต่ยังทำลายความกล้าหาญของผู้น้อยไปด้วย! ผู้น้อยไร้ความกล้าหาญที่จะสู้รบแล้ว…”“เช่นนั้นก็เพิ่มความกล้าหาญ!”หยุนเจิงส่ายหน้า ชี้ไปที่เยี่ยจื่อที่อยู่ข้างๆ พลางกล่าวว่า “สามีของพี่สะใภ้ท่านนี้ก็ตายในสนามรบซั่วเป่ยเหมือนกัน เมื่อคืนข้าถามนางว่าเสียใจหรือไม่ที่ไม่ได้เห็นหน้าสามีเป็นครั้งสุดท้าย ข้าให้เจ้าทายว่านางตอบข้าว่าอย่างไร”ตอบเช่นไร?เสิ่นลั่วเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจเมื่อคืนหยุนเจิงพูดคุยเรื่องนี้กับพี่สะใภ้ด้วยหรือ?ต
Read More

บทที่ 47

หลังจากสั่งช่างตีเหล็กตีดาบเหมือนของเกาเหอให้เขาเล่มหนึ่งเพื่อเอาไว้เป็นอาวุธติดตัวเสร็จ หยุนเจิงก็ทิ้งแผนที่จวนเอาไว้ ก่อนจะพาคนสามคนจากไปในขณะที่กลับไปนั้น เสิ่นลั่วเยี่ยนมองหยุนเจิงด้วยสายตาอันประหลาดใจ“เจ้าก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลยนะ!”ยากมากที่เสิ่นลั่วเยี่ยนจะเผยรอยยิ้มต่อหน้าหยุนเจิงเช่นนี้“ข้าก็แค่ไม่อยากให้ทหารที่เสียเลือดเสียเนื้อพลีชีพเพื่อต้าเฉียนเหล่านั้นต้องผิดหวังก็เท่านั้นเอง”หยุนเจิงส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวด้วยความโกรธว่า “วันพรุ่งในที่ประชุม ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อเสด็จพ่อ ข้าจะขอให้เสด็จพ่อตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด”“องค์ชาย ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!” ทันใดนั้นเกาเหอส่งเสียงขึ้น“หือ?”หยุนเจิงหันไปมองเกาเหอ “เหตุใดถึงไม่ได้ เจ้าเองก็เป็นคนในกองทัพ หากเงินบำรุงขวัญของพี่น้องเจ้าโดนยักยอกไป เจ้าจะอยู่เฉยไม่ทำอันใดเลยอย่างนั้นหรือ”“ก็จริง!”เสิ่นลั่วเยี่ยนพยักหน้า กล่าวด้วยสายตาเคร่งขรึมเด็ดเดี่ยวว่า “คนที่มันยักยอกเงินบำรุงขวัญของเหล่าทหารที่พลีชีพไป มันสมควรตาย!”เกาเหอส่ายหน้าและกล่าวอย่างจริงจังว่า “องค์ชายทำเช่นนี้จะทำให้กระทบผลประโยชน์ของคนจำนวนมากได
Read More

บทที่ 48

หากเขารายงานเรื่องนี้ต่อราชสำนัก คนเหล่านั้นไม่โกรธแค้นก็แปลกแล้วล่ะ!หลายคนที่สวามิภักดิ์ต่อเขา เกรงว่าจะกลับลำเป็นแน่!แต่ตอนนี้หยุนเจิงรู้เรื่องนี้แล้ว!ต่อให้ตัวเขาเองไม่พูด เกรงว่าเจ้าหกก็คงจะกราบทูลเรื่องนี้ต่อเสด็จพ่อเป็นการส่วนตัวแน่!เมื่อถึงตอนนั้นหากเขาเอ่ยเรื่องนี้อีกครั้งทั้งๆ ที่ตนเองรู้เรื่องนี้อยู่แล้วแต่ตนกลับไม่กราบทูล เสด็จพ่อไม่ตำหนิตนก็คงจะแปลกแล้วล่ะ!ในตอนนี้หยุนลี่รู้สึกอยากตบหน้าตัวเองสักฉาดสองฉาดอยู่ดีไม่ว่าดี รนหาที่มาถึงนี่เพื่ออันใดกัน“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ข้าจะเข้าวังไปกราบทูลเสด็จพ่อ!”หยุนลี่ลุกขึ้นรีบพรวดพราดเดินจากไป ไม่ทันแม้กระทั่งเอ่ยคำลาแต่อย่างใดเขาต้องรีบไปปรึกษาหารือกับสวีสือฝู่เพื่อคิดหาทางรับมือให้เร็ว!เห็นหยุนลี่รีบเดินพรวดพราดออกไปด้วยท่าทางตื่นตระหนกเช่นนี้ สีหน้าของหยุนเจิงก็เผยรอยยิ้มสะใจขึ้นเยี่ยจื่อกลั้นความตลกขบขันเอาไว้ แอบคิดในใจว่าเจ้าบ้านี่ช่างร้ายกาจไม่เบาเลย…หลังจากที่ออกมาจากจวนหยุนเจิง หยุนลี่รีบรุดมุ่งหน้ามาที่จวนสวีสือฝู่ทันทีเมื่อเขาเล่าเรื่องนี้ให้สวีสือฝู่ฟัง สวีสือฝู่ก็เคร่งเครียดขึ้นห
Read More

บทที่ 49

ยามรัตติกาล จักรพรรดิเหวินยังคงอยู่ในห้องทรงพระอักษรเนื่องมาจากเรื่องของคณะทูตเป่ยหวน จักรพรรดิเหวินจึงไม่ได้สนใจสนมเหล่านั้นแล้วเขาไม่มีจิตใจไปคิดเรื่องนั้นจริงๆ!ครุ่นคิดถึงเรื่องที่จะปรึกษาหารือคณะทูตเป่ยหวนขอเสบียง จักรพรรดิเหวินก็กลุ้มพระทัยจนบรรทมไม่หลับ“ก๊อกๆ…”ทันใดนั้นเองเสียงเคาะประตูจากด้านนอกก็ดังขึ้น“เข้ามา!”จักรพรรดิเหวินเงยพระพักตร์ขึ้นด้วยสีพระพักตร์ที่เหนื่อยล้าองครักษ์เงารุดเดินเข้ามากระซิบถ้อยคำซึ่งเป็นความลับข้างพระกรรณเมื่อได้ยินถ้อยคำขององครักษ์เงาเข้า จู่ๆ นัยน์พระเนตรจักรพรรดิเหวินแผ่ซ่านจิตสังหารออกมาทันที“เป็นเรื่องจริงแท้แน่ชัดหรือไม่?”จักรพรรดิเหวินตรัสถามด้วยสีพระพักตร์ที่เย็นชาองครักษ์เงาพยักหน้าช้าๆ“ช่างบังอาจยิ่งนัก!”นัยน์พระเนตรจักรพรรดิเหวินเต็มไปด้วยจิตสังหารหลังจากศึกการสู้รบเมื่อห้าปีก่อน เขาได้กำชับทุกกรมอย่างเคร่งครัดให้จัดการเงินบำรุงขวัญให้กับครอบครัวเหล่าทหารผู้พลีชีพอย่าให้ขาดตกบกพร่องผู้ใดกล้าทุจริตยักยอก ต้องถูกลงโทษขั้นเด็ดขาด!นึกไม่ถึงเลยว่าจะคนกล้ากระทำเรื่องเช่นนี้ขึ้น!หลังจากพยายามระงับโท
Read More

บทที่ 50

“...”หยุนเจิงหมดคำจะพูดจริงๆประสาทไปแล้วหรือไร!ดึกๆ ดื่นๆ วิ่งเต้นมาหาข้าถึงที่นี่ด้วยเหตุใดกันหรือเพราะเรื่องการทุจริตยักยอกเงินบำรุงขวัญอย่างนั้นหรือ“เจ้าไปเตรียมชา ประเดี๋ยวข้าตามไป!”หยุนเจิงสั่งการ และลุกจากเตียงซินเซิงรุดวิ่งพรวดพราดเข้ามา “องค์ชาย ให้ข้าน้อยเปลี่ยนอาภรณ์ให้เถอะเพคะ!”“เอาล่ะๆ ไม่ต้อง! ข้าเปลี่ยนเอง!”หยุนเจิงปฏิเสธซินเซิงและเปลี่ยนชุดเองไม่นานนักหยุนเจิงก็เปลี่ยนชุดเสร็จและเดินออกมานอกห้องเมื่อเห็นหยุนเจิง ขันทีในวังก็รีบโค้งทำความเคารพ “องค์ชาย ฝ่าบาทมีพระบัญชาว่าการประชุมหารือในวันพรุ่งจะเริ่มก่อนเวลาที่กำหนดไว้ครึ่งชั่วยามพ่ะย่ะค่ะ”นี่กำลังล้อเล่นอันใดกัน?เริ่มก่อนเวลาที่กำหนดไว้ครึ่งชั่วยาม?นี่มันบ้าอะไรกัน?จะไม่ให้หลับนอนเลยหรืออย่างไร“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว”หยุนเจิงตอบด้วยความหดหู่ และถามต่ออีกว่า “เกิดเรื่องใหญ่อันใดขึ้นหรือ?”“กระหม่อมไม่อาจทราบได้พ่ะย่ะค่ะ”ขันทีผู่ส่งข่าวกล่าว “แต่ดูจากสีหน้าของหัวหน้าขันทีมู่แล้วคงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“เอาล่ะ ขอบใจเจ้ามาก”หยุนเจิงหยักหน้า และให้ผู้ดูแลจวนตบรางว
Read More
ก่อนหน้า
1
...
34567
...
109
DMCA.com Protection Status