Semua Bab โคตรคนยอดปรมาจารย์: Bab 1391 - Bab 1400

1407 Bab

บทที่ 1391

เมื่อเย่ซิวส่งพลังจิตเข้าไป ก็เห็นว่าข้างในเป็นสิ่งที่เหมือนมังกรขนาดยักษ์ที่ยาวเกือบหนึ่งหมื่นเมตร“นี่คือ…” เย่ซิวมีสีหน้าตกตะลึงเหลิ่งเฟิงยิ้มพลางเอ่ย “นี่คือสายแร่วิญญาณขั้นกลาง ถ้าเทียบเป็นศิลาวิญญาณก็ราวหนึ่งหมื่นล้านแต่มูลค่าที่แท้จริงของมันสูงกว่าศิลาวิญญาณในปริมาณเท่ากันอย่างน้อยสิบเท่าแน่นอน”เย่ซิวพยักหน้าเข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อสายแร่วิญญาณกับศิลาวิญญาณเป็นสองสิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงสายแร่วิญญาณจะดูดซับพลังฟ้าดินที่ล่องลอยอยู่ได้โดยอัตโนมัติถ้าฝังไว้ใต้ดิน ก็จะยิ่งดูดซับพลังจากผืนดินแล้วแปลงเป็นพลังวิญญาณเหมือนแม่ไก่ที่ออกไข่ทองคำไม่หมดไม่สิ้นตอนนี้สำนักอวิ้นหลิงยังไม่มีสายแร่วิญญาณถ้านำสายแร่วิญญาณเส้นนี้ฝังไว้ใต้ดิน ย่อมสามารถสร้างยอดฝีมือจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้นอย่างแน่นอนตอนแรกเย่ซิวเองก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่พอคิดไปคิดมาก็ต้องละทิ้งไปก่อนตอนนี้ต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นก่อนเป็นอันดับแรกจากนั้นเขาหยิบของชิ้นที่สองขึ้นมา ข้างในเต็มไปด้วยยันต์หลากหลายชนิดจำนวนมากกว่าสิบล้านแผ่นแถมทั้งหมดก็เป็นระดับกลางทั้งสิ้นเย่ซิวหยิบยันต์ธาตุ
Baca selengkapnya

บทที่ 1392

หลังจากเขาออกไป หลัวเวยเวยก็โผล่หน้าเข้ามาในห้องอย่างระแวดระวัง เธอมีท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ แต่กลับดูน่ารักไม่น้อย“คนนั้นไปแล้วเหรอ?”เย่ซิวยิ้มพลางพยักหน้า “เพิ่งไปเมื่อกี้เอง ดูเหมือนคุณจะกลัวเขามากเลยนะ”หลัวเวยเวยตบอกตัวเองก่อนเดินเข้ามาในห้อง เมื่อได้ยินก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า“ก็แน่ล่ะ นั่นมันเจ้าสำนักเหลิ่งแห่งสำนักรัตติกาลเลยนะ ชื่อเสียงโด่งดังเรื่องฆ่าฟัน แค่ได้ยินชื่อก็ทำเอาคนขาสั่นกันทั้งนั้น”“พี่ใหญ่เหลิ่งกลับมาอีกแล้วเหรอ”“กรี๊ด!”หลัวเวยเวยกรีดร้องลั่น ตัวดีดขึ้นเหมือนสปริง และพุ่งเข้ามากอดเย่ซิวแน่นเธอดูเหมือนลูกแมวที่กำลังตกใจยังไงยังงั้น “เจ้าสำนักเหลิ่ง อย่าเข้าใจผิดเลยนะคะ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉันแค่ ฉันแค่…” หลัวเวยเวยพูดตะกุกตะกักไม่เป็นคำพอเงยหน้าขึ้นเห็นเย่ซิวกลั้นหัวเราะอยู่ พอหันไปมองด้านหลังก็ว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลย ทันใดนั้นเธอจึงรู้ว่าตัวเองถูกแกล้งเข้าแล้ว เธอบิดเอวเย่ซิวอย่างแรง “คนบ้า แกล้งกันแบบนี้สนุกนักเหรอ”เย่ซิวหัวเราะลั่น ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งเชยคางเธอขึ้น “ที่รักของผมนี่น่ารักจริง ๆ คืนนี้คุณมาดูแลผมดีไหม”หลัวเวยเว
Baca selengkapnya

บทที่ 1393

เย่ซิวบีบแก้มแดงของเธอเบา ๆ พลางเอ่ย “เรื่องอะไร ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูดก็ได้”“พูดตอนนี้ไม่ทันแน่ นายรีบตามฉันมาเร็ว”ว่าแล้วเฉินเยียนจือก็คว้ามือเย่ซิวแล้วลากออกไป ทั้งสองวิ่งตรงไปยังหน้าประตูภูเขาเย่ซิวหรี่ตาลงมอง ก็เห็นว่าตรงข้ามสำนักของพวกเขามีวัชระสีทองสูงตระหง่านราวพันจ้างสองตนกำลังช่วยกันหามภูเขาลูกใหญ่เดินตรงมาทางนี้ตูม!เสียงดังสนั่นไปทั่วเมื่อวัชระสองตนวางภูเขาสูงตระหง่านนั้นลงห่างออกไปเพียงไม่กี่หมื่นเมตรจากนั้นมีเหล่านักพรตวิญญาณทยอยล้อมรอบภูเขาลูกใหญ่แล้วเริ่มแปะยันต์ทีละแผ่นแสงสว่างแล่นวูบวาบออกมาทำให้ภูเขาลูกนั้นดูราวกับมีชีวิต มันเริ่มปลดปล่อยแรงดูดมหาศาล ดูดซับพลังวิญญาณรอบข้างจนเกลี้ยง เมื่อมันอยู่ใกล้กับสำนักอวิ้นหลิงถึงขนาดนี้ก็ย่อมได้รับผลกระทบโดยตรงเฉินเยียนจือถึงกับโกรธจัด “พวกนี้ไม่รู้มาจากไหน อยู่ ๆ ก็มาตั้งสำนักตรงหน้าประตูพวกเรา แบบนี้มันจงใจท้าทายชัด ๆ”เสียงที่ดังก้องทำเอาหลัวเวยเวยกับรั่วอวิ๋นวิ่งออกมาดูด้วย พอเห็นภาพตรงหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเธอโกรธมาก นี่มันเท่ากับตบหน้ากันต่อหน้าคนทั้งโลกชัด ๆในใจเย่ซิวแวบความคิดบางอย่างขึ้นมา หรือ
Baca selengkapnya

บทที่ 1394

เมื่อออกมาด้านนอก เย่ซิวก็ทรุดตัวนั่งบนโซฟาเสี่ยวโหรวรีบเดินเข้ามา นั่งยองลงข้าง ๆ แล้วนวดต้นขาให้เขาอย่างแผ่วเบาเย่ซิวหยิบกระบี่วิเศษเล่มหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของ กระบี่เล่มนี้มียันต์แปะอยู่เต็มไปหมด เป็นสมบัติวิญญาณที่เขาแย่งมาจากรองเจ้าสำนักกระบี่วิญญาณก่อนหน้านี้ หลังผ่านเวลามานาน พลังที่สะสมในยันต์เหล่านั้นก็ถูกดูดซับจนหมดสิ้น เย่ซิวจึงลอกยันต์ที่ไร้ประโยชน์ออกไปทั้งหมดนี่คือสมบัติวิญญาณธาตุความมืดที่ค่อนข้างหายาก รอยตราประทับที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ถูกเย่ซิวลบออกอย่างง่ายดาย จากนั้นเขาก็หยดเลือดลงบนกระบี่หยดหนึ่ง และทำการหลอมรวมกับมัน เพียงครู่เดียว เย่ซิวก็อ้าปากกลืนกระบี่วิเศษเล่มนี้ที่มีชื่อว่า ดารารัตติกาล ลงไปในจุดตันเถียนแต่ทันทีที่เพิ่งจะกลืนกระบี่เข้าไปในร่างกาย จู่ ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ภายในร่างกายของเย่ซิวรู้สึกได้ว่าหนึ่งในรากวิญญาณที่แต่เดิมไร้ธาตุพลันเกิดแรงดูดมหาศาล และดูดกระบี่ดารารัตติกาลเข้าไปในชั่วพริบตาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำเอาเย่ซิวตกใจไม่น้อย เขารีบตั้งสมาธิเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายตัวเองทันที จากนั้นก็พบว่าหนึ่งในรากวิญ
Baca selengkapnya

บทที่ 1395

หนึ่งชั่วโมงกว่าผ่านไป เสี่ยวโหรวมองเย่ซิวด้วยแววตาคาดหวัง “คุณชายเป็นยังไงบ้าง พอใจหรือไม่เจ้าคะ??”เย่ซิวลูบศีรษะเธอเบา ๆ “ไม่เลว แต่ยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ”เสี่ยวโหรวกระพริบตาถี่ ๆ “ตรงไหนที่ต้องแก้บ้าง บอกข้ามาได้เลยนะเจ้าคะ”จากนั้นเย่ซิวก็ก้มลงกระซิบข้างหูเธอสักพัก ใบหน้าของเสี่ยวโหรวแดงจัดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะคุณชาย”หลังจากสัมผัสกับความรู้ใหม่ที่เสี่ยวโหรวเพิ่งเรียนมา เย่ซิวก็ลุกขึ้นและเรียกใช้พลังธาตุความมืด จากนั้นก็เดินออกจากถ้ำตอนนี้เป็นยามค่ำคืน ความมืดปกคลุมทั่วทั้งแผ่นดิน ทันทีที่เย่ซิวปล่อยพลังธาตุความมืดออกมา เขาก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทันตา ในสภาพแวดล้อมที่มืดมิดเช่นนี้ พลังธาตุความมืดทำให้พลังบำเพ็ญของเขาเพิ่มขึ้นถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์อย่าได้มองข้ามสามสิบเปอร์เซ็นต์นี้เด็ดขาดเพราะด้วยพลังของเขาในตอนนี้ การที่พลังเพิ่มขึ้นถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์นั้นเทียบเท่ากับมียอดฝีมือระดับถอดจิตขั้นสมบูรณ์มาช่วยเสริมพลังให้เต็มที่ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถในการอำพรางตัวก็เพิ่มขึ้นมหาศาลร่างของเย่ซิวค่อย ๆ หลอมรวมเข้ากับความมืดรอบ
Baca selengkapnya

บทที่ 1396

“นายนี่น่ารำคาญจริง ๆ” เธอบ่นออกมา“ก็สบายจริง ๆ นี่นา ในน้ำพุร้อนนี่มีพลังวิญญาณผสมอยู่ด้วย แช่แล้วช่วยทั้งพลังบำเพ็ญและสุขภาพเลยนะ”พูดจบ เย่ซิวก็หยิบสมุนไพรออกมาจำนวนหนึ่งโยนลงไป ทำให้สรรพคุณของน้ำพุร้อนยิ่งเข้มข้นมากขึ้นจางเสี่ยวอวี๋ดีใจสุด ๆ “ว้าว ฉันรู้สึกว่าพลังฉันเพิ่มขึ้นเร็วมากเลยล่ะ”เย่ซิวยิ้มพลางเอ่ย “แล้วเธอจะตอบแทนฉันยังไงดีล่ะ”“ขอบคุณนะ”เย่ซิวเลิกคิ้ว “แค่คำว่าขอบคุณคำเดียวเนี่ยนะ”“งั้นก็ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ…”เธอพูดคำว่าขอบคุณติดกันหลายรอบจนสุดท้ายตัวเองยังรู้สึกเขินเธอรีบว่ายน้ำมาข้างหลังเย่ซิว แล้วเริ่มนวดไหล่ให้อย่างเบามือ“ท่านเย่ ฉันขอบคุณจากใจจริงเลยนะคะ คุณคือผู้มีพระคุณของฉันเลยล่ะ ฉันจะไม่มีวันลืมเลยจริง ๆ”เย่ซิวหลุดหัวเราะ ยายเด็กคนนี้ก็เป็นพวกตัวป่วนดีเหมือนกัน อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจหลังจากแช่น้ำพุร้อนได้พักหนึ่ง เย่ซิวกับเธอก็แยกย้ายกันไปจากนั้นเขาก็ร่ายวิชาดำดินออกจากสำนักมุ่งหน้าไปยังประตูภูเขาฝั่งตรงข้ามเขาเคลื่อนไหวได้ลึกลับสุด ๆ ภายใต้การเสริมพลังของธาตุความมืด ไม่มีใครจับสังเกตได้เลยภูเขาทั้งลูกถูกปิดล้อมด้วยค่ายกล เย่ซิวเดิน
Baca selengkapnya

บทที่ 1397

“กรี้ดดด!!!”ทันทีที่เย่ซิวเข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ร่างของเธอกลิ้งไปมาบนพื้นไม่หยุดเสื้อผ้าของเธอพองตัวขึ้นเรื่อย ๆจากนั้นร่างของเธอเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใต้สีหน้าจริงจังของเย่ซิว ร่างของเธอยืดยาวขึ้นและขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆจากหญิงสาวแสนสวยกลายเป็นงูขนาดใหญ่ที่มีเกล็ดสีทองทั่วทั้งตัว!งูตัวนี้มีความยาวเกินร้อยเมตร เส้นสายลำตัวเรียบลื่นแต่กลับไม่ได้ให้ความรู้สึกชั่วร้ายใด ๆ ไม่มีกลิ่นอายของปีศาจเลยแม้แต่น้อยในทางกลับกัน มันกลับแผ่รัศมีศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจล่วงเกินออกมา“นี่มัน…” เย่ซิวที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดนึกขึ้นมาได้ทันที“นาคีปทุมทอง!”ตามตำนานเล่าว่านี่คือสิ่งมีชีวิตพิเศษที่ถือกำเนิดจากดอกบัวทองคำพวกมันเป็นผู้พิทักษ์แห่งพุทธะ เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจและศรัทธาแต่เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ เพราะในตัวผู้หญิงคนนี้ไม่มีแม้แต่กลิ่นอายของปีศาจ แสดงว่าเธอยังคงเป็นมนุษย์อยู่งั้นทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?ไม่นานเย่ซิวก็เข้าใจทันทีอีกฝ่ายน่าจะฝึกฝนเคล็ดวิชาเฉพาะบางอย่างในโลกของผู้ฝึกตน มีเคล็ดวิชาลับมากมายที่สามารถหลอมรวม
Baca selengkapnya

บทที่ 1398

ตูม! ตูม! ตูม! เสียงระเบิดดังสนั่นต่อเนื่องไม่หยุดยาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเย่ซิวใช้พลังของหุ่นเชิดทองคำจนหมดเกลี้ยง แล้วจึงเริ่มลบตราผนึกที่อยู่บนพวกมันทีละตัวทุกครั้งที่ลบได้หนึ่งตัว หญิงสาวคนนั้นก็อาเจียนเลือดออกมาหนึ่งคำเมื่อทั้งแปดตัวถูกลบผนึกหมด ใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดจนหมดแรง ร่างทั้งร่างอ่อนระโหยอย่างเห็นได้ชัดนี่ก็ถือเป็นการเอาคืนเล็ก ๆ ของเย่ซิวการเอาประตูสำนักไปวางหน้าบ้านคนอื่น ถือเป็นการหยามหน้ากันอย่างแรงเลยทีเดียว“สารเลว ใครมันเป็นคนทำ? หรือว่าจะเป็นเย่ซิวจริง ๆ!” เธอเอ่ยพลางกัดฟันแน่น ดวงตาเปล่งแสงด้วยความโกรธจัดแต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือความสับสน เพราะเธอมั่นใจว่าระบบป้องกันรอบสำนักนั้นซับซ้อนล้ำลึกมาก แล้วทำไมถึงมีคนแอบเข้ามาได้อย่างเงียบเชียบขนาดนี้?“เขาไม่น่าจะมีความสามารถถึงระดับนี้ หรือว่าเป็นยอดฝีมือลึกลับจากที่ไหนกันแน่?”เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันทีเย่ซิวมองดูหุ่นเชิดทองคำทั้งแปดที่ล้มอยู่ตรงหน้า ตอนนี้พลังในวัชระเหล่านั้นได้หมดไปแล้วหุ่นพวกนี้แต่ละตัวมีพลังเทียบเท่ากับผู้บำเพ็ญระดับถอดจิตขั้นกลางที่สำคัญคือมันมีความแข็งแกร่งสู
Baca selengkapnya

บทที่ 1399

“คนเมื่อคืนใช่นายหรือเปล่า?!”ตอนที่พูดออกมา ดวงตาของเธอก็จ้องเย่ซิวเขม็งอย่างไม่ยอมพลาดแม้แต่เสี้ยวสีหน้าของเขาแม้เธอจะคิดว่าเป็นไปได้น้อย แต่ก็ต้องถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้งเย่ซิวแอบหัวเราะอยู่ในใจยายเด็กนี่คิดจะใช้วิธีจู่โจมแบบนี้เองเหรอแต่เธอไม่รู้หรอกว่าเย่ซิวน่ะจิตใจแข็งแกร่งกว่าที่เธอคิดไว้มากสีหน้าเขาไม่มีความผิดปกติเลยแม้แต่น้อย แถมยังแสดงสีหน้างง ๆ ได้อย่างเหมาะเจาะอีกด้วย “คุณผู้หญิงหมายถึงอะไรเหรอ? ผมไม่ค่อยเข้าใจเลย”พอเห็นว่าเย่ซิวไม่เหมือนเสแสร้ง เธอก็ยิ้มหวานทันที “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันคงเข้าใจผิดไปเอง”“ยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร มาจากสำนักไหน ถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้ เล่นมาเปิดสำนักอยู่หน้าบ้านของเราโต้ง ๆ เลย” หลัวเวยเวยยิ้มถามแค่คำพูดอาจดูเหมือนสุภาพ แต่ความแหลมคมในคำพูดใครก็สัมผัสได้“ฉันชื่อเฉินเฟยเจี๋ย ส่วนเรื่องภูมิหลัง ไม่รู้จะดีกว่านะคะ” เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอ่ยต่อว่า“ที่เอาสำนักมาตั้งไว้ตรงนี้เพราะมียอดฝีมือคำนวณให้แล้วว่าจุดนั้นคือดินแดนแห่งฮวงจุ้ย วางสำนักไว้ที่นั่นแล้วจะรุ่งเรืองยั่งยืนค่ะ”หลัวเวยเวยหรี่ตาเล็กน้อยด้วยแววตาคมวาบ “ก็แน่อยู่แล้วล่ะ ค
Baca selengkapnya

บทที่ 1400

“ท่านเจ้าสำนักเย่ไม่ต้องดูแคลนตัวเองขนาดนั้นหรอกค่ะ โอกาสแบบนี้หลาย ๆ ครั้งก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับพลังเสมอไปนะ เพราะน้ำเต้านี่อาจเชื่อมโยงกับถ้ำของผู้บำเพ็ญตนระดับระดับฝ่าด่านเคราะห์ขั้นสมบูรณ์ที่กำลังจะทะยานขึ้นสวรรค์ก็ได้”สีหน้าของหลัวเวยเวยเปลี่ยนไปทันที แววตาเริ่มสั่นไหวอย่างยากจะควบคุมระดับฝ่าด่านเคราะห์ขั้นสมบูรณ์ นั่นคือจุดสูงสุดของโลกใบนี้จริง ๆหลายปีที่ผ่านมาแทบไม่มีข่าวคราวของผู้บำเพ็ญตนระดับนี้เลยแม้แต่น้อยเย่ซิวเองก็มีแววลังเลอยู่ในแววตาแวบหนึ่งแต่ในใจกลับมีคำถามมากกว่าผู้หญิงคนนี้มาหาเขาเพราะต้องการอะไรแน่?คำอธิบายที่ง่ายที่สุดก็คือน้ำเต้านี่มีปัญหาอะไรบางอย่างแค่เย่ซิวจับมันไว้ในมือ บางทีมันอาจจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นอาจจะบาดเจ็บ หรือหนักหน่อยก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตนี่เป็นคำอธิบายที่น่าเป็นไปได้ที่สุด และสมเหตุสมผลที่สุดเขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ผู้หญิงคนนี้ดูจะฉลาดกว่าแม่ของเธอเยอะ ไม่ได้เปิดฉากมาด้วยการใช้กำลัง แต่รู้จักใช้สมองคิดวางแผนความคิดมากมายแล่นผ่านหัวเขา และสุดท้าย เย่ซิวก็หยิบน้ำเต้าเล็กนั่นขึ้นมาดูอย่างละเอียดภายนอกมันดูธรรมดา แต่เ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
136137138139140141
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status