Semua Bab โคตรคนยอดปรมาจารย์: Bab 1371 - Bab 1380

1407 Bab

บทที่ 1371

ภายในใจของหงอีเต็มไปด้วยการต่อต้าน แต่ร่างกายของเธอกลับไม่สามารถต้านทานคำสั่งของเย่ซิวได้เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นสีหน้าของเธอดูแย่มาก เธอจ้องไปยังเย่ซิวด้วยดวงตาเย็นยะเยือกเย่ซิวพยักหน้า วิชาลับที่จอมมารโลหิตมอบให้เขามันใช้ได้ผลจริง ๆเขาออกคำสั่งที่สอง “เรียกฉันว่านายท่าน”ความรู้สึกต่อต้านในใจของหงอีพุ่งขึ้นถึงขีดสุดไม่มีทางที่จะพูดคำเรียกที่น่าอับอายแบบนั้นออกมาได้แต่ในตอนนั้นเอง ร่างของเธอกลับถูกกระตุ้นด้วยอักขระทีละเส้น ทำให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง ไม่ใช่แค่ทางกาย แต่ลึกเข้าไปถึงจิตวิญญาณพลังนี้ทำให้เธอไม่อาจต้านทานได้ ปากที่ควรจะควบคุมได้กลับขยับออกมาเองทันที“นาย…นายท่าน…”เพียงสองคำนี้ที่หลุดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้นี้ ทำให้หงอีรู้สึกอัปยศอดสูอย่างหนัก หน้าเธอแดงจัดด้วยความโกรธแต่เย่ซิวไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร ยังคงทำการทดลองของตัวเองต่อไป“คุกเข่าลง”เสียง ตุบ ดังขึ้นเมื่อหงอีทรุดลงคุกเข่าต่อหน้าเขาเป็นถึงราชินีโลหิตผู้ยิ่งใหญ่แท้ ๆ แต่ตอนนี้กลับคุกเข่าลงตรงหน้าเย่ซิวเหมือนสาวใช้คนหนึ่งความรู้สึกสำเร็จที่เย่ซิวได้รับมันรุนแรงยิ่งกว่าการที่เขาทะลวงพลังขึ้นไ
Baca selengkapnya

บทที่ 1372

ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสิ่งที่หงอีต้องทำต่อไปคือกุมอำนาจของสำนักปีศาจโลหิตเอาไว้ให้มั่นเมื่อถึงตอนนั้น พื้นที่กว้างนับหมื่นลี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเย่ซิวทั้งหมด ทุกอย่างจะอยู่ในมือของเขาเมื่อได้สำนักปีศาจโลหิตมา ก็เท่ากับว่าเย่ซิวมีพลังเทียบได้กับสองสำนักระดับหกอยู่ในมือตอนนี้สำนักอวิ้นหลิงก็เป็นสำนักระดับหกอยู่แล้วถ้ารวมกับสำนักปีศาจโลหิตและสำนักโลหิตสังหาร ถึงแม้จะฝืนไปบ้าง แต่ก็ถือว่ามีพลังในระดับสำนักระดับหกเต็มตัวด้วยพลังนี้ เย่ซิวก็มีอำนาจเพียงพอที่จะขึ้นเป็นเจ้าแห่งดินแดนนี้อย่างแท้จริงจากนั้นก็ขยายร้านขายโอสถให้มากขึ้น แย่งชิงทุกธุรกิจของสำนักโอสถมาเป็นของตัวเองถึงตอนนั้นเย่ซิวอาจทำกำไรได้วันละหนึ่งพันล้านศิลาวิญญาณตอนนี้เขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับไปยังสำนักอวิ้นหลิงแล้วเพราะทรัพยากรที่สะสมมาทั้งหมดก็เพียงพอที่จะดันวิชาเก้าวัจนะลึกลับขึ้นไปถึงขั้นที่สี่แล้ว……สำนักกระบี่วิญญาณ“แย่แล้วท่านเจ้าสำนัก เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นครับ” เสียงตะโกนอย่างลนลานดังขึ้นจากศิษย์ที่ดูแลตะเกียงวิญญาณ เขาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาด้วยใบหน้าหวาดกลัวภายนอก เจ้าสำนักกระบี่วิญญ
Baca selengkapnya

บทที่ 1373

“มีอะไรเหรอ? เสี่ยวอวิ๋นอวิ๋น”เย่ซิวเห็นว่าหน้าตาของรั่วอวิ๋นดูไม่ค่อยดีนักรั่วอวิ๋นส่งเสียงหึ “เรียกอาจารย์สิ นายคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์เรียกเสี่ยวอวิ๋นอวิ๋นหรือไง?”เย่ซิวหัวเราะลั่น อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปบีบแก้มเธอเบา ๆ “รอให้ฝีมือหลอมโอสถของคุณเก่งกว่าผมก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นจะให้เรียกอาจารย์ก็ยังไม่สาย”รั่วอวิ๋นกัดฟันแน่น “ไอ้คนสารเลว นี่มันศิษย์ล้างครูชัด ๆ”“ล้างครูหรือขี่ครูล่ะครับ…”รั่วอวิ๋นอึ้ง “...”สีหน้าเธอในตอนนี้ทำให้เย่ซิวรู้สึกสนุกสุด ๆแต่ตอนนี้เขามีเรื่องสำคัญกว่า “มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ ถ้าไม่มี ผมจะกลับไปปิดด่านฝึกตนแล้วนะ”“มีสิ ฉันอยากทำเรื่องนั้นกับนายน่ะ”เย่ซิวเบิกตากว้าง พลางมองรั่วอวิ๋นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อที่เธอกล้าพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยรั่วอวิ๋นโดนสายตาของเขาจ้องจนรู้สึกอึดอัด “ทำไมต้องมองฉันแบบนั้นด้วยเล่า”“คุณยังเป็นเสี่ยวอวิ๋นอวิ๋นของผมอยู่หรือเปล่า?” เย่ซิวทำหน้าจริงจังทันที “คุณโดนปีศาจที่ไหนสิงร่างกัน คงไม่ใช่ถูกแอบยึดร่างไปแล้วหรอกนะ?!”“ไสหัวไปเลย”เธอตีเย่ซิวไปหนึ่งที ใบหน้าก็พลันขึ้นสีแดงระเรื่องดงามเธอเองก็ไม่ได้อยากจะพูดอะไร
Baca selengkapnya

บทที่ 1374

แต่ตอนนี้เขาไม่มีศิลาวิญญาณหรือโอสถเหลืออยู่อีกแล้วสิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์กับสมบัติเวทมนตร์บางชิ้นที่ยังไม่ได้เอาออกไปขายเย่ซิวคิดในใจ‘เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์และสมบัติเวทมนตร์ก็มีพลังงานมหาศาล ไม่รู้ว่าจะกลืนกินได้หรือเปล่า’ในเมื่อไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ก็ต้องเสี่ยงดูสักครั้งเขาหยิบเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์และสมบัติเวทมนตร์ทั้งหมดออกมาวางตรงหน้าก่อนจะคว้าสมบัติเวทมนตร์ชิ้นหนึ่งขึ้นมาทันใดนั้น ร่างกายก็แผ่พลังดูดกลืนอันทรงพลังออกมา สมบัติเวทมนตร์ชิ้นนั้นถูกดูดหายเข้าไปในร่างทันที ทำเอาเย่ซิวถึงกับตกใจเมื่อเพ่งตรวจดูภายใน กลับไม่พบว่าสมบัติเวทมนตร์นั้นอยู่ที่ไหนแต่ความรู้สึกหิวโหยภายในกลับลดลงอย่างชัดเจนดวงตาของเย่ซิวส่องประกายทันที เขาคว้าเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์และสมบัติเวทมนตร์ชิ้นแล้วชิ้นเล่าโดยไม่ลังเลอีกต่อไป จากนั้นมันก็หายไปจากมืออย่างรวดเร็วความหิวโหยในร่างกายก็ค่อย ๆ ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกันเมื่อเย่ซิวกลืนกินเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ไปกว่าพันชิ้น และสมบัติเวทมนตร์กว่าสองร้อยชิ้น ในที่สุดร่างกายของเขาก็รู้สึกถึงความอิ่มเอมเต็มเปี่ยมตูม!
Baca selengkapnya

บทที่ 1375

ทรัพยากรที่ต้องใช้ในการฝึกเก้าวัจนะลึกลับขั้นที่ห้า หากคิดเป็นศิลาวิญญาณแล้ว จะสูงถึงหนึ่งหมื่นล้านศิลาวิญญาณเพียงแค่คิดถึงตัวเลขนี้ก็ทำให้เย่ซิวรู้สึกชาวาบไปทั้งหัวแล้วจำนวนที่มหาศาลขนาดนี้ ต่อให้เขาสามารถหาได้วันละสิบล้านศิลาวิญญาณ ก็ยังต้องใช้เวลากว่าสองปี แต่ความจริงคือเขาไม่สามารถหาได้มากขนาดนั้นในแต่ละวันตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้บำเพ็ญตนมากมายเมื่อถึงระดับสูง ๆ จึงหันไปปล้นสะดม เพราะหนทางแห่งการแข็งแกร่งขึ้นนั้นเหมือนบ่อไร้ก้น ที่เติมเท่าไรก็เติมไม่เต็มสักทีเขาส่ายหน้า ก่อนเลือกที่จะสลัดเรื่องน่าปวดหัวเหล่านี้ออกไปจากความคิดตอนนี้เย่ซิวแข็งแกร่งมากแล้ว แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกปีศาจเฒ่าที่บำเพ็ญเพียรมาหลายพันปีเสียอีกทั้งที่เขาเริ่มเดินบนเส้นทางการบำเพ็ญตน นับรวมแล้วก็เพียงสามถึงสี่ปีเท่านั้นแต่สามารถก้าวมาถึงระดับนี้ได้ถือว่าน่าทึ่งอย่างที่สุด ดังนั้นจึงไม่ควรโลภเกินไปเมื่อคิดได้เช่นนี้ ร่างกายและจิตใจของเย่ซิวก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันตาเขาสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเมื่อมองดูห้องที่กลายเป็นเพียงผงไปแล้วก็ส่ายหน้า ก่อนจะเปิดค่ายกลที่เหลือเพียงสองชั้น แล้วก้
Baca selengkapnya

บทที่ 1376

ห้าวันต่อมาอีกทั้งเธอยังขอให้เย่ซิวเพิ่มความถี่ในการจุดธูปขึ้นเป็นสองเท่า นั่นหมายความว่าต้องจุดวันละหกครั้งเย่ซิวตอบตกลงทันที ยังไงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อยู่แล้วเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากผู้หญิงคนนั้นฟื้นคืนชีพแล้วจะมอบผลประโยชน์อะไรให้เขาบ้างเย่ซิวอยู่ที่นี่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกหลังจากที่ร่างกายทะลวงขีดจำกัดขึ้นอีกระดับ เขารู้สึกว่าการรับรู้ต่อโลกใบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างประหลาดทุกอย่างชัดเจนขึ้นมากเป็นความรู้สึกที่แปลกจนเย่ซิวไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้เหมือนกับว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าเขาเงยหน้ามองท้องฟ้า เห็นก้อนเมฆดำปกคลุมยิ่งมืดหนากว่าเดิม ทำให้ใจของเขาหนักอึ้งขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ“นี่ไม่ถูกต้อง ต้องมีเรื่องใหญ่บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นแน่”เย่ซิวเดินไปมาพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปหลายครั้งเขารู้สึกได้ว่าท้องฟ้ากำลังจะเปลี่ยน!แม้ไม่รู้ว่าเป็นภัยที่มาจากไหน แต่เขาไม่อยากนั่งรอความตาย ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว“หืม?”ในขณะที่เขากำลังจะลงมือทำบางสิ่ง ทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ว่าภายนอกมีคนกลุ่มใหญ่ที่มีพลังแข็งแกร่งและพวกเข
Baca selengkapnya

บทที่ 1377

ตูม! ตูม! ตูม!จิตสังหารอันน่าพรั่นพรึงพุ่งออกมาจากร่างของเหล่านักพรตวิญญาณทั้งห้าร้อยที่หนิวต้าลี่พามาพวกเขาพร้อมใจกันชักอาวุธหลากชนิดออกมา เตรียมพร้อมสำหรับการจู่โจมอย่างดุเดือดได้ทุกเมื่อหนิวต้าลี่มองหลัวเวยเวยด้วยแววตาเย็นชา “เศษสวะไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง กล้าถ่วงเวลาของคุณชายอย่างฉันนานขนาดนี้ไม่ต้องพูดมากแล้ว ฆ่ามันให้หมด กวาดล้างสำนักนี้ให้สิ้นซาก!”เมื่อสิ้นคำสั่ง นักพรตวิญญาณทั้งห้าร้อยคนก็จู่โจมทันทีเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์และอาคมหลากแสงสีกวาดซัดลงมาเหมือนพายุคลั่งตรงใส่หลัวเวยเวยและคนอื่น ๆพลังของแต่ละคนแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ระดับพลังต่ำสุดคือระดับจินตานมีระดับวิญญาณก่อกำเนิดอีกหลายคน แม่บ้านหญิงคนนั้นยิ่งน่ากลัวไปใหญ่เพราะเธอมีพลังถึงระดับรวมกายาขั้นต้น และตอนนี้ก็ร่วมจู่โจมด้วยการโจมตีครั้งนี้ราวกับน้ำหลากที่ไม่มีสิ่งใดต้านได้หลัวเวยเวยและยอดฝีมือที่ตามมาต่างพากันขนลุก ความต่างของพลังระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นห่างชั้นเกินไปอย่าว่าแต่นักพรตวิญญาณห้าร้อยคนเลย แค่การโจมตีของแม่บ้านหญิงเพียงคนเดียว ต่อให้พวกเธอรวมแรงกันทั้งหมดก็ยังไม่อาจรับไหวความตายไหลบ่าถาโถมเข้าใ
Baca selengkapnya

บทที่ 1378

หนิวต้าลี่จะรับความจริงกับเรื่องนี้ได้ยังไงกัน ด้วยความแค้นแน่นอก จึงพาพรรคพวกของตัวเองบุกมาที่นี่เป็นพันลี้ พร้อมตั้งใจแน่วแน่ว่ายังไงก็ต้องฆ่าเย่ซิวให้ได้หลังจากฟังที่อีกฝ่ายพูดจบ เย่ซิวกลับหัวเราะออกมา “นายนี่ตลกดีนะ ตัวเองไม่มีปัญญาจีบผู้หญิงได้ แล้วจะมาโทษฉันงั้นเหรอ”คำพูดนี้เหมือนแทงเข้าไปในหัวใจอันเปราะบางของหนิวต้าลี่เพราะความจริงแล้ว เขาไม่เคยรู้เลยว่าต้องจีบผู้หญิงยังไงปกติถ้าเขาอยากได้ใคร แค่กระดิกนิ้วเรียก ก็จะมีผู้หญิงที่ยอมคลานขึ้นเตียงอย่างว่าง่ายแล้วแต่เฉินอิ๋งอิ๋งกลับไม่เหมือนใคร ต่อให้เขาพยายามสารพัดวิธี ก็ไม่สามารถทำให้เธอชายตามองเขาได้เลยแม้แต่น้อยที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าพูดจาถากถางเขาแบบนี้ แต่เย่ซิวกลับกล้าพูดออกมาอย่างไม่ไว้หน้าเลยสักนิด“ไอ้สารเลว ฉันจะฆ่าแก พวกแกยังยืนโง่อะไรกันอยู่ สับมันให้เป็นชิ้น ๆ เลย”หนิวต้าลี่เดือดจัดจนแทบคลั่ง อยากฉีกเนื้อเย่ซิวกินทั้งเป็นตูม!เย่ซิวก้าวเท้าออกไปเพียงหนึ่งก้าว พลังร่างกายอันน่าสะพรึงราวกับภูเขาไฟที่สะสมพลังมานับร้อยปีก็ปะทุขึ้นในพริบตารอยแตกร้าวแผ่ขยายออกจากฝ่าเท้าของเขา ไล่ไปทั่วระยะหลายหมื่นเมตร ทำเอา
Baca selengkapnya

บทที่ 1379

“เย่ซิว อย่านะ”เสียงของหลัวเวยเวยดังขึ้นจากด้านหลังด้วยความร้อนรน “อีกฝ่ายเป็นถึงลูกนอกสมรสของเจ้าสำนักสหัสราคะนะสำนักของเราเล็กนิดเดียว ไม่มีทางสู้พวกนั้นได้หรอก อย่าไปปะทะกับเขาเลย พูดคุยกันดี ๆ ดีกว่า”จากมุมมองของเธอ นี่คือวิธีที่สมเหตุสมผลที่สุดก็เห็นกันชัด ๆ อยู่ว่าความต่างของพลังระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นห่างไกลกันราวฟ้ากับเหวสิ่งที่เย่ซิวกำลังทำ ในสายตาหลัวเวยเวยก็ไม่ต่างอะไรกับเอาไข่ไปกระแทกหินเย่ซิวส่ายหน้า พร้อมส่งสายตาให้เธอวางใจตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาอยากสู้หรือไม่อยากสู้อีกต่อไปแล้วแต่เพราะอีกฝ่ายคุกคามไม่หยุด จะให้เขาจะยืนรอให้ฆ่าโดยไม่ขัดขืนงั้นเหรอ?ไม่มีทางเด็ดขาดตูม!เย่ซิวระเบิดพลังสุดกำลัง ฟาดหมัดออกไปอย่างหนักหน่วงพร้อมกันนั้น ร่างจำแลงของโครงกระดูกยักษ์ก็ผุดขึ้นมาจากใต้เท้า ครอบคลุมร่างของเขาเอาไว้เป็นเกราะป้องกันอาคมและเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนพุ่งถล่มลงบนโครงกระดูกยักษ์ แต่ไม่อาจสร้างความเสียหายได้เลยแม้แต่น้อยศัตรูเพียงคนเดียวที่เย่ซิวมองว่าเป็นปัญหาก็คือแม่บ้านหญิงคนนั้น ส่วนคนอื่น ๆ สำหรับเขาก็เป็นแค่พวกกระจอกที่ไม่มีทางต้า
Baca selengkapnya

บทที่ 1380

แม่บ้านกัดฟันแน่น ทำได้เพียงตั้งรับอย่างต่อเนื่องพลังวิญญาณภายในร่างถูกสูบออกไปอย่างมหาศาล ราวกับน้ำป่าทะลักจากเขื่อนที่แตก ไหลบ่าพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง“พรวด!”เธอพ่นโลหิตออกมาคำโต เลือดสดพุ่งกระจายร่างกายเย็นเยียบไปทั่วทั้งร่างเธอเป็นผู้บำเพ็ญตนระดับรวมกายาเชียวนะ!แต่เย่ซิวกลับเผยเพียงพลังในระดับถอดจิตขั้นสูงเท่านั้นทำไมถึงกลายเป็นเธอที่ถูกกดข่มจนแทบไม่มีช่องให้โต้กลับเลยแม้แต่น้อยเรื่องนี้เธอไม่อาจยอมรับได้ ในใจเริ่มคิดอยากล่าถอยเมื่อหันไปมองสมรภูมิอื่น ใจก็ยิ่งดิ่งลึกในทันทีคนอื่นที่เหลืออยู่ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของหลัวเวยเวยและพรรคพวกก็ต่างล่าถอยอย่างต่อเนื่องแม้ว่าคนกลุ่มนี้จะอยู่ระดับจินตานและระดับวิญญาณก่อกำเนิดเป็นจำนวนมาก แต่คนที่อยู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดกลับไม่มีเลยแค่หลัวเวยเวยคนเดียวก็สามารถกดดันคนส่วนใหญ่เอาไว้ได้แล้วแม่บ้านเห็นภาพนี้ยิ่งร้อนใจราวไฟสุมอกตูม!เย่ซิวซัดหมัดเดียวกระแทกร่างเธอปลิวไปไกลด้วยความดุดัน “สู้กับฉันแล้วยังกล้าใจลอยอีก อยากตายนักหรือไง!”แม่บ้านเช็ดเลือดที่มุมปาก กัดฟันแน่น ก่อนจะยอมแลกด้วยการเผาผลาญพลังบำเพ็ญของตัวเอง
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
136137138139140141
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status