Tous les chapitres de : Chapitre 601 - Chapitre 610

1266

บทที่ 601

เมืองอวี่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองหลวง สี่วันให้หลัง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็เดินทางมาถึงเมืองอวี่ ต้วนเจิ้งติดตามนางไปตลอดทาง ด้วยสายตาที่มืดครึ้ม ในด้านหนึ่ง เขารู้สึกซาบซึ้งใจ ที่นางยอมเสี่ยงชีวิตของตนเองเพื่อไปยังเจดีย์เก้าชั้น เนื่องจาก หร่านชิวผู้นั้นพูดอยู่ตลอดเวลาว่าต้องการช่วยเหลือพี่ชายของเขา ครั้นได้ยินว่าพี่ชายถูกขังอยู่ในเจดีย์เก้าชั้น หร่านชิวกลับยอมแพ้ ทว่าในอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับไปพัวพันกับฮ่องเต้สุนัขนั้น ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก ในที่สุด วันนี้ ยามที่ทั้งสองกินมื้อเย็นที่โรงพักแรม ต้วนเจิ้งก็อดรนทนไม่ไหวแล้ว เขาวางกระแทกตะเกียบลงอย่างแรง “สรุปว่าเจ้ามีแผนอย่างไร ยังต้องการจะอยู่ด้วยกันกับพี่ชายของข้าหรือไม่!” หากต้องการ เหตุใดถึงยังไปทำเช่นนั้นกับฮ่องเต้ด้วย หากไม่ต้องการ ไยจะต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือพี่ชายด้วยเล่า เฟิ่งจิ่วเหยียนคีบอาหารอย่างใจเย็น “กินเถอะ” ในสายตาของนางนั้น เห็นเขาเป็นเพียงเด็กที่ยังไม่รู้จักโต ดังนั้น สำหรับบางคำพูด ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เขาฟัง ครั้งนี้การไปที่เจดีย์เก
Read More

บทที่ 602

ต้วนเจิ้งโกรธเกรี้ยวไม่หยุด แรงที่เขาใช้เคาะประตูนั้น สามารถถอดบานประตูออกมาทั้งแผงได้เลย เมื่อครู่เขาเดินออกไปแค่ประเดี๋ยว แล้วย้อนลงมาดูที่ชั้นล่าง คนที่กินข้าวอยู่ก็ได้หายไปแล้ว ครั้นได้สอบถามกับเถ้าแก่ จึงรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาหานาง และเดินกลับห้องไปพร้อมกับเฟิ่งจิ่วเหยียน เขาเพิ่งจะเคาะประตูเพียงไม่กี่ครั้ง ทันใดนั้นก็มีคนหลายคนปรากฏตัวขึ้น และจ้องมองเขาอย่างดุเดือด ราวกับว่าหากเขากล้าที่จะบุกเข้าไป พวกเขาก็พร้อมจะกระชากวิญญาณของเขาออกมาตรงนี้ นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี! เขาสงสัยว่า บุรุษที่อยู่ข้างในนั้น ควรจะเป็นฮ่องเต้! ทันใดนั้น ประตูพลันเปิดออก สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนที่มองมานั้นเย็นชานัก “มีอะไร” สองหมัดของต้วนเจิ้งกำแน่น “พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่!” ทันทีที่พูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ยกคอเสื้อของเขาขึ้นมา และลากเขาออกไปทันที เหล่าองครักษ์ : ?? ต้วนเจิ้งถูกลากกลับไปที่ห้องของเขา จากนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยเตือนเขา “อย่าสร้างปัญหาให้ข้า มิเช่นนั้นพวกเราก็ต่างคนต่างไป” ต้วนเจิ้งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะดีก
Read More

บทที่ 603

ขณะที่นางกำลังตกอยู่ในความฉงน เซียวอวี้มิอาจจะอดกลั้นไหว พลันเชยคางของนางขึ้น และจูบริมฝีปากของนาง เฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเขาออกไปทันที เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “นี่ท่านจะทำอันใดเพคะ” เซียวอวี้แย้มยิ้ม “ความรักระหว่างชายหญิง ถึงคราวสุกงอม ก็ยากจะหักห้ามใจ” เหล่านี้ ล้วนเป็นคำพูดที่นางเคยกล่าวทั้งหมด เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าค่อนข้างลำบากใจ ก่อนหน้านี้ นางคิดว่าตนเองมิอาจรอดชีวิตกลับไป และไม่ได้พบกันอีก จึงได้ทำตามหัวใจตนเองและจูบเขาก่อน ตอนนี้มันช่างพูดไม่ออกจริง ๆ ... นางผุดลุกขึ้นยืน “นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านกลับไปพักผ่อนที่ห้องของท่านได้แล้วเพคะ” เซียวอวี้มองออกไปนอกประตู “เฉินจี๋ มีห้องว่างหรือไม่” คนข้างนอกเอ่ยตอบ “นายท่าน พวกเรามีคนมากเกินไป จึงไม่เหลือห้องว่างแล้วขอรับ” เซียวอวี้หันกลับมามองเฟิ่งจิ่วเหยียนพลางเอ่ย “เกรงว่า เราจักทำได้เพียงนอนเบียดกับรองผู้นำพันธมิตรซูแล้วกระมัง” เฟิ่งจิ่วเหยียนย่อมรู้ดีว่าเขาตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ “ท่านอาจจะเข้าใจหม่อมฉันผิดไป เรื่องในคืนนั้น...” ทันใดนั้นเซียวอวี้เคร่งขรึมขึ้นมา
Read More

บทที่ 604

เซียวอวี้จำต้วนเจิ้งได้ และรู้ด้วยว่าเขาเป็นน้องชายร่วมสายเลือดของต้วนไหวซวี่ ดังนั้น จึงมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อต้วนเจิ้งไปตลอดการเดินทางนี้ หารู้ไม่ว่า ต้วนเจิ้งก็ทำเช่นเดียวกันกับเขา ในใจของต้วนเจิ้งนั้น พี่ชายของตนเองดีกว่าฮ่องเต้ผู้โง่เขลาองค์นี้เป็นสิบเป็นร้อยเท่า ไม่ช้าก็เร็ว เฟิ่งจิ่วเหยียนสตรีพิษคนนี้จักต้องนึกเสียใจ! สองวันต่อมา คณะเดินทางก็มาถึงเชิงภูเขาอวี้หลิง ภูเขาอวี้หลิงนั้นสูงตระหง่านโดดเด่น เหนือยอดเขามีเมฆบังหมอกปกคลุม ดุจแดนสวรรค์ ที่ซึ่ง เซียน และมารอยู่ร่วมกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงนัก เป็นตามที่คาดไว้ ทันทีที่พวกเขาลงจากรถม้า พลันมีองครักษ์ลับหลายร้อยคนปรากฏตัวขึ้น และปิดกั้นทางเข้าไว้ “ผู้มาเป็นใคร!” ต้วนเจิ้งร้อนอกร้อนใจอยากจะเปิดเผยตัวตนเต็มที “ฮ่องเต้อยู่ที่นี่ พวกเจ้ายังไม่รีบคุกเข่าลงอีก!” เขาเพียงคิดง่าย ๆ เจดีย์เก้าชั้นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอำนาจของราชสำนัก ลองคิดดูแล้วหากฮ่องเต้ตรัสเพียงคำเดียว พวกเขาทั้งหมดต้องหลีกทางให้อย่างเชื่อฟัง และการให้หนานซานอ๋องเปิดประตูทางเข้าเจ
Read More

บทที่ 605

เฟิ่งจิ่วเหยียนประคองเซียวอวี้ไว้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกันเฉินจี๋ก็เข้ามาช่วยทันทีเช่นกัน ต้วนเจิ้ง : ! หนานซานอ๋อง : ? “เจ้าทำอันใดกับฝ่าบาท!” หนานซานอ๋องโพล่งถามด้วยความโกรธเกรี้ยว ครั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนมอบเซียวอวี้ให้เฉินจี๋แล้ว พลันก้าวไปข้างหน้า กำหมัดแสดงความเคารพต่อหนานซานอ๋อง “ท่านอ๋อง มิจำเป็นต้องเสียสละชีวิตของทหารผู้บริสุทธิ์เลย “ผู้น้อยซูฮ่วน ขอท้าประลอง เพื่อเข้าสู่เจดีย์เก้าชั้น” หนานซานอ๋องได้ยินเช่นนั้น มิแสดงท่าทีอนุญาตหรือปฏิเสธ และยังคงจับจ้องมองไปทางเซียวอวี้ จนกระทั่งเฉินจี๋ส่งฮ่องเต้ขึ้นไปในรถม้า และทำความเคารพเพื่อลาเขาแล้ว หนานซานอ๋องจึงรู้สึกโล่งใจได้เสียที เขาหันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียน และเอ่ยถามอย่างเฉียบขาด “เจ้าอยากเข้าไปในเจดีย์เก้าชั้นจริงรึ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักศีรษะ “ขอรับ!” “ดี” หนานซานอ๋องตอบรับด้วยความเต็มใจยิ่ง ก่อนที่เฉินจี๋จะออกเดินทาง ได้โค้งคารวะให้เฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างเคารพ “คุณชายซู โปรดรักษาตัวด้วย!” ในขณะนี้ เฉินจี๋ยังไม่รู้เลยว่า นางหาได้เป็นแค่ซูฮ่วนเท่านั้น ยังคงเป็นอดีตฮองเฮา
Read More

บทที่ 606

เฉินจี๋บังคับรถม้าไปได้ไม่ไกลนัก พลันมีการเคลื่อนไหวขึ้นในรถม้าแล้ว เขายังไม่ทันหยุดรถม้าเพื่อจะตรวจสอบ ก็ได้ยินเสียงคำรามดุจสายฟ้าฟาด “หยุดรถ!” เฉินจี๋ร่างกายแข็งทื่อโดยอัตโนมัติ ซูฮ่วนใช้เข็มเงินอาบยามอมเมามิใช่หรือ? เหตุใดฝ่าบาททรงฟื้นขึ้นมาเร็วเช่นนี้! ฟึบ—— เซียวอวี้เปิดม่านรถม้า นัยน์ตาสีรัตติกาลเปล่งประกายด้วยกลิ่นอายสังหาร ด้วยว่าฤทธิ์ยามอมเมายังไม่หมดสิ้นไปเสียทีเดียว ใบหน้าของเขายังดูอ่อนแรงเล็กน้อย ทันใดนั้น เขาก็ยกเท้าเตะเฉินจี๋ตกลงไป! อาการบาดเจ็บของเฉินจี๋ยังไม่หายดี การเตะครั้งนี้จึงสร้างความเจ็บปวดสุดแสนให้เขา ทว่าเขาผุดลุกขึ้นมาทันที และคุกเข่าลง “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมิอาจทนเห็นพระองค์เสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎต่อต้านผู้คน! หากโลหิตหงส์ถูกทำลาย...” “หุบปากซะ!” ดวงตาของเซียวอวี้เต็มไปด้วยความเย็นชาสุดพรรณนา “หากซูฮ่วนเป็นอันใดไป เจ้าก็อย่าหวังจะได้มีชีวิตอยู่!” ทุกคนก็อย่ามีชีวิตอยู่อีก! หัวใจของเฉินจี๋พลันบีบรัดแน่น ฝ่าบาทจะให้ความสำคัญต่อซูฮ่วนขนาดนี้ได้อย่างไร! เฉินจี๋เอ่ยทัดทาน “ฝ่าบาทพ่ะย
Read More

บทที่ 607

ผู้ตายมิใช่ประมุขพรรคเทียนหลง เรื่องนี้ ทำให้ต้วนเจิ้งก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ เขาร้อนอกร้อนใจรีบถาม “สรุปว่าเกิดอันใดขึ้นกันแน่! แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร?” หร่านชิวก็ดูกังวลใจ ทว่ายังอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน “พรรคเทียนหลงนั้น ในวันปกติ ประมุขพรรค เก้าราชา และผู้พิทักษ์ทั้งสอง จักสวมหน้ากากตลอดเวลา “ครั้งหนึ่งข้าเคยเป็นคนสนิทข้างกายของประมุขพรรคหยางเหลียนซั่ว แต่ไม่รู้ว่าหน้าตาภายใต้หน้ากากของพวกเขาเป็นอย่างไร “ในวันนั้นประมุขพรรคออกจากบำเพ็ญตน พวกเราจึงเชื่อมั่นโดยไร้เงื่อนไข ว่านั่นคือประมุขพรรค “ทว่าหลังจากที่เขาตายแล้ว ข้าก็สำรวจพบปานเล็กที่ต้นคอด้านหลังของเขา “ปานเล็กนั้น ข้าเคยเห็นบนตัวของผู้พิทักษ์ขวา เพราะเขาเคยสอนเคล็ดวิชาพลังจิตภายในแก่ข้าอยู่ระยะหนึ่ง ข้าจึงค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเขา “เดิมข้าแค่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ ภายหลังยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าผิดปกติ “ประมุขพรรคบำเพ็ญตนนั้น สิ่งที่ฝึกฝนคือเคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถี “เคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีนี้สามารถดูดซับพลังภายในของผู้อื่น มาเป็นของตนเองได้ “ทว่าประมุขพรรคตัวปลอมนั้น
Read More

บทที่ 608

มิใช่แค่เซียวอวี้เท่านั้น ต้วนเจิ้งก็ลังเลแล้วเช่นกัน หลังจากที่เขาส่งหร่านชิวออกไปแล้ว ก็มาพบเฟิ่งจิ่วเหยียน “พลังภายในของหยางเหลียนซั่วผู้นั้น แข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้พิทักษ์ทั้งสองคนนั้นมาก “และตอนนี้เขาได้บรรลุเคล็ดวิชาดาราโรยหมื่นวิถีแล้วด้วย “เจ้าไม่อาจ สู้ชนะเขาได้เลย และจักตายเปล่าก็เท่านั้น “พี่ชายของข้า...” เขาหยุดเอ่ยชั่วครู่ ลดศีรษะลง ในใจมีคำพูดมากมายที่ยากจะเอ่ย “พี่ชายของข้าไม่อยากให้เจ้าตายแน่นอน!” เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสายตาที่เด็ดเดี่ยว “หากข้าไม่รู้ว่าเขาถูกขังอยู่ข้างในก็แล้วไป เมื่อรู้แล้ว ก็ย่อมจะไม่นิ่งดูดาย” “เจ้าเอาชนะสิบสองเทพชะตายังไม่ได้เลย! แล้วจะโอ้อวดอะไรได้!” จู่ ๆ ต้วนเจิ้งก็เงยหน้าขึ้น เบ้าตาแดงก่ำ “เจ้าคิดจะตายไปพร้อมกับพี่ชายของข้ารึ! พวกเจ้าอยากจะตายสังเวยรักหรือไร! พี่ชายของข้าจะไม่ยอมแน่!” เขาอายุเท่าไรแล้ว? ยังเอะอะก็เอาแต่ร้องไห้ เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วมุ่น “ขอเพียงยังมีความหวังที่จะช่วยเขาได้ ข้าก็จะลองดู” ถึงแม้จะต้องตาย ก็ไม่เสียใจเลย ต้วนเจิ้งส่ายศีรษะแรง ๆ “ไม่ได้ ข้าไตร่
Read More

บทที่ 609

หนานซานอ๋องก็คาดไม่ถึงเช่นกัน ไอ้เด็กคนนี้ กล้าที่จะชี้กระบี่ใส่เขาจริง ๆ ! “กฎของภูเขาอวี้หลิง...” เฟิ่งจิ่วเหยียนพลิกคมกระบี่ กรีดบนลำคอของเขาจนเกิดรอยแผลเลือด “กฎของข้าคือ จับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน “ฝ่าบาทสังหารท่านไม่ได้ ข้าทำได้ “หากท่านตายแล้ว ภูเขาอวี้หลิงจะอลหม่าน “ดังนั้น เชิญเปิดประตู” หนานซานอ๋องกำหมัดแน่น พลางมองไปทางเซียวอวี้ที่อยู่ไม่ไกล “ฝ่าบาท นี่คือคนที่ท่านนำมาหรือพ่ะย่ะค่ะ!” ในเวลานี้เซียวอวี้ก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาไม่ได้คาดคิดว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนจะจับหนานซานอ๋องเป็นตัวประกันโดยตรง ต้วนเจิ้งเร่งเร้าด้วยสายตาเย็นชา “รีบเปิดเจดีย์เก้าชั้นเร็วเข้า มิฉะนั้นจักสังหารท่านที่ทั้งแก่ทั้งคร่ำครึนี่ซะ! ให้ท่านไปเฝ้าภูเขาอยู่ในยมโลก!” เหล่าองครักษ์ของหนานซานอ๋องมีสายตาที่เฉียบคม “ปล่อยท่านอ๋องเดี๋ยวนี้!” หนานซานอ๋องกลับแย้มยิ้ม ริ้วรอยพลันปรากฏขึ้น บนใบหน้าที่เข้มงวดของเขา “ได้! ซูฮ่วน เจ้าชั่วช้ามากพอ เชิญเจ้าเข้าไป ในเจดีย์เก้าชั้นได้” เส้นทางต่างกันมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน คนที่เจดีย์เก้าชั้นต
Read More

บทที่ 610

เฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้มองอย่างระแวดระวัง และได้เห็นว่า มีชายชราหลังค่อมคนหนึ่งเดินลงมา ดวงตาเปล่งประกายความเย็นชา และความหิวโหย พลางจับจ้องมองมาที่มือของพวกเขา ทันใดนั้นแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของชายชรา พลันมืดลงทันที “พวกเขาไม่ได้ให้พวกเจ้านำของกินมาด้วยรึ?” เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เข้าใจความหมาย เซียวอวี้อธิบาย “อาชญากรที่ราชสำนักส่งมา จักนำอาหารเข้ามาในเจดีย์ด้วย” พวกเขาเข้ามาในเจดีย์อย่างเร่งรีบ หนานซานอ๋องที่ยอมเปิดประตูเจดีย์เพราะถูกจับเป็นตัวประกัน ย่อมจะไม่ได้เตรียมอาหารให้นางอย่างเหมาะสม เฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าใจแล้ว จึงก้าวออกไปข้างหน้า และกล่าวกับชายชรา “พวกเราสองพี่น้องเร่งรีบเข้ามาในเจดีย์ จึงไม่มีอาหารติดมาด้วยเลย” ชายชราคนนั้นหัวเราะเยาะผ่านลำคอ ดูเหมือนจะไม่สนใจมากนัก “ราชสำนักไม่ได้ส่งคนใหม่เข้ามาหลายปีแล้ว...ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” พฤติกรรมของเขาแตกต่างจากคนทั่วไป ไม่ได้มองพวกเขาขณะที่พูด และตอนที่เอ่ยพึมพำ ก็จับศพบนพื้นอย่างลวก ๆ ก่อนจะลากขาศพขึ้นบันไดหินไป เฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้หันมามองหน้ากัน แล้วเดินตา
Read More
Dernier
1
...
5960616263
...
127
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status