All Chapters of ปราบพยัคฆ์ แม่ทัพตัวร้าย: Chapter 21 - Chapter 30

48 Chapters

เดินทางไปชายแดนเหนือ

ซุนเหยานางนำของออกมาเติมจนเต็มโกดังทั้งสองที่สร้างไว้ สบู่เหลวแบบถุงของนางก็อยู่ในห้องว่างภายในเรือนพักของนาง หากจะใช้สิ่งใดก็ให้เสี่ยวกุ้ยเป็นคนมานำออกไป ให้ทาสที่ซูเซวียนซื้อมาเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เมื่อทำให้ดูเป็นตัวอย่างเพียงไม่นานพวกเขาก็เข้าใจได้ทันที และลงมือทำงานอย่างรวดเร็ว“พวกท่านอยู่กับข้า หากทำงานออกมาได้ดี ข้าจะให้หลงจู๊หมานจัดการเรื่องค่าแรงให้พวกท่าน” ทั้งห้าคนรีบคุกเข่าขอบคุณซุนเหยาทั้งชีวิตของการเป็นทาส ล้วนแต่ต้องทำงานหนักโดยที่ไม่ได้รับเงิน ทั้งที่หลับที่นอนอาหารการกินก็ไม่ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีเลยแม้แต่น้อยผิดกับที่จวนของซุนเหยา เรื่องอาหารนางก็มีให้กินได้อย่างเต็มที่ ทั้งที่นอน เสื้อผ้า ผ้าห่มก็ล้วนเป็นของใหม่ที่ให้พวกเขาได้ใช้เมื่อเห็นว่าเขาจัดการเรื่องทั้งหมดได้อย่างเรียบร้อย ซุนเหยานางก็ไปที่เหลาอาหาร เพื่อพบกับหลงจู๊หมาน“ท่านหลงจู๊ข้าจะออกเดินทางไปจัดหาเสบียงแทนท่านพ่อ ไม่อยู่ที่เมืองหลวงหลายเดือน รบกวนท่านจัดการเรื่องทางเมืองหลวงแทนด้วยเจ้าค่ะ”“นายหญิงท่านอย่าได้พูดเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ข้าน้อยสมควรทำ” หลงจู๊หมานมองซุนเหยาอย่างซาบซึ้ง ตัวเขานอกจากจะมีคนนับถือ
last updateLast Updated : 2025-07-27
Read more

เช่นนี้จะดูแลผู้ใดได้

ดวงตาของหงอี้เปล่งประกายอย่างเห็นด้วย เมื่อขบวนเดินทางหยุดพัก หงอี้นางก็เดินเข้าไปบอกซูเซวียนเรื่องที่นางกับซุนเหยาจะเดินทางด้วยม้าตัวเดียวกัน“ไม่ต้อง ไม่ได้เร่งเพียงนั้น” เขาปรายตามองหงอี้อย่างไม่พอใจ นางคิดว่าซุนเหยาแข็งแกร่งเช่นนางหรือไรซุนเหยานางเป็นเพียงคุณหนูในห้องหอ ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม ทำงานเพียงไม่เท่าใดนางก็เหนื่อยล้าแล้ว หากต้องเดินทางไปชายแดนเหนือด้วยรถม้าตลอดเส้นทาง ร่างกายของนางคงมิอาจทนได้ถึงห้าสิบลี้ (1ลี้=500 เมตร) เป็นแน่หงอี้เดินหน้าบิดเบี้ยวมาหาซุนเหยาที่นั่งพักอยู่ริมแม่น้ำ“ท่านแม่ทัพมิยินยอมใช่หรือไม่” ซุนเหยาเพียงแค่เห็นใบหน้าของหงอี้นางก็รู้คำตอบแล้ว“เหอะ บอกมิได้เร่งรีบ ผู้ใดจะเชื่อกัน คงเป็นห่วงเจ้าเสียมากกว่า” หงอี้พอจะรู้นิสัยปากแข็งของซูเซวียน“เจ้าก็ออกไปขี่ม้าเช่นผู้อื่นเถิด ข้าอยู่ในรถม้าเพียงลำพังได้” ซุนเหยาพอจะรู้ว่าหงอี้ นางเบื่อที่ต้องนั่งเฉยๆ ในรถม้า“เจ้าอยู่ได้แน่หรือ” “ข้าก็เพียงนั่งๆ นอนๆ จะเป็นอันใดเล่า” หงอี้พยักหน้าอย่างเข้าใจซูเซวียนเดินมาตามทั้งคู่ให้กลับไปขึ้นรถม้า เพื่อออกเดินทาง“เจ้าไม่นั่งรถม้าแล้วรึ” เขาเอ่ยถามหงอี้ เมื
last updateLast Updated : 2025-07-27
Read more

สุราเป็นเหตุ

ซูเซวียนเห็นว่านางอยากจะเข้านอนแล้ว จึงได้รีบกินอาหารทั้งหมดลงอย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้ให้นางพักผ่อนซุนเหยานางเริ่มจะชินกับการที่มีเขานอนร่วมเตียงแล้ว ยิ่งออกมาด้านนอกเช่นนี้คงไม่ดี หากนางต้องนอนเพียงลำพังนางเห็นว่าสีหน้าของซูเซวียนตั้งแต่เดินทางออกจากเมืองหลวงไม่ค่อยจะดีนัก จึงคิดว่าเขาคงเป็นห่วงเรื่องทางชายแดนเหนือ“ท่านจะเร่งออกเดินทางหรือไม่เจ้าคะ ข้ากับท่านพี่ตามหลังท่านไปได้ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง” นางรู้ดีว่าการที่มีนางเดินทางมาด้วย ทำให้การเดินทางของเขาล่าช้าลงซูเซวียนรู้ถึงความกังวลของซุนเหยา จึงเลื่อนมือมากุมมือของนางไว้“ไม่จำเป็น คนของข้าทางชายแดน รายงานเหตุการณ์อยู่ตลอด ข้ารับปากบิดาของเจ้าแล้ว จะทิ้งเจ้าไว้กลางทางได้อย่างไร” ซุนเหยารู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งยังมือที่กุมมือของนางไว้ ช่วยทำให้นางรู้สึกปลอดภัยซูเซวียนดึงตัวของซุนเหยาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด เขาลูบหลังกล่อมนางอย่างเอาใจ ความเหนื่อยล้าที่ได้รับจากการเดินทาง ไม่นานทั้งคู่ก็หลับสนิทต่างจากหลิงเฮ่อกับหงอี้ ที่อยู่ด้านล่างของโรงเตี๊ยมที่ยังไม่ยอมกลับห้องไปพักผ่อน หงอี้กำลังดึงคอเสื้อของหลิงเฮ่อที่เมาฟุบอย
last updateLast Updated : 2025-07-28
Read more

ฟ้ายังไม่สางดี

ซูเซวียนลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบา เพราะฟ้ายังไม่สว่างดี เขายังอยากให้ซุนเหยานางพักต่ออีกหน่อย แต่ซุนเหยาที่ความอบอุ่นตลอดทั้งคืนหายไป นางก็เขยิบตัวลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย“ข้าทำเจ้าตื่นหรือ นอนต่ออีกสักนิดดีหรือไม่” ซูเซวียนนั่งลงที่เตียง เขาลูบใบหน้าของซุนเหยาที่ลืมตาตื่นไม่เต็มที่ อย่างเอ็นดู“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้านอนเต็มอิ่มแล้ว” ซุนเหยาขยี้ตา ก่อนที่จะดันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงซูเซวียนเห็นสาบเสื้อที่เปิดออกของนาง เขามองเนินเนื้อขาวอวบที่โผล่ออกมาให้เห็นร่ำไร ซุนเหยานางขยี้ตาอยู่จึงไม่รู้ว่าคนข้างๆ เริ่มจะขยับมาใกล้นางเพิ่มขึ้น“อื้อออ” ซูเซวียนเชยคางของซุนเหยาแล้วประกบจุมพิตทันทีมือของเขาประคองลูบอยู่ที่แผ่นหลังของนาง พร้อมทั้งลูบไล้ไปตามเอวคอดกิ่วอย่างปรารถนา ซุนเหยาที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกซูเซวียนประคองลงนอนที่เตียงอีกครั้งจูบของซูเซวียนครั้งนี้เต็มไปด้วยความร้อนแรง ทั้งความปรารถนาในตัวของซุนเหยาที่เพิ่มมากขึ้น มือของซูเซวียนเริ่มที่จะปลดเสื้อผ้าของซุนเหยาออกอย่างรวดเร็ว“ท่านแม่ทัพ” นางเอ่ยเสียงสั่น ทั้งยังจับมือที่กำลังปลดเสื้อผ้านางไว้แน่น“เหยาเหยา ข้าจะถนอมเจ้าอย่างดี”“แต
last updateLast Updated : 2025-07-28
Read more

ท่านแม่ทัพ ท่านทำอันใดนาง

เสี่ยวเอ้อ ยกอาหารเขามาด้านใน ซูเซวียนก็พาซุนเหยานางมานั่งกิน เขาคีบอาหารป้อนเอาใจซุนเหยาอยู่ไม่ห่าง จนนางต้องเบือนหน้าหนีเพราะว่าอิ่มแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาต้องป้อนนางจนอาหารตรงหน้าหมดลงเป็นแน่แล้วซูเซวียนก็ทำอย่างที่เขาพูดจริง เพราะเขาอุ้มซุนเหยา พร้อมทั้งใช้เสื้อคลุมของตนคลุมตัวนางไว้ ก่อนจะพานางไปที่รถม้าครั้งนี้ซุนเหยานางไม่ได้ดื้อรั้น ปล่อยให้เขาใช้เสื้อคลุมตัวนางไว้ เพราะเนื้อตัวของนางมีแต่รอยรักที่เขาทำไว้เต็มไปหมดหงอี้ที่คิดจะหลบหน้าหลิงเฮ่อ ก็ขึ้นไปนั่งรถม้ากับซุนเหยา เมื่อเห็นซุนเหยาใช้ผ้าห่มคลุมตัวจนเหลือแค่ส่วนหัวเท่านั้น นางก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้“อาเหยาเจ้าเป็นอันใด” “ข้ามิได้เป็นอันใด แล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่ขี่ม้าเล่า” “ข้าเพียงอยากนั่งรถม้าเท่านั้น” หงอี้นางจะบอกเรื่องที่นางกำลังหลบหน้าหลิงเฮ่อให้ซุนเหยานางรู้ได้อย่างไรเมื่อครู่ตอนที่จะออกจากโรงเตี๊ยม หลิงเฮ่อก็เดินตามนางไม่หยุด ทั้งยังมีท่าทีที่สนิทสนมจนผู้อื่นเริ่มจะสงสัยเสียแล้วตอนที่นางกำลังเตรียมม้า หลิงเฮ่อยังทำหน้าหนาจะควบม้าเช่นเดียวกับนาง นางจึงต้องหนีมาอยู่ที่รถม้ากับซุนเหยาสองสาวในรถม้าต่างนั่งเงียบอย่างมี
last updateLast Updated : 2025-07-29
Read more

ข้าช่วยสิ่งใดได้บ้าง

เรื่องที่ซุนเหยานางกังวล มิใช่เขาไม่กังวล แต่เพียงรอจดหมายส่งข่าวอยู่เท่านั้น หากสารฉบับใหม่แจ้งข่าวมา เขาถึงจะตัดสินใจได้อีกครั้งหงอี้นางกลับมานั่งที่รถม้า ก็เห็นว่าซุนเหยานางนอนมองมาทางตนอยู่“เจ้ามองอันใด”“ปากเจ้าไปโดนอันใดมา” ซุนเหยาเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะปากของหงอี้บวมแดง“มะ ไม่มีอันใด” หงอี้เอ่ยเสียงสั่นอย่างมีพิรุธ แต่ซุนเหยานางก็ไม่คิดจะคาดคั้น ได้แต่เปลี่ยนเรื่องคุยกันไปหลังเดินทางได้ห้าวัน มาถึงเมืองกว่างซาน ซูเซวียนก็ให้ทั้งขบวนพักหนึ่งวัน เพื่อที่ตนจะได้จัดการเรื่องเสบียงอาหารเขาเช่าจวนพักให้ซุนเหยา เพื่อที่นางจะได้นำสิ่งของทั้งหมดออกมาได้สะดวก ทางหลิงเฮ่อก็ไปจัดการเรื่องเกวียนส่งสินค้า ทั้งหมดเร่งมือทำงานกันอย่างรวดเร็วเพราะต้องเปลี่ยนถ่ายของใส่กระสอบใหม่ เรื่องนี้หงอี้นางจึงต้องเข้ามาช่วยด้วย ตอนที่นางรู้เรื่องความลับของซุนเหยานางก็ตกใจจนนิ่งงันไปนานหากไม่ใช่หลิงเฮ่อบอกซุนเหยาเรื่องจะแต่งหงอี้เป็นพี่สะใภ้ ให้ตายอย่างไรนางก็ไม่คิดจะให้ผู้อื่นรู้เรื่องของนางเพิ่มอย่างแน่นอน“ข้าก็ว่าเหตุใดเจ้าถึงได้ปากบวมบ่อยนัก” ซุนเหยามองหงอี้อย่างหยอกล้อ เมื่อรู้ว่าต่อไปนางจะมาเป
last updateLast Updated : 2025-07-29
Read more

ถึงชายแดนเหนือแล้ว

แม้เรื่องนี้จ้าวกงหยวนจะมิได้พูดออกไป แต่มิใช่กับซูเซวียนเขาเขียนแจ้งเรื่องไปกับของทั้งหมดว่าเป็นภรรยาของตนใช้เงินส่วนตัวจัดหาซื้อเสบียงอาหารและเครื่องนุ่งห่มส่งไปตามค่ายผู้อพยพเรื่องทั้งหมดจึงเดินทางมาถึงเมืองหลวง ก่อนที่ซุนเหยานางจะถึงเมืองหลวงเสียอีกฮ่องเต้ตรัสชื่นชมซุนเหยากับจ้าวกงหยวนหลายประโยค ทั้งที่เรื่องนี้สมควรนำมาพูดเพื่อให้บุตรสาวได้ความดีความชอบ แต่จ้าวกงหยวนกับเลือกที่จะไม่พูดออกมา ให้ทางหัวเมืองต่างๆ เป็นผู้แจ้งแก่ราชสำนักจากในตอนแรกที่ต้องเดินทางถึงสามเดือน เพียงไม่ถึงสองเดือนดีทั้งหมดก็มาถึงชายแดนเหนือ ซุนเหยานางอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด เมื่อต้องเดินทางเช่นนี้ หลิงเฮ่อก็มีสภาพไม่ต่างจากน้องสาวยังดีที่เขาแข็งแรงมากกว่านาง ซุนเหยาในยามนี้ซูบผอมลง จนคนที่เห็นนางอดจะเห็นใจมิได้เนื่องจากเสบียงที่ส่งตามหลังมายังเดินทางมาไม่ถึง ภายในจวนของท่านแม่ทัพที่ชายแดนเหนือ ซุนเหยานางจึงต้องนำของออกมาจัดการให้เขาอีกรอบเสียก่อนบ่าวในจวนก็มีไม่มาก เมื่อได้รับคำสั่งห้ามเข้าใกล้ห้องที่ซุนเหยาจะใช้เก็บของต่างก็ไม่มีผู้ใดกล้าขัดคำสั่ง มีเพียงพ่อบ้านที่ต้องวิ่งจัดการเรื่องของที่จะให้ถ่า
last updateLast Updated : 2025-07-30
Read more

เจ้าเป็นอันใด

หลิงเฮ่อที่อยู่ในจวนท่านแม่ทัพกับน้องสาวก็แทบนั่งไม่ติด เพราะเป็นห่วงหงอี้ที่อยู่ในสนามรบ เขาเป็นเพียงบัณฑิตจึงไม่อาจติดตามนางเข้าไปได้ ถึงเข้าไปก็รังแต่จะเป็นตัวถ่วงให้นางเสียเปล่าๆ“ท่านพี่ เมื่อไหร่ท่านจะหยุดเดินเจ้าคะ” ซุนเหยานางกุมขมับเมื่อพี่ชายลุกขึ้นเดินหลายรอบแล้ว“นับสิบวันแล้ว ยังไม่มีผู้ใดส่งข่าวมาเลย เจ้าไม่กังวลหรือ”“การที่ไม่มีข่าวส่งมาย่อมดีกว่าเจ้าค่ะ” ไม่ใช่ว่านางไม่กังวล แต่จะกังวลไปเพื่อสิ่งใดหากมีจดหมายด่วนส่งมา ส่วนมากย่อมไม่ใช่เรื่องดี การที่ไม่มีข่าวส่งมาเช่นนี้ สำหรับซุนเหยาแล้วนางคิดว่าดียิ่งนักหลิงเฮ่อเมื่อฟังคำพูดของน้องสาว เขาจึงได้แต่นั่งลงเช่นเดิม แต่ในใจก็ยังนึกเป็นห่วงหงอี้จนอยากจะตามไปดูนางให้เห็นกับตาว่าเป็นเช่นไรสองพี่น้องเมื่ออยู่ในจวน ทั้งคู่ก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ต่างจัดเตรียมเสบียงแล้วข้าวของส่งไปตามค่ายทหารและค่ายผู้อพยพอยู่ตลอด อย่างน้อยสิ่งที่ทั้งสองทำได้ในยามนี้ก็ช่วยชีวิตคนไว้ได้นับหมื่นนับแสนคนวันที่ยี่สิบที่ซูเซวียนออกไปทำสงครามก็ส่งจดหมายกลับมาให้ซุนเหยา บอกกล่าวเรื่องสงครามที่กำลังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังบอกว่าตัวเขาและหงอี้ม
last updateLast Updated : 2025-07-30
Read more

บรรพบุรุษว่าไว้

เสียงหัวเราะของซูเซวียนทำให้ทหารที่เดินผ่านกระโจมของเขาต่างตกตะลึง เพราะนานเพียงใดแล้วที่ท่านแม่ทัพของตนไม่หัวเราะออกมาเช่นนี้ หรือพวกเขาแทบจะไม่เคยได้ยินมาก่อนหงอี้ก็วิ่งเข้าไปในกระโจมของซูเซวียนด้วยความที่อยากรู้ว่าเขามีความสุขได้อย่างไร ในเมื่อสถานการณ์เรื่องสงครามตึงเครียดเช่นนี้“ท่านมีเรื่องน่ายินดีอันใด”“เหยาเหยาของข้า นางตั้งครรภ์แล้ว”“ห๊า เร็วถึงเพียงนี้ แล้วตอนที่นางเดินทางจะมีอันตรายหรือไม่” หงอี้อดเป็นห่วงซุนเหยาไม่ได้ เมื่อนึกถึงตอนที่นางเดินทางด้วยม้าเร็วซูเซวียนเมื่อนึกถึงคำพูดของหงอี้ เขาก็รีบลุกขึ้นทันที“อาอี้ เจ้าบอกผู้อื่นด้วย ข้าไปด้านนอก เพียงสองชั่วยามจะรีบกลับมา” หงอี้วิ่งตามออกมาก็เห็นแค่แผ่นหลังของซูเซวียนที่ควบม้าวิ่งออกจากค่ายไปแล้ว“เพ้ย ข้าก็อยากจะไปกับท่านด้วย” นางเดินเตะดินกลับไปแจ้งผู้อื่นอย่างหัวเสียเขาไม่คิดจะชวนนางไปด้วยหรืออย่างไร นางก็อยากจะไปดูซุนเหยาด้วยเช่นกัน แต่ความจริงแล้วหงอี้นางก็คิดถึงหลิงเฮ่ออยู่ไม่น้อยซูเซวียนเร่งควบม้ากลับมาตลอดทาง เขากังวลยิ่งกว่าตอนที่วางแผนเรื่องสงครามเสียอีก ยิ่งนึกถึงเมื่อหนึ่งเดือนก่อนเขาก็รุนแรงกับนางอยู่
last updateLast Updated : 2025-07-31
Read more

หงอี้บาดเจ็บ

น้อยครั้งนักที่ซูเซวียนจะได้เห็นท่าทางของซุนเหยาที่ออดอ้อนเขาอยู่เช่นนี้ เขาก้มหน้าลงประกบปากของนางทันที จุมพิตของเขาครั้งนี้อ่อนโยน ราวกับว่าความคิดถึงทั้งหมดของเขาส่งผ่านมาให้นางได้ล่วงรู้“เหยาเหยา ข้าจะรีบกลับมาก่อนเจ้าจะคลอด” ซูเซวียนลูบท้องที่ยังแบนราบของนางอย่างอาลัยอาวรณ์ เมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับไปที่ค่ายนอกเมืองแล้ว“ท่านต้องปลอดภัยกลับมา ข้ากับลูกจะรอท่านอยู่ที่จวน เรื่องของข้าท่านอย่าได้กังวลเด็ดขาด รับปากข้ามาเจ้าค่ะ” ซุนเหยาลุกขึ้นนั่ง แล้วสบตากับซูเซวียนอย่างจริงจัง“ได้ ข้าจะต้องปลอดภัยกลับมาอยู่กับเจ้าและลูกอย่างแน่นอน” ซูเซวียนจูบที่หน้าผากของซุนเหยาเนิ่นนานกว่าจะถอนออกเขารอให้ซุนเหยานางหลับเสียก่อนจึงได้ยอมออกจากจวนไปที่ค่ายทหารนับว่าเป็นครั้งแรกของซูเซวียนที่หวาดกลัวความตายขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขาคิดมาเสมอว่าหากตัวตายในสนามรบเช่นบิดาก็ถือว่าเกิดมาไม่เสียชาติเกิดแต่เมื่อมีซุนเหยานางเข้ามาในชีวิต เขาก็เริ่มที่จะหวงแหนการมีชีวิตอยู่ เมื่อยิ่งรู้ว่ากำลังมีบุตรที่รอให้เขาเฝ้าดูเขาเติบโตก็ยิ่งอยากมีชีวิตอยู่ต่อให้นานขึ้นซุนเหยานางตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบเพียงเสื้อตัวนอกของซ
last updateLast Updated : 2025-07-31
Read more
PREV
12345
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status