All Chapters of เสียงพิณในม่านหิมะ: Chapter 11 - Chapter 20

26 Chapters

บทที่ 11 แม่ทัพในตำนาน

เสียงสุดท้ายนั้น หาใช่เสียงที่ใครฟังแล้วตาย แต่คือ “เสียงที่สะท้อนใจคนฟังเอง” และหากหัวใจของคนฟังนั้นมืดดำ เขาจะตายเพราะเงาแห่งตนเองลู่จิ่นซานล้มลงบนพื้น ดวงตาเปี่ยมไปด้วยน้ำตาและความตื่นรู้“ข้าฆ่าท่าน ด้วยเงาในใจของท่านเอง”เสียงสุดท้ายเงียบไปแล้ว แต่คล้ายจะยังคงก้องในอกของลู่จิ่นซาน เขานอนนิ่งกลางพื้นหิน ดวงตาเบิกโพลง มิใช่เพราะความหวาดกลัว แต่เพราะสิ่งที่เขาตื่นรู้ คือความจริงที่ไม่มีผู้ใดในแผ่นดินอยากฟัง“ฮ่องเต้มิได้ถูกลอบปลงพระชนม์”“พระองค์ สิ้นพระชนม์ด้วยความกลัวของตนเอง”อวี้หลานนั่งข้างเขา มือประคองแผ่นหลัง นางเอ่ยเสียงแผ่ว“บทเพลงนั้นเปรียบดั่งกระจกเงา”“ผู้ใดได้ยิน ย่อมเห็นเงาแท้จริงในใจตน”“และหากมิอาจทนมองเงานั้นได้…”“ก็จะถูกมันกลืนกิน”จิ่นซานพยักหน้าช้า ๆ มือของเขากำแน่น“ข้าแต่งบทเพลงเพื่อสื่อความรู้สึกของเหล่าทหารผู้สิ้นใจบนสนามรบ”“แต่ข้าลืมไปว่า ผู้ฟังใช่ว่าทุกคนจะมีใจกล้าเผชิญกับเงาในอดีตของตนเอง”เขาลุกขึ้นช้า ๆ หันไปมองกล่องพิณทองคำที่ตอนนี้สงบนิ่งอีกครั้ง “เมื่อครู่ ข้ารู้สึกว่ามีเสียงหนึ่งกำลังเรียกหา”อวี้หลานชะงักไปเล็กน้อย “เสียงใด?”“เสียงขอ
last updateLast Updated : 2025-08-07
Read more

บทที่ 12 วังหลวงใต้ม่านหิมะ

หิมะตกต่อเนื่องสามวันสามคืนไม่ขาดสาย ทั่วแคว้นไป๋ฮวาเงียบงันราวถูกผนึกด้วยม่านสีขาว บ้านเรือนปิดประตูแน่น ผู้คนซ่อนตัวอยู่ในอ้อมผ้าห่มและเตาไฟในยามนั้น เสียงพิณสายสุดท้ายจากหอพิณใต้ดิน ได้ถูกลอบส่งออกจากเมืองหลวง…ด้วยม้วนกระดาษแผ่นบางหนึ่งม้วนเขียนด้วยอักษรเลือดจาง ๆ และตราประทับ “หลงเสียง”สามวันให้หลัง ราชโองการจากองค์ฮ่องเต้ก็ถูกประกาศเหนือบัลลังก์ทองคำ“จงนำตัวหญิงนามว่าอวี้หลาน ผู้บังอาจฝืนกฎแผ่นดินและดีดพิณต้องห้าม มายังวังหลวง เพื่อเป็นนักดนตรีหลวง ณ ศาลาเทียนอิน หากขัดขืน ให้ถือเป็นกบฏต่อราชสำนัก!”เสียงราชโองการสะท้อนออกไปในลมหนาว ขุนนางทั้งหลายต่างนิ่งงัน ไม่มีใครกล้าเอ่ยถาม แต่ในเงามืดหลังม่านราชบัลลังก์ ร่างหนึ่งกลับลุกขึ้นอย่างเงียบงันชายชราเคราขาวในชุดขุนนางสีหม่น นัยน์ตาเรียบนิ่งราวกับหยั่งเห็นทุกชั้นของพิภพ“จงเตรียมศาลาเทียนอินให้พร้อมรับเสียงต้องห้าม” เสียงของเขาเอื้อนเอ่ยออกอย่างเย็นเยียบเขาคือ ‘หลี่ไท่ฟง’ ขุนนางผู้เป็นเจ้าของตำแหน่ง “อัครเสนาบดีแห่งเสียง” ผู้ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดนตรีทั้งหมดในวังหลวงรวมถึง “เสียงที่ไม่ควรถูกได้ยิน”ย้อนกลับไปที่นอกเมืองใต้ต้นเหมย
last updateLast Updated : 2025-08-07
Read more

บทที่ 13 ข้าจะไม่ขายเสียงของเจ้า

แสงจันทร์ในค่ำคืนนั้นหม่นมัว หมอกหิมะโรยตัวราวม่านบางบาง ทาบทับลงบนลานศิลาริมลำธารน้ำแข็งใต้หุบเขา ลู่จิ่นซานเดินออกจากวังหลวงด้วยก้าวเท้าเนิบช้า ข้างกายเขามีเพียงกล่องพิณที่ไร้เสียง และจิตใจที่ว่างเปล่าดังท้องนภายามปลอดหิมะคืนที่ผ่านมา เขาได้ดีดท่วงทำนองสุดท้าย และในห้วงจิตหนึ่ง เขาสัมผัสได้ว่า อวี้หลานอยู่ที่ไหนสักแห่งในเงาเสียงนั้นเมื่อกลับถึงศาลาริมธาร เขากลับไม่พบร่างของนาง มีเพียงกล่องไม้เก่าของพิณอีกกล่อง วางอยู่บนเสื่อไม้ไผ่ พร้อมกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขียนด้วยอักษรเรียบง่าย“ข้ารอดแล้ว เจ้าอย่าหวนมาเป็นนักโทษอีก อวี้หลาน...”เขากำกระดาษแน่นในมือ กลิ่นน้ำหมึกจาง ๆ คล้ายยังอวลกลิ่นน้ำตานางไว้“เจ้าคิดว่าข้าจะอยู่เฉยหรือ?”เสียงกระซิบที่ไม่มีใครได้ยิน แต่อากาศกลับเย็นวูบลงในทันใดในเวลาเดียวกันนั้น กลางเมืองหลวงที่หิมะเพิ่งหยุดตก มีประกาศราชสำนักฉบับใหม่ถูกปิดไว้หน้าประตูเมือง“ด้วยคุณงามความดีของนักพิณนามลู่จิ่นซาน บัดนี้เขาถูกแต่งตั้งเป็น ‘อาจารย์หลวงฝ่ายดนตรีพิณ’ มีหน้าที่ฝึกฝนนักดนตรีรุ่นใหม่เพื่อใช้ในราชสำนัก”ข่าวกระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว มีทั้งคนยกย่องและผู้ที่เริ่มหวาดหวั่น
last updateLast Updated : 2025-08-07
Read more

บทที่ 14 ตำราพิณวิญญาณจากอดีต

ยามค่ำที่หิมะยังโปรยปรายไม่หยุด ลู่จิ่นซานกับอวี้หลานเดินฝ่าความหนาวเหน็บไปบนเส้นทางที่ไร้คนเหยียบย่ำ ดวงตะวันลับเหลี่ยมเขา ท้องฟ้าอึมครึมราวม่านดำที่ขึงไว้เพื่อซ่อนอะไรบางอย่าง“เจ้ามั่นใจหรือว่า ตำรานั้นยังอยู่”อวี้หลานเอ่ยเบา ๆ ใต้ผ้าคลุมหน้า เสียงนางเต็มไปด้วยความลังเลเจือปนความหวาดหวั่น“ข้าไม่แน่ใจ” ลู่จิ่นซานตอบเสียงเรียบ“แต่ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าข้าเป็นใครในภพนั้น และเจ้าต้องตื่นขึ้นมาเป็นใครกันแน่”ท่ามกลางสายลมหนาว สองร่างมุ่งหน้าไปยัง “นครต้องห้าม” ที่เคยเป็นศูนย์กลางของบรรพชนสายพิณ สถานที่ซึ่งปิดตายมากว่าร้อยปี ที่นั่นไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไป เพราะเชื่อกันว่าผู้สร้างบทเพลงต้องสาปได้ผูกคำสาปไว้กับสายพิณ และดวงจิตตนเอง“หอพิณวิญญาณ มิได้มีไว้เพื่อการเรียนรู้เพียงอย่างเดียว” ลู่จิ่นซานพูดราวกับเตือนตนเอง“มันมีไว้เพื่อทดสอบว่าใจเจ้าพร้อมรับเสียงจากอดีตหรือไม่”พวกเขาเดินทางถึงเชิงเขาเที่ยงคืนพอดี เบื้องหน้าคือซากตำหนักคร่ำคร่าที่เกือบถล่ม ประตูไม้สูงใหญ่บานหนึ่งพังครึ่งหนึ่ง แต่ยังคงตราสลักเป็นรูป “มังกรพันสายพิณ”เขาเอื้อมมือผลักประตู เสียงแกรกแกรกดังก้องเข้าไปในความเงียบ อวี้หลา
last updateLast Updated : 2025-08-07
Read more

บทที่ 15 เสียงของคนที่ถูกลืม

ลู่จิ่นซานเดินออกจากหอพิณโบราณ ก้าวย่างของเขาแผ่วเบาอย่างผู้แบกความเงียบไว้ในอก เสียงหิมะย่ำใต้ฝ่าเท้าคล้ายบรรเลงทำนองเศร้าสะท้อนก้องใจเขาแบกกล่องพิณไว้แนบอก แต่มิได้แตะมันอีกเลย พิณที่เคยสั่นสะท้านด้วยเจตนา บัดนี้เงียบสนิท ดุจดั่งผู้เล่นและผู้ฟังได้กล่าวคำสุดท้ายแก่กันแล้วแต่ทว่าในเงามืดของทางกลับยังมีบางสิ่งเฝ้ามองเขาอยู่ คืนที่ลู่จิ่นซานกับอวี้หลานบรรเลงบทสุดท้าย มิได้มีเพียงหอพิณที่ได้ยินแต่ยังมีดวงจิตอีกมากที่ลืมไปแล้วว่าตนเคยมีเสียง ลืมไปแล้วว่าตนเคยฟังและเคยรักณ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งริมธารน้ำแข็ง หญิงชราในชุดขาดวิ่นนั่งพิงขอนไม้ เงี่ยหูฟังเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน“เสียงนั้น…”“ข้าคุ้นเคยนัก…”นางหลับตา หยาดน้ำตาเกรอะกรังของวัยชราไหลเงียบ ๆมือที่เหี่ยวย่นยื่นคว้าอากาศ“เขาเคยบอกว่าจะกลับมา…”“ข้ารออยู่ตรงนี้มาหลายสิบปี…”เสียงพิณที่ไม่ควรได้ยินอีก กลับแผ่วแทรกในลมหายใจ ปลุกความทรงจำที่ถูกลืม ในหลายมุมของแผ่นดิน คนที่เคยฟังเสียงพิณในคืนหิมะ เริ่มสะดุ้งตื่นจากฝัน บางคนร้องไห้ บางคนหัวเราะบางคนเดินออกจากบ้านที่ตนขังใจตนเองไว้หลายปีและในเมืองหลวง ชายหนุ่มใบหน้าดุดันในชุดนักรบเ
last updateLast Updated : 2025-08-07
Read more

บทที่ 16 พิณที่ต้องแลกด้วยชีวิต

หิมะขาวโปรยปรายตลอดแนวขอบฟ้า ต้นเหมยซึ่งยืนตระหง่านอยู่กลางลานหินนั้น มีเพียงกลีบดอกสีแดงโรยบนพื้นขาวงดงามราวหยดเลือดในความเงียบลู่จิ่นซานยืนอยู่ใต้ต้นเหมย มือข้างหนึ่งวางอยู่บนกล่องพิณเก่า อีกข้างหนึ่งกำแน่นอยู่ข้างลำตัว“ข้ายังไม่เข้าใจ เหตุใดเสียงของเจ้าจึงติดตรึงในใจข้ายิ่งนัก…”เสียงของเขาแผ่วเบา ราวพูดกับอากาศ แต่ในยามนั้น กลีบดอกเหมยกลับร่วงลงมาอีกหนึ่งกลีบ และเงาร่างหนึ่งปรากฏช้า ๆ ท่ามกลางม่านหิมะ“เพราะข้าคือเสียงที่เจ้าทอดทิ้ง”เสียงหวานดังสะท้อนดั่งสายลม ลู่จิ่นซานหันกลับไปช้า ๆ แล้วดวงตาเขาก็เบิกกว้างเล็กน้อย อวี้หลานยืนอยู่ตรงนั้น ในชุดขาวบางพลิ้วตามลม ใบหน้าของนางยังคงงดงามปานน้ำแข็งแกะสลัก หากแววตากลับมั่นคงกว่าทุกครา“ข้าควรตายไปนานแล้ว แต่คำสัญญาจากเจ้ากลับผูกข้ากับโลกนี้ไว้”ลู่จิ่นซานก้าวเข้าไปใกล้ แต่เมื่อเขาจะเอื้อมมือออก อวี้หลานกลับก้าวถอยราวกับเป็นเพียงหมอกควัน“หากเจ้าสัมผัสข้าในเวลานี้ วิญญาณเจ้าจะสั่นคลอน…”“อวี้หลาน…” เขาเอ่ยชื่อ“เจ้าคือใครกันแน่?”อวี้หลานยิ้มเพียงน้อย จากนั้นเสียงของนางก็ราวกับพัดพากลับไปยังอดีตกาล“เมื่อร้อยปีก่อน มีแม่ทัพหนึ่งผู้ถูกล
last updateLast Updated : 2025-08-07
Read more

บทที่ 17 คืนที่พิณสะท้านเมือง

คืนหนึ่งหลังหิมะหยุดตก ทั่วทั้งเมืองชายแดนกลับปกคลุมด้วยบรรยากาศอันผิดแผก ไม่ใช่เพียงเพราะหิมะหยุดเป็นครั้งแรกในรอบร้อยปี แต่เพราะข่าวลือหนึ่ง แพร่กระจายไปทั่วใต้หล้า“เพลงพิณต้องห้ามได้ถูกดีดขึ้นแล้ว…”“เสียงนั้นปลุกวิญญาณ และทำให้หญิงในตำนานสลายหายต่อหน้า”กองทัพหลวงเคลื่อนพล คำสั่งจากวังกลางคือให้จับตัวลู่จิ่นซาน ไม่ใช่เพียงฐานหลบหนีจากราชโองการ แต่ข้อหาล่าสุดคือ บังอาจดีดบทเพลงที่ครั้งหนึ่งเคยสังหารฮ่องเต้องค์ก่อนภายในหมู่บ้านหิมะที่เงียบงัน ชายผู้หนึ่งนั่งอยู่หน้าเรือนเก่าพิณวางอยู่บนตัก แต่เขามิได้ขยับแม้แต่น้อย นัยน์ตาของเขาเหม่อมองท้องฟ้าซึ่งไร้หิมะ และว่างเปล่าราวกับโลกที่ขาดบางสิ่งไปตลอดกาล“เจ้ายังอยู่หรือไม่…” เสียงของเขากระซิบเบาราวสายลม“แม้ข้าจักไม่เห็นเจ้าอีกแล้ว แต่ข้ากลับได้ยินเสียงเจ้าทุกคืน...”บัดนี้ อวี้หลานหาได้อยู่ในโลกนี้อีกต่อไป แต่เสียงของนางเสียงที่เคยกล่อมวิญญาณสงคราม ยังคงดังก้องในห้องหัวใจเขาทุกค่ำคืน แสงไฟจากปลายทหารม้าเริ่มแตะขอบหมู่บ้าน เสียงล้อเกวียน บดเบียดหิมะเสียงกรอบแกรบ เสียงคำสั่งดังผ่านอากาศ“หากพบชายที่ชื่อ ลู่จิ่นซาน ให้จับเป็นโดยไม่ต้องรอ
last updateLast Updated : 2025-08-07
Read more

บทที่ 18 มือที่ควรดีด แต่ไม่กล้า

หลังค่ำคืนอันสะท้านใจในหมู่บ้านหิมะ ลู่จิ่นซานมิได้ถูกจับกุม แต่ก็หาได้เป็นอิสระอย่างแท้จริงไม่ ราชโองการล่าถูกถอน แต่แทนที่ด้วยคำสั่งให้นำพิณต้องห้ามเข้าวัง เพื่อบูรณะและสืบความที่มาแห่งเพลงสะกดวิญญาณ และในยามนั้นเอง ลู่จิ่นซานตัดสินใจเดินทางไปยัง “หอจดหมายเหตุหลวง” สถานที่ซึ่งบันทึกประวัติศาสตร์ลับของแผ่นดิน“ข้ามิได้ต้องการคำยกย่อง ข้าเพียงต้องรู้ว่า เหตุใดเสียงนี้จึงติดตามข้ามาทุกภพชาติ”ภายในหอจดหมายเหตุหลวง บันทึกเก่าแก่บนผ้าไหมม้วนหนึ่ง ถูกนำออกจากกล่องที่ผนึกด้วยตราโลหิตของฮ่องเต้องค์ก่อนในนั้นเขาพบชื่อของ “ขุนพลลู่เหยียนซาน” แม่ทัพผู้จงรักภักดี และนางพิณนามว่า “หลานฮวา” หญิงสาวผู้นำบทเพลงเข้าสู่สนามรบ“หลานฮวา…” ลู่จิ่นซานกระซิบ “ชื่อของเจ้า ข้าไม่เคยลืมเลือนเลยแม้แต่ครั้งเดียว”แต่สิ่งที่เขาค้นพบ ไม่ใช่เพียงความจริงเรื่องตัวตนของอวี้หลาน หากแต่คือเรื่องหนึ่งที่เขาไม่อาจให้อภัยตนเองได้เขาคือผู้แต่งบทเพลงต้องห้ามนั้นเองกับมือ...“ท่วงทำนองทั้งเจ็ด มิใช่ของนาง…แต่คือสิ่งที่ข้าแต่งให้เป็นอาวุธ เพื่อชิงชัย”ย้อนคืนไปเมื่อร้อยปีก่อน ขุนพลลู่เหยียนซานในอดีตใช้เสียงพิณเพื่อสะกดขวั
last updateLast Updated : 2025-08-07
Read more

บทที่ 19 บทเพลงของการให้อภัย

หิมะหยุดตก เสียงพิณเงียบงัน โลกทั้งใบเหมือนหยุดหายใจอยู่เพียงชั่วขณะ ใต้ต้นเหมยในหุบเขาเยือกแข็ง มีเพียงชายผู้หนึ่งนั่งนิ่ง เบื้องหน้าคือพิณเก่าแก่ สายที่เจ็ดยังสั่นสะท้านเพียงแผ่วเบาราวกับสิ้นสุดการเดินทางอันยาวไกลมือของลู่จิ่นซาน วางทาบบนพิณอย่างแผ่วเบา แต่มิได้ขยับอีกเลย นัยน์ตาของเขาแม้ยังเปิดอยู่ แต่ไร้แวว ไร้ถ้อยคำ และไร้เสียง เขาไม่ตาย แต่ก็หาใช่คนที่มีลมหายใจเช่นเดิมอีกแล้วเมื่อรุ่งเช้ามาถึง หิมะมิได้กลับมาร่วงดังเดิม นั่นคือปาฏิหาริย์ที่ไม่มีใครอธิบายได้ ว่าด้วยเหตุใดฤดูเหมันต์อันไม่เคยสิ้นสุดในดินแดนนี้ จึงหยุดลงเพียงชั่วคืนข่าวลือแพร่กระจายไปทั่ว ว่าเสียงพิณต้องห้ามได้ถูกดีดจนครบ ว่าแม่ทัพในตำนานกลับมาเพื่อปลดปล่อยวิญญาณ และว่ายอดพิณที่หลับใหลในร่างของหญิงสาวนามอวี้หลานได้หายลับไปตลอดกาลบางคนร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้า บางคนกล่าวว่าพวกเขาฝันเห็นสตรีผมยาวในชุดขาวยิ้มให้ใต้แสงจันทร์ แล้วลาลับไปพร้อมกลีบเหมยหลายวันผ่านไป ลู่จิ่นซานยังคงมิกล่าววาจาใด ชาวบ้านพากันถวายข้าวปลา วางดอกไม้และเครื่องหอมไว้ที่แท่นพิณ แต่เขามิได้แตะต้องแม้แต่น้อย“เขาไม่พูด ไม่ขยับ ไม่แม้แต่จะหายใจแรง ท
last updateLast Updated : 2025-08-07
Read more

บทที่ 20 น้ำตาที่ไม่แข็งตัวในหิมะ

สายลมแรกของฤดูใบไม้ผลิ แผ่วเบาราวกับเกรงใจความเงียบที่หลงเหลือ หลังหิมะหยุดตก บนภูผาเฟยซานมิได้ขาวโพลนในยามอรุณ ต้นเหมยผลิดอกก่อนเวลา สายพิณเงียบงันไม่ถูกแตะต้องและไม่มีใครได้ยินบทเพลงต้องห้ามอีก แต่ก็ไม่มีใครลืม...ใต้ต้นเหมยต้นเดิมไม่มีลู่จิ่นซานอีกแล้ว ไม่มีหญิงชุดขาว ไม่มีกล่องพิณ มีเพียงเงาของฤดูกาลที่พัดผ่านในเมืองชายแดนเล็ก ๆ มีชายคนหนึ่งเดินช้า ๆ บนถนนที่เริ่มอบอุ่น เส้นผมขาวแซมดำ นัยน์ตานิ่งสงบ ในมือถือไม้เท้าเรียบง่าย และสายตาจับจ้องเพียงเด็กน้อยที่กำลังหัวเราะร่าเริงกับมารดาเขานั่งลงเงียบ ๆ บนขอบลานน้ำพุ แหงนหน้ารับแดดอ่อนฤดูใหม่ไม่มีเสียงพิณ ไม่มีกลีบเหมย มีเพียงหยาดน้ำตาหยดหนึ่งร่วงจากดวงตาข้างซ้าย แต่น้ำตานั้นกลับไม่แข็งตัว“ข้าเคยหลั่งน้ำตาในหิมะนับร้อยหยด แต่มีเพียงหยดนี้ที่อุ่น”เสียงของเขากลับมา แม้จะเบาและไม่ชัดเจนแต่มันคือเสียงจริง มิใช่เสียงในหัวใจ เขาหัวเราะเบา ๆ ให้กับตนเอง และเอ่ยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“เจ้าหลุดพ้นแล้วหลานฮวา... และข้าเองก็เช่นกัน...”ในหมู่บ้านหิมะที่เคยถูกลืมจากแผนที่ ฤดูใหม่ได้มาเยือนอย่างไม่ทันตั้งตัว ชาวบ้านต่างตื่นจากคืนอันยาวนาน ไม
last updateLast Updated : 2025-08-08
Read more
PREV
123
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status