Lahat ng Kabanata ng เสียงพิณในม่านหิมะ: Kabanata 1 - Kabanata 10

26 Kabanata

บทที่ 1 คืนหิมะแรกกับเสียงพิณต้องห้าม

หิมะแรกของปีมาถึงเร็วกว่าทุกครา เร็วจนชาวบ้านในหมู่บ้านอวิ๋นหลิงต่างกล่าวขานว่าเป็นลางร้าย บ้างว่าเพราะปีนี้ดวงดาวเรียงตัวผิดแผก บ้างก็ลือกันว่าเป็นเพราะเสียงพิณต้องห้ามกำลังจะกลับมา ทว่าในสายตาของลู่จิ่นซาน หิมะแรกนั้นกลับงดงามเหลือเกินชายหนุ่มในชุดขนสัตว์สีเทานั่งอยู่บนหลังม้า บนไหล่ของเขามีเกล็ดหิมะโปรยปรายปกคลุมเป็นแผ่นบาง เขาเงยหน้ามองผืนฟ้าที่เต็มไปด้วยละอองขาว ก่อนจะถอนใจเบา ๆ พลางมองไปยังทางลาดสู่ภูเขาหมอกเบื้องหน้า“หิมะเช่นนี้ หากมิใช่เพื่อป่าหยก คงไม่มีผู้ใดยอมเดินทางผ่านเขตนี้”เขาพึมพำกับตนเอง ริมฝีปากแดงเรื่อท่ามกลางความเย็นยะเยือกเสียงลมหวีดหวิวลอดผ่านซอกผาหิน พัดพาเอาเกล็ดหิมะลอยว่อน ราวกับมีเสียงกระซิบแว่วมากับสายลม เสียงที่คล้ายเสียงสายพิณขาดสะบั้น เสียงที่หาได้จากที่ใดมิได้ นอกจากภูเขาหมอกในคืนหิมะแรกเช่นนี้“เจ้าก็ได้ยินใช่หรือไม่?” จิ่นซานถามม้าคู่ใจอย่างเอื่อยเฉื่อย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคล้ายจะเหม่อลอย แต่วาววับไปด้วยบางอย่างที่คล้ายความหวาดกลัวม้าเงียบ แต่โลกกลับมิใช่เงียบเช่นนั้นเสียงหนึ่ง เบาเสียจนแทบไม่ได้ยิน แว่วมาแตะหูเขาเสียงพิณ...จิ่นซานชะงัก หัวใจเต้นแ
last updateHuling Na-update : 2025-07-21
Magbasa pa

บทที่ 2 หญิงผู้นั้นคือใคร?

แสงจันทร์ทอดทอลงมาผ่านม่านหมอกบาง ทาบเงายาวของต้นไม้ลงบนทางลาดเขา ลู่จิ่นซานควบม้าลงจากภูเขาช้า ๆ พลางหันมองกลับไปยังยอดเขาอีกครั้งเสียงพิณเงียบไปแล้วจริง ๆ แต่หัวใจเขายังคงกังวานด้วยเสียงนั้นไม่จางคืนนั้น เขากลับถึงโรงเตี๊ยมในหมู่บ้านอวิ๋นหลิงช้ากว่าทุกครั้ง สภาพของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยหิมะ เสื้อคลุมชุ่มน้ำเย็นจนแทรกถึงกระดูก“อ้าวคุณชายลู่! ข้านึกว่าท่านหลงป่าหิมะไปแล้วเสียอีก!”เจ้าของโรงเตี๊ยมชราร้องทัก ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นเขาแบกพิณดำลงมาจากหลังม้า“ไปที่ภูเขาหมอกมาหรือ? นั่นมัน หุบเขาต้องห้ามเลยนะขอรับ!”ลู่จิ่นซานพยักหน้าน้อย ๆ ไม่กล่าวสิ่งใด พลางเดินเข้าไปยังห้องพักชั้นบนสุด เมื่อถึงห้อง เขาวางพิณลงบนโต๊ะตัวเล็กข้างหน้าต่าง ก่อนจะหย่อนกายลงกับเบาะผ้าทออย่างหมดแรง มือเรียวยาวของเขาเลื่อนปลายนิ้วแตะลงบนสายพิณหนึ่ง อย่างเบาที่สุดพลิ้ว~เสียงสายสะท้อนออกมาเบาราวเสียงหายใจ แต่กลับกระเพื่อมในอากาศเหมือนละอองหิมะที่ถูกปล่อยจากท้องฟ้าท่วงทำนองเพียงหนึ่งสาย ทำให้ภาพที่เขาเห็นบนภูเขากลับมาแจ่มชัดในหัวอีกครั้งหญิงสาวผู้นั้น...นางคือใครกันแน่?เหตุใดจึงมีพิณอันลี้ลับเช่นนี้อยู่กับนา
last updateHuling Na-update : 2025-07-29
Magbasa pa

บทที่ 3 นักพิณที่ไร้เงา

เสียงพิณนั้นยังคงก้องอยู่ในหัว แม้ว่าแสงแดดอ่อนจะส่องลอดม่านหิมะลงมาแทนเงาจันทร์เมื่อคืน แต่ลู่จิ่นซานกลับไม่อาจแยกแยะได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความฝันหรือความจริงเขาถือบันทึกเก่าเล่มหนึ่งกลับมาที่ห้องของตนในโรงเตี๊ยม หนังสือที่ไม่มีชื่อในสารบบตำราใด หนังสือที่เจ้าของร้านยังกล่าวว่า “ไม่ควรมีผู้ใดเอ่ยถึงอีกต่อไป”บทเพลงต้องห้ามแห่งหิมะนั่นคือชื่อบนหน้าปก ซึ่งหมึกซีดจางลงราวถูกสายลมแห่งกาลเวลาเกาะกัดทีละหยดทีละหยด หากแต่ว่าเพียงแค่แตะปลายนิ้วลงบนปก เสียงพิณในหัวเขาก็กลับมากระเพื่อมทันทีเขานั่งลงข้างหน้าต่าง ห่มผ้าคลุมตัวแน่นหนา ก่อนจะเปิดอ่านหน้าตำราอย่างระมัดระวัง หน้ากระดาษแผ่นแรกปรากฏลายมือหวัดเล็ก ตัวอักษรเขียนด้วยหมึกแดงหม่น ราวกับผสมเลือดเข้าไป“ผู้ใดได้ยินเพลงนี้ในยามหิมะแรก จงรู้ไว้เถิด ว่าดวงวิญญาณเจ้าเคยข้องแวะกับมันในภพก่อน”“พิณนี้ มีเจ็ดสาย เจ็ดเสียง เจ็ดชะตา หากใครบรรเลงครบถ้วน หนึ่งชีวิตจะดับ หนึ่งคำสาปจะคลาย”จิ่นซานขมวดคิ้ว “หนึ่งชีวิตจะดับ...” เขาทวนในใจเขาไล่สายตาอ่านต่อ ภายในเป็นเรื่องเล่ารวบรวมจากยุคโบราณ บ้างอ้างว่าเป็นบันทึกจากแม่ทัพคนหนึ่ง บ้างกล่าวว่าเป็
last updateHuling Na-update : 2025-08-03
Magbasa pa

บทที่ 4 ความจริงของเสียงพิณในอดีต

สะพานกลางหิมะ เป็นสะพานไม้เก่าคร่ำที่ทอดข้ามลำธารแข็งตัวแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างหมู่บ้านอวิ๋นหลิงกับแนวป่าทางเหนือ ว่ากันว่าในอดีตสะพานนี้เคยเป็นทางผ่านของขบวนเกวียนหลวง แต่ภายหลังเมื่อเส้นทางเปลี่ยน เส้นสะพานก็ถูกทอดทิ้งให้หิมะถมทับจนเหลือเพียงไม้ผุ ๆ กับราวจับที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งใสวาว แต่ยามนี้มันกลับดูเหมือนสถานที่ต้องมนตร์ลู่จิ่นซานยืนอยู่ปลายสะพานอีกฝั่งหนึ่ง หิมะยังคงร่วงเบา ๆ สลับกับเสียงน้ำแข็งแตกร้าวเบา ๆ ใต้ฝ่าเท้าเขารอ...และนางก็มาตามสัญญา...อวี้หลานในชุดขาวยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เงียบงัน ไม่พูด ไม่ขยับ ไม่มีพิณในมือ แต่กลับคล้ายมีกลิ่นของเสียงพิณลอยคลุ้งรอบร่างนางวันนี้ นางไม่ได้ปิดหน้าอีก หากแต่หน้าของนางก็ยังเลือนรางเช่นเดิม ราวกับสวรรค์ยังไม่อนุญาตให้เขาจำลู่จิ่นซานเป็นฝ่ายก้าวขึ้นสะพานก่อน ฝีเท้าแต่ละก้าวช้าและมั่นคง หิมะดังกรอบแกรบใต้รองเท้าหนัง“ข้ามาแล้ว” เขาเอ่ย“ข้ารู้” นางตอบเรียบ ๆ “เจ้าคือผู้เดียวที่มาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นภพใด”“ข้าหมายถึงครั้งนี้” จิ่นซานเอ่ยเบา “ในภพนี้ ข้าก็มา”นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถาม “เหตุใดจึงดื้อดึง?”“เพราะข้าไม
last updateHuling Na-update : 2025-08-07
Magbasa pa

บทที่ 5 ตำนานเพลงพิณหิมะต้องสาป

รุ่งสางของวันที่สาม หิมะยังไม่หยุดตก และดูจะไม่มีวี่แววว่าจะหยุดในเร็ววันท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านอวิ๋นหลิงปกคลุมด้วยม่านหมอกสีขาวอมเทา ราวกับสวรรค์เบื้องบนกำลังปิดฉากเวทีให้เสียงหนึ่งได้ดังก้องขึ้น เสียงที่ไม่ใช่จากธรรมชาติ หากเป็นเสียงแห่งความทรงจำลู่จิ่นซานนั่งนิ่งอยู่ข้างหน้าต่าง กล่องพิณไม้ดำยังวางอยู่ตรงหน้า สายพิณเส้นแรก ปรากฏขึ้นแล้ว ไม่มีใครแตะ ไม่มีใครเปิดกล่องนั้น แต่มันกลับผุดขึ้นมาอย่างเงียบงัน คล้ายถูก “เรียกคืน” ด้วยเสียงบางอย่างในใจ“สายหนึ่ง…ลืม”เขาได้ยินคำนี้อีกครั้ง แม้ไม่มีเสียงใดพูด จิ่นซานยื่นมือออกไป ปลายนิ้วเกือบจะแตะสายพิณเส้นนั้น แต่แล้วกลับชะงักกะทันหัน กล่องพิณนี้มีบางอย่างอยู่ในนั้นที่ไม่ใช่เพียงเครื่องดนตรีเขาลุกขึ้น หยิบกล่องนั้นเข้าห่อผ้าอย่างแน่นหนา แล้วเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งตรงไปยังสถานที่เดียวที่พอจะให้คำตอบแก่เขาได้ที่นั่นก็คือหอจารึกหมอกจันทร์...หอจารึกหมอกจันทร์ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน เป็นเรือนไม้สามชั้นหลังใหญ่ที่ถูกสร้างตั้งแต่สมัยราชวงศ์ก่อน ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใครคือผู้ก่อตั้งบ้างว่าเป็นนักพรตผู้เร้นลับ บ้างว่าเป็นบัณฑิตสำนักหลวงที่ลี้ภัยมาอยู
last updateHuling Na-update : 2025-08-07
Magbasa pa

บทที่ 6 ตำนานเสียงพิณก่อนคืนหิมะคลั่ง

หลังออกจากหอจารึก ลู่จิ่นซานไม่ได้กลับโรงเตี๊ยมในทันที หากแต่เดินทอดเท้าไปตามตรอกหิมะของหมู่บ้านอวิ๋นหลิง เงียบงันราวเมืองที่ถูกฝังอยู่ใต้ม่านขาวเขาเดินอย่างไร้จุดหมาย แต่หัวใจกลับมีเป้าหมายชัดเจนยิ่งนัก เขาต้องรู้ให้ได้ว่าตำนานพิณต้องห้ามนั้นเกี่ยวพันกับเขาและอวี้หลานอย่างไรในภพก่อน และบทเพลงนั้นมีจุดจบเช่นใดเมื่อเดินผ่านศาลเจ้าร้างเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเล็ก ๆ ข้างหมู่บ้าน จู่ ๆ หูเขาก็แว่วเสียงบางอย่าง เสียงรัวสายพิณเพียงวูบเดียวแล้วเงียบลงเขาหยุดชะงัก หันมองรอบกาย ไม่มีผู้ใด ไม่มีรอยเท้า มีเพียงร่องรอยหิมะบาง ๆ ที่ไถลคล้ายกับมีเงาบางอย่างเคลื่อนไหวผ่านไปก่อนหน้าเขาไม่นานเสียงนั้นมาจากในศาลเจ้า...ลู่จิ่นซานก้าวขึ้นบันไดไม้ผุอย่างระแวดระวัง เมื่อดันประตูไม้คร่ำคร่าเข้าไป กลิ่นอับของธูปเก่าและฝุ่นโบราณก็ลอยเข้าจมูกภายในศาลเจ้ามีรูปสลักเทพสวมหมวกพิณโบราณ มือข้างหนึ่งยกดีดสายพิณ มืออีกข้างแตะที่หน้าอกตนเอง บรรยากาศเย็นเยียบราวกับกาลเวลาไม่อาจเคลื่อนไหวภายในที่แห่งนี้ เขาเดินเข้าไปช้า ๆ แล้วก็เห็นสิ่งหนึ่งวางอยู่บนแท่นบูชามันเป็นแผ่นไม้ไผ่หนึ่งชิ้น...ลู่จิ่นซานหยิบมันขึ้นมาอย่า
last updateHuling Na-update : 2025-08-07
Magbasa pa

บทที่ 7 ลมหายใจของสายพิณ

หิมะยังไม่หยุดตกในคืนที่สาม ชาวบ้านในหมู่บ้านอวิ๋นหลิงเริ่มมีสีหน้าหวาดระแวง ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีการจุดไฟเล่นในลานกลางหมู่บ้านเช่นทุกปีเมื่อหิมะแรกมาเยือน มีแต่แววตาเหลียวมองฟ้าอย่างหวาดกลัว ราวกำลังรอคอยบางสิ่งที่มองไม่เห็น หากใกล้เข้ามาภายในห้องพักของโรงเตี๊ยมชั้นบนสุด ลู่จิ่นซานจ้องมองกล่องพิณเบื้องหน้า สามสายปรากฏแล้วลืม...จำ...โทษ...และคืนนี้ เขารู้สึกได้ว่าสายที่สี่กำลังจะตื่นขึ้น!เขาไม่รู้ว่าการดีดแต่ละสายเกิดขึ้นเพราะฝัน หรือเพราะหัวใจเขาเริ่มยอมรับว่าอดีตคือเรื่องจริง แต่สิ่งที่รู้แน่ คือยิ่งเขาจำได้มากขึ้น เสียงของนางก็ชัดเจนมากขึ้นในหัว“อวี้หลาน…” เขาพึมพำ “เจ้ารอข้าอยู่ที่ใดกันแน่”ก่อนรุ่งสาง ลู่จิ่นซานกลับไปยังศาลเจ้าร้างอีกครั้ง เขาเชื่อว่าเสียงลมหายใจของพิณ คือเสียงของวิญญาณที่ยังไม่จากไป เมื่อเขาก้าวเข้าไปในศาลครานี้ กลับไม่พบแค่ความเงียบตรงกลางห้อง มีหญิงสาวในชุดขาวนั่งหันหลังให้ ร่างนางนิ่งงัน แต่กลิ่นของดอกเหมยและเสียงสายพิณที่ไม่ถูกรบกวนยังคงลอยล่องอยู่รอบกาย“เจ้ามารอข้าใช่หรือไม่” เขาถามหญิงสาวไม่ตอบ ลู่จิ่นซานย่อตัวลงเบื้องหลังเงานั้น ห่างเพียงไม่ถึ
last updateHuling Na-update : 2025-08-07
Magbasa pa

บทที่ 8 หญิงผู้มีเสียงแทนดาบ

ยามรุ่งสางของวันที่สี่ หิมะไม่หยุดตก ทว่าในความหนาวเยือกนั้นกลับมีเสียงฆ้องดังก้องไปทั่วหมู่บ้านอวิ๋นหลิง“ราชโองการจากวังหลวง! ผู้ใดครอบครองพิณต้องห้าม จงมอบตนออกมา!”“มิฉะนั้นจะถือว่าคิดกบฏ!”ลู่จิ่นซานยืนอยู่ที่หน้าต่างห้องพักชั้นบนสุดของโรงเตี๊ยม ม่านหิมะเบื้องหน้าไม่ได้บดบังแววตาที่เงียบงันของเขาเลยแม้แต่น้อยเบื้องล่าง ทหารหลวงกว่าสิบคนกำลังตรวจค้นบ้านเรือนทีละหลัง พวกเขาสวมเกราะเงินดำปักตราดอกเหมยแดงบนบ่าตราของ “หน่วยหลิงอิ๋น” หน่วยลับที่ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ ไม่มีใครกล้าขัดขืน ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธ เขากำกล่องพิณแน่น ร่างไม่ไหวติงคืนนี้ สายพิณเส้นที่หกเริ่มสั่นขึ้นโดยที่เขายังมิได้สัมผัส“สายหก…รัก”ก่อนรุ่งสาง ฟ้ายังคล้ำ ลมหนาวตัดผ่านช่องหน้าต่างอย่างไร้ปรานี แต่ในอกเขากลับอบอุ่นร้อนผ่าว ราวเปลวเพลิงแห่งอดีตที่ยังคงลุกไหม้ไม่จาง เขารู้ว่าราชโองการครั้งนี้มิได้มีเป้าหมายแค่ “พิณ” หากแต่เป็น “ผู้ดีด” ต่างหาก ประตูห้องพักถูกเคาะแรงสามครั้ง“ลู่จิ่นซาน ท่านอยู่หรือไม่? ข้าคือหัวหน้าหน่วยหลิงอิ๋น ได้รับบัญชาให้นำท่านเข้าสู่เมืองหลวง!”เสียงนั้นเข้มแข็งแต่ไร้ความโกรธ มีเพียงน้ำเส
last updateHuling Na-update : 2025-08-07
Magbasa pa

บทที่ 9 สะพานกลางหิมะกับบทเพลงที่ขาดหาย

หิมะเริ่มตกหนาในยามสาย ลู่จิ่นซานกับอวี้หลานออกเดินทางจากวังหลวงอย่างเงียบงัน โดยใช้ชื่อของตำหนักไป๋อวี้กงเป็นเหตุผลว่ากำลังบำเพ็ญสมาธิภายนอก เป็นสิทธิ์ที่นักดนตรีหลวงได้รับเมื่อเกิดแรงบันดาลใจหรือค้นหาท่วงทำนองใหม่ขบวนมีเพียงม้าสองตัว ไม่มีผู้ติดตาม เขตต้องห้ามที่ทั้งสองจะไปนั้นไม่ปรากฏบนแผนที่ของทางการ แต่มีในความทรงจำของอวี้หลาน ราวกับเป็นภาพสลักลึกที่ไม่มีวันจาง“ชื่อสะพานนั้นคืออะไรหรือ?” ลู่จิ่นซานถามขึ้น ขณะม้าเหยาะฝ่าแนวป่าสน“สะพานไป๋เสวี่ย” นางตอบเสียงเบา “สะพานหิมะขาว”“ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้จากบันทึกใด”“ไม่มีใครบันทึกไว้” อวี้หลานทอดสายตาไปยังหิมะร่วง “เพราะมันเป็นสะพานที่ไม่ควรมีอยู่”ยามบ่ายหิมะโปรยปกคลุมทุกทาง และในที่สุด ทั้งสองก็เดินทางมาถึงเชิงเขาเตี้ย ๆ ซึ่งมองแทบไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่เมื่อแหวกม่านเมฆออก ก็ปรากฏสะพานไม้เก่าที่ทอดยาวข้ามหุบเหวลึกสะพานนั้นไร้ราว ไม่มีเครื่องป้องกันใดเพียงแผ่นไม้บาง ๆ ถูกวางเรียง ราวกับเชื้อเชิญให้ผู้กล้าข้ามผ่าน หรือผู้หมดหวังปล่อยตนให้ตกลงปลายสะพานอีกฝั่งหนึ่งคือโขดหินสูงที่มีต้นเหมยต้นเดียวขึ้นโดดเดี่ยว ใต้ต้นเหมยนั้น มีแท่นหินส
last updateHuling Na-update : 2025-08-07
Magbasa pa

บทที่ 10 กุญแจแห่งท่วงทำนอง

หิมะหยุดตกในรอบร้อยปี ท้องฟ้ายามเช้าสีฟ้าอ่อนจาง ๆ เจือแสงทอง ต้นเหมยต้นเดียวที่ปลายสะพานไป๋เสวี่ย กำลังผลิดอกทีละกลีบอวี้หลานนั่งสงบนิ่งใต้ต้นไม้นั้น สวมชุดขาวผืนเดิม มีรอยชื้นที่ปลายแขนเสื้อซึ่งปัดกลีบเหมยเมื่อคืนก่อนลู่จิ่นซานยืนอยู่ใกล้ ๆ มือยังคงแตะอยู่บนพิณเจ็ดสายที่เพิ่งสมบูรณ์ แววตาเขาเปลี่ยนไป เงาสงครามในอดีตคล้ายถูกลบเลือนทีละนิด แต่แล้ว เสียงหนึ่งในใจเขาดังขึ้นอีกครั้ง“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าท่อนสุดท้ายที่เจ้าเล่นเมื่อคืนนี้เคยเป็นอาวุธที่ลอบสังหารฮ่องเต้”เขาขมวดคิ้ว เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของอวี้หลาน แต่เป็นเสียงในความทรงจำ เสียงของชายชราในอดีตที่เคยเป็นอาจารย์ผู้สอนเขาเรียบเรียงเพลงครั้งแรกในวัยเยาว์“อวี้หลาน” เขาเอ่ยเรียก ขณะที่หญิงสาวยังหลับตานิ่ง“เจ้ารู้หรือไม่ว่า เพลงนี้ เคยถูกใช้เพื่อสังหารฮ่องเต้?”อวี้หลานลืมตาขึ้นช้า ๆ สายตานางสงบนิ่ง แต่มีบางอย่างในแววตาฉายประกายลึก“ข้ารู้” นางตอบเบา “แต่ข้าไม่เคยพูด เพราะข้าไม่แน่ใจว่าเจ้ายังจำได้มากเพียงใด”ลู่จิ่นซานนั่งลงตรงข้าม“ข้าจำได้เพียงว่า ข้าแต่งท่อนสุดท้ายขึ้นหลังสงครามจบ”“แต่ไม่รู้ว่าไยถึงกลายเป็นเพลงต้องห้ามของราชส
last updateHuling Na-update : 2025-08-07
Magbasa pa
PREV
123
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status