บททั้งหมดของ [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด: บทที่ 51 - บทที่ 60

งานเลี้ยงแถลงข่าวของบริษัท จะจัดขึ้นในโรงแรมหรูอันดับหนึ่งของประเทศ นี่คือแผ่นของหญิงสาว นอกจากจะแสดงความมั่นคงทางการเงินให้เห็น แต่ยังสามารถดึงบริษัทอื่นให้หันมาร่วมมือด้วย“ฉันว่าแบบนี้น่าจะดีกว่านะ"“ทำตามที่เธอบอก เดี๋ยวตอนเย็นจะไปร่วมงานด้วย”“ไม่ต้องแก้ไขอะไรอีก...ใช่ไหม"“ไม่" เพราะยังไงพวกนั้นก็ไม่ปล่อยให้ราบรื่นอยู่ดี อีกอย่างนะ เขาไม่สนใจการเมืองของวงการธุรกิจหรอก เพราะสุดท้าย ก็ไม่มีใครขวางได้ หญิงสาวงุนงงกับตัวเอง ตอนแรกคิดว่าเขาจะจุกจิกจู้จี้ทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้เขาเห็นด้วยแบบง่าย ๆ เธอจึงแปลกใจ ก่อนจะยิ้มเขิน แล้วหยิบขนมเค้กที่เธออบเสร็จให้เขากินคู่กับกาแฟ“ลองดูสิ..."เอสมองเธอด้วยความแปลกใจ ทำไมวันนี้ถึงทำดีด้วย ปกติหน้าเขายังไม่อยากเจอด้วยซ้ำ หรือเป็นเพราะอยากเอาใจ และให้ฉันทำตามที่เธอขอหรือเปล่า แผนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เขายกยิ้มก่อนจะกัดคำแรกถึงกับตาเบิกกว้าง“อร่อยมากขนาดนั้นเลยเหรอ..." เธอยืนยิ้มข้างโต๊ะด้วยใบหน้าดีใจ“อืม...หวานมาก...ใส่น้ำตาลกี่ถุงเหรอ"“ก็ฉันชอบกินหวาน...เฮอะ ไม่ชอบก็ช่าง"หญิงสาวรีบหยิบเค้กส่วนที่เหลือ เดินออกไปจากครัว หลังจากถูกตำหนิ ทั้งที

ค่ำคืนของงานแถลงข่าวครั้งนี้ มีหลายสายตาจับจ้องมอง ทุกวงการต่างสนใจมาร่วมงาน มีนักข่าวชื่อดังค่อยกดบันทึกภาพ และวิดีโอตลอดเวลาราวกับเป็นงานนัดหมายของนักธุรกิจระดับประเทศ คงไม่แตกต่าง เพราะบริษัทชั้นนำทั้งสิบ ให้ความสนใจเข้าร่วม แม้จะไม่ให้หัวเรือใหญ่ลงสนาม ก็ยังส่งตัวแทนมาร่วมงานโรงแรมหรูที่ได้รับการประเมินดีที่สุดประจำปี ได้รับรางวัลติดต่อกัน กลายเป็นจุดศูนย์กลางของงานนี้ โดยเฉพาะสายตาของผู้ประท้วง และ พนักงานทั่วไป ที่มองมาด้วยคำถามมากมายเมื่อถึงเวลางานเริ่ม ตัวแทนผู้ประท้วงได้รับเชิญเข้ามาร่วมงาน ตามมาด้วยกลุ่มบริษัทใหญ่ ๆ ที่ทยอยเดินเข้างาน ส่วนมากจะเป็นผู้สืบทอด หรือทายาทเจ้าของบริษัทนั้น ๆ"คนมาเยอะกว่าที่คิดเอาไวนะ มีอะไรแปลกไปหรือเปล่า" แคท ถามขึ้นข้าง ๆ พนิดาเธอเห็นพวกเจ้าของบริษัทคู่ค้า และ บริษัทที่วางแผนจะร่วมมือด้วยเดินเข้างานมาด้วย แต่ส่วนมากจะให้ความเคารพ กรรมการบริหารหนุ่มไฟแรงอย่าง ภัทร"มาเพราะเจ้านายมายังไง พวกนี้เห็นเราเป็นเรือกำลังจะล่ม จึงไม่คิดจะเสี่ยง"เธอกังวลไม่น้อย ไม่รู้ว่าเอสจะทำอะไรได้บ้าง แค่อยากรู้ว่าจะแก้ปัญหาได้หรือยัง เธอเอาแต่คาดหวังจากเขา ทั้งท

ชายหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อยเดินมานั่งร่วมโต๊ะกับคนอื่น เพียงเขามาถึงทุกสีหน้าที่หยิ่งทระนงก่อนหน้า ตอนนี้เปลี่ยนเป็นประจบสอพลอ ราวกับเขาคือผู้มีอำนาจที่สุดเจ้าของบริษัทโทรคมนาคม ที่นั่งใกล้สุดพูดพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม แม้จะอายุเยอะกว่าสามสิบกว่าปี แต่น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความเคารพมากกว่า"คุณอเล็กซ์นี่เอง ชื่อเสียงของคุณช่วงนี้ดังใหญ่เลยนะครับ ได้ยินว่าทำกำไรจากหุ้นหลายหมื่นล้าน จนผมอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความสามารถของคุณ"เจ้าพ่อแห่งธุรกิจพลังงานไม่น้อยหน้า เขารู้ข้อมูลของอเล็กซ์พอสมควร"ล่าสุดได้ยินว่าทำกำไรจากหุ้น FP เยอะเลยใช่ไหมครับ คุณตัดสินใจดีมากที่เข้าซื้อ จากความเห็นของผม คนที่มีความสามารถระดับนี้หาได้ยากจริง ๆ"อเล็กซ์ได้รับคำชมจนยิ้มเขิน ถ้าเป็นความสามารถเขาก็ว่าไปอย่าง"แค่ความบังเอิญเท่านั้น ผมไม่เก่งเท่าไหร่หรอก"เจ้าของบริษัทต่างหาเรื่องจะประจบ เพราะที่ผ่านมาก็ได้กู้ยืมเงินทุนจากธนาคาร BKAS ของอเล็กซ์ โดยเฉพาะในยามวิกฤต ที่ไม่สามารถหาเงินสดจำนวนมากได้ในคราวเดียว แม้แต่ FP ก็ไม่เว้นพวกเขาจึงให้ความเคารพธนาคารของอเล็กซ์มาก เพราะถ้าผิดใจกันขึ้นมา อนาคตบริษัทคงไม่มั่นคงทางการเงิน

"คุณอเล็กซ์ครับ ผมขอยืมเงินคุณได้ไหม พอดีอยากเอาไปพนันเล่นนิดหน่อย" เอสหันไปพูดกับอเล็กซ์อเล็กซ์อดขำในใจ คนที่มีเงินเยอะกว่าเขาเนี่ยนะ จะมาขอยืมเงิน แต่ถึงยังไงก็ต้องเล่นไปตามน้ำ เรื่องสนุกต่อจากนี้ต่างหาก"ได้สิ ผมจะรับประกันเอง อยากรู้ว่าเขาจะจัดการยังไง ถ้าความจริงถูกเปิดเผย""ขอบคุณ...ได้ยินแล้วใช่ไหม"ทั้งสามคนยิ้มเยาะก่อนจะกันมาหาอเล็กซ์ พวกเขาไม่คิดว่าเอาจะถูกช่วยไว้ เพราะภัทรอยากให้เอาเดิมพันชีวิต เขาจะได้ทรมานให้สาสมที่กล้ามาขวางทาง"เอ่อ...ผมว่าไม่ต้องถึงมือคุณอเล็กซ์ก็ได้ครับ เอาอย่างนี้เดิมพันชีวิตของนาย" มังกรหันไปพูดกับเอสในตอนท้าย"ใช่แล้ว ถึงแพ้เขาก็ไม่มีปัญญาจ่าย ให้เขาใช้ชีวิตตัวเองแทนดีกว่า""ได้...ใครกลัว"ทุกอย่างเข้าแผนของพวกเขา ตอนนี้มีอเล็กซ์เป็นพยาน ไม่ว่ายังไงพวกเขาคงคิดว่าชนะร้อยเปอร์เซ็นต์เอสนั่งเผชิญหน้ากับทั้งสามคน โดยมีคนอื่น ๆ ที่มีหน้ามีตาในวงการธุรกิจ นั่งเป็นพยานด้วย อย่างเช่น อเล็กซ์ กับประธานใหญ่บริษัทอื่นจากการสังเกตพวกเขา มานานเอาจึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ทั้งหมดเป็นเพราะนิสัย และ สันดานเดิมคล้ายกัน ไม่ว่าใครก็เลวพอกัน ต

"เรื่องนี้พิสูจน์ง่ายมาก ใช่ไหม" เอสหันไปพูดกับอเล็กซ์"หมายความว่าไง ก็เห็นชัดว่าแกทำธุรกิจสีเทา หรือไม่ก็แกล้งรวยยังไง" มังกรอดไม่ได้รีบตอบเอสยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบบัตรธนาคารสีดำด้านขึ้นมา เขาวางไว้บนโต๊ะ และดึงดูดความสนใจไม่น้อย พวกเขาอยู่ในวงการธุรกิจมานาน ย่อมรู้ดีว่าบัตรธนาคารที่ใช้ หมายถึงอำนาจทางการเงินของคนนั้น"เอาบัตรธนาคารกระจอกมาทำไม หรือจะบอกว่าแกรวยเพราะมีมันเหรอ" มังกรพูดเสียงดังในขณะที่คนอื่นเงียบกริบ แม้แต่ภัทรกับวิโรจน์ยังไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไร"หุบปากก่อนไอ้ลูกเวร นั่งลง" อนันต์ตวาดด่าลูกชายที่โง่จนมองไม่ออกประธานใหญ่คนอื่น ๆ ต่างจับจ้องที่บัตรธนาคารของเอส แค่เห็นชื่อของธนาคารพวกเขาก็เหงื่อตก รู้โล่งที่ไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้แต่พอมองดูวิโรจน์ที่ปากดีตั้งแต่ต้น ดูถูกเขาทุกอย่าง ก็ทำให้พวกนั้นยิ้มเยาะ คราวนี้บริษัท F&M คงได้เปลี่ยนมือแล้วละ"คุณอเล็กซ์...เกิดอะไรขึ้นทำไมถึง..." ภัทรพูดติดขัด รู้สึกงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น"อ่อ...เขาเป็นลูกค้าวีวีไอพีของเรานะครับ คงสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขารวยจริง"ทุกคนอ้าปากค้างกับคำว่าวีวีไอพี ลูกค้าที่มีเงินในบัญชีแสนล้านขึ้นไปวิโรจ