LOGINเขากลายเป็นคนเก็บตัว และ หมดไฟในชีวิตหลังจากถูกสาวเท แถมยังตกงาน แต่วันหนึ่งระบบก็ปรากฏขึ้น พร้อมเงื่อนไขสุดท้าทาย
View Moreเสียงกดคีย์บอร์ดดังไม่หยุด ชายหนุ่มหนวดเครายาวเฟื้อยดวงตาแดงก่ำ จ้องมองหน้าจอคอมจนตาคาง คืนนี้เป็นคืนที่สองแล้วที่เขาเล่นเกม เพื่อหาเงินในเกมมาขายให้คนที่ไม่มีเวลาเล่น
“เฮอ...บ้าจริงทั้งวันทั้งคืนยังได้ไม่ถึงครึ่งขอค่าแรงขั้นต่ำด้วยซ้ำ สงสัยคงต้องนอนพักก่อน” ร่างผอมแห้งของชายร่างสูงโปร่ง เดินลากสังขารไปที่เตียง เขากำลังจะเอนกายลงนอน ทว่าเสียงท้องเจ้ากรรมดันร้องเสียงดัง เห็นทีคงต้องหาอะไรกินสักหน่อย พอเดินออกจากห้องพักราคาย่อมเยา ที่เขาพอจะมีปัญญาจ่ายไหว ก็ได้ยินเสียงป้าข้างห้องสองสามคนกำลังพูดถึงเขาในระยะเผาขน แต่เขาไม่ได้สนใจอะไร คนพวกนี้นั่งคุยกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ พูดเรื่องของทุกคนในตึก ไม่ต่างอะไรกับหน่วยข่าวกรองดีของที่นี่ คำดูถูกสาดเข้าใส่เมื่อเขาเดินผ่านไป ยิ่งท่าทางตอนนี้ ทำให้ป้าสามคนคิดไปทางลบอย่างเดียว “ดูสิโตจนป่านนี้แล้วยังขี้เกียจสันหลังยาว งานการไม่มีทำ เล่นเกมทั้งวันทั้งคืน และขอเงินพ่อแม่ใช้ ไม่เหมือนลูกชายฉัน ตอนนี้มีงานดีรายได้มั่นคง เทียบกันไม่ได้เลย" ป้าสายพูดเสียงดัง พร้อมกับเบะปากมองด้วยหางตา ส่วนตรงหน้าคือป้าแจ่ม นั่งฟังด้วยความคันปากอยากจะอวดลูกชายตัวเองบ้าง “วัยรุ่นสมัยนี้ก็แบบนี่แหละ ไม่ทำงานขอเงินพ่อกับแม่ใช้ไปวัน ๆ ไม่เหมือนลูกสาวฉัน ตอนนี้ได้งานบริษัทใหญ่ทำอนาคตงามแน่นอน” “ลูกของเธอสองคนก็ดีจริง ๆ ส่วนลูกชายของฉันก็ไม่ได้ดีอะไร ทำงานเงินเดือนสามสี่หมื่นเอง แต่ว่าก็ว่าเถอะไอ้เด็กที่เดินผ่านเมื่อกี้ ได้ยินว่าติดยาด้วย ระวังตัวด้วยล่ะ" ป้าทับทิมพูดเสียงกระซิบ หาเรื่องมาใส่สีตีไข่ได้อีก ทั้งหมดที่พวกเขาพูดถึงก็คือ เอส สภาพตอนนี้ทำให้ หลายคนต่างคิดไปต่าง ๆ นานา เพราะร่างกายที่ผอมซีดราวกับศพเดินได้ เสื้อผ้าดำสนิท สวมหมวกมิดชิด แม้แต่เจ้าของร้านประจำยังแอบกลัวเขา แต่เอสไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ใครจะมองแบบไหนก็ช่าง จะว่าเขาขี้แพ้ก็เชิญ แค่เอาชีวิตรอดในยุคนี้ก็วิเศษแล้ว ทว่าสองเท้าเจ้ากรรมดันไม่ขยับ ราวกับถูกตรึงด้วยโซ่ตรวน หัวใจหินพลันเต้นตุบ ๆ เมื่อตรงหน้าคือหญิงสาวที่คุ้นเคย เธอมีใบหน้าสวยหวาน หุ่นเพรียวบางสวมชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืดแขนสั้นปล่อยผมยาวสลวย ‘เธอยังสวยไม่เคยเปลี่ยน’ “อ้าว...เอสเหรอ นึกว่าใครซะอีกทำไมเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้เลย" เธอทักด้วยเสียงดัง พอเห็นเอสมาแต่ไกลก็จำได้ ก่อนจะคว้าแขนของชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ ใส่ทองทั้งตัวมาข้าง ๆ “นี่พี่เอ็มแฟนเราเอง ส่วนนี้เอสแฟนเก่าหนูเองค่ะ" สีหน้าแสนดีใจปิดไม่มิดของเธอ ทำให้เอสได้แต่ยิ้มแห้ง เหมือนกับว่าตัวเองเป็นพระเอกในละครคุณธรรม แต่ติดตรงที่เขาไม่ได้ซ่อนความร่ำรวยเหมือนในละคร ก็เลยต้องเก็บความรู้สึกต่ำต้อยเอาไว้ เธอคือ วิภาดา ทั้งสองคบกันมาตั้งแต่มัธยมต้น จนจบมหาวิทยาลัย แต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับผู้ชายที่โปรไฟล์ดี คบกัน เกือบสิบปีไม่มีค่าอะไรจริง ๆ “แฟนเก่าหนูเหรอ ทำไมสภาพแย่ขนาดนี้ ไม่มีงานทำหรอ ให้พี่ช่วยหางานเอาไหม...” คำพูดเหมือนเห็นใจ แต่ก็แฝงด้วยคำดูหมิ่น สีหน้าทั้งสองคนวันนี้มันทำให้เอสเข้าใจว่า พวกเขาเหมาะสมกันจริง ๆ “ไม่เป็นไรครับ" “ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ เห็นแกความผูกพันหลายปีแค่นี้เราช่วยได้" “ใช่...ศักดิ์ศรีกินไม่ได้หรอก ยิ่งงาน...อ้าวไปแล้วเหรอแค่นี้ก็รับไม่ได้” “อย่าสนใจเลยค่ะ หนูแค่ทักไปงั้นแหละ เห็นไหมคงจะอายน่าดู” “สมน้ำหน้า พวกขี้แพ้" ใครจะทนต่อไปก็ทน แต่เอสไม่ทน ได้ของที่ซื้อไว้ก็รีบเดินออกมาเลย แต่ยังไงมันก็แอบแค้นใจจริง ถ้ารู้ว่าเธอเป็นแบบนี้แต่แรกคงไม่มีวันจีบเธอ และกลายเป็นเบ้ให้เธอตั้งหลายปี ผิดเองที่โง่เกินไป “ถ้าหากเป็นเหมือนละครคุณธรรมก็คงดีสิ ที่พระเอกกลายเป็นคนรวยในข้ามคืน ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคนนี้จะไม่สนใจยัยผู้หญิงแบบนั้น จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่ เฮ้อ คงจะบ้าจริง ๆ" มาถึงห้องเขาก็ทิ้งตัวลงนอนเพราะหมดแรง ความหิวที่เคยชัดเจนมันจางไป ความรู้สึกไร้ค่าเข้ามาทำหน้าที่รุมเร้าราวกับว่า ‘อยากให้ตัวฉันหายไปจากโลกนี้เหรอ ก็จริงนะเรามันไร้ค่าขนาดนี้ ชีวิตสุดจะไร้ค่าเลย ตายไปไม่ดีกว่าเหรอ’ เสียงในหัวบอกออกมาแบบนี้ เหมือนภาพเดจาวูที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่คิดแบบนี้ ทว่าวันนี้มันหนักหนาเหลือเกิน แววตาเอสสั่นไหวราวกับถูกดึงวิญญาณออกไป จ้องมองเพดานตั้งนาน แม้ไม่รู้ว่ามองเพราะอะไร ในห้องนี้มันมืดจริง ๆ ก่อนที่มือหุ้มกระดูกจะคว้าเอายาแก้ปวดกล่องหนึ่งออกมา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลทั้งสองข้าง วันนี้ขอร้องไห้เป็นวันสุดท้าย ตายไปแล้วญาติพี่น้องก็ไม่มีสักคน ยังดีที่ตั้งข้อความอัตโนมัติเอาไว้ ผ่านไปไม่นานก็คงมีคนมาเก็บศพเอง “ยี่สิบเม็ดพอไหมนะ...เฮ้อ ขอโทษกูภัยด้วยนะที่ต้องมาเหนื่อยเก็บศพฉัน...” เมื่อเม็ดยาบนฝ่ามือจำนวนยี่สิบเม็ด กำลังจะถูกเอาเข้าปาก ทุกอย่างราวกับความฝันแต่ทว่า เสียงของมือถือก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ ไม่ใช่เสียงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือข้อความใด ๆ แต่เป็นเสียงคนพูด ใช่เสียงเหมือนเอไอนิดหน่อย “สวัสดีฉันคือระบบของคุณ‘เอส’ ฉันคือ BOSS” หูของเขายังปกติดีไหม ทำไมได้ยินเสียงแปลก ๆ โทรศัพท์พูดได้เหรอ หรือนี้เป็นอาการของคนใกล้ตายกันนะ “ฉันกำลังจะตายใช่ไหม นายน่าจะเป็นยมบาลมากกว่านะ" “ฉันคืระบบที่จะช่วยให้คุณร่ำรวย และเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยัง" “ระบบหรอ นายมาผิดที่แล้วนี้ไม่ใช่มังงะจีนนะพวก จะมีระบบอะไรกัน" “ถ้าคุณยังไม่เชื่อ นี่คือสิงที่จะพิสูจน์ว่าคุณ กลายเป็นเจ้าของระบบสุดแจ่ม" ก่อนเสียงมือถือสั่นพร้อมข้อความที่บอกว่า ‘คุณได้รับเงินเข้า บช จำนวน 1 ล้านบาท’ “เงินเข้าหรอ เป็นล้านเลยหรอ" เอสรีบเอามือถือมาตรวจดูให้แน่ใจ กดเข้าไป บช ดูว่ายอดคงเหลือเท่าไหร่ 1.001.980 บาท ดวงตาของเขาเบิกโพลงยิ่งกว่าตอนที่เจอวิภาดาอีก “นี่มันของจริง ฉันกลายเป็นเจ้าของระบบแล้ว" เสียงสิ้นหวังเมื่อก่อนหายไป ตอนนี้เขาร้องออกมาเสียงดังก่อนที่จะทำสิ่งที่อยากทำมานาน “ระบบ โอนเงินเข้า บช ฉันล้านล้านบาทเลย” ถึงคราวรวยของเอสแล้วโว้ย ใครจะคิดว่าโชคจากจักรวาลมนุษย์ต่างดาวอะไรก็ช่าง จะมาหล่นทับตัวเขาจัง ๆ รวย ๆ “ขอประทานโทษที่ทำตามคำขอไม่ได้ เงินที่โอนเข้าไปจะให้ได้แค่ 1 ล้าน ส่วนถ้าอยากได้เพิ่มต้องทำตามเงื่อนไขก่อน” เอสคิดว่าจะรวยแบบสบาย ๆ ที่ไหนได้ต้องทำตามเงื่อนไขอีก หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องยาก ๆ นะ เขาคิดในใจ “เงื่อนไขคืออะไร" ตอนนี้หัวใจเจ้ากรรมเต้นระรัว อยากได้เงินจนตัวสั่น ไม่รู้ว่าตัวเองทิ้งยาแก้ปวดไปตอนไหน แต่ที่แน่ ๆ จะไม่ขอหยิบมันอีก “เงือนไขคือคุณต้องลงทุน แล้วสร้างกำไรถึงจะสามารถใช้เงินได้ ระบบจะเป็นคนออกทุนให้ตามความเหมาะสม ของแผนธุรกิจที่คุณเลือก” ลงทุนเหรอ นี่มันทางของเรา เมื่อก่อนเคยทำอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะลาวงการไปเพราะขาดทุน แม้แต่กำไรยังไม่มีให้เห็น เฮ้อ...ชีวิตหนอชีวิต บุณมีแต่กรรมบัง..."จะรีบไปไหน นั่งคุยกันก่อนสิพ่อหนุ่ม"เสียงของพูดดังมาจากหน้าประตู เป็นน้ำเสียงของคนมีอายุ ฟังดูสภาพ แต่มีพลังอำนาจผสมด้วย ราวกับว่านั้นไม่ใช่คำขอ หากเป็นคำสั่งของเขาหากเป็นคำสั่งของเขาหากเป็นคำสั่งของเขาหากเป็นคำสั่งของเขาประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับชายวัยเจ็ดสิบกว่าเดินเข้ามา ข้าง ๆ คือผู้กำกับของสำนักงานตำรวจ ดูท่าทางนอบน้อมต่อชายชราคนนั้น"เชิญนั่งครับท่าน"อัยการทั้งสองคนลุกขึ้น พร้อมกับเตรียมที่นั่งให้เขา ชายชราดูใจเย็นท่าทางสบาย ใบหน้าเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม สายตาของเขามองมาที่เอส"ไม่คิดว่าจะเจอกันเร็วแบบนี้นะครับ รู้สึกประทับใจจริง ๆ"เอสพูดด้วยรอยยิ้ม เขาจำชายคนนี้ได้ดี คนที่เป็นประธานบริษัท FP และ เคยประกาศสงครามกับเขามาก่อน เอสยังเดาไม่ออกว่า เขามีจุดประสงค์อะไร ถึงมาหาเขาที่นี่"นั้นสิ คงเป็นเพราะฉันยังใจดีอยู่"เขาพูดออกมาเสียงเรียบ ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนไป ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"ถอยออกไปจาก F&M ก่อนที่จะสายไป ถ้ายังดึงดันทำต่อ บริษัทของเธอต้องขาดทุนเยอะ และล้มละลายในที่สุด ลองไปปรึกษาบริษัทดูสิ"นี่คือการข่มขู่ของเขาเหรอ ราวกับบอกว่าอำนาจของกฎหมายอยู่ในมือของเขา
ข่าวของบริษัท F&M ทำให้ผู้คนสนใจมากกว่าเดิม เพราะเป็นบริษัทที่เคยประกาศล้มละลาย และ กลับมาได้เป็นบริษัทแรก แถมยังปรับโครงสร้างจนกลายเป็น ที่จับตามอง ว่าบริษัทจะกลายเป็นสากลมากขึ้นและความหวังที่จะได้รับการจ้างงานเพิ่ม ก็ทำให้หลายคนมีความหวังแต่ทว่าเอสไม่สามารถควบคุมข่าวได้เลย พวกเขาสามารถดึงสื่อทั้งหมดเอาไว้ในกำมือ จนกลายเป็นกระแสจนถูกโจมตีหนักขึ้นจนกลายเป็นกระแสจนถูกโจมตีหนักขึ้นในห้องถ่ายทอดสดของรายการข่าวชื่อดัง พิธีกรหนุ่มเอ่ยถามแขกรับเชิญพิเศษสองท่าน นั้นคืออนันต์ อดีตรองประธานที่ถูกไล่ออก เพราะถูกบีบ และ ภัทร กรรมการผู้บริหารของ FP กับหัวข้อที่ไม่มีใครสามารถเลื่อนผ่านได้"เงินสีเทาจากมาเฟียต่างชาติ กับแผ่นการยึดบริษัท ด้วยการตัดแขนขาของ F&M""คุณอนันต์ผมอยากถามอย่างตรงไปตรงมา ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนระดับคุณถึงกลายเป็นสภาพแบบนี้ได้"อนันต์ทำหน้าเศร้า แววตาหมองลง ก่อนจะหันมาพูดกับกล้อง"ผมเสียใจมาก ที่ประธานคนใหม่ทำ เขาเข้ามายื่นมือเข้าช่วยเหลือ เหมือนจะดี แต่แล้วก็ถูกเขาบีบบังคับให้เราขายหุ้นให้ 51% เพื่อยึดบริษัทเอาไว้ จากนั้นจึงไล่คนที่ขัดขวางเขาออกไปหมด โดยเฉพาะพวกเราตระกูลสุ
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา นั่งจิบไวน์อย่างสบายใจ ก่อนจะหันไม่มองชายชราใบหน้าเหี่ยวย่นที่ยิ้มมุมปากบนหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ตรงผนังห้อง"ผมเห็นรูปแบบของธุรกิจนี้แล้ว รับรองว่าแผนนี้ได้ผล ไม่มีผิดพลาด ไม่คิดว่าคุณจะได้ข้อมูลลับมาได้ด้วย ข้อมูลนี้สามารถทำลายบริษัทนั้นได้เลยนะ"เขาหยิบข้อมูลในจอไอแพดมาดู ก่อนจะยกยิ้มพอใจอย่างมาก (แน่นอนว่ามีคนในระดับปนะธานให้มา พวกเขาก็เหมือนหมากตัวหนึ่งของผม ส่วนเรื่องอื่นผมเชื่อใจคุณ เพราะไม่เคยทำให้ผิดหวัง คงต้องฝากเรื่องงานวิจัยเอาไว้ด้วยนะ)"ได้สิ เกมนี้ยังไม่จบหรอก จนกว่าผมจะเป็นคนรับผิดชอบโครงการนั้นกับมือ"ภาพหน้าจอตัดไป พร้อมกับรอยยิ้มของเขาที่เย็นเฉียบ ราวกับน้ำแข็ง..เอสงัวเงียลุกขึ้นมาเพราะเสียงมือถือดังไม่หยุด เขายังง่วงนอนเพราะเมื่อคืนเล่นเกมดึกไปหน่อย ไม่ให้ดึกได้ไงเพราะของแรร์ทั้งตัว ไล่ตบคนที่เคยทำไว้ครั้งก่อนอย่างเมามันเขาคว้าเอามือถือขึ้นมาแนบหู พลางกลับตาอยู่ เพราะไม่อยากตื่นในตอนนี้"ฮัลโหล...มีไร"(แย่แล้วค่ะ บริษัทเราถูกตรวจสอบ และระงับการทำงานชั่วคราว พวกเขากล่าวหาว่าเราทำผิด)"ว่าไวนะ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น แล้วใครเป็นคนตรวจสอบเรา"เอส
"เฮอะ....เข้าเรื่องดีกว่า เอาไปก่อนค่ะ"เอสรับเอกสารมาจากมือเธอ ทั้งหมดมีอยู่สองสามใบ เป็นข้อตกลงก่อนการมอบงานวิจัยให้ แน่นอนว่ารัดกุมมาก ไม่มีช่องโหว่หากมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ถ้าหากเขาคิดจะขโมยงานวิจัยมาเป็นของตน คงทำไม่ได้แต่ในเอกสารยังมีมากกว่านั้น เป็นข้อตกลงที่เอาเปรียบเขามากเกินไป ถ้ายังทำต่อก็ต้องขาดทุน เธออยากจะให้คนของกองทัพทำงานวิจัยต่อ ห้ามให้เขาควบคุม เมื่อถึงขั้นตอนการผลิต เอสต้องมีหน้าที่จัดตั้งโรงงานและเงินทุน แต่ต้องขายให้กองทัพในราคามากกว่าต้นทุน 10%เอสยิ้มมุมปาก เอนตัวพิงเก้าอี้ก่อนจะมองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขามองดูท่าทางของยาหยี เธอไม่อยากให้เขาตกลง เพราะอะไร'เธอมีตัวเลือกที่ดีกว่าเหรอ จะเป็นไปได้ไง'เขาไม่เข้าใจ ทั้งที่เธอควรขอร้องเขา แต่ข้อตกลงสุดท้ายเหมือนอยากจะไล่เขาไปให้พ้นทาง"ถ้าไม่ตกลงตามที่เขียนไว้ เราคงร่วมมือกันไม่ได้หรอกนะ เพราะฉันไม่ไว้ใจคุณ""ถ้าไม่ร่วมมือกับผม พวกคุณก็ไม่มีเงินทุนไม่ใช่เหรอ ยังจะมีตัวเลือกอะไรอีก" เขาแสร้งพูดแบบนั้น ด้วยสีหน้าเห็นแก่ตัวสุด ๆ"อย่ามั่นใจไปหน่อยเลย ฉันรู้จักคุณ อีเดน จากต่างประเทศ เขาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จที่สุด






reviews