คำว่า สัตยาบัน คือ มีที่มาจากภาษาบาลีหรือสันสกฤตหรือไม่?

2025-10-14 10:36:33 164

4 Answers

Samuel
Samuel
2025-10-15 08:40:42
คำว่า 'สัตยาบัน' ฟังแล้วให้ความรู้สึกแบบคำพิธีที่มีน้ำหนักและมีรากฐานเก่าแก่ในภาษาอินโด-อารยันมากกว่าจะเป็นคำคิดขึ้นใหม่ในไทย

เมื่อฉันมองที่รากศัพท์แบบตรงไปตรงมา จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบของคำนี้สอดคล้องกับคำสันสกฤตอย่างชัดเจน: ส่วนแรกใกล้เคียงกับ 'satya' ที่แปลว่า ความจริง หรือสัตย์ ส่วนท้ายมีความเป็นไปได้ว่าจะมาจาก 'bandha' ที่หมายถึง การผูกหรือผูกมัด เมื่อนำมารวมกันความหมายโดยรวมจึงออกมาในแนว 'การผูกด้วยความสัตย์' หรือคำสาบานที่ผูกมัดตัวผู้ให้ยึดถือความจริง

อีกมุมหนึ่งภาษาไทยมักรับรากศัพท์ทั้งจากสันสกฤตและบาลีสลับกันไป ดังนั้นรูปแบบบาลีเช่น 'sacca' (ความจริง) และคำที่หมายถึงการผูกมัดในบาลี ก็ให้ความหมายใกล้เคียงกันได้ ฉันจึงมองว่าคำนี้มีรากฐานจากสันสกฤตเป็นหลัก แต่ก็มีความสัมพันธ์กับรูปบาลีในเชิงการรับคำเข้ามาใช้ในภาษาไทย โดยเฉพาะในบริบทพิธีการหรือทางศาสนา ทำให้คำนี้ถูกใช้อย่างเป็นทางการและหนักแน่นกว่าคำสาบานคร่าวๆ ทั่วไป
Kayla
Kayla
2025-10-15 09:03:39
โดยรวมคำว่า 'สัตยาบัน' น่าจะยืมมาจากรากสันสกฤตเป็นหลัก โดยจับคู่ความหมายของ 'satya' (ความจริง/สัตย์) กับส่วนที่สื่อถึงการผูกมัด เช่น 'bandha' การรวมกันจึงหมายถึงคำสาบานหรือพันธะที่ยึดไว้ด้วยความสัตย์ บาลีก็มีคำความหมายใกล้เคียงอย่าง 'sacca' ซึ่งทำให้คำในภาษาไทยแสดงอิทธิพลจากทั้งสองภาษาได้ แต่ถาต้องเลือกเพียงแหล่งเดียว ฉันมักยกน้ำหนักให้สันสกฤตเป็นต้นตอหลัก เพราะรูปแบบเสียงและความหมายตรงกับคำในภาษาไทยที่ใช้อยู่จริงในบริบทพิธีการและทางการมากกว่า
Xanthe
Xanthe
2025-10-18 07:28:39
สายตาที่ชอบจับรากศัพท์จะเห็นว่า 'สัตยาบัน' ประกอบด้วยสองชิ้นชัดเจนและสามารถจับคู่กับคำสันสกฤตได้เป็นอย่างดี ฉันชอบเปรียบเทียบกับคำในภาษาไทยอื่นๆ ที่มีรากอินเดีย เช่น 'สัตย์' หรือ 'สัจจะ' ที่ล้วนมีรอยหยักมาจาก 'satya' และทำให้เห็นเส้นเชื่อมต่อกับคำทางการในราชการหรือกฎหมายได้ง่ายขึ้น

จากมุมของการใช้งาน คำว่า 'สัตยาบัน' มักพบในบริบทคำสาบานที่เป็นพิธีการ เช่น การให้คำมั่นในตำแหน่ง หรือคำประกาศในงานพิธีที่ต้องการความเป็นทางการ ในกรณีแบบนี้การมีส่วนของ 'bandha' หรือความหมายว่าเป็นการ 'ผูกมัด' ช่วยอธิบายว่าทำไมคำจึงให้ความรู้สึกหนักแน่นและผูกมัดกว่าการใช้คำว่า 'สาบาน' ธรรมดา สำหรับฉัน นี่แหละคือเสน่ห์ของคำยืมจากสันสกฤต ที่ไม่เพียงเปลี่ยนเสียง แต่ยังเพิ่มมิติของความหมายได้ด้วย
Alex
Alex
2025-10-18 09:50:34
เวลาที่ได้ยินคำว่า 'สัตยาบัน' ในงานพิธีหรือเอกสารทางการ ฉันมักคิดว่าโครงสร้างคำมาจากสันสกฤตมากกว่าอย่างชัดเจน เพราะตัวอักษรและการออกเสียงสอดคล้องกับรูปแบบสันสกฤตแบบ 'satya' + 'bandha' มากกว่ารูปบาลีโดยตรง แต่บาลีก็มีคำที่ใกล้เคียงเรื่องความหมาย เช่น 'sacca' ที่แปลว่าความจริง ซึ่งทำให้เกิดความทับซ้อนของอิทธิพลทั้งสองภาษาในไทยได้ง่าย การใช้คำนี้ในบริบทพิธีกรรม พระราชพิธี หรือคำประกาศที่ต้องการความเคร่งครัด จึงเป็นตัวอย่างที่ดีของคำยืมที่ไม่เพียงยืมเสียง แต่ยืมความหมายเชิงพิธีกรรมมาด้วย ฉันคิดว่าการมองทั้งสองทางพร้อมกันจะช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมการยืมคำของภาษาไทยอย่างลึกซึ้งขึ้น
View All Answers
Scan code to download App

Related Books

พิศวาสรักเมียชั่วคืน
พิศวาสรักเมียชั่วคืน
อัจจิมา...คือคนที่โลกใบนี้ไม่เคยใจดีด้วย ในชีวิตท่องจำแค่คำว่า 'งานคือเงิน' และบางครั้งเงิน…ก็ต้องมาก่อน 'ศักดิ์ศรี' พิธา…ศัลยแพทย์ผู้หลงใหลในเซ็กซ์พอๆกับการผ่าตัด สำหรับเขา 'ความสุข' ซื้อได้ด้วยเงิน
Not enough ratings
84 Chapters
คุณหมอสุดปัง! หย่าก่อนไม่รอแล้วนะ
คุณหมอสุดปัง! หย่าก่อนไม่รอแล้วนะ
มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งไห่เฉิง ฮั่วซือหาน อยู่ในสภาพเจ้าชายนิทรามาสามปี ส่วนฉือหว่าน คุณนายฮั่วก็ดูแลเขามาสามปี แต่หลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมา ฉือหว่านกลับเจอข้อความนอกใจที่คลุมเครือในโทรศัพท์ของเขา รักแรกในดวงใจของเขาได้กลับมาแล้ว บรรดาเพื่อนที่ดูถูกเธอของเขาต่างก็หัวเราะเย้ย “หงส์ฟ้ากลับมาแล้ว ถึงเวลาไล่ตะเพิดลูกเป็ดขี้เหร่แล้ว” ฉือหว่านเพิ่งได้รู้ว่าฮั่วซือหานไม่เคยรักเธอเลย ตัวเธอเองเป็นเพียงแค่เรื่องตลกที่น่าสมเพช ดังนั้นคืนหนึ่ง ประธานฮั่วจึงได้รับหนังสือขอหย่าจากคุณนายฮั่ว เหตุผลในการหย่า--- สมรรถภาพร่างกายของฝ่ายชายไม่ได้เรื่อง ประธานฮั่วทำหน้ามืดมนแล้วมาหาเธอ กลับพบว่าคุณนายฮั่วที่เคยเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ สวมชุดราตรียาว ยืนอวดโฉมงดงามผ่อนคลายอยู่ท่ามกลางแสงไฟระยิบ กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านการแพทย์ พอเห็นเขาเดินเข้ามา คุณนายฮั่วก็ยิ้มพลิ้วพร้อมเอ่ย “ประธานฮั่ว คุณมาหาหมอแผนกสุขภาพเพศชายเหรอ?”
8.8
1098 Chapters
กับดักรัก ท่านประธานเอวดุ
กับดักรัก ท่านประธานเอวดุ
นริยา ไปบ้านของเพื่อนสนิทเพื่อไปติวหนังสือก่อนเรียนจบมัธยมปลาย จนได้พบกับพี่ชายของเพื่อน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจจับจองเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ถึงกับมอบรอยตีตราเอาไว้บนลำคอ แล้วเธอจะหนีเขาได้อย่างไร
10
248 Chapters
 เกิดใหม่ครานี้ ไม่ขออยู่เคียงข้างท่านอีก
เกิดใหม่ครานี้ ไม่ขออยู่เคียงข้างท่านอีก
"เซียวหยางมี่...เจ้าเคยรักข้าหรือไม่?" "หวังเฟิ่ง...ข้ามิอาจตอบท่านได้ เพราะแม้แต่ตัวข้าเอง ก็ยังไม่แน่ใจ" เซียวหยางมี่ เคยเป็นพระชายาขององค์ไท่จื่อแห่งแคว้นต้าชิง นางมอบทั้งชีวิตและหัวใจให้กับบุรุษที่เป็นดั่งดวงตะวันของนาง แต่สุดท้ายกลับต้องตายลงด้วยความสิ้นหวัง ถูกตราหน้าว่าเป็นสตรีใจร้ายที่สังหารลูกในครรภ์ของตนเอง ชาติภพใหม่ นางกลับมาในฐานะ มู่หรงเซียว องค์หญิงแห่งแคว้นเจียงหนาน ราชทูตผู้มีภารกิจสำคัญ ทว่าโชคชะตากลับพานางมาพบกับ หวังเฟิ่ง อีกครั้ง จักรพรรดิแห่งต้าชิง ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยทอดทิ้งนางอย่างไม่ไยดี เมื่ออดีตถูกเปิดเผย ความจริงถูกเปิดโปง หัวใจที่เคยแหลกสลายจะสามารถกลับมาประสานกันได้หรือไม่? ความรักที่เต็มไปด้วยรอยแผล และพันธสัญญาที่ถูกผูกมัดด้วยโชคชะตา... สุดท้ายแล้ว พวกเขาจะสามารถเอ่ยคำว่า ‘เราจะไม่ปล่อยมือกันอีก’ ได้จริงหรือไม่?
10
48 Chapters
ฮูหยินใหญ่
ฮูหยินใหญ่
อวิ๋นซือ ดรุณีน้อยวัยสิบห้าขึ้นเกี้ยวสีแดงที่มีบุรุษแปดคนหามเข้าสู่สกุลหลัน พร้อมด้วยตำแหน่งฮูหยินใหญ่ที่ตบแต่งอย่างสมฐานะ หลันชิง มอบทุกสิ่งที่ปรารถนา ทว่าหนึ่งเดียวที่มิอาจให้คือความรัก เป็นภรรยาเอกแล้วอย่างไร เมื่อในใจสามีนางยังสู้อนุคนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ ในวัยสิบเจ็ดนางจึงก้าวเท้าออกจากสกุลหลันพร้อมหนังสือหย่า สิ้นรักตัดวาสนาสายใยสามีภรรยาแต่เพียงเท่านี้ ตำแหน่งฮูหยินใหญ่มิใช่สิ่งที่นางปรารถนา ฮูหยินเพียงหนึ่งเดียวต่างหากที่ฝังใจ ทว่าเส้นทางใหม่ของชีวิตกลับมีบุรุษรูปงามชาติตระกูลดีอย่าง ฉิงเหวินฟู่ เข้ามา แม้มีบุพเพแต่ถ้าไร้วาสนาก็มิอาจบรรจบ ในเมื่อมีโอกาสไยนางจะมิให้ความปรารถนาดั่งคู่ยวนยางเป็นจริงเล่า
10
165 Chapters
สุดชีวาชะตาลิขิต
สุดชีวาชะตาลิขิต
อเล็กซ์เป็นคุณชายของครอบครัวที่ร่ำรวยสุด ๆ ระดับโลกครอบครัวหนึ่ง เขาเป็นผู้ชายที่เหล่าหญิงสาวในชนชั้นสูงหลาย ๆ คนหมายปองต้องการที่จะแต่งงานด้วย แต่ว่าเขากลับได้รับการปฏิบัติจากแม่ยายของเขาที่แย่มาก ๆ มันแย่ยิ่งกว่าพี่เลี้ยงในบ้านเสียอีก
9.6
200 Chapters

Related Questions

คำว่า สัตยาบัน คือ สื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ในวรรณกรรมอย่างไร?

4 Answers2025-10-12 23:50:21
สัตยาบันเป็นคำที่ฉายภาพความหนักแน่นของคำพูดที่ผูกพันทั้งผู้ให้และผู้รับ แม้คำเดียวจะดูเรียบง่าย แต่ในวรรณกรรมมันกลายเป็นสัญลักษณ์ของความผูกมัดระหว่างบุคคลกับชะตากรรม สายสัมพันธ์ทางศีลธรรม และการยืนยันตัวตนต่อหน้าชุมชนและจักรวาล ในฉากหนึ่งของ 'รามเกียรติ์' สัญญาของพระราชาหรือฮีโร่ไม่ได้เป็นเพียงสัญญาทางมนุษย์ แต่ถูกยกระดับให้กลายเป็นบทบัญญัติของธรรมะ เมื่อนักเล่าเรื่องใช้สัตยาบันเป็นจุดศูนย์กลาง มันจะกำหนดกรอบสำหรับบทบาทของตัวละคร สร้างความตึงเครียดเมื่อการกระทำขัดแย้งกับคำมั่น และให้ผลสะท้อนทั้งในระดับส่วนตัวและสังคมสำหรับการรักษาหรือการละเมิดคำมั่นนั้น ฉันมักรู้สึกว่าการใช้สัตยาบันในงานคลาสสิกทำให้เรื่องราวมีน้ำหนักทางจริยธรรมมากขึ้น เพราะมันทำให้ผู้อ่านต้องตั้งคำถามว่าพลังของคำพูดนั้นมีค่ามากกว่าชีวิตหรือเปล่า

คำว่า สัตยาบัน คือ ปรากฏในนิยายหรือซีรีส์ไทยเรื่องใดบ้าง?

4 Answers2025-10-07 17:34:30
คำว่า 'สัตยาบัน' สำหรับผมเป็นคำที่พาเข้าบรรยากาศของนิทานชาดกและเรื่องราวทางพระพุทธศาสนาอย่างทันที ในตอนที่อ่าน 'นิทานชาดก' ผมมักเจอคำนี้ในบริบทของปณิธานหรือคำสาบานที่พระหรือกษัตริย์ให้ไว้กับตนเองหรือประชาราษฎร์ ไม่ว่าจะเป็นคำสุภาพที่ใช้ประกาศความตั้งใจจะปกป้องธรรมะหรือคำกล่าวในพิธีกรรมที่ยืนยันความซื่อสัตย์ต่อหน้าพระพุทธเจ้า คำว่า 'สัตยาบัน' ในชาดกมักมีน้ำหนักทางศีลธรรมและความเที่ยงตรงของตัวละครมากกว่าคำสาบานทั่วไป ฉากที่ผมชอบคือเมื่อนักบุญหรือตัวเอกตั้งสัตยาบันเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เห็นถึงความผูกพันระหว่างการกระทำกับผลของกรรม แล้วรู้สึกว่าคำเดียวนี้ยกระดับบทพูดให้สำคัญขึ้น เป็นคำที่ทำให้ฉากพิธีกรรมและบทปาฐกถาดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอย่างแท้จริง

เอกสาร สัตยาบัน คือ เอกสารประเภทใดในกฎหมายไทย?

4 Answers2025-10-08 05:24:31
ในฐานะคนที่เคยสนใจเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ ผมมองว่า 'เอกสารสัตยาบัน' เป็นเอกสารทางการที่รัฐใช้แสดงความยอมรับผูกพันตามสนธิสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศ กล่าวคือมันคือ 'instrument of ratification' หรือเอกสารยืนยันการให้สัตยาบันที่รัฐออกขึ้นหลังผ่านขั้นตอนภายในประเทศแล้ว เอกสารชนิดนี้มีลักษณะเป็นหนังสือรับรองที่ลงนามโดยผู้มีอำนาจของรัฐ อาจมีตราประทับหรือการรับรองอย่างเป็นทางการ แล้วส่งให้แก่ผู้เก็บรักษา (depository) เช่น เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เพื่อให้ถือเป็นหลักฐานทางกฎหมายของความยินยอมผูกพัน ระยะเวลาที่สนธิสัญญามีผลผูกพันต่อรัฐนั้นมักขึ้นกับข้อกำหนดในตัวสนธิสัญญาเอง เช่น กำหนดจำนวนวันที่ต้องรอหลังการยื่นสัตยาบัน สิ่งที่ผมมักเน้นคือต้องแยกความต่างระหว่างเอกสารภายในประเทศกับสัตยาบัน: การให้สัตยาบันเป็นการแสดงเจตจำนงในระดับระหว่างประเทศ ไม่ได้แทนที่กระบวนการออกกฎหมายภายใน หากสนธิสัญญาต้องมีผลผูกพันทางกฎหมายภายในประเทศ รัฐอาจต้องผ่านรัฐสภาหรือออกกฎหมายภายในก่อนแล้วจึงยื่นสัตยาบันได้

คำว่า สัตยาบัน คือ ปรากฏเป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์เรื่องใด?

4 Answers2025-10-14 08:56:56
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ดูฉากนี้ ฉาก 'สัตยาบัน' ในภาพยนตร์เรื่อง 'Harry Potter and the Half-Blood Prince' ติดตราตรึงใจมากกว่าฉากเวทมนตร์ทั่วไป เพราะมันไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นการผนึกชะตากรรมเข้ากับตัวละครคนหนึ่ง ฉากที่เซเวอร์รัส สเนป ถูกผูกมัดด้วยคำสาบานตรึงใจระหว่างนาซิสซา มัลฟอยและเบลลาทริกซ์ ถูกถ่ายทอดด้วยบรรยากาศเคร่งขรึมและการแสดงที่ละเอียดอ่อน เสียงของพิธี การจรดไม้กายสิทธิ์และหยดเลือดที่กลายเป็นพันธะ ทำให้ฉากนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทั้งเรื่อง ไม่เพียงแค่ผลักดันเหตุการณ์ แต่ยังบ่งบอกความซับซ้อนของแรงจูงใจตัวละคร การดูฉากนี้ทำให้มองเห็นเส้นบาง ๆ ระหว่างความจงรักภักดีกับการทรยศ และการเลือกที่ไม่อาจหวนกลับได้ ฉากแบบนี้ทำหน้าที่เป็นหมุดหมายในเรื่องราวที่ใหญ่ขึ้น และยังคงทำให้ฉันคิดถึงรายละเอียดเล็ก ๆ ในการแสดงของแอลัน ริคแมนอยู่เสมอ

คำว่า สัตยาบัน คือ ถูกใช้ในพิธีทางศาสนาพุทธอย่างไร?

5 Answers2025-10-12 21:29:39
เสียงสวดมนต์ในวัดที่คุ้นเคยชวนให้หยุดคิดถึงความหมายของคำว่า 'สัตยาบัน' ในพิธีทางพระพุทธศาสนาอย่างเงียบๆ และฉันมักพูดถึงเรื่องนี้กับคนใกล้ตัวบ่อยๆ คำสั้นๆ อย่าง 'สัตยาบัน' ในเชิงปฏิบัติหมายถึงการให้สัตย์หรือการตั้งปณิธานอย่างเป็นทางการต่อพระรัตนตรัย นั่นคือการประกาศความตั้งใจว่าจะปฏิบัติธรรม รักษาศีล หรือยึดมั่นในข้อปฏิบัติบางอย่างต่อหน้าพยานทั้งหลาย เหตุการณ์ที่มักได้ยินคำนี้บ่อยที่สุดคือการบวช การรับศีล และพิธีอุโบสถ โดยจะมีการกล่าวคำให้สัตย์เป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้คำพูดนั้นกลายเป็นพันธะทางใจและสังคม การแสดงออกของสัตยาบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่คำพูดเพียงอย่างเดียว บางครั้งมีการถือของเครื่องหมาย เช่น เทียนหรือผ้าสี แล้วพระกับญาติโยมจะร่วมเป็นพยาน ทำให้การให้สัตย์นั้นมีความหนักแน่นมากขึ้น ในมุมของฉัน มันคือการเปลี่ยนวาทกรรมจากความคิดภายในสู่คำสาธารณะ ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจให้คนยึดมั่นจริงจังมากขึ้น และนั่นทำให้พิธีดูมีความหมายลึกซึ้งยิ่งขึ้นกว่าคำสาบานธรรมดา

คำว่า สัตยาบัน คือ ตัวอย่างประโยคที่ใช้ในภาษาไทยมีอะไรบ้าง?

4 Answers2025-10-12 00:17:57
มาลองลงตัวอย่างประโยคที่ใช้คำว่า 'สัตยาบัน' กันดูแบบเนิบๆ และมีมุมมองส่วนตัวสอดแทรกเล็กน้อย คำนี้ให้ความรู้สึกเป็นทางการและหนักแน่น เหมาะกับการสาบานหรือคำปฏิญาณที่มีความหมายลึกซึ้ง เช่น "ผู้พิพากษาทรงยืนขึ้นแล้วแถลงสัตยาบันว่าจะตัดสินคดีด้วยความยุติธรรม" หรือ "คู่รักทั้งสองแลกสัตยาบันในพิธีเล็กๆ ท่ามกลางครอบครัว" ถึงตรงนี้ฉันมักคิดว่าการใช้คำว่า 'สัตยาบัน' จะทำให้บรรยากาศจริงจังและเวทีกลายเป็นพิธีการทันที ตัวอย่างเชิงราชการก็ได้ผลกินใจ เช่น "ข้าพเจ้าขอสาบานด้วยสัตยาบันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์และรับผิดชอบ" หรือจะใช้ในเชิงวรรณกรรมก็เข้าท่า เช่น "ชายผู้นั้นยกมือสาบานด้วยสัตยาบันว่าเขาจะกลับมารับเธอไม่ว่าชะตาจะเป็นอย่างไร" การใส่คำนี้ลงไปช่วยยกระดับความหมายและทำให้ผู้อ่านรับรู้ถึงความหนักแน่นของคำพูด จบด้วยความรู้สึกว่าคำเดียวก็เปลี่ยนโทนบทพูดทั้งบทได้

คำว่า สัตยาบัน คือ ต่างจากการสาบานในเชิงกฎหมายอย่างไร?

4 Answers2025-10-14 04:41:24
การเปรียบเทียบสัตยาบันกับการสาบานทางกฎหมายเป็นเรื่องที่ผมมองว่าน่าสนุกจะไล่เรียงความหมาย เพราะทั้งคู่ใช้คำพูดเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพัน แต่โทนและผลลัพธ์ต่างกันชัดเจน สัตยาบันโดยทั่วไปมีรากฐานทางศีลธรรมและพิธีกรรม มักเกิดในบริบททางศาสนา ชุมชน หรือความเชื่อส่วนตัว แล้วมีน้ำหนักทางใจและจิตวิญญาณ เช่น การให้คำมั่นต่อพระพุทธเจ้าในพิธีอุปสมบทหรือการตั้งปณิธานในวัด ความผิดพลาดของสัตยาบันอาจถูกมองว่าเป็นกรรมหรือความละอายใจทางสังคม มากกว่าจะโดนโทษทางกฎหมาย ในหลายกรณีสัตยาบันมีความยืดหยุ่นในการถอนคำ เช่น การเปิดเผยความตั้งใจและขออภัยต่อชุมชน การสาบานเชิงกฎหมายมีรูปแบบชัดและถูกออกแบบมาเพื่อผลทางกฎหมาย เช่น การสาบานเบิกความในศาลหรือการจะแต่งตั้งข้าราชการ เมื่อมีการละเมิดมักมีผลเป็นคดีอาญา เช่น ความผิดฐานเบิกความเท็จหรือการผิดคำสาบานในเอกสารราชการ การพิสูจน์และบทลงโทษต้องอาศัยกระบวนการกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากบทลงโทษทางจิตใจหรือสังคมของสัตยาบันอย่างสิ้นเชิง ผมคิดว่าจุดต่างสำคัญอีกอย่างคือเจตนาและผู้มีอำนาจกำกับ สัตยาบันมักเน้นที่เจตนาและการเป็นหนึ่งเดียวกับค่านิยมทางจิตวิญญาณ ขณะที่คำสาบานทางกฎหมายเน้นการคุ้มครองสาธารณะและกระบวนการตรวจสอบ ถ้าต้องสรุปเป็นภาพรวม สัตยาบันคือคำมั่นเชิงศีลธรรมที่ผูกกับจิตใจและพิธีกรรม ส่วนการสาบานทางกฎหมายคือคำมั่นที่ผูกกับระบบกฎหมายและบทลงโทษทางกฎหมาย ทั้งสองมีความจริงจัง แต่ต่างประเภทของแรงจูงใจและผลตามมา

คำว่า สัตยาบัน คือ ความหมายทางภาษาศาสตร์ว่าอย่างไร?

4 Answers2025-10-07 07:14:28
เราเคยสงสัยตอนอ่านเอกสารเก่าที่มีถ้อยคำเป็นทางการแล้วเจอคำว่า 'สัตยาบัน' แล้วรู้สึกว่ามันหนักแน่นกว่าแค่คำว่า 'สัญญา' มาก คำว่า 'สัตยาบัน' ทางภาษาศาสตร์ประกอบด้วยรากศัพท์ที่มีความเชื่อมโยงกับภาษาบาลี-สันสกฤต ซึ่งสื่อถึงความหมายเกี่ยวกับความจริงและการผูกมัด เมื่อมองในมิติรูปคำ มักถูกใช้เป็นคำนามที่แปลว่า 'คำปฏิญาณ' หรือ 'คำสาบาน' และบางบริบทใช้เป็นกริยาเช่น 'ให้สัตยาบัน' เพื่อแสดงการให้คำมั่นอย่างเป็นทางการ น้ำเสียงของคำนี้จะเป็นทางการและมีความศักดิ์สิทธิ์กว่า 'สัญญา' ธรรมดา เพราะมีนัยของการอิงความจริงหรือการยึดมั่นตามธรรมเนียม ตัวอย่างเช่นในบริบททางกฎหมายหรือพิธีกรรมทางศาสนา ผู้พูดอาจใช้คำนี้เมื่ออยากเน้นว่าการผูกมัดนั้นไม่ใช่แค่คำพูด แต่มีความหมายเชิงจริยธรรมและสังคม ซึ่งทำให้คำนี้เหมาะกับงานเขียนเชิงพิธีการหรือเอกสารที่ต้องการความน่าเชื่อถือมากขึ้น
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status