แอบตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อนิลรัตน์ขึ้นเวทีเล่าแรงบันดาลใจให้คนฟัง เพราะแต่ละสถานที่ที่เธอเลือกตอบคำถามมักเผยมุมที่ต่างกันอย่างชัดเจน
ในงานหนังสือใหญ่ๆ อย่างงานสัปดาห์หนังสือหรือเทศกาลวรรณกรรม เสียงของเธอจะเป็นแบบเล่าเรื่องที่กว้างและเชื่อมโยงกับผู้อ่านจำนวนมาก เธอมักพูดถึงการเติบโต การอ่านหนังสือใน
วัยเยาว์ และภาพรวมของสังคมที่เป็นตัวจุดประกายให้เกิดไอเดีย มันเป็นเวทีที่เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่าย ผม—เอ้ย ฉันหมายถึง ฉันชอบฟังตอนนั้นเพราะเธอมักเล่าเรื่องด้วยภาพใหญ่ ทำให้เข้าใจแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังงานเขียนได้ครบ
ต่างจากเวทีสัมภาษณ์ในนิตยสารวรรณกรรมหรือบทสัมภาษณ์ยาวๆ ในคอลัมน์หนังสือของนิตยสารศิลปะ ซึ่งเธอจะลึกถึงขั้นเทคนิคและกระบวนการคิด เธอพูดถึงการขัดเกลาภาษาจากร่างแรกถึงฉบับสุดท้าย และชอบยกตัวอย่างฉากสั้นๆ เพื่ออธิบายการเลือกคำสั้นๆ นั่นคือมุมที่นักอ่านที่ชอบวิเคราะห์จะหลงรัก
ส่วนการให้สัมภาษณ์บนรายการวิทยุหรือพอดแคสต์บรรยากาศจะเป็นกันเองมากกว่า เหมือนนั่งคุยกับเพื่อน คนฟังได้ยินทั้งเสียงหัวเราะและช่วงเงียบที่มีความหมาย หลังออกจากรายการแบบนี้มักรู้สึกว่าฉันเข้าใกล้นิลรัตน์ในฐานะคนที่มีความคิดหลายชั้น และนั่นแหละคือเสน่ห์ที่ทำให้ฉันตามอ่านทุกที่ทุกเวที