มีสัมภาษณ์หนึ่งที่พัคโซดัมเล่าถึงการสวมบทเป็น
น้องสาวในครอบครัวอย่างละเอียดจนฉันนั่งฟังแล้วรู้สึกเชื่อมโยงไปกับตัวละครไปด้วย
เธอพูดถึงการบาลานซ์ระหว่างความฉลาดกับความเปราะบาง ว่าต้องเล่นให้คนดูหัวเราะได้ในบางฉากแต่ก็ยังต้องเก็บความเจ็บปวดไว้ใต้หน้ากาก ความตั้งใจของเธอไม่ใช่แค่ทำท่าทางตลกหรือใส่อารมณ์แรง ๆ แต่เป็นการหา 'จุดเล็ก ๆ' ที่ทำให้ตัวละครมีชีวิต เช่น จังหวะยิ้มที่ไม่เต็มตา หรือวิธีเดินที่บ่งบอกว่ากำลังพยายามคุมสถานการณ์ ฉันชอบตอนที่เธอพูดถึงการซ้อมกับเพื่อนนักแสดงเพื่อสร้างเคมีในฉากครอบครัว — ฟังแล้วรู้เลยว่าความธรรมชาติมันเกิดจากการซ้อมที่ตั้งใจ ไม่ใช่แค่พรสวรรค์ลอยมาเอง
สิ่งที่น่าประทับใจคือความเคารพต่อผู้กำกับและทีมงาน เธอเล่าว่ามีการพูดคุยกันเยอะเกี่ยวกับน้ำเสียงของฉากและขอบเขตของมุกตลก จนสุดท้ายทุกอย่างลงตัวและทำให้ฉากทั้งตลกทั้งเจ็บปวดได้พร้อมกัน ฉันคิดว่าความละเอียดแบบนี้คือเหตุผลที่บทบาทนั้นจดจำได้ยาวนาน และทุกครั้งที่นึกถึงฉากหนึ่งฉาก ฉันยังรู้สึกถึงพลังเล็ก ๆ ที่เธอใส่เข้าไปในตัวละคร — มันอบอุ่นและคมในเวลาเดียวกัน