บอกเลยว่า
บทที่ 3 ของ '
helltaker' เป็นด่านที่ทดสอบทั้งความอดทนและการวางแผนการเคลื่อนไหว เพราะเกมดีไซน์ให้ทุกก้าวมีค่าต่อการไปถึงมอนสเตอร์ตรงกลาง ฉากจะมีช่องตายอย่างกะโหลกหรือระเบิด และบางครั้งมีบล็อกที่ดันได้หรือสวิตช์ที่เปลี่ยนทิศทางการเดินของเรา ดังนั้นสิ่งแรกที่ฉันมักทำคือหยุดมองภาพรวมของแผนที่ก่อนนับจำนวนการเคลื่อนที่ที่ได้รับ แล้วค่อย ๆ วางแผนเส้นทางให้เหลือจังหวะสำรองหนึ่งหรือสองก้าวเผื่อพลาด เทคนิคนี้ช่วยได้มากเมื่อมีบล็อกขวางทางหรือเมื่อต้องหลีกเลี่ยงกับดักหลายชั้น
ทริคหลัก ๆ ที่ใช้แก้ปริศนาบทนี้คือคิดย้อนกลับจากตำแหน่งสุดท้ายที่ต้องไป ไม่ต้องรีบเดินจากจุดเริ่มทันที แต่ลองนึกว่าถ้าอยู่ตรงนั้นจะต้องมาจากทิศไหนและมีอุปสรรคอะไรบ้าง วิธีนี้ช่วยค้นเส้นทางที่ดูเหมือนจะอ้อมแต่จริง ๆ แล้วเป็นทางเดียวที่ไม่พาเราไปติดกับดัก ยิ่งถ้ามีบล็อกที่ดันได้ ให้คำนวณว่าบล็อกนั้นต้องอยู่ที่ไหนก่อนจะมากดปุ่มหรือขวางทาง และระวังการดันบล็อกลงบนช่องตายซึ่งจะทำให้ต้องเริ่มใหม่ อีกอย่างที่ได้ผลคือเก็บไอเท็มหรือเปิดสวิตช์เฉพาะเมื่อแน่ใจว่าจะไม่ลดความเป็นไปได้ของเส้นทางหลักไป เพราะจำนวนก้าวถูกจำกัด การเก็บของที่ดูน่าสนใจแต่ทำให้ต้องเสียก้าวเยอะมักไม่คุ้ม
การพูดคุยตอนพบตัวละครก็สำคัญไม่แพ้ปริศนา เพราะตอบผิดอาจทำให้ไม่ได้รับไอเท็มหรือปฏิสัมพันธ์บางอย่างที่ช่วยได้ วิธีที่ฉันชอบคือเลือกคำตอบที่มีความมั่นใจและมีมุกขันๆ เล็กน้อย ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งจะได้ผลดีกว่าการตอบขอโทษหรือยืดเยื้อ นอกจากนี้ถ้ารู้สึกว่าวิธีหนึ่งตัน ให้ลองมองมุมกลับหรือเปลี่ยนลำดับการดันบล็อกและการกดปุ่ม — บางจังหวะการสลับลำดับสองอย่างดูเหมือนไม่เกี่ยวกัน แต่จริง ๆ แล้วเปิดทางให้เราเดินเข้าจุดต้องการได้โดยไม่เสียก้าวเพิ่ม
สรุปแล้วการแก้บทที่ 3 ของ 'Helltaker' สำหรับฉันคือการใจเย็น นับก้าว วางแผนจากเป้าหมายสุดท้าย และไม่กลัวจะเริ่มใหม่เมื่อเจอทางตัน มันเหมือนกับการเล่นพัซเซิลแบบกระฉับกระเฉงที่ให้ความรู้สึกพึงพอใจทุกครั้งเมื่อจัดองค์ประกอบได้ลงตัว และฉันชอบความท้าทายนั้นมาก มันทำให้ยิ้มได้ทุกครั้งที่ผ่านด่านด้วยการคิดแบบคม ๆ และนิดหน่อยของความเสี่ยงที่คุ้มค่า