เพลงที่ติดตาตรึงใจแฟนๆ มากที่สุดจาก '
อุลตร้าแมน ที ก้า' มักจะเป็นธีมหลักของซีรีส์ ซึ่งมีทั้งเวอร์ชั่นร้องและเวอร์ชั่นออร์เคสตราที่ใช้ได้ทั้งกับซีนการแปลงร่าง การต่อสู้ครั้งสำคัญ และโมเมนต์ที่เต็มไปด้วยความหวัง เสียงสังเคราะห์ผสมกับเครื่องเป่าและเชลโลทำให้โทนเพลงดูยิ่งใหญ่แต่ยังคงอบอุ่น พอได้ยินท่อนคอรัสหรือเมโลดี้หลักแล้ว แฟนๆ หลายคนจะนึกภาพแสงและการแปลงร่างของที ก้าในหัวทันที ความทรงจำนี้เองทำให้เพลงธีมหลักกลายเป็นหนึ่งใน OST ที่คนพูดถึงบ่อยที่สุด
สิ่งที่ทำให้เพลงประกอบบางท่อนถูกยกให้เป็นที่
ชื่นชอบไม่ใช่แค่ความจำง่ายของเมโลดี้ แต่เป็นการจัดวางดนตรีที่จับอารมณ์ของฉากได้เฉียบ เช่น เพลงบรรเลงช้าท่อนไหนที่ใช้กับฉากคนเสียสละหรือฉากสะเทือนอารมณ์ จะใช้ไวโอลินและเปียโนเล็กๆ พาให้คนดูรู้สึกเศร้าแต่กลมกล่อม ขณะที่ท่อนอิินเสิร์ตที่ใช้ในฉากสุดท้ายของหลายตอน มักมีซินธ์คอร์ดเร่งจังหวะพร้อมคอรัสขนาดเล็ก เสียงเหล่านี้ช่วยยกระดับความรู้สึกของชัยชนะหรือความเป็น
วีรบุรุษให้รู้สึกหนักแน่นและอบอุ่นไปพร้อมกัน ฉันเองมักจะหยุดฟังตรงท่อนที่เมโลดี้ขึ้นสูงสุด เพราะมันจับความหมายของการต่อสู้เพื่อคนอื่นได้ชัดเจน
นอกจากธีมหลักแล้ว แทร็กดนตรีพื้นหลังที่เป็นมู้ดต่างๆ ก็ได้รับความรักไม่น้อย ตั้งแต่ท่วงทำนองลึกลับเมื่อต้องเจอกับศัตรูที่ไม่ทราบที่มา ไปจนถึงจังหวะร็อกหรือซินธ์ขึ้นมาในฉากแอ็กชัน ทำให้ OST ของ 'อุลตร้าแมน ที ก้า' มีความหลากหลายและฟังแล้วไม่เบื่อ คนที่โตมากับซีรีส์นี้นอกจากจะจดจำเมโลดี้สำคัญๆ ได้แล้ว ยังสามารถแยกแยะว่าเพลงไหนควรฟังตอนอยากได้กำลังใจ เพลงไหนเหมาะกับการย้อนความหลัง เพลงพวกนี้จึงกลายเป็นเหมือนไทม์แมชชีนเรียกความรู้สึกยุค 90 ได้ดี
ท้ายที่สุด มุมมองส่วนตัวคือนอกจากองค์ประกอบทางดนตรีที่ยอดเยี่ยมแล้ว สิ่งที่ทำให้ OST ของ 'อุลตร้าแมน ที ก้า' โดนใจคือมันเล่าความเป็นฮีโร่ที่อบอุ่นและมนุษย์ ทั้งความกลัว ความหวัง และคำว่าเสียสละ เมโลดี้บางท่อนยังคงแว่วในหัวเวลานึกถึงฉากสำคัญๆ ของซีรีส์ และนั่นทำให้เพลงเหล่านี้ไม่ใช่แค่ดนตรีประกอบ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่ยังทำให้ใจอุ่นได้ทุกครั้งที่ฟัง